ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน 1/2551 คาบ A

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา2551

ข้อสอบกระบวนวิชา ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน คาบ 

Part  1 :  Structure  (ภาคโครงสร้าง)

Choose  the  correct  answer. (เลือกคำตอบที่ถูกต้อง)

     1._______________ are  flowers.

1. Roses                            2.  A  rose

3. Rose                        4. A  roses

ตอบ  1  เป็นเรื่องพจน์คำนาม  ให้สังเกตจากคำกริยาเป็นพหูพจน์  แสดงว่าประธานคือ

คำนามจะต้องตอบเป็นคำพหูพจน์เช่นกัน  จาก  rose  เป็น roses

2.       John  wants  to  be __________________ actor.

1. a                                          2.  an

3. the                                     4. blank

ตอบ 2  ใช้  “a/an” นำหน้าอาชีพ เช่น  MY  brother  is  an  engineer.  ใช้  an นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ

My  father  is  a  doctor. มักจะอยู่หลัง  Verb  to  be

3.       John ________________ come  to  our  party.  I’m  not  sure.

1. must                                   2. has  to                            3. ought  to

4. might

ตอบ  4  ดูจากตัวเลือกจะรู้ว่าเป็นเรื่องของกริยาช่วย  เห็นคำว่า not  sure ไม่แน่ใจให้ใช้  may  หรือ  might (อาจจะ) แสดงความเป็นไปได้หรือการไม่แน่ใจ

4.       _______________ sentence  is  complete.

1. IT                                         2. Each

3. All                              4. These

ตอบ 2  เรื่องคำนำหน้าคำนาม  ถ้าใช้  IT  จะต้องตามด้วยกริยาเลย  เช่น  IT  is  เป็นต้น ส่วน Each + คำนามนับได้เอกพจน์ จากโจทย์นี้ sentence  เป็นเอกพจน์  ก็ตอบ Each  ส่วน All หรือ These +  คำนามนับได้พหูพจน์

5.       Five  plus  two __________________ seven.

1. are                                      2. am                                    3. be

4. is

ตอบ 4 เรื่องคำกริยาสอดคล้องกับประธาน โดยให้ตอบคำกริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์

Ten and  ten  is twenty.

Star  Wars  is  a  popular  movie.

6.       This  is  __________________  address.

1.  hers                              2. yours                                 3. mine                                4. my

ตอบ 4  คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของมี  2  ลักษณะ ดังนี้ 

Possessive  adjective

Possessive  Pronoun

มีคำนามตามหลัง

My

Your

Her

His

Their

Our

its

ไม่มีคำนามตามหลัง

Mine

Yours

Hers

His

Thheirs

Ours

its

หรือเดาจากตัวเลือกว่า ข้อ 1 2 3 ล้วนอยู่กลุ่มเดียวกัน ส่วน my + คำนาม

7.       A  pair  of  chopsticks ________________ broken.

1. were                            2. are                          3. have                              4. was

ตอบ 4 ดูจากตัวเลือกจะรู้เลยว่า มีคำกริยาเอกพจน์ข้อเดียวคือ was ตอบได้เลย เพราะคำกริยาจะผันตามคำว่า  A  pair  เป็นเอกพจน์  โดยทั่วไป คำนามที่เป็นคู่ๆหรือมีสองข้าง  เช่น pants  (กางเกง) glasses (แว่นตา) scissors (กรรไกร) เป็นคำนามพหูพจน์เสมอ แต่ถ้ามีคำว่า A pair  ใส่เข้าไปจะเป็นเอกพจน์ทันที

8.       ________________ doctor  is  needed  here.

1. Some                          2. AN                          3. A                                   4. Blank

ตอบ 3 some  +  คำนามนับได้พหูพจน์กับคำนามนับไม่ได้ แต่ doctor เป็นคำนาม เอกพจน์นับได้ จะใช้  a  เท่านั้น หมายถึงคนหนึ่งโดยทั่วๆไป  ไม่ได้เฉพาะเจาะจง

9. ________________  can  be  a  bad  idea  to  go  out  at  this  time.

1. He                               2. She                         3. It                                   4. They

ตอบ 3  คำสรรพนามที่ขึ้นต้นประโยค  หมายถึง คนนั้นคนนี้สิ่งนั้นสิ่งนี้  หรือเกี่ยวกับดิน ฟ้าอากาศ บอกเวลา ระยะทาง มักจะใช้ It  is , It  was  ……….  เช่น  

–                    It  is  wet  in  the  rainy  season. (อากาศเปียกชื้นในฤดูฝน)

–                    It   can  be  a  bed  idea  to  go  out  at  this  time. (เป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะออกไปตอนนี้)

–                    It  is  time  for  lunch  now.  (ถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว)

–                    IT  is  me , Martha (ฉันเอง  มาร์ธา)

10.    All  of  my  furniture ___________  stolen .

1. were                           2. are                          3. be                                     4. was

ตอบ 4 จากตัวเลือกกริยาเอกพจน์มีตัวเดียวคือ  was  เพราะขึ้นต้นด้วยคำบอกปริมาณ

ต่อไปนี้จะผันตามคำนาม  All , Some , half , most , เลขเศษส่วน ,  of + คำนาม + กริยาผันตามคำนาม

–                    All  of  my  furniture  กริยาผันตาม furniture ตอบกริยาเอกพจน์ คือ was

11.    When  my  brother  was  ten , he ____________ swim  across  a  river.


1. should                       2. could                       3. must                                  4. might

ตอบ 2 คำกริยาช่วยที่แสดงความสามารถคือ  can  และ  could  จากประโยคเป็นอดีต (was) ก็ตอบเป็น could swim แสดงสามารถว่ายน้ำได้ ส่วน should ควรจะเป็นการแสดงการแนะนำ  must แสดงความจำเป็น
12.    He  has  had ____________ rheumatism  for  over  there  years.
1. a                                     2. an                                 3. the                                4. blank
ตอบ 4 โรคทั่วไปไม่มี  article  นำหน้า เช่น   cancer (มะเร็ง) tuberculosis (วัณโรค) แต่ถ้าเป็นโรคเล็กๆน้อยๆ ใช้ a  นำหน้า  เช่น  a  cold  (เป็นหวัด) a  cough (ไอ)  a  fever  (เป็นไข้)  a  headache (ปวดหัว)
13.    A  small  number  of  children  in  the  school  _____________ able  to  read  English.
1.  are                                2. is                                     3. was                             4. be
ตอบ 1  จากตัวเลือกว่า  are   กริยาพหูพจน์มีตัวเดียวก็ตอบได้เลย  หรือจากสูตร
A   number  of  +  นามพหูพจน์  + กริยาพหูพจน์
The    number  of   +  นามพหูพจน์  +  กริยาเอกพจน์
ฉะนั้นขึ้นต้นด้วย  A  ตอบกริยาพหูพจน์ คือ  are
14.    Everybody _____________ about  your  serious  mistakes.
1.  are  talking                   2.  talks                                3. talk                                4. talking
ตอบ 2  ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ให้ตอบคำกริยาเอกพจน์เสมอ  เช่น
Every  , each , either , neither
Everyone ,  someone , no  one , anyone                            +   กริยาเอกพจน์
Everybody ,  somebody , nobody , anybody ,
Everything , something , nothing , anything
จากตัวเลือกมีคำกริยาเอกพจน์ตัวเดียวคือ  talks  ส่วนข้อ 1 3 เป็นกริยาพหูพจน์
15.    Fog ________________ everywhere.
1. were                                2. is                                     3. are                                 4. have  been
ตอบ 2  ประธานเป็นคำเอกพจน์ทั่วไป  ก็ตอบกริยาเอกพจน์ เดาได้จากตัวเลือกมีกริยาเอกพจน์ตัวเดียวคือ  is
16.    There _____________ hives  of  bees  in  that  big  tree.
1. will                                   2. is                                     3. are                                  4. has
ตอบ 3  ขึ้นต้นประโยคด้วย There กริยาจะผันตามคำนามด้านขวาคือ hives  of  bees  ตอบกริยาพหูพจน์คือ are
17.    If  I  have ______________ chance  to  go  there , I’ll.
1. the                                   2. a                                     3. an                                    4. blank
ตอบ 2  ใช้    a / an นำหน้าคำนามแสดง  จำนวนหนึ่งโดยทั่วไป
18.    ___________ countries  are  united.
1. Asia                                 2. Asian                              3. Africa                              4. Algeria
ตอบ 2  จากตัวเลือกได้ว่าคำคุณศัพท์แสดงประชาชน  เชื้อชาติมีตัวเดียวคือ Asian  ทำหน้าที่ขยายคำนาม (countries) นอกนั้นเป็นคำนามชื่อประเทศ
19.    Who  is  ____________ quickest ?
1. a                                    2. an                                   3. the                                    4. more
ตอบ 3 ใช้  the  นำหน้าการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสูงสุด  โดยเฉพาะขั้นสูงสุดมักจะมี  the  เช่น  the  longest , the  best , the  tallest
20.    The  manager  disapproved  of  ____________ the  budget.
1.  increase                      2. increasing                     3. to  increase                 4. to  be  increased
ตอบ 2  คำกริยาที่ตามด้วย  Ving หรือ  to + V1  มีออกทุกเทอม   สังเกตข้อนี้ไม่จำเป็นต้องท่องคำกริยาได้  แต่ลงท้ายด้วยบุรพบท  เช่น  of , from , by , to , with ให้ตอบตามด้วย  Ving  คือ  increasing
21.    A  brown  and  white  dog  ____________ under  the  chair.
1. sleeping                     2. sleep                            3.  are  sleeping                   4. sleeps

ตอบ 4
1.   The  +  นาม + and  +  the  +  นาม  +  กริยาพหูพจน์ (  the / a 2 ตัว)
A                                 a
2.   The  +  นาม  +  and + นาม                 + กริยาเอกพจน์ ( the / a ตัวเดียว )
A
ถ้ามี  a  ตัวเดียวแสดงว่าเป็นสุนัขตัวเดียวสีดำน้ำตาล  ตอบกริยาเอกพจน์คือ  sleeps  อย่าลืม !  กริยาเอกพจน์คือ กริยาที่มี  s
22.    The  committee  let  me  _____________ a new  project.
1. propose                      2. to  propose
3. proposing                   4. to  have  proposed
ตอบ 1  คำกริยา  let +  กรรม  + v1  ไม่มี to เช่น  let  me  go   หรือ  make  +  กรรม  + V1  เช่น  make  me  cry
23.    Twenty  bags  of  sand  ________________ wanted  here  to  be  block  water  coming  in.
1. be                              2. is
3. aer                               4. was
ตอบ 3 จากตัวเลือกมีคำกริยาพหูพจน์ตัวเดียวคือ  are  คำกริยาผันตามประธาน  Twenty  bags  เป็นพหูพจน์
24.    The  movie  was  ___________________  boring.
1. extreme                  2. extremely
3. as  extreme                4. more  extremely
ตอบ 2  คำกริยาวิเศษณ์ (adverb) ทำหน้าที่ขยายคำกริยา  คำคุณศัพท์ ในข้อนี้ตอบ  adv  ที่แสดงระดับอย่างมาก  เช่น
Extremely ,  really  ,  considerably  เป็นต้น ขยายคำ  adj.  boring  ว่าน่าเบื่ออย่างสุดๆ  ตามสูตร  S + Verb + adv. + adj.
25.    HE  was  fired  because  he  was  ________________.
1.  lazy                        2.  lazily
3. laziness                      4. 1 and  2 are  correct
ตอบ 1  S +  Verb  to  be  +  adj.  =  was  lazy  ตอบคำคุณศัพท์ตามหลัง  Verb  to  be  คือ  lazy  แบบนี้ก็ออกสอบทุกเทอมให้ดูตัวเลือกแล้วตอบเฉพาะที่มี  -ly  กับไม่มี – ly  จะเหลือตัวเลือกที่ 1 และ 2
26.    Some  students  want ________________ their  majors.
1.  changing                2. to  change                     3. to  be  changing          4. being  changed
ตอบ 2 คำกริยาที่ต้องมี  to + Verb1  ก็ออกทุกเทอมแต่เปลี่ยนกริยานั้นไปเรื่อยๆ  เช่น
Aim                               endeavor                     learn                     opt                      seek
Appear                        expect                          long                      plan                     seem
Arrange                       fail                                 manage               prepare                tend
Attempt                       forget                           mean                     pretend                want
Choose                       happen                         need                     prove                    wish
Decide                        hope                             neglect                 resolve
27.    The  house ________________ we  lived  is  very  old.
1.  why                           2. where                          3. when                           4. how
ตอบ 2 ประพันธ์สรรนามที่เป็น adjective  clause  ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้าเป็นสถานที่ให้ใช้ where  ถ้าเป็นเวลา วัน เดือน ปี  ให้ใช้ when  ถ้าเป็นเหตุผลใช้  why
28.    ______________ Tim  said  was  wrong.
1. What                         2. Whose                        3. Whom                         4. Which
ตอบ 1 ขึ้นต้นประโยคได้ทำหน้าที่เป็นประธานเรียกว่า  Noun  Clause  ไม่ได้เป็นประโยคคำถาม เช่น
–    What  she  said  was  surprising. (สิ่งที่เธอพูดน่าประหลาดใจ)
29.    Alice’s_____________ is  improving.
1. written                   2. be  writing                 3. to  write                    4. writing
ตอบ  4  ถ้ามี ‘s  แสดงความเป็นเจ้าของจะเป็นรูปคำนาม  เราสามารถทำคำกริยาให้เป็นคำนามได้ด้วยการเติม  ing  เช่น
Swimming , reading , jogging , walking , writing
30.    I  have  seen  my  doctor ___________.
1.  regularly                2. recently                    3. lately                          4. All  are  correct
ตอบ  4  จากตัวเลือกล้วนเป็น  adv. ที่บอกความถี่และเวลา สามารถวางไว้ท้ายประโยคได้
31.    The  good  ______________  to  be  praised .
1. have                       2 has                          3 has  had                         4 is  having

ตอบ 1  จากตัวเลือกมีกริยาพหูพจน์ตัวเดียวคือ have  ตอบพหูพจน์เพราะ ประธานที่มีรูป the + adj. ที่มีความหมายเป็นคน  มีรูปเป็นพหูพจน์  เช่น  the  poor  (คนจน) the  good  (คนดี)  the  old (คนแก่)  the  brave (ผู้กล้าหาญ)
32.    We  will  wait  here  _______________ you  go  into  the  library.
1.  how                    2 why                            3 where                          4 while
ตอบ  4  ประโยค  พวกเราจะคอยที่นี่ในขณะที่คุณเข้าไปในห้องสมุด
1  อย่างไร                  2 ทำไม
3 ที่ซึ่ง                                 4 ในขณะที่
33 Jan  can  design  as __________________ as  Jenny.
1. good                  2 well                            3 better                             4 best
ตอบ 2 as +  adj./adv.  +  as  ตรงกลางเป็นขั้นธรรมดา  แต่จะเป็น  adj.  หรือ  adv.  ให้ดูคำกริยา  เช่นข้อนี้  design  เป็นกริยาทั่วไป  ตอบ  adv. คือ  well ถ้าเป็น  Verb  to  be  ตอบ  good
34. I  want  a  ____________ holiday.
1. day  seven            2  seven  days
3  seven  day                  4  seven –  day
ตอบ  4  คำนามประสมที่มีตัวเลข  ด้านขวาเป็นนามหลักก่อนคือ  holiday  ส่วนตัวเลขที่มาขยายจะไม่ต้องเติม  s  และมีเครื่องหมาย – ตรงกลางด้วย เช่น  a  two – week  holiday , a  six –  mile  journey , a  twelve – page  report
35.    Would  you  please  send  this  letter  by  _______________  airmail ?
1. a                           2 an                                 3  the                            4  blank
ตอบ 4 คำที่มีบุรพบท by  จะไม่มี  article  ตาม  เช่น  การเดินทาง  by  car ,  by  taxi , by  train , หรือการส่ง by  mail , by  truck ,  by  accident ,  by  mistakes
36.    Usually,  big  cities ____________________ business  centers.
1. be                       2 are                  3 is                       4 was
ตอบ 2 จากตัวเลือกมีกริยาพหูพจน์ตัวเดียวตอบ  are  เพราะประธาน  big  cities  เป็นพหูพจน์อยู่แล้ว  กริยาที่ตอบก็เป็นกริยาพหูพจน์ด้วย
37.    We’ll  meet  in __________________ December.
1  a                          2 an                      3 the                          4 blank
ตอบ  4  ชื่อวันเดือนปี  ไม่มี  article  นำหน้า  เช่น   in  June , in  May ,  on  Sunday , on  Tuesday ,  in  1990
38.    Would  you  mind _________________ my  term – paper ?
1  edit                        2 to  edit                          3 editing                          4 to  have  edited
ตอบ 3  กลุ่มคำ  เช่น  Would  you  mind ,  I  don’t  mind ,  I  have  trouble +  Ving  =  editing
39.    Bob  regretted  ____________________  his  house  too  cheap.
1  sell                          2  to  sell                          3  to  be  sold                     4 selling
ตอบ  4  กริยาต่อไปนี้ตามด้วย  Ving  ออกทุกเทอมในกลุ่มนี้ประมาณ 1 ข้อ
Avoid                       admit                   delay                  miss                   resist                      put  off
Enjoy                      dread                    consider            postpone            risk                       keep
Carry                      fancy                    regret                 practice              stop                      go  on
Deny                      keep  on               finish                   recall                  suggest                 like-    The  lorry  driver  admitted  driving  too  fast.
40.    These  pants  are ________________.
1  hers                      2 her                            3 their                            4 your
ตอบ  1  ดูคำอธิบายเพิ่มเติมในข้อ 5 เดาใส่หลังสุดไม่มีคำนามตามให้เติม  s  คือ  hers
41.    The  boys  and  the  girls _____________ cannot  leave  may  stay  inside  the  house.
1  Why                       2  whose                        3  when                       4  who
ตอบ  4  ข้างหน้าเป็นคน (The  boys  and  the  girls)  คงเหลือตัวเลือกที่ 2 และ 4  แล้วดูข้างหลัง Who + คำกริยา (cannot  leave ) ส่วน  Whose + คำนามเสมอ
42.    _______________ she  was  young , she  lived  in  London.
1  Where                    2  What                         3  When                         4 Which
ตอบ 3  สมัยที่เธอยังเป็นสาว  เธออยู่ในกรุงลอนดอน  ใช้  When  เมื่อแสดงเวลา

43.    This  is  a(n) ____________ issue.
1  current                 2  currently                       3  popularly                   4  uglily
ตอบ  1  คำคุณศัพท์ทำหน้าที่ขยายคำนาม (issue) คือ  current  ไม่มี  ly  นอกนั้นลงท้ายด้วย  -ly ล้วนเป็น  adv.
44.    _____________ everyday  is  useful.
1  To  exercise               2  Have  exercised
3  Exercises              4  Exercised
ตอบ  1  ขึ้นต้นประโยคเป็นประธานได้คือคำนาม  หรือสามารถใช้รูป TO + คำกริยา หรือ Ving  ทำหน้าที่เป็นคำนามได้  เช่น  To  walk , To  love…..
45.    I  don’t  like  any ____________.
1  game  out  door           2  out  door  game
3  outdoor  game             4  game  outdoor
ตอบ  3  คำคุณศัพท์ที่จะต้องวางไว้หน้าคำนามเท่านั้นเช่น   indoor , outdoor , chief , main , former , elder , upper ,
เช่น  outdoor  activities , indoor  game , former  president , elder  brother , main  road , upper  class
46.    Beth  is  ______________ than  Mary.
1  girlish                   2  most  girlish
3  the  most  girlish                  4  more  girlish
ตอบ  4  เห็นคำว่า  than  ต้องตอบขั้นกว่าเท่านั้น  จากตัวเลือกก็มี  more +  adj. เท่านั้นที่ถูก
47.    It  is  important ________________ love  and  care  to  children .
1  give                      2  giving                             3  to  give                        4  be  given
ตอบ  3  ให้สังเกตว่า important  ตามหลัง  is  ซึ่งเป็น  Verb  to  be  แบบนี้จะต้องตามด้วย  to  +  Verb  เสมอ  =
To  give  ตัวอย่างอื่น
–    The  next  concert  is  liable  to  draw  a  huge  audience..
–    Somsak  was  anxious  to  play  the  violin  in  a  concert.
48.    If  Sue  had  studied  harder  last  term ,  she  _______________ .
1  Would  not  have  failed              2  did  not  fail                3  Won’t  fail           4  may  not  fail
ตอบ  1  สูตรที่มี  If  เชื่อม  เป็นดังนี้
1. If  +  S  +  V2          ,            S  +  would  V1
2.  If  +  S  +  had  V3    ,        S  +  would  have   V3
had  studied       ตอบ  would  not  have  failed
49 .  Who  is  the ______________ in  this  class?
1  bright                2  brighter                 3  brightest                    4  most  brightest
ตอบ  3  เห็นคำว่า  in  this  class  โดยใช้  in  +  สถานที่  ให้ตอบขั้นสูงสุด  จาก  bright  เป็น  brightest  แต่จะมีทั้ง
Most  และ  est  ซ้อน  2  อย่างไม่ได้
50.    IF  you  don’t  want  to  hurt  your  parents, you ____________ listen  to  them.
1  ought  to                           2  must                 3  can                            4  1 and  2  are  correct
ตอบ  4  คำกริยาช่วย  ought  to  +  V1  แสดงการแนะนำ ส่วน  must  +  V1  แสดงความจำเป็นว่าต้อง ถูกต้องได้กับโจทย์ส่วนหน้าที่ว่า   ถ้าคุณไม่ต้องการให้พ่อแม่เสียใจ  คุณก็ต้องฟังพวกเขา  ควรฟังพวกเขา  ส่วน can  สามารถจะไม่ได้ใจความที่ถูกต้อง
51.    A :  Can  you  play  the  guitar ?
B :  Yes,  I  ____________.
1.  must                              2  ought                     3  can                         4  will

ตอบ 3  คำถามเป็น  can  ตอบก็เป็น  can  ตาม

52.    A  :  Who’s  next ?
B  :  It’s  ___________.
1  his                               2  yours                        3  mine                          4  me
ตอบ 4  หลัง  Verb  to  be  ใช้รูปกรรมว่าเป็นส่วนเติมเต็มให้กับประธาน  It  is  me . ฉันเอง

53.    Substitute  the  underlined  word  with  a  suitable  pronoun.
The  dog  is  well – trained.
1  He                              2  She                            3  They                        4  It
ตอบ  4  คำสรรพนามที่เหมาะสมมาแทนคำที่ขีดเส้นใต้ได้คือ  IT  ใช้แทน the  dog  สุนัข  ซึ่งเป็นสัตว์
ถ้าเป็นผู้ชายใช้  he  ถ้าเป็นผู้หญิง ใช้  she  ถ้าเป็นพหูพจน์ใช้  they

54.    Our  lifestyle  changes __________________  there  is  an  influx  of  new  technological  advancements.
1  unless                       2  whether                         3  so  that                  4  because
ตอบ  4  วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปเพราะมีการหลั่งไหลของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ  คำเชื่อมที่ตรงความหมายคือ  because  เพราะว่า

55.    ____________ they  are  young ,  the  children  can  solve  complex  math  questions.
1  Before                        2  Although                        3  How                      4  Until
ตอบ  2  คำเชื่อมที่แสดงความแตกต่าง คือ  (Although) ถึงแม้ว่าพวกเขายังอายุน้อย แต่เด็กๆสามารถแก้ไขคำถามคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้

56.    I  am  busy  now ; _______________ ,  I  have  to  go  out  to  see  a  customer  soon.
1  besides                        2  meanwhile
3  therefore                      4  finally
ตอบ  2  ฉันยุ่งมากเลยตอนนี้ _______________ ฉันต้องออกไปหาลูกค้าเร็วๆนี้ด้วย  คำเชื่อมความ
1 นอกจากนี้  แสดงข้อมูลเพิ่มเติม        2  ในขณะเดียวกัน แสดงการคล้อยตามกัน    3  ดังนั้น    4  ในที่สุด

57.    Do  you  want  to  eat , _______________ go  on  playing  the  game ?
1  or                                2  so                                     3  but                              4  nor
ตอบ  1  คุณต้องการทานอาหารหรือเล่นต่อ  ประโยคแสดงการให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็คือตัวเชื่อม  or  หมายถึง  หรือ  ให้เลือกเอา

58.    Bob  will  not  agree  with  my  comment , _________________ will  he  go  on  doing  as  usual.
1  nor                           2  so                                3  yet                       4  and
ตอบ  1  บ๊อบไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ของฉันและเขาก็ไม่ทำไปตามปกตอทั่วไป  คำเชื่อม  1  และไม่  แสดงการปฏิเสธตามกัน และหลัง  nor  มักจะยกคำกริยาช่วย เช่น  will  ไว้หน้าประธานคล้ายคำถาม  2  ดังนั้น  3  กระนั้น  4  และ

59.    We  appreciate  your  help ; _____________________ we  have  nothing  to  give  you.
1  consequently                2  thus                 3  however                   4  otherwise
ตอบ  3  พวกเราขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ  อย่างไรก็ตามพวกเราก็ไม่มีอะไรที่จะให้คุณ   คำเชื่อม
1  ผลที่ตามมา    2  ดังนั้น    3  อย่างไรก็ตาม   4  มิฉะนั้น   ประโยคแสดงความแตกต่างขอบคุณก็อาจจะมีน้ำใจให้อะไรสักอย่าง  แต่ก็ไม่ได้ให้อะไร  คือ  however

60.    They  couldn’t  do  well ; ________________ they  did  not  pass  the  exam.
1  otherwise                      2  similarly               3  instead               4  therefore
ตอบ  4  พวกเขาทำได้ไม่ดี  ดังนั้นพวกเขาสอบไม่ผ่าน  ประโยคแสดงความเป็นเหตุและผลคือ  therefore ดังนั้น

61.    How  often  do  you  exercise ?
1  Every  day                 2  At  the  stadium                3  With  my  friends               4  Half  an  hour
ตอบ  1  ประโยคคำถามด้วยคำว่า  How  often ?  บ่อยแค่ไหน  การตอบจะเป็นคำวิเศษณ์ที่บอกความถี่  เช่น  ทุกวัน
(every  day )  , sometimes บางครั้ง  often ,  frequently ,  every  other  day  เป็นต้น
62.    My  son  is  watching  TV , ____________ he  has  not  finished  his  homework.
1  nor                           2  yet                         3  or                             4  for
ตอบ  2  ลูกชายของฉันกำลังดูทีวี  แต่กระนั้นเขาก็ยังทำการบ้านไม่เสร็จ    ประโยคแสดงความขัดแย้งก็คือ  คำเชื่อม  yet  หมายถึง  แต่กระนั้น
63  We  don’t   understand  the  question , ____________ the  teacher  speaks  too  fast.
1  or                            2  so                             3  but                             4  for
ตอบ  4  พวกเราไม่เข้าใจคำถามเพราะครูพูดเร็วมาก  ประโยคแสดงเหตุผล  ก็คือคำเชื่อม  for  หมายถึง เพราะว่า
64.     The  mob  shouted ______________.
1    loudly  in  front  of  the  parliament  a  few   minutes  ago
2    in  front  of  the  parliament  a  few  minutes  ago  loudly
3    a  few  minutes  ago  in  front  of  the  parliament  loudly
4    a  few  minutes  ago  loudly  in  front  of  the  parliament
ตอบ  1  การเรียงประโยคที่มี  adv.  มาขยายเป็นสูตรดังนี้
S  +  กริยาแท้  +  adv. บอกอาการ  +  adv. สถานที่  + adv.  เวลา
The  mob  shouted  loudly  in  front  of  the  parliament  a  few   minutes  ago
65.    Which  sentence  indicates  possibility ?
1  He  may  visit  us  next  week                                      2  You  must  do  your  duty  now.
3  They  will  move  out  soon                                          4  We  should  change  our  proposal
ตอบ  1  ประโยคไหนที่แสดงถึงความเป็นไปได้  คำกริยาช่วยที่แสดงถึงความเป็นไปได้คือ  may  จากประโยค  เขาอาจจะมาเยี่ยมพวกเราอาทิตย์หน้า ส่วน  must  แสดงความจำเป็น  will  แสดงอนาคต  should  แสดงการแนะนำ
66.    Which  is  an  offer ?
1    Would  you  like  to  take  a  break  for  fifteen  minutes ?
2    Could  you  do  me  a  favor ?
3    May  we  go  out  now ?
4    Will  you  sing  tonight ?
ตอบ  1  ข้อไหนเป็นการเสนอ  ข้อ1  ใช้  Would  you  like   ……  คุณต้องการหยุดสักพัก  15  นาที่ไหม  เป็นการพูดเสนอ  ข้อ 2  สังเกตจากการใช้ประธาน  you …… me  คุณ…..ฉัน  เป็นการขอร้องให้ผู้อื่นช่วยเราเรียกว่า  request
ข้อ  3  ใช้  May  เป็นการขออนุญาต  ข้อ  4  แสดงอนาคต
67.    Which  does  not  contain  an  indirect  object ?
1    The  students  have  already  handed  in  their  homework  to  the  teacher
2    My  son  gave  me  a  birthday  gift
3    We  bought  many  candies  foe  the  children
4    We  always  sing  folk  songs
ตอบ  4  ข้อไหนไม่มีกรรมรอง  ถ้าถามแบบนี้แสดงว่าประโยคมีทั้งกรรมตรงและกรรมรองก็คือกรรม  2  ตัวประโยคนั้นจะไม่ถูกต้อง  ให้หาข้อที่มีกรรมตรงคือมีกรรมเดียว  ข้อนั้นก็จะถูกต้อง
1    S  +  Verbแท้  +  กรรมรอง (คน) +  กรรมตรง (สิ่งของ)  +  หรือเขียนอีกแบบ
2    S  +  Verbแท้  +  กรรมตรง(สิ่งของ)  +  to /  for  +  กรรมรอง (คน )

ประธาน + กริยา กรรมรอง(คน) กรรมตรง(สิ่งของ)
2  My  son  game me  a  birthday  gift
ประธาน  +  กริยา กรรมตรง (สิ่งของ ) to  /  for  +  กรรมรอง (คน )
1  The  students  have  handed their  homework to  the  teacher
3  We  bought many  candies  (ลุกอม) foe  the  children

 

ประธาน  + กริยา กรรมตรง (สิ่งของ ) มีตัวเดียว
4  We  always  sing folk  songs

 


ประโยคที่ไม่มีกรรมรอง ก็คือข้อ  4

68.    Which  has  a  transitive  verb ?
1    The  company  has  recently  opened  a  new  branch
2    Punctuality  and  honesty  are  important  in  work
3    He  has  been  working  hard during  this  year
4    It’s  a  lovely  day
ตอบ  1  ข้อไหนเป็นกริยามีกรรม  คำว่ากริยามีกรรมให้ดูหลังกริยาที่มีคำนามหรือสรรพนามตามก็คือก็คือกริยามีกรรม

 

ประธาน กริยามีกรรม  (transitive  verb) กรรม (นามหรือสรรพนาม)
1.  The  company has  recently  opened a  new  branch.


ข้อ 2 และ 4 มี  Verb  to  be  คือ   are ,  is  ตามด้วยคำคุณศัพท์ (important) หรือคำนาม (a  lovely  day)
หลัง  Verb  to  be   ไม่จัดว่าเป็นกริยากรรม  เราเรียกส่วนเติมเต็ม  (complement) ส่วนข้อ 3  work  เป็น  hard  ทำหน้าที่เป็น adv.  ฉะนั้นเป็นกริยาไม่ใช่กรรม

69.    Which  contains  an  intransitive  verb ?
1    He  ate  greedily
2    Please  meet  me  at  nine
3    Mom  prepares  breakfast  for  us  every  day
4    The  children  are  playing  computer  games
ตอบ 1  ข้อไหนเป็นกริยาไม่มีกรรม  คำว่ากริยาไม่มีกรรมให้ดูหลังกริยาจะไม่ใช่คำนามเช่น เป็น  adv.  ก็คือกริยาไม่มีกรรม เช่นข้อ 1  greedily  เป็น  adv. กริยา  ate  เป็นกริยาไม่มีกรรม  ส่วนข้อ  2  me  เป็นกรรม  ข้อ  3
Breakfast  เป็นคำนามเป็นกรรม  ข้อ  4  computer  games  เป็นคำนามก็เป็นกรรม  ฉะนั้นในข้อ  2 , 3 , 4
กริยา meet , prepares  , play  ล้วนเป็นกริยามีกรรมทั้งสิ้น

70.    Which  is  a  complete  sentence ?
1   Not  shout  in  the  public                              2  Buy  me  four  cans  of  soup ,  please
3  To  sit  here  for  a  long  time                        3  Why  they  come  late
ตอบ  2  ข้อไหนเป็นประโยคที่สมบูรณ์  ประโยคสมบูรณ์  ก็ต้องมีประธานมีกริยา  หรือถ้าเป็นประโยคขอร้องคำสั่งไม่มีประธานจะขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่  1  ได้  เช่นในข้อ  2  เป็น  ประโยคสมบูรณ์  ขึ้นด้วย  Buy  หรือเห็น  please  เป็นประโยคขอร้อง  ส่วนข้อ  1  ต้องแก้เป็น  Don’t  shout  ข้อ  3  ขึ้นต้นด้วย  To  sit …. เป็นประธานยังขาดกริยาหลัก  ข้อ  4  ขึ้นต้นด้วย  Why  ถ้าเป็นคำนามก็ต้องเป็น  Why do  they  come  late ?  จึงจะสมบูรณ์

71.    Which  does  not  contain  a  linking  verb ?
1    They  looked  very  tired  after  exercising
2    He  has  been  sick  for  many  tears
3    Gold  is  much  more  valuable  than  silver
4    The  earthquake  victims  are  waiting  for  help
ตอบ  4  ข้อไหนที่ไม่มี  linking  verb ? คำว่า  linking  verb ?  ได้แก่  Verb  to  be  (is , am , are , was , were , be , been  , look  , seem , keep ,  appear , become , taste , smell เป็นต้น  และตามด้วยคำคุณศัพท์ adj. ดูจากตัวเลือก

ประธาน linking  verb adjective
1. They looked very  tired  (adv. Adj. )
2.  He has  been sick
3.  Gold is much  more  valuable


4. คำกริยาหลักคือ waiting  ตามด้วย  for  บุรพบทเป็นกริยาไม่มีกรรม

72.    Which  contains  an  intransitive  verb ?
1    Sam  changed  his  job  last  month
2    Bob  has  just  bought  a  new  house
3    We  are  collecting  funds  for  the  poor  and  needy
4    They  swam  in  this  pool  when  they  were  young

ตอบ  4  ข้อไหนเป็นกริยาไม่มีกรรม

ประธาน กริยาไม่มีกรรม บุรพบทหรือ adv.
4  They swam in…. เป็นบุรพบท
ประธาน กริยามีกรรม นามหรือสรรพนาม
1  Sam changed his  job
2  Bob has  just  bought a  new  house
3  WE are  collecting funds


73.    Which  is  a  complete  sentence ?
1    Somchai  is  my  close  friend
2    London,  the  capital  of  England
3    The  largest  ocean  be  the  Pacific
4    Two  big  tigers  standing  under  the  tree
ตอบ  1  ข้อไหนเป็นประโยคสมบูรณ์  ข้อ 1  สมบูรณ์เพราะมีคำกริยา  is  อยู่แล้ว  ส่วนข้อ  2  ต้องแก้เป็น
London  is  the  capital  of  England  จึงจะถูก  ข้อ  3  ต้อง เป็น  The  largest  ocean  is  the  Pacific
ข้อ  4  ต้องเป็น  Two  big  tigers  are  standing  under  the  tree.

74.    Which  is  a  complete  sentence ?
1    Talking  to  her  teachers  everyday
2    Driving  too  fast  can  be  dangerous
3    We  taking  a  bus  home
4    Not  to  go  out  every  evening
ตอบ  2  ข้อไหนเป็นประโยคสมบูรณ์  ข้อ  2  มีคำกริยา  can  be  แล้วสมบูรณ์  ส่วนข้อ  1  ขึ้นต้นด้วย  Ving  เป็นประธานจะต้องตามด้วยคำกริยา  เช่นควร  Talking  to  her  teachers  everyday  is  good  ข้อ  3  ต้องเป็น
We are  taking …. ข้อ  4  ขาดคำกริยาหลัก

75.    Which  is  a  complete  sentence ?
1    To  be  happy  and  sad  as  usual
2    Coconut  grown  around  her  house
3    Free  to  ask  me  a  question
4    Are  you  sure ?
ตอบ  4  ข้อไหนเป็นประโยคสมบูรณ์  ข้อ 4  สมบูรณ์เป็นประโยคคำถามมีกริยา  are  เรียบร้อยแล้ว  ส่วนข้อ  1  ต้องเป็น  To  be  happy  and  sad  are  usual  ข้อ  2  ต้องเป็น  Coconut  was  grown  (ถูกปลูกต้องเป็น  Verb  to  be  +  V3 ) ข้อ  3  ต้องเป็น  Feel  free  ขึ้นต้นเป็นกริยาไม่ใช่คุณศัพท์

Part  2  :  Vocabulary  (ภาคคำศัพท์)
Choose  the  correct  answer (เลือกคำตอบที่ถูกต้อง )

76.     Solar  cell  can  give  us  many  benefits.
1  interests                          2  advantages                    3  experiences                   4  values
ถาม  พลังงานแสงอาทิตย์ให้ประโยชน์กับเรามากมาย
ตอบข้อ  2  benefits  =  advantages  = ประโยชน์  ข้อดี

77.    there  is  no  ideal  society  in  the  world ?
1  meaningful                      2  terrific                             3  worth                                4  perfect
ถาม  ไม่มีสังคมที่สมบูรณแบบในโลกใช่ไหม
ตอบ  4  ideal  =  perfect  =  สมบูรณ์แบบ  ดีเลิศ

78.    The  patient  must  be  operated  on  at  once.
1  now  and  then                2  sooner  or  later             3  immediately               4  appropriately
ถาม  ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัดทันที
ตอบ  3  at  once  =  immediately  =  ฉับพลัน  ทันที

79.    We  sometimes  neglect  to  take  care  of  our  health.
1  pay  no  attention  to           2  fail  to  do              3  omit  to  do          4  All  are  correct
ถาม  บางครั้งพวกเราละเลยในการดูแลเอาใจใส่สุขภาพของเรา
ตอบ  1  neglect  =  pay  no  attention  to  =  ไม่สนใจ  ละเลย  เพิกเฉย

80.    My  friend  advised  me  to  change  my  major.
1  made  suggestions             2  criticized               3  commented             4  confirmed
ถาม  เพื่อนของฉันแนะนำให้ฉันเปลี่ยนสาขาเอกของฉัน
ตอบ  1  advised =  made  suggestions =  ให้คำแนะนำ

81.    Unity  and  honesty  must  be  strengthened  in  our  country.
1  discussed                   2  built  up               3  repaired                    4  propagandized

ถาม  ความเป็นเอกภาพและความจงรักภักดีต้องทำให้ประเทศของเราเป็นปึกแผ่น
ตอบ  2  strengthened  =  built  up  =  ทำให้แข็งแรง
82.    This  cliff  is  a  suitable  location  for  us.
1  site                           2  duty                      3  misery                  4  disappointment
ถาม  หน้าผานี้เป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับพวกเรา
ตอบ  1  location = site =  ทำเล  ที่ตั้ง
83.    The  reward  for  his  endeavor  is  his  doctorate.
1  attempt                          2  energy                             3  faith                           4 devotion
ถาม  รางวัลสำหรับความพยายามของเขาคือปริญญาเอก
ตอบข้อ  1  endeavor  =  attempt =  ความพยายาม
84.    Jim  earned  his  bachelor ‘ s  degree  in  England.
1  eradicated                    2  interpreted                       3  reflected                    4  received
ถาม  จิมได้รับปริญญาตรีในประเทศอังกฤษ
ตอบ  4  earned = received =  ได้รับ
85.    Many  Russians  still  have  strong  belief  in  Communism
1  loyalty                           2  fidelity                            3  devotion                       4  conviction
ถาม  ชาวรัสเซียจำนวนมากยังคงมีความเชื่ออย่างมากในระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์
ตอบ  4  belief  =  conviction =  ความเชื่อ
86.    It  is  our  pleasure  to  work  with  your  foundation.
1  pride                            2  fortune                             3  honor                           4  enjoyment
ถาม  เป็นความพอใจของพวกเราที่จะทำงานกับมูลนิธิของคุณ
ตอบ  4  pleasure =  enjoyment = ความสุข  ความพอใจ
87.    We  had  a  terrific  trip  to  Australia.
1  fearful                          2  miserable                          3  enjoyable                    4  sad
ถาม  พวกเรามีการเดินทางที่มหัศจรรย์ไปยังประเทศออสเตรเลีย
ตอบ  3  terrific =  enjoyable =  มหัศจรรย์  วิเศษ
88.    My  misconception  of  the  instructions  caused  serious  problems.
1  mistaking                   2  misusing                         3  mishearing               4  misunderstanding
ถาม  ความเข้าใจผิดของฉันในการแนะนำทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรง
ตอบ  4  misconception =  misunderstanding = ความเข้าใจผิด
89.    Computer  games  can  be  influential  on  children’s  behavior.
1  harmful                       2  dominant                        3  valuable                  4  knowledgeable
ถาม  เกมคอมพิวเตอร์สามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเด็ก
ตอบ  2  influential  =  dominant = มีอิทธิพล
90.    Being  a  college  professor  is  a/an  prestigious  career.
1  admirable                     2  adolescent                  3  tightening                   4  perspective
ถาม  การเป็นอาจารย์ในวิทยาลัยเป็นอาชีพที่มีเกียรติ
ตอบ  1  prestigious   =  admirable  =  มีเกียรติ  บารมี
91.    Thai  society  is  in  the  process  of  eternal  change.
1  successful                  2  usual                            3  adaptive                      4  constant

ถาม  สังคมไทยอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สิ้นสุด
ตอบ  4  eternal  =  constant =  ไม่สิ้นสุด
92.    Not  very  long  most  children  got  used  to  learning  in  this  boarding  school.
1  didn’t  like                                     2  were  accustomed  to
3  participated  with                         4  paid  attention  to
ถาม  ไม่นานมานี้เด็กๆส่วนใหญ่เคยชินกับการเรียนในโรงเรียนประจำ
ตอบ  2  got  used  to  =  were  accustomed  to  =  เคยชิน
93.    Many  politicians  and  economists  have  predicted  Thailand’s  future  economic  situation.
1  confirmed                        2  trusted                     3  foretold                4  planned
ถาม  นักการเมืองและนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากได้ทำนายสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตของไทย
ตอบ  3  predicted =  foretold =  ทำนาย
94.    Thailand  has  many  customs  which  impress  foreign  tourists.
1  methods                         2  ways                          3  traditional  activities              4  occupations
ถาม  ประเทศไทยมีขนบธรรมเนียมจำนวนมากที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติประทับใจ
ตอบ  3  customs = traditional  activities  =  ขนบธรรมเนียมประเพณี
95.    George  is  an  innovative  engineer  because  he  could  devise  this  new  fuel –  saving  machine.
1  invent                          2  reflect                          3  interpret                       4  affect
ถาม  จอร์สเป็นวิศวกรที่สร้างสรรค์เพราะเขาสามารถประดิษฐ์เครื่องประหยัดพลังงานใหม่ขึ้นมา
ตอบ  1  devise = invent
96.    All  Ramkhamhaeng  University  students  should  keep  in  mind  that  hard  study  is  the  pursuit  of  excellence.
1  community                  2  majority                         3  continuity                  4  superiority
ถาม  นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงทุกคนควรพึงรำลึกว่าการขยันเรียนให้หนักเป็นแนวทางของความโดดเด่นดีเลิศ
ตอบ  4  excellence =  superiority  =  ความยอดเยี่ยม  ความโดดเด่นดีเลิศ
97.    Because  of  reliable  sources  of  information ,  my  thesis  has  been  widely  used  as  a  reference
Among  researchers.
1    original  documents  serving  as  material  for  study
2    archeological  objects  studied  by  anthropokogists
3    ancient  human  and  animal  bones  kept  in  a  museum
4    ancient  stoves  accidentally  found  in  a  historical  place
ถาม  เพราะแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้  วิทยานิพนธ์ของฉันได้ถูกใช้อย่างมากมายเป็นการอ้างอิงในกลุ่มนักวิจัย
ตอบ  1  sources =  แหล่งที่มา  แหล่งกำเนิด
98.    She  ___________________  a  cry  of  pain.
1  portrayed                          2  sought                            3  uttered                      4  viewed
ถาม  เธอ _____________ การร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
ตอบ  1      1  พรรณนา                    2  เสาะหา                    3  พูด                  4  มอง  คิด
99.    A  sheep  was  sometimes  killed  as  a(n) ________________  to  God.
1  devotion                         2  faith                                3  energy                         4  sacrifice
ถาม  แกะบางครั้งถูกฆ่าเพื่อเป็น ____________________ กับพระเจ้า
ตอบ  4      1  การอุทิศ                   2  ความเลื่อมใส                3  พลัง                 4  การเสียสละ
100.      I  wish  you  __________________ in  life.
1  sacrifice                        2  prosperity                      3  citizen                            4  riot
ถาม  ฉันปรารถนาให้คุณ ________________ ในชีวิต
ตอบ  2        1 เสียสละ                  2  ความอุดมสมบูรณ์  มั่งคั่ง              3  พลเมือง         4  การจลาจล
101.      Please  __________________ this  magazine  and  put  it  in  my  suitcase.
1  collapse                        

2  consume                       
 3  hit                     
4  fold
ถาม  กรุณา _________________ นิตยสารนี้และวางมันไว้ในกระเป๋าของฉัน
ตอบ  4        
1  ทรุด  ยุบ                 
2  บริโภค                   
3  ปะทะ                    
4  ม้วนพับ
102.      Do  you  know  the  man  who  is  delivering  a  speech  on  the  ________________ ?
1  screen                          2  stage                           3  movie                    4  rear
ถาม  คุณรู้จักผู้ชายที่กำลังกล่าวปราศรัยอยู่บน ____________________ ไหม
ตอบ  2           1  จอภาพ                     2  เวที                        3  ภาพยนตร์                   4  เลี้ยงดู
103.      His _________________ to  his  family  is  seen  easily.
1  devotion                     2  location                      3  relief                      4  prosperity
ถาม   _________________ ของเขาต่อครอบครัวของเขามองเห็นได้ง่าย
ตอบ  1           1  การอุทิศ                     2  ทำเล                  3  ความช่วยเหลือ            4  ความอุดมสมบูรณ์
104.      The  dog’s ___________________ behavior  is  cute.
1  chronic                      2  preventive                   3 unaffected             4  costly
ถาม   พฤติกรรม ________________ ของสุนัขเป็นที่น่ารัก
ตอบ  3          1  เรื้อรัง ใช้กับโรค            2  ป้องกัน             3  ไม่เสแสร้ง                 4 แพง
105.      We  should  be  careful  because  of  the  ____________________  in  life.
1  aspect                     2  stereotype                      3  uncertainty                4  excellence
ถาม    พวกเราควรระมัดระวังเพราะ ______________ ในชีวิต
ตอบ  3           1  ลักษณะ  แง่                  2  กรอบประเพณีเก่าๆแล้วไม่เปลี่ยน                 3  ความไม่แน่นอน
4    ความยอดเยี่ยม
106.      Most  of  her ________________ were  Chinese.
1  conscience                    2  boroughs                      3  confluences                4  predecessors
ถาม  _______________ ส่วนใหญ่ของเธอเป็นจีน
ตอบ  4          1  ความมีจิตสำนึก                  2  เขต  เมือง                3  จุดที่แม่น้ำมาบรรจบกัน    4  บรรพบุรุษ
107.      Because  of  the  earthquake ,  all  activities  had  to  be ______________.
1  postponed                      2  rechecked                  3  forgiven                       4  checked  up
ถาม    เพราะแผ่นดินไหว  กิจกรรมทั้งหมดต้องถูก _______________.
ตอบ  1              1  เลื่อน                      2  ตรวจสอบใหม่                     3  ให้อภัย                 4  ตรวจสอบ
108.    John _______________ opening  a  music  school.
1  hopes                              2  designs                      3  arranges                        4  aims
ถาม  จอร์น _____________ ที่จะเปิดโรงเรียนสอนดนตรี
ตอบ  4               1  หวัง                2  ออกแบบ                    3  จัดเตรียม                          4  มีจิตใจมุ่งมั่น เล็งไป
109.      More ________________ are  needed  for  this  city.
1  waterways                         2  distinction                     3  delusion                   4  achievement
ถาม    _______________มากขึ้นถูกต้องการสำหรับเมืองนี้
ตอบ   1                1  ทางน้ำ                        2  ความแตกต่าง                      3  ความคิดเพ้อเจ้อ           4  ความสำเร็จ
110.       A __________________ sea  enables  fisherman  to  catch  many  fish.
1  fertile                         2  useful                         3  helpful                      4  geological
ถาม   ทะเล ________________ สามารถทำให้ชาวประมงจับปลาได้จำนวนมาก
ตอบ   1                1  ที่อุดมสมบูรณ์                2  เป็นประโยชน์               3  เต็มไปด้วยความช่วยเหลือ        4  ทางด้าน
111.    _______________  is  sometimes  needed  to  make  a  decision.
1  Relief                       2  Conscience                    3  Confluence             4  Abundance

ถาม     ____________________ บางครั้งเป็นที่ต้องการเพื่อทำการตัดสินใจ
ตอบ  2             1  ความช่วยเหลือ           2  ความมีสติ                     3  จุดที่แม่น้ำมาบรรจบกัน       4  มากมาย
112.      Don’t  ______________ yourself  in  my  business.
1  involve                    2  seek                       3  order                       4  motivate
ถาม    อย่า ______________ ตัวคุณเองในธุรกิจของฉัน
ตอบ  1           1  เกี่ยวพัน  พัวพัน                  2  เสาะหา                      3  สั่ง                 4  ปลุกเร้า  กระตุ้น
113.      The  pilot  is  able  to  see  the  light  ___________________ by  a  small  mirror.
1  achieved                2  moved                    3  exported                        4  reflected
ถาม  นักบินสามารถมองเห็นแสงสว่าง _______________ ด้วยกระจกบานเล็กๆ
ตอบ  4           1  ประสบผลสำเร็จ                   2  เคลื่อนไหว                 3  ส่งออก          4  สะท้อนให้เห็น
114.  The  abbreviation   “CNG”   stands  for  ________________ Natural  Gas.
1  Complicated               2  Compressed                 3  Composed                 4  Compared
ถาม   ตัวย่อ  ซีเอ็นจี  แทนก๊าซธรรมชาติที่ ______________
ตอบ  2             1  สลับซับซ้อน                  2  อัดแน่น                3  ประกอบด้วย          4  เปรียบเทียบ
115. The  athlete  has  already  jumped  off  the  ___________________ into  the  water.
1  delusion                     2  involvement                    3  springboard                  4  succession
ถาม    นักกีฬาได้กระโดดออกจาก __________________ลงไปในน้ำ
ตอบ  3              1  ความคิดเพ้อเจ้อ                2  ความเกี่ยวพัน           3  กระดานกระโดดน้ำ     4  ความต่อเนื่อง
116.  This  is  an  English  _______________ passage  for  reading  practice.
1   silent                 2  speculative                   3  iconic                  4  comprehensive
ถาม  นี้เป็นเนื้อเรื่อง_________________  ภาษาอังกฤษสำหรับการฝึกฝนการอ่าน
ตอบ  4              1  เงียบ                    2  การคาดการณ์             3  เหมือนปูชนียวัตถุ       4 เป็นที่ครอบคลุม
117.    In  a/an ______________ society ,  many  Thai  people  have  become  less  friendly  and  honest.
1  external                   2  original                       3  successful                       4  competitive
ถาม        ในสังคม _____________ คนไทยจำนวนมากได้เป็นมิตรและจริงใจน้อยลง
ตอบ   4               1  ภายนอก               2  ดั้งเดิม                  3  ประสบผลสำเร็จ           4  แข่งขัน
118.    We  need  a  leader  who  has  high  ______________  in  our  government.
1  campus                       2  meaning                           3  aspect                       4  honesty
ถาม   พวกเราต้องการผู้นำที่มี ________________ อย่างมากในรัฐบาลของเรา
ตอบ  4                  1  บริเวณมหาวิทยาลัย                 2  ความหมาย            3  ลักษณะ  แง่        4  ความซื่อสัตย์
119.  The  ____________________ rose  from  the  people’s   dissatisfaction  of  the  government.
1  screen                      2  stage                        3  pleasure                        4  riot
ถาม  ______________ เพิ่มขึ้นจากความไม่พอใจของผู้คนที่มีต่อรัฐบาล
ตอบ  4                1  จอภาพ                   2  เวที                          3  ความพอใจ              4  การจลาจล
120.     The  convict  was  sentenced  to  death  after  the  _______________ of  the  President.
1  distinction                  2  assassination                3  representation             4  gesture
ถาม    ผู้กระทำผิดถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจาก________________ ประธานาธิบดี
ตอบ  2               1  ความแตกต่าง         2  การลอบสังหาร       3  การแสดงออก     4 อากัปกิริยา

ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน 1/2550 คาบ A

การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  ENG1001  ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน คาบ  A 

Part  I  :  Structure  (ภาคโครงสร้าง)

Choose  the  correct  answer  (เลือกคำตอบที่ถูกต้อง)

1       Jim  is _________ surgeon.

1  a                           2  an                         3  some                         4  blank

ตอบ  ใช้  article  นำหน้าคำนามที่แสดงอาชีพ  มักจะอยู่หลัง  Verb  to  be  เช่น

–                    My  father  is  a  doctor.  (พ่อของฉันเป็นหมอ)

–                    My  brother  is  an  engineer.  (พี่ชายของฉันเป็นวิศวกร)

–                    Jim  is  a  surgeon.  (จิมเป็นหมอผ่าตัด)

2       Rayong  is _________ we  choose  to  go  for  our  vacation.

1  where                    2  when                   3  why                      4  how

ตอบ  อนุประโยคโดยใช้ประพันธ์สรรพนามที่แสดงถึงสถานที่เพราะข้างหน้ามีคำว่า  Rayong (ระยอง)  เป็นสถานที่ใช้  where  ส่วน when  ใช้กับเวลา  why  ใช้กับเหตุผล  (reason)  ส่วน  how  อย่างไร

3       Every  evening  Paul  takes __________ walk  in  the  path.

1  the                         2  an                           3  a                            4  blank

ตอบ  ใช้  article  “a”  นำหน้าสำนวน  เช่น  take  a  walk  (ไปเดินเล่น)  take  a  bath  (อาบน้ำ)  take  a  break  (หยุดพัก)  have  a  good  time (สนุกสนาน)  in  a  hurry  (เร่งรีบ)  be  a  shame  (ละอาย)  be  a  pity  (น่าเสียดาย)

4       She  is  the  beauty _________ .

1  ladies                           2  stars                            3  queen                        4  queens

ตอบ  3  queen                       

เดาดูจากตัวเลือกล้วนเป็นคำนามและมีคำนามเอกพจน์เพียงตัวเดียวคือ  queen  เพราะเธอ  (She)  เป็นเอกพจน์ฉะนั้น  คำนามแทนก็ต้องเป็นเอกพจน์  โดยทั่วไปคำนามที่ไม่มี  s  เป็นคำนามเอกพจน์  เช่น  girl, lady, queen, star, book, hen, ant, fan  เป็นต้น

5       You ________ see  a  dentist  when  you  have  a  toothache.

1  should                    2  ought  to                    3  must                    4  All  are  correct

ตอบ  4  All  are  correct

คำกริยาช่วย  should  และ  ought  to  +  V1  แสดงการแนะนำว่า  ควรจะ  เช่น  คุณควรไปหาหมอฟันเมื่อคุณปวดฟัน  ส่วน  must  ต้อง  แสดงความจำเป็นว่า  ต้อง  สามารถใช้ได้ทั้งหมด

6       A  black  and  a  white  cat __________ fighting  in  the  kitchen.

1  is                       2  are                        3  has  been                        4  being

ตอบ  2  are                       

คำกริยาที่ผันตามประธานว่าจะตอบกริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์  ดูสูตร

 

1  A  +  นาม   +    and   +   A   +    นาม                 +       กริยาพหูพจน์

2  A  +  นาม   +    and   +   นาม                                 +       กริยาเอกพจน์                 

จากโจทย์  มี  a  2  ตัวตรงกับสูตรที่  1  ตอบกริยาพหูพจน์  คือ  are  

หรือเดามีกริยาพหูพจน์ตัวเดียวก็ตอบตัวนั้น

7       No  one  knows _________ the  new  sales  manager  is.

1  When                   2  What                    3  Whose                      4  Who

ตอบ  4  Who

อนุประโยคที่ขยายอยู่หลังกริยา  ก็คือ  noun  clause  ทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยาในประโยคบอกเล่าว่า  ไม่มีใครรู้ว่าผู้จัดการฝ่ายขายคนใหม่เป็นใคร  Who  is……..

8       He  is _________ boring  than  I  thought.

1  the  most                     2  the  more                      3  more                     4  most

ตอบ  3  more                    

เดาเห็นคำว่า  than  ให้ตอบคุณศัพท์ขั้นกว่าเสมอ  ออกสอบทุกเทอม  จาก  much  เป็น  more  ขั้นกว่า  และไม่ต้องมี  the  นำหน้าถ้าอยู่กลางโจทย์ที่มี  than  แบบนี้

9       _________ is  noon  at  the  moment.

1  They                        2  It                             3  The                             4  Blank

ตอบ  2  It                            

คำสรรพนามที่ขึ้นด้วย  It  is  หรือ  It  was  ใช้กับการบอกเวลา  บอกสภาพอากาศ  บอกระยะทาง  และสำนวนบางอย่าง  เช่น

It  is  hot  today.  (วันนี้อากาศร้อน)                         It  is  6  p.m. (6  โมงเย็นแล้ว)

It  is  sunny.  (แดดจัด)                                               It  is  important  that ……. (เป็นสิ่งสำคัญว่า…….)

10  John  is  now  working  in ___________.

1  Afghanistan              2  Afghan                 3  Argentine             4  Danish

ตอบ     1  Afghanistan             

เดาจากตัวเลือกถ้าเป็นชื่อประเทศมีเพียงตัวเดียวคือ    Afghanistan  นอกนั้นเป็นคำคุณศัพท์ที่เปลี่ยนรูปให้เป็นประชาชนหรือภาษา  เช่น   Afghanistan   –  Afhhan ,  Argentina  –  Argentine,  Denmark – Danish  โจทย์ไว้หลัง  in  บุรพบทให้ตอบคำนามชื่อประเทศ

11       Adam  is  now  making  a __________ visit  to  his  mother.

1  Six – days                   2  Six – day                   3  Six  day                 4  Six  days

ตอบ  2  Six – day                  

คำนามประสมที่ใช้ส่วนขยายมานำหน้าคำนามหลักคือ  (visit)  ข้างหน้าเป็นส่วนขยาย  ใช้ตัวเลขและมี –  คั่น  ไม่ต้องเติม  s  เช่น

–  a two – week  holiday  (วันหยุด  2  สัปดาห์)    –  a  six – day  visit  (การไปเยี่ยม  6  วัน)

–  a  ten – page  report  (รายงาน  10  หน้า)

12       The  number  of  criminal  cases _________ increasing  steadily  in  Bangkok.

1  are                        2  being                        3  am                       4  is

ตอบ   4  is         ดูสูตร

 

1.  A  number  of   +   นามพหูพจน์      +     กริยาพหูพจน์

2.   The  number   of   +   นามพหูพจน์    +     กริยาเอกพจน์

จากโจทย์ขึ้นด้วย  The  ก็ตอบกริยาเอกพจน์คือ  is

13       Jeff  is  the  man _________ We’re  talking  about.

1  Whose                      2  When                     3  What                   4  Whom

ตอบ  4  Whom

เดาจากคำนามข้างหน้าก่อนว่าเป็นคนหรือสัตว์สิ่งของ  ถ้าเป็นคน  ให้ใช้  Who,  Whom,  Whose  แต่ถ้าเป็นสิ่งของใช้  Which  ถ้าเป็นเวลาใช้  When,  What  จะเห็น   the  man  เป็นคน  ก็เหลือตัวเลือก  Whom / Whose  ดูหลักต่อไปนี้

 

 

คน  +      Who  +   คำกริยาเช่น  is, will,  win  เป็นต้น

คน  +   Whom  +  คำสรรพนาม  เช่น  I , you, We

คน  +   Whose  +  คำนาม  เช่น   bicycle,  money เป็นต้น


14       This  is ________ room  T  have  rented.

1  some                    2  an                     3  the                       4  blank

ตอบ  3  the                      

ใช้  the  เป็นการชี้เฉพาะ  โดยสังเกตจากการมีอนุเฉดประโยคข้างหลังขยายว่าเป็นห้องไหนอะไร  บางโจทย์อาจจะมีคำว่า  that, Which,  Who,  When  หรือมีบุรบทมาขยายก็ได้  แสดงการชี้เฉพาะ  เช่น

The  girl  in  pink  dress  is  my  sister.

The  bicycle  that  John  bought  yesterday  is  very  attractive.

(แสดงการชี้เฉพาะว่าจักรยานคันที่จอหน์ซื้อเมื่อวาน  คำว่า  that  ละได้เหมือนโจทย์ข้อนี้ที่ละ  that  ทิ้งไป)

15       Susan  spent  almost  all  her  money  on  her  new  car _______ she  has  to  save  up.

1  but                              2  or                          3  nor                     4  so   

ถาม  ซูซานใช้เงินของเธอเกือบหมดกับรถคันใหม่ของเธอดังนั้นเธอต้องประหยัด

ตอบ    4  so   

ประโยคเชื่อมความให้ตอบคำเชื่อม  but  (แต่)  แสดงความแตกต่าง  or  (หรือ)  nor  (และไม่)  so  (ดังนั้น)  แสดงเหตุและผล

16       It  is  unusual ________ Sakura  bloom  in  this  season.

1  see                         2  seeing                        3  to  be  seen                  4  to  see

ตอบ    4  to  see

มี  to  ตามหลังคำคุณศัพท์  น้องๆไม่จำต้องท่องคำคุณศัพท์ที่มี  to  ตามก็ได้  ให้สังเกตจากประโยคข้างหน้ามี  Verb  to  be  คือ  is แสดงว่าคำที่ตามหลังมาเป็นคำคุณศัพท์ก็ตอบมี  to  ตามได้เลย      

17       I  have  three _________ with  me.

1  suitcase                      2  suitcases                      3  luggage                  4  luggages

ตอบ  2  suitcases                     

ดูจากคำว่า  three  จำนวนเลขสาม  ตามด้วยคำนามพหูพจน์ในที่นี้ที่ถูกต้องคือ  suitcases  กระเป๋าเป็นคำนามนับได้พหูพจน์เติม  s  ส่วน luggage  เป็นคำนามนับไม่ได้ไม่มีการเติม  s

18       Jim, __________ has  just  bought  a  new  house,  is  my  close  friend.

1  Which                       2  What                     3  Who                     4  Whom

ตอบ  3  Who                    

ดูคำอธิบายข้อ  13  ประกอบ  จะเห็น  Jim  เป็นคน  และข้างหลังเป็นคำกริยา  (has)  ก็ตอบ  Who  ทำหน้าที่เป็นประธาน

19       There  is  an  art __________ near  my  house.

1  parties                       2  ferries                        3  galleries                   4  gallery

ตอบ  4  gallery

เดาดูจากตัวเลือกคำนามเอกพจน์มีตัวเดียวคือ  gallery  เพราะ  an  +  นามเอกพจน์  ส่วนที่เหลือล้วนเป็นคำนามพหูพจน์หมดจึงผิด

20  Many  students  in  my  class __________ this  test  every  semester.

1  is  passing                     2  to  pass                   3  pass                  4  passes

ตอบ  3  pass                 

ประธานก็คือ  Many  students  เป็นพหูพจน์  กริยาตอบพหูพจน์คือ  pass  ไม่ต้องเติม  s  ในตัวเลือกที่  1  และ  2  เป็นกริยาเอกพจน์  ส่วนตัวเลือกข้อที่  3  เป็นพหูพจน์จึงตอบข้อนี้  ส่วนตัวเลือกข้อ  2  มี  to  ไม่ได้เพราะประธานยังไม่มีกริยาแท้เลย

21       Children  always  enjoy _________ with  their  friends.

1  to  play              2  playing                 3  being  played               4  to  be  played

ตอบ  2  playing             กริยาต่อไปนี้ให้ตามด้วย  Ving  ออกทุกเทอม

 

Avoid        admit            delay        resist       put  off

Enjoy        consider     postpone     fancy      carry  on        +  Ving

Regret       deny           suggest       finish       keep  on

เช่น    Children  always  enjoy  singing.

22       He  became ________ after  the  operation.

1  weaken                     2  weakest                   3  weak                   4  more  weak

ตอบ  3  weak                  

คำคุณศัพท์นำหน้าคำนามและตามหลัง  Verb  to  be / Linking  Verb  ซึ่งได้แก่  be,  seem,  keep,  look,  feel,  become,  appear, remain,  stay,  turn,  get,  taste,  smell  จาก  ตัวเลือกคำที่เป็นคุณศัพท์คือ  weak  ส่วน  weaken  ใส่  en  เป็นคำกริยา  และไม่ได้เป็นการเปรียบเทียบถ้าเป็นการเปรียบเทียบจะมีเช่นคำว่า  than  ตอบขั้นกว่า  และถ้ามี  of  all  หรือ  in  +  สถานที่นั้น  ใช้ขั้นสุด

23       This  train  is  going ________ East.

1  a                             2  an                           3  the                        4  blank

ตอบ  3  the                       

ใช้  the  นำหน้านามที่มีอยู่สิ่งเดียว  อันเดียว  เช่น  the  sun,  the  moon,  the  stars,  the  earth,  the  universe  และทิศต่างๆ  เช่น  the  north,  the  south,  the  east,  the  west

24       A  bunch  of  flowers  on  the  table _________ for  Adda.

1  are                         2  were                         3  have  been                       4  is

ตอบ  4  is

เดาจากตัวเลือกจะเห็นมีกริยา  is  เอกพจน์ตัวเดียวก็ตอบได้เลย  หรือโครงสร้าง

คำนาม       +      of       +     คำนาม         +     กริยาที่ผันตามคำนามที่อยู่ข้างหน้า  of  เช่น

The  bottles  of  beer  are  on  the  counter.    ตอบ   are  ผันตามคำนาม  the  bottles  พหูพจน์

A  bunch  of  flowers  on  the  table  is  for  Adda.  ตอบ  is  ผันตามคำนาม  a  bunch เอกพจน์

25       May  I  borrow _________ tools?

1  your                       2  hers                          3  theirs                     4  ours

ตอบ  1  your                      

คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของมี  2  แบบ  เดาจากตัวเลือกจะเห็นว่ามีกลุ่มหลงฝูงมาตัวเดียวคือ  your  +  คำนาม  นอกนั้นมี  s  แล้วไม่มีคำนามตามหลัง

your,  my,  his,  our,  their,  its  +  คำนาม  เช่น  my  teacher,  your  house

yours, mine,  his,  hers,  ours,  theirs,  its  +  ไม่มีคำนามตามหลัง

26       Tom  woke  up  late _________ he  did  homework  all  night.

1  so                        2  yet                            3  since                      4  nor

ถาม  ทอมตื่นสายเพราะเขาทำการบ้านตลอดคืน

ตอบ    3  your         

คำเชื่อม  1  ดังนั้น       2  แต่กระนั้น          3  เพราะ        4  และไม่

27       The  homeless _________ to  be  helped.

1  need                      2  needs                   3  has  needed                 4  is  needing

ตอบ  1  need                     

จากตัวเลือกมี  need  เป็นกริยาพหูพจน์ตัวเดียว  คำนามบางคำมีรูปเป็นพหูพจน์โดยไม่มี  s  ลงท้าย  เช่น  people,  cattle,  public,  military  หรือ  the  +  adj  หมายถึงคนเป็นคำนามพหูพจน์  เช่น  the  poor  (คนจน)  the  rich  (คนรวย)  the  blind  (คนตาบอด)  the injured  (คนบาดเจ็บ)  the  dead  (คนตาย)  the  homeless  (คนไม่มีที่อยู่)

The  poor  have  been  given  life – supporting  bags.

28       His  favorite  hobby  is __________ cars.

1  fix                       2  to  fix                        3  fixing                       4  to  fixing

ตอบ  2  to  fix                       

ใช้  to  เพื่อบอกจุดประสงค์  เช่น

He  stopped  to  pick  up  his  children.  เขาหยุดรถเพื่อรับลูกของเขา

29       There _________ a  roll  of  toilet  paper  on  the  desk.

1  are                        2  is                        3  were                        4  have  been

ตอบ  1  are                       

ขึ้นต้นด้วย  There  กริยาผันตามคำนามด้านขวาคือ  a  roll  เป็นเอกพจน์  หรือเดาได้เลยกริยาเอกพจน์มีตัวเดียวคือ  is

30  Peter  will  do  it  on ________ Sunday.

1  a                              2  an                            3  the                      4  blank

ตอบ  4  blank

วัน  เดือน  ปี  ไม่มี  article  เช่น  on  Sunday,  Monday,  Saturday,  in  January,  in  March,  In  Labor  day  วันแรงงาน  Christmas  Day

31       Wannee  cannot  ride  a  motorbike ___________ she  can  drive  a  car.

1  nor                        2  so                         3   but                          4  or

ถาม  วรรณีไม่สามารถขี่จักรยานแต่เธอสามารถขับรถยนต์ได้

ตอบ  3   but                         

1  และไม่                      2  ดังนั้น                  3  แต่  แสดงความแตกต่าง                4  หรือ

32       Spinach  is  a  kind  of  vegetable ___________ is  very  good  for  health.

1  why                      2  which                      3  how                     4  what

ตอบ  2  which                     

คำนาม  vegetable  เป็นสิ่งของใช้  which  แทนได้

33       He _________ start  his  business  when  he  was  just  twenty – two.

1  can                       2  will                       3  must                     4  could

ตอบ  4  could

กริยาช่วย  can  เป็นปัจจุบัน  แต่ข้อนี้มี  he  was  เป็นอดีตก็ใช้  could  +  V1  แสดงความสามารถในอดีต

34       Sam’s ________ is  always  rude.

1  speak                     2  speaking                       3  spoken                    4  spoke

ตอบ  2  speaking                      

คำนาม  ’s  คำนาม  เพราะแสดงความเป็นเจ้าของ  ทำให้เป็นคำนามได้โดยเอากริยา  speak  เติม  ing  เป็นคำนามได้  เช่น  swimming,  reading,  speaking,  digging,  dancing

–                    Walking  is  good  for  you.  โดย  walking  เป็นคำนาม

35       Jim  is  good  at  playing __________ flute.

1  a                            2  an                           3  the                           4  blank

ตอบ  3  the                          

ใช้  the  นำหน้าชื่ออุปกรณ์เครื่องดนตรี  เช่น  the  guitar,  the  piano,  the  violin,  the  flute (ขลุ่ย)  the  saxophone,  the  drum  (กลอง)

36       Each  of  these  creatures  has  only  one __________.

1  nose                          2  noses                        3  faces                       4  ears

ตอบ  1  nose                         

เดาจากตัวเลือกมีคำนามเอกพจน์ตัวเดียวคือ  nose  ตอบได้เลยเพราะ  one + นามเอกพจน์  ส่วนที่เหลือลงท้ายด้วย  s  เป็นคำนามพหูพจน์

37       There __________ nothing  left  after  the  flood.

1  is                           2  were                          3  are                        4  have  been

ตอบ  ดูคำอธิบายข้อ  29  หรือเดามีกริยาเอกพจน์ตัวเดียวคือ  is 

38       A  Mercedes  is  popular  among  Thai  people _________ it  is  very  expensive.

1  yet                          2  or                       3  nor                        4  though

ถาม  รถเมอร์ซิเดสเบ็นซ์เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยถึงแม้ว่ามันจะแพงมากก็ตาม

ตอบ  4  though

1  แต่กระนั้น                    2  หรือ                   3  และไม่                 4  ถึงแม้ว่าเหมือนกับ  although,  even  if

39       You  have  to  have  this  film  developed  in  the __________.

1  dark – room           2  dark  room            3  darkroom             4  room  dark

ตอบ  3  darkroom            

คำนามประสมโดยใช้  adj. +  คำนาม   เช่น  darkroom (ห้องมืด)  shorthand  (ชวเลข)  greenhouse  (เรือนกระจก)  hotplate  (จานร้อน)  lighthouse  (ประภาคาร)  longboat  (เรือหางยาว)  blackbird  (นกชนิดหนึ่ง)

40  Tom  didn’t  go  to  the  party, __________ he  had  to  work  overtime.

1  besides                   2  yet                     3  for                      4  so

ถาม  ทอมไม่ได้ไปงานเลี้ยง  เพราะเขาต้องทำงานนอกเวลา

ตอบ  3  for                     

1  นอกจากนี้เป็นการบอกเพิ่มเติม            2  แต่กระนั้น            3  เพราะว่า                4  ดังนั้น

41       Playing __________ tennis  is  quite  popular  in  Thailand.

1  a                             2  an                         3  the                         4  blank

ตอบ  4  blank

เกม  กีฬาต่างๆ  ไม่มี  article  เช่น  play  baseball,  basketball,  cricket,  football,  golf,  soccer,  hockey,  tennis,  squash, volleyball,  ice-skating

42       Not  only  the  trainer  but  also  the  players __________ very  tired.

1  are                               2  is                             3  was                           4  be

ตอบ  1  are                              

เดาได้จากตัวเลือกว่า  are  กริยาพหูพจน์มีตัวเดียว  นอกนั้นกริยาเอกพจน์  

 

–                    Not  only  you  but  I  also  am  tires.  am  ผันตาม  i

43       ___________ can  I  do  for  you ?

1  Whom                         2  Whose                           3  Who                       4  What

ตอบ  4  What

คำสรรพนามที่เป็นประโยคคำถาม  โดยใช้  What  อะไร  +  ใช้กับคำบุรพบท  เช่น 

–                    What  do  you  base  your  theory  on?

44       We  persuaded  him ___________  for  our  organization.

1  work                2  working               3  to  work                4  to  be  working

ตอบ  3  to  work               

เดากริยาที่กรรมตามให้ตอบ  + to  V1  เช่น

 

Allow     encourage      inspire        pay       train      cause    enable    intend

Permit     want              challenge   expect   lead      prefer     warn     choose

Force      tell                 advise        compel   get       order      recommend

 

–                    Very  high  temperature  can  cause  you  to  become  exhausted.

45       The  test  is  very  difficult __________ no  one  will  get  a  “G”.

1  so                         2  though                          3  or                         4  nor

ถาม  การทดสอบยากมากดังนั้นไม่มีใครได้  G  เลย

ตอบ  1  so                        

1  ดังนั้น           2  ถึงแม้ว่า            3  หรือ          4  และไม่

46       _________ worst  person  I’ve  met  is  Pam.

1  The                        2  A                           3  An                          4  blank

ตอบ    1  The                       

ใช้  The  นำหน้าคำคุณศัพท์ขั้นสุด  เช่น  the  best,  the  longest,  the  worst  มาจาก  bad

47       Bread __________ the  same  as  rice.

1  be                         2  were                      3  is                          4  are

ตอบ  3  is                         

เดาจากตัวเลือกมีกริยาเอกพจน์ตัวเดียวคือ  is  เพราะประธาน  bread  เป็นคำนามเอกพจน์

48    My  baby  has  had  __________ cough  since  yesterday.

1  all                          2  an                       3  a                       4  blank

ตอบ  3  a                      

ใช้  a  นำหน้าคำนามที่เป็นโรคเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ  เช่น  a  cough  (ไอ)  a  cold  (เป็นหวัด)  a  fever  (เป็นไข้)  a  rash  (เป็นผื่นคัน)  a  headache  (ปวดหัว)  a  stomachache  (ปวดท้อง)  a  sore  throat  (เจ็บคอ)

49    You  don’t  need  to  know __________ I’ve  come  here.

1  why                        2  what                        3  which                      4  where

ถาม  คุณไม่ต้องรู้ว่าทำไมฉันได้มาที่นี่

ตอบ  1  why                       

เป็น  noun  clause  ทำหน้าที่กรรมของกริยาโดยใช้  why  แสดงสาเหตุและผล

50    Henry  has  had __________ malaria  for  one  week.

1  a                           2  an                          3  the                         4  blank

ตอบ  4  blank

โรคต่างๆจะไม่มี  article  นำหน้า  เช่น  AIDS  (โรคเอดส์)  allergies  (โรคภูมิแพ้)  heart  disease  (โรคหัวใจ)  influenza  (โรคไข้หวัดใหญ่)  malaria (โรคไข้มาลาเรีย)  measles  (โรคหัด)  mumps  (โรคคางทูม)  cancer  (โรคมะเร็ง)  bronchitis  (โรคหลอดลมอักเสบ)  appendicitis  (โรคไส้ติ่งอักเสบ)

51    I  don’t  mind __________ at  the  back.

1  sit                          2  to  sit                       3  to  be  sitting                    4  sitting

ตอบ    4  sitting

กลุ่มคำสำนาน  เช่น  Would  you  mind,  I  don’t  mind,  I  have  trouble  +  Ving  เช่น

–                    I  don’t  mind  waiting  for  you.

–                    Would  you  mind  being  quiet?

52    Vince __________ come  to  our  party  because  he  has  been  very  busy  during  this  week.

1  shan’t                      2  wouldn’t                     3  needn’t                      4  may  not                

ตอบ  4  may  not                

คำกริยาช่วย  may  not  แสดงอาจจะ  การคาดคะเนความเป็นไปได้หรือไม่ได้  ว่า  อาจจะมาหรืออาจจะไม่มาก็ได้

53    After ___________ a  nap,  he  was  ready  for  an  expedition.

1  take                       2  to  take                      3  being  taken                 4  taking

ตอบ  4  taking

หลังบุรพบท  +  Ving  เช่น   of,  about,  for,  before,  after,  from

–                    He  gets  used  to  staying  up  late.

–                    Jane  congratulated  me  on  getting  a  G  in  En  101.

54    You _________ quit  smoking  if  you  do  not  want  to  suffer  from  lung  cancer.

1  ought  to                   2  must                   3  will                  4  1  and  2  are  correct

ตอบ  4  1  and  2  are  correct

คำกริยาช่วย  ought  to  แสดงควรจะเป็นการแนะนำ  และ  must  ต้อง  แสดงความจำเป็นว่า  ควรเลิกสูบบุหรี่ถ้าคุณไม่ต้องการเป็นปัญหาจากโรคมะเร็งในปอด

55    If  you  had  not  spent  all  his  money,  he __________ sell  his  house.

1  would  not  have  had  to                             2  did  not  have  to

3  will  not  have  to                                         4  must  not

ตอบ    1  would  not  have  had  to                            

การใช้ประโยค  If  ของการสมมติในอดีต  had  V3  คู่กับ  would  have  V3  =  would/ could / should  +  have  had  เสมอ  เช่น

–  If  England  had  played  better,  they  would  have  won  in  the  World  Cup  2002.

56    Paul  was  told  to  work __________.

1  hard                      2  harder                        3  hardest                     4  All  are  correct

ตอบ  4  All  are  correct

คำกริยาวิเศษณ์จะทำหน้าที่ขยายกริยาทั่วไป  S  +  V แท้  +  adv.  เช่น

–                    The  train  will  arrive  shortly.  Shortly  เป็น  adv.  ขยายกริยา  arrive

–                    Paul  was  told to  work  hard / harder / hardest.  ก็ได้แสดงหนักหนักขึ้นหนักที่สุด

57    Sue  talks ___________ than  Janet.

1  as  polite              2  more  polite              3  more  politely            4  most  politely

ตอบ  3  more  politely           

เห็นคำว่า  than  ให้ตอบขั้นกว่าออกสอบทุกเทอม  แล้วดูกริยาเช่น  talk  เป็นกริยาทั่วไปให้ตอบ  adv.  ทำหน้าที่ขยายคือ  politely  เป็นขั้นกว่า  =  more  politely

58    The  concert  was ________ boring.

1  terrible                 2  terribly                3  more  terrible            4  more  terribly

ตอบ  2  terribly               

คำคุณศัพท์ (adj.)  จะมีส่วนขยายคือ  adv.  เท่านั้น  S  +  Vto  be  +  adv.  +  adj.

–  You  are absolutely  right.  Absolutely  เป็น  adv.  ขยาย   adj  right

–  The  concert  was  terribly  boring.  โดย  terribly  เป็น  adv.  ขยาย  adj.  Boring

59    How  much  does  this  book  cost?

1  at  a  bookstore           2  120  baht          3  Too  expensive           4  Last  month

ตอบ  2  120  baht         

คำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงดีกรี  เป็นคำถามใช้  How  much  การตอบจัดจากดีดรีมากไปหาน้อย  เช่น  enormously,  severely,  very  much,  a  lot,  a  great  deal,  rather,  a  little  หรือใช้จำนวนเงินก็ได้เหมือนข้อนี้ว่า  120  บาท

60    When  did  he  change  his  job?

1  Recently         2  Very  often         3  In  his  hometown        4  For  a  short  period

ตอบ  1  Recently        

การถาม  When  เมื่อไร  ตอบเป็นเวลา  เช่น  now  (ในปัจจุบัน)  soon  (ในไม่ช้า)  recently  (เร็วๆนี้)  at  night  (กลางคืน)  tomorrow  (พรุ่งนี้)  during  the  coffee  break  (ช่วงพักทานกาแฟ)  at  ten  o’clock  (10  โมง)  in  2005  เป็นต้น

61    Where  did  you  buy  your  shirt?

1  99  baht                   2  last  week                     3  At  Jatujak                4  Very  cheap

ตอบ  3  At  Jatujak               

ถาม  Where  ที่ไหนให้ตอบเป็นสถานที่  เช่น  here  (ที่นี่)  there  (ที่นั่น)  outdoors  (ข้างนอก)  indoors  (ข้างใน)  overhead  (เหนือศรีษะ)  through  the  window  (ทางหน้าต่าง)  beside   the  wall  (ข้างฝาผนัง)

62    How  often  do  your  shop  in  a  week?

1  by  car                    2  twice                     3  very  hot                     4  recently

ตอบ    2  twice                    

ถาม  How  often  บ่อยแค่ไหน  ตอบเป็นความถี่  เช่นจากถี่มากไปหาน้อย  always  (เป็นประจำ)  all  the  time  (ตลอดเวลา)  usually  (โดยปกติ)  often  (บ่อย)  sometimes  (บางครั้ง)  once  a  week  (สัปดาห์ละครั้ง)  twice  (สองครั้ง)  occasionally  (เป็นบาครั้งบางคราว)  seldom  (ไม่ค่อยจะ)  never  (ไม่เลย)

63    We  are  waiting  for  our  distinguished  guest __________ .

1  eagerly  in  the  lobby  at  this  time                 2  at  this  time  in  the  lobby 

3  at  this  time  in  the  lobby  eagerly                 4  in  the  lobby  at  this  time  eagerly  

ตอบ  1  eagerly  in  the  lobby  at  this  time                

การเรียงคำกริยาวิเศษณ์  เป็นดังนี้

S           +           Vแท้        +              adv  of  manner     +              place       +       time

They  played  tennis  skillfully                                   in  the  living  room  last  night.

We     are  waiting     eagerly                                      in  the  lobby          at  this  time.

64    Which  is  an  offer?

1  I’ll  see  you  tomorrow                               2  Can  I  make  you  a  cup  of  coffee?

3  Sue  may  see  me  soon                              4  You  must  believe  me

ถาม  ข้อไหนเป็นการเสนอ

ตอบ  2  Can  I  make  you  a  cup  of  coffee?

1  ฉันจะพบคุณพรุ่งนี้เป็นการขออนุญาต        2  ฉันจะทำกาแฟให้คุณถ้วยหนึ่งนะ  เป็นการเสนอ

3  ซูอาจจะมาพบฉันในไม่ช้านี้เป็นการคาดคะเน      4  คุณต้องเชื่อฉัน  เป็นการแสดงการบังคับ

65    Which  contains  a  linking  verb?

1  Kids  usually  are  naughty                           

2  My  son  likes  pizzas

3  You  should  drink  a  lot  of  water  a  day      

4  Wash  your  hands  before  touching  any  food

ถาม  ข้อไหนมี  linking  verb?  

คำว่า  linking  verb  ได้แก่  Verb  to  be  is,  am,  are,  was,  were  feel,  seem,  look,  keep,  taste,  smell,  appear,  become, stay,  remain,  get,  turn  ส่วนที่เหลือเรียกว่าเป็นกริยามีกรรมไม่มีกรร  เช่น  1  มีกริยา  are  เป็น  linking  verb  ถูกต้อง  2  กริยา  like  ตามด้วยคำนาม  pizzas  เป็นกริยามีกรรม  3  กริยา  drink  ตามด้วย  a  lot  of  water  คำนามเป็นกริยามีกรรม  4  กริยา  wash  ตามด้วย  your  hands  เป็นคำนามถือว่าเป็นกริยามีกรรม

66    Which  does  not  contain  an  indirect  object?

1  She  wrote  me  a  letter                    

2  People  are  singing  “Long  live  the  King”

3  Aunt  Lek  bought  us  a  lot  of  candies

4  Mom  gave  us  money  to  buy  tickets

ถาม  ข้อไหนไม่มีกรรมรอง  ถ้ามีกรรมรองโจทย์นั้นก็ต้องมีกรรมตรง

 

S  +  V กรรมรองเป็นคน  Indirect  Object กรรมตรงเป็นสิ่งของ  object
1  She  wrote me a  letter
2  People  are  singing   Long  live  the  King  มีกรรมตัวเดียว
3  Aunt  Lek  bought us a  lot  of  candies
4  Mom  gave us money

 

ตอบ  People  are  singing  “Long  live  the  King”

จะเห็นว่าหลังกริยาตัวเลือกข้อ  2  ถือว่ามีกรรมเพียงตัวเดียว

67    Which  contains  an  intransitive  verb?

1  Jim  always  talks  about  his  family             2  Bob  exercises  every  evening

3  Alice  likes  Thai  food                                  4  Sue  calls  her  mother  every  night

ถาม  ข้อไหนมีกริยาไม่มีกรรม  ให้ดูหลังกริยาถ้าเป็นคำบุรพบทหรือ  adv.  ขยายถือว่าไม่มีกรรม

ตอบ    ข้อ  1  กับข้อ  2

1  กริยา  talk  ตามด้วย  about  เป็นบุรพบทถือว่าเป็นกริยามี่กรรม          2  กริยา  exercises  ตามด้วย  every  evening  เป็น  adv.  ก็ถือว่าเป็นกริยาไม่มีกรรม       3  กริยา  likes  ตามด้วยคำนาม  Thai  food  ถือว่าเป็นกริยามีกรรม     4  กริยา  calls  ตามด้วย  her mother  เป็นคำนามถือว่าเป็นกริยามีกรรม

68    Which  contains  a  transitive  verb?

1        Birds  are  flying  high  in  the  sky
2        You  should  drive  slowly  because  te  road  is  slippery

3        The  concert  will  begin  at  nine

4        I’m  preparing  my  dinner

ถาม   ข้อไหนเป็นกริยามีกรรม  ให้ดูหลังกริยาที่ตามด้วยคำนามหรือสรรพนามเป็นกริยามีกรรม

ตอบ  4  I’m  preparing  my  dinner

1  กริยา  flying  ตามด้วย  hight  เป็น  adv  ถือว่าเป็นกริยาไม่มีกรรม     2  กริยา  drive  ตามด้วย  slowly  เป็น  adv  ถือว่าเป็นกริยาไม่มีกรรม    3  กริยา  being  ตามด้วย  at  เป็นบุรพบทเป็นกริยาไม่มีกรรม   4  กริยา  prepare  ตามด้วย  my  dinner  คำนามถือว่าเป็นกริยามีกรรม

69    Substitute  the  underlined  word  with  a  suitable  pronoun
My  sister  came  to  see  me  yesterday.

1  It                      2  He                        3  They                      4  She

ตอบ  4  She

คำสรรพนามที่มาแทนคำนาม  My  sister  ได้คือเพศหญิงในที่นี้คือ  She

 70    Which  is  a  complete  sentence?

1  Keep  quiet  in  class                                2  To  stay  away  from  the  fire

3  Many  things  to  do  today                      4  Saving  up  your  money

ถาม  ข้อไหนเป็นประโยคที่สมบูรณ์

ตอบ  1  Keep  quiet  in  class                               

คำว่าประโยคสมบูรณ์จะต้องมีกริยาหลัก  หาคำกริยาให้ได้  เช่น  1  ขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่  Keep  ถือว่าเป็นประโยคสมบูรณ์    2  ไม่มีกริยา    3  ไม่มีกริยา      4  ก็เช่นกัน  การขึ้นต้นด้วยประโยค  To  +  Verb  หรือ  Ving  ถือว่าเป็นประธานจะต้องมีกริยาหลักด้วย  แต่จากตัวเลือกไม่มีกริยาหลักเลย

71    Which  is  a  complete  sentence?

1        John,  a  famous  politician  in  the  U.S

2        Taking  a  difficult  final  exam

3        Mary  is  standing  next  to  me

4        Something  wrong  inside  my  house

ตอบ  3  Mary  is  standing  next  to  me

1  ต้องเป็น  John  is a  famous  politician  in  the  U.S    2  ไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีกริยาหลัก    3  มีกริยา  is  standing  ครบถือว่าเป็นประโยคสมบูรณ์    4  ควรเป็น  There  is  something  wrong  inside  my  house

72  Which  is  a  complete  sentence?

1  Do  what  I  want  you  to                        2  A  Little  girl  wearing  white  dress

3  To  go  camping  at  the  mountain          4  Shopping  at  the  department  store

ตอบ  1  Do  what  I  want  you  to                       

1  สมบูรณ์เพราะขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่  1  เป็นคำสั่งให้ทำตามที่ฉันต้องการให้คุณทำ      2  ควรเป็น  A  Little  girl  is  wearing  white  dress    3  ขาดกริยาหลัก    4  ควรเป็น  Shopping  at  the  department  store  แล้วตามด้วยกริยา  เช่น  is  enjoyable  ก็จะถูกต้อง

73    Which  is  a  complete  sentence?

1  To  do  anything  by  yourself                        2  It’s  time  to  go  now

3  Before  the  sun  rises                                     4  Getting  along  with  the  classmates

ตอบ  2  It’s  time  to  go  now

1  ขาดกริยา         2  ถูกต้องมีคำกริยามาจาก  It  is  time  3  ถ้ามีคำเชื่อม  before  จะต้องมี  ประโยค  2  ตอนใช้ตอนเดียวไม่ได้เพราะเป็นประโยคความซ้อน  4  ขาดกริยา

74    Which  is  a  complete  sentence?

1  Walking  alone  along  the  road            2  An  old  man  talking  to  John

3  To  get  promotion  at  work                  4  Take  off  your  shoes  before  coming  in

ตอบ  4  Take  off  your  shoes  before  coming  in

1  ขาดกริยา          2  ต้องเป็น  An  old  man   is  talking  to  John      3  ขาดกริยา        4  ขึ้นต้นเป็นกริยาว่าถอดรองเท้า   Take  off  เป็นคำสั่งถือว่าเป็นประโยคสมบูรณ์

75    Which  is  a  complete  sentence?

1  Taking  the  bus  to  work                        2  To  go  back  home  on  foot

3  There  a  girl  dancing  all  night              4  A  pretty  girl is  dancing  with  Tom

ตอบ  4  A  pretty  girl is  dancing  with  Tom

1  ขาดกริยา           2  ขาดกริยา           3  ต้องเป็น  There  is  a  girl  dancing  all  night      4  ถูกต้องมีคำกริยา  is  dancing  เรียบร้อยแล้ว

Part  II  :  Vocabulary  (คำศัพท์)

76    Usually  animals __________  from  danger.

1  shrink                 2  erupt                  3  tilt                   4  devise

ถาม  โดยทั่วไปแล้วสัตว์ต่างๆ _________ จากอันตราย

ตอบ  1  shrink                

1  หดตัว  ถอย             2  ประทุ  ระเบิด          3  เอียง           4  คิดค้น  ประดิษฐ์

77    Do  you  know  the  man  who  is  speaking  on  the _________ ?

1  board                 2  court              3  stage                4  shelf

ถาม  คุณรู้จักผู้ขายที่กำลังพูดบน _________  มั้ย ?

ตอบ  3  stage               

1  เรือ           2  ศาล        3  เวที           4  ชั้นวาง  หิ้ง 

78    He  is  in  the  __________ whether  he  should  give  in  or  not.

1  hesitation                  2  etiquette                 3  customs                4  values

ถาม  เขาอยู่ใน  __________ ว่าเขาควรจะยอมแพ้หรือไม่

ตอบ  1  hesitation                 

1  ความลังเล          2  กติกามารยาท         3  ประเพณี           4  กฎเกณฑ์ในการปฏิบัติ

79    Martha  is  very  neat.  She __________  a  newspaper  after  reading.

1  folds                       2  tilts                        3  lifts                     4  swells

ถาม  มาร์ธาเป็นคนเรียบร้อยมาก  เธอ __________ หนังสือพิมพ์หลังจากอ่านเสร็จ

ตอบ  1  folds                      

1  ม้วน  พับ           2  เอียงตะแคง             3  ยกขึ้น             4  บาน

80    Jane  is  playing  the _________ of  a  sister.

1  property               2  legend               3  abundance                  4  role

ถาม  แจนกำลังเล่น ________ ของน้องสาว

ตอบ  4  role

1  ทรัพย์สมบัติ                2  ตำนาน               3  อุดมสมบูรณ์                  4  บทบาท

81    Suvannaphumi  area  may  soon  become _________.

1  metropolitan              2  mysyerious               3  responsible              4  preventive

ถาม  พื้นที่สุวรรณภูมิอาจจะกลายมาเป็น ____________ ในไม่ช้า

ตอบ  1  metropolitan             

1  เมืองใหญ่            2  ลึกลับ            3  รับผิดชอบ               4  ป้องกัน

82    Tension __________  the  efficiency  of  a  worker.

1  affects                    2  detects                   3  declares                  4  deletes

ถาม  ความตึงเครียด __________  ประสิทธิภาพของคนงาน

ตอบ  1  affects                   

1  มีผลต่อ               2  เกลียด             3  ประกาศ             4  ลบออก

83    I  wish  you  all  ________ in  life.

1  opinions             2  prosperity                3  gardening              4  part  time  jobs

ถาม  ฉันปรารถนาให้คุณทุกคน  _________  ในชีวิต

ตอบ   2  rrosperity               

1  ความคิดเห็น              2 ความอุดมสมบูรณ์  มั่งคั่ง                3  การทำสวน              4  งานชั่วคราว

84    The  boss  anger  could  be  __________  by  his  silence.

1  constructed              2  answered            3  demanded              4  interpreted

ถาม  ความโกรธของเจ้านายสามารถเป็น _________ เป็นความเงียบของเขา

ตอบ   4  interpreted    =   ตีความ     

85    Her  unhappiness  is ___________ her  ambition.

1  due  to             2  so  far             3  in  comparison  with              4  up  to  now

ถาม  ความไม่เป็นสุขของเธอเป็น ___________  ความทะเยอทะยานของเธอ

ตอบ  1  due  to            

1  เนื่องจาก  เพราะว่า        2  จนถึงบัดนี้          3  เปรียบเทียบกับ            4  จนบัดนี้

86    In  today’s  society,  education  is  a/an _________ for  everyone’s  future.

1  production               2  industry               3  scale                 4  springboard

ถาม  ในสังคมปัจจุบันนี้  การศึกษาเป็น __________  สำหรับอนาคตของทุกคน

ตอบ  4  springboard      =      จุดเริ่มต้น

87    Amy’s  strong  desire  shows  that  she  is _________.

1  ideal                    2  ambitious                   3  mysterious                4  fellow

ถาม  ความปรารถนาอันแรงกล้าของเอมี่แสดงว่าเธอเป็น ___________ .

ตอบ  2  ambitious                  

1  สมบูรณ์แบบ          2  ทะเยอทะยาน            3  ลึกลับ          4  เพื่อนร่วม

88    Many  students ______________  their  advisor’s  advice  before  registration.

1  inspect                    2  give                 3  seek                  4  buy

ถาม  นักศึกษาจำนานมาก  _________  คำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนลงทะเบียนเรียน

ตอบ  3  seek     =       เสาะหา  ค้นหา  ขอความคิดเห็น

89    The  government  distributed  many ________ item  bage  to  the  flood  victims.

1  relief                   2  specialist                    3  graduation                4  concept

ถาม  รัฐบาลแจกจ่ายถุงยังชีพ ___________  จำนวนมากให้กับผู้เคราะห์ร้ายในน้ำท่วม

ตอบ  1  relief                  

1  ความช่วยเหลือ              2  ผู้เชี่ยวชาญ               3  สำเร็จการศึกษา               4  ความคิด

90    A  Member  of  Parliament  or  an  MP  is  a  __________ position.

1  useless                2  specific                3  prestigious               4  intensive

ถาม  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่ง  ________.

ตอบ  3  prestigious    =     มีเกียรติ    มีบารมี    เป็นที่นับหน้าถือตา

91    Many  Buddhists  come  to  this  temple  because  of  the _________ abbot.

1  respected              2  preventive              3  chronic              4  tightening

ถาม  ชาวพุทธจำนวนมากมาที่วัดนี่เพราะพระสงฆ์เป็นที่ ___________.

ตอบ  1  respected             

1  เป็นที่นิยมชมชอบ          2 ที่ป้องกันได้          3  เรื้อรัง           4  มีจำกัด  หายาก

92    There  were  a  lot  of  special ___________  in  China  during  the  cultural  revolution.

1  successes               2  failures                 3  attempts               4  upheavals

ถาม  มี _________ พิเศษจำนวนมากในประเทศจีนระหว่างการปฏิวัติทางด้านวัฒนธรรม

ตอบ  4  upheavals

1  ความสำเร็จ                 2  ความล้มเหลว                   3  ความพยายาม                 4  การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่มักเป็นการเปลี่ยนการปกครองหรือการปกครอง

93    The _________ ceiling  of  this  company’s  salary  is  100,000  baht  a  month.

1  fertile                2  eternal                 3  maximum                 4  geological

ถาม  เพดาน __________ ของเงินเดือนบริษัทนี้เป็น  หนึ่งแสนบาทต่อเดือน

ตอบ    3  maximum                

1  อุดมสมบูรณ์              2  ไม่เปลี่ยนแปลง               3  มากที่สุด               4  ทางด้านธรณีวิทยา

94    No  businessman  wants  to  meet __________ in  his  business

1  success              2  prejudice               3  criticism                 4  failure

ถาม  ไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่ต้องการเผชิญกับ __________  ในธุรกิจของเขา

ตอบ   4  failure

1  ความสำเร็จ             2  ความลำเอียง            3  การวิจารณ์               4  ความล้มเหลว

95    Diabetes  is  not  an  infectious  disease,  but  it  is  a/an ________ one.

1  risky                   2  dreadful                 3  chronic                  4  unavoidable

ถาม  โรคเบาหวานไม่ได้เป็นโรคติดต่อได้  แต่มันเป็นโรคที่  _________.

ตอบ   3  chronic     =     เรื้อรัง   ประจำ

96    Many  people  were  killed  and  injured  in  the ___________.

1  gesture                2  riot                  3  distinction                4  landscape

ถาม  ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บใน __________.

ตอบ     2  riot                 

1  อากัปกิริยา              2  การจลาจล         

3  ความแตกต่าง                4  ทิวทัศน์

97    That  spoiled  child __________ everybody  around  him.

1  plagued                 2  delivered                   3  triggered                  4  determined

ถาม  เด็กที่นิสัยเสียคนนั้น  _________ ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา

ตอบ  1  plagued                

1  ทำให้หงุดหงิด  รำคาญ  เดือดร้อน         2  ส่ง           3  ก่อให้เกิด            4  กำกับควบคุม

98    You  can  take  this  medicine  as  long  as  you  want  because  it  won’t  have  any _________.

1  responsibility            2  activity            3  side – effects            4  disappointment

ถาม  คุณสามารถทานยานี้ตราบใดที่คุณต้องการเพราะมันไม่มี ___________.

ตอบ  3  side – effects           

1  ความรับผิดชอบ                2  กิจกรรม              3  ผลข้างเคียง                 4  ความผิดหวัง

99    John’s  ambition  is  limitless.

1  with  limit              2  without  end             3  beyond  words           4  with  love

ถาม  ความทะเยอทะยานของจอห์นไม่มีขีดจำกัด

ตอบ  2  without  end   =     limitless  

100    Usually  animals  behavior  is  unaffected.

1  metropolitan                 2  natural                 3  ideal                 4  situated

ถาม  พฤติกรรมของสัตว์ต่างๆโดยทั่วไป  เป็นธรรมชาติ

ตอบ  2  natural    =    unaffected    =    เป็นธรรมชาติ  ไม่เสแสร้ง

101     My  family  and  I  met  a  terrific  tour  guide  in  China  last  year.

1  decisive                2  terrible               3  admirable                  4  adventurous

ถาม  ครอบครัวของฉันและฉันเจอมักคุเทศน์ที่ยอดเยี่ยมในประเทศจีนปีที่แล้ว

ตอบ  3  admirable    =    terrific    =    มหัศจรรย์  ยอดเยี่ยม

102     This  year  the  weather  is  unusual  because  it  hasn’t  rained  for  almost  10  months.

1  strange                  2  ordinary                  3  traditional                    4  unpredictable

ถาม  อากาศปีนี้ไม่ปกติ  เพราะมันไม่มีฝนตกมาเป็นเวลาเกือบ  10  เดือนแล้ว

ตอบ  1  strange    =   unusual   =   ไม่ธรรมดา

103     This  new  comprehensive  study  helps  us  a  lot  in  planning  the  project.

1  incomplete              2  intensive              3  incentive              4  inclusive

ถาม  การศึกษาที่ครอบคลุมเนื้อหาใหม่นี้ช่วยพวกเรามากในการวางแผนโครงการ

ตอบ  4  inclusive     =     comprehensive     =     เป็นที่เข้าใจได้  ครอบคลุมเนื้อหา

104     It  is  costly  to  buy  a  gold  necklace  at  the  present  time.

1  cheap                   2  wasteful                   3  lucky                 4  expensive

ถาม  มันแพงที่จะซื้อแหวนทองในปัจจุบัน

ตอบ  4  expensive   =   costly   =    แพง

105     Managerial  concepts  are  very  useful  for  business  owners.

1  purposes               2  goals                3  objectives             4  ideas

ถาม  ความคิดทางด้านการจัดการเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเจ้าของธุรกิจ

ตอบ  4  ideas   =    concept   =    ความคิด

106     That  big  house  is  situated  near  the  mountain.

1  located                  2  maximum              3 ambitious               4  influential

ถาม  บ้านหลังใหญ่นั้นตั้งอยู่ใกล้กับภูเขา

ตอบ  1  located     =    situated   =    ตั้งอยู่ที่

107     We  don’t  like  his  negative  comments  on  our  proposal.

1  opinions                2  objectives               3  manners                4  rules

ถาม  พวกเราไม่ชอบความคิดในเชิงลบของเขาที่มีต่อรายงานของพวกเรา

ตอบ  1  opinions     =    comment     =     ความคิดเห็น

108     The  higher  payment  encourages  all  staff  to  work  harder.

1  competes               2  concises             3  receives             4  motivates

ถาม  ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นส่งเสริมให้พนักงานทุกคนทำงานหนักขึ้น

ตอบ  4  motivates      =     encourage    =     ส่งเสริม  กระตุ้น  ปลุกเร้า

109     We  bought  this  house  because  of  its  colorful  landscape.

1  part                       2  surface                    3  scenery                    4  component

ถาม  พวกเราซื้อบ้านหลังนี้เพราะทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยสีสันของมัน

ตอบ  3  scenery     =    landscape    =    ทิวทัศน์

110     The  students  endeavors  were  clearly  seen.

1  attempts                 2  crust                3  succession                4  upheaval

ถาม  ความพยายามของนักศึกษาเป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจน

ตอบ  1  attempts    =    endeavors     =    ความพยายาม

111     The  house  looks  mysterious  to  us.

1  noisy  and  frightening                            2  strange  and  unknown

3  crumbly  and  dull                                   4  huge  and  unbelievable

ถาม  บ้านหลังนี้ดูลึกลับต่อพวกเรา

ตอบ  2  strange  and  unknown    =    mysterious   =    ลึกลับ  

112     Walking  briskly  is  good  exercise  for  young  people  but  not  for  elderly  people.

1  slowly                 2  continuously                3  instantly                 4  quickly

ถาม  การเดินอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนหนุ่มสาวแต่ไม่ดีสำหรับคนสูงอายุ

ตอบ  4  quickly    =    briskly    =    อย่างรวดเร็ว

113     A  succession  of  mistakes  caused  the  boss  to  fire  him.

1  competition               2  sequence                 3  matter               4  difference

ถาม  ความต่อเนื่องของความผิดพลาดทำให้เจ้านายขับไล่เขาออกจากงาน

ตอบ  2  sequence      =    succession    =    ความต่อเนื่อง

114     He  could  hide  his  anger  because  he  did  not  show  any  expression  on  his  face.

1  attitude                  2  comment                  3  belief                   4  feeling

ถาม  เขาสามารถเก็บความรู้สึกของเขาได้เพราะเขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆบนใบหน้าของเขา

ตอบ  4  feeling     =     expression     =     การแสดงออก

115     John  rattled  on  about  his  wonderful  vacation  in  Korea.

1  remembered               2  chattered                3  forecasted               4  thought

ถาม  จอห์นพูดไม่หยุดเกี่ยวกับการพักร้อนที่มหัศจรรย์ของเขาในประเทศเกาหลี

ตอบ  2  chattered      =     rattled      =      พูดไม่หยุด

116     You  have  to  make  your  own  decision  whether  you  still  want  to  merge  your  business  with  ours.

1  answer                     2  rethink                  3  decide                    4  forecast

ถาม  คุณต้องทำการตัดสินใจของตัวคุณเองว่ายังคงต้องการที่จะรวมธุรกิจของคุณเข้ากับพวกเราหรือเปล่า

ตอบ  3  decide     =      make  your  own  decision   =   ตัดสินใจ

117      To  strengthen  our  economic  stability,  we  should  have  reliable  policies  for  foreign  investors  to  invest  their  money  in  our  country.

1  give  knowledge               2  consider             3  build  up             4  widen

ถาม  เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในทางเศรษฐกิจของเราให้แข็งขึ้น  พวกเราควรมีนโยบายที่เชื่อถือได้ให้กับนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนเงินของพวกเขาในประเทศของเรา

ตอบ  3  build  up     =     strengthen    =   ทำให้แข็งแรงขึ้น

118     Honesty  is  one  the  most  important  qualifications  a  man  should  possess.

  1  Efficiency                2  Beauty                 3  Direction                  4  Sincerity

ถาม  ความซื่อสัตย์เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่มนุษย์ควรมี

ตอบ  4  Sincerity     =      honesty    =   ความจริงใจ  ซื่อสัตย์

119     There  is  a  clear  distinction  between  sign  language  and  gesture.

1  expression                2  completeness             3  differentiation            4  speculation

ถาม  มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างภาษาท่าทางและอัปกิริยา

ตอบ  3  differentiation     =    distinction    =    ความแตกต่าง

120     He  is  a  worker  with  high  efficiency.

1        ability  of  doing  things  quickly

2        quality  of  doing  something  well  and  effectively

3        having  patience  of  doing  anything

4        a  great  success  of  management

ถาม  เขาเป็นคนงานที่มีประสิทธิภาพสูง

ตอบ  2  quality  of  doing  something  well  and  effectively    =    efficiency     =    ความมีประสิทธิภาพที่ทำสิ่งหนึ่งได้ดี

ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน ภาค2 ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน
Choose the correct answer
Part I Structure
1    ________ is located in the east of  __________  .
(1) Vietnam; Cambodian
(2) Vietnamese; Cambodia
(3) Vietnamese; Cambodian
(4) Vietnam; Cambodia
ตอบ 4 หน้า 5 – 8 : คำที่เป็นชื่ออเฉพาะของเมือง ประเทศ หรือทวีปต่าง ๆ เมื่อต้องการใช้เป็นคำคุณศัพท์หรือคำนามที่หมายถึง ”‘ประชากร / ภาษาของเมือง ประเทศ หรือทวีปนั้น ๆ”จะทำไต้โดยการเติมป้จจัยต่าง ๆ ท้ายคำหรือไม่ก็โดยการเปลี่ยนแปลงรูปคำ เช่น
Burma (ประเทศพม่า) -> Burmese (ชาวพม่า),
Australia (ประเทศออสเตรเลีย) -» Australian (ชาวออสเตรเลีย),
Vietnam (ประเทศเวียดนาม) —> Vietnamese (ชาวเวียดนาม),
Cambodia (ประเทศกัมพูซา) -> Combodian (ชาวกัมพูชา) เป็นต้น
2 My aunt always provides __________
(1) for food the poor     (3) food for the poor
(2) the poor for food    (4) for the poor food
ตอบ 3    (คำบรรยาย) : ใช้กริยา “provide + with/for” ในความหมายว่า “จัดหา. จัดเตรียม” ได้ดังนี้
“provide + someone + with, something” หรือ “provide + something + for;
3 Irene and her father should not  ________all of their money
(1) spending
(2) spent
(3) spend    
(4) to spend 
ตอบ 3 หน้า 243 – 245  ใช้ V ช่วย  ในความหมายว่า “ควรจะ” ซึ่งทั้งสองคำสามารถใช้แทนกันได้โดยมีรูปปฏิเสธ คือ “ought not to /should not” มีความหมายว่า “ไม่ควร’’ และเมื่อทำเป็นประโยคคำถามประเภท Yes/No Question ให้ใช้ “ought/should” ขึ้นต้นประโยค
4 Bangkok is  ______  polluted.
(1) badly
(2) worst
(3) worse
(4) bad

ตอบ 1 หน้า 311  กริยาวิเศษณ์บอกระดับของความมากน้อย (Adverb of Degree) คือ adv.ซึ่งเป็นคำหรือกลุ่มคำที่ใช้บอกระดับความมากน้อยของกริยาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบคำถามว่ามากเท่าไหร่ (How much) ใช่หรือไม่ (Yes/No Question) เช่น remarkably, enormously, intensely, severely, very much a lot, badly ฯลๆ

 

5 Those men have trouble _______  on the deep snow.

(1) walking

(2) walks

(3) walked

(4) to walk

ตอบ 1 หน้า 276  วลีบางวลี เข่น Would you mind, I don’t mind และ I have trouble จะตามด้วย v.ing

6.    Ten minus five ______  five.

(1) will

(2) is

(3) are

(4) have

ตอบ2 หน้า 342 – 343 ประธานที่เป็นชื่อหนังลือ ชื่อร้านอาหาร หรือชื่อเฉพาะอื่น ๆ จำนวนเงิน ระยะทาง ระยะเวลา ผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหาร แม้จะมีรูปเป็นพหูพจน์ แต่จัดเป็น ประธานเอกพจน์ และจะใช้ V. เอกพจน์

หมายเหดุ “Ten minus five” เป็นประธานเอกพจน์ที่บอกถึงผลลบ V. to be จึงใช้ “is”

7.    People don’t like a person ________  is dishonest.

(1) who

(2) whose

(3) where

(4) whom

ตอบ 1 หน้า 401 – 410, (คำบรรยาย)  ใช้คำเชื่อมหน้า Adjective Clause (ประโยคย่อย ที่ทำหน้าที่เป็น adj. ขยายคำนามหรือสรรพนามทีอยู่ข้างหน้า) ดังนี้1.    who + V. ใช้ขยายคำนามที่เป็นคน ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
2.    whom + s, + V, ใช้ขยายคำนามที่เป็นคน ซึ่งทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค
3.    which + V. / which + s. + V. ใช้ขยายคำนามที่เป็นสัตว์หรือสิ่งของ ซึ่งทำหน้าที่เป็น ประธาน / กรรมของประโยค
4.    whose + n. + V. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ
5.     that + V. / that + s. + V. ใช้ขยายคำนามที่เป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ซึ่งทำหน้าที่เป็น ประธาน / กรรมของประโยค
6.    when + s. + V. ใช้ขยายคำนามที่บอกเวลา ทั้งนี้สามารถใช้ “on which” หรือ “that” แทน when ได้
7.    where + s. + V. ใช้ขยายคำนามที่บอกสถานที่
8.    why + s. + V. ใช้ขยายคำนามที่บอกเหตุผล

8.    A number of monkeys  _______  on that small tree.

(1) was

(2) is

(3) are

(4) has been

ตอบ 3 หน้า 346 – 347  ใช้ A number of และ The number of ให้สอดคล้องกับ V. ดังนี้

A (large / small) number of              + n. พหูพจน์    + V. พหูพจน์
The (largest / smallest) number of + n. พหพจน์    + V. เอกพจน์

9.    The manager allows  ________  .

(1) to work her independently

(2) her to    work independently

(3) to work independently her

(4) to her    work independently

ตอบ 2 หน้า 280 – 281 : V. ต่อไปนี้จะตามด้วย “กรรมตรง + infinitive with ‘to’ (to + v.l ไม่ผัน)”

 

allow compel force lead permit train recommend
cause encourage get invite prefer want dare
challenge enable inspire order tell warn remind
choose expect intend pay prompt advise teach help


กรรมตรง to + V.1 (ไม่ผัน)

หมายเหตุ จากโจทย์ The manager allows her to work independently.

10.    Did Jennifer show  __________  ?

(1) her new dress you

(2) her new you dress

(3) new dress her you

(4) you her new dress

ตอบ 4 หน้า 214, 216 กริยาทวิกรรม (Ditransitive Verbs / Double Transitive Verbs : DV.) คือ กริยาทิมีทั้งกรรมตรง
(Direct Object : DO.) และกรรมรอง (Indirect Object : IO.)
ซึ่งส่วนใหญ่กรรมตรงจะหมายถึงสิ่งของ ส่วนกรรมรองจะหมายถึงบุคคล และมักจะมีบุรพบท “to / for” คั่นระหว่างกรรมตรงและกรรมรอง
s. + V. DO. + to/for + IO, หรือกริยา ทวิกรรมบางคำสามารถละบุรพบท “to/for” แล้วย้ายกรรมรองมาวางไว้หน้ากรรมตรงก็ได้
s. + V. + IO. + DO.

หมายเหตุ  จากโจทย์ Did Jennifer show you her new dress ?

11.    How _______ did you enjoy the party ?

(1) far    (2)    many    (3)    much    (4)    very

ตอบ 3 คำอธิบายเข่นเดียวกับข้อ 4.

12.    The boy is smiling  ________  .

(1) happiness    (2)    happily    (3)    happy    (4)    happier

ตอบ 2 หน้า 298 คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb adv.) คือ คำที่ทำหน้าที่ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง โดยที่คำกริยาวิเศษณ์จะเป็นคำที่บ่งบอกถึงการกระทำว่า เกิดขึ้นเมื่อไร อย่างไร ที่ไหน และในสภาพใด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการเติม “-ly” ท้ายคำคุณศัพท์ เช่น happily, correctly, easily, beautifully, boringly, thoughtfully, really, wholeheartedly, gently ฯลฯ

หมายเหตุ จากโจทย์ The boy is smiling happily.

13.    Does this payment include  ________  bed and ________   breakfast ?

(1) a; (blank)    (2)    the; a    (3)    (blank);    (blank)    (4)    a; a

ตอบ 3 หน้า 72  ไม่ใช้ article (a/an/the) นำหน้าคำนามที่มีโครงสร้าง “ noun + and + noun” เมื่อคำนามนั้นหมายถึงสิ่งที่คู่กันหรือมีความสัมพันธ์กัน เช่น

 

bed and breakfast (ทีพักพร้อมอาหาร) body and soul (ร่างกายและจิตใจ)
bread and butter (ขนมปิงทาเนย) ham and eggs (แอม,.เละไข่)
father and son (พ่อลูก) husband and wife (สามีภรรยา)

 

14 __________ will your friends come ?

(1) When    (2) Who    (3) Whom    (4) Where

ตอบ 1 (คำบรรยาย)  ใช้ When ขี้นต้นประโยคคำถามประเภท Wh-question ทำหน้าที่ขยายกริยา ของประโยค แปลว่า เมื่อไร

15 Is    ___________  Ramkhamhaeng University _________  largest university in Thailand ?

(1) the; a    (2) a; the    (3) (blank); a    (4) (blank); the

ตอบ.4 หน้า 76 – 78  ไม่ใช้ article (a/an/the) นำหน้าคำนามที่เป็นชื่อสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ สถาบันการศึกษา (เช่น Ramkhamhaeng University) สถานีขนส่ง สนามบิน ถนน สวนสาธารณะ จัตุรัส เมือง จังหวัด มณทล รัฐ ประเทค ทวีป และดาวเคราะห์ต่าง ๆ หน้า 66 – 67  ใช้ article “the” หน้าคำคุณศัพท์ (adj.) ที่ใช้ในการเปรียบเทียบ คำคุณศัพท์ขั้นสุด “the + adj. + est”

16.    The officer warned US  ________  going inside this old building.

(1) avoided    (2)    avoids    (3)    avoid    (4) to avoid

ตอบ. 4    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 9.    กรรมตรง to + V.1 (ไม่ผัน)

หมายเหตุ จากโจทย์ The officer warned US to avoic going inside this old building.

17.    Would you mind  _______  to me ?

(1) listen    (2)    listening    (3)    listened    (4) listens

ตอบ 2    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 5.

18.    All of the passengers prepared   _________ on the bus.

(1) get    (2)    getting    (3)    to get    (4) gets

ตอบ3 หน้า 280  V. ต่อไปนี้จะตามด้วย infinitive with to (to + v.l ไม่ผัน) โดยไม่มีกรรมมาแทรก

aim decide happen mean prepare seem appear endeavour
hope need pretend tend arrange expect learn neglect
prove want attempt fail long opt resolve wish
choose forget manage plan seek      


19.    Are those books  ________  ?

(1) their    (2) them    (3) theirs    (4) they

ตอบ 3 หน้า 117-118  การใช้บุรุษสรรพนาม (Personal Pronouns)

Subject Object

Possessive Adj.

Possessive Pron.

Reflexive Pron.

(ประธาน) (กรรน) (คุณศัพท์แสดงเจ้าของ) (สรรพนานแสดงเจ้าของ) (สรรพนานสะท้อนตัวเอง)

I

me my    mine   

myself

You

you your   yours   yourself yourselves

We

us

our   ours  

ourselves

They them their + n. theirs >ไม่ต้องมี n ตาม

themselves

He

him his   his

himself

She

her her   hers  

herself

It

it

its
  its   

itself


20.   The girl  _________  pens were stolen is sad.

(1) whom    (2) whose    (3) where    (4) when

ตอบ 2    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 7.

21.     _________   a good job is not easy.

(1) Found    (2) Finds    (3) Finding    (4) Find

ตอบ 3 หน้า 20 – 21, (คำบรรยาย)     สามารถใข้ to—infinitive (to    + V.1    ไม่ผัน) และ Gerund (v.ing)
แทนคำนามในตำแหน่งประธาน โดยมีความหมายเน้นเอกพจน์ และใช้ V. เอกพจน์

22.His brother is  _________  than her sister.

(1) older    (2) young    (3) old    (4) eldest

ตอบ 1 หน้า 173 – 175 ใช้คำคุณศัพท์ขั้นกว่าเพื่อเปรียบเทียบระหว่างสิ่งสองสิ่งหรือคนสองคนซึ่งโครงสร้างของคำจะเกิดจากการเติม “-er” (แต่ถ้าคำนั้นลงท้ายด้วย “-e” จะเติมเพียง “-r”ท้ายคำ) ท้าย adj. พยางค์เดียวหรือสองพยางค์ หรือเติม “more” หน้า adj. ที่มีตั้งแต่ สามพยางค์ขึ้นไป โดยมักจะมี “than” หลังคำคุณศัพท์ขั้นกว่าเสมอ

23.    They got wet because they walked under a  __________  of rain.

(1) shower    (2) troop    (3) pack    (4) group

ตอบ 1 หน้า 8 – 10 : สมุหนาม (Collective Noun) คือ ท. ที่มีความ,หมายแสดงกลุ่ม หมู่ หรือพวก (มักตามด้วย of เพื่อเน้นให้ความเน้นหมู่หรือคณะนั้นชัดยิ่งขึ้น) ซึ่งต้องเลือกใช้คำให้ถูกต้อง เหมาะสมกับความหมายที่แสดงเฉพาะเจาะจงว่าเน้นกลุ่มของคนหรือสตว์หรือสิ่งของประเภทใด เช่น a shower of rain (ฝนห่าหนึ่ง), a cloud of insects (แมลงฝูงหนึ่ง), a catch of fish (ปลาจำนวนหนึ่ง), a crowd of people (คนกลุ่มหนึ่ง), a clump of dirt (ดินกองหนึ่ง), a pail of scissors (กรรไกรอันหนึ่ง) เป็นด้น

24.    Each of the boys ________   singing on the stage.

(1) is    (2) have    (3) were    (4) are

ตอบ 1 หน้า 99, 333  เมื่อคำเหล่านี้ทำหน้าที่เน้นประธานหรือขยายประธานของประโยค

V. ของมันจะเน้นเอกพจน์เสมอ

Everyone

Someone

No one A

Everybody

Somebody

Nobody

Everything

Something

Nothing

One (of)

Each(0

Every

v เอกพขน์

Either (of)

Neither (of)

Many a

a great deal of

a bit of

little (of)

a little (of)

much (of)

less )

 

25.    This is a  _________  carpet.

(1) washes    (2) wash    (3) to wash    (4) washable

ตอบ.4 หน้า 168 – 169 คำคุณศัพท์ (Adjective adj.) คือ คำที่ทำหน้าที่อธิบาย บอกลักษณะ และสภาพของนาม และสรรพนาม โดยคำคุณศัพท์อาจจะเกิดตามหลังคำนำหน้าคำนาม ชนิดต่าง ๆ หรือในบางประโยคคำคุณศัพท์จะเกิดหน้าคำนาม

 

                                                          adj       n.

หมายเหตุ  จากโจทย์ This is a washable carpet.

26.  ________  lives are being changed by environmental conditions.
(1) Her
(2) Theirs
(3) Our
(4) It
ตอบ 3    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 19.
27.    The apartment  _______  John lives is near my house.
(1) why
(2) when
(3) whose
(4) where
ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 7.
28.     Did you ______   to come ?
(1) had
(2) has
(3) to have
(4) have
ตอบ. 4 หน้า 252 – 253  V. ช่วย “have to” เมื่อเป็นประโยคคำถามประเภท Yes/No Question จะต้องใช้ V. to do เข้ามาช่วยเสมอ และจะต้องผันให้สอดคล้องกับ s. และ tense นั่นคือ ปัจจุบันใช้ “do” กับ I/you/we/they และ s. พหูพจน์ และใข้ “does” กับ he/she/it และ s. เอกพจน์ ส่วนอดีตใช้ “die” กับ s. ทุกตัว และ have จะต้องอยู่ในรูป V.1 (ไม่ผัน)
29.     Today is  _______  and ________   .
(1) coldly; wind
(2) cold; wind
(3) cold; windy
(4) coldly; windy
ตอบ.3    หน้า 168 – 169  คำคุณศัพท์ (adj.) อาจเกิดตามหลัง V. to be (is/am/are/was/were/been)
หรือหลัง Linking Verbs อื่น ๆ เช่น seem, appear, become, get, look, feel, taste, smell, stay, remain เป็นต้น
หน้า 189  เมื่อคำคุณศัพท์มีมากกว่า 1 คำ และเชื่อมด้วยสันธาน and หรือ but จะถูกวางไว้
ในตำแหน่งหลัง V. to be และ Linking Verbs อืน ๆ
adj.            adj.
หมายเหตุ  จากโจทย์ Today is  cold  and  windy.

30 Half of her property  ________  sold.(1) have

(2) are

(3) been

(4) was

ตอบ 4 หน้า 104 – 105, 337 คำบอกปริมาณต่อไปนี๋ใช้นำหน้าได้ทั้ง n. นับไม่ได้และ n. นับได้ พหูพจน์ โดย V. ที่ตามมาต้องผันตาม n. นั่นคือ ถ้าเป็น n. นับไม่ได้ จะใช้ V. เอกพจน์ และ ถ้าเป็น n. นับไต้พหูพจน์จะใช้ V. พหูพจน์

31.    The fishermen _________   able to catch fish because of the heavy storm.

(1) not were

(2) was not

(3) were not

(4) not was

ตอบ 3 หน้า 234 – 235 ใช้ V. ช่วย “could + V.1 (ไม่ผัน)” หรือ “was/were + able to + V.1 (ไม่ผัน)” ในความหมายว่า สามารถทำสิ่งหนี่งสิ่งใดได้ในอดีต โดย “could” จะใช้ได้กับประธานทุกตัว แต่ “was/were” ต้องผันให้ลอดคล้องกับ s. นั่นคือ ใช้ “was” กับ I /he /she /it และ s. เอกพจน์ และใช้ “were” กับ you /we /they และ s. พหูพจน์

หมายเหตุ
  จากโจทย์ “fishermen” เป็นประธานพหูพจน์ จึงใช้ “were” และเมื่อทำเป็น ประโยคปฏิเสธจะต้องเติม “not” หลัง were นั่นคือ “were not + able to + v.1 (ไม่ผัน)

32.    Many people like to watch  ________  TV shows.

(1) humorous

(2)    humorously

(3)    humorousness

(4)    humor

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับช้อ 25.

หมายเหตุ  humorous (adj.), humorously (adv.), humorousness (n.), homor (n.)

33.  ________    this table is very difficult.

(1) Clean

(2)    To clean

(3)    Cleanliness

(4)    Cleans

ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 21.

34.    Both my brother and sister are  ________  movie stars.

(1) an    (2)    the    (3)    a    (4)    (blank)

ตอบ 4 หน้า 69  ไม่ใช้ article (a/an/the) กับคำนามนับไม่ได้ และคำนามนับได้พหูพจน์

35.

A  Where is  _______  child ?
B   _______  is in bed.

(1) his; You    (2)    his; She    (3)    her; It    (4)    her; They

ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 19.

36.    Did you buy a  ________  ring for me ?

(1) new gold shiny    (2) shiny gold new     (3) gold shiny new     (4) shiny new gold

ตอบ 4 หน้า 186 – 188  การเรียงลำดับ adj. มีกฎเกณฑํดังนี้ คำนำหน้า ก. -> ลำดับที่ -»
จำนวน-»ขนาด-»คุณลักษณะ-»วัย/อายุ—>รูปร่าง-»สี->แหล่งที่มา/เชื้อชาติ—* วัสดุ -» n. ขยาย -> n. หลัก

 

adj. บอกคุณลักพนะ

adj. บอกวัย/อายุ

n. ขยาย

shiny

new

gold


37. Did you buy _________   table ?

(1) that marble big square

(2) that big square marble

(3) big that square marble

(4) big square that marble

ตอบ 2    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 36.

คำนำหน้า n.

adj. บอกขนาด    adj. บอกรูปร่าง

n. ขยาย

that

big

square

marble


38.    We would like to  __________  breakfast early.

(1) ate    (2) eat    (3) eating    (4) eaten

ตอบ 2 หน้า 248 – 249  ใช้ would like เพือแสดงความสุภาพในการเสนอสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ หรือเป็นการเชื้อเชิญ โดยกริยาที่ตามหลังจะต้องเป็น to + V.1 (ไม่ผัน) นั่นคือ “would like + to + V.1 (ไม่ผัน)’’

39.    The sales manager, not I, _________   promoted.

(1) was    (2) have    (3) were    (4) does

ตอบ . 1    หน้า 340 – 341  ระหว่างประธานตัวแรกและประธานตัวที่สองหากมีคำต่อไปนี้คั่นอยู่
V. และ pron. จะต้องผันตามประธานตัวแรก

“The sales manager” เป็นประธานเอกพจน์ จึงใช้ V. เอกพจน์ (was)

40.    Which is correct ?

(1) The suspect was proved guilt.

(2) The sea remains calm.

(3) This perfume smells well.

(4) The salad tastes sweetly.
ตอบ 2 คำอธิบายเข่นเดียวกับข้อ 29.

41.    We kept  _________  although we were tired.

(1.1 run    (2) runs    (3) running    (4) to run

ตอบ 3 หน้า 274  V. ที่ตามหลัง V. ต่อไปนี้ให้ใช้ v.ing ได้แก่

avoid admit    enjoy carry on deny dread fancy keep on
like delay  consider regret finish miss postpone practice
recall resist
risk stop suggest put off keep go on

 

42.    I don’t like cheesecake, ________   does my son.

(1) nor    (2) or    (3) and    (4) yet

ตอบ 1 หน้า 384 – 386  การใช้คำเชื่อมในประโยคความรวม

ความหมาย

ใช้เครื่องหมาย ,______

ใช้เครื่องหมาย ;_______ ,

1. แสดงความขัดแย้ง

but, yet. or

however, instead, nevertheless,

2. แสดงความคล้อยตามกัน

and, nor

otherwise, indeed, still

furthermore moreover, meanwhile,

3. แสดงผลหรือสรุปความ

so

besides, also, similarly

accordingly, finally, consequently,

4. แสดงเหตุ (เพราะ)

for

therefore, th us

จากโจทย์ -> ฉันไม่ชอบชีสเค้ก และลูกชายของฉันก็ไม่ชอบเช่นกัน

43.    I  expect   you  ________   soon.

(1) to come    (2) come     (3) coming    (4) came

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 9.

กรรมตรง           to + V.1  (ไม่ผัน)
จากโจทย์      I      expect      you              to   come         soon.

44.    Mary is very old,  ______  she is healthy.

(1) or    (2)    for    (3)    yet    (4) nor

ตอบ 3    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 42.

จากโจทย์ -> แมรีแก่มากแล้ว แต่เธอมีสุขภาพดี

45.    Did you leave ______   book in her car ?

(1) the    (2)    an    (3)    (blank)    (4) a

ตอบ 1 หน้า 64  ใช้ article “the” นำหน้าคำนามที่มีส่วนขยายเป็นบุรพบทวลี (วลี,ที่ขึ้นต้นด้วย คำบุรพบท เซ่น in, on, at, of, under) เพื่อแสดงความเฉพาะเจาะจง

46.    Ought they  ________  working now ?

(1) to    go on    (2)    goes on    (3)    to going on    (4) going on

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 3.

47.    Bill is very poor,  ________  his brother is very rich.

(1) or    (2)    but    (3)    so    (4) for

ตอบ 2    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 42.

หมายเหตุ จากโจทย์    บิลจนมาก แต่พี่ชายของเขารวยมาก

48.    _______    you able to pay for the car rent ?

(1) Are    (2)    Is    (3) Was    (4) Will

ตอบ 1 หน้า 234 – 235  ใช้ V. ช่วย “car. + V.1 (ไม่ผัน)” หรือ “is /am /are + able to..± v.1 (ไม่ผัน)’’ ในความหมายว่า สามารถทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ในปัจจุบัน โดย “can” สามารถใข้ไดักับ s. ทุกตัว แต่ “is /am /are” ต้องผันให้สอด คล้องกับ s. นั่นคือ ใช้ “is” กับ he /she /it และ s. เอกพจน์, ใช้ “am” กับ I และใช้ “are” กับ you /we /they และ s. พหูพจน์

จากโจทย์ เมื่อทำเป็นประโยคคำถามประเภท Yes/No Question ให้ใช้ “are” ขึ้นต้นประโยคได้เลย

49.    We always visit our parents  _______  .

(1) in year    (2)    years    (3) on year    (4) yearly

ตอบ 4 หน้า 300 – 301  คำที่ลงท้ายด้วย My” ต่อไปนี้อาจเป็นได้ทั้งคำคุณศัพท์ (adj.) และ
คำกริยาวิเศษณ์ (adv.)

daily (รายวัน, ทุกวัน)    yearly (รายปี, ทุกปี)    monthly (รายเดือน, ทุกเดือน)
quarterly (รายปีกษ์, ทุกสามเดือน) hourly (รายชั่วโมง)    weekly (รายสัปดาห์, ทุกสัปดาห์)

จากโจทย์   We   always    visit   our   parents    yearly.

“yearly” เป็นคำกริยาวิเศษณ์ขยายคำกริยา “visit”

50.    This problem is  ________  difficult.

(1) extremely    (2) too extreme (3) extremity    (4) extreme

ตอบ 1  หน้า 312 – 313  คำกริยาวิเศษณ์ต่อไปนี้จะใช้ขยายคำคุณศัพทํไเด้บางคำเท่านั้นขึ้นอยู่กับ ความหมายของคำคุณศัพท์ โดยคำกริยาวิเศษณ์และคำคุณศัพท์ที่ม้กจะเกิดร่วมกัน ได้แก่

คำกริยาวิเศษณ์ (adv.) คำคุณศัพท์ (adj.)
extremely

dreadfully

absolutely

ฯลฯ

difficult, effective, hard angry, disappointed, sorry clear, necessary, sure, true ฯลฯ

 

51.    This blanket will keep  _______  all night.

(1) your warm    (2) warm you    (3) you warm    (4) warm your

ตอบ.3    หน้า 209  สกรรมกริยา (Transitive Verbs :vt..) คือ กริยาที่ต้องมีกรรม (Object) มารองรับเพื่อทำให้ประโยคได้ใจความถูกต้องสมบูรณ์ โดยสกรรมกริยาที่ใช้บ่อยมีดังต่อไปนี้

arrest

avoid

build

choose

destroy

drive

do

enjoy

find

force

set

give

grab

hit

keep

like

pull

please

report

shock

take

tell

touch

want warn


52.    It  __________  be cold tonight.

(1) is able to    (2) must    (3) may    (4) has to

ตอบ 3 หน้า 237 – 238  ใช้ V. ช่วย “may/might + V.1 (ไม่ผัน)” โดยในความวา “อาจจะ…” แสดงถึงความเป็นไปได้ (Possibility) ในป้จจุบันหรืออนาคต

53.    These scissors  _________  not sharp.

(1) was    (2) is    (3) has    (4) are

ตอบ 4 หน้า 86 – 88  ใช้คำนำหน้านามแสดงความจำเพาะเจาะจง ดังนี้

This / That

+ n. เอกพจน์

{+ V. เอกพจน์)

These / Those

+ n. พหูพจน์

(+ V. พหูพจน์)


“scissors” เป็นคำนามพหูพจน์ V. to be จึงใช้ “are”

54.    What is his _________ occupation ?

(1) (blank)          (2) an         (3) a         (4) the

ตอบ 1 หน้า 88 – 89  ใช้ “my, our, your, his, her, its, their” นำหน้าคำนาม (n.) ซึ่งเป็นรูปที่แสดงความเป็นเจ้าของของสรรพนาม และทำหน้าที่ขยายคำนาม โดยคำนำหน้าคำนาม ประเภทนี้จะเกิดขึ้นหน้าคำนามได้ทุกประเภท และได้ทั้งเอกพจน์ พหูพจน์ คำนามนับได้ และ คำนามนับไมได้ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับชนิดของคำนามและพจน์ของคำนามแต่อย่างใด

55.    ________    friends want to see  ________  .

(1) Their; our    (2) Her; your    (3) Our; they    (4) His; you

ตอบ 4    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 19.

56.    Her niece, as well as your daughter,  __________  the talent award today.

(1) receive    (2) are receiving    (3) receives    (4) have received

ตอบ 3    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 39.

“Her niece” เป็นประธานเอกพจน์ V. จึงต้องเติม “s”

57.    Let’s take _________  walk.

(1) an    (2) (blank)    (3) a    (4) the

ตอบ 3 หน้า 60 ใช้ article “a” ในสำนวน “take/have/ หรือคำกริยาอื่น + a + คำนาม” เข่น

take a walk (เดินเล่น)

take a picture (ถ่ายรูป)

give a kiss (จูบ)

make a change (เปลี่ยน)

have a good time (มีความสุข)

do a favor (ช่วยเหลีอ}


58.    Please put ________ shoes on and take _______   umbrella with you.

(1) yours;    mine    (2)    your;    mine    (3)    yours; my    (4)    your; my

ตอบ 4    คำอธิบายเช่นเดียวกับช้อ 19.

59.    Johnny ate three  ________   of chocolate.

(1) grains    (2)    bars    (3)    ears    (4)    lumps

ตอบ 2 หน้า 12-15 วัตถุนาม (Material Noun) คือ n. ที่เป็นชื่อวัตถุ โลหะ  ของแข็ง และของเหลว ถือว่าเป็น n. นับไม่ใต้ (ห้ามใช้ article a/an) และจะแสดงความเป็นเอกพจน์เสมอ (ห้ามเติม “—s, -es” ท้ายคำ) และใช้ V. เอกพจน์ เข่น chocolate, water, sugar, zinc, ink, gold, rice, leather, cake, tea แต่ n. นับไม่ได้หากอยู่ในรูปของหน่วยชั่ง /ตวง /วัด ภาชนะหรือเป็นกลุ่ม เป็นก้อนเป็นชิ้นก็จะสามารถนับได้ เช่น three bars of chocolate (ช็อกโกแลตสามชิ้น), a drop of water (น้ำหนึ่งหยด), two lumps of sugar (น้ำตาลสองก้อน)

60.    We should go there by _______  subway.

(1) a    (2)    the    (3)    (blank)    (4)    an

ตอบ 3 หน้า 70-71  ไม่ใช้ article (a/an/the) นำหน้าคำนามในสำนวนที่มีโครงสร้าง
“preposition + n. นับได้” เช่น by subway (โดยรถไฟใต้ดิน), by train (โดยรถไฟ), to church (เช้าโบสถ์), to bed (เช้านอน), to hospital (เข้าโรงพยาบาล), to prison (เข้าคุก), on foot (เดินไป), at home (อยู่บ้าน) เป็นต้น

61.    His dog got out of  ________  cage.

(1) its      (2) hers      3) it      (4) their

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 54.

62.    It  _______  rains in January.

(1) very hard      

(2) hard      

(3) hardly      

(4) too hard

ตอบ 3 หน้า 301 – 302, (คำบรรยาย) adv. ของคำว่า “hard” สามารถใช้ได้ทั้ง “hard” และ “hardly” แต่ความหมายจะต่างกัน โดย “hard” จะมีความหมายว่า “อย่างหนัก” ส่วน “hardly” มีความหมายว่า “ไม่ใคร่จะ, แทบจะไม่”

63.    Tom  ________  did the mistakes.

(1) propose

(2) purposive

(3) proposed

(4) purposely

ตอบ 4 หน้า 299  คำนาม (n.) บางคำหลังจากที่เติม -ly ลงไปแล้วจะกลายเป็นคำกริยาวิเศษณ์ (adv.) เช่น purpose (n.) เป็น purposely (adv.) มีความหมายว่า ด้วยความตั้งใจ, name (n.)เป็น namely (adv.) มีความหมายว่า เช่น, part (n.) เป็น partly (adv.) มีความหมายว่า เป็นบางส่วน
จากโจทย์    Tom   purposely   did   the   mistakes.

64.     ________       colored pencil is this ?

(1) Who

(2) When

(3) Whose

(4) Whom

ตอบ 3 หน้า 148 – 151  ใช้ “whose (ของใคร)” เป็นคำสรรพนามและคำคุณศัพท์ที่ใช้เป็นคำถาม มีความหมายแสดงเจ้าของทั้งของคนและสัตว์โดยจะเกิดในตำแหน่งแสดงเจ้าของที่เป็น ส่วนขยายประธานและกรรม

65.  That old and  ________  woman lives in that old house.

(1) friend

(2) friendly

(3) friends

(4) friendliness

ตอบ 2 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 25.
หน้า 300 คำนามบางคำที่ลงท้ายด้วย -ly แต่ก็ไม่ใช่คำกริยาวิเศษณ์ คำคุณศัพท์เหล่านี้ เข่น friendly (ฉันท์มิตร), manly (แบบผู้ชาย), brotherly (ฉันท์พี่น้อง) เป็นต้น

66.    Do  you  know   why  _______   don’t believe ______ ?

(1) they; me

(2)    they;    we

(3)    their; mine

(4)    their; US

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 19.

67.    The time  ______  I was in the U.S. is my most memorable experience.

(1) where

(2)    who

(3)    when

(4)    whom

ตอบ 3 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 7.

68.    Do you want to go out,  ______  stay home ?

(1) for    (2)    so    (3)    and    (4)    or

ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 42.

จากโจทย์ -> คุณต้องการออกไปข้างนอกหรือไม่ หรืออยู่บ้าน


69.    These  special  parking  spaces  are  arranged  for  the ___________   .
(1) disability    (2)    disabled    (3)    disable    (4)    disabling

ตอบ 2 หน้า 22 – 23, 64 – 65, 345 – 346 ใช้ article “the” นำหน้า adj. (โดยตัด n. ที่ตามหลัง adj. นั้นออก) เพื่อทำให้คำนั้นกลายเป็น n. และมีความหมายเป็นพหูพจน์ แปลว่า “คน… / สิ่ง… /การ… /ความ…” เช่น the disabled (คนพิการ), the poor (คนจน), the brave (บุรุษผู้กล้าหาญ), the rich (คนรวย), the homeless (คนไร้ที่อยู่อาศัย), the blind (คนตาบอด), the old (คนชรา) เป็นต้น

70 Don’t   let  the  boy ______ on  the  table.

(1) jumps    (2) jumping    (3) to jump    (4) jump

ตอบ 4 หน้า 279  V. ที่ตามหลัง let/make ให้ใช้ V. infinitive without to (v.l ไม่ผัน) เท่านั้น

 

70. Don’t  let  the  boy ______ on  the  table.

(1) jumps    (2) jumping    (3) to jump    (4) jump

ดอบ 4 หน้า 279  V. ที่ตามหลัง let/make ให้ใช้ V. infinitive without to (v.l ไม่ผัน) เท่านั้น

71.Those  children  were  watching  the  movie _________ .

(1) last night quietly in the living room    (2) quietly in the living room last night
(3) in the living room quietly last night    (4) quietly last night in the living room

ตอบ 2 หน้า 315  การเรียงลำดับ adv. มีดังนี้คือ
“s. + V. + adv. ที่แสดงอาการของทารกระทำ + adv.บอกสถานที่ + adv.บอกเวลา

72.    Which is a complete sentence ?

(1) We must be well prepared.    (2) As you grow up.
(3) After we arrive at the airport.    (4) Since the store was closed.

ตอบ 1 หน้า 368 – 374 ะประโยคที่สมบูรณ์ (Complete Sentence) ได้แก่ ประโยคหลัก
(ไม่ใช่อนุประโยคหรือวลี) ที่ประกอบด้วยภาคประธาน (ผู้กระทำ) และภาคแสตง (การกระทำ) ซึ่งอาจจะมีส่วนขยายหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้อาจจะอยู่ในรูปของประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ที่มีใจความสมบูรณ์อยู่แล้วก็ได้ ยกเว้นในประโยคบางประเภทที่มีการละประธานได้โดยยังถือว่า เป็นประโยคที่สมบูรณ์ เช่น ประโยคคำสั่งและประโยคอุทาน

73.    Which is a complete sentence ?

(1) Running across the street be dangerous.    (2)    Two tigers killed last week.
(3) Walking as the way to go back home.    (4)    Be carefull

ตอบ 4 คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 72.

74.    Which underlined word is a common noun ?

(1) Her car hit a bag of sand.    (2)    Tom lived in Europe.
(3) I teach English.                      (4)    Singapore is in Asia.

ตอบ 1 หน้า 5 สามานยนาม (Common Noun) หมายถึง คำนาม (n.) ที่เป็นชื่อเรียกคน สัตว์ สิ่งของ
สถานที่ ซึ่งไม่ใช่ชื่อเฉพาะ เช่น car, bird, tiger, elephant, man. girt, uncle, sky, sun,
table, kitchen เป็นต้น

75.    Which is a complete sentence ?

(1) Bill answered her questions.
(2) Tom looking out the window.
(3) To make me happy.
(4) John and I coming soon.

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 72.

Part II  Vocabulary

76.    Her beautiful gestures helped her win the beauty contest.

(1) body movements    (2) social movements
(3) simple manners    (4) complete thoughts

ถาม    ท่าทางอันสง่างามของเธอทำให้เธอชนะรางวัลการประกวดความงาม
ตอบ 1 (บทที่ 11 หน้า 381)
1. ท่าทาง, อากัปกิริยา    2. การเคลื่อนไหวทางสังคม
3. มารยาทที่เรียบง่าย    4. ความคิดที่สมบูรณ์

77.    It is difficult to motivate Jim to continue his studies.

(1) approach    (2) involve    (3) seek    (4) encourage

ถาม    มันช่างยากเย็นที่จะกระตุ้นให้จิมเรียนต่อ
ตอบ 4 (บทที่ 10 หน้า 365)
1. เข้าใกล้    2. เกี่ยวข้อง    3. แสวงหา    4. กระตุ้น ปลุกเร้า, ชักจูงใจ

78.    Walking briskly is a way of exercise.

(1) continuously (2) slowly    (3) quickly    (4) widely

ถาม    การเดินอย่างเร็ว ๆ เป็นวิธีหนึ่งของการออกกำลังกาย
ตอบ 3    (บทที่ 8 หน้า 294)
1. อย่างต่อเนื่อง 2. อย่างเชื่องช้า    3. อย่างรวดเร็ว    4. อย่างกว้างขวาง

79.    Please speak slowly; don’t rattle.

(1) move rapidly  (2) talk rapidly  (3) move slowly (4) change instantly

ถาม    กรุณาพูดอย่างช้า ๆ อย่าพูดรัว
ตอบ 2    (บทที่ 9 หน้า 327)
1. ขยับอย่างรวดเร็ว                     3. ขยับอย่างเชื่องช้า
2. พูดอย่างรวดเร็ว, พูดไม่หยุด   4. เปลี่ยนอย่างฉับพลัน

80.    Eating too much sugar can trigger diabetes.

(1) present    (2) cause    (3) affect    (4) continue

ถาม    การรับประทานบน้ำตาลมากจนเกินไปสามารถทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
ตอบ 2    (บทที่ 8 หน้า 293)
1. เสนอ    2. กระตุ้นให้เกิด    3. มีผลต่อ    4. ดำเนินต่อไป

81.    Please  _______  this paper and put it in this envelop.

(1) collapse    (2) tilt    (3) heave    (4) fold

ถาม    กรุณาพับกระดาษแผ่นนี้และใส่มันลงไปในของจดหมายนี้ด้วย
ตอบ 4    (บทที่ 12 หน้า 395)
1. ทรุดลง    2. ตะแคง    3. ยกขึ้น    4. พับ, ม้วน

82.    What will you do after   ________   ?

(1) campus    (2) graduation    (3) perspective    (4) egghead

ถาม    คุณจะทำอะไรหลังจาก _______
ตอบ 2    (บทที่ 9 หน้า 328)
1. ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย    2. การสำเร็จการศึกษา 3. ทัศนะ 4. ปัญญาชน

83.    Thailand is a/an    _______     of ASEAN.

(1) custom    (2) belief    (3) member    (4) opinion

ถาม    ประเทศไทยเป็น _______ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตอบ 3 (บทที่ 7 หน้า 263)
1. ขนบธรรมเนียมประเพณี    2. ความเชื่อ 3. สมาชิก    4. ความคิด

84.    Bill left his ______   to his sons.

(1) citizenship    (2)    return    (3)    property    (4)    economy

ถาม    บิลทิ้ง _____ ของเขาไว้ให้ลูกขาย-องเขา

ตอบ 3 (บทที่ 5 หน้า 201)

1. สถานภาพความเป็นประชากร 2. ผลกำไร 3. ทรัพย์สมบัติ 4. ฐานะทางเศรษฐกิจ

85.    I believe that her  ________  are unfair.

(1) legends    (2)    accidents    (3)    diseases    (4)    comments

ถาม    ฉันเห็นว่า  _______  ของเธอนั้นไม่ยุติธรรม

ตอบ 4 (บททีj 5 หน้า 201)
1. ตำนาน    2. อุบัติเหตุ    3.    โรคภัยไข้เจ็บ    4.    คำวิจารณ์

86.    Norms and  _______  determine people’s lifestyles.

(1) members    (2)    values    (3)    suggestions    (4)    footsteps

ถาม    แบบแผนและ  ______  กำหนดรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนเรา

ตอบ 2 (บทที่ 7 หน้า 263)
1. สมาชิก    2. ค่านิยม    3.    คำแนะนำ    4.    รอยเท้า

87.    The woman looks _______   because she doesn’t see her friends here.

(1) disappointed    (2)    healthy    (3)    effective    (4)    respectful

ถาม    หญิงสาวดูเหมือน    ______  เพราะเธอไม่เจอเพื่อนของเธอที่นี่

ตอบ 1    (บทที่ 6 หน้า 228)
1. รู้สึกผิดหวัง    2. มีสุขภาพดี    3.    ได้ผล    4.    มีความเคารพ

88.    Your son is very talented in  _________  with other students เท my class.

(1) comparison    (2)    fulfillment    (3)    fact    (4)    information

ถาม    ลูกชายของคุณมีพรสวรรค์มาก  _____  เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ในชั้นเรียนของฉัน

ตอบ 1 (บทที่ 6 หน้า 232)

1. เมื่อเปรียบเทียบกับ    2. การบรรลุผล    3. ความจริง 4. ข้อมูล

89.  ________  transportation is necessary for Bangkok residents.

(1) Confluence    (2)    Population    (3)    Association    (4)    Waterway

ถาม    การขนส่ง  ______  มีความจำเป็นสำหรับผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร

ตอบ 4 (บทที่ 4 หน้า 168)
1. จุดที่แม่น้ำไหลมารวมกัน    2. ประชากร    3. การเข้าร่วม    4. ทางนํ้า

90.    This is the final _______   of our meetings.

(1) compass    (2) curiosity    (3) session    (4) citizenship

ถาม    ครั้งนี้จะเป็น  _______  ครั้งสุดท้ายของการประชุมของพวกเรา
ตอบ 3 (บทที่ 5 หน้า 201)
1. เข็มทิศ 2. ความอยากเอยากเห็น 3. สมัยประชุม 4. สถานภาพความเป็นประชากร

91.    Our house is situated near the highway.

(1) located    (2) made up    (3) affected    (4) jumped

ถาม    บ้านของพวกเราตั้งอยู่ใกล้กับถนนทางหลวง
ตอบ 1    (บทที่ 4 หน้า 167)
1. ตั้งอยู่ที่    2. สร้างขึ้น    3. ส่งผลกระทบ    4. กระโดด
92.    You must go forth to attain your educational goal.
(1) go back
(2) go by
(3) go down
(4) go forward
ถาม    คุณต้องเดินหน้าเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาของคุณตอบ 4 (บทที่ 3 หน้า 115)
1. กลับ ไป
2. ผ่านไป
3. ลงไป
4. ไปข้างหน้า, ก้าวไป
93.    Education lights children’s future.
(1) shrinks
(2) energizes
(3) illuminates
(4) moves
ถาม    การศึกษาส่องสว่างอนาคตของเด็ก ๆ ได้
ตอบ 3 (บทที่ 3 หน้า 114)
1. หด, ถอย
2. กระตุ้น
3. ส่องสว่าง
4. เคลื่อนไหว
94.    Many people like to enroll in bachelor degree programs at RU.
(1) register
(2) receive
(3) gain
(4) discover
ถาม    ประชาชนมากมายต้องการที่จะสมัครเข้าเรียนโครงการระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ตอบ 1    (บทที่ 2 หน้า 56)
1. สมัครเข้าเรียน    2. ได้รับ    3. ได้รับ    4. ค้นพบ
95.    Displaying of affection to their children is necessary for parents.
(1) prosperity
(2) fondness
(3) hesitation

(4) predecessor

ถาม    การแสดงความรักต่อลูก ๆ ของพวกเขานั้นจำเป็นสำหรับพ่อแม่
ตอบ 2 (บทที่ 1 หน้า 4)
1. ความอุดมสมบูรณ์

2. ความรัก

3. การรีรอ

4. บรรพบุรุษ

96.    Her strange opinions are _______  by her manners.

(1) reflected    (2) devised    (3) defeated    (4) moved

ถาม    ความคิดเห็นที่แปลกของเธอถูก  ______  โดยกริยามารยาทของเธอ

ตอบ 1    (บทที่ 11 หน้า 383)
1. สะท้อน, แสดงให้เห็น    2. ประดิษฐ์     3. ชนะ    4. เคลื่อนไหว

97.    The committee appreciated your ________  recommendation.

(1) awful    (2) useless    (3) hopeless   (4) meaningful

ถาม    คณะกรรมการซาบซึ้งต่อคำแนะนำ  _______  ของคุณ

ตอบ 4 (บทที่ 9 หน้า 328)

1. น่ากลัว    2. ไร้ประโยชน์    3. สิ้นหวัง

4. ที่มีความหมาย

98.    Electrical power is one _______   of scientific thinking.

(1) specialist

(2) side effect

(3) measure

(4) benefit

ถาม    พลังงานไฟฟ้าเป็น ______   หนึ่งในการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์

ตอบ 4 (บทที่ 8 หน้า 294)

1. ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

2. ผลข้างเคียง

3. เครื่องวัด

4. ประโยชน์


99.    The beautiful  ________  in Thailand attracts foreign tourists.

(1) succession

(2) pang

(3) compression

(4) landscape

ถาม   ________  ที่สวยงามในประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ตอบ 4    (บทที่ 12 หน้า 396)
1. ความต่อเนื่อง

2. ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
3. ความกดดัน
4. ลักษณะภูมิประเทศ, ทิวทัศน์

100. How are you _______

(1) so that

(2) so on

(3) so far   

(4) so easyถาม  คุณเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ 3    (บทที่ 8 หน้า 295)
1. เพื่อว่า    2. และอื่น ๆ  3. ตราบจนปัจจุบันนี้    4. อย่างง่ายดาย

101.    Ramkhamhaeng University has already extended Thai people’s educational opportunities

(1) exported    (2)    excluded    (3)    exercised    (4)    expanded

ถาม    มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ขยายโอกาสทางการศึกษาของคนไทย
ตอบ 4 (บทที่ 10 หน้า 365)
1. ส่งออก    2. กีดกัน    3. ออกกำลังกาย    4. ขยาย
102.    Many people hold a false belief in the overall benefits of the Internet.
(1) motivation
(2)    continuance
3) delusion
(4)    involvement
ถาม    ผู้คนมากมายยึดถือความหลอกลวงในเรื่องเงินพิเศษทั้งหลายที่ได้จากอินเทอร์เน็ต
ตอบ 3    (บทที่ 10 หน้า 366)
1. การจูงใจ    2. ความต่อเนื่อง
3. ความหลอกลวง, ความคิดเพ้อเจ้อ    4. ความเกี่ยวข้อง
103.    Career achievement depends largely on one’s knowledge and ability.
(1) springboard
(2)    accomplishment
(3) myth
(4)    motivation
ถาม   ความสำเร็จทางด้านอาชีพการงานส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความรู้และคาามสามารถของบุคคล
ตอบ 2 (บทที่ 10 หน้า 367)
1. จุดเริ่มต้น    2. ความสำเร็จ 3. เทพนิยาย    4. การจูงใจ
104.    Traffic affects lifestyles of people in a big city.
(1) reflects
(2) influences
(3) speculates
(4) interprets
ถาม   การจราจรส่งผลกระทบต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่
ตอบ 2 (บทที่ 11 หน้า 383)
1. สะท้อน    2. ส่งผลกระทบต่อ    3. ครุ่นคิด    4. แปลความ

105.    The natural environment is in a state of eternal change.(1) fertile

(2)    perpetual

(3)    geological

(4)    neat

ถาม   สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอยู่ในสภาวะของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สิ้นสุด

ตอบ 2 (บทที่ 12 หน้า 395)
1. อุดมสมบูรณ์    2. ไม่สิ้นสุด    3. ที่เกี่ยวกับธรณีวิทยา    4. เรียบร้อย

106.    Being an engineer is a prestigious profession.

(1) career

(2)    expert

(3)    training

(4)    specialist

ถาม    การเป็นวิศวกรเป็นอาชีพที่มีเกียรติ
ตอบ 1    (บทที่ 7 หน้า 269)
1. อาชีพ    2. ผู้เชี่ยวชาญ    3. การอบรม    4. ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

107.    It is my pleasure to see you again.

(1) failure    (2)    misery    (3)    happiness    (4)    duty

ถาม    มันเป็นความรู้สึกยินดีของฉันที่ได้พบคุณอีกครั้ง

ตอบ 3    (บทที่ 6 หน้า 229)
1. ความล้มเหลว    2. ความทุกข์อันใหญ่หลวง    3. ความสุข    4. หน้าที่

108.    My relationship with Bob is not good because of his impertinence.

(1) triumph    (2)    courage    (3)    virtue    (4)    rudeness

ถาม  ความสัมพันธ์ของฉันกับบ็อบไม่ดีเนื่องจากความหยาบคายของเขา

ตอบ 4    (บทที่ 6 หน้า 230 – 231)

1. ชัยชนะ    2. ความกล้าหาญ    3. คุณธรรม    4. ความหยาบคาย

109.    There is abundant farm land in northern Thailand.

(1) large quantity    (2)    many aspects    (3)    small number    (4)    low quality

ถาม    ในทางภาคเหนือของประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์
ตอบ 1 (บทที่ 4 หน้า 168)
1. อุดมสมบูรณ์, มากมาย    2. หลายแง่มุม    3. จานวนน้อย    4. คุณภาพดร

110.    Our manager left the meeting without uttering a word.

(1) thinking    (2)    demanding    (3)    saying    (4)    teaching

ถาม    ผู้จัดการของพวกเราออกจากที่ประชุมไปโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว
ตอบ 3    (บทที่ 4 หน้า 167)
1. คิด    2. เรียกร้อง    3. พูด, เปล่งเสียง    4. สอน

111.    A person’s attitudes can ______ his behavior.

(1) show up    (2) predict    (3) receive    (4) employ

ถาม    ทัศนะของบุคคลสามารถ   ________ ถึงพฤติกรรมของเขาได้

ตอบ 1    (บทที่ 5 หน้า 200)

1. ปรากฏตัว, เผยให้เห็น

2. ทำนาย, คาดคะเน

3. ได้รับ

4. จ้าง

112.    We spent all of our ________   to finish this task, but we failed.

(1) citizen    (2)    balance    (3)    energy    (4) lifestyle
ถาม    พวกเราใช้  _______  ของพวกเราทั้งหมดเพื่อทำงานนึ๋ให้เสร็จ แต่พวกเราก็ล้มเหลว
ตอบ 3 (บทที่ 3 หน้า 113)
1. พลเมือง 2. ความสมดุล 3. พลัง    4. รูปแบบการใช้ชีวิต
113.    People should have  ________  in the honest.
(1) devotion    (2)    strength    (3)    faith    (4)    endeavor
ถาม    ผู้คนควรมี  _______  ในความซื่อสัตย์
ตอบ 3 (บทที่ 3 หน้า 113)
1. การอุทิศตน    2. ความมั่นใจ    3. ความเลื่อมใส, ความศรัทธา 4. ความพยายาม
114.    Her failure is    _______     her laziness.
(1) between    (2)    without    (3)    for    (4) due to
ถาม    ความล้มเหลวของเธอ  _______  ความขี้เกียจของเธอ

ตอบ 4 (บทที่ 2 หน้า 55)1. ระหว่าง 2. ปราศจาก    3. สำหรับ    4. เพราะ, เนื่องด้วย

115.    Too much  _______  causes Peter to be over active.

(1) superiority    (2) ambition    (3) riot    (4) relief

ถาม   ______  ที่มากเกินไปทำให้ปีเตอร์กระตือรือร้นมากเกินไป

ตอบ 2 (บทที่ 2 หน้า 54)

1. ความเหนือกว่า    2. ความทะเยอทะยาน    3. การจลาจล 4. ความช่วยเหลือ

116.    My brother  ________  his living by being an engineer.

(1) enrolls    (2) locates    (3) earns    (4) attacks

ถาม    พี่ชายของฉัน  _______  เลี้ยงชีพของเขาโดยการเป็นวิศวกร

ตอบ 3    (บทที่ 2 หน้า 56)
1. สมัครเข้าเรียน    2. ตั้งอยู่    3. ทำมาหากิน    4. โจมตี

117.    Thailand’s economic condition is _________   .

(1) uncertain

(2) national

(3) charming

(4) peacefulถาม    สภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย _________

ตอบ 1    (บทที่ 1 หน้า 3)

1. ไม่แน่นอน    2. แห่งชาติ    3. มีเสน่ห์

4. ที่สงบสุข


118.    Children naturally learn social _________   .

(1) predecessors

(2)    self-doubt

(3)    hesitation

(4) roles

ถาม โดยปกติทั่วไปเด็ก ๆ เรียนรู้ ________  ทางสังคม

ตอบ 4 (บทที่ 1 หน้า 3)
1. บรรพบุรุษ

2. ความไม่แน่ใจในตนเอง

3. การรีรอ

4. บทบาท

119.    Sources of copper are _________   .

(1) rapid

(2)    competitive

(3)    purposive

(4) tightening

ถาม    แหล่งกำเนิดของทองแดงนั้น  __________

ตอบ 4 (บทที่ 9 หน้า 329)
1. รวดเร็ว

2. ที่แข็งขัน

3. ที่มีจุดประสงค์

4. หายาก

120.    Bill is ill _______  working    hard.

(1) because of    (2)    without    (3)    for

(4) in spite ofถาม บิลไม่สบาย   _______ ทำงานหนัก

ตอบ 1    (บทที่ 2 หน้า 55)
1. เพราะ, เนื่องด้วย    2. ปราศจาก    3. สำหรับ

4.ทั้งๆที่

ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์จำเป็นในชีวิตประจำวัน

Choose the best answer.

Part I
  Structure

1.    You______do it now.

(1) has to    (2) must    (3) is able to    (4) is going to

ตอบ 2 หน้า 250 – 253  ใช้ V. ช่วย “have to / must + v.l (ไม่ผัน)” ในความหมายว่า
“ต้อง…” โดย “must” จะใช้ได้กับ s. ทุกตัว แต่ “have to” ต้องผันให้สอดคล้องกับ s.
และ tense บันคือ ปัจจุบันใช้ “have to” กับ I /you /we /they และ s. พหูพจน์ และใช้ “has to” กับ he /she /it และ s. เอกพจน์ ส่วนอดีตใช้ “had to” กับ s. ทุกตัว

2.    “Did you understand the question ?”

The underlined word is a/an________.

(1) pronoun    (2)    adverb    (3)    adjective    (4)    object

ตอบ 4 หน้า 214, 216, (คำบรรยาย)  กรรม (Object) อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่

1.    กรรมตรง (Direct Object  DO.) หมายถึง สิ่งที่ถูกกระทำโดยตรงในประโยค
2.    กรรมรอง (Indirect Object  IO.) หมายถึง ผู้ที่ได้รับผลของการกระทำที่กระทำต่อกรรมตรงในประโยคที่มีกริยาทวิกรรม (กริยาที่มีกรรมสองตัว คือ มีทั้งกรรมตรงและ กรรมรอง โดยกรรมตรงจะหมายถึงสิ่งของ ส่วนกรรมรองจะหมายถึงบุคคล และมักจะมีบุรพบท “to/for” คั่นระหว่างกรรมตรงและกรรมรอง)

3. _________Malee able to attend the meeting ?

(1) Is    (2)    Are    (3)    Will    (4)    Must

ตอบ 1 หน้า 234 – 235  ใช้ V. ช่วย “can + V.1 (ไม่ผัน)” หรือ “is /am /are + able to..+ v.l (ไม่ผัน)” ในความหมายว่า สามารถทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ในปัจจุบัน โดย “can” สามารถใช้ได้กับ s. ทุกตัว แต่ “is /am /are” ต้องผันให้สอดคล้องกับ s. นับคือ ใช้ “is” กับ he /she /it และ s. เอกพจน์, ใช้ “am” กับ I และใช้ “are” กับ you /we /they และ s. พหูพจน์
หมายเหตุ  จากโจทย์ เมื่อทำเป็นประโยคคำถามประเภท Yes/No Question ให้ใช้ “is” ขึ้นต้นประโยคได้เลย

4. _________ a new factory is expensive.

(1) Build    (2)    Built    (3)    To build    (4)    To building

ตอบ 3 หน้า 20 – 21, (คำบรรยาย)  สามารถใช้ to—infinitive (to + v.1 ไม่ผัน) และ Gerund (v.ing)
แทนคำนามในตำแหน่งประธาน โดยมีความหมายเป็นเอกพจน์ และใช้ V. เอกพจน์

5.    My parents want me to_________Jim.

(1) marry    (2)    married    (3)    marrying    (4)    marries

ตอบ 1 หน้า 280 – 281  V. ต่อไปนี้จะตามด้วย “กรรมตรง + infinitive with ‘to’ (to + v.l ไม่ผัน)”

 

allow

compel

force

lead

permit

train

recommend

cause

encourage

get

invite

prefer

want

dare

challenge

enable

inspire

order

tell

warn

remind

choose

expect

intend

pay

prompt

advise

teach help


กรรมตรง to + V.1 (ไม่ผัน)

หมายเหตุ  จากโจทย์ My  parents  want  me  to  marry  Jim.


6.    They feel _______for what they have done.

(1) excitedly    (2)    excitingly    (3)    proudly    (4) sorry

ตอบ 4 หน้า 168 – 169  คำคุณศัพท์ (adjective  adj.) คือ คำที่ทำหน้าที่อธิบาย บอกลักษณะ และ สภาพของนามและสรรพนาม โดยอาจเกิดตามหลัง V. to be (is/am/are/was/were/been) หรือหลัง Linking Verbs อื่น ๆ เช่น seem, appear, become, get look, feel, taste, smell, stay เป็นด้น
หมายเหตุ  excitedly (adv.), excitingly (adv.), proudly (adv.), sorry (adj.)

7_________a quality education is aim of this university.

(1) To provide    (2)    Provide    (3)    Provides    (4) To providing

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 4.

8.    Sue can play _____ harp skillfully.

(1) a    (2)    the    (3)    an    (4) (blank)

ตอบ 2 หน้า 68  คำนามที่เป็นชื่ออุปกรณ์ดนตรีขนิดต่าง ๆ เมื่อใช้เป็นกรรมตามหลังคำกริยา จะมี article “the” นำหน้า เช่น the harp (พิณตั้งขนาดใหญ่), the flute (ขลุ่ย), the piano (เปียโน), the guitar (กีตาร์), the violin (ไวโอลิน) เป็นด้น


9 Loei is the_________of the three provinces.

(1) far    (2) further    (3) farther    (4) farthest

ตอบ 4 หน้า 173- 174  ในการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ขั้นสุด โครงสร้างของคำจะเกิดจากการเติม
“-est” ท้าย adj. พยางคํเดียวหรือสองพยางค์ หรือเติม “most” หน้า adj. ที่มีตั้งแต่สามพยางค์ขึ้นไป และจะต้องมี “the” หน้าคำคุณศัพท์เสมอ

 

the +:adj / most + adj.


หน้า 175  คำคุณศัพท์ที่มีรูปแตกต่างไปจากรูปเดิม เมื่อแสดงการเปรียบเทียบ เช่น far (adj.) -» farther (ขั้นกว่า) —> farthest (ขั้นสุด)
good (adj.) -> better (ขั้นกว่า) -> best (ขั้นสุด) เป็นด้น

10. _________ for someone is not fun.

(1) Waiting    (2) Wait    (3) Waits    (4) Waited

ตอบ 1    คำอธิบายเช่นเดียวกับข้อ 4.

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น ภาค 1/2553

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2553

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ เริ่มต้นที่

(1) การตั้งสมมุติฐาน

(2) สร้างทฤษฎี            

(3) การสังเกต ตรวจสอบ        

(4) การเก็บรวบรวมข้อมูล

ตอบ 4 หน้า 2 กระบวนการหรือระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์เรียงตามลำดับได้ดังนี้

1. การเก็บรวบรวมข้อมูล         2. การตั้งสมมุติฐาน 3. การสังเกต ตรวจสอบ หรือทดลอง

4. การประมวลเป็นข้อสรุป      5. การสร้างทฤษฎี

2.         ข้อใดไมเป็นพลังงาน (Energy)

(1) แสงสว่าง   

(2) อากาศ 

(3)       อุณหภูมิ

(4)       แม่เหล็กไฟฟ้า

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พลังงาน (Energy) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่รับรู้ได้ แต่ไม่มีรูปทรงหรือตัวตน ไม่มีน้ำหนัก และไม่ต้องการที่อยู่อาศัย เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ กระแสลม แม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น

3.         พื้นที่ที่มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดมาอยู่รวมกัน เรียกว่า

(1) ประชากร   (2)       ชีวมณฑล        (3)       ชุมชน/ชุมชีพ    (4)       ระบบนิเวศ

ตอบ 3 หน้า 672, (คำบรรยาย) ชุมชนหรือชุมชีพ (Community) หมายถึง พื้นที่บริเวณหนึ่งที่มี ความหลากหลายทางชีวภาพ” หรือมีการปรากฏชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมิชีวิต นั่นคือ เป็นพื้นที่ที่ มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดมาอาศัยอยู่รวมกันในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน เช่น สวนสัตว์ ตลาดสด สวนสาธารณะ เป็นต้น

4.         การจัดการให้สภาวะภายในร่างกายมีความคงที่สมํ่าเสมออย่างตอเนื่องเรียกว่า

(1) ภาวะปกติสุข         (2)       ภาวะธำรงดุล  (3)       Homeostasis    (4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 2-3,0 เมื่อปี ค.ศ. 1851 โกลด์ แบร์นาร์ด (Claude Bernard) ได้เสนอทฤษฎี ภาวะปกติสุข หรือภาวะธำรงดุล (Homeostasis) ซึ่งเป็นการจัดการให้สภาวะภายในร่างกาย มีความคงที่สมํ่าเสมออย่างต่อเนื่อง

5.         Internal Respiration เกิดขึ้นโดยกระบวนการ

(1) Dialysis         (2)Osmosis        (3)Diffusion       (4)Homeostasis

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การหายใจภายในหรือการแลกเปลี่ยนอากาศภายใน (Internal Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าชระหว่างเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดฝอยกับเซลล์ในร่างกาย ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

6.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายใน เกิดขึ้นที่

(1) เซลล์ในร่างกาย (2) ปอด   (3)       หัวใจ    (4)       สมอง

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

7.         การหายใจ เป็นการแลกเปลี่ยนอากาศโดยกระบวนการใด

(1) Diffusion      (2)       Osmosis   (3)       Dialysis    (4)       Peristalsis

ตอบ 1 หน้า 31 – 32157, (คำบรรยาย)       การหายใจ (Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยมีหลักการก็คือ การนำเอาก๊าซออกซิเจนเข้าไปยังเซลล์ ในร่างกาย และขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาโดยอวัยวะต่าง ๆ ของระบบหายใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

8.         ในกระบวนการเมแทบอสลิซึม ธาตุที่ทำให้ก่อเกิดพลังงาน คือ

(1) ไฮโดรเจน   (2) ออกซิเจน   (3) คาร์บอน     (4) ไนโตรเจน

ตอบ 2 หน้า 147154 ในกระบวนการเมแทบอสลิซึมหรือเมตาบอลิสม์ (Metabolism) ของมนุษย์นั้น จะมีธาตุที่ทำให้ก่อเกิดพลังงานก็คือ ก๊าชออกซิเจน ซึ่งจะถูกนำไปสู่เชลล์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยสารเคมีที่อยู่ในเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน” (Haemoglobin)

9.         สารเคมี ในเม็ดเลือดแดง ที่นำเอาธาตุก่อเกิดพลังงานไปสู่ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย คือ

(1) ฮีโมโกลบิน            (2)       คลอโรฟิลล์      (3)       ลิวซีน   (4)       อีริปซิน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 8. ประกอบ

10.       วิตามินที่สร้างได์ในร่างกายของเราคือ

(1) วิตามิน เอ  (2)วิตามิน ดี    (3)วิตามิน เค   (4)ทั้งวิตามิน   ดีและเค

ตอบ 4 หน้า 46154 วิตามินที่สร้างขึ้นได้เองในร่างภายของคนเรา มี 2 ชนิด คือ 1. วิตามิน ซึ่งสร้างขึ้นโดยแสงแดดจากการเปลี่ยนไลปิดประเภทสเตอรอลที่เรียกว่าสาร Ergosterol ซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง 2. วิตามิน ซึ่งสร้างขึ้นโดยการทำงานของแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้

11.       สีของเม็ดเลือดแดงเปลี่ยนเมื่อปริมาณของออกซิเจนเปลี่ยน แร่ธาตุที่ทำให้สีของเม็ดเลือดแดงเปลี่ยนไป คือ

(1) ออกซิเจน   

(2)       เหล็ก   

(3)       คาร์บอน          

(4)       ไอโอดีน

ตอบ 3 (คำบรรยาย) เม็ดเลือดแดงของคนมีสีแดงเพราะสมบัติทางเคมีของแร่ธาตุเหล็ก และสีของเม็ดเลือดแดงนี้จะเป็นสีแดงสดเมื่อได้รับปริมาณออกซิเจนจากปอดเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อใดที่ เม็ดเลือดแดงได้รับเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์ในร่างกายเข้ามาแทนที่ก๊าชออกซิเจนแล้ว ก็จะทำให้สีของเม็ดเลือดแดงเปลี่ยนไปเป็นสีแดงคลํ้าทันที

12.ในกระบวนการกินอาหาร (Nutrition) มีอวัยวะต่าง ๆ มาร่วมกันทำหน้าที่ อวัยวะเหล่านี้รวมกันเรียกว่า

(1) Alimentary Tract (2)Alimentary System (3)  Digestive Tract (4)DigestiveSystem

ตอบ1  (คำบรรยาย) ในกระบวนการกินอาหาร (Nutrition) นั้น จะประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆที่มาร่วมกันทำหน้าที่เกี่ยวกับอาหาร ซึ่งรวมเรียกว่า ท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary Tract) โดยเริ่มต้นจากปาก หลอดคอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไล้ใหญ่ จนถึงทวารหนัก และหากอวัยวะเหล่านี้มีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ก็จะเรียกว่า ระบบท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary System)

13.       แผนดินไหวที่นิวซีลนด์ ภูเขาไฟระเบิดที่อินโดนีเซีย นํ้าท่วมที่จีน ฯลฯ อุบัติภัยธรรมชาติเหล่านี้ หากพิจารณาศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ควรกำหนดไว้ในข้อใด

(1) ธรณีวิทยา  (2) อุทกวิทยา  (3) อุตุนิยมวิทยา         (4) วิทยาศาสตร์กายภาพ

ตอบ4(คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์หรือวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น วิชาเคมี ฟิสิกส์ ธรณีวิทยา (แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด) อุทกวิทยา (น้ำ) อุตุนิยมวิทยา (ฝน พายุ) ดาราศาสตร์ (ท้องฟ้า ดวงดาว) เป็นต้น

14.       หน้าที่หลักของนํ้าดี (Bile) คือ

(1) ย่อยไขมัน  (2)       แยกไลปิด        (3)       ย้อมกากอาหาร           (4)       มีรสขม

ตอบ 2 หน้า 149. (คำบรรยาย) นํ้าดี (Bile) ที่ถูกสร้างจากถุงนํ้าดีที่ตับนั้นไม่จัดว่าเป็นเอนไซม์ เพราะไมใช่โปรตีนและไม่มีน้ำย่อยเป็นองค์ประกอบ จึงไม่มีหน้าที่ย่อยไลปิดหรือไขมัน แต่จะมีบทบาทหน้าที่หลักในการช่วยทำไห้ไขมันแยกและคลายตัวออกจากกัน เพื่อสะดวกแกการยอยของเอนไซม์ไลเปส

15.       อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไป จะเคลื่อนตัวไปโดยอาการที่เรียกว่า

(1) Peristalsis     (2)       Epistasis  (3)Homeostasis         (4)Ecostasis

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) เพอริสตาลชิส (Peristalsis) คือ การหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ แบบลูกคลื่นติดต่อกันเป็นระลอกของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังท่อทางเดินอาหาร ทำให้อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปเกิดการเคลื่อนไหลไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่จากปากจนถึงทวารหนัก

16.       เอนไซม์ที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในนํ้าลาย คือ

(1) Saliva   (2)อะไมเลส    (3)       ไลเปส  (4)       โปรตีน

ตอบ 2 หน้า 149 น้ำลาย (Saliva) ประกอบด้วย 1. น้ำ ประมาณ 95%     2. น้ำเมือก 3. เกลือแร่ 4. เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) หรือเอนไซม์ไทยาลิน (Ptyaiin) ทำหน้าทีย่อยคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้งให้เป็นน้ำตาลมอลโตสได้บางส่วนเป็นอันดับแรกในช่องปาก

17.       สารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัด จะถูกดูดซึมเช้าสู่หลอดเลือดและหลอดน้ำเหลือง โดยกระบวนการใด

(1) Osmosis        (2) Diffusion      (3) Dialysis         (4) ทั้งสามวิธี

ตอบ 1 หน้า 149152 การย่อยอาหารจะเริ่มต้นที่ปาก และสิ้นสุดสมบูรณ์ที่ลำไส้เล็กตอนปลาย โดยโมเลกุลของสารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดประเภทกรดอมิโนและน้ำตาลกลูโคสจะ ถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดเลือดฝอย (Capillary Vein) ที่แทรกอยู่ในวิลลัสของผนังลำไส้เล็ก ส่วนสารอาหารประเภทกรดไขมันและกลีเชอรอลก็จะถูกดูดชึมเข้าสู่หลอดน้ำเหลือง (Lacteal) ที่อยู่ในวิลลัสเช่นกัน ซึ่งการดูดซึมสารอาหารเข้าไปในหลอดเลือดและหลอดนํ้าเหลืองนี้จะเป็น ไปโดยกระบวนการออสโมซิส (Osmosis)

18.       หลอดนํ้าเหลืองที่อยู่ในวิลลัส เรียกว่า

(1) Lacteal (2) Lymph (3) Node   (4) Gland

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ

19.       ในการเจาะเลือดเพื่อนำไปหาข้อมูลทางการแพทย์ ผู้ทำการเจาะเลือดจาก

(1) หลอดเลือดอาร์เทอรี          (2) หลอดเลือดเวน

(3)       หลอดเลือดแคพิลารี    (4) ได้ทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 152, (คำบรรยาย) หลอดเลือดที่มาติดต่อกับหัวใจมี 2 ประเภท คือ

1.         หลอดเลือดเวน (Vein) ทำหน้าที่นำเลือดที่ผ่านการใช้งานแล้วจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย กลับเข้าสู่หัวใจ โดยจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมน้ำเงิน ซึ่งแพทย์มักจะทำการเจาะเลือดจาก หลอดเลือดเวนนี้เพื่อนำไปหาข้อมูลทางการแพทย์ ทั้งนี้เพราะมองเห็นได้ง่าย

2.         หลอดเลือดอาร์เทอรี (Artery) ทำหน้าที่นำเลือดออกจากหัวใจไปส่งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

20.       การย่อยอาหารเกิดขึ้นโดย

(1)เฉพาะส่วนสำไส้เล็ก           (2) เริ่มที่ปาก สิ้นสุดที่ปลายสำไส้เล็ก

(3) เริ่มที่กระเพาะอาหาร สิ้นสุดที่ปลายสำไส้ใหญ่     (4) สำไส้เล็กตอนต้นถึงสำไส้ใหญ่ตอนปลาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ

21.       อวัยวะภายในที่มีฃนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ คือ

(1)       ตับ       

(2)       ปอด     

(3)       สำไส้    

(4)       มดลูก

ตอบ 1 หน้า 153, (คำบรรยาย) ตับ (Liver) เป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ โดยตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพนั้าตาลกลูโคสที่เหลือใช้ในร่างกายให้รวมตัวกันเป็นแป้งไกลโคเจน (Glycogen) และเก็บสะสมไวัในตับ ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดนํ้าตาลกลูโคสจึงสามารถดึงเอา นํ้าตาลกลูโคสจากตับมาใช้งานได้ (โดยเปลี่ยนไกลโคเจนกลับไปเป็นกลูโคส)

22.       ข้อใดไมเป็นสสาร      

(1) ดิน (2) นํ้า  (3) ลม (4) ไฟ

ตอบ 4 (คำบรรยาย)    สสาร (Matter) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่มีรูปทรงหรือตัวตน สัมผัสจับต้องได้มีนํ้าหนัก และต้องการที่อยู่อาศัย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. สสารที่ไมมีชีวิต เช่น ดิน นํ้า ลม อากาศ เครื่องจักร เป็นต้น 2. สสารที่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ สัตว์ เป็นต้น

23.       การดำรงชีพแบบใดเป็น Heterotrophic Nutrition

(1) Eating  (2)Parasitism    (3)Saprophytism       (4)ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) วิธีการสร้างอาหารของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1.         Autotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นได้เองจากอนินทรียสารของสิ่งมีชีวิต พวกออโตทรอฟ โดยมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ Photosynthesis และ Chemosynthesis

2.         Heterotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นมาใช้เองไม่ได้ของสิ่งมีชีวิต พวกเฮเทอโรทรอฟ จึงต้องได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ Saprophytism, Parasitism และ Eating (เช่น คน และสัตว์ทั่วไป)

24.       วิชานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมวิทยา จัดเป็นศาสตร์สาขาใด

(1) วิทยาศาสตร์กายภาพ        (2)วิทยาศาสตร์ชีวภาพ           (3) พฤติกรรมศาสตร์(4)วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Science) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์-ชีวภาพที่เน้นศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชา คือ

1.         สังคมศาสตร์ (Social Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ วิชานิติศาสตร์ สังคมวิทยา เป็นต้น

2.         รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงฐานะ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในสังคมสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

25.       ผลลัพธ์ของกระบวนการเมแทบอสิซึม คือ

(1) การซ่อมเสริม         (2) การทดแทน            (3) การสะสม  (4) การเติบโต

ตอบ4 หน้า 147, (คำบรรยาย) กระบวนการเมแทบอลิซึมหรือกระบวนการเมตาบอลิสม์ (Metabolism) เป็นกระบวนการทางเคมีทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในตัวของสิ่งมีชีวิต ซึ่งผลลัพธ์โดยรวมหรือผลลัพธ์ สุดท้ายที่จะได้รับจากกระบวนการเมแทบอลิซึม ก็คือ การเจริญเติบโต (Growth) นั่นเอง

26.       หัวใจของคน สองห้องซีกล่าง เป็นบริเวณที่

(1) รับเลือดดี   (2) รับเลือดใช้งาน แล้ว           (3) ส่งเลือดออก          (4) การเติบโต

ดอบ 3 หน้า 152, (คำบรรยาย) หัวใจของมนุษย์แบ่งออกเป็น 4 ห้อง คือ

1.         ห้องซีกบน 2 ห้อง เรียกว่า เอเตรียม (Atrium) ซึ่งทำหน้าที่รับเลือดที่มาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของเลือด

2.         ห้องซีกล่าง 2 ห้อง เรียกว่า เวนทวิเคิล” (Ventricle) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดออกจากหัวใจ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของเลือดเช่นกัน

27.       ศาสตร์คอมพิวเตอร์ สถาปัตยกรรมศสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์สาขาใด

(1)       วิทยาศาสตร์กายภาพ (2) เทคโนโลยี (3) วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (4) ข้อ 2 และ 3

ตรบ 4  (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาวิเคราะห์และวิจัยเรื่องราวของธรรมชาติ แล้วนำผลของความรู้นั้นไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อกิจกรรมเพื่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น วิชาความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ เป็นต้น

28.       การดำรงชีพแบบใดเป็น Autotrophic Nutrition

(1)       Photosynthesis         (2) Chemosynthesis (3) Saprophytism      (4) ข้อ 1 และ 2

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

29.       หลอดเลือดที่นำเลือดเข้าสู่หัวใจ คือ

(1)       Vein (2) Artery  (3) Aorta   (4) Capillary

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ

30.       การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาผสมผสานกันจนได้องค์ความรู้ใหม่ เรียกการศึกษาลักษณะนี้ว่า

(1)       Scientific Interdependency     (2) Scientific Interdisciplinary

(3) Scientific Methods       (4) Scientific International

ตอบ 1 หน้า 2, (คำบรรยาย) Scientific Interdependency เป็นลักษณะการศึกษาวิทยาการทาง วิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน ที่มีการนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาผสมผสานกัน จนได้องค์ความรู้ใหม่ที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น เช่น วิชาชีวเคมี ชีวฟิสิกส์ เป็นต้น

31.       สิ่งมีชีวิตพวกผู้บริโภคพวกผู้ผลิต นิสัยการกินจัดเป็นแบบ

(1) Herbivore     

(2) Omnivore    

(3)       Insectivore       

(4)Carnivore

ตอบ 1 หน้า 234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้บริโภค (Consumer) สามารถจำแนกออกตามลักษณะนิสัย การกินได้เป็น 3 พวก คือ

1.         Herbivore เป็นพวกที่กินพืช (ผู้ผลิต) เป็นอหาร เช่น หนอน แพะ วัว ควาย กระต่าย ฯลฯ

2.         Carnivore เป็นพวกที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น เสือ สิงโต จระเข้ ฯลฯ

3.         Omnivore เป็นพวกที่กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น มนุษย์ สุนัข ฯลฯ

32.       การทำปุ๋ยหมัก ต้องอาศัยการทำงานของ

(1) Carnivore     

(2) Decomposer         

(3)Producer 

(4)Herbivore

ตอบ 2 หน้า 26234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้ย่อยสลายทำลาย (Decomposer) มีการดำรงชีพแบบ Saprophytism นั่นคือ การกินซากของเสียหริอซากสิ่งมีชีวิตอื่นที่ตายแล้ว โดยการผลิตเอนไซม์ ออกมาทำการย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต ของเสีย ขยะมูลฝอย และกากอาหาร ให้ยุบย่อยสลายตัว กลายเป็นปุ๋ยหมัก อันมีธาตุพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้ ได้แก่ เห็ด เชื้อรา และแบคทีเรีย

33.       สัตว์ต่อไปนี้ แบงออกได้เป็นกี่ไฟลัม (Phylum) ปูปลานิล. ตะขาบแมงดาทะเลปลิงทะเล,พยาธิไส้เดือนงูดินปลวก

(1)       2 ไฟลัม            (2)       3 ไฟลัม            (3)       4 ไฟลัม            (4) 6 ไฟลัม

ตอบ 3 หน้า 133136 – 138, (คำบรรยาย) จากตัวอย่างสัตว์ตามโจทย์นั้น สามารถแบ่งออก ได้เป็น 4 ไฟล้ม (Phylum) คือ

1.         Phylum Nematoda ได้แก่ หนอนตัวกลม เช่น พยาธิไส้เดือน เป็นต้น

2.         Phylum Arthropoda ได้แก่ กุ้ง ปู แมลง ปลวก ตะขาบ แมงมุม แมงดาทะเล เป็นต้น

3.         Phylum Echinodermata ได้แก่ ปลิงทะเล ปลาดาว หอยเม่น และทากทะเล เป็นต้น

4.         Phylum Chordata ได้แก่ ปลานิล ปลาฉลาม งูดิน จิ้งจก สัตว์ปีก คน เป็นต้น

34.       สัตว์ในข้อใดจัดอยูใน Phylum Chordata ได้ถูกต้องที่สุด

(1) จิ้งจก และตะขาบ  (2)ปู และแมงมุม         (3)งูดิน และปลาฉลาม (4) ปลาดาว และปลิงทะเล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ

35.       สัตว์ที่มีว์วัฒนาการน้อยที่สุด   คือ

(1) ไฮดรา        (2)       เหา      (3)       หอยลาย          (4) พยาธิใบไม้

ตอบ 1 หน้า 129 – 131, (คำบรรยาย)สัตว์ที่มีวิวัฒนาการน้อยหรือล้าหลังที่สุด คือ สัตว์ในกลุ่มฟองนํ้า (Phylum Porifera) รองลงมาได้แก่ สัตว์ในกลุ่มไฮดรา กะพรุน และปะการัง (Phylum Coelenterata)

36.       ข้อใดที่ไม่ใช่คุณลักษณะของสัตว์จำพวกแมลงและกุ้ง

(1) โครงร่างเป็นสารไคติน (Chitin)          (2) มีรยางค์ 2 คู่

(3) รยางค์มีลักษณะเป็นข้อปล้องติดกัน         (4) มีการลอกคราบ

ตอบ 2 หน้า 136, (คำบรรยาย)สัตว์ใน Phylum Arthropoda จะมีโครงร่างของร่างกายหรือผิวเปลือกที่หุ้มลำตัวเป็นสารไคติน (Chitin) และรยางค์ที่ยื่นออกจากลำตัวเป็นคู่ ๆ นั้น ก็จะมีลักษณะเป็นข้อปล้องติดต่อกัน อีกทั้งยังมีการลอกคราบด้วย ซึ่งสัตว์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กุ้ง ปู แมลง เป็นต้น (ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ)

37.       นักวิทยาศาสตร์ผู้เสนอให้มีการตั้งชื่อแบบ Binomial Nomenclature คือ

(1) Aristotle       (2) Pasteur         (3) Linnaeus      (4) Miller

ตอบ 3 หน้า 92 Carolus Linnaeus เป็นผู้เสนอให้มีระบบการตั้งชื่อสกุลและชื่อชนิดของสิ่งมีชีวิต ตามแบบ Binomial Nomenclature ซึ่งเรียกร่า ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific Name) โดย กำหนดว่าสิ่งมีชีวิตใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกันมากก็ให้ใช้ชื่อเดียวกัน และต้องมีชื่อชนิด ของสิ่งมีชีวิตกำกับไว้ด้วย จึงทำให้ชื่อของสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อสกุล และชื่อชนิด

38.       โรคชนิดใดที่เกิดจากบักเตรี

(1) ปอดบวม    (2) บาดทะยัก (3) กาฬโรค     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 95 – 96 โรคภัยของมนุษย์ที่เกิดจากบักเตรี (แบคทีเรีย) มีดังนี้

1.         โรคปอดบวม ซึ่งเกิดจากบักเตรีที่มีรูปร่างกลมชนิด Diplococcus pneumoniae

2.         โรคกาฬโรค    3. โรคบาดทะยัก         4. โรคไอกรน    5. โรคเรื้อน ฯลฯ

39. Penicillium sp. จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกใด

(1) แบคทีเรีย (2) ฟังไจ        (3) ไสเคน       (4) สาหร่าย

ตอบ 2 หน้า 7102 – 103, (คำบรรยาย)       ฟังไจ (Fungi) เป็นสิ่งมีชีวิตพวกโปรตสต์ที่อาจจะมีเซลล์เดียวหรือหลายเซลล์อยู่รวมกันเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา (hypha) ภายในเซลล์จะมี นิวเคลียส แต่จะไม่มีสารคลอโรฟิลล์ปรากฏอยู่ จึงไม่สามารถสร้างอาหารโดยวิธีสังเคราะห์แสงได้ ต้องใช้อาหารจากแหล่งอื่น และมีการดำรงชีวิตทั้งแบบที่หากินอย่างอิสระและแบบเป็นปรสิต ที่อาศัอยู่ได้ทั่วไป โดยฟังไจที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ก็ได้แก Penicillium sp., Yeast (ยีสต์) เป็นต้น

40.       อะมีบา (Amoeba sp.) จัลเป็นสิ่งมีชีวิตพวกใด

(1) พยาธิ         (2) เปรโตซัว    (3) ไลเคน        (4) ฟังไจ

ตอบ 2 หน้า 106 อะมีบา (Amoeba sp.) จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกโปรโตซัวที่มีการเคลื่อนที่แบบ Amoeboid Movement ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบใช้กิ่งหรือขาเทียมอันเกิดจากการไหล ของโปรโตพลาสต์ออกไปในทิศทางที่ต้องการ

41.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของฟังไจ

(1) อยู่ร่วมกันเป็นเส้นใย 

(2) เชลล์ไม่มีนิวเคลียส 

(3) ไม่มีสารคลอโรฟิลล์ 

(4) ผิดทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 39. ประกอบ

42.       สัตว์และพืซที่มีแหล่งอาศัยหรือเกาะยึดอยู่บริเวณดินใต้ท้องนา เรียกว่า

(1) แพลงก์ตอนพืช      

(2) เนคตอน     

(3) แพลงก์ตอนสัตว์    

(4) เบนธอส

ตอบ 4 หน้า 80, (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนํ้า แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

1.         แพลงก์ตอน (Plankton) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืชและสัตว์ มีขนาดเล็ก อาศัยและหากิน อยู่ในบริเวณใกล้ผิวหน้านํ้า ไม่สามารถว่ายนํ้าได้ เช่น สาหร่าย สวะ ผักตบ ไรนํ้าตาล ฯลฯ

2.         เนคตอน (Nekton) เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตอยูในเนื้อนํ้าตํ่าลึกลงไปกว่าผิวนา และสามารถ ว่ายนํ้าได้เองโดยอิสระ เช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาฉลาม ฯลฯ

3.         เบนธอส (Benthos) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ได้ทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม โดยการเกาะยึดกับวัตถุที่อยู่ในเนื้อนํ้าหรืออยู่บริเวณดินใต้ท้องนํ้า เช่น กุ้ง หอย ปู ฯลฯ

43.       สิ่งแวดล้อมทางกายภาพของโลก ประกอบด้วยอะไร

(1) Hydrosphere        (2) Atmosphere         (3) Lithosphere (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 85, (คำบรรยาย) สภาพแวดล้อมทางกายภาพของโลกที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า ชีวมณฑล” (Biosphere) โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         Hydrosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นน้ำ เช่น นํ้าตามแหล่งต่าง ๆ และน้ำใต้ดิน

2.         Lithosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นของแข็ง เช่น ดิน หิน และสินแร่ต่าง ๆ

3.         Atmosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นลม ฟ้า อากาศ

44.       สิ่งแวดล้อมทางกายภาพหมายถึงอะไร

(1) น้ำจืด         (2) นํ้าเค็ม        (3) แสงสว่าง   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 79 สิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน หิน น้ำ อากาศ แสงสว่าง อุณหภูมิ ก๊าช ฯลฯ

2.         สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น พืช สัตว์ แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ฯลฯ

45.       ทำไมบริเวณปากแม่นํ้าจึงมีระดับความเค็มของน้ำไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ปริมาณน้ำจืดจากต้นนํ้า         (2) กิจกรรมจากชุมชนริมแม่น้ำ

(3) คลองซอยลงสู่ทะเลมิน้อย (4) ผิดทุกข้อ

ตรบ 1 (คำบรรยาย) การที่บริเวณปากแม่น้ำมีระดับความเค็มของนํ้าไม่คงที่นั้น ก็เป็นเพราะว่า ปริมาณน้ำจืดจากต้นนาที่ไหลมาสมทบมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงทำให้สัตว์นํ้า ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพนํ้าตามไปด้วย

46.       บริเวณไหล่ทวีป คือบริเวณใด           

(1) บริเวณลาดลงจากชายฝั่งทีละน้อย (2) บริเวณที่มีความชันอย่างรวดเร็วไปถึงระดับมหาสมุทร

(3) บริเวณที่ราบก้นมหาสมุทร (4) ลักษณะเป็นแอ่งลึกของก้นมหาสมุทร

ตอบ 1 หน้า 79, (คำบรรยาย) ไหล่ทวีป (Continental Shelf) เป็นแหล่งอาศัยน้ำเค็มที่มีรูปร่าง คล้ายอ่างหรือกระทะที่ลาดลงจากชายผั่งทีละน้อย ๆ และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างอุดมสมบูรณ์มาก จึงนับว่าเป็นแหล่งอาศัยน้ำเค็มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจด้าน การประมง เช่น บริเวณอ่าวไทย เป็นต้น

47.       สิ่งมีชีวิตชนิดใดจัดเป็นเนคตอน (Nekton)

(1) หอยเม่น     (2) แพลงก์ตอนพืช      (3) ปลาโลมา   (4) ไรนํ้าตาล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ

48.       ข้อใดบอกถึงข้อแตกต่างของน้ำจืดและนํ้าเค็มไม่ถูกต้อง

(1)       ปริมาณของเกลือในนํ้าจืดมีน้อยกว่านํ้าเค็ม

(2)       น้ำเค็มมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าจืด

(3)       น้ำจืดมักมีกระแสนํ้าเชี่ยว

(4)       อุณหภูมิของน้ำจืดมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศตลอดเวลา

ตอบ 2 หน้า 81 – 82 ข้อแตกต่างของนํ้าจืดและนํ้าเค็ม มีดังนี้

1.         ปริมาณของเกลือในนํ้าจืดมีน้อยกว่าน้ำเค็ม    2. นํ้าจืดมักมีกระแสนํ้าเชี่ยวกว่านํ้าเค็ม

3.         น้ำจืดมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าเค็ม โดยอุณหภูมิของนํ้าจืดจะมี การเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศตลอดเวลา

49.       เขตภูมิประเทศแบบใดมักมีปริมาณนํ้าฝนโดยเฉลี่ยตลอดปี 80 – 90 นิ้ว

(1) เป็นบริเวณที่มีความชื้นสูง เขตป่าดงดิบ    (2) เขตป่าผลัดใบ

(3) เขตทุ่งหญ้า            (4) เขตป่าสน

ตอบ1 หน้า 82 – 83, (คำบรรยาย) เขตป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าร้อนชื้น หรือป่าฝนเขตร้อน (Tropicr Rain Forest) เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก มีความชื้นสูง มีปริมาณนํ้าฝนมากที่สุด โดยเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 80 – 90 นิ้ว มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก และเป็นบริเวณที่มี สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น ซึ่งเขตภูมิประเทศแบบนี้จะพบมากในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ แอฟริกากลาง อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

50.       ข้อใดบอกถึงสภาพภูมิอากาศหรือการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในเขตทุนดราไม่ถูกต้อง

(1) ในฤดูร้อนจะได้รับแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง (2) ฤดูหนาวจะมืดสนิทตลอด 24 ชั่วโมง (3) พืชที่อยู่ในบริเวณนี้มักเป็นพืชชั้นตํ่า   (4) เขตทุนดราจะมีสัตว์ชุกชุม

ตอบ 4 หน้า 84, (คำบรรยาย) เขตขั้วโลกเหนือหรือเขตทุนดรา (Tundra) เป็นบริเวณที่มีสภาพภูมิอากาศ หนาวเย็นจัดตลอดปีเนื่องจากมีหิมะปกคลุมอย่างหนาแน่น และในฤดูร้อนจะได้รับแสงอาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในฤดูหนาวก็จะมืดสนิทตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน จึงทำให้มีสัตว์อาศัยอยู่ ไมชุกชุม และพืชที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนี้ก็มักเป็นพืชขั้นตํ่า โดยเฉพาะพวกไลเคนและมอสส์

51.       Diplococcus pneumoniae เป็นชื่อที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม มีเซลล์รูปร่างแบบใด

(1) รูปร่างกลม 

(2) รูปร่างเหมีอนแส้    

(3) รูปทรงกระบอก      

(4) แท่งโค้งยาว

ตอม 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

52.       Red Tide คือปรากฏการณ์นํ้าทะเลเปลี่ยนสี เกิดจากแอลจีชนิดใด

(1)       Golden Algae 

(2) Dinoflagellate      

(3) Diatom         

(4) Brown Algae

ตอบ 2 หน้า 100 Dinoflagellate เป็นแอลจี (Algae) ที่ภายในเชลล์มีสารสีส้มแดงปนอยู่ อาศัยอยู่ทั้งในน้ำจืดและนํ้าเค็ม โดยบางชนิดสามารถแบ่งเชลล์ได้อย่างรวดเร็วและปล่อยสารพิษ จากตัวออกสู่น้ำ ทำให้นํ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีพิษ อันเป็นอันตรายต่อสัตว์นํ้าอื่น ๆ อย่างยิ่ง ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้เรียกว่า Red Tide

53.       โปรโตชัวซึ่งทำหน้าที่ย่อยไม้ที่ปลวกกิน คือชนิดใด    

(1) Trypanosoma sp.   (2)Trichonympha sp.      

(3) Plasmodium sp.  (4) Sarcodina sp.

ตอบ 2 หน้า 106 Trichonympha sp. เป็นโบปรโตชัวที่อาศัยอยู่ในกระเพาะและลำไส้ของปลวกโดยทำหน้าที่ย่อยไม้ที่ปลวกกินเข้าไป ซึ่งการอยู่ร่วมกันของโปรโตชัวกับปลวกนี้จัดเป็น การอยู่ร่วมกันแบบต่างฝายให้ประโยชน์แกกัน

54.       ข้อใดคือลักษณะของไดอะตอม         

(1) ผนังเชลล์มีลักษณะเป็นฝาตลับสวมประกบกัน

(2)       ผนังเชลล์ประกอบด้วยสารซิลิกา        (3) เป็นกลุ่มในแอลจีสีทอง      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 100 ไดอะตอม (Diatom) เป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มแอลจีสีทองที่เปลือกหรือผนังเซลล์ ประกอบด้วยสารซิลิกา โดยจะมีลักษณะเป็นฝาตลับสวมประกบกัน และมีลวดลายสวยงาม ซึ่งสามารถที่จะพบได้ทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม

55.       ประชากร” (Population) นั้นหมายถึง

(1) สิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันในสังคมหนึ่ง (2)จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสังคม

(3) กลุ่มของสิ่งมีชีวิตซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม    (4) มนุษย์เท่านั้น

ตอบ 1 หน้า 5-671, (คำบรรยาย) ประชากร (Population) ทางชีววิทยา หมายถึง กลุ่มของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันในสังคมหนึ่ง ๆ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ที่อยู่ในแหล่งเดียวกัน และในช่วงเวลาที่กำหนด

56.       วัฎจักรฃองธาตุคาร์บอน หมายถึงการหมุนเวียนของ๊าซชนิดใดมากที่สุด   

(1) ก๊าชมีเทน     (2) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  (3) ก๊าชออกซิเจน        (4) ก๊าชไฮโดรเจนซัลไฟด์

ตอบ2  หน้า 7389    วัฎจักรของธาตุคาร์บอน เป็นการหมุนเวียนของก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งอยู่ในอากาศและละลายปนอยู่ในน้ำ โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นี้นับว่าเป็นแหล่งของ ธาตุคาร์บอนที่สำคัญของพืชที่จะนำไปช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อแปรสภาพเป็นอาหาร และจะกลับคืนสู่อากาศอีกครั้งหนึ่งในฐานะเป็นผลของการหายใจ นอกจากนั้นก็อาจเกิดขึ้นได้ โดยการเผาไหม้ของอินทรียสารต่าง ๆ เช่น ไม้ นํ้ามัน เป็นต้น

57.       วัฎจักรไนโตรเจน มีแบคทีเรียที่สามารถเปลี่ยนแปลงสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจนคือแบคทีเรียชนิดใด        

(1) Nitrifying bacteria      (2)Nitrogen fixing bacteria

(3) Denitrifying bacteria   (4) ผิดทุกซ้อ

ตอบ 3 หน้า 7489 วัฏจักรไนโตรเจน เป็นการหมุนเวียนของก๊าชไนโตรเจนในอากาศ โดยอาศัยการทำงานของแบคทีเรียอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ 1. Decomposing bacteria มีหน้าที่ทำให้เกิดการเน่าเปื่อย

2.         Nitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าชแอมโมเนียให้เป็นสารไนเตรท

3.         Denitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนแบลงสารประกอบไนเตรทให้สลายตัว เป็นก๊าซไนโตรเจนกลับคืนสู่อากาศ

4.         Nitrogen fixing bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าชไนโตรเจในอากาศให้เป็นสารไนเตรท

58.       Neutralism จัดเป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบใด

(1) แก่งแย่ง    (2) อยู่แบบฝ่ายหนึ่งทำลายอีกฝ่ายหนึ่ง         

(3) ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเบรียบ  (4)ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ถ้าหากขาดอีกฝ่ายหนึ่ง

ตอบ 3 หน้า 76, (คำบรรยาย) Neutralism (0/0) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในเฉพาะพื้นที่ แต่ไมมีความเกี่ยวข้องต่อกันและกัน ไม่พึ่งพาอาศัยกัน ต่างคนต่างอยู่ และไมมีฝ่ายใด ได้เปรียบหรือเสียเปรียบแกกันเลย ดังสำนวนที่ว่า บ้านใครใครอยู่ อู่ใครใครนอน

59.       พยาธิใบไม้ที่อยู่ในตับคน ถือว่าเป็นการอยู่แบบใด

() Neutralism    (2) Commensalism

(3) Predation    (4) Parasitism

ตอบ 4 หน้า 77 Parasitism (+/-) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบที่ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ (ซึ่งมีขนาดเล็ก) แต่อีกฝายหนึ่งเสียประโยชน์ (ซึ่งมีขนาดใหญ่และไม่สามารถทำลายลี่งที่ มีขนาดเล็กได้) เช่น พยาธิใบไม้ในตับคน เชื้อโรคกับคน พยาธิในลำไส้ กาฝากกับต้นไม้ เชื้อไวรัสในสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น

60.       องค์ประกอบหลักของน้ำจืดคือธาตุใด

(1) ฟอสฟอรัส  (2)ไบคาร์บอเนต          (3)ซัลเฟต        (4)คลอไรด์

ตอบ 2 (คำบรรยาย) ธาตุที่เป็นองค์ประกอบหลักของนํ้าจืด คือ ไบคาร์บอเนต

ส่วนธาตุที่เป็นองค์ประกอบหลักของนํ้าเค็ม ก็คือ คลอไรค์ 

61.       ความหลากหลายทางชีวภาพ” หมายถึงการปรากฏชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่บริเวณหนึ่ง ดังนั้น จึงพบได้ใน

(1) Society 

(2)Population   

(3)Community  

(4)Species

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

62.       สถานะของสารชนิดใดที่มีการแพร่กระจายต่ำสุด

(1) ของเหลว    

(2)ของแข็ง      

(3)สารแขวนลอย         

(4)ก๊าช

ตอบ 2 หน้า 32 อัตราเร็วของการแพร่กระจายมีมากน้อยแตกต่างกันตามสถานะของสาร กล่าวคือ สารที่มีสถานะเป็นก๊าซจะมีอัตราเร็วของการแพร่กระจายสูงสุด สารที่มีสถานะเป็นของเหลว จะมีอัตราเร็วรองลงมา และสารที่มีสถานะเป็นของแข็งจะมีอัตราเร็วตํ่าสุด

63.       ข้อใดจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก

(1) นํ้าตาลกาแลคโตส (2)นํ้าตาลมอลโตส      (3)เด็กซทริน    (4)ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 37 – 39, (คำบรรยาย) สารประกอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         Monosaccharide หรือ Simple Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก หรือที่เรียกวานํ้าตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ นํ้าตาลกลูโคส นํ้าตาลฟรุคโตส นํ้าตาลกาแลคโตส เป็นต้น

2.         Disaccharide หรือ Double Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลคู่ หรือที่เรียกว่า นํ้าตาลเชิงประกอบ ได้แก่ นํ้าตาลทราย นํ้าตาลมอลโตส นํ้าตาลแลคโตส เป็นต้น

3.         Polysaccharide เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก ได้แก่ แป้งไกลโคเจนในสัตว์ เซลลูโลส (เช่น เด็กซทริน) ไคติน เป็นต้น

64.       ข้อใดจัดเป็น Disaccharide หรือ Double Sugar

(1)       นํ้าตาลกลูโคส (2)นํ้าตาลฟรุคโตส      (3) เซลลูโลส   (4)       น้ำตาลทราย

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

65.       ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์ให้พลังงานความร้อนกี่กิโลแคลอรี

(1)       4.0       (2)       5.3       (3) 7.2 (4)       9.1

ตอบ 4 หน้า 39, (คำบรรยาย) ไลบิดหรือไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุดในปริมาณนํ้าหนักที่เท่ากันของสาร โดยไขมันจะให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต กล่าวคือ ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหมโดยสมบูรณ์แล้วจะให้พลังงานความร้อน 9.1 กิโลแคลอรี ในขณะที่คารโบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงานความร้อนเพียง 4.1 กิโลแคลอรีเท่านั้น

66.       Desoxyribose Nucleic Acid มีหน้าที่อะไร

(1) สร้างโปรตีน           (2) สร้างนํ้าย่อยหรือเอนไซม์

(3)       ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน

(4)       ส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโต

ตอบ 3 หน้า 43, (คำบรรยาย) DNA (Desoxyribose Nucleic Acid) หรือ Gene เป็นสารพันธุกรรม ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1. กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด หรือแต่ละหน่วยให้เป็นไปตามเผ่าพันธุ์ของตน และสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้น จากบรรพบุรุษไปสู่ลูกหลานได้ ซึ่งเหมือนกับ การหว่านหรือปลูกเมล็ดพืชชนิดใด ย่อมได้ผล เป็นพืชชนิดนั้น”  2. ควบคุมกิจกรรมทุกประเภทที่เกิดขึ้นภายในเชลล์

ข้อ 67. – 70. ให้ตอบคำถามจากตัวเลือกต่อไปนี้

(1) วิตามิน A  (2) วิตามิน D (3) วิตามิน E  (4) วิตามิน K

67.       วิตามินในข้อใดช่วยป้องกันการเป็นหมัน

ตอบ 3 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันการเป็นหมัน และช่วยทำให้ ตัวอ่อนเกาะติดผนังมดลูกได้เหนียวแน่นขึ้น ไม่ให้แท้งง่าย นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่ เกี่ยวกับการยืดอายุเชลล์ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ของอวัยวะผลิตเชลล์เชื้อเพศ

68.       วิตามินในข้อใดช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย

ตอบ 2 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียม และฟอสฟอรัสในร่างกายสำหรับสร้างเนื้อเยื่อกระดูก ถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้จะทำให้กระดูก อ่อนโค้งงอ กระดูกพรุน ฟันผุ กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยและชักกระตุก แต่ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป จะทำให้กระดูกแกร่งและหักง่าย

69.       ถ้าขาดวิตามินในข้อใดจะทำให้โลหิตแข็งตัวช้า

ตอบ 4 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับคุณภาพ ของเลือด (โลหิต) ก็คือ ทำให้นํ้าเลือดข้นเหนียวจนเกิดการไหลของเลือดช้าลง และทำให้เลือด แข็งตัวปิดปากแผลเพี่อป้องกันเลือดไหลออกมาภายนอกร่างกาย ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เสียเลือดมาก หรือเลือดไหลหยุดช้าเมื่อเกิดบาดแผล

70.       วิตามินในข้อใด ถ้าได้รับไมเพียงพอจะเกิดอาการตามัว มองไม่เห็นในที่แสงสลัว

ตอบ 1 หน้า 45 – 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับ สุขภาพของดวงตา และคุณภาพของการมองเห็น ซึ่งถ้าร่างกายได้รับวิตามินนี้ไม่เพียงพอ จะทำให้ตามัวและมองไม่เห็นในที่แสงสลัว (Night Blindness)

71.       ออร์แกเนลล์ข้อใด ได้ชื่อว่าเป็นโรงผลิตไฟพ้าของเชลล์

ตอบ2  หน้า 52, (คำบรรยาย) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เป็นออร์แกเนลล์ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าของเชลล์” หรือเป็น แหล่งผลิตพลังงานให้แก่เซลล์” (House of Power of the Cell) โดยจะทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตเอนไซม์ (โปรตีนที่มีสถานะเป็นของเหลว) เพื่อสร้าง พลังงานให้แก่เชลล์ โดยเฉพาะเชลล์ที่มีกระบวนการทำงานสูง เช่น เชลล์ของตับ ไต และประสาท

72.       ออร์แกเนลล์ข้อใด ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์แสง

ตอบ 4 หน้า 53, (คำบรรยาย) พลาสตีด (Plastids) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสาร และภายในมีสารที่ทำให้เกิดสีบรรจุอยู่ โดยเม็ดสารสีเขียวที่บรรจุอยู่ในคลอโรพลาสติด หรือคลอโรพลาสล์นั้นจะเรียกว่า คลอโรพีลล์” (Chlorophyll) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการสงเคราะห์แสงของพืช

73.       นํ้ามันหอมระเหยจะพบอยู่ในออร์แกเนลล์ข้อใด

ตอบ.2 หน้า 53, (คำบรรยาย) แวคิวโอล (Vacuoles) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเนื้อใสกว่าส่วนอื่น ๆในไซโตพลาสม์ และมีเยื่อบาง ๆ ชั้นเดียวห่อหุ้มอยู่ โดยจะมีลักษณะเป็นถุงสำหรับเก็บสะสมสาร ที่เกิดขึ้นจากการสร้างของเซลล์ เช่น สารที่เป็นรสต่าง ๆ สารอาหาร สารสี สารน้ำมันหอมระเหย และของเสียต่าง ๆ

74.       พืชชนิดใดจัดอยู่ใน Division Bryophyta

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสล์         (4) เฟิร์น

ตอบ หน้า 108 – 110, (คำบรรยาย) กลุ่มพืชไมมีท่อลำเลียง (Division Bryophyta) เป็นพืชที่ มีขนาดเล็ก แต่ยังไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและอาหาร รวมทั้งไมมีราก ลำด้น และใบที่แท้จริง และมักจะขึ้นอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูงและอากาศเย็น จึงนับว่าเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการล้าหลังที่สุด ซึ่งพืชในกลุ่มนี้ ได้แก มอสส์ (Moss) และลีเวอร์เวิร์ต (Liverwort)

75.       Dioecious Plant หมายถึงอะไร

(1) มีดอกสมบูรณ์เพศในต้นเดียวกัน  (2) มีดอกแยกเพศอยู่ต้นเดียวกัน

(3)       มีดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน   (4) มีดอกครบสองเพศในต้นเดียวกัน

ตอบ 3 หน้า 127172 การปรากฏเพศในสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         Dioecious คือ สัตว์หรือพืชที่มีเพศแยกกันเป็นเพศผู้กับเพศเมีย หรือปรากฏการมีเพศ เพียงอย่างเดียวในตัวหรือในต้น

2.         Monoecious คือ สัตว์หรือพืชที่มีการปรากฏเพศครบทั้ง 2 เพศในตัวหรือในต้นเดียวกัน

76.       Pollination หมายถึงอะไร

(1) การถ่ายละอองเกสร (2) การติดเมล็ด       (3) การปฏิสนธิ           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 127 การถ่ายละอองเกสร (Pollination) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเกสรตัวผู้ปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ถ้าเกิดในดอกเดียวกันเรียกว่า Self-Pollination หรือ Close-Pollination แต่ถ้าเกิดต่างดอกกันเรียกว่า Cross Pollination โดยการถ่ายละอองเกสรนี้จะส่งผลทำให้ เกิดการผสมเกสร (Fertilization) ขึ้นในที่สุด

77.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Xerophyte

(1) ผักตบชวา  (2) ทุเรียน        (3) กุหลาบหิน (4) มะขาม

ตอบ 3 หน้า 122 พืชแบ่งตามลักษณะของแหล่งกำเนิดและที่อยู่อาศัยได้เป็น 5 ประเภท คือ

1. Epiphyte หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแต่ไม่ได้เบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กล้วยไม้ และเฟิร์นบางชนิด     2. Parasite หมายถึง พืซที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแล้วเบียดเบียนต้นไม้นั้นเช่น กาฝาก ฝอยทอง ขนุนดิน ฤๅษี เป็นต้น 3. Xerophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่ แห้งแล้งและมีนํ้าน้อย เช่น กุหลาบหิน กระบองเพชร เสมา โบตั๋น เป็นต้น 4. Mesophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่ที่มีนํ้าพอสมควร เช่น มะม่วง มะขาม ทุเรียน มังคุด เป็นต้น

5.         Hydrophyte หมายถึง พืซที่อาศัยอยู่ในนํ้า เช่น บัว ผักบุ้ง ผักตบชวา ผักกระเฉด เป็นต้น

78.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Mesophyte

(1) กระบองเพชร         (2) มะม่วง       (3) บัว  (4) เสมา

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 77. ประกอบ

79.       พืชชนิดใดที่ใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ

(1) หวายทะนอย         (2)       หญ้าถอดปล้อง           (3) มอสส์         (4)       เฟิร์น

ตอบ 2 หน้า 113 พืชในดิวิชันย่อยสฟีนอพซิดา (Subdivision Sphenopsiaa) เป็นพืชที่มีลักษณะ คล้ายต้นหญ้า มีข้อและปล้องชัดเจน ผิวลำต้นหยาบเป็นร่องยาวคล้ายลูกฟูก และใบมีลักษณะ เป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ ได้แก่ หญ้าถอดปล้องหรือสนหางม้า (Horsetail)

80.       พืชชนิดใดที่ใบอ่อนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฬิกา

(1) เฟิร์น          (2)       มอสส์  (3)       หญ้าถอดปล้อง           (4) หวายทะนอย

ตอบ 1 หน้า 113 เฟิร์น จัดเป็นพืชในคลาสฟิลิชินี (Class Filicinae) ซึ่งมีลักษณะสำคัญ คือ

1. อาศัยน้ำเป็นสื่อในการนำสเปิร์มว่ายเข้าไปผสมกับไข่

2. มีอับสปอร์รวมอยู่เป็นกลุ่มจำนวนมากติดอยู่ใต้ใบ

3. เป็นพืชที่ยังไมมีเมล็ด

4. ช่วงชีวิตระยะ Gametophyteเป็นช่วงชีวิตอิสระที่มีอายุไม่นานนัก

5. ใบอ่อนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฬิกา

81.       พืชชนิดใดมีเมล็ดแต่ไม่มีผนังห่อหุ้ม

(1) ปรง            

(2)       เฟิร์นก้านดำ    

(3)       จอกหูหนู          

(4)       สามร้อยยอด

ตอบ 1 หน้า 111115 – 116, (คำบรรยาย) พืชมีเมล็ดใน Division Tracheophyta นั้น แบ่งออกเป็น 2 พวก คือ 1. พืชมีเมล็ดแต่ไม่มีผนังห่อหุ้ม หรืลพืชไม่มีดอก (Class Gymnosperraae) ได้แก่ ปรง สนแท้ แปะก๊วย และเครือมะเมื่อย        2. พืชมีเมล็ดและเมล็ดมีผนังห่อทุ้ม หรือพืชดอก (Class Angiospermae) ได้แก่ ข้าว กุหลาบ พริก มะเขือ ฯลฯ ซึ่งพืชใน Class นี้ นับว่าเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และมีจำนวนมากที่สุดในยุคปัจจุบัน

82.       พืชใน Class ใด มีวิวัฒนาการสูงสุด

(1) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) (2) คลาสพิลิซินี (Class Filicinae)

(3)       คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae)      (4) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 81. ประกอบ

83.       พืชชนิดใดมีลำต้นแบบ Prostrate

(1) ผักกระเฉด (2) ผักแว่น       (3) บัวบก        (4) พลู

ตอบ 1 หน้า 120 พืชที่มีลำต้นอยู่เหนือดินสามารถแบ่งตามลักษณะที่ปรากฏได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่ทอดแตะพื้นเป็นระยะ ๆ (Stolon) เช่น บัวบก ผักแว่น ผักตบชวา จอก

2.         ชนิดที่ทอดราบไปตามพื้น (Prostrate) เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด    3. ชนิดที่เกาะเกี่ยว ป่ายปีนหรือเลื้อยพัน (Climber หรือ Twinning) เช่น ตำลึง พลู พวงชมพู เถาวัลย

4.         ชนิดที่มีลำต้นตั้งตรง (Erect) เช่น สนทะเล ก้ามปู ราชพฤกษ์ มะพร้าว ตาล มะละกอ

84.       พืชชนิดใดมีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี (ไม้ข้ามปี)

(1) อ้อย           (2) ดาวเรือง     (3) หอม           (4) มันสำปะหลัง

ตอบ 3 หน้า 121 พืชสามารถแบ่งตามลักษณะของการมีอายุได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่มีช่วงอายุสั้นมาก และปีหนึ่งอาจเกิดได้หลายรุ่น (Ephemeral) เช่น ดาวเรือง บานชื่น แพงพวยฝรั่ง

2.         ชนิดที่มีวงจรชีวิตในเวลา 1 ปี (Annual) เช่น อ้อย มันลำปะหลัง

3.         ชนิดที่มีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี (Biennial) เช่น หอม กระเทียม ว่านต่าง ๆ

4.         ชนิดทีมีอายุนานกว่า 2 ปี (Perennial) เช่น มะม่วง ทุเรียน

85.       พืชชนิดใดมีรากสังเคราะห์แสง

(1)       มันสำปะหลัง  (2) กล้วยไม้     (3) ลิ้นจี่           (4) โกงกาง

ตอบ2 หนา 117 รากของพืชทุกชนิดมักจะเป็นทรงกระบอก โคนใหญ่ปลายเรียวเล็กลงทีละน้อย ไม่มีข้อ ปล้อง ตา หรือใบ และไม่มีสีเขียว ยกเว้นรากสังเคราะห์แสง (Photosynthetic Root) เช่น รากกล้วยไม้ เป็นต้น

86.       ข้อใดจัดเป็นการตอบสนองต่อสิงเร้าของสิ่งมีชีวิต     

(1) การมองเห็นของนก   (2)    การได้ยินเสียงเรียกของสุนัข  

(3) การเคลื่อนที่เข้าหาแสงของแมลง  (4) การแลบลิ้นของงูเขียว

ตอบ 3 หน้า 195, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้า (Responsiveness) หมายถึงการที่สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้น เพื่อให้มีการปรับตัวหรือต่อต้านต่อสิ่งที่มา กระตุ้นนั้น เช่น การเคลื่อนที่เข้าหาแสงของแมลงดอกไม้บานในยามเช้าเมื่อได้รับแสงแดดใบพืชเหี่ยวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการจ้องมองภาพหรือวัตถุการมีความรู้สึกเจ็บปวดและหดมือ ถอยหนีเมื่อโดนน้ำร้อนลวก ถูกของแหลมทิ่มแทงหรือถูกไฟจี้การที่ต้นไม้เอนเข้าหาแสงสว่างการเหลียวไปมองเมื่อได้ยินเสียง เป็นต้น

87.       งูจงอางมองวัตถุที่เคลื่อนที่แล้วเลื้อยตาม งูชนิดนี้มีหน่วยรับความรู้สึกที่เรียกว่า

(1) Thermoreceptor (2) Pressoreceptor (3) Photoreceptor (4) Phonoreceptor

ตอบ 3 หน้า 196, (คำบรรยาย) ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) นั้น จะมีอวัยวะ รับความรู้สึกโดยเฉพาะ ได้แก่

1.         Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนหรือเย็น ได้แก่ ผิวหนัง

2.         Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา เช่น กรณีงูจงอางมองเห็นวัตถุที่เคลื่อนที่แล้วเลื้อยตาม

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น จมูก และหนวดแมลงบางชนิด

5.         Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

88.       ฮอร์โมนออกชิน (Auxin) ในพืช ตอบสนองต่อแสงแดด ทำให้พืชเปลี่ยนแปลงอย่างไร

(1) การเจริญของลำต้นพืชในทางสูงขึ้น          (2) การขยายของเซลล์ต้นพืชในทางด้านข้าง

(3)       การเบนเข้าหาแสงของยอดพืช            (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 199 ออกซิน (Auxin) เป็นฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งฮอร์โมนนี้พืชจะสร้างจากปลายยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากในลักษณะที่หนีแสงสว่าง ทำให้พืช เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหรือมีพฤติกรรมการตอบสนองโดยการที่ยอดพืชจะโค้งหรือเบนเข้าหาแสง ส่วนรากพืชจะเบนหนีแสง

89.       การเจริญของรากไทรจากยอดต้นไม้อื่นลงสู่พื้นดินเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เรียกว่า

(1) Thermonastic (2) Geotropism      (3) Chemotropism (4) Hydrotropism

ตอบ 2 หน้า 200 Geotropism เป็นการเคลื่อนไหวตอบสนองภายนอกต้นพืชเนื่องจากการเจริญเติบโต โดยมีแรงดึงดูดของโลกเป็นลิ่งเร้า เช่น การเจริญของรากไทรจากยอดต้นไม้อื่นลงสู่พื้นดิน เป็นต้น

90.       การเคลื่อนที่หลบวัตถุอันตรายของคน กระบวนการตอบโต้นี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากการทำงานของส่วนใด

(1)เชลล์ประสาทส่งสัญญาณ (2) เส้นประสาท          (3) กล้ามเนื้อลาย        (4) สมอง

ตอบ 3 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบกล้ามเนื้อ เซลล์ประสาทสั่งการ (Mortor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน โดยการที่ Mortor Neuron จะส่งกระแสคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนอง หรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับแหล่งรับความรู้สึกทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเดินหลบวัตถุอันตรายของคน เป็นต้น

91.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในพืชถูกแสดงออกมาในลักษณะใด

(1) การเคลื่อนไหว      

(2)การเคลื่อนที่     

(3) การตอบโต้        

(4) พืชไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น

ตอบ 1 หน้า 198 การตอบสนองต่อสิ่งเร้าชองพืชนั้น จัดว่าเป็นพฤติกรรมของพืชซึ่งแสดงออกมาในรูปของการเคลื่อนไหว (Movement) โดยสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการตอบสนองในพืช มี 2 ประเภทคือ           

1. สิ่งเร้าภายใน ได้แก่ ฮอร์โมนและสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชทำให้เกิดการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ            

2. สิ่งเร้าภายนอก ได้แก่ แสงสว่าง แรงดึงดูดของโลกอุณหภูมิ นื้า ฯลฯ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในลักษณะต่าง ๆ กัน

92.       การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตในลักษณะใดเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร

(1) การมีกระดองแข็งของปู     

(2) การมีสีคล้ายใบไม้ของผีเสื้อ

(3)       เม่นมีขนที่แข็งและแหลมคม    

(4) การมีนิ้วเท้ายาวของนกกระยาง

ตอบ 4 หน้า 228 – 230 การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ 1. เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น นกกระยางมีนิ้วเท้ายาวเหมาะแกการทรงตัวเหยี่ยวมีนิ้วเท้าและกรงเล็บงองุ้มเหมาะแกการจับยึดเหยื่อ  ไกมีเล็บเท้าใหญ่และแข็งเหมาะแก่การคุ้ยเขี่ย เป็นต้น   2. เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจาทคัตรู เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่น, การมีสีคล้ายเปลือกไม้ของผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

93.       หลักฐานใดที่ใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบด้านคัพภวิทยา (Embryology) ของวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต

(1) ตัวอ่อนของสัตว์ปีก และคน           (2) ลักษณะของปีกนก และครีบปลา

(3) ลักษณะที่แตกต่างกันของปากนก (4) ชิ้นส่วนของกระดูกที่หลงเหลือของงู และไส้ติ่งของคน

ตอบ 1 หน้า 222 – 223 หลักฐานทางคัพภวิทยา (Embryology) เป็นหลักฐานที่ใช้ในการศึกษา เปรียบเทียบลักษณะการเจริญของตัวอ่อนของสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดต่าง ๆ โดยผลจาก การศึกษาเปรียบเทียบในเรื่องนี้ ก็พบว่า ในตอนแรกนั้นลัตว์จะเจริญมาจากไซโกตชึ่งมีลักษณะ เป็นเซลล์ธรรมดา แล้วจึงเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะของแต่ละชนิดในภายหลัง เช่น ตัวอ่อนของสัตว์ปีก และคน เป็นต้น

94.       ข้อใดเป็นการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตเพื่อการหลบหลีกศัตรูได้ชัดเจนที่สุด

(1)       การมีนิ้วเท้ายาวซองนกกระยาง         (2) การมีพฤติกรรมการย่องเดินของเสือดาว

(3) การมีสีคล้ายเปลือกไม้ชองผีเสื้อกลางคืน (4) การมีสีเขียวของงูเขียวหางไหม้

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 92. ประกอบ

95.       ข้อใดเป็นหลักฐานเปรียบเทียบทางกายวิภาคที่จัดเป็น Analogous Organ

(1) ปีกค้างคาว และปีกนก  (2) แขนมนุษย์ และขาหน้ากบ   

(3) ครีบปลา และปีกนก          (4) ปีกแมลง และปีกนก

ตอบ.4 หน้า 222 – 223 หลักฐานทางกายวิภาค (Anatomy) เป็นหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะความคล้ายคลึงกันของโครงสร้างร่างกายของสัตว์ โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ 1. Homologous Organ เป็นการศึกษาอวัยวะรยางค์ของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีลักษณะกำเนิด โครงสร้าง และจุดกำเนิดในแบบเดียวกัน แม้ว่าต่อมาจะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป เช่น ปีกค้างคาว ปีกนก แขนมนุษย์ ขาหน้ากบ ครีบปลา 2. Analogous Organ เป็นการศึกษาอวัยวะของสัตว์ที่มีลักษณะกำเนิดและจุดกำเนิดต่างกัน แม้ว่าต่อมาจะทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน เช่น ปีกนก และปีกแมลง        3. Vestigial Organ เป็นการศึกษาอวัยวะของสัตว์ที่มีการเจริญเติบโตและทำประโยชน์ได้ดีในสัตว์ชนิดหนึ่งแต่กลับไร้ประโยชน์และเสื่อมสภาพในสัตว์อีกชนิดหนึ่ง เช่น กระดูกขาหลังของงู ไส้ติ่งในคน

96.       การผลัดใบในฤดูร้อนของพืชในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือของไทย เป็นการปรับตัวเพื่อ

(1) การสร้างช่อดอก    (2) การเพิ่มปริมาณแสงที่ส่องลงสู่พื้นดิน

(3)       ลดการคายนํ้า            (4) ผลิใบอ่อน

ตอบ.3 หน้า 230 – 231, (คำบรรยาย) การปรับตัวของพืชส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวทางด้านสรีระซึ่งขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของน้ำ เช่น พืชในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือของไทย จะปรับตัวโดยการผลัดใบในฤดูร้อน เพื่อลดการคายนํ้า เป็นต้น

97.       เมื่อ 4-5 พันล้านปีมาแล้ว ชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกช่วยให้อุณหภูมิผิวโลกเหมาะสมต่อการเกิด ของสิ่งมิชีวิต ชั้นบรรยากาศนั้นเกิดจากการรวมกันของสารเคมีหลายชนิด ยกเว้นสารใด

(1) ก๊าชแอมโมเนีย (NH3)     (2) ไอนํ้า (H20)

(3) ก๊าชมีเทน (CH4)  (4) ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ (C02)

ตอบ 4 หน้า 15 – 16 โลกมีอายุประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านปีมาแล้ว โดยระยะวิวัฒนาการทางเคมีของโลกนั้น เริ่มเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลง จนเอื้อให้อะตอมของธาตุเบา ๆ (เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน และคาร์บอน) ซึ่งปกคลุมผิวโลกอยู่ เกิดการรวมตัวกัน เป็นสารประกอบทางเคมีขึ้น อันไต้แก่ ไอนํ้า (H20) ก๊าชแอมโมเนีย (NH3) และก๊าชมีเทน (CH4) ซึ่งสารเคมีกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันเกิดเป็นชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลก และมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม ของโลกในยุคแรกเริ่มกำเนิดชีวิต

98.       สารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญที่เกิดจากการรวมกันของกรดอะมิโนคืออะไร

(1) โพลีแซกคาไรด์ (Polysaccharide) (2)นิวคลีโอ ไทด์ (Nucleotide)

(3) โปรตีน (Protein)       (4) ไขมัน (Fats)

ตอบ 3 หน้า 2040 โปรตีน (Protein) เป็นสารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ที่เกิดจากการรวมตัวกัน ของกรดอะมิโน (Amino Acid) ซึ่งประกอบขึ้นด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน (เป็นธาตุหลักในโปรตีนที่ไมพบในไลปิดและคาร์โบไฮเดรต)

99.       Saprophytism และ Parasitism เป็นวิวัฒนาการของเซลล์ในสมัยแรกเริ่ม เป็นการปรับตัวให้เหมาะสม กับสภาพแวดล้อมด้านใด

(1) ปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพอากาศที่รุนแรง (2) ปรับตัวในสภาพการขาดแคลนอาหาร

(3) ปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงศัตรู  (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 25 – 26 วิวัฒนาการของเซลล์ในสมัยแรกเริ่มนั้น เป็นการปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพ การขาดแคลนอาหาร โดยวิธีการปรับตัวของเซลล์นี้มีอยู่ 5 แบบ ได้แก่ 1. Eating 2. Saprophytism 3. Parasitism 4. Chemosynthesis 5.Photosynthesis

100.    ปฏิกิริยาชีวเคมีที่ทำให้โลกได้รับออกซิเจน แล้วบรรยากาศของโลกเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต คือ

(1) การหายใจ (Respiration)    (2) การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis)

(3) การสังเคราะห์สารประกอบเคมี (Chemosynthesis) (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 26 – 2738, (คำบรรยาย), (ดูดำอธิบายข้อ 99. ประกอบ) การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นวิธีการที่เซลล์พืชนำเอาพลังงานแสงมาใช้สร้างสารอาหารประเภท นํ้าตาลกลูโคส ด้วยปฏิกิริยาระหว่างก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์กับนํ้า และเกิดก๊าซออกซิเจน เป็นผลพลอยได้ ซึ่งจากปฏิกิริยาของกระบวนการนี้ จะช่วยทำให้ นบรรยากาศของโลกได้รับก๊าซออกซิเจนมากขึ้นจนเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และยังช่วยลด ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสภาวะโลกร้อน ในปัจจุบันอีกด้วย

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น ภาค S/2553

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเลียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1. ถ้าเอาระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์มาปรับใช้กับการแก้ปัญหา ควรจะเริ่มต้นที่ใด

(1)       พิจารณาว่าปัญหานั้นคืออะไร 

(2) ประมวลว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดปัญหานั้น

(3) หาแนวทางแก้ปัญหา         

(4) คิดหาวิธีเหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา

ตอบ 1 หน้า 2, (คำบรรยาย) กระบวนการหรือระเบียบทางวิทยาศาสตร์มี 5 ขั้นตอน คือ การเก็บ รวบรวมข้อมูล การตั้งสมมุติฐาน การสังเกต ตรวจสอบ หรือทดลอง การประมวลเป็นข้อสรุป และการสร้างทฤษฎี ซึ่งระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์นี้สามารถนำมาปรับใช้ในการแก้ปัญหา ต่าง ๆ ได้ โดยเริ่มต้นจากการพิจารณาว่าปัญหานั้นคืออะไร จากนั้นก็ประมวลว่าอะไรเป็นเหตุ ให้เกิดปัญหา แล้วต่อมาก็หาแนวทางแก้ปัญหา และคิดหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา

2.         ในความเป็นวิทยาศาสตร์นั้น ข้อใดมีน้ำหนักความสำคัญน้อยที่สุด

(1) สังเกตได้โดยมิติแห่งการรับรู้         (2) พิสูจน์กี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนกัน

(3) อาศัยความเชื่อและศรัทธาเป็นปฐม          (4) คำนึงถึงเหตุและผลเป็นหลัก

ตอบ 3 หน้า 2, (คำบรรยาย) ขอบเขตของความเป็นวิทยาศาสตร์ มีดังนี้

1.         ต้องสามารถสังเกตได้โดยมิติแห่งการรับรู้ 2. ต้องสามารถพิสูจน์ทราบได้อย่างเป็นเอกภาพในทุกเมื่อ หรือพิสูจน์กี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิม 3. วิทยาศาสตร์ยังไม่ใช่ความจริงที่สมบูรณ์แท้ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ประกอบด้วยเหตุและผลที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด

3.         สภาพของสังคมไทยที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ทั้งสื่อธรรมดาและสื่อออนไลน์ อาจกล่าวได้ว่าเป็น

(1) สังคมอุดมปัญญา (2) สังคมแห่งความเชื่อและศรัทธา

(3) สังคมที่ไร้วิจารณญาณ      (4) สังคมโลกาภิวัตน์

ตอบ2  (คำบรรยาย) สังคมแห่งความเชื่อและศรัทธา เป็นสังคมมที่ทำให้มนุษย์สมารถมีวัตถุประสงค์อุดมคติ หรือมีความเชื่อร่วมกันในบางเรื่อง มีการติดต่อสื่อสาร หรือมีการรวมกลุ่มกัน มีการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติบางสิ่งบางอย่าง และมีการจัดการระดับกลุ่ม ที่จะอาจนำไปสู่ ดวามก้าวหน้าหรือความยุ่งเหยิงในสังคมตามมาก็ได้ ซึ่งลักษณะสังคมแบบนี้จะเห็นได้จาก สภาพของสังคมไทยที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ทั้งสื่อธรรมดาและสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน

4.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายนอก หมายถึง

(1) การหายใจทางจมูก           (2) การหายใจทางปาก

(3) การหายใจโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ           (4) วิธีใดก็ได้ที่จะนำอากาศเข้าสู่ปอด

บ 1 หน้า 157 – 158, (คำบรรยาย) การหายใจหรือการแลกเปลี่ยนอากาศ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ

1.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายนอก (External Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างอากาศภายนอกกับถุงลมในปอด โดยอาศัยกลไกของ การสูดลมหายใจเข้าออกทางจมูก 2. การแลกเปลี่ยนอากาศภายใน (Internal Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าชระหว่างเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดฝอยกับเซลล์ในร่างกาย ซึ่งการหายใจทั้ง 2 ตอนนี้จะเกิดขึ้นโดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

5.         ผู้ที่สามารถผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง มีการดำรงชีพแบบใด

(1) Heterotrophic Nutrition      (2) Autotrophic Nutrition

(3) Saprophytism       (4) Macrobiotic Nutrition

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิธีการสร้างอาหารของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1.         Autotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นได้เองจากอนินทรียสารของสิ่งมีชีวิต พวกออโตทรอฟ โดยมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ Photosynthesis และ Chemosynthesis

2.         Heterotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นมาใช้เองไม่ได้ของสิ่งมีชีวิต พวกเฮเทอโรทรอฟ จึงต้องได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ Saprophytism, Parasitism และ Eating (เช่น คน และสัตว์ทั่วไป)

6.         ปกติการย่อยจะสิ้นสุดที่ใด

(1) สำไส้ใหญ่ตอนต้น  (2)ลำส้ใหญตอนกลาง           (3)สำไส้เล็กตอนกลาง            (4)ลำไส้เล็กตอนปลาย

ตอบ 4 หน้า 149152 การย่ออาหารจะเริ่มต้นที่ปาก และสิ้นสุดสมบูรณ์ที่ลำไส้เล็กตอนปลาย โดยโมเลกุลของสารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดประเภทกรดอะมิโนและน้ำตาลกลูโคสจะ ถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดเลือดฝอย (Capillary Vein) ที่แทรกอยู่ในวิลลัสของผนังลำไส้เล็ก ส่วนสารอาหารประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอลก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดน้ำเหลือง (Lacteal) ที่อยู่ในวิลลัสเช่นกัน ซึ่งการดูดซึมสารอาหารเข้าไปในหลอดเลือดและหลอดนํ้าเหลืองนี้จะเป็น ไปโดยกระบวนการออสโมชิส (Osmosis)

7.         หน้าที่หลักของน้ำดี (Bile) คือ

(1) ย่อยไขมัน  (2)       แยกไลปิด        (3)       ย้อมกากอาหาร           (4)       มีรสขม

ตอบ 2 หน้า 149, (คำบรรยาย) น้ำดี (Bile) ที่ถูกสร้างจากถุงน้ำดีที่ตับนั้นไม่จัดว่าเป็นเอนไซม์ เพราะไมใช่โปรตีนและไม่มีน้ำย่อยเป็นองค์ประกอบ จึงไม่มีหน้าที่ย่อยไลปิดหรือไขมัน แต่จะมีบทบาทหน้าที่หลักในการช่วยทำให้ไขมันแยกและคลายตัวออกจากกัน เพื่อสะดวก แกการย่อยของเอนไซม์ไลเปส

8.         อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไป จะเคลื่อนตัวต่อไปโดยอาการที่เรียกว่า

(1) Peristalsis     (2)       Epistasis  (3)       Homeostasis    (4)Ecostasis

ตอบ1 หน้า 149, (คำบรรยาย). เพอริสตาลซิส (Peristalsis) คือ การหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ แบบลูกคลื่นติดต่อกันเป็นระลอกของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังท่อทางเดินอาหาร ทำให้อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปเกิดการเคลื่อนไหลไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่จากปากจนถึงทวารหนัก

9.         เอนไซม์ที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในนํ้าลาย คือ

(1)ไลเปส         (2)อะไมเลส     (3)โปรตีนเนส  (4)       Saliva

ตอบ2  หน้า 149 น้ำลาย (Saliva) ประกอบด้วย 1. นํ้า ประมาณ 95%     2. น้ำเมือก 3. เกลือแร่ 4. เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) หรือเอนไซม์ไทยาลิน (Ptyalin) ทำหน้าที่ ย่อยคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้งให้เป็นน้ำตาลมอลโตสได้บางส่วนเป็นอันดับแรกในช่องปาก

10.       สารอาหารที่ถูกดูดซึมเข้าทางหลอดเลือดฝอยในสำไส้เล็ก คือ

(1) กรดอะมิโน (2)       กรดไขมัน         (3)กลูโคส        (4)ข้อ 1 และ 3

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

11. พืชหรือสัตว์ที่เกิดจากการตัดต่อยีนส์ เรียกว่า

(1) สิงดัดแปรทางพันธุกรรม    

(2) พันธุวิศวกรรม

(3) Genetically Modification Organisms 

(4) ข้อ 1 หรือ 3

ตอบ 1 (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (Genetically Modified Organisms : GMOs)หมายถึง พืช สัตว์ และจุลินทรีย์ ที่ถูกดัดแปลงหน่วยพันธุกรรม (DNA หรือ Gene) โดยใช้ เทคนิคทางพันธุวิศวกรรม เพื่อให์ได้ลักษณะใหม่ที่ต้องการ เช่น ต้านทานยาปราบวัชพืซ ทนต่อแมลงและไวรัส สุกงอมช้า เพิ่มคุณค่าทางอาหาร เป็นต้น

12.       ในกระบวนการเมแทบอลิชีม ธาตุที่ทำให้ก่อเกิดพลังงาน คือ

(1) ไฮโดรเจน   (2) ออกซิเจน   (3) คาร์บอน     (4) ไนโตรเจน

ตอบ 2 หน้า 147154 ในกระบวนการเมแทบอสิซึมหรือเมตาบอสิสม์ (Metabolism) ของมนุษย์นั้น จะมีธาตุที่ทำใท้ก่อเกิดพลังงานก็คือ ก๊าซออกซิเจน ซึ่งจะถูกนำไปสู่เชลล์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยสารเคมีที่อยู่ในเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่าฮีโมโกลบิน(Haemoglobin)

13.       ข้อใดมิใช่องค์ประกอบของกระบวนการเมแทบอลิซึม

(1) Nutrition      (2) Reproduction      (3) Synthesis (4)Respiration

ตอบ2 หน้า 147 กระบวนการเมแทบอลิซึม มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน คือ 1. อาหาร (Nutrition)2.กระบวนการสังเคราะห์ (Synthesis) 3. กระบวนการหายใจ (Respiration)

14.       ความมีชีวิต” วินิจฉัยได้จากกระบวนการใด

(1) Anabolism   (2)Catabolism  (3)Metabolism (4)ข้อ 1 และ 3

ตอบ 3 หน้า 147, (คำบรรยาย) กระบวนการเมแทบอลิซึม เป็นกระบวนการทางเคมีทั้งหมด ที่เกิดขึ้นภายในตัวของสิ่งมีชีวิต ซึ่งผลลัพธ์โดยรวมหรือผลลัพธ์สุดท้ายที่จะได้รับจาก กระบวนการเมแทบอลิซึม ก็ดือ การเจริญเติบโต (Growth) หรือความมีชีวิต นั่นเอง

15.       อวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ คือ

(1) ปอด           (2)       ตับ       (3)ลำไล้           (4)มดลูก

ตอบ 2 หน้า 153, (คำบรรยาย) ตับ (Liver) เป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ โดยตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพน้ำตาลกลูโคสที่เหลือใช้ในร่างกายให้รวมตัวกันเป็นแป้งไกลโคเจน (Glycogen) และเก็บสะสมไว้ในตับ ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดนํ้าตาลกลูโคสจึงสามารถดึงเอา นำตาลกลูโคสจากตับมาใช้งานได้ (โดยเปลี่ยนไกลโคเจนกลับไปเป็นกลูโคส)

16.       เลือดดีที่เตรียมส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จะออกจากหัวใจส่วนใด

(1) สองห้องซีกบน       (2)สองห้องฟากซ้าย    (3) สองห้องซีกล่าง      (4)สองห้องฟากขวา

ตอบ 2 (คำบรรยาย) หัวใจของคนมี 4 ห้อง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1.         ห้องฟากขวา 2 ห้อง ทำหน้าที่รับและส่งเลือดที่ผ่านการใช้งานจากร่างกายมาแล้วโดยห้องบนขวาจะรับเลือดใช้แล้วจากร่างกาย ส่วนห้องล่างขวาจะส่งเลือดเสียไปฟอกที่ปอด

2.         ห้องฟากซ้าย 2 ห้อง ทำหน้าที่รับและส่งเลือดดีออกไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยห้องบนซ้ายจะรับเลือดดีที่ปอดฟอกแล้ว ส่วนห้องล่างซ้ายจะส่งเลือดดีไปเลี้ยง ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

17.       หัวใจของคน สองห้องซีกบน เป็นบริเวณที่

(1) รับเลือดดี   (2)รับเลือดใช้งานแล้ว (3) ส่งเลือดออก          (4)รับเลือดเข้าหัวใจ

ตอบ 4 หน้า 152, (คำบรรยาย) หัวใจของคนแบ่งออกเป็น 4 ห้อง คือ

1. ห้องซีกบน 2 ห้อง เรียกว่า เอเตรียม” (Atrium) ซึ่งทำหน้าที่รับเลือดที่มาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ โดยไมคำนึงถึงคุณภาพของเลือด

2.         ห้องซีกล่าง 2 ห้อง เรียกว่า เวนทริเคิล” (Ventricle) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดออกจากหัวใจ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไมคำนึงถึงคุณภาพของเลือดเช่นกัน

18. ประกาศคาดการณ์ลักษณะอากาศหรือการพยากรณ์อากาศ เป็นความรู้ในสาขาวิชาใด

(1)อุทกวิทยา   (2) อุตุนิยมวิทยา         (3) ธรณีวิทยา  (4) ปฐพีวิทยา

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ หรือวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งไมมีชีวิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง หรือความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น การสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนธรณีวิทยา (แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด)อุทกวิทยา (น้ำท่วม)อุตุนิยมวิทยา (ประกาศคาดการณ์ ลักษณะอากาศ การพยากรณ์อากาศ)ดาราศาสตร์ (ท้องฟ้า ดวงดาว) เป็นต้น

19. แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์สาขาใด

(1)       วิทยาศาสตร์ชีวภาพ    (2) วิทยาศาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์ประยุกต์        (4) ข้อ 1 แสะ 3

ตอบ 3 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (Applied Science/Technology Science) เป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเรื่องราวของธรรมชาติ แล้วนำผลของความรู้นั้นไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อกิจกรรมเพื่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมสาสตร์ ศาสตร์คอมพิวเตอร์ การนำเอาพลังนั้า พลังลม พลังแสงแดด ไปแปรเป็นพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

20. การสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน นับเป็นวิทยาศาสตร์สาขาใด        

(1) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ   (2)วิทยาสาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์          (4) วิทยาศาสตร์ประยุกต์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 18. ประกอบ

21.       ความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เด็กอ่อนจนถึงวัยรุ่น จัดเป็น

(1) Differentiation 

(2) Development 

(3) Mutation     

(4) Evolution

ตอบ2  (คำบรรยาย) พัฒนาการ (Development) เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานแต่เราสามารถรู้ขั้นตอนหรือเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ เช่น การเจริญเติบโต หรือพัฒนาการตามขั้นตอนของเด็กอ่อนจนถึงวัยรุ่นหรือเด็กวัยแรกเกิดจนถึงสองขวบ โดยเริ่มตั้งแต่การควํ่า คีบ นั่ง คลาน ยืน เดิน จนกระทั่งวิ่งได้ เป็นต้น

22.       ระหว่างสสาร (Matter) กับพลังงาน (Energy) มีความจริงในข้อใดบ้าง

(1) มีปริมาณมากหรือน้อยก็ได้            (2) สสารอาจแปรรูปเป็นพลังงานได้

(3)       รับรู้ได้โดยปร ะสาทรับรู้          (4) เป็นจริงได้ทั้งสามข้อ

ตอบ 2 (คำบรรยาย) สสาร (Matter) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่มีรูปทรงหรือตัวตน สัมผัสจับต้อง รับรู้ได้โดยประสาทรับรู้ มีน้ำหนัก และต้องการที่อยู่ เช่น ดิน น้ำ ลม อากาศ ฯลฯ ส่วนพลังงาน (Energy) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่รับรู้ได้ แต่ไม่มีรูปทรงหรือตัวตน ไม่มีนํ้าหนัก และ ไม่ต้องการที่อยู่ เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ กระแสลม แม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ โดยสสารและ พลังงานนั้นสามารถแปรรูปไปมาหากันได้ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมและจำกัด

23.       การนำเอาพลังนํ้า พลังลม พลังแสงแดด ไปแปรเป็นพลังงานไฟฟ้าต้องใช้ความรู้วิทยาศาสตร์สาขาใด

(1) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ       (2) วิทยาศาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์ประยุกต์        (4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ

24.       ข้อใดไม่เป็นพลังงาน

(1) แสงสว่าง   (2)อากาศ        (3)อุณหภูมิ      (4)แม่เหล็กไฟฟ้า

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

25.       การจัดการให้สภาวะภายในร่างกายมีความคงที่สมํ่าเสมออย่างต่อเนื่องเรียกว่า เป็น

(1) ภาวะปกติสุข         (2)ภาวะธำรงดุล         (3)Homeostasis          (4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ.4 หน้า 2 – 38   เมื่อปี ค.ศ. 1851 โกลด์ แบร์นาร์ด (Claude Bernard) ได้เสนอทฤษฎีภาวะปกติสุข หรีอภาวะธำรงดุล (Homeostasis) ซึ่งเป็นการจัดการให้สภาวะภายในร่างกาย มีความคงที่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง

26.       Internal Respiration เกิดขึ้นโดยกระบวนการ

(1) Dialysis         (2)       Osmosis   (3)       Diffusion (4)Homeostasis

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

27.       การนำความรู้วิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาผสมผสานกันจนเกิดองค์ความรู้ใหม่ เรียกการศึกษาลักษณะนี้ว่า

(1) Scientific Interdependency (2) Scientific Interdisciplinary

(3) Scientific Methods       (4) Scientific International

ตอบ 1 หน้า 2, (คำบรรยาย) Scientific Interdependency เป็นลักษณะการศึกษาวิทยาการทาง วิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน ที่มีการนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาผสมผสานกันจนเกิดองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น เช่น วิชาชีวเคมี ชีวฟิสิกส์ เป็นต้น

28.       ในการเจาะเลือดเพือนำไปหาข้อมูลทางการแพทย์ ผู้ทำการจะเจาะเลือดออกจาก

(1) หลอดเลือดอาร์เทอรี (2) หลอดเลือดเวน (3) หลอดเลือดแคพิลลารี          (4) ได้ทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 152, (คำบรรยาย) หลอดเลือดที่มาติดต่อกับหัวใจมี 2 ประเภท คือ

1. หลอดเลือดเวน (Vein) ทำหน้าที่นำเลือดที่ผ่านการใช้งานแล้วจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย กลับเข้าสู่หัวใจ โดยจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมนํ้าเงิน ซึ่งแพทย์มักจะทำการเจาะเลือดจากหลอดเลือดเวนนี้เพือนำไปหาข้อมูลทางการแพทย์ ทั้งนี้เพราะมองเห็นได้ง่าย 2. หลอดเลือดอาร์เทอรี (Artery) ทำหน้าที่นำเลือดลอกจากหัวใจไปส่งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

29.       สารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดจะถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดเลือดและหลอดน้ำเหลือง โดยกระบวนการใด

(1) Osmosis        (2) Diffusion      (3) Dialysis         (4) ทั้งสามวิธี

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

30.       หลอดนํ้าเหลืองที่อยู่ภายในวิลลัส เรียกว่า

(1) Lacteal (2) Lymph (3) Node   (4) Gland

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

31.       วิชานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมวิทยา จัดเป็นศาสตร์สาขาใด

(1)       วิทยาศาสตร์กายภาพ 

(2) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 

(3) พฤติกรรมศาสตร์

(4) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Science) เป็นสาสตร์สาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์- ชีวภาพที่เน้นศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชา คีอ

1.         สังคมศาสตร์ (Social Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ วิชานิติศาสตร์ สังคมวิทยา เป็นต้น

2.         รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็นความรู้ทงพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงฐานะ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในสังคมสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

32.       ปีนี้เป็นปีเถาะ สัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ในไฟลัม (Phylum) ใด

(1) Phylum Porifera  

(2) Phylum Coelenterata

(3) Phylum Chordata         

(4) Phylum Arthropoaa

ตอบ 3 หน้า 136 – 138, (คำบรรยาย) กลุ่มสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง (Phylum Chordata)สามารถจำแนกออกตามความเจริญก้าวหน้าได้ดังนี้           1. กลุ่มปลาต่าง ๆ

2.         กลุ่มสัตว์ครึ่งบทครึ่งนํ้า เช่น กบ เขียด คางคก ฯลฯ

3.         กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น จิ้งจก เต่า งู จระเข้ ฯลฯ

4.         กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นก เป็ด ไก่ ห่าน ฯลฯ           5. กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น

ค้างคาว ตุ่นบากเป็ด สิงโต จิงโจ้ หนู กระต่าย (ปีเถาะ) วาฬ คน ฯลฯ

33.       สัตว์ชนิดใดที่สร้างสารประเภทหินปูนเกาะรวมติดกันเป็นก้อนแข็งมีลักษณะสวยงาม

(1)กะพรุน        (2) ดอกไม้ทะเล           (3) ปะการัง     (4) ไฮดรา

ตอบ 3 หน้า 131 ปะการัง (Phylum Coelenterate) เป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กมาก อาศัยอยู่ในทะเล และมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม โดยต่างก็จะสร้างสารประเภทหินปูนเกาะรวมติดกันเป็นก้อนแข็ง มีลักษณะสวยงาม ซึ่งในบริเวณที่มีสิ่งแวดล้อมเหมาะสมหมู่ของปะการังนี้จะขึ้นรวมอยู่อย่าง หนาแน่นจนอาจกลายเป็นหมู่เกาะปะการังได้

34.       สัตว์ในกลุ่มใดเริ่มมีผิวตัวประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblastica) เป็นกลุ่มแรก

(1) หนอนตัวแบน         (2) แมลง         (3) ปลาดาว     (4) กบ

ตอบ 1 หน้า 131 – 133, (คำบรรยาย) สัตว์ในกลุ่มหนอนตัวแบน (Phylum Platyhelminthes)มีลักษณะสำคัญ คือ เป็นสัตว์กลุ่มแรกที่เริ่มมีผนังสำตัวหรือผิวตัวประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblastica) มีระบบประสาท ตำแหน่งของร่างกาย ระบบการสืบพันธุ์ และ ระบบขับถ่าย ซึ่งสัตว์ในกลุ่มนี้ได้แก่ พยาธิตัวตืด และพยาธิใบไม้

35.       สัตว์ใน Phylum Chordata มีร่องที่เรียกว่า Gill อยู่ทางด้านหัว ในระยะที่เป็นตัวอ่อนทำหน้าที่สำคัญคือ

(1) เป็นทางผ่านของอาหาร     (2) การแลกเปลี่ยนก๊าซ

(3) เป็นจุดรวมของระบบประสาท       (4) ผิดทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 136 – 137 กลุ่มสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง (Phylum Chordata) มีลักษณะพิเศษเฉพาะ คือ

1.         ในระยะที่เป็นตัวอ่อน (Embryo) จะมีกลุ่มเชลล์ประกอบกันขึ้นเป็นแท่งทอดตามแนวสันหลัง เรียกแท่งนี้ว่า Notochord

2.         มีร่อง Gill อยู่ทางด้านหัว ในระยะที่ยังเป็นตัวอ่อนทำหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนก๊าช

3.         มีระบบประสาทเจริญดีมาก เส้นไขประสาททอดอยู่ตามแนวสันหลังเหนือ Notochord

36.       สัตว์ในข้อใดจัดอยู่ในไฟลัมอาร์โทรโพดา (Arthropoda)

(1)       หมึกกระดองกับหอยลาย        (2) หมึกกล้วยกับหอยแครง

(3) ตะขาบกับปลิงทะเล          (4) ปูกับเห็บ

ตอบ 4 หน้า 136 สัตว์ใน Phylum Arthropoda จะมีโครงร่างของร่างกายหรือผิวเปลือกที่หุ้มลำตัว เป็นสารอินทรีย์ประเภทไคติน (Chitin) และรยางค์ที่ยื่นออกจากลำตัวเป็นคู่ ๆ นั้นก็จะมีลักษณะเป็นข้อปล้องติดต่อกัน อีกทั้งยังมีการลอกคราบด้วย ซึ่งสัตว์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กุ้ง ปู แมลงทุกชนิด ตะขาบ เห็บ บึ้ง เป็นต้น

37.       ลักษณะใดที่จัดเป็นลักษณะของสัตว์ที่เรียกว่า ฟองนํ้า

(1) มักยึดเกาะติดอยู่กับที่เดียวตลอดเวลา     (2) ลำตัวเป็นรูพรุน

(3) ผนังลำตัวประกอบด้วยชั้นเชลล์เรียงตัวกัน 2 ชั้น (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 129 – 130, (คำบรรยาย) สัตว์ในกลุ่มฟองนํ้า (Phylum Porifeia) มีลักษณะสำคัญ คือ

1.         เป็นสัตว์ที่เกือบตลอดชีวิตมักจะยึดเกาะติดอยู่กับที่ตลอดเวลา         2. ผิวลำตัวจะเป็นรูพรุน    3.ผนังลำตัวประกอบด้วยชั้นเซลล์เรียงตัวกัน 2 ชั้น คือ เซลล์ชั้นนอกและเซลล์ชั้นใน

4.         การสืบพันธุ์มีทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ

5.         การสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศ โดยวิธีสร้างส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเพิ่มเติมขึ้นได้เอง

เรียกว่า            Power of Regeneration

38.       สิงโตจัดเป็นสัตว์อยู่ใน            Class เดียวกับสัตว์ชนิดใด

(1)       ตุ่นปากเป็ด     (2) วาฬ            (3)คน  (4)ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 32. ประกอบ

39.       สิ่งมีชีวิตในข้อใดที่มีสมมาตรของร่างกายเป็นแบบ Radial Symmetry

(1) ปลาดาว     (2) คน (3)อะมีบา        (4)แมลงวัน

ตอบ 1 หน้า 132 Radial Symmetry คือ ลักษณะสมมาตรของร่างกายซึ่งเมื่อตัดตามแนวแกนความยาวของลำตัว (Longitudinal) ไม่ว่าระนาบใด ส่วนที่ตัดออกมาจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ปลาดาว กะพรุน ฯลฯ

40.       ข้อใดคือสิ่งมีชีวิตที่จัดว่าเล็กที่สุด

(1) Mycoplasma         (2) Spirochete   (3)       Bacteria   (4)Euglena

ตอบ 1 หน้า 96 – 97 Mycoplasma (Phylum Schizophyta) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ คือ มีขนาดประมาณ 0.1 ไมครอน ดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งแบบอิสระ และแบบปรสิต

41.       อะมีบา (Amoeba) พิจารณาจากการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตจัดอยู่ในกลุ่มใดของโปรติสต์

(1) Prokaryotic protist       

(2) Animal-like protist

(3) Plant-like protist 

(4) Sime mold

ตอบ 2 หน้า 94106 โปรติสต์ที่มีลักษณะคล้ายสัตว์ (Animal-like protist) เป็นโปรติสต์เซลล์เดียว เคลื่อนไหวได้ ภายในเซลล์ไม่มีสารที่ทำให้เกิดสีจึงทำการสร้างอาหารไม่ได้ โปรติสต์พวกนี้ เรียกว่า โปรโตซัว (Protozoa) ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ไฟลัม คือ

1.         Phylum Sarcodina ได้แก่ อะมีบา (Amoeba)   

2. Phylum Sporozoa  

3. Phylum Mastigophora 

4. Phylum Ciliophora

42.       เชื้อแบคทีเรียชนิดใดทำให้เกิดโรคปอดบวม  

(1) Scarlatina angmosa   (2)Salmonella typhosa(3) Clostridium tetani (4) Diplococcus pneumoniae

ตอบ 4 หน้า 94 – 95 โรคภัยของมนุษย์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือบักเตรี (Bacteria) ได้แก่

1.         โรคปอดบวม เกิดจากชนิด Diplococcus pneumoniae และเชื้ออื่น ๆ

2.         ไข้ดำแดง เกิดจากชนิด Scarlatina anginosa        3. ไทฟอยด์ เกิดจากชนิด Salmonella typhosa 4. บาดทะยัก เกิดจากชนิด Clostridium tetani ฯลฯ

43.       เห็ดนางฟ้าจัดอยู่ในไฟลัม (Phylum) ใด

(1) Eumycophyta (2) Rhodophyta (3)Chlorophyta(4)Cyanophyta

ตอบ 1 หน้า 102 – 103 Phylum Eumycophyta เป็นโปรติสต์ที่อาจมีเพียงเซลล์เดียวหรืออยู่รวมกันเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา (Hypha) ภายในเซลล์ไม่มีสารคลอโรฟิลล์ จึงไม่อาจสร้างอาหาร โดยวิธีสังเคราะห์แสงได้จึงต้องใช้อาหารจากแหล่งอื่น โดยการดำรงชีวิตมีทั้งแบบที่หากิน อย่างอิสระและแบบที่เป็นปรสิตอาศัยอยู่ได้ทั่วไป เช่น ราดำที่ขึ้นบนขนมปัง เห็ดชนิดต่าง ๆ (เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง) เป็นต้น

44.       ปรากฏการณ์นํ้าเปลี่ยนสีเรียกว่า “Red Tide” เกิดจากอะไร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในนํ้า

(1)       โรงงานย้อมผ้าปล่อยสีออกมา

(2)       การขยายพันธุ์ของโปรโตชัว (Protozoa) อย่างรวดเร็ว

(3)       การขยายพันธุ์ของแอลจีไดโนแฟลกเจลเลท (Dmoflagellate) อย่างรวดเร็ว

(4)       การขยายพันธุ์ของแอลจีสีแดง (Red Algae)

ตอบ 3 หน้า 100 แอลจีไดโนแฟลกเจลเลท (Dinoflagellate Algae) เป็นแอลจีที่ภายในเซลล์ มีสารสีส้มแดงปนอยู่ อาศัยอยู่ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยบางชนิดสามารถขยายพันธุ์ด้วย การแบ่งเซลล์อย่างรวดเร็วและปล่อยสารพิษจากตัวออกสู่นํ้า ทำให้นํ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและ มีพิษ อันเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำอื่น ๆ อย่างยิ่ง ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้เรียกว่า Red Tide

45.       สัตว์ในกล่มใดที่มี Power of Regeneration

(1) ปะการัง     (2) ปู    (3) ฟองนํ้า       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

46.       สัตว์ชนิดใดมีโครงร่างเป็นสารอินทรีย์ประเภทไคติน (Chitin)

(1)ฟองนํ้า        (2) เต่า (3) กุ้ง  (4) หอย

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ

47.       สิ่งมีชีวิตชนิดใดจัดเป็นเนคตอน (Nekton)

(1) หอยเม่น     (2) ปลาดาว     (3) ไรนํ้าตาล    (4) ปลาฉลาม

ตอบ 4 หน้า 80, (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนํ้า แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ ๆ คือ

1.         แพลงก์ตอน (Plankton) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืชและสัตว์ มีขนาดเล็ก อาศัยและหากิน อยู่ในบริเวณใกล้ผิวหน้าน้ำ ไม่สามารถว่ายนํ้าได้ เช่น สาหร่าย สวะ ผักตบ ไรน้ำตาล ฯลฯ

2.         เนคตอน (Nekton) เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตอยู่ในเนื้อน้ำตํ่าลึกลงไปกว่าผิวน้ำ และสามารถ ว่ายน้ำได้เองโดยอิสระ เช่น วาฬ โลมา ปลาฉลาม ฯลฯ

3.         เบนธอส (Benthos) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยการเกาะยึดกับวัตถุที่อยู่ในเนื้อน้ำหรืออยู่บริเวณดินใต้ท้องน้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู ฯลฯ

48.       ข้อใดบอกถึงข้อแตกต่างของน้ำจืดและน้ำเค็มไมถูกต้อง

(1)       นํ้าเค็มมีการเปลี่ยนแบ่ลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าจืด

(2)       ปริมาณของเกลือในนํ้าจืดมีน้อยกว่าน้ำเค็ม

(3)       น้ำจืดมักมีกระแสนํ้าเชี่ยว

(4)       อุณหภูมิน้ำจืดมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ตลอดเวลา

ตอบ 1 หน้า 81 – 82 ข้อแตกต่างของนํ้าจืดและน้ำเค็ม มีดังนี้

1.         ปริมาณของเกลือในนํ้าจืดมีน้อยกว่านํ้าเค็ม 2. น้ำจืดมักมีกระแสนํ้าเชี่ยวกว่าน้ำเค็ม

3.         น้ำจืดมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าเค็ม โดยอุณหภูมิของนํ้าจืด จะมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศตลอดเวลา

49.       สิ่งแวดล้อมที่จัดเป็นด้านกายภาพ ได้แก่

(1) อุณหภูมิ     (2) แสงสว่าง   (3) น้ำเค็ม        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 79 สิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน หิน น้ำ อากาศ แสงสว่าง อุณหภูมิ ก๊าซ ฯลฯ

2.         สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น พืช สัตว์ แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ฯลฯ

50.       บริเวณไหล่ทวีปของประเทศคือบริเวณใด

(1) อ่าวไทย      (2) อ่าวฉลาม   (3) ทะเลสาบสงขลา   (4) ผิดทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 79, (คำบรรยาย) ไหล่ทวีป (Continental Shelf) เป็นแหล่งอาศัยน้ำเค็มที่มีรูปร่าง คล้ายอ่างหรือกระทะที่ลาดลงจากชายฝั่งทีละน้อย ๆ และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างอุดมสมบูรณ์มาก จึงนับว่าเป็นแหล่งอาศัยนํ้าเค็มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจด้าน การประมง เช่น บริเวณอ่าวไทย เป็นต้น

51.       สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงระดับความเค็มของน้ำบริเวณปากแม่น้ำเนื่องจากเหตุใด
(1) กิจกรรมชุมชนริมแม่น้ำ   

(2) ปริมาณน้ำจืดในช่วงฤดูฝน
(3)       การปล่อยนํ้าเสียจากโรงงาน

(4) มีคลองซอยลงสู่ทะเลตอบ 2 (คำบรรยาย) การที่บริเวณปากแม่นํ้ามีระดับความเค็มของนี้าไมคงที่นั้น ก็เป็นเพราะว่าปริมาณน้ำจืด ในชวงฤดูฝนจากต้นน้ำที่ไหลมาสมทบมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงทำให้สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของ สภาพน้ำตามไปด้วย

52.       ประเทศไทยจัดอยู่ในภูมิประเทศแบบใด

(1) เขตปาร้อนชื้น        (2) เขตปาผลัดใบ        (3) เขตป่าสน   (4) เขตทุ่งหญ้า

ตอบ1 หน้า 82 – 83, (คำบรรยาย) เขตป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าร้อนชื้น หรือป่าฝนเขตร้อน (Tropical Ram Forest) เป็นบริเวณที่อยูใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก มีความชื้นสูง มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดโดยเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 80 – 90 นิ้ว มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมกก และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น ซึ่งเขตภูมิประเทศแบบนี้จะพบมาก ในภูมิภาคเอเชียตะรันออกเฉียงใต้ (เช่น ประเทศไทย) เอเชียใต้ แอฟริกากลาง อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

53. Atmosphere คือสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับ

(1) ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์     (2) หมอก         (3) ควัน           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 8588, (คำบรรยาย) Atmosphere คือ สภาพแวดล้อมทางกายภาพของโลกในส่วนที่เป็นลมฟ้าอากาศ ซึ่งอากาศที่ห่อหุ้มโลกอยู่นี้เป็นสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามอิทธิพล ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก โดยอากาศประกอบด้วยก๊าซออกซิเจนประมาณ 20% คาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 0.03% และก๊าชไนโตรเจนประมาณ 79% นอกจากนี้ยังมีไอน้ำ หมอก ควัน และก๊าชอื่น ๆ ปะปนอยู่ด้วย

54.       ไลเคน คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่แบบ “Symbiosis” ในทางชีววิทยา ควรมีความหมายตรงกับคำพังเพยใด

(1) มือใครยาวสาวได้สาวเอา   (2) เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

(3) น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งปา            (4) เอาหูไปนาเอาตา ไปไร่

ตอบ 3 หน้า 103 – 104 ไลเคน (Lichen) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์ของแอลจีชนิดBlue-Green Algae หรือ Green Algae ฝังตัวอยู่ร่วมกับกลุ่มไมซีเลียมของฟังไจ (เชื้อรา) ซึ่งการอยู่ร่วมกันของแอลจีกับฟังไจนี้จัดเป็นการอยู่ร่วมกันแบบต่างฝ่ายให้ประโยชน์แก่กัน (Mutualistic Symbiosis) ดังคำพังเพยที่ว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

55.       ข้อใดกลาวถึงความหมายของคำว่า ประชากร” (Population) ได้ถูกต้อง

(1)       กลาวถึงประชากรของมนุษย์เท่านั้น

(2)       กลุ่มของสิ่งมีชีวิตซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

(3)       จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสังคม

(4)       สิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันในสังคมหนึ่ง

ตอบ4 หน้า 5-671, (คำบรรยาย) ประชากร (Population) ทางชีววิทยา หมายถึง กลุ่มของ สิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันในสังคมหนึ่ง ๆ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ที่อยู่ในแหล่งเดียวกัน และในช่วงเวลาที่กำหนด

56.       คำว่า ความหลากหลายทางชีวภาพ” คือ การปรากชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่บริเวณหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความหมายตรงกับข้อใด

(1) Society (2) Population  (3) Community (4) Species

ตอบ3 หน้า 672, (คำบรรยาย) ชุมชนหรือชุมชีพ (Community) หมายถึง พื้นที่บริเวณหนึ่งที่มี ความหลากหลายทางชีวภาพ” หรือมีการปรากชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิต นั้นคือ เป็นพื้นที่ที่ มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดมาอาศัยอยู่รวมกันในสภาพแวดล้อมที่เทมือนกัน เช่น สวนสัตว์ ตลาดสด สวนสาธารณะ เป็นต้น

ข้อ 57. – 60. ให้ตอบคำถามจากตัวเลือกต่อไปนี้

(1) วิตามิน A  (2) วิตามิน D (3) วิตามิน E  (4) วิตามิน K

57.       วิตามินในข้อใดช่วยป้องกันการเป็นหมัน

ตอบ3  หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันการเป็นหมัน และช่วยทำให้

ตัวอ่อนเกาะติดผนังมดลูกไได้เหนียวแน่นขึ้น ไม่ไห้แท้งง่าย นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่ เกี่ยวกับการยืดอายุเซลล์ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ของอวัยวะผลิตเซลล์เชื้อเพศ

58.       วิตามินในข้อใดช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย

ตอบ 2 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียม และฟอสฟอรัสในร่างกายสำหรับสร้างเนื้อเยื่อกระดูก ถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้จะทำให้กระดูก อ่อนโค้งงอ กระดูพรุน ฟันผุ กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยและชักกระตุก แต่ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไปจะทำให้กระดูกแกร่งและหักง่าย

59.       ถ้าขาดวิตามินในข้อใดจะทำให้โลหิตแข็งตัวช้า

ตอบ 4 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับคุณภาพ ของเลือด (โลหิต) ก็คีอ ทำให้นํ้าเลือดข้นเหนียวจนเกิดการไหลของเลือดช้าลง และทำให้เลือด แข็งตัวปิดปากแผลเพื่อป้องกันเลือดไหลออกมาภายนอกร่างกาย ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนื้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เสียเลือดมาก หรือเลือดไหลหยดช้าเมื่อเกิดบาดแผล

60.       วิตามินในข้อใด ถ้าได้รับไม่เพียงพอจะเกิดอาการตามัว มองไม่เห็นในที่แสงสลัว

ตอบ 1 หน้า 45 – 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับ สุขภาพของดวงตา และคุณภาพของการมองเห็น ซึ่งถ้าร่างกายได้รับวิตามินนื้ไม่เพียงพอ จะทำให้ ตามัวและมองไม่เห็นในที่แสงสลัว (Night Blindness)

61.       Isotonic Solution หมายถึงอะไร

(1) สารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า          

(2) สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า

(3) สารละลายที่มิความเข้มข้นเท่ากัน 

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 33 ศัพท์วิชาการที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของสารละลาย ได้แก่

1.         Hypertonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า หรือมีปริมาณของสาร มากกว่าปริมาณของนํ้า

2.         Hypotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความมเข้มข้นน้อยกว่า หรือมีปริมาณของสารน้อยทว่าปริมาณของนํ้า

3.         Isotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากัน

62.       เยื่อชนิดใดที่ยอมให้สารทุกชนิดผ่านได้

(1) Impermeable Membrane    

(2) Differentially Permeable Membrane

(3) Permeable Membrane         

(4) Semipeimeable Membrane

ตอบ 3 หน้า 33 เยื่อบาง (Membrane) แบ่งตามคุณสมบัติการยอมให้ซึมผ่านออกเป็น 3 แบบ คือ 1. Impermeable Membrane เป็นเยื่อที่ไม่ยอมให้สารใด ๆ ผ่านได้เลย 2.Semipermeable Membrane/Differentially Permeable Membrane/Selectively Permeable Membrane เป็นเยื่อที่ยอมให้สารเพียงบางชนิดผ่านได้

3.Permeable Membrane เป็นเยื่อที่ยอมให้สารทุกชนิดผ่านได้

63.       ข้อใดจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก

(1) น้าตาลมอลโตส     (2) เด็กซทริน   (3) น้าตาลกาแลคโตส (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 37 – 39, (คำบรรยาย) สารประกอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. Monosaccharide หรือ Simple Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก หรือ ที่เรียกว่านํ้าตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ นํ้าตาลกลูโคส นํ้าตาลฟรุคโตส นํ้าตาลกาแลคโตส เป็นต้น

2.         Disacchande หรือ Double Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลคู่ หรือที่เรียกว่า นํ้าตาลเชิงประกอบ ได้แก่ นํ้าตาลทราย นํ้าตาลมอลโตส นํ้าตาลแลคโตส เป็นต้น

3.         Polysaccharide เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก ได้แก่ แป้งไกลโคเจนในสัตว์ เซลลูโลส (เช่น เด็กซทริน) ไคติน เป็นต้น

64.       ข้อใดจัดเป็น Monosaccharide

(1) นํ้าตาลมอลโตส     (2) นํ้าตาลฟรุคโตส     (3) นํ้าตาลแลคโตล     (4) นํ้าตาลทราย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

65.       คารโบฮเดรต 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์ให้พลังงานความร้อนกี่กิโลแคลอรี

(1) 4.1 (2) 5.1 (3) 6.2 (4) 7.3

ตอบ 1 หน้า 39, (คำบรรยาย) ไลปิดหรือไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุดในปริมาณนํ้าหนัก ที่เท่ากันของสาร โดยไขมันจะให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต กล่าวคือ ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์แล้วจะให้พลังงานความร้อน 9.1 กิโลแคลอรี ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงานความร้อนเพียง 4.1 กิโลแคลอรี่เท่านั้น

66.       Desoxyribose Nucleic Acid มีหน้าที่อะไร

(1) ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน      (2) สร้างโปรตีน

(3) ส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโต         (4) สร้างน้ำย่อยหรือเอนไซม์

ตอบ 1 หน้า 43, (คำบรรยาย) DNA (Desoxyribose Nucleic Acid) หรือ Gene เป็นสารพันธุกรรม ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1. ก่าหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด หรือแต่ละหน่วยให้เป็นไปตามเผ่าพันธุ์ของตน และสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้น จากบรรพบุรุษไบ่สู่ลูกหลานได้ ซึ่งเหมือนกับ การหว่านหรือปลูกเมล็ดพืชชนิดใด ย่อมได้ผล เป็นพืชชนิดนั้น”  2. ควบคุมกิจกรรมทุกประเภทที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

67.       ออร์แกเนลล์ข้อใด มีหน้าที่เป็นที่เกิดกระบวนการหายใจระดับเซลล์

(1) ไลโซโซม (Lysosome)          (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโตดอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plastids)

ตอบ2  หน้า 52, (คำบรรยาย) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เป็นออร์แกเนลล์ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าของเซลล์” หรือเป็น แหล่งผลิตพลังงานให้แกเชลล์” (House of Power of the Cell) โดยจะทำหน้าที่สร้างเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการหายใจระดับเซลล์หรือเผาผลาญ อาหารเพื่อให้เกิดพลังงานแก่เซลล์ โดยเฉพาะเชลล์ที่มีกระบวนการทำงานสูง เช่น เซลล์ของตับ ไต และประสาท

68.       ออร์แกเนลล์ข้อใด ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์แสง

(1) ไลโซโซม (Lysosome)          (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plastids)

อบ 4 หน้า 53, (คำบรรยาย) พลาสติด (Plastids) เป็นออร์แกนเลล์ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสารและภายในมีสารที่ทำให้เกิดสีบรรจุอยู่ โดยเม็ดสารสีเขียวที่บรรจุอยู่ในคลอโรพลาสติด หรือคลอโรพลาสต์นั้นจะเรียกว่า คลอโรฟิลล์” (Chlorophyll) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญ ในการสังเคราะห์แสงของพืช

69.       พืชชนิดใดมีรากสังเคราะห์แสง

(1) กระบองเพชร         (2) กุหลาบ      (3) กล้วยไม้     (4) จอก

ตอบ 3 หน้า 117 รากของพืชทุกชนิดมักจะเป็นทรงกระบอก โคนใหญ่ปลายเรียวเล็กลงทีละน้อย ไม่มีข้อ ปล้อง ตา หรือใบ และไม่มีสีเขียว ยกเว้นรากสังเคราะห์แสง (Photosynthetic Root) เช่น รากกล้วยไม้ เป็นต้น

70.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Hydrophyte

(1) กุหลาบหิน (2) มะขาม       (3) บัว  (4) เสมา

ตอบ 3 หน้า 122 พืชแบ่งตามลักษณะของแหล่งกำเนิดและที่อยูอาศัยได้เป็น 5 ประเภท คือ

1.         Epiphyte หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแต่ไม่ได้เบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กล้วยไม้และเฟิร์นบางชนิด

2.         Parasite หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแล้วเบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กาฝาก ฝอยทอง ขนุนดิน ฤาษี

3.         Xerophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่แห้งแล้งและมีน้ำน้อย เช่น กุหลาบหิน กระบองเพชร เสมา โบตั๋น

4.         Mesophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่ที่มีน้ำพอสมควร เช่น มะม่วง มะขาม ทุเรียน มังคุด

5.         Hydrophyte หมายถึง พืชที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น บัว ผักบุ้ง ผักตบชวา ผักกระเฉด

71.       ใบของพืชชนิดใดที่ช่วยทำหน้าที่ขยายพันธุ

(1) กาบหอยแครง       

(2) มันเทศ       

(3) ต้นลายใบเป็น       

(4) กล้วยไม้

ตอบ3 หน้า 122 – 123 ใบของพืชมีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ การสร้างอาหาร การหายใจ และ การคายนำ นอกจากนี้แล้วใบของพืชบางชนิดยังอาจเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่อย่างอื่น ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นหน้าที่รอง หรือพืชบางชนิดอาจทำหน้าที่หลักและหน้าที่รองไปพร้อมๆ กัน หรือทำหน้าที่เดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ทำหน้าที่แพร่และขยายพันธุ์ ได้แก่ ต้นตายใบเป็น  โคมญี่ปุ่น และเฟิร์นบางชนิดเปลี่ยนแปลงไปเป็นอวัยวะจับสัตว์พวกแมลงตัวเล็ก ๆ ได้แก่ น้ำเต้าฤาษี กาบหอยแครง เป็นต้น

72.       พืชชนิดใดที่ฐานรองดอกเจริญไปเป็นเนื้อของผล

(1) แอปเปิล     (2) ทุเรียน        (3) มะม่วง       (4) ส้ม

ตอบ 1 หน้า 125 ฐานรองดอก (Receptacle) จะอยู่ที่ปลายสุดของก้านดอกเป็นส่วนสุดท้ายที่จะติดกับดอกเป็นแหล่งจ่ายอาหารไปยังอวัยวะส่วนอื่นของดอก เป็นฐานที่รองรับส่วนสร้างเซลล์เพศ ของดอกและในพืชบางชนิดอวัยวะส่วนนื้จะเจริญไปเป็นเนื้อของผล เช่น แอปเปิล

73.       พืชชนิดใดมีลำต้นแบบ Stolon

(1) บัวบก        (2) ผักบุ้ง         (3) พลู (4) ตำลึง

ตอบ1 หน้า 120 พืชที่มีลำต้นอยู่เหนือดินสามารถแบ่งตามลักษณะที่ปรากฎได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่ทอดแตะพืนเป็นระยะ ๆ (Stolon) เช่น บัวบก ผักแว่น ผักตบชวา จอก

2.         ชนิดที่ทอดราบไปตามพื้น (Prostrate) เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด

3.         ชนิดที่เกาะเกี่ยวป่ายปีนหรือเลื้อยพัน (Climber/Twinning) เช่น ตำลึง พลู พวงชมพู เถาวัลย์

4.         ชนิดที่มีลำต้นตั้งตรง (Erect Stem) เช่น สนทะเล ก้ามปู ราชพฤกษ์ มะพร้าว ตาล มะละกอ

74.       Dioecious Plant หมายถึงอะไร

(1) มีดอกสมบูรณ์เพศในต้นเดียวกัน  (2) มีดอกแยกเพศอยู่ต้นเดียวทัน

(3) มีดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน          (4) มีดอกครบสองเพศในต้นเดียวกัน

ตอบ     3 หน้า 127172 การปรากฏเพศในสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         Dioecious คือ สัตว์หรือพืชที่มีเพศแยกกันเป็นเพศผู้กับเพเมีย หรือปรากฏการมีเพศ เพียงอย่างเดียวในตัวหรือในต้น

2.         Monoecious คือ สัตว์หรือพืชที่มีการปรากฏเพศครบทั้ง 2 เพศในตัวหรือในต้นเดียวกัน

75.       Pollination หมายถึงอะไร

(1) การถ่ายละอองเกสร (2) การติดเมล็ด       (3)       การปฏิสนธิ     (4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 127 การถ่ายละอองเกสร (Pollination) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเกสรตัวผู้ ปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ถ้าเกิดในดอกเดียวกันเรียกว่า Self-Pollination หรือ Close-Pollination แต่ถ้าเกิดต่างดอกกันเรียกว่า Cross Pollination โดยการถ่าย ละอองเกสรนี้จะส่งผลท่าให้เกิดการผสมเกสร (Fertilization) ขึ้นในที่สุด

76.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Xerophyte

(1) ผักตบชวา  (2)       ทุเรียน  (3)       กุหลาบหิน       (4)       มะขาม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 70. ประกอบ

77.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Mesophyte

(1) กระบองเพชร         (2)       มะม่วง (3)       บัว       (4)       เสมา

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 70. ประกอบ

78.       พืชชนิดใดที่ใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ

(1) หวายทะนอย         (2)       หญ้าถอดปล้อง           (3)       มอสส์  (4)       เฟิร์น

ตอบ 2 หน้า 113 พืชใน Subdivision Sphenopsida จะมีลักษณะคล้ายต้นหญ้า มีข้อและปล้อง ชัดเจน ผิวลำต้นหยาบเป็นร่องยาวคล้ายลูกฟูก และใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็น วงรอบข้อ ได้แก่ หญ้าถอดปล้องหรือสนหางม้า (Horsetail)

79.       พืชชนิดใดที่ใบอ่อนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฟิกา

(1) เฟิร์น          (2) มอสส์         (3) หญ้าถอดปล้อง     (4) หวายทะนอย

ตอบ 1 หน้า 113 เฟิร์น จัดเป็นพืชใน Class Filicinae ซึ่งมีลักษณะสำคัญ คือ

1.         อาศัยนํ้าเป็นสื่อในการนำสเปิร์มว่ายเข้าไปผสมกับไข่

2.         มีอับสปอร์รวมอยู่เป็นกลุ่มจำนวนมากติดอยู่ใต้ใบ

3.         เป็นพืชที่ยังไมมีเมล็ด

4.         ช่วงชีวิตระยะ Gametophyte เป็นช่วงชีวิตอิสระที่มีอายุไม่นานนัก

5.         ใบออนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฟิกา

80.       พืชชนิดใดมีเมล็ดแต่ไมมีผนังห่อหุ้ม

(1) ปรง            (2) เฟิร์นก้านดำ           (3) จอกหูหนู    (4) สามร้อยยอด

ตอบ 1 หน้า 111115 – 116, (คำบรรยาย) พืชมีเมล็ดใน Division Tracheophyta นั้น แบงออกเป็น 2 พวก คือ

1.         พืชมีเมล็ดแต่เมล็ดไม่มีผนังห่อหุ้ม หรือพืชไม่มีดอก (Class Gymnospermae)ได้แก่ ปรง สนแท้ แปะก๊วย และเครือมะเมื่อย

2.         พืชมีเมล็ดและเมล็ดมีผนังห่อหุ้ม หรือพืชดอก (Class Angiospermae) ได้แก่ข้าว กุหลาบ พริก มะเขือ เป็นต้น ซึ่งพืชใน Class นี้นับว่าเป็นพีชที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และมีจำนวนมากที่สุดในยุคปัจจุบัน

81.       พืชใน Class ใด มีวิวัฒนาการสูงสุด

(1) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) 

(2) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

(3) คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae) 

(4) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ

82.       พืชชนิดใดมีลำต้นแบบ Prostrate

(1) ผักกระเฉด 

(2) ผักแว่น       

(3) บัวบก        

(4) พลู

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

83.       พืชชนิดใดมีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี (ไม้ข้ามปี)

(1) อ้อย           (2) ดาวเรือง     (3) หอม           (4) มันสำปะหลัง

ตอบ 3 หน้า 121 พืชสามารถแบ่งตามลักษณะของการมีอายุได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่มีช่วงอายุสั้นมาก และปีหนึ่งอาจเกิดได้หลายรุ่น (Ephemeral) เช่น ดาวเรือง บานชื่น แพงพวยฝรั่ง

2.         ชนิดที่มีวงจรชีวิตในเวลา 1 ปี หรือไม้ปีเดียว (Annual) เช่น อ้อย มันสำปะหลัง

3.         ชนิดที่มีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี หรือไม้ข้ามปี (Biennial) เช่น หอม กระเทียม ว่านต่าง ๆ

4.         ชนิดที่มีอายุนานกว่า 2 ปี หรือไม้หลายปี (Perennial) เช่น มะม่วง ทุเรียน

84.       เหตุผลในข้อใดที่ทำให้มนุษย์มีความเชื่อเกี่ยวกับการกำเนิดของชีวิตบนโลกแตกต่างกันไป

(1) เชื่อตามคัมภีร์ทางศาสนาที่ได้กล่าวไว้แล้ว            (2) มีความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาการที่เปลี่ยนไป

(3) เชื่อตามคำกล่าวของนักปราชญ์ในอดีต     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 11 เหตุผลที่ทำให้มนุษย์มีความเชื่อเกี่ยวกับการกำเนิดของชีวิตบนโลกแตกต่างกันไป คือ

1.         เชื่อตามคัมภีร์ทางศาสนาที่ได้กล่าวไว้แล้ว

2.         มีความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาการที่เปลี่ยนไป

3.         เชื่อตามคำกล่าวของนักปราชญ์ในอดีต

85.       ใครคือผู้ที่กล่าวถึงการกำเนิดของชีวิตบนโลกโดยอาศัยการทดลองทางวิทยาศาสตร์

(1) อริสใตเติล (Aristotle)          (2) เซ็นต์ ออกัสติน (Saint Augustine)

(3) อูเรและมิลเลอร์ (Urey and Miller)         (4) ทาเลส (Thales)

ตอบ 3 หน้า 14 อูเรและมิลเลอร์ (Urey and Miller) เป็นผู้ที่กล่าวถึงการกำเนิดของชีวิตบนโลก โดยอาศัยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ว่าสารอินทรีย์เกิดจากสารอนินทรีย์ โดยเอา ไอน้ำ แอมโมเนีย มีเทน แล ะไฮโ ดรเจนมารวมกัน ด้วยการใช้กระแสไฟฟ้าเข้าช่วย ทำให้ใด้ สารอินทรีย์ประเภทโปรตีนขึ้นมา

86.       การทดลองในอดีตของ Francesco Redi (ค.ศ. 1626 – 1697) โดยการใส่เนื้อลงในขวด 3 ใบที่เปิดและ ปิดฝาต่างกัน ผลปรากฏว่าขวดที่เปิดฝามีแมลงวันและหนอนบนก้อนเนื้อ เขาควรสรุปว่าอย่างไร

(1) หนอนเกิดจากเนื้อเน่า        (2) สิ่งมีชีวิตไม่ได้เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต

(3) หนอนที่พบในขวดถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า (4) ธาตุดิน นํ้า ลม ไฟ เกิดเป็นหนอนและแมลงวัน

ตอบ 2 หน้า 12 Francesco Redi (ค.ศ. 1626 – 1697) เป็นผู้พิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตไม่ได้เกิดมาจาก สิ่งไมมีชีวิต ซึ่งเขาได้ทำการทดลองโดยการใส่เนื้อลงในขวด 3 ใบที่เปิดและปิดฝาต่างกัน ผลปรากฏว่าขวดที่เปิดฝามีแมลงวันลงไปตอมเนื้อแล้วต่อมาเกิดตัวหนอนไต่บนก้อนเนื้อ เขาจึงสรุปว่าตัวหนอนเกิดมาจากไข่ของแมลงวัน เนื้อเน่าเป็นเพียงแหล่งที่ช่วยให้แมลงวัน มาวางไข่เท่านั้น แต่ผลการทดลองนี้ไม่มีผู้ใดยอมรับว่าถูกต้อง

87.       ในขั้นตอนการเกิดโลก เมื่อ 4,500 ล้านปีมาแล้ว กลุ่มก๊าซที่มีนํ้าหนักเบา เช่น ไฮโดรเจน และออกซิเจน ประกอบอยู่ที่ใด

(1) เป็นชั้นบาง ๆ ที่แกนโลก    (2) อัดตัวกันแน่นในแกนโลก

(3) เกิดปฏิกิริยากันเป็นชั้นผิวโลก       (4) ล่องลอยในชั้นบรรยากาศของโลก

ตอบ 3 หน้า 15-16 โลกมีอายุประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านปีมาแล้ว โดยลักษณะของโลก ในระยะก่อนเกิดนั้น จะเป็นกลุ่มก๊าซที่มีนํ้าหนักเบา อันประกอบขึ้นด้วยละอองรังสี และ อนุภาคของธาตุต่าง ๆ ในสภาพของอะตอม ซึ่งอะตอมที่พบมากที่สุด ได้แก่ อะตอมของ ธาตุไฮโดรเจน (H) ออกซิเจน (0) ไนโตรเจน (N) และคาร์บอน (C) โดยเมื่ออุณหภูมิของ กลุ่มก๊าซนั้นเริ่มลดลง อนุภาคหรืออะตอมจะมารวมกันเข้าเป็นโมเลกุล ทำให้กลุ่มก๊าชเหล่านั้น จับตัวแน่นมากขึ้นและเกิดปฏิกิริยากันเป็นชั้นผิวโลก

88.       การเกิดปฏิกิริยาของธาตุใดต่อไปนื้ เกิดเป็นสารประกอบเคมีประเภทมีเทน (CH4) แล้วทำให้โลกอบอุ่นขึ้น

(1) คาร์บอนและออกซิเจน      (2) ไฮโดรเจนและออกซิเจน

(3) ไฮโดรเจนและคาร์บอน      (4) ไฮโดรเจนและไนโตรเจน

ตอบ 3 หน้า 16 วิวัฒนาการทางเคมีของโลกระยะที่ 1 เมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลงจนเกิดปฏิกิริยา ทางเคมีขึ้นแล้วนั้น อะตอมของธาตุเบา ๆ จะทำปฏิกิริยาต่อกันเกิดเป็นสารประกอบทางเคมีขึ้นมา โดยอะตอมของไฮโดรเจนจะเป็นอะตอมที่ว่องไวในการทำปฏิกิริยามากที่สุด ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยา กับอะตอมของออกซิเจนจะได้เป็นไอน้ำทำปฏิกิริยากับอะตอมของไนโตรเจนจะได้ เป็นก๊าชแอมโมเนีย ทำปฏิกิริยากับอะตอมของคาร์บอนจะได้เป็นก๊าชมีเทน

89.       สารอินทรีย์ที่เกิดจากธาตุคาร์บอน (C) ทำปฏิกิริยากับธาตุอื่น ๆ แล้วพบในสิ่งมีชีวิตยุคแรกบนโลก คือ

(1) พิวรีน         (2) ไพริมิดีน     (3) กรดอะมีโน (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 17 วิวัฒนาการทางเคมีของโลกระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มเกิดสารประกอบอินทรีย์เนื่ยงจากทะเลและมหาสมุทรในระยะเริ่มแรกนั้นมีสารประกอบคาร์บอน (C) หรือสารอินทรีย์ ประเภทมีเทนเป็นจำนวนมาก มีเทนจึงเป็นสารหลักในการทำปฏิกิริยาเคมีกับธาตุหรือ สารประกอบอื่น ๆ ได้ดีที่สุด ซึ่งทำให้เกิดสารอินทรีย์ 6 ประเภท คือ นํ้าตาล กลีเซอริน กรดไขมัน กรดอะมิโน ไพริมิดีน และพิวรีน ในสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มบนโลก

90.       คุณสมบัติข้อใดที่ไม่พบในสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มบนโลก

(1) มีกระบวนการหายใจ         (2) การปรุงอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์ทางชีวะเคมี

(3) การเติบโตเพิ่มขนาดเลล์    (4) การทวีจำนวน

ตอบ 2 หน้า 24 คุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มบนโลก มีดังนี้

1. มีกระบวนการหายใจหรือแลกเปลี่ยนก๊าซ หรือเริ่มรู้จักใช้โมเลกุลของสารต่าง ๆ เป็นแหล่งให้พลังงาน

2.         นิวคลีโอโปรตีนภายในเซลล์สามารถที่จะสร้างโมเลกุลใหม่ได้ ทำให้เซลล์มีขนาดเพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นการเจริญเติบโต และมีการทวีจำนวนออกเป็นสองเซลล์เล็ก ๆ

3.         เกิดปฏิกิริยาเคมีในลักษณะใหม่ ๆ ทำให้ได้สารใหม่และคุณสมบัติผิดแปลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

91.       รูปแบบการกินอาหารของสิ่งมีชีวิตแรกเริ่ม ทำให้สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการที่ต่างกันออกไป รูปแบบ การกินอาหารดังกล่าวคือ

(1) การเกิดกระบวนการ Chemosynthesis    

(2) การเกิดกระบวนการ Photosynthesis

(3) การดำรงชีวิตเป็นปรสิต     

(4) เป็นได้ทุกกรณี

ตอบ 4 หน้า 25 – 26 รูปแบบการกินอาหารของสิ่งมีชีวิตแรกเริ่ม ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการ ที่ต่างกันออกไป คือ  

1. การดำรงชีวิตเป็นปรสิต (Parasite) 

2. การดำรงชีวิตแบบ Saprophytism 

3. การดำรงชีวิตแบบ Eating

4.         การเกิดกระบวนการ Chemosynthesis 5. การเกิดกระบวนการ Photosynthesis

92.       ลักษณะการกินอาหารแบบใดที่พบในสิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของสัตว์

(1) Saprophytism       (2) Photosynthesis    (3) Eating (4)Chemosynthesis

ตอบ 3 หน้า 26 การกิน (Eating) เป็นการปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการขาดแคลนอาหารของ สิ่งมีชีวิตเริ่มแรกที่เป็นบรรพบุรุษของสัตว์ โดยสิ่งมีชีวิตที่หาอาหารด้วยวิธีนี้จะเปลี่ยนแปลง รูปร่างหรือโครงสร้างเชลล์ เพื่อให้สะดวกแก่การกลืนกินเซลล์อื่น

93.       ปฏิกิริยาของกระบวนการทางชีวเคมีใดที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มแล้วทำให้บรรยากาศมีก๊าซออกซิเจน

(1) Decomposition    (2) Photosynthesis    (3) Respiration (4) Chemosynthesis

ตอบ 2 หน้า 26 – 2738, (คำบรรยาย) การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่เซลล์พืชนำเอาพลังงานแสงมาใช้สร้างสารอาหารประเภทนํ้าตาลกลูโคส ด้วยปฏิกิริยาระหว่างก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์กับนํ้า และเกิดก๊าชออกซิเจน เป็นผลพลอยได้ ซึ่งจากปฏิกิริยาของกระบวนการนี้ จะช่วยทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกได้รับ ก๊าชออกซิเจนมากขึ้นจนเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และยังช่วยลดปริมาณก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ในบรรยากาศที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสภาวะโลกร้อนในปัจจุบันอีกด้วย

94.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดในโปรโตพลาสม์ พบในสิ่งมีชีวิตพวกใด

(1) ในสัตว์ชั้นสูง          (2) ในพวกพืชทั่วไป

(3) สิ่งมีชีวิตชั้นตํ่าประเภทเซลล์เดียว (4) พบในสิ่งมีชีวิตทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 3 หน้า 195 – 196, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำประเภทเซลล์เดียว (เช่น พวกโปรติสตา) จะเกิดขึ้นพร้อมกันในก้อนโปรโตพลาสม์ ส่วนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าใน สัตว์ชั้นสูงและในพืชทั่วไปนั้น จะมีโครงสร้างหรืออวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากกัน

95.       งูกะปะรับสัญญาณของเหยื่อโดยอาศัยหน่วยรับความรู้สึกที่เกี่ยวกับอุณหภูมิ เรียกหน่วยรับความรู้สึกนั้นว่า

(1) Chemoreceptor (2) Phonoreceptor (3) Thermoreceptor (4) Pressoreceptor

ตอบ 3 หน้า ใ96 ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) นั้น มีอวัยวะที่เป็นหน่วยรับความรู้สึก ได้แก่

1.         Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนแหรือเย็น (อุณหภูมิ) ได้แก่ ผิวหนัง

2.         Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น และจมูก

5.         Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

96.       นายดำเป็นนักโทษหนีคดี เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรู้ว่าตนเองต้องโดนจับ แต่นายดำยืนนิ่ง เหมือนคนทำอะไรไม่ถูก นายดำน่าจะขาดกระบวนการใดในการตอบสนองต่อสิ่งเร้า

(1) กระบวนการรับความรู้สึก (Reception) (2)   กระบวนการตอบโต้ (Effect)

(3)กระบวนการนำความรู้สึก (Conduction) (4)กระบวนการแปลความหมายและสั่งการ (Modulation)

ตอบ 2 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบกล้ามเนื้อเซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน โดยการที่ Motor Neuron จะส่งกระแสคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนอง หรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับแหล่งรับความรู้สึกทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจของนักโทษหนีคดี เป็นต้น

97.       การพรางตัวของสิ่งมีชีวิตพวกผีเสื้อให้มีสีเหมือนวัตถุที่เกาะอาศัย เกิดประโยชน์กับผีเสื้อด้านใดมากที่สุด

(1) จับเหยื่อพวกแมลงเป็นอาหาร       (2) หลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อของผู้ล่า

(3) เพื่อความสวยงามดึงดูดเพศตรงข้าม         (4) ขับไล่ศัตรู

ตอบ2 หน้า 228 – 230 การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ

1.         เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น นกกระยางมีนิ้วเท้ายาวเหมาะแกการทรงตัว,

เหยี่ยวมีนิ้วเท้าและกรงเล็บงองุ้มเหมาะแกการจับยึดเหยื่อไก่มีเล็บเท้าใหญ่และแข็ง เหมาะแก่การคุ้ยเขี่ย เป็นต้น

2.         เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจากศัตรู เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่นการมีสีคล้ายเปลือกไม้ ของผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

98.       การเบนหาแสงของยอดพืชเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยมีฮอร์โมนใด

(1) ไคนิน (Kinin)    (2) ออกซิน (Auxin)

(3) จิบเบอเรลลิน (Gibberellin) (4) อินซูลิน (Insulin)

ตอบ 2 หน้า 199 ออกซิน (Auxin) เป็นฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งฮอร์โมนนี้พืชจะสร้างจากปลายยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากในลักษณะที่หนีแสงสว่าง ทำให้พืช เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหรือมีพฤติกรรมการตอบสนองโดยการที่ยอดพืชจะโค้งหรือ เบนเข้าหาแสง ล่วนรากพืชจะเบนหนีแสง

99.       เดนไดรต์” คือส่วนหนึ่งของเซลล์ประสาท มีหน้าที่

(1) ส่งกระแสความรู้สึกออกจากเซลล์ประสาท           (2) รับกระแสความรู้สึกเข้าสู่เชลล์ประสาท

(3) ผลิตสารสื่อประสาท          (4) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาททุกส่วน

ตอบ 2 หน้า 64197 เซลล์ประสาท (Nerve Cell) แต่ละเซลล์ประกอบด้วย

1.         ตัวเซลล์ประสาท (Cell Body)

2.         แอ็กซอน (Axon) ทำหน้าที่ส่งกระแสความรู้สึกและคำสัง่ออกจากตัวเซลล์ประสาท

3.         เดนไดรต์ (Dendrite) ทำหน้าที่รับกระแสความรู้สึกเข้าสู่ตัวเซลล์ประสาท

4.         เอนด์ เพลต (End Plate) เป็นเส้นใยละเอียดจำนวนมากที่แผ่อยู่ที่ปลายกิ่งแขนงของ เซลล์ประสาท ทำหน้าที่เป็นตัวเกาะเกี่ยวประสานกับเอนด์ เพลต ของเซลล์ประสาทอื่น ๆ

100.    การยืนยันการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกที่ศึกษาได้จากฟอสซิล ควรเป็นไปในลักษณะใด

(1)       เปรียบเทียบลักษณะการกำเนิดของอวัยวะรยางค์ชองสัตว์มีกระดูกสันหลัง

(2)       เปรียบเทียบจากองค์ประกอบของสารเคมีในเซลล์

(3)       ศึกษาจากการทดลองผสมสายพันธุ์ใหม่

(4)       ศึกษาจากซากสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน

ตอบ 4 หน้า 213 หลักฐานเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         หลักฐานโดยตรงจากการศึกษาซากของสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน หรือที่เรียกว่า ฟอสชิล (Fossil)

2.         หลักฐานจากการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตในยุคบัจจุบัน ในแงรูปร่าง โครงสร้าง พัฒนาการ และลักษณะการทำงานของอวัยวะในสิ่งมีชีวิต

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น ภาค 1/2554

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO1001  ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การเปลี่ยนแปลงในลักษณะใดที่ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับการกำเนิดของชีวิตของผู้คนในอดีตถึงปัจจุบันมีความแตกต่างกันมากที่สุด   

(1) สิทธิพลความเชื่อด้านศาสนาที่เปลี่ยน

(2)ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์          

(3) เกิดสงครามระหว่างประเทศ         

(4) การเมืองเปลี่ยนขั้ว

บ 2 หน้า 11 ในสมัยที่มนุษย์ยังมีความเชื่อในอิทธิปาฏิหาริย์ และในสมัยที่ศาสนามีอิทธิพลต่อ อารยธรรมและสังคมมาก นักศาสนามักอ้างคัมภีร์ในศาสนาว่า การกำเนิดของชีวิตต่าง ๆ นั้น เกิดมาจากการเสกสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า ต่อมาเมื่อมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น มนุษย์ได้พิจารณาธรรมชาติอย่างพินิจพิเคราะห์และมีเหตุผลมากขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้ความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องการกำเนิดของชีวิตของผู้คนในอดีตถึงปัจจุบันมีความแตกต่างกันมากที่สุด

2.         ท่านคิดว่า วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกที่ถูกต้องที่สุดควรเป็นข้อใด

(1)       อะตอมของธาตุไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน และคาร์บอน รวมตัวเป็นกลุ่มก๊าชห่อหุ้มโลก

(2)       เกิดกระบวนการทางชีวเคมี โดยสารประกอบ C02 ทำปฏิกิริยากับ H20 ได้ 02 สู่บรรยากาศ

(3)       เกิดการรวมตัวของสารประกอบพวกโปรตีนเป็นหน่วยของสิ่งมีชีวิต เรียกว่า เซลล์

(4)       เกิดการสลายสารอินทรีย์โดยปฏิกิริยาเคมีที่เรียกว่า Chemosynthesis

ตอบ 1 หน้า 15 – 16 วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกเมื่อประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านปี มาแล้วนั้น ลักษณะของโลกในระยะก่อนเกิดจะเป็นกลุ่มก๊าซที่มีนํ้าหนักเบาอันประกอบขึ้นด้วย ละอองรังสี และอนุภาคของธาตุต่าง ๆ ในสภาพของอะตอม ซึ่งอะตอมที่พบมากที่สุด ได้แก่ อะตอมของธาตุไฮโดรเจน (H) ออกซิเจน (0) ไนโตรเจน (N) และคาร์บอน (C) โดยเมื่อ อุณหภูมิของกลุ่มก๊าซนั้นเริ่มลดลง อนุภาคหรืออะตอมจะมารวมกันเข้าเป็นโมเลกุล ทำให้กลุ่มก๊าซเหล่านั้นจับตัวแน่นมากขึ้นและเกิดปฏิกิริยากันเป็นชั้นผิวห่อหุ้มโลก

3.         ข้อใดไมใช่สารเคมีที่เกิดจากการรวมตัวกันของธาตุต่าง ๆ ในยุคแรกเริ่มของการกำเนิดโลก

(1)       ก๊าซมีเทน (CH4)        (2) ไอน้ำ (H20)          (3) ก๊าซแอมโมเนีย (NH3) (4) ก๊าซไข่เน่า (H2S)

ตอบ 4 หน้า 16 วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกระยะที่ 1 เมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลงจนเกิด ปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นแล้วนั้น อะตอมของธาตุเบา ๆ จะทำปฏิกิริยาต่อกันเกิดเป็นสารประกอบ ทางเคมีขึ้นมา โดยอะตอมของไฮโดรเจนจะเป็นอะตอมที่ว่องไวในการทำปฏิกิริยามากที่สุด ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับอะตอมของออกซิเจนจะได้เป็นไอนํ้า (H20)ทำปฏิกิริยากับอะตอมของ ไนโตรเจนจะได้เป็นก๊าซแอมโมเนีย (NH3)ทำปฏิกิริยากับอะตอมของคาร์บอนจะได้เป็น ก๊าชมีเทน (CH4)

4.         ธาตุใดเป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตในยุคแรก ตามข้อเสนอของ A.I. Oparin (ค.ศ. 1936)

(1)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (0)

(2)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), ซิลิคอน (Si) และออกซิเจน (0)

(3)       ไฮโดรเจน (H), ซัลเฟอร์ (S)คาร์บอน (C) และไนโตรเจน (N)

(4)       ไฮโดรเจน (H), ออกซิเจน (0). คาร์บอน (C) และไนโตรเจน (N)

ตอบ 1 หน้า 14 นักวิทยาศาสตร์ J.B.S. Haldane (ค.ศ. 1924), R. Beutncr (ค.ศ.1929) และ A.I. Oparin (ค.ศ. 1936) ได้กล่าวไว้ทำนองเดียวกันว่า สิ่งมีชีวิตประกอบขึ้นด้วย สารอินทรีย์ ซึ่งต้องมีธาตุคาร์บอน (C) ไนโตรเจน (N) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (0) ประกอบอยู่ ทำให้เชื่อว่าโลกในสมัยแรกในขณะหนึ่งนั้นจะมีภาวะเหมาะสมที่จะทำให้ธาตุทั้ง 4 นี้ มาประกอบรวมกันได้ แล้วกลายเป็นสารอินทรีย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต

5.         นิวคลีโอโปรตีนมีคุณสมบัติของการเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะเหตุผลใด

(1)       มีการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ขาดอาหาร    (2) มีการเติบโตเพื่อเพิ่มขนาดของเซลล์

(3)       มีการสืบพันธุ์หรือทวีจำนวน    (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 21, (ค่าบรรยาย) ทฤษฎีกำเนิดชีวิต อธิบายว่า นิวคลีโอโปรตีน (Nucleoprotein)ที่เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างโปรตีนกับกรดนิวคลีอิกนั้น ถือเป็นสารอินทรีย์ที่เริ่มแสดงถึง คุณสมบัติแรกสุดของการเป็นสิ่งมีชีวิต คือ มีความสามารถในการเพิ่มจำนวนโมเลกุลใหม่ ให้มีลักษณะเหมือนโมเลกุลเดิมได้โดยไม่ต้องเกิดปฏิกิริยาเคมี หรือที่เรียกว่า การสืบพันธุ์ หรือการทวีจำนวน

6.         การย่อยอาหารของมนุษย์เริ่มต้นที่

(1)ปาก            (2) กระเพาะอาหาร (3) ลำไส้เล็ก        (4) ลำไส้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 149152 การย่อยอาหารของมนุษย์จะเริ่มต้นที่ปาก และสิ้นสุดสมบูรณ์ที่ลำไส้เล็กตอนปลาย โดยโมเลกุลของสารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดประเภทกรดอะมิโนและนํ้าตาลกลูโคส จะถูกดูดซึมเข้าสูหลอดเลือดฝอย (Capillary Vein) ที่แทรกอยู่ในวิลลัสของผนังลำไส้เล็ก ส่วนสารอาหารประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอลก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดน้ำเหลีอง (Lacteal) ที่อยู่ในวิลลัสเช่นกัน ซึ่งการดูดซึมสารอาหารเข้าไปในหลอดเลือดและหลอดนํ้าเหลืองนี้ จะเป็นไปโดยกระบวนการออสโมซิส (Osmosis)

7.         เรื่องเกี่ยวกับน้ำดี (Bile) คือ

(1) ทำให้ไลปิดคลายตัวออกจากกัน    (2) มักมีรสขม

(3) ย้อมกากอาหารให้มีสีเหลือง          (4) ถูกทุข้อ

ตอบ 4 หน้า 149, (ค่าบรรยาย) น้ำดิ (Bile) ที่ถูกสร้างจากถุงน้ำดีที่ตับมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.         น้ำดีไม่ถือว่าเป็นเอนไซม์ แต่จะมีหน้าที่หลักในการช่วยทำให้ไลปิดหรือไขมันคลายตัว ออกจากกัน เพื่อสะดวกแกการย่อยของเอนไซม์ไลเปส

2.         เป็นสารสีเหลืองเข้ม มักมีรสขม 3. ย้อมกากอาหารที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ให้มีสีเหลือง

8.         เยื่อบุทรงสูงที่บุผนังลำไส้เล็กด้านใน เรียกว่า

(1) วิลไล          (2) แล็กทีล      (3) หลอดเลือดฝอย     (4) อาร์เทอรี

ตอบ 1 หน้า 152, (ค่าบรรยาย) วิลลัส (Villus) เป็นส่วนของเยื่อบุทรงสูงที่บุผนังลำไส้เล็กด้านใน มีลักษณะคล้ายนิ้วมือยื่นออกมาเป็นเส้นเล็ก ๆ ซึ่งเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นจำนวนมาก จะเรียกว่า วิลไล (Villi)

9.         อวัยวะภายในที่มีฃนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายของมนุษย์ คือ

(1) ปอด           (2) กระเพาะอาหาร (3) ตับ     (4) มดลูก

ตอบ 3 หน้า 153, (คำบรรยาย) ตับ (Liver) เป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ โดยในภาวะปกติตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพนํ้าตาลกลูโคสให้เป็นแป้งไกลโคเจน (Glycogen) และเก็บสะสมไวัในตับ เมื่อร่างกายขาดนํ้าตาลกลูโคสก็สามารถดึงเอานํ้าตาลกลูโคสจากตับ มาใช้งานได้ (โดยเปลี่ยนไกลโคเจนกลับไปเป็นกลูโคส) แต่ถ้าร่างกายมีปริมาณของนํ้าตาลกลูโคส อยู่มากจนเกินความจำเป็นที่ต้องใช้ กลูโคสเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนโครงสร้างให้ไปเป็นไขมัน เก็บสะสมไวัในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

10.       การออกหาอาหารเลี้ยงชีพ เป็นการดำรงชีวิตแบบ     

(1) Autotrophic Nutrition(2)        Heterotrophic Nutrition

(3) Parasitism    (4) Saprophytism

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิธีการสร้างอาหารเพื่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ1.     Autotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นได้เองจากอนินทรียสารของสิ่งมีชีวิต พวกออโตทรอฟ โดยมีอยู่ 2 วิธี ไดแก่ Photosynthesis และ Chemosynthesis

2.         Heterotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นมาใช้เองไม่ได้ของสิ่งมีชีวิตพวกเฮเทอโรทรอฟ จึงต้องออกหาอาหารเลี้ยงชีพหรือได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ Saprophytism, Parasitism และ Eating (เช่น คน และสัตว์ทั่วไป)

11.       ปกติการย่อยจะสิ้นสุดที่ใด

(1)       ลำไส้เหญตอนต้น       

(2) ลำไส้ใหญ่ตอนกลาง 

(3) ลำไส้เล็กตอนกลาง

(4) ลำไส้เล็กตอนปลาย

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

12.       กลุ่มอวัยวะที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับอาหาร เรียกว่า          

(1) Digestive Tract

(2) Alimentary Tract     

(3) Alimentary System      

(4) Digestive System

อบ 2 (คำบรรยาย) ในกระบวนการกินอาหาร (Nutrition) จะประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ที่มาร่วมกันทำหน้าที่เกี่ยวกับอาหาร ซึ่งรวมเรียกร่า ท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary Tract) โดยเริ่มต้น จากปาก หลอดคอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ จนถึงทวารหนัก และหากอวัยวะเหล่านี้มีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบก็จะเรียกว่า ระบบท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary System)

13.       อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไป จะเคลื่อนตัวต่อไป โดยอาการที่เรียกร่า

(1)       Peristalsis         (2)       Epistasis  (3)       Homeostasis    (4)       Ecostasis

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) เพอริสตาลซิส (Peristalsis) คือ การหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ แบบลูกคลื่นติดต่อกันเป็นระลอกของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังท่อทางเดินอาหาร ทำให้อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปเกิดการเคลื่อนไหลไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่จากปากจนถึงทวารหนัก

14.       เอนไซม์ที่เป็นองค์ประกอบในน้ำลาย คือ

(1)       ไลเปส  (2)       อะไมเลส         (3)       โปรตีนเนส       (4)       Saliva

ตอบ 2 หน้า 149 น้ำลาย (Saliva) ประกอบด้วย    1. นํ้า ประมาณ 95%  2. นํ้าเมือก 3.เกลือแร่ 4. เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) หรือเอนไซม์ไทยาลิน (Ptyalin) ทำหน้าที่ ย่อยคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้งให้เป็นนํ้าตาลมอลโตสได้บางส่วนเป็นอันดับแรกในช่องปาก

15.       การย่อยอาหารจนได้เป็นโมเลกุลพื้นฐาน เป็นกระบวนการ

(1)       Anabolism        (2)       Catabolism       (3)       Analysis   (4)       Synthesis

ตอบ 2 หน้า 147153, (คำบรรยาย) กระบวนการเมตาบอลิซึมหรือกระบวนการเมตาบอลิสม์(Metabolism) เป็นกระบวนการทำงานเพื่อให้มีการดำรงชีวิต หรือเป็นกระบวนการทางเคมี ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในตัวของสิ่งมีชีวิต ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         Anabolism เป็นกระบวนการสังเคระห์ (Synthesis) ที่นำเอาสารโมเลกุลขนาดเล็กมา ประกอบรวมกันให้เกิดเป็นสารใหม่ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ขึ้น เช่น การแปรรูปโมเลกุลของกลูโคสให้เป็นแป้งไกลโคเจน ฯลฯ

2.         Catabolism เป็นกระบวนการที่ทำให้สารต่าง ๆ ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่แยกสลายได้เป็น สารโมเลกุลขนาดเล็กพื้นฐาน เช่น การย่อยโปรตีนจนได้เป็นกรดอะมิโน ฯลฯ

16.       การแปรรูปโมเลกุลของกลูโคสให้เป็นแป้งไกลโคเจน เป็นกระบวนการ

(1)       Anabolism        (2) Synthesis     (3) Analysis        (4) ข้อ 1 และ 2

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 15. ประกอบ

17.       เลือดคุณภาพดีที่ผ่านการฟอกจากปอด จะเข้ามาที่ห้องหัวใจส่วนใด

(1) ห้องบนขวา            (2) ห้องล่างขวา           (3) สองห้องฟากขวา   (4) สองห้องฟากซ้าย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) หัวใจของคนมี 4 ห้อง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1.         ห้องฟากขวา 2 ห้อง ทำหน้าที่รับและส่งเลือดที่ผ่านการใช้งานจากร่างกายมาแล้วโดยห้องบนขวาจะรับเลือดใช้แล้วจากร่างกาย ส่วนห้องล่างขวาจะส่งเลือดเสียไปฟอกที่ปอด

2.         ห้องฟากซ้าย 2 ห้อง ทำหน้าที่รับและส่งเลือดดีออกไปส่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยห้องบนซ้ายจะรับเลือดดีที่ผ่านการฟอกจากปอดแล้ว ส่วนห้องล่างซ้ายจะส่งเลือดดี ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

18.       การเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจทางการแพทย์ จะดูดเลือดจากหลอดเลือดใด

(1) อาร์เทอรี     (2) เวน (3) หลอดเลือดฝอย     (4) เอออร์ตา

ตอบ 2 หน้า 152, (คำบรรยาย) หลอดเลือดที่มาติดต่อกับหัวใจมี 2 ประเภท คือ

1.         หลอดเลือดเวน (Vein) ทำหน้าที่นำเลือดที่ผ่านการใช้งานแล้วจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย กลับเข้าสู่หัวใจ โดยจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมนํ้าเงิน ซึ่งแพทย์จะทำการดูดเลือดจา หลอดเลือดเวนนี้เพื่อนำไปตรวจหรือหาข้อมูลทางการแพทย์ ทั้งนี้เพราะมองเห็นได้ง่าย

2.         หลอดเลือดอาร์เทอรี (Artery) ทำหน้าที่นำเลือดออกจากหัวใจไปส่งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

19.       ส่วนใดของหัวใจที่ทำหน้าที่รับเลือดจากอวัยวะอื่น

(1)       สองห้องซีกบน            (2) สองห้องซีกล่าง      (3) สองห้องฟากขวา   (4) สองห้องฟากซ้าย

ตอบ 1 หน้า 152, (คำบรรยาย) หัวใจของคนแบ่งออกเป็น 4 ห้อง คือ

1.         ห้องซีกบน 2 ห้อง เรียกว่า เอเตรียม” (Atrium) ซึ่งทำหน้าที่รับเลือดจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ โดยไมคำนึงถึงคุณภาพของเลือด

2.         ห้องซีกลาง 2 ห้อง เรียกว่า เวนทริเคิล” (Ventricle) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดออกจากหัวใจ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของเลือดเช่นกัน

20.       การหายใจเกิดจากการทำงานของ    

(1) ปอด(2)      กะบังลม         (3) กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครง            (4) ข้อ 2 และ 3 ร่วมกัน

ตอบ 4 หน้า 157, (คำบรรยาย) การหายใจเข้า-ออก หรือการพอง-แฟบของปอดในมนุษย์นั้นเกิดจากการทำงานร่วมกันของกะบังลมกับกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครง โดยร่างกายจะมีลักษณะ อาการดังนี้

1.         ขณะที่หายใจเข้า กะบังลมจะหดตัวแบนราบลง และกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงหดตัว ทำให้ช่องอกขยายขนาดและปอดพองตัวขึ้น

2.         ขณะที่หายใจออก กะบังลมจะหย่อนโค้งขึ้น และกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงผ่อนคลายตัวลง ทำให้ช่องอกลดขนาดและปอดยุบแฟบลง

21.       การสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาปิดบาดแผลในสัตว์ชั้นสูง เกิดจากการแบ่งเชลล์แบบ

(1) ไมโทซิส      

(2) ไมโอชิส      

(3) การแยกชิ้นส่วนย่อย 

(4) พาทีโนจีนีซิส

ตอบ 1 หน้า 167, (คำบรรยาย) การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis) เป็นการแบ่งเชลล์เพื่อสร้างเซลล์ทั่วไปให้เพิ่มทวีจำนวนเพื่อการเจริญเติบโตและซ่อมแชมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เช่น การสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาปิดปากแผล เป็นต้น ซี่งการแบ่งเซลล์แบบนี้จะพบในสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ที่ประกอบด้วยเซลล์หลายเซลล์

22.       การตัดเอากิ่งตอนพันธุ์อ้อย มันสำปะหลัง ไปปักชำในไร่ เป็นการขยายพันธุ์แบบใด

(1) Regeneration       (2) Budding       (3) Parthenogenesis (4) Fragmentation

ตอบ    หน้า 9167, (คำบรรยาย) การแยกชิ้นส่วนย่อย (Fragmentation) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ส่วนของร่างกาย ตัวตน หรือต้นของสิ่งมีชีวิตนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนย่อย หรือเป็นท่อน ๆ โดยแต่ละชิ้นส่วนย่อยจะมีความสามารถเจริญเป็นสิ่งมีชีวิตหน่วยหรือต้นใหม่ของตนที่สมบูรณ์เหมือนเดิม ซึ่งจะพบในสิ่งมีชีวิตหลายเชลล์เทานั้น เช่น การตัดเอากิ่งท่อนพนธุ์อ้อยและมันสำปะหลั งไปปักชำในไร่ การตอนกิ่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การโคลนนิ่ง เป็นต้น

23.       การเติบโตเป็นผลไม้โดยไม่มีการผสมพันธุ เช่น กล้วยหอม องุ่นไร้เมล็ด เป็น

(1) Parthenogenesis (2) Fragmentation    (3) Regeneration       (4) Sporulation

ตอบ1 หน้า 175 Parthenogenesis เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ไข (เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย) สามารถจะเจริญเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตหรือเป็นผลไม้ขึ้นมาได้เอง โดยไม่ต้องได้รับการผสมพันธุ์ จากเซลล์เพศผู้ หรือกส่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นการได้ลูกหรือผลจากไข่ที่ไม่ได้รับการผสมเชื้อเพศผู้ ซึ่งตัวอย่างที่พบเห็นเป็นประจำ เช่น มด ผึ้ง ปลวก องุ่น กล้วย เป็นต้น

24.       การสืบพันธุ์ที่ได้รุ่นลูกจำนวนมากในเวลาเดียวกัน คือ การสืบพันธ์แบบ

(1) Cloning         (2) Sporulation (3) Regeneration       (4) Fragmentation

ตอบ 2 หน้า 9167, (คำบรรยาย) การสร้างสปอร์ (Sporulation) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการสร้างสปอร์เล็ก ๆ จำนวนมากให้ปลิวไปตกในสถานที่ที่มีอากาศอับ ร้อน ชื้น และอุณหภูมิ พอเหมาะเพื่องอกเจริญเป็นหน่วยชีวิตใหม่ที่เหมือนหน่วยชีวิตเดิม การสืบพันธุแบบนื้จะทำให้ ได้รุ่นลูกจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น เห็ด รา เป็นต้น

25.       ช่วงอายุของมนุษย์ที่ยังสามารถมีลูกได้ เรียกว่า

(1) วัยฉกรรจ์   (2) วัยเจริญพันธุ์         (3) วัยหนุ่มสาว            (4) วัยมีบุตร

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วัยเจริญพันธุ์ คือ ช่วงอายุของมนุษย์ที่ยังสามารถมีลูกได้ โดยผู้ชายจะมี วัยเจริญพันธุ์นานกว่าผู้หญิง กล่าวคือ วัยเจริญพันธุ์ของผู้ชายจะเริ่มตั้งแต่มีการสร้าง เซลล์เชื้อเพศเป็นครั้งแรกจนกระทั่งตาย ส่วนวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงนั้นจะเริ่มตั้งแต่มีการ สร้างเลือดประจำเดือนออกมาเป็นครั้งแรก และสิ้นสุดลงเมื่อมีเลือดประจำเดือนครั้งสุดท้าย

26.       หลักการของการแลกเปลี่ยนอากาศ คือ

(1) การนำเอาออกซิเจนเข้าไปสู่เซลล์  (2) ถ่ายคาร์บอนไคออกไซด์ออกจากเซลล์

(3)       ส่งอาหารและแร่ธาตุให้แก่เซลล์          (4) ข้อ 1 และ 2 ร่วมกัน

ตอบ 4 หน้า 31 – 32157, (คำบรรยาย) การแลกเปลี่ยนอากาศหรือการหายใจ (Respiration) เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าชระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยมีหลักการก็คือ การนำเอาก๊าชออกซิเจนเข้าไปสู่เซลล์ และถ่ายก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์โดย อวัยวะต่าง ๆ ของระบบหายใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

27.       ความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ เรียกว่า

(1) รัฐศาสตร์   (2) รัฐประศาสนศาสตร์ (3) สังคมศาสตร์       (4) พัฒนบริหารศาสตร์

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Science) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ชีวภาพที่เน้นศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชา คือ

1.         สังคมศาสตร์ (Social Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ วิชานิติศาสตร์ สังคมวิทยา เป็นต้น

2.         รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงฐานะ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในสังคมสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

28.       ข้อใดเป็น พลังงานสะอาด

(1) พลังงานจากแสงอาทิตย์   (2) พลังงานจากลม

(3)       พลังงานจากความร้อนใต้พิภพ            (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พลังงานสะอาด (Green Energy) คือ พลังงานที่ไม่มีวันหมดและเป็นแหล่งพลังงานทีไม่เป็นมลพิษ พลังงานสะอาดประกอบด้วยกระบวนการที่ใช้พลังงานจากธรรมชาติ และเป็นกระบวนการที่สามารถควบคุมให้มีมลพิษเพียงเล็กน้อย ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานนํ้า เป็นต้น

29.       ข้อใดเป็น พลังงานทดแทน

(1) ไบโอดีเซล  (2) เอทานอล   (3) แก๊สชีวภาพ           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พลังงานทดแทน (Alternative Energy) คือ พลังงานที่นำมาใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเป็นพลังที่สะอาด ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งพลังงาน ที่มีอยูในท้องถิ่น ได้แก่ พลังงานไบโอดีเชล พลังงานเอทานอล พลังงานชีวภาพ แก๊สโซฮอล์ เป็นต้น

30.       ข้อใดเป็น กระบวนการ” (Process)

(1) ปลูกบ้าน   (2) ซักผ้า         (3) หุงข้าว        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ4  (คำบรรยาย) กระบวนการ (Process) หมายถึง การกระทำที่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน และมีระเบียบแบบแผนที่แน่นอน เช่น การเรียนรู้ การปลูกบ้าน การซักผ้า การหุงข้าว การขับรถ ฯลฯ

31.       การมีอวัยวะเพศครบสองเพศในต้นหรือตัวเดียวกัน เรียกว่า 

(1) Monoecious       

(2)Protandrous Hermaphodite  

(3) Dioecious    

(4) Polygamous

ตอบ1 หน้า 127172 การปรากฏเพศในสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         Dioecious คือ สัตว์หรือพัชที่มีเพศแยกกันเป็นเพศผู้กับเพศเมีย หรือปรากฏการมีเพศเพียงอย่างเดียวในตัวหรือในต้น

2.         Monoecious คือ สัตว์หรือพืชที่มีการปรากฎเพศครบทั้งสองพศในตัวหรือในต้นเดียวกัน

32.       กระบวนการสร้างเซลล์เชื้อเพศ เรียกว่า

(1) Gametogenesis 

(2) Oogenesis      

(3) Spermatogenesis 

(4) เป็นหมดทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 172, (คำบรรยาย) กระบวนการสร้างเซลล์เชื้อเพศหรือเซลล์สืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต หากกล่าว โดยรวมไม่ระบุชนิดของเพศ เรียกว่า แกมีโตจีเนซิส” (Gametogenesis) ซึ่งแบ่งออกเป็น

1.         กระบวนการสร้างเซลล์ไข่หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า โอโอจีเนซิส” (Oogenesis)

2.         กระบวนการสร้างสเปิร์มหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เรียกว่า สเปอร์มาโตจีเนซิส” (Spermatogenesis)

33.       การปฏิสนธิที่เกิดขึ้นในตัวเองโดยไมต้องมีคู่ผสมพันธุ์ เรียกว่า

(1) External Fertilization  (2) Self-fertilization

(3)       Cross Fertilization  (4) Internal Fertilization

ตอบ2  (คำบรรยาย) Self-fertilization เป็นการปฏิสนธิที่เกิดขึ้นในตัวเองโดยไม่ต้องมีคู่ผสมพันธุซึ่งเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตประเภทที่มีสองเพศในตัวหรือต้นเดียวกัน (Monoecious) โดยที่เชื้อเพศจะแกตัวพร้อมก้น และเชื้อเพศผู้ก็จะผสมกับเชื้อเพศเมียในตัวหรือต้นเดียวก้น เช่น การปฏิสนธิในพยาธิตัวตืด การปฏิสนธิที่เกิดในฝักข้าวโพด ฯลฯ

34.       Cross Fertilization เกิดในการจับคู่ผสมพันธุ์แบบใด

(1) Copulation  (2) Amplexus     (3) Conjugation         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ3(คำบรรยาย) แบบแผนของการจับคู่ผสมพันธุ์ (Pattern of Mating) แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ

1.         การทาบ (Conjugation) คือ การนำเอาท่อนลำตัวมาทาบตัวเคียงขนานกันแล้วมีการสร้างอวัยวะที่จะแลกเชื้อเพศระหว่างกัน ซึ่งจะเกิดขึ้นในการปฏิสนธิในลักษณะ Cross Fertilization ได้แก่ ไส้เดือน

2.         การทับ (Amplexus) คือ การที่เพศผู้ขึ้นไปเกาะทับบนด้านหลังของเพศเมีย หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เช่น แมลง สุนัข เก้ง กวาง ช้าง ฯลฯ

3.         ประกบ (Copulation ) คือ การหันหน้าเข้าหากัน เช่น กุ้ง ปู ลิง มนุษย์ ฯลฯ

35.       สัตว์ที่ตัวเมียออกไข่ มีลูกแบบ

(1) Viviparous   (2) Ovoviviparous     (3) Oviparous    (4) Omnivorous

ตอบ 3 หน้า 91138, (คำบรรยาย) Enaima เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และเลือดมีสีแดง ซึ่งประกอบด้วยสัตว์ 2 พวก ได้แก่

1.         Oviparous คือ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นไข่ เช่น เต่า จระเข้ กบ ยุง เป็ด ไก่ ตุ่นปากเป็ด ห่าน ไดโนเสาร์ เป็นต้น

2.         Viviparous คือ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นตัว เช่น มนุษย์ ปลาฉลาม ปลาวาฬ ปลาโลมา พะยูน ค้างคาว วัว สุนัข แมว หนู จิงโจ้ หมีแพนค้า เป็นต้น

36.       ปัจจัยข้อใดที่มีผลต่อการหมุนเวียนในวัฎจักรคาร์บอน

(1)       การหายใจของพืช       (2) การย่อยสลายของซากสัตว์

(3)       การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 7389 วัฎจักรของธาตุคาร์บอน เป็นการหมุนเวียนของก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งอยู่ ในอากาศและละลายปนอยู่ในนํ้า โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นี้นับว่าเป็นแหล่งของธาตุคาร์บอน ที่สำคัญของพืชที่จะนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อแปรสภาพเป็นอาหาร และจะกลับคืนสู่อากาศอีกครั้งหนึ่งในฐานะเป็นผลของการหายใจของพืชและสัตว์ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นได้จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง และการย่อยสลายของซากสัตว์

37.       ข้อใดจัดเป็นสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ

(1)       อุณหภูมิ          (2) ดิน ทราย    (3) แสงสีน้ำเงินในแหล่งน้ำ     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 79 สิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน ทราย หิน น้ำ อากาศ แสงสว่าง อุณหภูมิ ก๊าช ฯลฯ

2.         สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น พืช สัตว์ แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ฯลฯ

38.       ข้อใดบอกปริมาณนํ้าดื่มบนโลกนี้ได้ใกล้เคียงมากที่สุด

(1) 10 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร (2) 20 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร

(3) 250 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร          (4) 360 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร

ตอบ1 หน้า 79 พื้นผิวของโลกประมาณสามในสี่ส่วน คือ ประมาณ 370 ล้านตารางกิโลเมตรเป็นนํ้าในจำนวนนี้จะเป็นนำเค็มประมาณ 360 ล้านตารางกิโลเมตร ส่วนปริมาณของนํ้าบนโลก มีอยู่ประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร ในจำนวนนี้เป็นน้ำจืด (นํ้าดื่ม) เพียงประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร

39.       บริเวณที่มีความชันมากขึ้นต่อจากไหล่ทวีปจนถึงระดับหน้าดินก้นมหาสมุทร คือ บริเวณ

(1)       ลาดทวีป         (2) ที่ราบชั้นบาดาล     (3) แอ่งลึกก้นมหาสมุทร (4) ผิดทุกข้อ

ตอม 1 หน้า 79 ลาดทวีป (Continental Slope) คือ บริเวณที่มีความชันมากขึ้นต่อจากไหล่ทวีป (Continental Shelf) ซึ่งจะมีไปจนถึงระดับหน้าดินก้นมหาสมุทร

40.       ข้อความใดที่ไมได้เป็นลักษณะของแนวเขตชายฝั่ง (Littoral Zone)    

(1) เขตแสงส่องถึง(2) มีความลึกไมเกิน 600 ฟุต      (3) ไม่มีสัตว์จำพวก Benthos      (4) มีสัตว์จำพวก Nekton

ตอบ 3 หน้า 80 แนวเขตชายฝั่ง (Littoral Zone) เป็นบริเวณที่มีความลึกไมเกิน 100 ฟาธอมหรือ600 ฟุต แสงแดดยังส่องลงไปได้ถึง จึงพบว่ามีพืชที่สังเคราะห์แสงได้ซึ่งส่วนใหญ่เป็น พวกแอลจีหรือสาหร่ายชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วยังมีสัตว์และพืชที่!มีขนาดเล็กมากมารวมกันอยู่ที่ผิวน้ำ ซึ่งได้แก่

1. แพลงก์ตอน (Plankton) เป็นพวกที่ลอย ไปมาตามแรงคลื่นลมและไมแข็งแรงพอที่จะว่ายนํ้าเองได้

2. เนคตอน (Nekton) เป็นพวกที่ สามารถว่ายน้ำได้เองโดยอิสระ

3. เบนธอส (Benthos) เป็นพวกที่อาศัยอยู่ที่หน้าดินหรือในดิน

41.       สิ่งมีชีวิตจะต้องปรับตัวอย่างไรในเขต Intertidal Zone

(1) ปรับตัวให้รอดพ้นจากความร้อนของแสงอาทิตย์ 

(2) ทนต่อแรงอัดกระแทกของคลื่น

(3)       สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว  

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 80 Intertidal Zone หรือ Strand เป็นบริเวณที่มีการขึ้นลงของนํ้าอยู่เป็นประจำทุกวัน จึงทำให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องปรับตัวให้รอดพ้นจากความร้อนของแสงอาทิตย์ และแรงอัดกระแทกของคลื่นที่ซัดเข้าสู่ฝั่งตลอดเวลา เช่น สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว หรือมีสิ่งยึดเกาะกับก้อนหินอยู่อย่างเหนียวแน่น และทนต่อสภาพการขาดนํ้าได้ในช่วงระยะเวลา ที่น้ำลด

42.       สัตว์ที่อาศัยอยู่ที่ลึกของมหาสมุทรจะได้รับอาหารประเภทใดเป็นหลัก

(1) พืชขนาดเล็ก          (2) สัตว์หน้าดินขนาดเล็ก (3) ซากอินทรียสาร (4) กลุ่มของ Nekton

ตอบ 3 หน้า 80 – 81 ส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรนั้น จะมีความกดดันของนํ้ามากกว่าความกดดัน ที่ผิวนํ้าเป็นพันเท่า สัตว์ที่อาศัยในบริเวณนี้จึงมีน้อยมาก ทำให้ บริเวณใต้ทะเลลึกนั้นเงียบสงัด โดยอาหารที่สัตว์ในบริเวณนี้ได้รับ คือ ซากอินทรียสาร ซึ่งตกลงมาจากนํ้าที่อยู่ในระดับสูงกว่า ตลอดเวลา ส่วนพืซที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มีเพียงแบคทีเรียเท่านั้น

43.       Lithosphere หมายถึงสภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยอะไร

(1) สินแร่ต่าง ๆ            (2)นํ้าใต้ดิน      (3) ก๊าชไนโตรเจน        (4) ข้อ 1 และ   2

ตอบ 1 หน้า 85, (คำบรรยาย) สภาพแวดล้อมทางกายภาพของโลกที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต เรียกว่า ‘‘ชีวมณฑล” (Biosphere) โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. Hydrosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นนํ้า เช่น นํ้าตามแหล่งต่าง ๆ และนํ้าต้ดิน

2.         Lithosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นของแข็ง เช่น ดิน หิน และสินแร่ต่าง ๆ

3.         Atmosphere คือ สภาพแวดล้อมส่วนที่เป็นลม ฟ้า อากาศ เช่น ไอน้ำ และก๊าชต่าง ๆ

44.       แหล่งที่อยู่อาศัยในเขตใดชึ่งมีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยตลอดปีไม่เกิน 10 นิ้ว มีภูมิอากาศแห้งแล้งตลอดเวลา

(1) เขตทุ่งหญ้า            (2)เขตทะเลทราย        (.3) เขตป่าผลัดใบ       (4) เขตป่าสน

ตอบ 2 หน้า 83 – 84 เขตทะเลทราย (Desert) เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งมีปริมาณนํ้าฝนโดยเฉลี่ย ตลอดปีไมเกิน 10 นิ้ว จึงทำให้ภูมิภาคนี้มีอากาศแห้งแล้งตลอดเวลา ปกติแล้วทะเลทราย มักจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง แต่อาจมีบางบริเวณที่ระดับนํ้าใต้ดินขึ้นมาใกล้ผิวดินมาก ทำ ให้พื้นที่บริเวณนั้นมีพืชและสัตว์อาศัยอยู่อย่างชุกชุม ซึ่งเรียกบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ในทะเลทรายว่า ‘‘โอเอซิส” (Oasis)

45.       การเกิดการเปลี่ยนแปลงระดับความเค็มของน้ำบริเวณปากแม่นํ้ามีสาเหตุจาก

(1) การปล่อยน้ำเสียจากชุมชน           (2) เป็นบริเวณที่มีการทำประมงมาก

(3) ปริมาณนํ้าจืดในช่วงฤดูฝน            (4) ผิดทุกข้อ

ตอบ3  (คำบรรยาย) การที่บริเวณปากแม่น้ำมีระดับความเค็มของนํ้าไมคงที่นั้น ก็เป็นเพราะว่าปริมาณน้ำจืดในช่วงฤดูฝนจากต้นน้ำที่ไหลมาสมทบมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงทำให้ สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของ สภาพนํ้าตามไปด้วย

46.       การหมุนเวียนของก็าซไนโตรเจนในอากาศมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานของสิ่งมีชีวิตประเภทใด

(1) Protozoa      (2) Acid-forming bacteria

(3) Virus     (4) Nitrogen-fixing bacteria

ตอบ 4 หน้า 7489 วัฏจักรของไนโตรเจน เป็นการหมุนเวียนของก๊าชไนโตรเจนในอากาศ โดยอาศัยการทำงานของแบคทีเรียอยู่ 4 ชนิด ได้แก่

1. Decomposing bacteria มีหน้าที่ทำให้ซากพืชซากสัตว์เกิดการเน่าเปื่อยกลายเป็น ก๊าซแอมโมเนีย

2.Nitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าชแอมโมเนียให้เป็นสารประกอบไนเตรท

3.Denitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจน กลับคืนสู่อากาศ

4.Nitrogen-fixing bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบ ไนเตรทซึ่งเป็นรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้

47.       สัตว์ชนิดใดเลือดไมมีสีแดง

(1) แมลงปอ    (2) กะพรุน       (3)ปูและปลาหมึก       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 91 Anaima เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และเลือดไม่มีสีแดง ประกอบด้วย สัตว์พวกต่างๆ 5 พวก ได้แก่   1.ปลาหมึก      2. กุ้ง กั้ง ปู  3.แมลง (เช่น แมลงปอ) และแมงมุม4. หอยและหอยเม่น           5. ฟองนํ้าและกะพรุน

48.       การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยศึกษาความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการเป็นหลักเกณฑ์ใหญ่ เป็นความคิด ของนักวิทยาศาสตร์ท่านใด

(1) Carolus Linnaeus (2) Karl von Linne     (3) Aristotle       (4) ข้อ 1 และ 2

ตอบ4  หน้า 91 – 92 Carolus Linnaeus หรือ Karl von Linne นักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน ได้คิดระบบการจัดหมวดหมูของสิ่งมีชีวิตโดยศึกษาความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการเป็นหลักเกณฑ์ใหญ่ ซึ่งเรียกระบบการแบบนี้ว่า Natural System นอกจากนี้ยังได้เสนอให้ตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตโดยอาศัย หลักของวิวัฒนาการและความสัมพันธ์ในสิ่งมีชีวิต กล่าวคือ สิ่งมีชีวิตใดที่มีความสัมพันธ์ ใกล้เคียงกันมากก็ใช้ชื่อเดียวกัน และให้มีชื่อของชนิดของสิ่งมีชีวิตกำกับลงไปด้วย จึงทำให้ ชื่อของสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อสกุล และชื่อชนิด ซึ่งเรียกระบบการตั้งชื่อสกุล และชื่อชนิดแบบนี้ว่า Binomial Nomenclature

49.       สิ่งมีชีวิตที่เซลล์ไม่มีนิวเคลียส คือประเภทใด

(1) สาหร่ายสีเขียวแกมนํ้าเงิน (2) สาหร่ายสีเขียว

(3) โปรโตชัว    (4) สาหร่ายสีน้ำตาล

ตอบ 1 หน้า 94 โปรติสต์ (Protist) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์เพียงเซลล์เดียว โดยเมื่อพิจารณาตาม ลักษณะความเจริญของเซลล์และวิธีการดำรงชีวิตแล้ว อาจแยกออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ 1. โปรติสตที่ยังไม่มีนิวเคลียส (Prokaryotic protist) ได้แก่ แบคทีเรีย (Bacteria)และแอลจี (สาหร่าย) สีเขียวแกมนํ้าเงิน (Blue-green Algae)

2.         โปรติสต์ที่มีลักษณะคล้ายพืช (Plant-like protist) ได้แก่ แอลจี (Algae)

ราเมือก (Slime mold) และฟังไจ (Fungi)

3.         โปรติสตที่มีลักษณะคล้ายสัตว์ (Animal-like protist) ได้แก่ โปรโตซัว (Protozoa)

50.       Bacillus subtilis เป็นบัคเตรีช่วยในการบ่มใบยาสูบมีรูปร่างแบบใด

(1) รูปร่างกลม (2) รูปร่างเป็นท่อนทรงกระบอก

(3) รูปร่างเป็นแท่งโค้ง (4) รูปร่างเป็นเส้นใย

ตอบ 2 หน้า 94. 96 แบคทีเรียหรือบัคเตรี (Bacteria) เป็นโปรติสต์ใน Phylum Schizophyta มีเชลล์ที่มีขนาดเล็กมากและมีรูปร่างหลายแบบ โดยแบบที่สำคัญ คือ

1. Coccus เป็นบัคเตรีที่มีรูปร่างกลม

2.         Bacillus เป็นบัคเตรีที่มีรูปร่างเป็นท่อนทรงกระบอก ซึ่งเป็นบัคเตรีที่ช่วยในการบ่ม ใบยาสูบ ได้แก่ Bacillus subtilis, Bacillus mycoides และ Bacillus polymyxa

3.         Spirillum เป็นบัคเตรีที่มีรูปร่างเป็นท่อนยาว

51.       ความยาวที่ใช้วัดขนาดของบัคเตรีใช้หน่วยไมครอน (Micron) 1 ไมครอน เท่ากับหน่วยวัดในข้อใด

(1) 1/25,000 มิลลิเมตร 

(2) 1/1,000 มิลลิเมตร         

(3) 1/100 มิลลิเมตร 

(4) 1/10 มิลลิเมตร 

ตอบ 2 หน้า 95 หน่วยความยาวที่ใช้วัดขนาดของบัคเตรีใช้หน่วย ไมครอน (Micron) โดยความยาว 1 ไมครอน มีขนาด 1/1,000 มิลลิเมตร หรือ 1/25,000 นิ้ว

52.       ข้อใดบ่งบอกถึงการดํ ารงชีวิตของบัคเตรีได้ถูกต้อง

(1) อาศัยในพื้นที่ทุกแห่ง         (2) บัคเตรีบางชนิดไมต้องอาศัยออกซิเจนอิสระในการดำรงชีวิต

(3) มีทั้งประโยชน์และโทษตอมนุษย์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 95 บัคเตรีนั้นดำรงชีวิตอยู่ได้ในพื้นที่ทุกแห่ง ซึ่งบัคเตรีบางชนิดต้องอาศัยออกซิเจน ในอากาศเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต เรียกว่า Aerobe แต่บางชนิดไม่ต้องอาศัยออกซิเจนอิสระ ในการดำรงชีวิต เรียกว่า Anaerobe ส่วนชนิดที่อยู่ได้โดยทั้งที่อาศัยออกซิเจนและ ไม่อาศัยออกซิเจนในการดำรงชีวิตนั้น เรียกว่า Facultative Anaerobe โดยบัคเตรีมีทั้งพวกที่ทำให้เกิดโทษ โรคภัย และพวกที่ทำประโยชน์ให้แกมนุษย์

53.       สารละลายของสี (Pigment) ที่เรียกว่า Phycocyanin จะอยู่ภายในเซลล์ของสาหร่ายชนิดใด

(1) สาหร่ายสีเขียว       (2) สาหร่ายสีแดง        (3) สาหร่ายสีเขียวแกมนํ้าเงิน (4) สาหร่ายสีทอง

ตอบ 3 หน้า 97 สาหร่ายสีเขียวแกมนํ้าเงิน (Blue-green Algae) เป็นโปรติสต์ใน Phylum Cyanophyta ภายในเซลล์มีสารละลายของสี (Pigment) ชนิดที่เรียกว่า Phycocyanin ซึ่งมีสีน้ำเงินปนอยู่กับสารคลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) กระจายอยูทั่วเซลล์ ไม่ได้อยู่รวมกัน เป็นกลุ่มก้อนเหมือนสาหร่ายชนิดอื่น ๆ

54.       เซลล์ของสิ่งมีชีวิตในข้อใดที่ไมมีสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)

(1) สาหร่ายสีนํ้าตาล   (2) เห็ด            (3) สาหร่ายสีทอง        (4) ข้อ 1 และ 2

ตอบ 2 หน้า 102 – 103 ฟังไจ (Fungi) เป็นโปรติสต์ใน Phylum Eumycophyta อาจมีเพียงเซลล์เดียวหรืออยู่รวมกันเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา (Hypha) ภายในเซลล์ไม่มีสารคลอโรฟิลด์ จึงไม่อาจสร้างอาหารโดยวิธีสังเคราะห์แสงได้ต้องใช้อาหารจากแหล่งอื่น โดยการดำรงชีวิต มีทั้งแบบที่หากินอย่างอิสระและแบบที่เป็นปรสิตอาศัยอยู่ได้ทั่วไป เช่น ราดำที่ขึ้นบนขนมปัง เห็ดชนิดต่าง ๆ (เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง) เป็นต้น

55.       สาหร่ายชนิดใดที่มีผนังเซลล์เป็นสารซิลิกา (Silica)

(1) Brown Algae         (2) Diatom         (3) Greer Algae (4) Dinoflagellate

ตอบ2 หน้า 100 ไดอะตอม (Diatom) เป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มสาหร่ายสีทอง (Golden Algae)ที่เปลือกหรือผนังเซลล์ประกอบด้วยสารซิลิกา (Silica) โดยผนังเซลล์จะมีลักษณะเป็นฝาตลับ สวมประกบกันและมีลวดลายสวยงาม ซึ่งสามารถที่จะพบได้ทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม

56.       สัตว์ในกลุ่มใดเริ่มมีผิวตัวประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblaslica) เป็นกลุ่มแรก

(1)       พยาธิตัวแบน   (2) ปลาดาว     (3) ฟองนํ้า       (4) หอย

ตอบ 1 หน้า 131 – 133, (คำบรรยาย) สัตว์ในกลุ่มหนอนตัวแบน (Phylum Platyhelminthes)มีลักษณะสำคัญ คือ เป็นสัตว์กลุ่มแรกที่เริ่มมีผนังลำตัวหรือผิวตัวประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblastica) มีระบบประสาท ตำแหน่งของร่างกาย ระบบการสืบพันธุ์ และ ระบบขับถ่าย ซึ่งสัตว์ในกลุ่มนี้ได้แก่ พยาธิตัวตืด และพยาธิใบไม้

57.       ฟองนํ้ามีหนาม (Spicule) ประกอบด้วยสารจำพวกใด

(1) หินปูน        (2) ซิลิกา         (3) โปรตีน       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 129 ฟองนํ้ามีหนาม (Spicule) เกิดจากเซลล์ที่อยู่ในชั้นวุ้นของฟองนํ้า (Sponge) ซึ่งเคลื่อนที่ได้คล้ายอะมีบาเรียกว่า Amoebocyte หรือ Mesenchyme เปลี่ยนรูปทำหน้าที่ สร้างโครงร่างเล็ก ๆ มีลักษณะคล้ายขวากหนามเล็ก ๆ สอดประสานกันอยู่ภายในตัวของฟองนํ้า โดยองค์ประกอบของ Spicule ประกอบด้วยสารจำพวกหินปูน ซิลิกา และโปรตีนแบบที่แข็ง คล้ายเขาสัตว์

58.       ลักษณะของสัตว์ในข้อใดมีรยางค์เป็นข้อปล้องติดต่อกันเด่นชัด

(1)หมัด            (2) ปลิง           (3) หอยเม่น     (4) ทาก

ตอบ 1 หน้า 136 สัตว์ใน Phylum Arthropoda จะมีโครงร่างของร่างกายหรือผิวเปลือกที่หุ้มลำตัว เป็นสารอินทรีย์ประเภทไคติน (Chitin) และรยางค์ที่ยื่นออกจากลำตัวเป็นคูๆ นั้นก็จะมี ลักษณะเป็นข้อปล้องติดต่อกันเด่นชัด อีกทั้งยังมีการลอกคราบด้วย ซึ่งสัตว์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กุ้ง ปู แมลงทุกชนิด หมัด ตะขาบ เห็บ บึ้ง เป็นต้น

59.       ปลาวาฬจัดเป็นสัตว์อยู่ใน Class เดียวกับสัตว์ชนิดใด      

(1) จิงโจ้กับพะยูน    (2)ปลาตะเพียนกับปลากระเบน

(3) ปลาโลมากับค้างคาว        (4) ถูกทั้งข้อ 1 และ 3

ตอบ4 หน้า 138 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (Class Mammalia) เรียกโดยทั่วไปว่า Mammalมีลักษณะสำคัญ คือ เป็นสัตว์ที่ต้องอาศัยนํ้านมจากแม่ในขณะที่ยังมีอายุน้อยอยู่ โดยตัวที่ เป็นแม่จะมีต่อมสร้างน้ำนม รวมทั้งมีขนปกคลุมตัว ส่วนใหญ่มีลูกโดยออกเป็นตัว ระบบต่าง ๆ ของร่างกายมีความเจริญมาก โดยเฉพาะระบบประสาทซึ่งจะเจริญมากจนกลายเป็นสมอง สัตว์ที่จัดอยู่ใน Class นี้ ได้แก่ ปลาวาฬ จิงโจ้ พะยูน ปลาโลมา ค้างคาว หนู ลิง คน เป็นต้น

60.       ข้อความใดคือลักษณะของสัตว์ใน Class Amphibia เช่น กบ งูดิน    

(1) อยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก   (2)หายใจด้วยปอด      (3) หัวใจมี 3 ห้อง        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 137 สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (Class Amphibia) มีลักษณะสำคัญ คือ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ได้ ทั้งในน้ำและบนบก แต่ออกไขไว้ในแหล่งน้ำ หายใจด้วยปอด มีหัวใจ 3 ห้อง เช่น กบ งูดิน เขียด ปาด คางคก เป็นต้น

61.       การอยู่ร่วมกันของพยาธิตัวตืดในหมู ถือว่าเป็นการอยู่แบบใด

(1) Predation     

(2) Parasitism   

(3) Neutralism  

(4)Commensalism

ตอบ 2 หน้า 77, (คำบรรยาย) Parasitism (+/-) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบที่ฝ่ายหนึ่ง ได้ประโยชน์ในฐานะ ปรสิต” (Parasite) คอยเกาะทำลายและอาศัยอีกฝ่ายหนึ่งที่เสียประโยชน์ เช่น พยาธิตัวตืดในหมู พยาธิใบไม้ในตับคน เชื้อโรคกับคน พยาธิในลำไส้ กาฝากกับต้นไม้ เชื้อไวรัสในสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น

62.       ข้อความใดอธิบายเกี่ยวกับ Species ไม่ถูกต้อง

(1)       สิ่งมีชีวิตไม่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม        (2) สิ่งมีชีวิตมีการเพิ่มจำนวน

(3)       สิ่งมีชีวิตสามารถสืบต่อเผ่าพันธุ์ได้      (4) สิ่งมีชีวิตมีการลดจำนวน

ตอบ 4 หน้า 570, (คำบรรยาย) ชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (Species) หมายถึง หมู่หรือจำนวนของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตพวกเดียวกัน โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

1.         มีรูปร่างลักษณะและการจัดระเบียบโครงร่างแบบเดียวกัน    2. มีวิถีการดำรงชีวิตเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน 3. มีการเพิ่มทวิจำนวน 4. สามารถสืบต่อเผ่าพันธุ์ของตนได้

5.         ไต้รับอิทธิพลจาก DNA หรือ Gene แต่ไม่ไต้รับผลกระทบจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม

63.       องค์ประกอบหลักของสารอินทรีย์ คือธาตุใด

(1)       คาร์บอน          (2) แคลเซียม   (3) ไนโตรเจน   (4) ฟอสฟอรัส

ตอบ 1 หน้า 1735 สารประกอบอินทรีย์ (Organic Compound) เป็นสารประกอบทางเคมีที่มีอะตอมชองธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุด เพราะคาร์บอนจะเข้าทำปฏิกิริยา ทางเคมีกับอะตอมของธาตุอื่น ๆ ได้ง่าย และสารประกอบของคาร์บอนยังสามารถเชื่อมต่อกัน ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

64.       การอยู่ร่วมกันของปลาฉลามกับเหาฉลาม เป็นการอยู่รวมกันแบบใด

(1) Commensalism    (2) Mutualism  (3) Amensalism          (4) ผิดทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 76, (คำบรรยาย) Commensalism (+/0) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบที่ฝ่ายหนึ่ง ได้รับประโยชน์ แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์อันใด เช่น ปลาฉลามกับเหาฉลาม กล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้ใหญ่การบริจาคทรัพย์สิ่งของให้ผู้ประสบอุทกภัยโดยไม่ทำให้ ตัวเองเดือดร้อน เป็นต้น

65.       พืชชนิดใดมีลำต้นแบบ Prostrate

(1) ผักกระเฉด (2) ผักแว่น       (3) บัวบก        (4) พลู

ตอบ1 หน้า 120 พืชที่มีลำต้นอยู่เหนือดินสามารถแบ่งตามลักษณะที่ปรากฏได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่ทอดแตะพื้นเป็นระยะ ๆ (Stolon) เช่น บัวบก ผักแว่น ผักตบชวา จอก

2.         ชนิดที่ทอดราบไปตามพื้น (Prostrate) เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด

3.         ชนิดที่เกาะเกี่ยวป่ายปีนหรือเลื้อยพัน (Climber/Twinning) เช่น ตำลึง พลู พวงชมพู เถาวัลย์

4.         ชนิดทีมีลำต้นตั้งตรง (Erect Stem) เช่น สนทะเล ก้ามปู ราชพฤกษ์ มะพร้าว ตาล มะละกอ

66.       พืชชนิดใดมีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี (ไม้ข้ามปี)

(1) อ้อย           (2) ดาวเรือง     (3) หอม           (4) มันสำปะหลัง

ตอบ 3 หน้า 121 พืชแบ่งตามลักษณะของการมีอายุได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         พืชที่มีช่วงอายุสั้นมาก และปีหนึ่งอาจเกิดได้หลายรุ่น (Ephemeral) เช่น ดาวเรือง บานชื่น แพงพวยฝรั่ง

2.         พืชทีมีวงจรชีวิตในเวลา 1 ปี หรือไม้ปีเดียว (Annual) เช่น อ้อย มันสำปะหลัง

3.         พืชที่มีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี หรือไม้ข้ามปี (Biennial) เช่น หอม กระเทียม ว่านต่าง ๆ

4.         พืชที่มีอายุนานกว่า 2 ปี หรือไม้หลายปี (Perennial) เช่น มะม่วง ทุเรียน

67.       พืชชนิดใดมีรากสังเคราะห์แสง

(1) มันสำปะหลัง         (2) กล้วยไม้     (3) ลิ้นจี่           (4) โกงกาง

ตอบ 2 หน้า 117 รากของพืชทุกชนิดมักจะเป็นทรงกระบอก โคนใหญ่ปลายเรียวเล็กลงทีละน้อย ไมมีข้อ ปล้อง ตา หรือบ และไมมีสีเขียว ยกเว้นรากสังเคราะห์แสง (Photosynthetic Root) เช่น รากกล้วยไม้ เป็นต้น

68.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Hydrophyte

(1) กุหลาบหิน (2) มะขาม       (3) บัว  (4) เสมา

ตอบ 3 หน้า 122 พืชแบ่งตามลักษณะของแหลงกำเนิดและทื่อยูอาศัยได้เป็น 5 ประเภท คือ

1. Epiphyte หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแต่ไมได้เบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กล้วยไม้ และเฟิร์นบางชนิด

2. Parasite หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแล้วเบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กาฝาก ฝอยทอง ขนุนดิน ฤาษี        

3. Xerophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่แห้งแล้งและมีนั้าน้อย เช่น กุหลาบหิน กระบองเพชร เสมา โบตั๋น

4.         Mesophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่ที่มีนํ้าพอสมควร เช่น มะม่วง มะขาม ทุเรียน มังคุด

5.         Hydrophyte หมายถึง พืชที่อาศัยอยู่ในนั้า เช่น บัว ผักบุ้ง ผักตบชวา ผักกระเฉด

69.       ใบของพืชชนิดใดที่ช่วยทำหน้าที่ขยายพันธุ์

(1) กาบหอยแครง       (2) มันเทศ       (3) ต้นตายใบเป็น       (4) กล้วยไม้

ตอบ 3 หน้า 122 – 123231 ใบของพืชมีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ การสร้างอาหาร การหายใจ และการคายน้ำ นอกจากนี้แล้วใบของพืชบางชนิดยังอาจเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่อย่างอื่น ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นหน้าที่รอง หรือพืชบางชนิดอาจทำหน้าที่หลักและหน้าที่รองไปพร้อม ๆ กัน หรือทำหน้าที่เดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ทำหน้าที่แพร่และขยายพันธุ์ ได้แก่ ต้นตายใบเป็น โคมญี่ปุน และเฟิร์นบางชนิด ช่วยป้องกันลำต้นและลดการคายนํ้า โดยการลดขนาดใบให้เล็กลง มีลักษณะเป็นหนาม และไม่มีปากใบ ได้แก่ พืชพวก Xerophyte เช่น เสมา กระบองเพชร กุหลาบหิน ฯลฯ

70.       พืชชนิดใดที่ฐานรองดอกเจริญไปเป็นเนื้อของผล

(1) แอปเปิล     (2) ทุเรียน        (3) มะม่วง       (4) ส้ม

ตอบ     1 หน้า 125 ฐานรองดอก (Receptacle) จะอยู่ที่ปลายสุดของก้านดอกเป็นส่วนสุดท้ายที่จะติดกับดอกเป็นแหล่งจ่ายอาหารไปยังอวัยวะส่วนอื่นของดอก เป็นฐานที่รองรับส่วนสร้างเซลล์เพศ ของดอกและในพืชบางชนิดอวัยวะส่วนนี้จะเจริญไปเป็นเนื้อของผล เช่น แอปเปิ้ล

71.       พืชชนิดใดมีลำต้นแบบ Stolon

(1) บัวบก        

(2) ผักบุ้ง         

(3) พลู 

(4) ตำลึง

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 65. ประกอบ

72.       Isotonic Solution หมายถึงอะไร

(1) สารละลายที่มีควมเข้มข้นน้อยกว่า          

(2) สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า

(3)       สารละลายทีมีความเข้มข้นเท่ากัน       

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 33 ศัพท์วิชาการที่เกียวข้องกับความเข้มข้นของสารละลาย ได้แก่

1. Hypertonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า หรือมีปริมาณของสาร มากกว่าปริมาณของนำ

2. Hypotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า หรือมีปริมาณของสารน้อยกว่าปริมาณของนํ้า

3.         Isotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากัน

73.       สถานะของสารชนิดใดที่มีการแพรกระจายตํ่าสุด

(1)       ของเหลว         (2) ของแข็ง     (3) สารแขวนลอย        (4) ก๊าช

ตอบ 2 หน้า 32อัตราเร็วของการแพร่กระจายมีมากน้อยแตกต่างกันตามสถานะของสาร กล่าวคือสารที่มีสถานะเป็นก๊าชจะมีอัตราเร็วของการแพร่กระจายสูงสุด สารที่มีสถานะเป็นของเหลว จะมีอัตราเร็วรองลงมา และสารที่มีสถานะเป็นรองแข็งจะมีอัตราเร็วตํ่าสุด

74.       ข้อดจัดเป็นคารโบใฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก

 (1) น้ำตาลกาแลคโตส            (2) น้ำตาลมอลโตส     (3) เด็กซทริน   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 37 – 39, (คำบรรยาย) สารประกอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. Monosaccharide หรือ Simple Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก หรือ ที่เรียกว่านํ้าตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ นํ้าตาลกลูโคส นํ้าตาลฟรุคโตส นํ้าตาลกาแลคโตส

2.         Disaccharide หรือ Double Sugar เป็นคาร์โบไอเดรตที่มีโมเลกุลคู หรือที่เรียกว่า น้ำตาลเชิงประกอบ ได้แก่ น้ำตาลทราย นํ้าตาลมอลโตส นํ้าตาลแลคโตส

3.         Polysaccharide เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก ได้แก่ แป้งไกลโคเจนในสัตว์ เซลลูโลส เด็กซทริน ไคติน

ข้อ 75. – 78. ให้ตอบคำถามจากตัวเลือกต่อไปนี้

(1)       วิตามิน A      (2) วิตามิน D (3) วิตามิน E  (4) วิตามิน K

75.       วิตามินในข้อใดช่วยป้องกันภารเป็นหมัน

ตอบ 3 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันการเป็นหมัน และช่วยทำให้ ตัวอ่อนเกาะติดผนังมดลูกได้เหนียวแน่นขึ้น ไม่ให้แท้งง่าย นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่ เกี่ยวกับการยืดอายุเซลล์ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ของอวัยวะผลิตเซลล์เชื้อเพศ

76.       วิตามินในข้อใดช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย

ตอบ 2 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมการดูดซึมของธาตุแคลเซียม และฟอสฟอรัสในร่างกายสำหรับสร้างเนื้อเยื่อกระดูก ถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้จะทำให้กระดูก อ่อนโค้งงอ กระดูกพรุน ฟันผุ กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยและชักกระตุก แต่ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป จะทำให้กระดูกแกร่งและหักง่าย

77.       ถ้าขาดวิตามินในข้อใดจะทำให้โลหิตแข็งตัวช้า

ตอบ4 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับคุณภาพ ของเลือด (โลหิต) ก็คือ ทำให้นํ้าเลือดข้นเหนียวจนเกิดการไหลของเลือดช้าลง และทำให้เลือด แข็งตัวปิดปากแผลเพื่อป้องกันเลือดไหลออกมาภายนอกร่างกาย ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เสียเลือดมาก หรือเลือดไหลหยุดช้าเมื่อเกิดบาดแผล

78.       วิตามินในข้อใด ถ้าได้รับไม่เพียงพอจะเกิดอาการตามัว มองไม่เห็นในที่แสงสลัว

ตอบ 1 หน้า 45 – 46, (คำบรรยาย) วิตามิน, A เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับสุขภาพของดวงตา และคุณภาพของการมองเหิน ซึ่งถ้าร่างกายได้รับวิตามินนี้ไม่เพียงพอ จะทำให้ตามัวและมองไม่เห็นในที่แสงสลัว (Night Blindness)

79.       ข้อใดจัดเป็น Disaccharide หรือ Double Sugar

(1)       น้ำตาลกลูโคส (2) นั้าตาลฟรุคโตส     (3) เซลลูโลส   (4) น้ำตาลทราย

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 74. ประกอบ

80.       คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์ให้พลังงานความร้อนกี่กิโลแคลอรี

(1)       4.1 กิโลแคลอรี            (2) 5.1 กิโลแคลอรี      (3) 6.2 กิโลแคลอรี      (4) 7.3 กิโลแคลอรี

ตอบ 1 หน้า 39, (คำบรรยาย) ไลปิดหรือไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุดในปริมาณนํ้าหนัก ที่เท่ากันของสาร โดยไขมันจะให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต กล่าวคือ ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์แล้วจะให้พลังงานความร้อน 9.1 กิโลแคลอรี ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงานความร้อนเพียง 4.1 กิโลแคลอรีเท่านั้น

81.       Desoxyribose Nucleic Acid มีหน้าที่อะไร

(1)ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน       

(2) สร้างโปรตีน

(3) ส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโต         

(4) สร้างน้ำย่อยหรือเอนไซม์

ตอบ1 หน้า 43, (คำบรรยาย) DNA (Desoxyribose Nucleic Acid) หรือ Gene เป็นสารพันธุกรรมซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1. กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด หรือแต่ละหน่วยให้เป็นไปตามเผ่าพันธุ์ของตน และสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุ์กรรมนั้น จากบรรพบุรุษไปสู่ลูกหลานได้     2. ควบคุมกิจกรรมทุกประเภทที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

82.       ออร์แกเนลล์ข้อใด มีหน้าที่เป็นที่เกิดกระบวนการหายใจระดับเซลล์

(1) ไลโซโซม (Lysosome)          

(2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria)    

(4) พลาสติด (Plastids)

ตอบ 3 หน้า 52, (คำบรรยาย) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เป็นออร์แกเนลล์ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าของเชลล์” หรือเป็น แหล่งผลิตพลังงานให้แกเซลล์” (House of Power of the Cell) โดยจะทำหน้าที่สร้างเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการหายใจระดับเซลล์หรือเผาผลาญ อาหารเพื่อให้เกิดพลังงานแกเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ที่มีกระบวนการทำงานสูง เช่น เซลล์ของตับ ไต และประสาท

83.       ออร์แกเนลล์ข้อใด ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์แสง

(1)ไลโชโซม (Lysosome) (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plastids)

ตอบ 4 หน้า 53, (คำบรรยาย) พลาสติด (Plastids) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสาร และภายในมีสารที่ทำให้เกิดสีบรรจุอยู่ โดยเม็ดสารสีเขียวที่บรรจุอยู่ในคลอโรพลาสติด หรือคลอโรพลาสต์นั้นจะเรียกว่า คลอโรพิลล์” (Chlorophyll) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญ ในการสังเคราะห์แสงของพืช

84.       พืชใน Subdivision ใดที่มีผิวของลำต้นเป็นร่องยาวคล้ายลูกฟูก ผิวลำต้นหยาบเพราะมีสารพวกซิลิกา

(1)       ดิวิชันย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida)

(2)       ดิวิชันย่อยเทอรอพซิดา (Subdivision Pteropsida)

(3)       ดิวิชันย่อยไซลอพซิดา (Subdivision Psilopsida)

(4)       ดิวิชันย่อยสฟีนอพซิดา (Subdivision Sphenopsida)

ตอบ 4 หน้า 113 พืชในดิวิชันย่อยสฟีเนอพซิดา (Subdivision Sphenopsida) จะมีลักษณะคล้าย ต้นหญ้า มีข้อและปล้องชัดเจน ลำต้นมีทั้งส่วนที่อยู่บนดินและใต้ดิน ส่วนที่อยู่บนดินนั้น มีสีเขียวและภายในกลวง ผิวของลำต้นเป็นร่องยาวคล้ายลูกฟูก ผิวลำต้นหยาบเพราะ มีสารพวกซิลิกาประกอบอยู่ และใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ ได้แก่ หญ้าถอดปล้องหรือสนหางน้า (Horsetail)

85.       พืชชนิดใดมีรากสังเคราะห์แสง

(1) กระบองเพชร         (2) กุหลาบ      (3) กล้วยไม้     (4) จอก

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข่อ 67. ประกอบ

86.       พืชชนิดใดใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสส์         (4) เพิร์น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) จัดอยู่ใน  Subdivision ใด

(1)       ดิวิชันย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida)

(2)       ดิวิชันย่อยเทอรอพซิดา (Subdivision Pteropsida)

(3)       ดิวิชันย่อยไซลอพซิดา (Subdivision Psilopsida)

(4)       ดิวิชันย่อยสฟีเนอพซิดา (Subdivision Sphenopsida)

ตอบ 2 หน้า 113 – 116 ดิวิชันย่อยเทอรอพซิดา (Subdivision Pteropsida) แบ่งออกเป็น 3 Class คือ

1.         คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

2.         คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae)

3.         คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 Subclass คือ Subclass Monocotyledoneae และ Subclass Dicotyledoneae

88.       พืชชนิดใดมีใบอ่อนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฟิกา

(1) เฟิร์น          (2) มอสส์         (3) หญ้าถอดปล้อง     (4) หวายทะนอย

ตอบ 1 หน้า 113 เฟิร์น (Fern) จัดเป็นพืชในคลาสฟิลิซินี (Class Filicinae) ซึ่งมีลักษณะสำคัญ คือ

1.         อาคัยน้ำเป็นสื่อในการนำสเปิร์มว่ายเขาไปผสมกับไข่

2.         มีอับสปอร์รวมอยู่เป็นกลุ่มจำนวนมากติดอยู่ใตใบ

3.         เป็นพืชที่ยังไม่มีเมล็ด

4.         ช่วงชีวิตระยะ Gametophyte เป็นช่วงชีวิตอิสระที่มีอายุไม่นานนัก

5.         ใบอ่อนจะม้วนงอขดคล้ายลานนาฟิกา

89.       กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นวิวัฒนาการของเซลล์ในสมัยแรกเริ่มที่ปรับตัว ให้เหมาะสมกับสภาพแวดต้อมที่ขาดแคลนอาหาร เกิดขึ้นในลักษณะใด

(1)       บรรพบุรุษของพืชใช้แสงแดดเป็นแหล่งพลังงานอาหารได้โดยตรง โดยไม่ต้องมีกระบวนการใด ๆ

(2)       บรรพบุรุษของลัตว์อยู่ในที่แสงจ้าเพื่อรับแสงแดดเมื่อต้องการพลังงาน

(3)       สิ่งมีชีวิตบางชนิดใช้แสงกระตุ้นการสังเคราะห์กลูโคสจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์

(4)       อาหารที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเกิดในบรรพบุรุษของพืชที่อยู่บนบกเท่านั้น

ตอบ 3 หน้า 26, (คำบรรยาย) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นวิวัฒนาการ ของเซลล์ในสมัยแรกเริ่มที่ปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดด้อมที่ขาดแคลนอาหาร ซึ่งเกิดขึ้น จากการที่สิ่งมีชีวิตบางชนิดที่เซลล์มีสารคลอโรฟิลล์ในการกักเก็บพลังงานจากแสงแดดเอาไว้ ได้ใช้พลังงานแสงกระตุ้นการสังเคราะห์อาหาร โดยนำเอาโมเลกุลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปรวมกับโมเลกุลของน้ำ  ซึ่งจะได้สารอาหารประเภทน้ำตาลกลูโคส (และเกิดก๊าซออกซิเจน เป็นผลพลอยได้

90.       คำกล่าวใดถูกต้องที่สุด

(1)       พารามีเซียม ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยการพรางตัว

(2)       ยูกลีนา มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นพร้อมกันในโปรโตพลาสม์

(3)       อะมีบา ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยใช้โครงสร้างคล้ายขนที่เรียกว่า ซิเลีย” ช่วยในการเคลื่อนที่

(4)       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าไม่พบในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวดังที่กล่าวมา

ตอบ 2 หน้า 98106195 – 196, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำประเภทเซลล์เดียวซึ่งได้แก่ พวกโปรติสตา (Protista) เช่น ยูกลีนา อะมีบา พารามีเซียม จะเกิดขึ้นพร้อมกันในก้อนโปรโตพลาสม์ ส่วนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ชั้นสูงและ ในพืชทั่วไปนั้น จะมีโครงสร้างหรืออวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากกัน

91.       เซลล์ประสาทส่งกระแสความรู้สึกออกจากเซลล์ทางใด

(1) เอนด์ เพลต            

(2) ไซแนปล์     

(3) เดนไดรต์    

(4) แอ็กซอน

ตอบ4 หน้า 64197 เซลล์ประสาท (Nerve Cell) แต่ละเซลล์ประกอบด้วย

1.         ตัวเซลล์ประสาท (Cell Body)

2.         แอ็กซอน (Axon) ทำหน้าที่ส่งกระแสความรู้สึกและคำสั่งออกจากตัวเซลล์ประสาท

3.         เดนไดรต์ (Dendrite) ทำหน้าที่รับกระแสความรู้สึกเข้าสู่ตัวเซลล์ประสาท

4.         เอนต์ เพลต (End Plate) เป็นเส้นใยละเอียดจำนวนมากที่แผ่อยู่ที่ปลายกิ่งแขนงของเซลล์ประสาท ทำหน้าที่เป็นตัวเกาะเกี่ยวประสานกับเอนด์ เพลต ของเซลล์ประสาทอื่น ๆ

92.       งูเขียวหางไหม้รับสัญญาณของเหยื่อโดยอาศัยหน่วยรับความรู้สึกที่เกี่ยวกับอุณหภูมิ เรียกหน่วยรับ ความรู้สึกนั้นว่า

(1) Chemoreceptor   

(2) Pressoreceptor    

(3) Thermoreceptor 

(4) Phonoreceptor

ตอบ 3 หน้า 196 ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) มีอวัยวะที่เป็นหน่วยรับความรู้สึก ได้แก่

1.         Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนหรือเย็น (อุณหภูมิ) ได้แก่ ผิวหนัง

2.         Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น และจมูก

5.         Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

93.       สัตว์บางชนิดสร้างสารเคมีที่เรียกว่า ฟีโรโมน (Pheromone) ช่วยให้มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างไร

(1)       สุนัขเห่าหอนเมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติจากเครื่องกระจายเสียง

(2)       นกเค้าแมวมองเห็นเหยื่อชัดเจนในเวลากลางคืน

(3)       การรวมฝูงของสัตว์ป่าเพื่อลงกินดินโป่ง

(4)       ปลวกเดินทางเป็นแถวเพื่อย้ายถิ่น

ตอบ 4 หน้า 209, (คำบรรยาย) ฟีโรโมน (Pheromone) เป็นสารอินทรีย์เคมีที่เซลล์ต่อมมีท่อ ในร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ภายนอกร่างกาย เพื่อการสื่อสารหรือส่งสาร ตัวอย่างของสารฟีโรโมนที่มีผลทางกลิ่นในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ กลิ่นตัวและกลิ่นเหงื่อ ของคน กลิ่นสาบของสัตว์ต่าง ๆ เช่น สุนัข ช้าง แมว แพะ แกะ วัว ควายการเดินตามกัน เป็นแถวของปลวกหรือมด เป็นต้น

94.       ต้นไทร เจริญบนต้นไม้อื่นและหยั่งรากลงสู่พื้นดิน การเจริญของรากไทรเป็นการเคลื่อนไหวเนื่องจากมีแรงโน้มถ่วงของโลกมากระตุ้น เรียกว่า

(1) Themotropism (2) Phototropism (3) Chemotropism (4) Geotropism

ตอบ 4 หน้า 200 Geotropism เป็นการเคลื่อนไหวตอบสนองภายนอกต้นพืชเนื่องจากการเจริญเติบโต โดยมีแรงดึงดูดของโลกเป็นสิ่งเร้า เช่น การเจริญของรากไทรจากยอดต้นไม้อื่นลงสู่พื้นดิน เป็นต้น

95.       ในกระบวนการแปลความหมายและสั่งการ ระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในกระบวนการนี้คือ

(1) เซลล์ประสาทส่งสัญญาณ            (2) ไขสันหลัง

(3) กล้ามเนื้อลาย        (4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ2  หน้า 197 กระบวนการแปลความหมายและสั่งการ (Modulation) เกิดขึ้นในขณะที่กระแสความรู้สึกจากเซลล์ประสาทวิ่งผ่านระบบประสาทส่วนกลางซึ่งประกอบด้วยไขสันหลัง (Spinal Cord) และสมอง (Brain) ทั้งไขสันหลังและสมองนี้จะประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ประสาท ซึ่งมาอยู่รวมกันหนาแน่นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งด้าน นิสัย สัญชาตญาณ และเชาวน์ปฏิภาณ

96.       เมื่อเรามองเห็นอันตรายในเบื้องหน้าแล้วเดินหนีห่าง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการตอบโต้ (Effect) เกิดจากการทำงานขององค์ประกอบใด

(1)       กลามเนื้อ + Motor Neuron + ฮอร์โมน

(2)       ตา + ระบบประสาทส่วนกลาง + กล้ามเนื้อ

(3)       หน่วยรับความรูสึก + Motor Neuron + กล้ามเนื้อ

(4)       ตา + เซลล์ประสาท + ระบบประสาทส่วนกลาง + กล้ามเนื้อ

ตอบ 1 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบกล้ามเนื้อ เซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน โดยการที่ Motor Neuron จะส่งกระแสคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนอง หรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับแหล่งรับความรู้สึกทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเดินหนีห่างจากอันตรายที่เรามองเห็น การวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจของนักโทษหนีคดี เป็นต้น

97.       ข้อใดกล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการ การคัดสรรโดยธรรมชาติ” ของชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้ถูกต้องที่สุด

(1)       ในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ต้องมีทั้งผู้นำและผู้ตมซึ่งเกิดจากการคัดเลือกกันเองในหมู่สมาชิก

(2)       การคัดเลือกพันธุ์พืชที่ดีที่สุดมาปลูก ช่วยให้พืชมีอายุยืนยาวถึงลูกถึงหลาน

(3)       สัตว์ป่าตัวที่แข็งแรงจึงจะอยู่รอด มีอาหารและมีลูกหลานได้

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ. 3 หน้า 212 – 213 ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ การคัดสรรโดยธรรมชาติ” (Natural Selection;ของชาร์ลส์ ตาร์วิน กล่าวว่า ผู้ที่อ่อนแอไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้นจะตายไป เหลืออยู่แต่ผู้ที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นจึงจะอยูรอด มีอาหาร และมีลูกหลานได้ โดยผู้ที่เหมาะสมกับ สภาพแวดล้อมนี้มักจะมีคุณลักษณะพิเศษที่ดีเดนแปลกไปจากผู้อี่น เมื่อมีลูกหลานก็จถ่ายทอดหรือสอนลักษณะนั้น ๆ สืบต่อกันไป เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ที่ดีขึ้นมา

98.       ข้อใดคือหลักฐานทางบรรพชีวิน (Paleontology Evidence) ที่ใช้ศึกษาทางวิวัฒนาการ

(1)       ซากใบไม้ที่ทับถมกันในป่าพรุและยังไม่เกิดการย่อยสลาย

(2)       ซากนกทะเลที่ถูกคราบน้ำมันจากเรือสินค้า  

(3) ซากปลาทะเลที่กลายเป็นหิน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 214 หลักฐานทางบรรพชีวิน (Paleontology Evidence) เป็นการศึกษาที่เกี่ยวกับซากเหลือของพืชและสัตว์ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในสมัยดึกดำบรรพ์ เมื่อตายไปจะถูกกระทำโดย กระบวนการทางธรรมชาติจนซากนั้นกลายสภาพเป็นหิน เช่น ซากปลาทะเลที่กลายเป็นหิน เป็นต้น

99.       นกกระยางมีนิ้วเท้าเรียวยาว นกกานํ้ามีนิ้วเท้าแบนมีพังผืด และนกฮูกมีนิ้วเท้างองุ้มเล็บแหลมคม ความแตกต่างนี้เป็นการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตเพื่อเหตุผลใด

(1) การหาอาหาร         (2) การต่อสู้     (3) การผสมพันธุ์         (4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ. 1 หน้า 228 – 230 การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ

1.         เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น นกกระยางมีนิ้วเท้าเรียวยาวเหมาะแก่การทรงตัวนกกาน้ำมีนิ้วเท้าแบนมีพังผืดนกฮูกมีนิ้วเท้างองุ้มเล็บแหลมคมไกมีเล็บเท้าใหญ่และแข็ง เหมาะแกการคุ้ยเขี่ย เป็นต้น

2.         เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจากศัตรู เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่นการมีสีคล้ายเปลือกไม้ ของผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

100.    พืชพวก Xerophyte มีการปรับตัวอย่างไรเพื่อช่วยลดการคายน้ำ ทำให้พืชสามารถอาคัยอยู่ในที่แห้งแล้งได้

(1) การลดขนาดใบให้เล็กลงมีลักษณะเป็นหนาม      

(2) มีปากใบจำนวนมากป้องกันการระเหยของนํ้า

(3)       มีระบบท่อลำเลียงน้ำที่ไม่พัฒนาดีนัก            

(4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 69. ประกอบ

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น ภาค 1/2555

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO 1001 ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ เริ่มต้นที่

(1)       การตั้งสมมุติฐาน         (2) สร้างทฤษฎี

(3) การสังเกต ตรวจสอบ        (4) การเก็บรวบรวมข้อมูล

ตอบ 4 หน้า 2 กระบวนการหรือระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์เรียงตามทลำดับได้ดังนี้

1.         การเก็บรวบรวมข้อมูล 

2. การตั้งสมมุติฐาน    

3. การสังเกต ตรวจสอบ หรือทดลอง

4. การประมวลเป็นข้อสรุป      

5. การสร้างทฤษฎี

2.         ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาวะโลกร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมของโลก เป็นความรู้ด้านใด

(1)       วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ 

(2) วิทยาศาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ          

(4) วิวัฒนาการ

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) เป็นสาขาหนึงของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ หรือวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งแวดล้อมของโลก หรือความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น การสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับ ภาวะโลกร้อนธรณีวิทยา (แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด)อุทกวิยา (นํ้าท่วม)อุตุนิยมวิทยา (ประกาศคาดการณ์ลักษณะอากาศ การพยากรณ์อากาศ)ดาราศาสตร์ (ท้องฟ้า ดวงดาว) เป็นต้น

3.         ความรู้เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิทยาศาสตร์สาขาใด

(1)       วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์    (2) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

(3) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ          (4) วิทยาศาสตร์ประยุกต์

ตอบ 4 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (Applied Science/Technology Science) เป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเรื่องราวของธรรมชาติ แล้วนำผลของความรู้นั้นไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อกิจกรรมเพื่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การนำเอาพลังน้ำ พลังม พลังแสงแดด ไปแปรเป็นพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

4.         ข้อใดจัดเป็นสสาร

(1) พลังไฟฟ้า  (2) นํ้า  (3) พลังจิต      (4) พลังแม่เหล็ก

ตอบ 2 (คำบรรยาย) สสาร (Matter) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่มีรูปทรงหรือตัวตน สัมผัสจับต้อง รับรู้ได้โดยประสาทรับรู้ มีนํ้าหนัก และต้องการที่อยู่อาศัย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         สสารที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน น้ำ ลม อากาศ เครื่องจักร เป็นต้น

2.         สสารที่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ สัตว์ เป็นต้น

5.         ความคิดแบบเป็นวิทยาศาสตร์นั้น ข้อใดมิน้ำหนักความสำคัญน้อยที่สุด

(1) สังเกตได้โดยมิติแห่งการรับรู้         (2) พิสูจน์กี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนกัน

(3) อาศัยความเชื่อและศรัทธาเป็นปฐม          (4) คำนึงถึงเหตุและผลเป็นหลัก

ตอบ 3 หน้า 2, (คำบรรยาย) ขอบเขตของความเป็นวิทยาศาสตร์ มีดังนี้

1.         ต้องสามารถสังเกตได้โดยมิติแห่งการรับรู้ 2. ต้องสามารถพิสูจน์ทราบได้อย่างเป็นเอกภาพ ในทุกเมื่อ หรือพิสูจน์กี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิม 3. วิทยาศาสตร์ยังไมใช่ความจริงที่สมบูรณ์แท้ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ประกอบด้วยเหตุและผลที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด

6.         ข้อใดมิได้จำกัดว่าเป็นเฉพาะสิ่งมีชีวิต

(1) Matter (2) Biota    (3) Organism     (4) Living Thing

ตอบ 1 (คำบรรยาย) ศัพท์คำว่า Living Thing, Biota และ Organism หมายถึง สิ่งมีชีวิต (ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ)

7.         ข้อใดจัดเป็นพลังงาน

(1) ความร้อน/เย็น        (2) อากาศ       (3) โทรทัศน์     (4) อาหาร

ตอบ 1 (คำบรรยาย) พลังงาน (Energy) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่รับรู้ได้ แต่ไม่มีรูปทรงหรือตัวตน ไม่มีนํ้าหนัก และไม่ต้องการที่อยู่อาศัย เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ (ความร้อน/เย็น) กระแสลมหรือพลังลม แม่เหล็กไฟฟ้า พลังแม่เหล็ก พลังไฟฟ้า เป็นต้น

8.         การนำเอาพลังนํ้า พลังลม พลังแสงแดด ไปแปรเป็นพลังงานไฟฟ้า ต้องใช้ความรู้วิทยาศาสตร์สาขาใด

(1) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ       (2) วิทยาศาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์ประยุกต์        (4) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

9.         หมู่หรือจำนวนของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง เรียกว่า

(1) ประชากร (Population)      (2) ชนิดพันธุ์ (Species)

(3)       สังคม (Society)    (4) ชุมชน (Community)

ตอบ 2 หน้า 570, (คำบรรยาย) ชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (Species) หมายถึง หมู่หรือจำนวนของ สิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตพวกเดียวกัน โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

1.         มีรูปร่างลักษณะและการจัดระเบียบโครงร่างแบบเดียวกัน 2. มีวิถีการดำรงชีวิตเป็นไป ในรูปแบบเดียวกับ 3. มีการเพิ่มทวิจำนวน        4. สามารถสืบต่อเผ่าพันธุ์ของตนได้

5. ได้รับอิทธิพลจาก DNA หรือ Gene แต่ไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม

10.       หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิตคือข้อใด

(1)       นิวเคลียส       (2) ไมโทคอนเดรีย       (3) คลอโรพลาสต์        (4) เซลล์

ตอบ 4 หน้า 4648 เซลล์ (Cell) คือ ก้อนโปรโตพลาสม์ที่มีเยื่อบางห่อหุ้มอยู่ และถือว่าเป็น หน่วยโครงสร้างมูลฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการดำรงชีวิต จะเกิดขึ้นจากการทำงานภายในเซลล์นั้น

11.       คำว่า ประชากร’’ ทางชีววิทยา คือ 

(1) สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก   

(2)สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อาศัยในที่เดียวกัน          

(3) สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน

(4)สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ที่อยู่ในที่เดียวกันในช่วงเวลาที่กำหนด

ตอบ 4 หน้า 5-671, (คำบรรยาย) ประชากร (Population) ทางชีววิทยา หมายถึง กลุ่มของสิ่งมีชีวิต ชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันในสังคมหนึ่ง ๆ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นจำนวน รวมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และในช่วงเวลาที่กำหนด

12.       เสือ ผู้บริโภคที่กินสัตว์อื่น ๆ เป็นอาหาร นิสัยการกินของเสือจัดเป็น

(1)Omnivore     (2) Carnivore     (3) Insectivore  (4) Herbivore

ตอบ 2 หน้า 234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้บริโภค (Consumer) สามารถจำแนกออกตามลักษณะนิสัย การกินได้เป็น 3 พวก คือ

1.         Herbivore เป็นพวกที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น หนอน แพะ วัว ควาย กระต่าย ฯลฯ

2.         Carnivore เป็นพวกที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น เสือ สิงโต จระเข้ ฯลฯ

3.         Omnivore เป็นพวกที่กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น มนุษย์ สุนัข ฯลฯ

13.       บทบาทใดในสิ่งมีชีวิตที่ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตของระบบนิเวศ

(1)       เห็ดฟาง ถูกนำมาประกอบอาหารได้ จึงถือว่าเป็นผู้ผลิตที่สำคัญ

(2)       สาหร่ายพวกไดอะตอม สร้างอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงได้

(3)       ปลาเป็นผลผลิตอาหารประเภทโปรตีนที่สำคัญให้กับผู้บริโภค

(4)       แมลงหลายชนิด เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับนกกินแมลง

ตอบ 2 หน้า 100233, (คำบรรยาย) ผู้ผลิต (Producer) เป็นสิ่งมิชีวิตที่สามารถสร้างอาหารขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง โดยการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) หรือการสังเคราะห์เคมี (Chemosynthesis) ก็ได้ เช่น สาหร่ายพวกไดอะตอม พืฃผักสีเขียว หญ้า เป็นต้น

14.       Symbiosis เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในรูปแบบใด

(1) ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน     (2) ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

(3)       อยู่ร่วมกับแบบฝ่ายหนึ่งได้รับประโยชน์          (4) อยู่แบบแก่งแย่งแข่งขัน

ตอบ 2 หน้า 76103 – 104, (คำบรรยาย) การอยู่ร่วมกับแบบต่างฝ่ายให้ประโยชน์แก่กัน (Mutualistic Symbiosis) หรือต้องอาศัยเกื้อกูลกัน ถ้าขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแล้ว ฝ่ายที่เหลือก็ไม่สามารถ จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง เช่น การอยู่ร่วมกันของแอลจีกับฟังไจในไลเคน หรือแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดการย่อยของกากอาหารในลำไส้ของคน เป็นต้น

15.       แบคทีเรียพวก อี โคไล (E. coli) ในสำไส้ของคน ทำให้เกิดการยอยของกากอาหาร คนและแบคทีเรีย ถือว่าเป็นการอยู่ร่วมกันแบบใด

(1) Competition (2) Parasitism  (3) Neutralism  (4) Symbiosis

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

16.       หน้าที่ของ Denitrifying bacteria ที่พบในวัฎจักรไนโตรเจน คือ

(1)       เปลี่ยนแปลงสารประกอบไนเตรท สลายเป็นก๊าซไนโตรเจน

(2)       เปลี่ยนแปลงก๊าซไนโตรเจนเป็นสารไนเตรท

(3)       เปลี่ยนก๊าซแอมโมเนียเป็นสารไนเตรท          

(4) เปลี่ยนก๊าซไนโตรจนเป็นสารในไตรท์

ตอบ 1 หน้า 7489 วัฏจักรไนโตรเจน เป็นการหมุนเวียนของก๊าซไนโตรเจนในอากาศ โดยอาศัยการทำงานของแบคทีเรียอยู่ 4 ชนิด ได้แก่      

1. Decomposing bacteria มีหน้าที่ทำให้ซากพืชซากสัตว์เกิดการเน่าเปื่อยกลายเป็นก๊าซแอมโมเนีย     

2. Nitrifying bacteria

มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซแอมโมเนียให้เป็นสารประกอบไนเตรท    

3. Denitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจนกลับคืนสู่อากาค

4.         Nitrogen-fixing bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนเตรท ซึ่งเป็นรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้

17. การทำปุ๋ยหมักจากพืชสด จำเป็นต้องอาศัยการทำงานของสิ่งมีชีวิตกลุ่มใด

(1) Carnivore     (2) Decomposer        

(3) Producer      (4) Herbivore

ตอบ 2 หน้า 26234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้ย่อยสลายทำลาย (Decomposer) มีการดำรงชีพแบบ Saprophytism นั่นคือ การกินซากของเสียหรือซากสิ่งมีชีวิตอนพี่ตายแล้ว โดยการผลิตเอนไซม์ ออกมาทำการย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต ของเสีย ขยะมูลฝอย และกากอาหาร ให้ยุบย่อยสลายตัว กลายเป็นปุ๋ยหมัก อันมีธาตุพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้ ได้แก่ เห็ด เชื้อรา และแบคทีเรีย

18.       สัตว์ในกลุ่มใดที่มีชีวิตอยู่เฉพาะในนํ้าเค็ม

(1) หนอนตัวแบน         (2) ฟองนํ้า       (3) หอย           (4) ปลาดาว

ตอบ 4 หน้า 136, (คำบรรยาย) สัตว์กลุ่มหอยเม่น ปลาดาว ปลิงทะเล ทากทะเล (Phylum Echinodermata) มีลักษณะสำคัญ คือ 1. ทุกชนิดเป็นสัตว์ที่มีชีวิตอยู่เฉพาะในนํ้าเค็ม ตลอดชีวิต    2. ผิวเปลือกหุ้มร่างกายเป็นสารประเภทหินปูน       3. ไม่มีแกนลำตัว รวมทั้งไม่มีระบบหมุบเวียนโลหิตและระบบขับถ่ายที่ชัดเจน แต่มีระบบพิเศษทดแทนคือ ระบบท่อนํ้า

19.       ข้อใดจัดเป็นสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ

(1) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยจากควันรถ          (2) แร่ธาตุในพื้นดิน

(3) อุณหภูมิรอบ ๆ ตัวเรา        (4) พารามีเซียมในน้ำสีย

ตอบ 3 หน้า 79, (คำบรรยาย) สิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ        1. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ(Physical Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน นํ้า อากาศ แสงสว่าง อุณหภูมิ ฯลฯ

2.         สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological Environment) หรือสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น พืช สัตว์ แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ฯลฯ

20.       กระบวนการใดต่อไปนี้ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศลงได้

(1) การหายใจของพืช  (2) การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืซ

(3) กระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์            (4) กระบวบการเผาไหม้ในเครื่องยนต์

ตอบ 2 หน้า 26 – 2738, (คำบรรยาย) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช (Photosynthesis) ถือเป็นการปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการขาดแคลนอาหารของสิ่งมีชีวิตแรกเริมที่เป็นบรรพบุรุษของพืช โดยพืชนำเอาพลังงานแสงมาใช้สร้างสารอาหารประเภทนํ้าตาลกลูโคส ด้วยปฏิกิริยาระหว่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับนํ้าและเกิดก๊าซออกซิเจนเป็นผลพลอยได้ ซึ่งจากปฏิกิริยาของกระบวนการนี้ จะช่วยทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกได้รับก๊าซออกซิเจนมากขึ้นจนเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และยังช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในบรรยากาศที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสภาวะโลกร้อนในปัจจุบันอีกด้วย

21.       แหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตในนํ้า คือข้อใด

(1) Atmosphere 

(2) Lithosphere        

(3) Terrestrial Habitat 

(4) Marine Habitat

ตอบ 4 หน้า 79, (คำบรรยาย) แหล่งที่อยู่อาศัย (Habitat) ที่ประกอบขึ้นมาเป็นโลก มีอยู่ 2 ส่วน คือ

1.         Hydrosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นนํ้า ซึ่งแบ่งออกเป็นแหล่งอาศัยที่เป็นนํ้าจืด (Freshwater Habitat), แหล่งอาศัยที่เป็นนํ้าเค็ม (Marine / Oceanic / Maritime Habitat) และแหล่งอาศัย ที่เป็นนํ้ากร่อย (Estuarine Water Habitat) 2. Lithosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นพื้นผิวดิน หรือแหล่งอาศัยที่เป็นบก (Terrestrial / Land Habitat)

22.       สัตว์น้ำชนิดใดมักอยู่อาศัยตามหาดโคลน

(1)       หอยนางรม      (2) หอยแครง   (3) หอยลาย    (4) ปลาหมึก

ตอบ 2 (คำบรรยาย) หาดโคลน (Mud Flat) มักพบอยู่ใกล้กับบริเวณแม่นํ้าสายใหญ่ เมื่อตะกอนดิน จากแผ่นดินถูกน้ำกัดเซาะละลายไปตามลำคลองหรือแม่นํ้าไหลลงสู่ทะเลแล้วตกตะกอนลง ณ บริเวณปากแม่นํ้าเกิดเป็นลานโคลนหรือเลนขึ้น เวลานํ้าทะเลขึ้นจะถูกท่วมจนมิดลาน เมื่อนํ้าลงจะปรากฏขึ้นเป็นลานกว้าง แต่อาจมีแอ่งนํ้าขังอยู่บ้างเล็กน้อย และด้วยความอุดมสมบูรณ์ ของธาตุอาหารในตะกอนดินที่มีการทับถมกันและระดับน้ำทะเลหรือนํ้ากร่อยที่พอเหมาะ หาดโคลนจะมีพรรณไม้ราบลุ่มป่าชายเลนขึ้นตามธรรมชาติ และพบสัตว์นํ้าที่มักอยู่อาศัย ตามหาดโคลน เช่น หอยแครง เป็นต้น

23.       คุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตในลักษณะใดที่ไม่พบในระบบนิเวศแบบทะเลทราย

(1) พืชมีใบเป็นหนามเพื่อลดการคายนํ้า         (2) สัตว์มักออกหากินในเวลากลางคืน

(3) พืชเปิดปากใบตลอดเวลาเพื่อลดอุณหภูมิในใบ    (4) สัตว์มักไม่กินนํ้า

ตอบ 3 หน้า 83 – 84 คุณสมบัติของสิ่งมิชีวิตที่พบในระบบนิเวศแบบทะเลทราย (Desert) มีดังนี้

1.         พืชจะเปลี่ยนแปลงจากใบเป็นหนาม เพื่อทำหน้าที่ป้องกันตัวและลดการสูญเสียน้ำออกจากลำต้น

2.         การเจริญเติบโตเพื่อการขยายพันธุ์ของพืชเป็นไปอย่างรวดเร็ว

3.         สัตว์มักจะไม่กินนํ้า รวมทั้งร่างกายยังปรับตัวในด้านต่าง ๆ เพื่อสงวนนํ้าในตัวไว้

4.         สัตว์มักจะอาศัยอยู่ในโพรงหรือในรู และมักจะออกหากินในเวลากลางคืน ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า และมีความชื้นนมากกว่าเวลากลางวัน

24.       Ecology เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับอะไร

(1) ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต       (2) ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต

(3) ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับไม่มีชีวิต            (4) ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางนํ้ากับทางดิน

ตอบ 3 หน้า 179, (คำบรรยาย) นิเวศวิทยา (Ecology) เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในทางชีววิทยาแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็น 2 ประเภท คือ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต และสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพหรือ สิ่งแวดล้อมทีมีชีวิต (ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ)

25.       บริเวณใดเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของมหาสมุทร

(1) ก้นมหาสมุทร         (2) ที่ราบชั้นบาดาล     (3) ลาดทวีป    (4) ไหล่ทวีป

ตอบ 4 หน้า 79, (คำบรรยาย) ไหล่ทวีป (Continental Shelf) เป็นแหล่งอาศัยนํ้าเค็มที่มีรูปร่าง คล้ายอ่างหรือกระทะที่ลาดลงจากชายฝั่งทีละน้อย ๆ และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างอุดมสมบูรณ์มาก จึงนับว่าเป็นแหล่งอาศัยนํ้าเค็มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจด้าน การประมง เช่น บริเวณอ่าวไทย เป็นต้น

26.       สิ่งมีชีวิตในข้อดมีการดำรงชีวิตเป็น Benthos

(1) สาหร่ายสีแดง        (2) ปลาหมึก    (3) กุ้ง  (4) ปลาวาฬ

ตอบ 3 หน้า 80, (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

1.         แพลงก์ตอน (Plankton) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืซและสัตว์ มีขนาดเล็ก อาศัยและหากิน อยู่ในบริเวณใกล้ผิวหน้านํ้า ไม่สามารถว่ายน้ำได้ เช่น สาหร่าย สวะ ผักตบ ไรนํ้าตาล ฯลฯ

2.         เนคตอน (Nekton) เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตอยู่ในเนื้อนํ้าตํ่าลึกลงไปกว่าผิวนํ้า และสามารถ ว่ายนํ้าได้เองโดยอิสระ เช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาฉลาม ฯลฯ

3.         เบนธอส (Benthos) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งพืซและสัตว์ที่อาศัยอยู่ได้ทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม โดยการเกาะยึดกับวัตถุที่อยู่ในเนื้อนํ้าหรืออยู่บริเวณดินใต้ท้องนํ้า เช่น กุ้ง หอย ปู ฯลฯ

27.       องค์ประกอบหลักของนํ้าทะเลคือธาตุใด

(1)       S         (2) Cl  (3) Na         (4) P

ตอบ 2 (คำบรรยาย) องค์ประกอบหลักของนํ้าเค็ม (นํ้าทะเล) คือ ธาตุคลอริน (Cl ซึ่งเป็นแร่ธาตุ ที่มีลักษณะเป็นเกลือแร่ เรียกว่า หมู่ธาตุคลอไรด์” เช่น เกลือโซเดียมคลอไรด์ โพแทสเซียมคลอไรด์ และแคลเซียมคลอไรด์ เป็นต้น

28.       ประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสภาพป่าที่จัดอยู่ในเขตใด

(1)       เขตทุ่งหญ้า     (2) เขตดิบชื้น  (3) เขตทุนดรา (4) เขตป่าสน

ตอบ 2 หน้า 82 – 83. (คำบรรยาย) เขตป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าร้อนชื้น หรือป่าฝนเขตร้อน(Tropical Rain Forest) เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก มีความชื้นสูง มีปริมาณ นํ้าฝนมากที่สุดโดยเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 80 – 90 นิ้ว มีต้นไม้ขนาดสูงใหญ่จำนวนมาก และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น ซึ่งเขตภูมิประเทศแบบนี้จะพบมาก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เช่น ประเทศไทย) เอเชียใต้ แอฟริกากลาง อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

29.       นักวิทยาคาสตร์ผู้เสนอให้มีการตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตเป็นแบบ Binomial Nomenclature คือ

(1) Aristotle       (2) Linnaeus      (3) Pasteur         (4) Miller

ตอบ 2 หน้า 92 Carolus Linnaeus เป็นผู้เสนอให้มีระบบการตั้งชื่อสกุลและชื่อชนิดของสิ่งมีชีวิต แบบ Binomial Nomenclature ซึ่งเรียกว่า ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific Name) โดยกำหนดว่า สิ่งมีชีวิตใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับมากก็ให้ใช้ชื่อเดียวกัน และต้องมีชื่อขนิดของสิ่งมีชีวิต กำกับไว้ด้วย จึงทำให้ชื่อของสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อสกุล และชื่อขนิด

30.       ข้อใดเขียนชื่อของพืช จำปา ตามหลักการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ ได้ถูกต้อง

(1) Michelia champaca     (2) Michelia chompoco

(3) Michelia Champaca    (4) michelia champaca

ตอบ 2 หน้า 92 – 93 ในการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific Name) ให้ขึ้นต้นชื่อสกุลด้วยตัวพิมพใหญ่ หรือตัวเขียนใหญ่ นอกจากนั้นใช้อักษรตัวเล็กทั้งหมด และมักจะถูกพิมพ์ด้วยตัวเอน เช่น ชื่อวิทยาศาสตร์ของจำปา คือ Michelia champaca, ชื่อวิทยาศาสตร์ของคน คือ Homo sapiens เป็นต้น

31.       ตามหลักการจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิต อะมีบา (Amoeba) จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกใด

(1) สัตว์ชั้นตํ่าขนาดเล็ก           

(2) โปรโตซัว

(3) ไลเคน        

(4) ฟังไจ

ตอบ 2 หน้า 106 อะมีบา (Amoeba) จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกโปรโตซัว (Phylum Sarcodina)ที่มีการเคลื่อนที่แบบ Amoeboid Movement ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่โดยการไหลของ โปรโตพลาสด์ซึ่งจะยื่นเป็นกิ่งหรือขาเทียมออกไปใบทิศทางที่ต้องการ

32.       แบคทีเรียที่มีรูปร่างกลม ควรมีชื่อเรียกว่า

(1) Coccus (2)Bacillus          (3)Spirillum       (4)Rod shape

ตอบ 1 หน้า 94 – 95 แบคทีเรีย (Bacteria) มีเซลล์ที่มีขนาดเล็กมากและมีรูปร่างหลายแบบ โดยแบบที่สำคัญ คือ            1. Coccus เป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างกลม

2.         Bacillus เป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นท่อนทรงกระบอก

3.         Spirillum เป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นแท่งยาวโค้ง

33.       ข้อใดคือลักษณะของสิ่งมีชีวิต กลุ่มแอลจี (Algae)

(1) ไม่สร้างนิวเคลียส  (2)       เซลล์เป็นเส้นใย           (3) มีสารคลอโรฟิลล์   (4)       มีท่อลำเลียงนํ้า

ตอบ 3 หน้า 98 แอลจึ (Algae) เป็นโปรติสต์ที่มีลักษณะคล้ายพืซ (Plant-like protist) ทั้งนี้เพราะ ภายในเซลล์มีสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) รวมกันอยู่เป็นก้อนเรียกว่า คลอโรพลาสต์ (Chloroplas) ซึ่งมีความสามารถสร้างอาหารได้โดยวิธีการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยโปรติสต์ พวกแอลจีนี้พบทั้งในน้ำทะเล นํ้าจืด และในที่ที่มีความชื้นสูงทั่วไป

34.       ข้อใดคือลักษณะของสิ่งมีชีวิตพวกฟังไจ (Fungi)

(1) อยู่รวมกันเป็นเส้นใย         (2)       เซลล์ไม่มีนิวเคลียส     (3) มีสารคลอโรฟิลล์   (4)       ผิดทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 102 – 103, (คำบรรยาย) ฟังไจ (Fungi) เป็นโปรติสต์ใน Phylum Eumycophytaอาจมีเพียงเซลล์เดียวหรืออยู่รวมกันเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา (Hypha) ภายในเซลล์จะมีนิวเคลียส แต่จะไม่มีสารคลอโรฟิลล์ จึงไม่อาจสร้างอาหารโดยวิธีการสังเคราะห์ด้วยแสงได้ต้องใช้อาหาร จากแหล่งอื่น โดยการดำรงชีวิตมีทั้งแบบที่หากินอย่างอิสระและแบบที่เป็นปรสิตอาศัยอยู่ได้ทั่วไป เช่น ราดำที่ขึ้นบนขนมปัง เห็ดชนิดต่าง ๆ (เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง) เป็นต้น

35.       ปรากฏการณ์ ‘‘Red Tide” ทำให้ระบบนิเวศทางนํ้าเสียสมดุล เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในนํ้า เกิดจากสาเหตุใด

(1)       โรงงานย้อมผ้าปล่อยสีออกมา

(2)       การขยายพันธุของโปรโตซัว (Protozoa) อย่างรวดเร็ว

(3)       การขยายพันธุ์ของแอลจีสีแดง (Red Algae) อย่างรวดเร็ว

(4)       การขยายพันธุของแอลจีไดโนแฟลกเจลเลท (Dinoflagellate) อย่างรวเร็ว

ตอบ 4 หน้า 100 แอลจีไดโนแฟลกเจลเลท (Dinoflagellate Algae) เป็นแอลจีที่ภายในเซลล์มีสารสีส้มแดงปนอยู่ อาศัยอยู่ทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม โดยบางชนิดสามารถขยายพันธุ์ด้วยการ แบ่งเซลล์อย่างรวดเร็วและปล่อยสารพิษจากตัวออกสู่นํ้า ทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงและมิพีษ ทำให้ระบบนิเวศทางนํ้าเสียสมดุล เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในนํ้าเป็นอย่างมาก ซึ่งปรากฏการณ์ เช่นนี้เรียกว่า “Red Tide”

36.       สัตว์ในข้อใดที่มีวิวัฒนาการล้าหลังที่สุด

(1) ปลาดาว     (2) ฟองนํ้า       (3) พยาธิไส้เดือน        (4) พยาธิใบไม้

ตอบ 2 หน้า 129 – 131, (คำบรรยาย) สัตว์ทีมีวิวัฒนาการล้าหลังที่สุด คือ ฟองนํ้า (Phylum Porifera) รองลงมาได้แก่ ไฮดรา กะพรุน และปะการัง (Phylum Coelenterata)

37.       สัตว์ต่อไปนี้ แบ่งออกได้เป็นกี่ไฟลัม (Phylum) ปะการังพยาธิไส้เดือนปลาหมึกยักษ์ปลานิล,ปูทะเลปลาฉลาม

(1) 1ไฟลัม       (2) 3ไฟลัม       (3) 5ไฟลัม       (4) 6ไฟลัม

ตอบ 3 หน้า 130 – 131133 – 134136 – 138, (คำบรรยาย) จากตัวอย่างสัตว์ตามโจทย์นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ไฟลัม (Phylum) คือ

1.         Phylum Coelenterata ได้แก่ ไฮดรา กะพรุน และปะการัง

2.         Phylum Nematoda ได้แก่ หนอนตัวกลม เช่น พยาธิไส้เดือน เป็นต้น

3.         Phylum Mollusca ได้แก่ หอยฝาเดียว หอยสองฝา ปลาหมึก ปลาหมึกยักษ์ เป็นต้น

4.         Phylum Arthropoda ได้แก่ กุ้ง ปูทะเล ปู ตะขาบ แมงมุม แมงดาทะเล เป็นต้น

5.         Phylum Chordata ได้แก่ ปลานิล ปลาฉลาม ปลาวาฬ งูดิน สัตว์ปีก (เช่น นก) มนุษย์ เป็นต้น

38.       สัตว์ในข้อใดอยู่ในไฟลัม อาร์โทรโปดา (Arthropoda)

(1)       แมงมุมกับหอยแครง   (2) ปลาดาวกับหอยเม่น (3) ตะขาบกับปู       (4) กุ้งกับปลาฉลาม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

39.       ข้อใดเป็นลักษณะพิเศษของไฟลัม คอร์ดาตา (Chordata)

(1) มีสารไคติน (Chitin) เป็นโครงร่าง         (2) มีโครงร่างแข็งแรงป็นสารหินปูน

(3) มีระบบประสาทเจริญดีมาก          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 136 – 137 กลุ่มสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง (Phylum Chordata) มีลักษณะพิเศษเฉพาะ คือ

1.         ในระยะที่เป็นตัวอ่อน (Embryo) จะมีกลุ่มเซลล์ประกอบกับขึ้นเป็นแท่งทอดตามแนวสันหลัง เรียกแท่งนี้ว่า Notochord

2.         มีร่อง Gill อยู่ทางด้านหัว ในระยะที่ยังเป็นตัวอ่อนทำหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนก๊าซ

3.         มีระบบประสาทเจริญดีมาก เส้นไขประสาททอดอยู่ตามแนวส้นหลังเหนือ Notochord

40.       มนุษย์จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ใน Phylum เดียวกับสัตว์ชนิดใด

(1) ปลาฉลาม  (2) ปลาวาฬ    (3) นก (4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

41.       พืชขนิดใดจัดอยู่ใน Division Bryophyta

(1) หวายทะนอย         

(2) หญ้าถอดปล้อง     

(3)       มอสส?            

(4)       เฟิร์น

ตอบ 3 หน้า 108 – 110, (คำบรรยาย) พืชในดิวิชันไบรโอไฟตา (Division Bryophyta) เป็นพืชที่มีขนาดเล็ก แต่ยังไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียงนํ้าและอาหาร รวมทั้งไม่มีราก ลำต้น และใบที่แท้จริง และมักจะขึ้นอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูงและอากาศเย็น จึงนับว่าเป็นพืช ที่มีวิวัฒนาการล้าหลังที่สุด ซึ่งพืชในดิวิชั่นนี้แบ่งออกเป็น 2 คลาส ได้แก่

1.         คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae) เรียกว่า ลิเวอร์เวิร์ต (Live;rwort) เป็นพืชที่มีลักษณะ เป็นแผ่นแบบบางสีเขียว

2.         คลาสมอสไซ (Class Musci) เรียกว่า มอสส์ (Moss) เป็นพืชที่มีลักษณะเล็ก ขึ้นรวมกัน อยู่อย่างหนาแน่นจนมีลักษณะคล้ายพรมกำมะหยี่

42.       พืชชนิดใดจัดอยู่ใน Subdivision Psilopsida

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3)       มอสส์  (4)       เพิร์น

ตอบ 1 หน้า 111 – 112 พืชในดิวิชั่นย่อยไซลอพซิดา (Subdivision Fsilopsida) จะมีระบบท่อ ลำเลียงอยู่เฉพาะในสวนของลำต้นเท่านั้น มีอวัยวะที่ใช้ยึดเกาะและดูดน้ำเรียกว่า Rhizoid รวมทั้งพืชเหล่านี้ยังไม่มีใบแผ่เป็นแผ่นกว้าง แต่มีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็กและบางติดอยู่ตามลำต้นเป็นระยะ ๆ มีการแตกกิ่งของลำต้นเป็นแบบ Dichotomous Branching และมี เซลล์สืบพันธุ์เป็นเม็ดกลมเรียกว่า สปอร์ (Spore) ซึ่งพืชที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ หวายทะนอย (Psilotum) และ Tmesipteris

43.       พืชชนิดใดจัดอยู่ใน Subdivision Sphenopsida

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสส์         (4) เฟิร์น

ตอบ 2 หน้า 113 พืชในดิวิชั่นย่อยสฟินอพซิดา (Subdivision Sphencpsida) จะมีลักษณะคล้าย ต้นหญ้า มีข้อและปล้องชัดเจน ลำต้นมีทั้งส่วนที่อยู่บนดินและใต้ดิน ส่วนที่อยู่บนดินนั้นมีสีเขียว และภายในกลวง ผิวของลำต้นเป็นร่องยาวคล้ายลูกฟูก ผิวลำต้นหยาบเพราะมีสารพวกซิลิกา ประกอบอยู่ และใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ ซึ่งพืซที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ หญ้าถอดปล้องหรือสนหางม้า (Horsetail)

44.       ต้นสามร้อยยอด จัดอยู่ใน Subdivision ใด

(1)       ดิวิชั่นย่อยไซลอพซิดา (Subdivision Psilopsida)

(2)       ดิวิชั่นย่อยสฟินอพซิดา (Subdivision Sphenopsida)

(3)       ดิวิชั่นย่อยเทอรอพซิดา (Subdivision Pteropsida)

(4)       ดิวิชั่นย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida)

ตอบ 4 หน้า 112 – 113 พืชในดิวิขันย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida) มีชื่อสามัญว่า Club Moss เป็นพืซที่ขึ้นรวมอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม มีใบเป็นแผ่นเล็ก ๆ ขึ้นรอบลำต้น ลำต้นมี ทั้งส่วนที่อยู่ใต้ดินและส่วนเหนือระดับดิน ตอนปลายสุดของกิ่งที่อยู่พ้นระดับดินจะมีลักษณะ เป็นข้ออัดแน่นเป็นรูปกรวยเรียกว่า Cone หรือ Strobilus เป็นแหล่งร้างสปอร์เพื่อการขยายพันธุ์ และมีท่อลำเลียงทั้งในราก ลำต้น และใบ ซึ่งพืชที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ต้นสามร้อยยอด (Lycopodium) หญ้ารังไก่ ช้องนางคลี่ สร้อยนางกรอง และสร้อยสุกรม

45.       พืชชนิดใดใบมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นวงรอบข้อ

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสส์         (4) เฟิร์น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 43. ประกอบ

46.       พืชชนิดใดมีเมล็ดแต่ไม่มีผนังห่อหุ้ม

(1) ปรง            (2) เฟิร์นก้านดำ           (3) จอกหูหนู    (4) สามร้อยยอด

ตอบ 1 หน้า 111115 – 116, (คำบรรยาย) พืชมีเมล็ดใน Division Tracheophyta

แบ่งออกเป็น 2 พวก คือ          1. พืชมีเมล็ดแต่เมล็ดไม่มีผนังห่อหุ้ม หรือพืชไม่มีดอก(Class Gymnospermae) ได้แก่ ปรง สนแท้ แปะก๊วย และเครือมะเมื่อย 2. พืชมีเมล็ดและเมล็ดมีผนังห่อหุ้ม หรือพืชดอก (Class Angiospermae) ได้แก่ ข้าว กุหลาบ พริก มะเขือ เป็นต้น ซึ่งพืชใน Class นี้นับว่าเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และมีจำนวนมากที่สุดในยุคปัจจุบัน

47.       พืชใน Class ใด มีวิวัฒนาการสูงสุด

(1) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) (2) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

(3) คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae) (4) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

48.       เป็นพืชที่มีขนาดเล็ก ขึ้นรวมกันหนาแน่นจนลักษณะคล้ายพรมกำมะหยี่จัดอยู่ใน Class ใด

(1) คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae) (2) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

(3) คลาสมอสไซ (Class Musci) (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

49.       Liverwort จัดอยู่ใน Class ใด

(1) คลาสเฮพาทีชี (Class Hepaticae) (2) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

(3) คลาสมอสไซ (Class Musci) (4) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

50.       พืชชนิดใดจัดอยู่ใน Subclass Dicotyledoneae

(1) ปาล์ม         (2) ข้าว            (3) อ้อย           (4) มะลิ

ตอบ 4 หน้า 116 – 117, (คำบรรยาย) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) แบ่งออก เป็น 2 Subclass คือ 1. Subclass Monocotyledoneae คือ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ข้าว หญ้า ตะไคร้ไผ่ กล้วย ปาล์ม อ้อย มะพร้าว ฯลฯ 2. Subclass Dicotyledoneae คือ พืชใบเลี้ยงคู่ เช่น กุหลาบ มะลิ ทานตะวัน ถั่ว พริก มะเขือ เงาะ ทุเรียน ฯลฯ

51.       Complete Flower หมายถึง

(1) ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้          

(2) ดอกที่มีแต่เกสรตัวเมีย

(3) ดอกที่มีอวัยวะไม่ครบ        

(4) ดอกที่มีอวัยวะครบ

ตอบ 4 หน้า 125 – 126 Complete Flower หมายถึง ดอกที่มีอวัยวะครบทุกวงชั้น คือชั้นของกลีบดอกวงนอกสุด (Calyx), วงชั้นของกลีบดอก (Corolla), วงชั้นของเกสรตัวผู้ (Androecium) และวงชั้นของเกสรตัวเมีย (Gynaecium) ทั้งนี้ในดอกบางชนิดยังมีอีกวงหนึ่งนอกCalyx ออกมา เรียกว่า Epicalyx เช่น ดอกชบา

52.       Pollination หมายถึง

(1) การถ่ายละอองเกสร (2) การติดเมล็ด       (3) การปฏิสนธิ           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 127 การถ่ายละอองเกสร (Pollination) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเกสรตัวผู้ ปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ถ้าเกิดในดอกเดียวกับเรียกว่า Self-Pollination หรือ Close-Pollination แต่ถ้าเกิดต่างดอกกันเรียกว่า Cross Pollination ซึ่งการถ่าย ละอองเกสรนี้จะส่งผลทำให้เกิดการผสมเกสร (Fertilization) ขึ้นในที่สุด

53.       ใบพืชชนิดใดที่มีการเปลี่ยนรูปร่างไปเพื่อทำหน้าที่ในการดักจับแมลง

(1) หยาดน้ำค้าง          (2) ว่านหางจรเข้          (3) กระบองเพขร         (4) ถั่วลันเตา

ตอบ 1 หน้า 122 – 123 ใบของพืชมีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ การสร้างอาหาร การหายใจ และ การคายน้ำ นอกจากนี้แล้วใบของพืชบางชนิดยังอาจเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปทำหน้าที่อย่างอื่น ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นหน้าที่รอง หรือพืชบางชนิดอาจทำหน้าที่หลักและหน้าที่รองไปพร้อมๆ กัน หรือทำหน้าที่เดียวอยางใดอย่างหนึ่ง เช่น ทำหน้าที่แพร่และขยยพันธุ์ ได้แก่ ต้นตายใบเป็น โคมญี่ปุ่น หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นอวัยวะจับสัตว์พวกแมลงตัวเล็ก ๆ ได้แก่ นํ้าเต้าฤาษี กาบหอยแครง หยาดนํ้าค้าง เป็นต้น

54.       สถานะของสารชนิดใดที่มีการแพร่กระจายสูงสุด

(1) ของแข็ง     (2) ของเหลว    (3) ก๊าซ            (4) สารแขวนลอย

ตอบ 3 หน้า 32 อัตราเร็วของการแพร่กระจายมีมากน้อยแตกต่างกันตามสถานะของสาร กล่าวคือ สารที่มีสถานะเป็นก๊าซจะมีอัตราเร็วของการแพร่กระจายสูงสุด สารที่มีสถานะเป็นของเหลว จะมีอัตราเร็วรองลงมา และสารที่มีสถานะเป็นของแข็งจะมีอัตราเร็วตํ่าสุด

55.       เยื่อชนิดใดที่ยอมให้สารทุกชนิดผ่านได้

(1) Permeable Membrane         (2) Impermeable Membrane

(3)       Semipermeable Membrane    (4) Differentially Permeable Membrane

ตอบ 1 หน้า 33 เยื่อบาง (Membrane) แบ่งตามคุณสมบัติการยอมให้ซึมผ่านออกเป็น 3 แบบ คือ

1.         impermeable Membrane เป็นเยื่อที่ไม่ยอมให้สารใด ๆ ผ่นได้เลย

2.         Semipermeable Membrane/Differentially Permeable Membrane/Selectively Permeable Membrane เป็นเยื่อที่ยอมให้สารเพียงบางชนิดผ่านได้

3.         Permeable Membrane เป็นเยื่อที่ยอมให้สารทุกชนิดผ่านได้

56.       Isotonic Solution หมายถึงอะไร

(1) สารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า          (2) สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า

(3) สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากัน (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 33 ศัพท์วิชาการที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของสารละลาย ได้แก่ 1. Hypertonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นสูงกว่า หรือมีปริมาณของสารมากกว่าปริมาณของนํ้า

2.         Hypotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า หรือมีปริมาณของสาร น้อยกว่าปริมาณของนํ้า 3. Isotonic Solution หมายถึง สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากัน

57.       ข้อใดจัดเป็นคาร์ใบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก

(1) นํ้าตาลมอลโทส     (2) เด็กซทริน   (3) นํ้าตาลกาแล็กโทส (4) ถูกทั้งข้อ 1 และ 3

ตอบ 2 หน้า 37 – 39, (คำบรรยาย) สารประกอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         Monosaccharide หรือ Simple Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตท์มีโมเลกุลเล็กมาก หรือ ที่เรียกว่านํ้าตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ นํ้าตาลกลูโคส น้ำตาล,ฟรุคโตส นํ้าตาลกาแล็กโทส

2.         Disaccharide หรือ Double Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลคู่ หรือที่เรืยกว่า นํ้าตาลเชิงประกอบ ได้แก่ นํ้าตาลทราย นํ้าตาลมอลโทส นํ้าตาลแล็กโทส

3.         Polysaccharide เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก ได้แก่ แป้งไกลโคเจนในสัตว์ เซลลูโลส เด็กซทริน ไคติน

58.       ข้อใดจัดเป็นไลปิดเชิงเดี่ยว

(1) ไกลโคไลปิด           (2) สเตอรอยด์ (3) นํ้ามัน         (4) ฟอสโฟไลปิดในไข่แดง

ตอบ 3 หน้า 39 – 40 ไลปิดแบ่งตามลักษณะสารที่มาประกอบได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. ไลปิดเชิงเดี่ยว (Simple Lipid /True Fats) ได้แก่ ไขหรือมัน (Fats), นํ้ามัน (Oil)และสารพวกขี้ผึ้ง (Wax) 2. ไลปิดเชิงประกอบ (Compound Lipid) ได้แก่ ฟอสโพไลปิด ในไข่แดงและในสมอง ไกลโคไลปิด และไลโปโปรตีน 3. อนุพันธ์ของไลปิด (Lipid Derivative) ได้แก่ กรดไขมัน (Fatty Acid), สเตอรอล (Sterol) และ สเตอรอยด์ (Steroid) เป็นต้น

59.       Desoxyribose Nucleic Acid มีหน้าที่อะไร

(1)       สร้างโปรตีน

(2)       สร้างนํ้าย่อยหรือเอนไซม์

(3)       ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน

(4)       ส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโต

ตอบ 3 หน้า 43, (คำบรรยาย) DNA (Desoxyribose Nucleic Acid) หรือ Gene เป็นสารพันธุกรรม ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ

1.         กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดหรือแต่ละหน่วยให้เป็นไปตามเผ่าพันธุของตน และสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้นจากบรรพบุรุษไปสู่ลูกหลานได้

2.         ควบคุมกิจกรรมทุกประเภทที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

60.       วิตามินชนิดใดละลายได้ในนํ้า

(1) A  (2) D  (3) C  (4) K

ตอบ 3 หน้า 44 วิตามินแบ่งตามคุณสมบัติการละลายได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.         วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามิน และ วิตามิน C

2.         วิตามินที่ละลายในนํ้ามัน ได้แก่ วิตามิน A, D, E และ K

61.       วิตามินในข้อใดที่ช่วยทำให้โลหิตแข็งตัว

(1) A  

(2) E  

(3) K  

(4) C

ตอบ 3 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับคุณภาพ ของเลือด (โลหิต) ก็คือ ทำให้นํ้าเลือดข้นเหนียวจนเกิดการไหลของเลือดช้าลง และทำให้เลือด แข็งตัวปิดปากแผลเพื่อป้องกันเลือดไหลออกมาภายนอกร่างกาย ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เสียเลือดมาก หรือเลือดไหลหยุดช้าเมื่อเกิดบาดแผล

62.       ออร์แกเนลล์ในข้อใด ได้ชื่อว่าเป็นโรงผลิตไฟฟ้าของเซลล์

(1) ไลโซโซม (Lysosome)          (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plasticis)

ตอบ 3 หน้า 52, (คำบรรยาย) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีหน้าที่เป็น ที่เกิดกระบวนการหายใจระดับเซลล์ จึงเป็นแหล่งสร้างพลังงานในรูป ATP จนได้ชื่อว่าเป็น โรงผลิตไฟฟ้าของเซลล์” (Powerhouse of Cell) โดยเซลล์ที่มีกระบวนการทำงานสูง และต้องการพลังงานจะมีไมโทคอนเดรียมาก เช่น เซลล์ตับ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ไข่หอยเม่นทะเล เป็นต้น

63.       ออร์แกเนลล์ในข้อใด ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์แสง

(1) ไลโซโซม (Lysosome)          (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plasticis)

ตอบ 4 หน้า 53, (คำบรรยาย) พลาสติด (Plastids) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสาร และภายในมีสารที่ทำให้เกิดสีบรรจุอยู่ โดยเม็ดสารสีเขียวที่บรรจุอยู่ในคลอโรพลาสติด หรือคลอโรพลาสต์นั้นจะเรียกว่า คลอโรฟิลล์” ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญ ในการสังเคราะห์แสงของพืช

64.       การหายใจภายใน (Internal Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่าง

(1)       เม็ดเลือดแดงกับถุงลมในปอด            (2) เม็ดเลือดแดงกับเซลล์

(3) เม็ดเลือดแดงกับเม็ดเลือดขาว       (4) การถ่ายเทก๊าซในตัวเซลล์

ตอบ 2 หน้า 157 – 158, (คำบรรยาย) การหายใจหรือการแลกเปลี่ยนอาาศ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ

1.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายนอก (External Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างอากาศภายนอกกับถุงลมในปอด โดยอาศัยกลไกของการสูดลมหายใจเข้าออกทางจมูก

2.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายใน (Internal Respiration) เป็นกรแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่าง เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดฝอยกับเซลล์ในร่างกาย ซึ่งการหายใจทั้ง 2 ตอนนี้จะเกิดขึ้น โดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

65.       เมื่อรับประทานอาหาร อาหารชนิดใดจะถูกย่อยเป็นอันดับแรก

(1) ไก่ทอด       (2) ไข่ดาว        (3) ขนมปัง      (4) เนย

ตอบ3 หน้า 149 เมื่อคนรับประทานอาหารโดยการเคี้ยว อาหารพวกคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้ง (เช่น ขนมปัง มันเทศ ข้าว ฯลฯ) บางส่วนจะถูกย่อยเป็นอันดับแรกในช่องปาก โดยเอนไซม์ อะไมเลส (Amylase) หรือไทยาลิน (Ptyalin) ที่อยู่ในนํ้าลาย

66.       หลอดเลือดที่นำเลือดไปสู่หัวใจ เรียกว่า

(1) หลอดเลือดฝอย     (2) หลอดเลือดดำ        (3) Capillary       (4) Vein

ตอบ 4 หน้า 152, (คำบรรยาย) หลอดเลือดที่มาติดต่อกับหัวใจมี 2 ประเภท คือ

1.         หลอดเลือดเวน (Vein) ทำหน้าที่นำเลือดที่ผ่านการใช้งานแล้วจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย กลับเข้าสู่หัวใจ โดยจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมนํ้าเงิน ซึ่งแพทย์จะทำการดูดเลือดจาก หลอดเลือดเวนนี้เพื่อนำไปตรวจหรือหาข้อมูลทางการแพทย์ ทั้งนี้เพราะมองเห็นได้ง่าย

2.         หลอดเลือดอาร์เทอรี (Artery) ทำหน้าที่นำเลือดออกจากหัวใจไปส่งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

67.       การบีบหดตัวของกล้ามเนื้อท่อทางเดินอาหาร เป็นไปโดยวิธี

(1) Homeostasis         (2) Peristalsis    (3) Epistasis       (4) Plasmolysis

ตอน 2 หน้า 149, (คำบรรยาย) เพอริลตาลซิส (Peristalsis) คือ การบีบหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ แบบลูกคลื่นติดต่อกันเป็นระลอกของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังท่อทางเดินอาหาร ทำให้อาหารที่ เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปเกิดการเคลื่อนไหลไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่จากปากจนถึงทวารหนัก

68.       เลือดที่ผ่านการฟอกจากปอดแล้ว จะกลับเข้าสู่หัวใจส่วนใด

(1) ซีกบนซ้าย ขวา      (2) ซีกลางขวา ซ้าย     (3) ฟากซ้ายบน ล่าง    (4) ฟากขวาบน ล่าง

ตอบ 3 (คำบรรยาย) หัวใจของคนมี 4 ห้อง แบ่งเป็น 2 ฟาก คือ          1. ห้องฟากขวา 2 ห้อง(ฟากขวาบนและล่าง) ทำหน้าที่รับและส่งเลือดที่ผ่านการใช้งานจากร่างกายมาแล้ว โดย ห้องขวาบนจะรับเลือดใช้แล้วจากร่างกาย ส่วนห้องขวาล่างจะส่งเลือดเสียไปฟอกที่ปอด 2. ห้องฟากซ้าย 2 ห้อง (ฟากซ้ายบนและล่าง) ทำหน้าที่รับและส่งเลือดดีออกไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยห้องซ้ายบนจะรับเลือดดีที่ผ่านการฟอกจากปอดแล้ว ส่วนห้องซ้ายล่าง จะส่งเลือดดีไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

69.       น้ำตาลเปลี่ยนเป็นแป้งแล้วเก็บสะสมไว้ในตับ แป้งนั้น เรียกว่า

(1) Starch  (2) Glycogen      (3) Collagen       (4) Histogen

ตอบ 2 หน้า 153, (ตำบรรยาย) คาร์โบไฮเดรตทุกชนิดจะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นนํ้าตาลกลูโคส โดย ในภาวะปกติตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพนํ้าตาลกลูโคสให้เป็นแป้งไกลโคเจน (Glycogen) และเก็บสะสมไว้ในตับ เมื่อร่างกายขาดนํ้าตาลกลูโคสก็สามารถดึงเอาน้ำตาลกลูโคสจากตับ มาใช้งานได้ โดยเปลี่ยนไกลโคเจนกลับไปเป็นกลูโคส แต่ถ้าร่างกายมีปริมาณของนั้าตาลกลูโคส อยู่มากจนเกินความจำเป็นที่ต้องใช้ กลูโคสเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนโครงสร้างให้ไปเป็นไขมัน เก็บสะสมไว้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

70.       นํ้าดี (Bile) จากถุงนํ้าดี มีบทบาท

(1) ย่อยไขมัน  (2) แยกไขมันออกจากน้ำดี

(3) ทำให้ไขมันแยกตัวจากกัน (4) ช่วยการดูดซึมไขมัน

ตอบ 3 หน้า 149, (ตำบรรยาย) นํ้าดี (Bile) ที่ถูกสร้างจากถุงนํ้าดีที่ตับมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.         นํ้าดีไม่ถือว่าเป็นเอนไซม์ แต่จะมีหน้าที่หลักในการช่วยทำให้ไลปิดหรือไขมันแยกตัว ออกจากกัน เพื่อสะดวกแก่การย่อยของเอนไซม์ไลเปส

2. เป็นสาารสีเหลืองเข้ม มักมีรสขม

3.         ย้อมกากอาหารที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ให้มีสีเหลือง

71.       การดำรงชีพแบบใดที่เซลล์ผลิตอาหารได้เอง

(1) Chemosynthesis 

(2) Parasitism 

(3) Saprophytism 

(4) Eating

ตอบ 1 (คำบรรยาย) วิธีการสร้างอาหารของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1.         Autotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นได้เองจากอนินทรียสารของสิ่งมีชีวิต พวกออโตทรอฟ โดยมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ Photosynthesis และ Chemosynthesis

2.         Heterotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นมาใช้เองไม่ได้ของสิ่งมีชีวิต พวกเฮเทอโรทรอฟ จึงต้องได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ Saprophytism, Parasitism และ Eating (เช่น คน และสัตว์ทั่วไป)

72.       สิ่งมีชีวิตต่างจากสิ่งไม่มีชีวิต คือ

(1) การสืบพันธุ์ต่อเชื้อสาย      (2) มีสถานภาพเป็นสสาร

(3)       โครงสร้างรูปร่างและแบบแผนการประกอบเป็นรูปร่างไม่แน่นอน

(4)       สิ่งมิชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตไม่มีความแตกต่างกันในทุกด้าน

ตอบ 1 หน้า 58 – 9, (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตต่างจากสิ่งไม่มีชีวิต คือ

1.         มีโครงสร้างรูปร่างและแบบแผนการประกอบเป็นรูปร่างที่แน่นอน

2.         มีกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) หรือกระบวนการเพื่อการดำรงชีพ

3.         มีพฤติกรรมการตอบสนอง     4. มีการสืบพันธุ์ต่อเชื้อสายและการพัฒนา 5. มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม

73.       ลักษณะที่บ่งชี้ความเป็นสิ่งมีชีวิต คือ

(1) มีแบบแผนของโครงสร้าง  (2) มีกระบวนการเมแทบอลิซึม

(3) มีกระบวบการสืบพันธุ์       (4) มีทุกข้อที่กล่าวม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 72. ประกอบ

74.       ผลลัพธ์โดยรวมของกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) คือ

(1)       การเจริญเติบโต          (2) การขยายขนาด      (3) การสืบพันธุ์           (4) การชดเชยทดแทน

ตอบ 1 หน้า 147, (คำบรรยาย) กระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) เป็นกระบวนการทางเคมี ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในตัวของสิ่งมีชีวิต ซึ่งผลลัพธ์โดยรวมหรือผลลัพธ์สุดท้ายที่จะได้รับจาก กระบวนการเมแทบอลิซึม ก็คือ การเจริญเติบโต (Growth) หรือความมีชีวิตนั่นเอง

75.       ข้อใดคือคำจำกัดความของ การสืบพันธุ์” ในสิ่งมีชีวิต

(1) การสืบทอดลักษณะจากบรรพบุรุษ           (2) การให้ลูกที่มีลักษณะคล้ายผู้ให้กำเนิด

(3) การทวีจำนวนของสิ่งมีชีวิต            (4) ทุกข้อประกอบกัน

ตอบ 4 หน้า 167 การสืบพันธุ์ (Reproduction) หมายถึง การเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น ๆ ได้มากขึ้นโดยหน่วยที่เกิดขึ้นมาใหม่จะมีรูปร่างลักษณะและการดำเนินชีวีตเหมือนกับบรรพบุรุษ ซึ่งการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตมักมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือ           1. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ(Asexual Reproduction) เกิดจากการที่สิ่งมีชีวิตเพียงหน่วยเดียวทำการทวีจำนวนโดยวิธีใด วิธีหนึ่งแล้วหน่วยใหม่ที่ได้จะมีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ 2. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual Reproduction) เกิดจากการที่เซลล์สืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเพศผู้มาผสมหรือปฏิสนธิ กับเซลล์สืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเพศเมียได้เป็นไซโกต ซึ่งหน่วยใหม่ที่เกิดขึ้นจะรวมเอาลักษณะ ของพ่อและแม่มาไว้ด้วยกัน

76.       การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ มักเกิดจากการแบ่งเซลล์แบบ

(1) ไมโทซิส (Mitosis)      (2) ไมโอซิส (Meiosis)

(3) พาร์ทีโนจีเบซิส (Parthenogenesis)        (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 หน้า 167 – 168172, (คำบรรยาย) การแบ่งเซลล์จำแนกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis) เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์ทั่วไปให้เพิ่มทวีจำนวน เพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายของสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ ซึ่งการแบ่งเซลล์แบบบี้พบใน การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ

2.         การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (Meiosis) เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อให้เซลล์นั้นไปทำหน้าที่เป็น เซลล์สืบพันธุ์หรือเซลล์เชื้อเพศของสิ่งมีชีวิตขั้นสูงในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งการแบ่งเซลล์แบบนี้พบในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ

77.       กระบวนการสร้างหรือผลิตเซลล์เชื้อเพศ เรียกว่า

(1) ไมโทซิส (Mitosis)      (2) แกมีโทจีเนซิส (Gametogenesis)

(3) โอโอจีเนซิส (Oogenesis)     (4) สปอร์มาโทจีเนซิส (Sporematogenesis)

ตอบ 2 หน้า 172, (คำบรรยาย) กระบวนการสร้างเซลล์เชื้อเพศหรือเซลล์สืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต หากกล่าว โดยรวมไม่ระบุชนิดของเพศ เรียกว่า แกมีโทจีเนซิส” (Gametogenesis) ซึ่งแบ่งออกเป็น

1.         กระบวนการสร้างเซลล์ไข่หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า โอโอจีเนซิล” (Oogenesis)

2.         กระบวนการสร้างสเปิร์มหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เรียกว่า สเปอร์มาโทจีเนซิส” (Spermatogenesis)

78.       ข้อใดคือหน่วยกำหนดพันธุ์กรรมของสิ่งมีชีวิต

(1) RNA      (2) DNA     (3) FTA       (4) MRA

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 59. ประกอบ

79.       ผลของกล้วยเกิดจากการที่ไข่ไม่ได้รับการผสมจากเกสรเพศผู้ เรียกการสืบพันธุ์แบบนี้ว่า

(1)       Parthenogenesis      (2) Fertilization          (3)       Differentiation         (4)            Gametogenesis

ตอบ 1 หน้า 175 พาร์ทีโนจิเนซิส (Parthenogenesis) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ไข่ หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย สามารถจะเจริญเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตหรือเป็นผลไม้ขึ้นมาได้เอง โดยไม่ต้องได้รับการผสมพันธุ์จากเซลล์เพศผู้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นการได้ลูกหรือ ผลจากไข่ที่ไม่ได้รับการผสมเชื้อเพศผู้ ซึ่งตัวอย่างที่พบเห็นเป็นประจำ เช่น มด ผึ้ง ปลวก องุ่น กล้วย เป็นต้น

80.       ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกับสเปิร์มแล้ว เรียกว่า

(1) Enfant  (2)       Fetus         (3)       Zygote      (4)       Embryo

ตอบ 3 หน้า 184 – 185 ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกับสเปิร์มแล้ว เรียกว่า ไซโกต (Zygote) และ จากนั้นไซโกตก็จะเจริญเป็นตัวอ่อนหรือคัพภะ (Embryo) ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์

81.       สิ่งมีชีวิตประเภทใดที่มีการขยายพันธุ์โดยวิธีการสร้างสปอร์

(1) อะมีบา       

(2)       พืชพวกสน       

(3)       เฟิร์น    

(4)      ปะการัง

ตอบ 3 หน้า 9167, (คำบรรยาย) การสร้างสปอร์ (Spoliation) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการสร้างสปอร์เล็ก ๆ จำนวนมากให้ปลิวไปตกในสถานที่ที่มีอากาศอับ ร้อน ชื้น และอุณหภูมิ พอเหมาะเพื่องอกเจริญเป็นหน่วยชีวิตใหม่ที่เหมือนหน่วยชีวิตเดิม การสืบพันธุ์แบบนี้จะทำให้ ได้รุ่นลูกจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น เห็ด รา เฟิร์น เป็นต้น

82.       พืช GMOs คือพืชประเภทใด

(1)       พืชที่ปรับตัวให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายตามธรรมชาติ

(2)       พืชที่มีการผสมข้ามดอก ให้ได้สายพันธุ์ใหม่ ๆ

(3)       กล้วยไม้ที่นำมาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้มีปริมาณมาก ๆ

(4)       มะละกอถูกตัดต่อยีนส์เพื่อให้ต่อต้านโรคใบด่างได้

ตอบ 4 (คำบรรยาย) สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (Genetically Modifed Organisms : GMOs) หมายถึง พืช สัตว์ และจุลินทรีย์ ที่ถูกดัดแปลงหน่วยพันธุกรรม (DMA หรือ Gene)โดยใช้เทคนิค ทางพันธุวิศวกรรม เพื่อให้ได้ลักษณะใหม่ที่ต้องการ เช่น ต้านทานโรค ทนต่อแมลงและไวรัส สุกงอมช้า เพิ่มคุณค่าทางอาหาร เป็นต้น

83.       การปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนอาหารในลักษณะใด พบในสิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของพืช

(1) Parasitism    (2) Saprophytism (3) Eating       (4) Photosynthesis

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

84.       การรวมกันของสารเคมีหลายชนิดเมื่อ 4-5 พันล้านปีมาแล้ว ทำให้เกิดชั้นบรรยากาศโลก อุณหภูมิที่ผิวโลก จึงเหมาะสมต่อการเกิดของสิ่งมีชีวิต สารเคมีนั้นคือ

(1) ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NO)     (2) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)

(3) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (C02)     (4) ก๊าซมีเทน (CH4)

ตอบ 4 หน้า 15 – 16 โลกมีอายุประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านปีมาแล้ว โดยระยะวิวัฒนาการ ทางเคมีของโลกนั้น เริ่มเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลง จนเอื้อให้อะตอมของธาตุเบา ๆ (เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน และคาร์บอน) ซึ่งปกคลุมผิวโลกอยู่ เกิดการรวมตัวกัน เป็นสารประกอบทางเคมีขึ้น อันได้แก่ ไอนํ้า ก๊าซแอมโมเนีย และก๊าซมีเทน ซึ่งสารเคมีกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันเกิดเป็นชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลก และมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม ของโลกในยุคแรกเริ่มกำเนิดชีวิต

85.       สารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ที่เกิดจากการรวมกันของกรดอะมิโนคืออะไร

(1) ไขมัน (Fats)      (2) นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide)

(3) โปรตีน (Protein)       (4) โพลีแซกคาไรด์ (Polysaccharide)

ตอบ 3 หน้า 2040 โปรตีน (Protein) เป็นสารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ที่เกิดจากการรวมตัวกัน ของกรดอะมิโน (Amino Acid) ซึ่งประกอบขึ้นด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน

86.       กระบวบการหายใจ (Respiration) เป็นลักษณะเริ่มต้นของการเป็นสิ่งมีชีวิต ส่งผลอย่างไรกับโลก

(1)       มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในชั้นบรรยากาศโลกจึงอุ่นขึ้น

(2)       ทำให้โลกมีก๊าซออกซิเจนสะสมมากขึ้นทำให้อากาศบริสุทธิ์

(3)       เกิดเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญบนโลก          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 24, (คำบรรยาย) กระบวนการหายใจ (Respiration) เป็นลักษณะเริ่มต้นของการเป็น สิ่งมีชีวิต ซึ่งส่งผลกับโลก ดังนี้       1. มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในชั้นบรรยากาศจึงอุ่นขึ้น

2. ทำให้โลกมีก๊าซออกซิเจนสะสมมากขึ้นทำให้อากาศบริสุทธิ์           3. เกิดเป็นแหล่งพลังงาน

ที่สำคัญบนโลก           4. เกิดการย่อยสลายสารโมเลกุลใหญ่ให้เป็นโมเลกุลเล็ก

87.       ลักษณะแรกสุดที่แสดงถึงการเป็นสิ่งมีชีวิต คือ

(1) การรวมตัว (2)       การกินอาหาร  (3)       การเพิ่มขนาด  (4)       การทวีจำนวน

ตอบ 4 หน้า 21, (คำบรรยาย) ทฤษฎีกำเนิดชีวิต อธิบายว่า นิวคลีโอโปรตีน (Nucleoprotein)ที่เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างโปรตีนกับกรดนิวคลีอิกนั้น ถือเป็นสารอินทรีย์ที่เริ่มแสดงถึง คุณสมบัติหรือลักษณะแรกสุดของการเป็นสิ่งมีชีวิต คือ มีความสามารถในการเพิ่มจำนวน โมเลกุลใหม่ให้มีลักษณะเหมือนโมเลกุลเดิมได้โดยไม่ต้องเกิดปฏิกิริยาเคมี หรือที่เรียกว่า การสืบพันธุ์หรือการทวีจำนวน

88.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์จะต้องมีเนื้อเยื่อหรือกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่รับส่งกระแความรู้สึกจากการรบเร้านั้น เรียกเนื้อเยื่อหรือกลุ่มเซลล์นั้นว่าอะไร

(1) เนื้อเยื่อลำเลียง      (2)เนื้อเยื่อส่งผ่าน        (3)       เนื้อเยื่อประสาท          (4)       เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ

ตอบ 3 หน้า 196 เนื้อเยื่อหรือกลุ่มเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ชั้นสูง ได้แก่

1.         เนื้อเยื่อประสาท ทำหน้าที่รับส่งกระแสความรู้สึกจากสิ่งเร้า

2.         เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ทำหน้าที่แสดงการโต้ตอบสิ่งเร้านั้น

89.       หน่วยรับความรู้สึกเกี่ยวกับสารเคมีของผีเสื้อกลางคืน เรียกว่า

(1) Thermoreceptor  (2)       Pressoreceptor         (3)       Chemoreceptor        (4)            Photoreceptor

ตอบ 3 หน้า 196, (คำบรรยาย) ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) มีอวัยวะที่เป็น หน่วยรับความรู้สึก ได้แก่

1.         Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนหรือเย็น (อุณหภูมิ) ได้แก่ ผิวหนัง

2.         Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น จมูก และ หนวดแมลงบางชนิด เช่น ผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

5.         Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

90.       กระแสความรู้สึกถูกส่งผ่านเซลล์ประสาทไปยังสมอง (Brain) จากนั้นมีการหดตัวของกล้ามเนื้อขาเพื่อให้เดินถอยหลัง การแสดงออกดังกล่าวจัดอยู่ในกระบวนการใดของการตอบสนองต่อสิ่งเร้า

(1) กระบวนการรับความรู้สึก  (2) กระบวนการนำความรู้สึก

(3) กระบวนการแปลความหมายและสั่งการ   (4) กระบวนการตอบโต้

ตอบ 4 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบกล้ามเนื้อ เซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่กระแสความรู้สึกถูกส่งผ่านเซลล์ประสาทรับความรู้สึก (Sensory Neuron) ไปยังระบบประสาทส่วนกลาง (สมองและไขสันหลัง) แล้ว โดยที่ Motor Neuron จะส่งกระแสคำสั่ง จากระบบประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนองหรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับแหล่งรับความรู้สึกทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหว ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อขาเพื่อให้เดินถอยหลัง การเดินหนีห่างจาก อันตรายที่เรามองเห็น เป็นต้น

91.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในพืชถูกแสดงออกมาในลักษณะใด

(1) การเคลื่อนไหว       

(2) การเคลื่อนที่

(3) การตอบโต้ 

(4) พืชไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น

ตอบ 1 หน้า 198 การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชนั้น จัดว่าเป็นพฤติกรรมของพืชซึ่งแสดงออกมา ในรูปของการเคลื่อนไหว (Movement)โดยสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการตอบสนองในพืช มี 2 ประเภทคือ 

1. สิ่งเร้าภายใน ได้แก่ ฮอร์โมนและสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ           

2. สิ่งเร้าภายนอก ได้แก่ แสงสว่าง แรงดึงดูดของโลกอุณหภูมิ น้ำ ฯลฯ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ กัน

92.       เซลล์ประสาทในสัตว์ส่งกระแสความรู้สึกออกจากเซลล์ทางใด

(1) เดนไดรต์    (2) แอ็กซอน    (3) เอนด์ เพลต            (4) ไซแนปส์

ตอบ 2 หน้า 64197 เซลล์ประสาท (Nerve Cell) แต่ละเซลล์ประกอบด้วย

1.         ตัวเซลล์ประสาท (Cell Body)

2.         แอ็กซอน (Axon) ทำหน้าที่ส่งกระแสความรู้สึกและคำสั่งออกจากตัวเซลล์ประสาท

3.         เดนไดรต์ (Dendrite) ทำหน้าที่รับกระแสความรู้สึกเข้าสู่ตัวเซลล์ประสาท

4.         เอนด์ เพลต (End Plate) เป็นเส้นใยละเอียดจำนวนมากที่แผ่อยู่ที่ปลายกิ่งแขนงของเซลล์ประสาท ทำหน้าที่เป็นตัวเกาะเกี่ยวประสานกับเอนด์ เพลต ของเซลล์ประสาทอื่น ๆ

93.       ออกซิน (Auxin) เป็นฮอร์โมนที่พืชสร้างจากยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากของพืช ทำให้พืชตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร

(1) การขยายขนาดของลำต้นพืช         (2) การเบนหนีแสงของยอดพืช

(3) การเบนเข้าหาแสงของยอดพืช      (4) การเจริญสูงขึ้นเพื่อรับแสงของยอดพืช

ตอบ 3 หน้า 199 ออกซิน (Auxin) เป็นฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งฮอร์โมนนี้พืชจะสร้างจากปลายยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากในลักษณะที่หนีแสงสว่าง ทำให้พืช เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหรือมีพฤติกรรมการตอบสนองโดยการที่ยอดพืชจะโค้งหรือ เบนเข้าหาแสง ส่วนรากพืชจะเบนหนีแสง

94.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตชั้นตํ่าประเภทเซลล์เดียวเกิดที่ใด

(1) โปรโตพลาสม์        (2) เนื้อเยื่อประสาท     (3) เส้นใยประสาท      (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 หน้า 98106195 – 196, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำประเภทเซลล์เดียวซึ่งได้แก่ พวกโปรติสตา (Protista) เช่น ยูกลีน่า อะมีบา พารามีเซียม จะเกิดขึ้นพร้อมกันในก้อนโปรโตพลาสม์ ส่วนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ชั้นสูงและ ในพืชทั่วไปนั้น จะมีโครงสร้างหรืออวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากกัน

95.       การเจริญของรากต้นไทรหยั่งมาถึงพื้นดิน เป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เรียกว่า

(1) Phototropism       (2) Geotropism (3) Thermonastic      (4) Photonastic

ตอบ 2 หน้า 200 Geotropism เป็นการเคลื่อนไหวตอบสนองภายนอกต้นพืชเนื่องจากการเจริญเติบโต โดยมีแรงดึงดูดของโลกเป็นสิ่งเร้า เช่น การเจริญของรากต้นไทรหยั่งมาถึงพื้นดิน เป็นต้น

96.       ทฤษฎีการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่กล่าวว่า สิ่งมีชีวิตเกิดการเลือกสรไโดยธรรมชาติสอดคล้องกับข้อใด

(1) ลามาร์ค (Lamarck)    (2) ดาร์วิน (Darwin)

(3) เดอ ฟริล์ (De Vries)   (4) อริสโตเติล (Aristotle)

ตอบ 2 หน้า212-213 ตามทฤษฎีวิวัฒนาการการเลือกสรรโดยธรรมชาติ” (Natural Selection) ของชาร์ลล์ ดาร์วิน (Charles Darwin) กล่าวว่า ผู้ที่อ่อนแอไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้น จะตายไป เหลืออยู่แต่ผู้ที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอด มีอหาร และมีลูกหลานได้โดย ผู้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนี้มักจะมีคุณลักษณะพิเศษที่ดีเด่นแปลกไปจากผู้อื่น เมื่อมีลูกหลาน ก็จะถ่ายทอดหรือสอยลักษณะนั้น ๆ สืบต่อกันไป เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ที่ดีขึ้นมา

97. การยืนยันการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกที่ศึกษาได้จากฟอสซิล ควรเป็นไปในลักษณะใด

(1)       เปรียบเทียบลักษณะการกำเนิดของอวัยวะรยางค์ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง

(2)       เปรียบเทียบจากองค์ประกอบของสารเคมีในเซลล์

(3)       ศึกษาจากการทดลองผสมสายพันธุ์ใหม่

(4)       ศึกษาจากซากสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน

ตอบ 4 หน้า 213 หลักฐานเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         หลักฐานโดยตรงจากการศึกษาซากสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน หรือที่เรียกว่า ฟอสซิล (Fossil)

2.         หลักฐานจากการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตในยุคปัจจุบัน ในแง่รูปร่าง โครงสร้าง พัฒนาการ และลักษณะการทำงานของอวัยวะในสิ่งมีชีวิต

98.       การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงจากศัตรู เกิดขึ้นได้อย่างไร

(1) การมีนิ้วเท้ายาวของนกปากห่าง    (2) การมีสีเขียวสดของงูเชียว

(3) การมีรูปทรงและสีสันคล้ายใบไม้ของผีเสื้อกลางคืน (4) การมีพฤติกรรมเดินย่องของเสือดำ

ตอบ 3 หน้า 228 – 230 การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ

1.         เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น นกกระยางมีนิ้วเท้าเรียวยาวเหมาะแก่การทรงตัวนกกานํ้ามีนิ้วเท้าแบนมีพังผืดนกฮูกมีนิ้วเท้างองุ้มเล็บแหลมคมไก่มีเล็บเท้าใหญ่และแข็ง เหมาะแก่การคุ้ยเขี่ย เป็นต้น

2.         เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจากศัตรู เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่นการมีรูปทรงและสีสัน คล้ายใบไม้หรือสีเปลือกไม้ของผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

99.       พืชในที่แห้งแล้งแบบทะเลทรายปรับตัวให้อยู่รอดได้อย่างไรในสภาพที่ขาดนํ้า

(1) มีปากใบที่ผิวใบด้านบน    (2) เปลี่ยนรูปทรงใบให้มีก้านยาว

(3) ใบลดรูปเป็นหนาม ลำต้นสังเคราะห์แสงได้          (4) ระบบรากไม่พัฒนาดีนัก

ตอบ3 หน้า 231 Xerophyto ได้แก่ พืชที่อาศัยในพื้นที่ที่แห้งแล้ง มีน้ำน้อย พืชพวกนี้มักมีใบเล็กมาก หรือเปลี่ยนใบไปเป็นหนาม ไม่มีปากใบ ลำต้นทำหน้าที่สังเคราะห์แสงสร้างอาหารแทนใบได้ รากยาวหยั่งลึกและแผ่ไปไกลเพื่อดูดหานํ้า นอกจากนี้ยังมีสาร Cutin ฉาบเคลือบลำต้นไว้ ค่อนข้างหนาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหย

100.    ข้อใดสอดคล้องกัน

(1)       ไก่มีนิ้วเท้าแข็งแรงทำให้การหาอาหารในแหล่งนํ้ามีความเป็นไปโดยง่าย

(2)       เม่นมีขนแหลมและแข็ง ทำให้สะดวกในการหาอาหาร

(3)       นกยูงตัวผู้มีขนสวยงามช่วยดึงดูดเพศตรงข้ามให้เข้ามาผสมพันธุ์

(4)       งูสามเหลี่ยมมีสีคล้ายงูปล้องทอง ทำให้หลบหลีกศัตรูได้เป็นอย่างดี

ตอบ 3 หน้า 231 การปรับตัวทางด้านพฤติกรรม เป็นการปรับตัวเพื่อเสริมและสอดคล้องกับการปรับตัว ทางด้านรูปร่างและสรีระ เช่น นกยูงตัวผู้มีขนสวยงามช่วยดึงดูดเพศตรงข้ามให้เข้ามาผสมพันธุ เสือดาวมีพฤติกรรมในการเดินย่อง จดจ้อง และกระโดดได้อย่างว่องไวกระต่ายและกบมีขาหลัง ยาวและแข็งแรง มักมีนิสัยระแวงตกใจง่าย กระโดดหนีไปได้อย่างรวดเร็วปลาที่อยู่ในน้ำลึก มักปราดเปรียว ว่องไว เพื่อการโจมตีหรือหลบหนี เป็นต้น

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO 1001 ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน มักเชื่อมโยงความรู้ต่างสาขาเข้ามาเสริมประโยชน์แก่กัน เรียกการศึกษาลักษณะนี้ว่า

(1) Scientific Interdisciplinary

(2) Scientific Interdependency

(3) Scientific Independent

(4) Scientific Dependency

ตอบ 2 หน้า 2, (คำบรรยาย) Scientific Interdependency เป็นลักษณะการศึกษาวิทยาการทาง วิทยาคาสตร์ในยุคปัจจุบัน ที่มีการนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ มาผสมผสานเพื่อให้เสริมประโยชน์แก่กันจนเกิดองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น เช่น วิชาชีวเคมี ชีวฟิสิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น

2.         ในการทำงานโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Method) เมื่อพบประเด็นปัญหาแล้วต้องเริ่มต้นปัญหาที่

(1) สังเกต ตรวจสอบ พิสูจน์ ทดลอง

(2) ตั้งสมมุติฐานเพี่อแก้ปัญหา

(3) ประมวลข้อสรุป

(4) เก็บรวบรวมข้อมูลรอบด้านก่อน

ตอบ 4 หน้า 2, (คำบรรยาย) การทำงานโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Method) มี 5 ขั้นตอน

ดังนี้ 1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (กำหนดปัญหา) 2. การตั้งสมมุติฐาน (คิดหาแนวทางแก้ปัญหา)

3.         การสังเกต ตรวจสอบ ทดลอง (ออกแบบการทดลอง) 4. การประมวลสังเคราะห์หาข้อสรุป (วิเคราะห์ข้อมูลแล้วสรุปผล) 5. การสร้างทฤษฎี (แสดงวิธีการแก้ปัญหา)

3.         ในการปรากฏเพศของสิ่งมีชีวิต ถัามีครบทั้งสองเพศในต้นหรือตัวเดียวกัน เรียกว่ามีเพศแบบ

(1) Dioecious    

(2)       Monoecious

(3) Protandrous         Hermaphrodite       

(4)       Progynous        Hermaphrodite

ตอบ 2 หน้า 127172 การปรากฏเพศของสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         Dioecious/Dioedous Plant คือ สัตว์หรือพืชที่มีเพศแยกกับเป็นเพศผู้กับเพศเมีย หรือ ปรากฏการมีเพศเพียงอย่างเดียวในต้นหรือในตัว

2. Monoecious/Monoecious Plant

คือ สัตว์หรือพืชที่มีการปรากฏเพศครบทั้งสองพศในต้นหรือในตัวเดียวกัน

4.         มีการศึกษาพบว่า หอยน้ำจืดบางชนิดมีครึ่งแรกของชีวิตปรากฏเป็นเพศผู้ ครึ่งหลังของชีวิตเป็นเพศเมีย เรียกการปรากฏเพศแบบนี้ว่า

(1) Protandrous         Hermaphrodite        (2)       Progynous        Hermaphrodite

(3) Neogynous Hermaphrodite         (4)       Dioecious

ตอบ 1 (คำบรรยาย) Protandrous Hermaphrodite เป็นการปรากฏเพศของหอยนํ้าจืดบางชนิตที่มีครึ่งแรกของชีวิตปรากฏเป็นเพศผู้ ส่วนครึ่งหลังของชีวิตจะปรากฏเป็นเพศเมีย เช่น หอยขม เป็นต้น

5.         การมีลูกแบบที่พบในคน สุนัข แมว หนู เป็นแบบที่มีศัพท์เรียกว่า

(1) Oviparous    (2) Viviparous   (3) Ovoviviparous (4) Parthenogenesis

ตอบ 2 หน้า 91138, (คำบรรยาย) Enaima เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และเลือดมีสีแดง ซึ่งประกอบด้วยสัตว์ 2 พวก ได้แก่

1.         Oviparous คีอ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นไข่ เช่น เต่า จระเข้ กบ ยุง เป็ด ไก่ ตุ่นปากเป็ด ห่าน ไดโนเสาร์ เป็นต้น

2.         Viviparous คือ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นตัว เช่น มนุษย์ (คน) ปลาฉลาม ปลาวาฬ ปลาโลมา พะยูน ค้างคาว วัว สุนัข แมว หนู จิงโจ้ หมีแพนด้า เป็นต้น

6.         เมื่อไข่มีการปฏิสนธิกับสเปิร์มแล้ว จะแปรสภาพไปเป็น

(1) เอ็มบริโอ    (2) ไซโกต        (3) ฟีตุส           (4) ตัวอ่อน

ตอบ2 หน้า 184 – 185 ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกับสเปร์มแล้ว เรียกว่า ไซโกต (Zygote) และ จากนั้นไซโกตก็จะเจริญเป็นตัวอ่อนหรือคัพภะ (Embryo) ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห่

7.         พืชบางชนิด เช่น องุ่นไร้เมล็ด ส้มไร้เมล็ด แตงโมไร้เมล็ด กล้วยหอม รังไข่เจริญเป็นผลได้โดยเม็ดไข่ ไม่มีการปฏิสนธิ เป็นการเจริญแบบที่เรียกว่า

(1) Viviparous   (2) Meiosis         (3) Parthenogenesis (4) Oogenesis

ตอบ 3 หน้า 175 พาร์ทีโนจีเนซิส (Parthenogenesis) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ไข่ หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย สามารถจะเจริญเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตหรือเป็นผลไม้ขึ้นมาได้เอง โดยไม่ต้องได้รับการผสมพันธุ์จากเซลล์เพศผู้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นการได้ลูกหรือ ผลจากไข่ที่ไม่มีการปฏิสนธิหรือไม่ได้รับการผสมเชื้อเพศผู้ ซึ่งตัวอย่างที่พบเห็นเป็นประจำ เช่น มด ผึ้ง ปลวก องุ่นไร้เมล็ด ส้มไร้เมล็ด แตงโมไร้เมล็ด กล้วยหอม เป็นต้น

8.         การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยวิธี Binary Fission ต่างไปจากแบบ Budding ทีj

(1) Binary Fission พบในพวกเซลล์เดียว          (2) หน่วยใหม่ที่เกิดขึ้นมีขนาดเท่า ๆ กัน

(3) Budding เกิดในพวกหลายเซลล์ได้ด้วย          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) การแบ่งตัวออกเป็นสองส่วน (Binary Fission) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่เกิดจากเซลล์เดิมแบ่งตัวออกเป็นสองหน่วยใหม่ที่มีขนาดเห่า ๆ กัน ซึ่งจะพบเฉพาะในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น แบคทีเรีย โปรติสตา อะมีบา โมนีรา ส่วนการแตกหน่อ (Budding) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตหน่วยเดิมแบ่งตัวออกเป็นสองหน่วยใหม่ ที่มีขนาดไม่เท่ากัน พบได้ทั้งในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว และสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ เช่น ยีสต์

9.         การสร้างเซลล์เชื้อเพศ เป็นผลของการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เรียกกระบวนการผลิตเซลล์เชื้อเพศโดยทั่วไปว่า

(1) Oogenesis    (2) Spermatogenesis         (3) Gametogenesis   (4) Parthenogenesis

ตอบ 3 หน้า 172, (คำบรรยาย) กระบวบการสร้างเซลล์เชื้อเพศหรือเซลล์สืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต หากกล่าวโดยรวมทั่วไปไม่ระบุชนิดของเพศ เรียกว่า แกมีโทจีเนซิส” (Gametogenesis) ซึ่งแบ่งออกเป็น

1.         กระบวนการสร้างเซลล์ไข่หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า โอโอจีเนซิส” (Oogenesis)

2.         กระบวนการสร้างสเปิร์มหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เรียกว่า สเปอร์มาโทจีเนซิส” (Spermatogenesis)

10.       อวัยวะใดเป็นแหล่งผลิตเซลล์เชื้อเพศ

(1) Oviduct         (2) Ovaries         (3) Testes  (4) ข้อ 2 กับ 3

ตอบ 4 หน้า 172 อัณฑะ (Testes/Testis) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตเซลล์เชื้อเพศผู้ เรียกว่า สเปิร์ม” (Sperm) ส่วนรังไข่ (Ovaries/Ovary) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตเซลล์เชื้อเพศเมีย เรียกว่า ไข่” (Egg) หรือ โอวัม” (Ovum)

11.       ฟัน เป็นอวัยวะที่จัดไว้ในระบบใดของร่างกาย

(1) ระบบโครงกระดูก

(2) ระบบห่อหุ้มร่างกาย

(3) ระบบย่อยอาหาร

(4) ระบบท่อทางเดินอาหาร

ตอบ 4 หน้า 149, (คำบรรยาย) ในกระบวนการกินอาหาร (Nutrition) จะประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ที่มาร่วมกันทำหน้าที่เกี่ยวกับอาหาร ซึ่งรวมเรียกร่า ท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary Tract) โดยเริ่มต้นจากปากและช่องปาก (เริ่มที่เปาก เหงือก ฟัน ลิ้น ต่อม,นํ้าลาย) หลอดคอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ จนถึงทวารหนัก และหากอวัยวะเหล่านี้มีการทำงานร่วมกัน อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ก็จะเรียกว่า ระบบท่อทางเดินอาหาร” (Alimentary System)

12.       สัตว์มีวิธีการหาอาหารเลี้ยงตัว เป็นแบบ

(1) Autotrophic Nutrition

(2) Heterotrophic Nutrition

(3) Hemitrophic Nutrition

(4) Holotrophic Nutrition

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิธีการสร้างอาหารของสิ่งมิชีวิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1.         Autotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นได้เองจากอนินทรียสารของสิ่งมีชีวิต พวกออโตทรอฟ โดยมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ Photosynthesis และ Chemosynthesis

2.         Heterotrophic Nutrition เป็นแบบการสร้างอาหารขึ้นมาใช้เองไม่ได้ของสิ่งมีชีวิต พวกเฮเทอโรทรอฟ จึงต้องออกหาอาหารเลี้ยงชีพหรือได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ Saprophytism, Parasitism และ Eating (เช่น คน และสัตว์ทั่วไป)

13.       อวัยวะต่าง ๆ ที่มาร่วมกันทำหน้าที่เกี่ยวกับอาหารที่สัตว์บริโภคเข้าไป เรียกว่า

(1) Digestive Tract

(2)       Digestive System

(3)            Alimentary System

(4)            Alimentary Tract

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

14.       การเคลื่อนไหลของก้อนอาหารภายหลังการกลืนลงไป เป็นการเคลื่อนไหลแบบ

(1) Epistasis       (2)       Semistalsis       (3)       Peristalsis         (4)       Homeostalsis

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) เพอริสตาลซิส (Peristalsis) คือ การบีบหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ แบบลูกคลื่นติดต่อกันเป็นระลอกของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังท่อทางเดินอาหาร ทำให้อาหารที่เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไปเกิดการเคลื่อนไหลไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่จากปากจนถึงทวารหนัก

15.       ในนํ้าลายของคน มีเอนไซม์ที่สามารถย่อยแป้งได้เป็นบางส่วน เอนไซม์นั้นคือ

(1) อะไมเลส    (2)       ซูเครส  (3)       ไลเปส  (4)       โปรตีเนส

ตอบ 1 หน้า 149 เมื่อคนรับประทานอาหารโดยการเคี้ยว อาหารพวกคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้ง (เช่น ขนมปัง มันเทศ ข้าว ฯลฯ) บางส่วนจะถูกย่อยเป็นอันดับแรกในช่องปาก โดยเอนไซม์ อะไมเลส (Amylase) หรือไทยาลิน (Ptyalin) ที่อยู่ในน้ำลาย

16.       บทบาทหน้าที่ที่แท้จริงของนํ้าดี (Bile) คือ

(1) ย้อมกากอาหาร      (2) ย่อยอาหารประเภทไขมัน

(3) แยกไลปิดให้คลายตัวออกจากกัน (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) นํ้าดี (Bile) ที่ถูกสร้างจากถุงนํ้าดีที่ตับมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.         น้ำดีไม่ถือว่าเป็นเอนไซม์ แต่จะมีบทบาทหน้าที่หลักในการช่วยทำให้ไลปีดหรือไขมันคลายตัว ออกจากกัน เพื่อสะดวกแก่การย่อยของเอนไซม์ไลเปส

2.         เป็นสารสีเหลืองเข้ม มักมีรสขม          3. ย้อมกากอาหารที่อยู่ในลำไล้ใหญ่ให้มีสีเหลือง

17.       อวัยวะที่มีบทบาทหลักในการย่อยสกัดเอาสารอาหารออกมาใช้งาน คือ

(1)       กระเพาะอาหาร           (2)       ตับอ่อน            (3)       ลำไส้ใหญ่        (4)       ลำไส้เล็ก

ตอบ 4 หน้า 149152, (คำบรรยาย) การย่อยอาหารทุกประเภทของมนุษย์จะสิ้นสุดสมบูรณ์ที่ ลำไส้เล็กตอนปลาย โดยลำไส้เล็กจะมีบทบาทหลักในการย่อยสกัดเอาสารอาหารออกมาใช้งาน คือ สารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอลจะถูกดูดซับและลำเลียง เข้าสู่หลอดนํ้าเหลือง (Lacteal) แล้วเข้าไปในเส้นเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ส่วนสารอาหาร ประเภทกลูโคสและกรดอะมิโนจะถูกดูดซับและลำเลียงเข้าสู่หลอดเลือดฝอย (Capillary) ไปยังตับ และจะถูกนำไปใช้งานต่อไป โดยหลอดนํ้าเหลืองและหลอดเลือดฝอยที่เป็นทางเข้าของสารอาหาร เหล่านี้จะแทรกซึมอยู่ในผนังของลำไส้เล็กซึ่งยื่นออกมาเป็นเส้นเล็ก ๆ เรียกว่า วิลลัส (Villus)

18.       กลุ่มเซลล์ของเนื้อเยื่อบุผนังด้านในของลำไล้เล็ก แต่ละหน่วย เรียกว่า

(1)       วิลลัล   (2)       เยื่อบุทรงสูง     (3)       เยื่อบุมีแผงขน (4)       แลคทีล

ตอบ 1 หน้า 152, (คำบรรยาย) วิลลัส (Villus) เป็นส่วนของเยื่อบุทรงสูงที่บุผนังด้านในของลำไส้เล็ก มีลักษณะคล้ายนิ้วมือยื่นออกมาเป็นเส้นเล็ก ๆ ซึ่งเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นจำนวนมาก จะเรียกว่า วิลไล (Villi)

19.       หลอดท่อที่มีหน้าที่ดูดซับและลำเลียงสารอาหารประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอล คือ

(1) Capillary Artery   (2)       Capillary Vein (3)       Lacteal     (4)       Villi

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ

20.       ส่วนใดของหัวใจที่เป็นบริเวณรับเลือดที่มาจากอวัยวะอื่น

(1) สองห้องซีกบน       (2)       สองห้องซีกล่าง           (3)       สองห้องฟากขวา         (4)       สองห้องฟากซ้าย

ตอบ 1 หน้า 152, (คำบรรยาย) หัวใจของคนมี 4 ห้อง โดยแบ่งออกเป็นสองซีก คือ

1.         สองห้องซีกบน เรียกว่า เอเตรียม” (Atrium) ซึ่งทำหน้าที่รับเลือดจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของเลือด

2.         สองห้องซีกล่าง เรียกว่า เวนตรีเคิล” (Ventricle) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดออกจากหัวใจ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของเลือดเช่นกัน

21.       หลอดเลือดที่นำสารอาหารจากตับส่งเข้าสู่หัวใจ คือหลอดเลือดประเภท

(1) หลอดเลือดเวน 

(2) หลอดเลือดอาร์เทอรี 

(3) หลอดเลือดฝอย       

(4) เอออร์ตา

ตอบ 1 หน้า 152, (คำบรรยาย) หลอดเลือดที่มาติดต่อกับหัวใจมี 2 ประเภท คือ

1.         หลอดเลือดเวน (Vein) ทำหน้าที่นำเลือดที่ผ่านการใช้งานแล้วจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกา มาสมทบกับสารอาหารจากตับส่งเข้าสู่หัวใจ โดยจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมน้ำเงิน ซึ่งแพทย์ มักจะทำการเจาะและดูดเลือดจากหลอดเลือดเวนนี้เพื่อนำไปตรวจหาปริมาณสารอาหาร และสารต่าง ๆ หรือหาข้อมูลทางการแพทย์ ทั้งนี้เพราะมองเห็นได้ง่าย

2.         หลอดเลือดอาร์เทอรี (Artery) ทำหน้าที่นำเลือดออกจากหัวใจไปส่งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

22.       ปกติการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจหาปริมาณสารอาหารและสารต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จะเจาะที่หลอดเลือดประเภทใด

(1) หลอดเลือดอาร์เทอริ          

(2) หลอดเลือดเวน

(3) หลอดเลือดฝอย     

(4) หลอดเลือดประเภทใดก็ได้

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

23.       โปรตีนส่วนเกินจากที่ร่างกายต้องการ จะถูกขจัดออกนอกร่างกายในรูปของ

(1)       เหงื่อ    

(2) ปัสสาวะ    

(3) อุจจาระ      

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 154 – 156, (คำบรรยาย) ไต เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ขจัดโปรตีนในรูปกรดอะมิโน ส่วนเกินจากที่ร่างกายต้องการ โดยไตจะแปรรูปกรดอะมิโนไปเป็นกรดยูริก –เกลือยูเรีย (ผสมนํ้า) –> สารละลายยูรีนซึ่งมีกลิ่นแอมโมเนียรวมอยู่ และถูกขับออกนอกร่างกายในรูปของ นํ้าปัสสาวะในที่สุด

24.       อาการของการแลกเปลี่ยนอากาศภายนอก ที่ปรากฏให้เห็นได้ คือ

(1)       กรหายใจเข้า (2) การหายใจออก

(3) การหายใจเข้า-ออกสลับกัน           (4) การกระเพื่อมยุบ-ยืดของอก

ตอบ 3 หน้า 157 – 158, (คำบรรยาย) การหายใจหรือการแลกเปลี่ยนอากาศ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ

1.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายนอก (External Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างอากาศภายนอกกับถุงลมในปอด โดยอาศัยกลไกของ การสูดลมหายใจเข้า-ออกสลับกันทางจมูก

2.         การแลกเปลี่ยนอากาศภายใน (Internal Respiration) เป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่าง เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดฝอยกับเซลล์ของร่างกาย

ซึ่งการแลกเปลี่ยนอากาศทั้ง 2 ตอนนี้จะเกิดขึ้นโดยกระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion)

25.       การแลกเปลี่ยนอากาศภายใน เป็นการแลกเปลี่ยนอากาศระหว่าง

(1)       เม็ดเลือดแดงกับเม็ดเลือดขาว            (2) เม็ดเลือดแดงกับนํ้าเลือด

(3) เม็ดเลือดแดงกับเซลล์ของร่างกาย            (4) เซลล์กับเซลล์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

26.       การแลกเปลี่ยนอากาศ เกิดขึ้นตามหลักการ

(1)       การแพร่กระจาย          (2) การออสโมซิส        (3)ไดอะไลซิส  (4) ทั้งข้อ1และ2ประกอบกัน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

27.       การหายใจ ซึ่งส่งผลให้ช่องอกยุบ-ขยาย หรือปอดพอง-แฟบ สลับกัน เกิดจากการทำงานของอวัยวะใด

(1)       กะบังลม          (2) กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครง

(3) กระดูกอ่อนที่ยึดกระดูกซี่โครงด้านหน้า     (4) ทั้งข้อ 1 และ 2 ประสานงานกัน

ตอบ 4 หน้า 157, (คำบรรยาย) การหายใจ ซึ่งส่งผลให้ช่องอกยุบ-ขยาย หรือปอดพอง-แฟบ สลับกัน ในมนุษย์นั้นเกิดจากการทำงานร่วมกันของกะบังลมกับกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครง โดยร่างกาย จะมีลักษณะอาการดังนี้

1.         ขณะที่หายใจเข้า กะบังลมจะหดตัวแบนราบลง และกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงหดตัว ทำให้ช่องอกขยายขนาดและปอดพองตัวขึ้น

2.         ขณะที่หายใจออก กะบังลมจะหย่อนโค้งขึ้น และกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงผ่อนคลายตัวลง ทำให้ช่องอกลดขนาดและปอดยุบแฟบลง

28.       การศึกษาเรื่องของท้องฟ้า ดวงดาว การพยากรณ์อากาศ เป็นวิทยาศาสตร์ประเภทใด

(1)       วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (2) วิทยาศาสตร์กายภาพ

(3) วิทยาศาสตร์,ประยุกต์      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ หรือวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งแวดล้อมของโลก หรือความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น การสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับ ภาวะโลกร้อนธรณีวิทยา (แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด)อุทกวิทยา (น้ำท่วม)อุตุนิยมวิทยา (ประกาศคาดการณ์ลักษณะอากาศ การพยากรณ์อากาศ)ดาราศาสตร์ (ท้องฟ้า ดวงดาว) เป็นต้น

29.       วิทยาศาสตร์ชีวภาพที่มุ่งพิจารณาถึงเฉพาะความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในกลุ่มของสิ่งมีชีวิต (ไม่เกี่ยวกับ ฐานะบทบาทหน้าที่) เรียกว่า

(1) ประชากรศาสตร์    (2) สังคมศาสตร์          (3) รัฐศาสตร์   (4) นิเวศวิทยา

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Science) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ ชีวภาพที่เน้นศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชา คือ

1.         สังคมศาสตร์ (Social Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ วิชานิติศาสตร์ สังคมวิทยา เป็นต้น

2.         รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงฐานะ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในสังคมสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

30.       หากต้องการปฏิบัติภารกิจที่รับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ท่านพึงต้องใช้คุณธรรมข้อใด

(1) พรหมวิหารธรรม    (2) ฆราวาสธรรม         (3) สังคหวัตถุธรรม      (4) อิทธิบาทธรรม

ตอบ     4 (คำบรรยาย) อิทธิบาท 4 คือ หลักคุณธรรมที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งในการครองชีวิต การปฏิบิตหน้าที่การงาน และการศึกษา ประกอบด้วย

1.         ฉันทะ (มีใจรัก) คือ รักงาน พอใจจะทำ ทำด้วยใจรัก ต้องการทำให้สำเร็จอย่างดี ซึ่งถือเป็น แรงจูงใจที่ดีอันดับแรกในการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ด้วยความกระตือรือร้น

2.         วิริยะ (มีความเพียร) คือ สู้งาน ขยันหมั่นกระทำด้วยความพยายาม มีความวิริยะอุตสาหะ ตั้งใจจริง เข้มแข็ง อดทน ไม่ท้อถอย

3.         จิตตะ (มีความฝักใฝ่) คือ ใส่ใจงาน เอาใจใส่ในสิ่งที่ทำด้วยความอุทิศตัวและใจ

4.         วิมังสา (ใช้ปัญญาสอบสวน) คือ ทำงานด้วยปัญญา รู้จักไตร่ตรองพิจารณา ใคร่ครวญหาเหตุผล ตรวจสอบข้อบกพร่อง รู้จักทดลอง วางแผน วัดผล คิดคนวิธีแก้ไขปรับปรุง

31.       หมู่หรือจำนวนของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งเรียกว่า

(1) ชนิดพันธุ์ (Species)    

(2) ชุมชน (Community)

(3) ประชากร (Population)      

(4) สังคม (Society)

ตอบ 1 หน้า 570, (คำบรรยาย) ชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (Species) หมายถึง หมู่หรือจำนวนของ สิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตพวกเดียวกัน โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

1.         มีรูปร่างลักษณะและการจัดระเบียบโครงร่างแบบเดียวกัน

2.         มีวิถีการดำรงชีวิตเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน

3.         มีการเพิ่มทวิจำนวน    

4. สามารถสืบต่อเผ่าพันธุ์ของตนได้

5.         ได้รับอิทธิพลจาก DNA หรือ Gene แต่ไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม

32.       ผู้ที่ใช้เศษอาหารเหลือจนเป็นปุ๋ยหมัก คือ

(1) สัตว์บก      

(2) สัตว์น้ำ       

(3) แบคทีเรีย   

(4) แมลง

ตอบ 3 หน้า 26234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้ย่อยสลายทำลาย (Decomposer) มีการดำรงชีพแบบ Saprophytism นั่นคือ การกินซากของเสียหรือซากสิ่งมีชีวิตอื่นที่ตายแล้ว โดยการผลิตเอนไซม์ ออกมาทำการย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต ของเสีย ขยะมูลฝอย และเศษอาหาร ให้ยุบย่อยสลายตัว กลายเป็นปุ๋ยหมัก อันมีธาตุพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้ ได้แก่ เห็ด เชื้อรา และแบคทีเรีย

33.       ข้อใดไม่ใช่สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวกำหนดเขตและควบคุมการกระจายของประชากร

(1) อากาศร้อนจัด        

(2)       ฝนตกนอกฤดูกาล       

(3)       แม่น้ำเจ้าพระยา          

(4) เชื้ออหิวาตกโรค

ตอบ 4 หน้า 71 สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวกำหนดอาณาเขตและควบคุมการกระจายของประชากร ได้แก่ แม่น้ำ ทะเล แผ่นดิน ภูเขา ภูมิอากาศ ปริมาณนํ้าฝน เป็นต้น

34.       สังคม ผึ้ง” มักใช้สิ่งใดในการสื่อสาร

(1) เสียง          (2)       ภาษา   (3)       สัญญาณทางกาย       (4) สัญลักษณ์

ตอบ 3 หน้า 71-72 สังคม (Society) เป็นการอยู่รวมกันของประขากรของสิ่งมีชีวิต มีความสัมพันธ์ และร่วมสร้างประโยชน์แก่กันและกันเพื่อความอยู่รอด โดยในการรวมกันเป็นสังคมนี้ แต่ละสังคม จะต้องมีวิธีการสื่อสารเพื่อความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งสิ่งที่ใช้ในการสื่อสารอาจเป็นสัญญาณทางกาย เช่น สังคมผึ้ง หรือภาษาสื่อสารกันภายในสังคมนั้น ๆ เช่น สังคมมนุษย์ เป็นต้น

35.       ก๊าซซนิดใดถูกพืชนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง

(1) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์     (2) ก๊าซออกซิเจน

(3) ก๊าซไนโตรเจน        (4) ก๊าซไฮโดรเจน

ตอบ 1 หน้า 7389 วัฎจักรของธาตุคาร์บอน เป็นการหมุนเวียนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งอยู่ในอากาศและละลายปนอยู่ในนํ้า โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นี้นับว่าเป็นแหล่งของธาตุคาร์บอนที่สำคัญของพืชที่จะนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเพื่อแปรสภาพเป็นอาหาร และจะกลับคืนสู่อากาศอีกครั้งหนึ่งในฐานะเป็นผลของการหายใจของพืชและสัตว์ นอกจากนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังอาจเกิดขึ้นได้จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงต่าง ๆ

36.       กระบวนการย่อยสลายในห่วงโซ่อาหาร ก๊าซใดจะถูกนำมาใช้

(1) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์     (2) ก๊าซออกซิเจน

(3) ก๊าซแอมโมเนีย      (4) ก๊าซมีเทน

ตอบ 3 หน้า 74 ในกระบวนการย่อยสลายในห่วงโซ่อาหาร เมื่อพืชหรือสัตว์ตายลง ธาตุไนโตรเจน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของพืชและสัตว์ที่สะสมอยู่ในตัวก็จะถูกเปลี่ยนรูปให้เป็นก๊าซแอมโมเนีย (NH3) ซึ่งต่อมาก๊าซแอมโมเนียจะถูกแบคทีเรียชนิดที่เรียกว่า Nitrifying bacteria ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสารประกอบไนเตรท

37.       หน้าที่หลักของสารอินทรีย์ มีอยู่กี่ประการ

(1) 2 ประการ  (2) 3 ประการ  (3) 4 ประการ  (4) 1 ประการ

ตอบ 1 หน้า 73 สารอินทรีย์มีหน้าที่หลัก 2 ประการ คือ

1.         เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต และจะคงอยู่ในสภาพนั้นจนกว่าสิ่งมีชีวิตนั้น จะตาย

2.         ถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการหายใจของสิ่งมีชีวิต

38.       ข้อใดคือหน้าที่หลักของสารอินทรีย์

(1)       มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในรูปคงที่

(2)       เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างสิ่งมีชีวิตจนตาย

(3)       มีความสำคัญในวัฏจักรของธาตุคาร์บอน     

(4) เป็นองค์ประกอบหลักของธาตุไนโตรเจน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

39.       ธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบหลักของอะไร

(1) ไขมัน          (2) โปรตีน       (3) แป้ง           (4) วิตามิน

ตอบ 2 หน้า 182040 โปรตีน (Protein) เป็นสารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ที่เกิดจากการรวมตัวกันของกรดอะมิโน (Amino Acid) ซึ่งประกอบขึ้นด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน โดยธาตุไนโตรเจนจะยึดเกาะอยู่กับธาตุไฮโดรเจน กลายเป็นหมู่ธาตุ ที่เรียกว่า อนุมูลกรดอะมิโน (Amino Radical-NH2)

40.       วัฏจักรของไนโตรเจนจะมีแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างน้อยกี่ประเภท

(1)       หน้งประเภท   (2) สองประเภท          (3) สามประเภท          (4) สี่ประเภท

ตอบ4  หน้า 7489 วัฏจักรของไนโตรเจน เป็นการหมุนเวียนของก๊าซไนโตรเจนในอากาศ โดยอาศัยการทำงานของแบคทีเรีย 4 ประเภท ได้แก่

1.         Decomposing bacteria มีหน้าที่ทำให้ซากพืชซากสัตว์เกิดการเน่าเปื่อยกลายเป็นก๊าซแอมโมเนีย

2.         Nitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซแอมโมเนียให้เป็นสารประกอบไนเตรท

3.         Denitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจน กลับคืบสู่อากาศ

4.         Nitrogen-fixing bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนเตรท ซึ่งเป็นรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

41.       การศึกษา นิเวศวิทยา” คือการศึกษาเกี่ยวกับ       

(1) การศึกษาสิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับสิ่งมีชีวิต

(2)       การศึกษาสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกนี้  

(3) การศึกษาสิ่งแวดล้อมทุกด้าน

(4)       การศึกษาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในปัจจุบัน

ตอบ 1 หน้า 179, (คำบรรยาย) นิเวศวิทยา (Ecology) เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในทางชีววิทยาแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็น 2 ประเภท คือ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต และสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพหรือ สิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต

42.       พ่อแม่พันธ์กุ้งก้ามกรามมักวางไข่บริเวณปากแม่น้ำ บริเวณปากแม่นํ้า” ถือว่าเป็น

(1) Community 

(2) Habitat         

(3) Continental Shelf 

(4) Freshwater

ตอบ 2 หน้า 79, (คำบรรยาย) แหล่งที่อยู่อาศัย (Habitat) ที่ประกอบขึ้นมาเป็นโลก มีอยู่ 2 ส่วน คือ

1.         Hydrosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นนํ้า ซึ่งแบ่งออกเป็นแหล่งอาศัยที่เป็นน้ำจืด (Freshwater / Inland Habitat), แหล่งอาศัยที่เป็นน้ำเค็ม (Marine / Oceanic / Maritime Habitat) และแหล่งอาศัยที่เป็นนํ้ากร่อย (Estuarine Water Habitat)

2.         Lithosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นพื้นผิวดินหรือแหล่งอาศัยที่เป็นบก (Terrestrial /Land Habitat)

43.       บริเวณไหล่ทวีปของประเทศไทย คือ

(1) ฝั่งทะเลอันดามัน   (2) ฝั่งทะเลตะวันออก (3) บริเวณอ่าวไทย      (4) ฝั่งทะเลแปซิฟิก

ตอบ 3 หน้า 79, (คำบรรยาย) ไหล่ทวีป (Continental Shelf) เป็นแหล่งอาศัยนํ้าเค็มที่มีรูปร่าง คล้ายอ่างหรือกระทะที่ลาดลงจากชายฝั่งทีละน้อย ๆ และเป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างอุดมสมบูรณ์มาก จึงนับว่าเป็นแหล่งอาศัยนํ้าเค็มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจด้าน การประมง เช่น บริเวณอ่าวไทย เป็นต้น

44.       พี้นผิวหน้าดินก้นมหาสมุทรที่ลึกที่สุดอยู่บริเวณใด

(1) ภาคตะวันตกของประเทศอินเดีย  (2) ฝั่งทะเลอันดามัน

(3)       ทะเลแคริบเบียน         (4) ภาคตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์กับหมู่เกาะญี่ปุน

ตอบ4 หน้า 79 – 80 ลาดทวีป (Continental Slope) คือ บริเวณที่มีความชันมากขึ้นต่อจากไหล่ทวีป ซึ่งจะมีความชันไปถึงระดับพื้นผิวหน้าดินก้นมหาสมุทร โดยบางแห่งอาจมีลักษณะเป็นแอ่งลึก ซึ่งแอ่งลึกที่สุดที่สำรวจพบในปัจจุบันมีความลึกจากผิวน้ำทะเลประมาณ 35,000 ฟุต อยู่ใน มหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างเกาะมินดาเนา ภาคตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์กับหมู่เกาะญี่ปุ่น

45.       แนวเขตขายฝั่ง” (Littoral Zone) หมายถึงอาณาบริเวณใด

(1) บริเวณความลึกมากกว่า 600 ฟุต (2) อาณาเขตจากชายฝั่งไปจนหมดเขตของไหล่ทวีป

(3) ไม่มีสิ่งมีชีวิตกลุ่ม Benthos    (4) พืชจำพวกสาหร่ายมีน้อย

ตอบ 2 หน้า 80 แนวเขตชายฝั่ง (Littoral Zone) เป็นอาณาเขตของท้องทะเลนับจากชายฝั่งออกไป จนหมดเขตของไหล่ทวีป เป็นบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 100 ฟาธอมหรือ 600 ฟุต แสงแดดยังส่องลงไปได้ถึง จึงพบว่ามีพืชที่สังเคราะห์แสงได้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแอลจีหรือสาหร่ายชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วยังมีสัตว์และพืชที่มีขนาดเล็กมากมารวมกันอยู่ที่ผิวนํ้า ซึ่งได้แก่          

1. แพลงก์ตอน (Plankton) เป็นพวกที่ลอยไปมาตามแรงคลื่นลมและไม่แข็งแรง

พอที่จะว่ายนํ้าเองได้   

2. เนคตอน (Nekton) เป็นพวกที่สามารถว่ายนํ้าได้เองโดยอิสระ

3.         เบนธอส (Benthos) เป็นพวกที่อาศัยอยู่ที่หน้าดินหรือในดิน

46.       สิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถว่ายนํ้าได้อย่างอิสระ คือกลุ่มใด

(1) Nekton          (2) Plankton      (3) Benthos        (4) Pelagic

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ

47.       บริเวณน้ำขึ้นลงอยู่เป็นประจำ เรียกว่า

(1) Continental Shelf (2) Intertidal Zone   (3) Pelagic Zone         (4) Mesopelagic Zone

ตอบ 2 หน้า 80 Intertidal Zone หรือ Strand เป็นบริเวณที่มีการขึ้นลงของนํ้าอยู่เป็นประจำทุกวัน จึงทำให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องปรับตัวให้รอดพ้นจากความร้อนของแสงอาทิตย์ หรือแสงแดด และแรงอัดกระแทกของคลื่นที่ซัดเข้าสู่ฝั่งตลอดเวลา เช่น สามารถเคลื่อนไหวได้ อย่างรวดเร็ว หรือมีสิ่งยึดเกาะกับก้อนหินอยู่อย่างเหนียวแน่น และทนต่อสภาพการขาดนํ้าได้ ในช่วงระยะเวลาที่น้ำลด

48.       สิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยในบริเวณ Intertidal Zone ต้องมีการปรับตัวแบบใด

(1) ต้องเป็นสิ่งมีชีวีตที่มีคลอโรฟิลส์เท่านั้น     (2) เคลื่อนที่ให้ช้าลง

(3) ทนต่อการอัดกระแทกของคลื่นที่ซัด           (4) ต้องอยู่ใต้นํ้าตลอดเวลา

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       สิ่งมีชีวิตในเขตที่เรียกว่า “Pelagic Zone” ควรมีการปรับตัวอย่างไร

(1) ปรับตัวให้พ้นจากความร้อนของแสงแดด  (2) การอัดกระแทกของคลื่น

(3) ทนสภาพการขาดน้ำ          (4) มีความสามารถว่ายนํ้าได้อย่างแข็งแรง

ตอบ 4 หน้า 80 Pelagic Zone หมายถึง ท้องทะเลบริเวณที่เลยเขตไหล่ทวีปออกไป โดยสิ่งมีชีวิต ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องปรับตัวให้สามารถลอยตัวหรือว่ายนํ้าได้อย่างแข็งแรง เพราะเป็น บริเวณที่ไม่มีสิ่งใดให้ใช้ยึดเกาะได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในบริเวณนี้มักมีขนาดใหญ่ เช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาฉลาม เต่าทะเล เป็นต้น

50.       แหล่งที่อยู่อาศัยที่เป็นนํ้าเค็ม เรียกว่า

(1) Marine Habitat    (2) Terrestrial Habitat (3) Ecosystem         (4) Inland Habitat

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ

51.       ปลาวาฬและเต่าทะเล เป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณใด

(1) Pelagic Zone         

(2) Intertidal Zone 

(3) Littoral Zone  

(4) Continental Shelf

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 49. ประกอบ

52.       บริเวณมหาสมุทรที่มีระดับความลึกตั้งแต่ 600 ฟุตลงไปจะมีลักษณะดังนี้

(1) การไหลเวียนของกระแสนํ้ามีน้อยมาก      

(2) การไหลเวียนของกระแสนํ้าค่อนข้างรุนแรง

(3) มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในรอบวันสูง        

(4) มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 – 20 องคาเซลเซียส

ตอบ 1 หน้า 80 บริเวณมหาสมุทรที่มีระดับความลึกตั้งแต่ 600 – 6,000 ฟุต เป็นบริเวณที่แสงแดด ไม่อาจส่องลงไปได้ถึง จึงเป็นบริเวณที่มืดสนิทอยู่ตลอดเวลา การไหลเวียนของกระแสน้ำ มีน้อยมาก ทำให้อุณหภูมิของนํ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงและจะเย็นจัด โดยมีอุณหภูมิประมาณ 10 – 1 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ความกดดันของนํ้าจะสูงมาก ซึ่งความกดดันนี้จะเพิ่มขึ้น 1 หน่วยบรรยากาศในทุก ๆ ความลึก 93 ฟุต

53.       ความกดดันของนํ้าบริเวณลึกที่สุดของมหาสมุทรอะมีมากกว่าผิวนํ้าโดยประมาณกี่เท่า

(1) 10 เท่า       (2) 100 เท่า     (3) 500 เท่า     (4) 1000 เท่า

ตอบ 4 หน้า 80 – 81 บริเวณที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรนั้น ความกดดันของนํ้าจะมีมากกว่าความกดดัน ที่ผิวนํ้าเป็น 1000 เท่า สัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จึงมีน้อยมาก ทำให้บริเวณใต้ทะเลลึกนั้นเงียบสงัด โดยอาหารที่สัตว์ในบริเวณนี้ได้รับ คือ ซากอินทรียสาร ซึ่งตกลงมาจากน้ำที่อยู่ในระดับสูงกว่า ตลอดเวลา ส่วนพืชที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มีเพียงแบคทีเรียเท่านั้น การดำรงชีวิตเป็นแบบแก่งแย่งทำลายกัน (Competition) สัตว์ทุกชนิดจะต้องมีความว่องไวและมีประสาทสัมผัสที่ดี นอกจากนี้สัตว์บางชนิดยังมีความสามารถในการเรืองแสงเพื่อประโยชน์ในการหาอาหารและหาคู่เพื่อการผสมพันธุ์

54.       อาหารที่สัตว์นํ้าใต้ท้องทะเลลึกหากินมักเป็นอาหารประเภทใด

(1) ตัวอ่อนของหนอนทะเล (2) ซากอินทรียสาร (3) อนินทรียสาร        (4) สัตว์นํ้าวัยอ่อน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

55.       การดำรงชีวีตของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลลึกส่วนใหญ่เป็นแบบใด

(1) Neutralism  (2) Commensalism (3) Competition (4) Mutualism

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

56.       สัตว์ใต้ท้องทะเลลึกบางชนิดสามารถเรืองแสงเพื่อประโยชน์อะไร

(1) เพื่อหาคู่การผสมพันธุ์        (2) เพื่อการหาที่อยู่อาศัย

(3) ป้องกันภัยจากศัตรู            (4) เพื่อการลอยตัว

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

57.       ลักษณะใดซึ่งไม่ได้นำมาพิจารณาในการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตในช่วงแรก

(1) วิวัฒนาการ            (2) แหล่งที่อยู่อาศัย     (3) การดำรงชีวิต         (4) รูปร่างโครงสร้าง

ตอบ 1 หน้า 91 ในการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตในช่วงแรกนั้น นักปราชญ์ได้พยายามวางกฎเกณฑ์ เป็นแนวปฏิบัติไว้ แต่ก็ยังมิได้เป็นกฎเกณฑ์ที่แน่นอนอาศัยเพียงการพิจารณาความแตกต่าง หรือความคล้ายคลึงของลักษณะที่สังเกตเห็นได้ คือ แหล่งที่อยู่อาศัย (Habitat) ลักษณะการดำรงชีวิต (Mode of Living) รูปร่างโครงสร้าง (Structure) ส่วนความสัมพันธ์ในเชิงของวิวัฒนาการ (Evolution) ไม่ได้นำมาพิจารณาเลย

58.       นักปราชญ์ชาวกรีกอริสโตเติลจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยอาศัยลักษณะอะไร

(1) การดำรงชีวิต         (2) การเลือกชนิดอาหาร          (3) สีเลือด       (4) ที่อยู่อาศัย

ตอบ 3 หน้า 91 อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีก ได้จัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยอาศัย โครงสร้างและลักษณะของสีเลือด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ

1. Anaima 2. Enaima

59.       สิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในกลุ่ม Anaima คือ

(1) กับ (2) ตุ๊กแก         (3) นกกระสา  (4) ฟองน้ำ

ตอบ 4 หน้า 91 Anaima เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และเลือดไม่มีสีแดง ประกอบด้วยสัตว์พวกต่าง ๆ 5 พวก ได้แก่ 1. ปลาหมึก 2. กุ้ง กั้ง ปู 3. แมลงและแมงมุม 4. หอยและหอยเม่น

5.         ฟองนํ้าและกะพรุน

60.       สัตว์ชนิดใดออกลูกเป็นไข่

(1) ตุ่นปากเป็ด            (2) แมว            (3) ปลาวาฬ    (4) วัว

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

61.       คำว่า Viviparous หมายถึง

(1) สัตว์ซึ่งออกลูกเป็นไข่         

(2) สัตว์ซึ่งออกลูกเป็นตัว

(3) สัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่และเป็นตัว     

(4) สัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่ครั้งละมากกว่า 10 ฟอง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

62.       การจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตแบบ Natural System มีการพิจารณานำหลักเกณฑ์ใดเป็นหลักเกณฑ์ใหญ่

(1) แหล่งที่อยู่อาศัย     

(2) การดำรงชีวิต         

(3) รูปร่างโครงสร้าง    

(4) วิวัฒนาการ

ตอบ 4 หน้า 91 -92 Carolus Linnaeus นักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน ได้คิดระบบการจัดหมวดหมู่ ของสิ่งมีชีวิตโดยพิจารณาความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการเป็นหลักเกณฑ์ใหญ่ ซึ่งเรียกระบบแบบนี้ว่า Natural System นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีระบบการตั้งชื่อสกุลและชื่อชนิดของสิ่งมีชีวิตแบบ Binomial Nomenclature ซึ่งเรียกว่า ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific Name) โดยกำหนดว่า สิ่งมีชีวิตใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกันมากก็ให้ใช้ชื่อเดียวกัน และต้องมีชื่อชนิดของสิ่งมีชีวิต กำกับไว้ด้วย จึงทำให้ชื่อของสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อสกุล และชื่อชนิด

63.       ชื่อวิทยาศาสตร์” ของสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย

(1) ชื่อชนิดพันธุ์           (2) ชื่อของชนิด

(3) ชื่อสกุลและชื่อชนิด            (4) ชื่อชนิดพันธุ์และชื่อผู้ตั้ง

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 62. ประกอบ

64.       การลำดับหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต สกุล (Genus) ต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกันจัดให้เป็น

(1)       วงศ์ (Family) เดียวกัน      (2) อันดับ (Order) เดียวกัน

(3) ชั้น (Class) เดียวกัน       (4) ไฟลัม (Phylum) เดียวกัน

ตอบ 1 หน้า 92 Carolus Linnaeus ได้กำหนดการลำดับหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตไว้ว่า สิ่งมีชีวิตนั้น แยกออกเป็น ชนิด” (Species) สิ่งมีชีวิตที่มีความคล้ายคลึงกันมากจัดให้อยู่ใน สกุล” (Genus) เดียวกัน สกุลต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกันจัดให้อยู่ใน วงศ์” (Family) เดียวกัน วงศ์ใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ ใกล้เคียงกันจัดให้อยู่ใน อันดับ” (Order) เดียวกัน อันดับของสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน จัดให้อยู่ใน ขั้น” (Class) เดียวกัน ขั้นต่าง ๆ ที่มี ลัษณะร่วมกันจัดให้อยู่ใน ไฟลัม” (Phylum) หรือ ดิวิชัน” (Division) ซึ่งเมื่อรวมเข้าหลาย ๆ ไฟลัม หรืดิวิชันเรียกว่า อาณาจักร” (Kingdom)

65.       ชื่อวิทยาศาสตร์ของคน คือ    

(1) Homo sapiens

(2)       Micheiia champaca          (3) Peneous monodon (4) Scortotino anpnosa

ตอบ 1 หน้า 92 – 93 ในการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific Name) ให้ขึ้นต้นชื่อสกุลด้วยตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวเขียนใหญ่ นอกจากนั้นใช้อักษรตัวเล็กทั้งหมด และมักจะถูกพิมพ์ด้วย ตัวเอน เช่น ชื่อวิทยาศาสตร์ของคน คือ Homo sapiens, ชื่อวิทยาศาสตร์ของจำปา คือ Micheiia champaca เป็นต้น

66.       วิตามินชนิดใดที่ละลายได้ในนํ้า

(1)       วิตามิน A      (2) วิตามิน C  (3) วิตามิน D (4) วิตามิน K

ตอบ 2 หน้า 44 วิตามินแบ่งตามคุณสมบัติการละลายได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.         วิตามินที่ละลายในนํ้า ได้แก่ วิตามิน และวิตามิน C

2.         วิตามินที่ละลายในนํ้ามัน ได้แก่ วิตามิน A, D, E และ K

67.       ออร์แกเนลล์ข้อใด ได้ชื่อว่าเป็นโรงผลิตไฟฟ้าของเซลล์         

(1) ไลโซโซม (Lysosome)

(2)       แวคิวโอล (Vacuoles)     (3) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plastids)

ตอบ 3 หน้า 52, (คำบรรยาย) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) เป็นออร์แกเนลล์ที่มีหน้าที่เป็นที่เกิดกระบวนการหายใจระดับเซลล์ จึงเป็นแหล่งสร้างพลังงานในรูป ATP จนได้ชื่อว่าเป็น โรงผลิตไฟฟ้าของเซลล์” (Powerhouse of Cell) โดยเซลล์ที่มีกระบวนการทำงานสูงและต้องการ พลังงานจะมีไมโทคอนเตรียมาก เช่น เซลล์ดับ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ไข่หอยเม่นทะเล เป็นต้น

68.       Dialysis คืออะไร

(1) การที่โปรโตพลาสม์หดรวมตัวกันเป็นกลุ่ม (2) การแพร่กระจายที่ผ่านเยื่อหุ้มบาง

(3)       การกระจายของกลิ่นน้ำหอม  (4) การดูดน้ำกลับเข้าสู่เซลล์

ตอบ 2 หน้า 35 Dialysis คือ การแพร่กระจายที่ผ่านเยื่อหุ้มบาง ซึ่งเกิดขึ้นจากการซึมผ่านของ อณูของสารที่ละลายในสารละลาย Hypertonic ผ่านเยื่อ Semipermeable Membrane ไปสู่สารละลาย Hypotonic

69.       ถ้านักศึกษาขาดวิตามิน จะทำให้เกิดอาการใด

(1) เลือดออกตามไรฟัน           (2) ทำให้เลือดแข็งตัวช้า

(3)       ทำให้ตามัว มองไม่เห็นในที่แสงสลัว    (4) โรคเหน็บชา

ตอบ 3 หน้า 45 – 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับสุขภาพของดวงตา และคุณภาพของการมองเห็น ซึ่งถ้ารางกายขาดหรือได้รับวิตามินนี้ไม่เพียงพอ จะทำให้ตามัวและมองไม่เห็นในที่แสงสลัว (Night Blindness)

70.       ถ้านักศึกษาขาดวิตามิน จะทำให้เกิดอาการใด

(1) เลือดออกตามไรฟัน           (2) โรคเหน็บชา

(3) ทำให้ตามัว มองไม่เห็นในที่แสงสลัว          (4) ทำให้เลือดแข็งตัวช้า

ตอบ 1 หน้า 45 วิตามิน มีชื่อทางเคมีว่า Ascorbic Acid ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้จะทำให้เลือดออก ตามไรฟัน (Scurvy) เหงือกบวม เลือดออกใต้ผิวหนัง (Haemorrhage) อ่อนเพลีย โลหิตจาง นํ้าหนักลด ชีพจรสูง เป็นต้น

71.       Pollination หมายถึงอะไร

(1) การติดเมล็ด          

(2) การปฏิสนธิ           

(3) การเกิดดอก           

(4) การถ่ายละอองเกสร

ตอบ 4 หน้า 127 การถ่ายละอองเกสร (Pollination) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเกสรตัวผู้ ปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ถ้าเกิดในดอกเดียวกันเรียกว่า Self-Pollination หรือ Close-Pollination แต่ถ้าเกิดต่างดอกกันเรียกว่า Cross Pollination ซึ่งการถ่าย ละอองเกสรนี้จะส่งผลทำให้เกิดการผสมเกสร (Fertilization) ขึ้นในที่สุด

72.       Monoecious Plant หมายถึงอะไร

(1) พืชที่มีดอกครบทั้งสองเพศอยู่ในต้นเดียวกัน         

(2) พืชมีดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน

(3) พืชที่มีแต่ดอกเพศเมียในต้นเดียวกัน         

(4) พืชที่ดอกไม่มีกลีบดอก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

73.       พืชชนิดใดมีลำต้นเหนือดินชนิดที่ทอดแตะพื้นเป็นระยะ (Stolon)

(1) ตำลึง         

(2) พลู 

(3)       บัวบก

(4)       ผักบุ้ง

ตอบ 3 หน้า 120 พืชที่มีลำต้นอยู่เหนือดินสามารถแบ่งตามลักษณะที่ปรากฏได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         ชนิดที่ทอดแตะพื้นเป็นระยะ ๆ (Stolon) เช่น บัวบก ผักแว่น ผักตบชวา จอก

2.         ชนิดที่ทอดราบไปตามพื้น (Prostrate) เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด

3.         ชนิดที่เกาะเกี่ยวป่ายปีนหรือเลื้อยพับ (Climber/Twinning) เช่น ตำลึง พลู พวงชมพู เถาวัลย์

4.         ชนิดที่มิลำต้นตั้งตรง (Erect Stem) เช่น สนทะเล ก้ามปู ราชพฤกษ์ มะพร้าว ตาล มะละกอ

74.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวกEpiphyte

(1) ฝอยทอง    (2) ขนุนดิน      (3)       มะม่วง (4)       กล้วยไม้

ตอบ 4 หน้า 122 พืชแบ่งตามลักษณะของแหล่งกำเนิดและที่อยู่อาศัยได้เป็น 5 ประเภท คือ

1.         Epiphyte หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแต่ไม่ได้เบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กล้วยไม้ และเฟิร์นบางชนิด

2.         Parasite หมายถึง พืชที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้อื่นแล้วเบียดเบียนต้นไม้นั้น เช่น กาฝาก ฝอยทอง ขนุนดิน ถาษี

3.         Xerophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่แห้งแล้งและมีนํ้าน้อย เช่น กุหลาบหิน กระบองเพชร เสมา โบตั๋น

4.         Mesophyte หมายถึง พืชที่เกิดอยู่ในที่ที่มีนํ้าพอสมควร เช่น มะม่วง มะขาม ทุเรียน มังคุด

5.         Hydrophyte หมายถึง พืชที่อาศัยอยู่ในนํ้า เช่น บัว ผ้กบุ้ง ผักตบชวา ผักกระเฉด

75.       พืชชนิดใดมีขนาดเล็กขึ้นรวมกันหนาแน่นจนมีลักษณะคล้ายพรมกำมะหยี่

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสส์         (4) ปรง

ตอบ 3 หน้า 108 – 110, (คำบรรยาย) พืชในดิวิชันไบรโอไฟตา (Division Bryophyta)เป็นพืชที่มีขนาดเล็ก แต่ยังไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียงนํ้าและอาหาร รวมทั้งไม่มีราก ลำต้น และใบที่แท้จริง และมักจะขึ้นอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูงและอากาศเย็น จึงนับว่าเป็นพืช ที่มีวิวัฒนาการล้าหลังที่สุด ซึ่งพืชในดิวิชันนี้แบ่งออกเป็น 2 คลาส (Class) ได้แก่

1.         คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae) เรียกว่า ลิเวอร์เวิร์ต (Liverwort) เป็นพืชที่มีลักษณะ เป็นแผ่นแบนบางสีเขียว

2.         คลาสมอสไซ (Class Musci) เรียกว่า มอสส์ (Moss) เป็นพืชที่มีลักษณะเล็ก ขึ้นรวมกันอยู่อย่างหนาแน่นจนมีลักษณะคล้ายพรมกำมะหยี่

76.       พืชชนิดใดที่สืบพันธุ์โดยใช้เมล็ด

(1) หวายทะนอย         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) มอสส์         (4) ปรง

ตอบ 4 หน้า 111115 –116, (คำบรรยาย) พืชมีเมล็ดในดิวิชันเทรคิโอไฟตา (Division Tracheophyta) แบ่งออกเป็น 2 พวก คือ

1.         พืชมีเมล็ดแต่เมล็ดไม่มีผนังห่อหุ้ม หรือพืชไม่มีดอก (Class Gymnospermae) เป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลำต้นมีขนาดสูงใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น และสืบพันธุโดยใช้เมล็ด ได้แก่ ปรง สนแท้ แปะก๊วย และเครือมะเมื่อย

2.         พืชมีเมล็ดและเมล็ดมีผนังห่อหุ้ม หรือพืชดอก (Class Angiospermae) ได้แก่ ข้าว กุหลาบ พริก มะเขือ เป็นต้น ซึ่งพืชใน Class นี้นับว่าเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และมีจำนวน มากที่สุดในยุคปัจจุบัน

77.       ข้าว จัดเป็นพืชใน Class ใด

(1) คลาสฟิลิซินิ (Class Filicinae)       (2) คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae)

(3) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) (4) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae)

ตอบ     3 ดูคำอธิบายข้อ 76. ประกอบ

78.       ใบของพืชชนิดใดที่ช่วยทำหน้าที่ขยายพันธุ์

(1) กาบหอยแครง       (2) มันเทศ       (3) ต้นตายใบเป็น       (4) กล้วยไม้

ตอบ 3 หน้า 122 – 123 ใบของพืชมีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ การสร้างอาหาร การหายใจ และ การคายนํ้า นอกจากนี้แล้วใบของพืชบางชนิดยังอาจเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปทำหน้าที่อย่างอื่น ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นหน้าที่รอง หรือพืชบางชนิดอาจทำหน้าที่หลักและหน้าที่รองไปพร้อม ๆ กัน หรือทำหน้าที่เดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ทำหน้าที่แพร่และขยายพันธุ์ ได้แก่ ต้นตายใบเป็น โคมญี่ปุ่น หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นอวัยวะจับสัตว์พวกแมลงตัวเล็ก ๆ ไต้แก่ น้ำเต้าฤาษี กาบหอยแครง หยาดนํ้าค้าง เป็นต้น

79.       พืชชนิดใดที่ฐานรองดอกเจริญไปเป็นเนื้อของผล

(1) แอปเปิ้ล     (2)       ส้ม       (3)       มะม่วง (4)       ทุเรียน

ตอบ 1 หน้า 125 ฐานรองดอก (Receptacle) จะอยู่ที่ปลายสุดของก้านดอกเป็นส่วนสุดท้ายที่จะติดกับดอกเป็นแหล่งจ่ายอาหารไปยังอวัยวะส่วนอื่นของดอก เป็นฐานที่รองรับส่วนสร้างเซลล์เพศของดอกและในพืชบางชนิดอวัยวะส่วนนี้จะเจริญไปเป็นเนื้อของผล เช่น แอปเปิ้ล

80.       พืชชนิดใดจัดเป็นพวก Xerophyte

(1) ผักตบชวา  (2)       ทุเรียน  (3)       กุหลาบหิน       (4)       มะขาม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 74. ประกอบ

81.       พืชชนิดใดมีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี (ไม้ข้ามปี)

(1) มันสำปะหลัง         

(2)       ดาวเรือง          

(3)       หอม     

(4)       อ้อย

ตอบ 3 หน้า 121, (คำบรรยาย) พืชแบ่งตามลักษณะของการมีอายุได้เป็น 4 ชนิด คือ

1.         พืชทีมีช่วงอายุสั้นมาก และปีหนึ่งอาจเกิดได้หลายรุ่น (Ephemeral) เช่น ดาวเรือง บานชื่น แพงพวยฝรั่ง

2.         พืชที่มีวงจรชีวิตในเวลา 1 ปี หรือไม้ปีเดียว (Annual) เช่น อ้อย มันสำปะหลัง

3.         พืชที่มีวงจรชีวิตในเวลา 2 ปี หรือไม้ข้ามปี (Biennial) เช่น หอม กระเทียม ว่านต่าง ๆ

4.         พืชที่มีอายุนานกว่า 2 ปี หรือไม้หลายปี (Perennial) เช่น มะม่วง ทุเรียน

82.       ไอนํ้าในชั้นบรรยากาศโลก มีคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อน โลกจึงอบอุ่นขึ้น ไอนํ้าเกิดจาก สารประกอบเคมีของ

(1) คาร์บอนและออกซิเจน      

(2) ไฮโดรเจนและออกซิเจน

(3) ไฮโดรเจนและคาร์บอน      

(4) ไฮโดรเจนและไนโตรเจน

ตอบ 2 หน้า 16 วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกระยะที่ 1 เมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลง จนเกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นแล้วนั้น อะตอมของธาตุเบา ๆ จะทำปฏิกิริยาต่อกันเกิดเป็น สารประกอบทางเคมีขึ้นมา โดยอะตอมของไฮโดรเจน (H) จะเป็นอะตอมที่ว่องไวในการ ทำปฏิกิริยามากที่สุด ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับอะตอมของออกซิเจน (o) จะได้เป็นไอนํ้า (H2o)ทำปฏิกิริยากับอะตอมของไนโตรเจน (N) จะได้เป็นก๊าซแอมโมเนีย (NH3)ทำปฏิกิริยากับ อะตอมของคาร์บอน (C) จะได้เป็นก๊าซมีเทน (CH4)

83.       สารอินทรีย์ซึ่งประกอบเบนสิ่งมีชีวิตเริ่มแรก ประกอบขึ้นด้วยธาตุอะไรบ้าง

(1)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), ไฮโดรเจน (H) และเหล็ก (Fe)

(2)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (o)

(3)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), อลูมิเนิยม (AI) และออกซิเจน (o)

(4)       คาร์บอน (C), ไนโตรเจน (N), ซัลเฟอร์ (S) และออกซิเจน (o)

ตอบ 2 หน้า 14 นักวิทยาศาสตร์ J.B.S. Haldane (ค.ศ. 1924), R. Beutner (ค.ศ. 1929) และ A.I. Oparin (ค.ศ. 1936) ได้กล่าวไว้ทำนองเดียวกันวา สิ่งมีชีวิตประกอบขึ้นด้วยสารอินทรีย์ ซึ่งต้องมีธาตุคาร์บอน (C) ไนโตรเจน (N) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (o) ประกอบอยู่ ทำให้เชื่อว่าโลกในสมัยแรกในขณะหนึ่งนั้นจะมีภาวะเหมาะสมที่จะทำให้ธาตุทั้ง 4 นี้ มาประกอบรวมกันได้ แล้วกลายเป็นสารอินทรีย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต

84.       ปฏิกิริยาของกระบวนการทางชีวเคมีใดที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่ม แล้วทำให้บรรยากาศมีก๊าซออกซิเจน

(1) Decomposition (2) Photosynthesis (3) Respiration       (4) Chemosynthesis

ตอบ 2 หน้า 26 – 2738, (คำบรรยาย) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นการปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการขาดแคลนอาหารของสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มที่เป็นบรรพบุรุษของพืช ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่สิ่งมีชีวิตบางชนิดที่เซลล์มีสารคลอโรพิลล์ในการกักเก็บพลังงานจากแสงแดด เอาไว้ได้ใช้พลังงานแสงกระตุ้นการสังเคราะห์อาหารโดยนำเอาโมเลกุลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (C02) ไปรวมกับโมเลกุลของนํ้า (H2o) จนได้สารอาหารประเภทนํ้าตาลกลูโคส (C6H12O6) และเกิดก๊าซออกซิเจน (O2) เป็นผลพลอยได้ ซึ่งจากปฏิกิริยาของกระบวนการทางชีวเคมีนี้ จะช่วยทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกมีก๊าซออกซิเจนมากขึ้นจนเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศลงได้

85.       คุณสมบัติข้อใดที่ถือได้ว่าเป็นลักษณะของสิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มบนโลก

(1) การเพิ่มจำนวน      (2) การสร้างน้ำย่อยเพื่อย่อยอาหาร

(3) การมีรูปร่างที่คงทนถาวร   (4) ร่างกายมีผิวหนังปกคลุมด้วยขน

ตอบ 1 หน้า 24 คุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มบนโลก มีดังนี้

1.         มีกระบวนการหายใจหรือการแลกเปลี่ยนอากาศ หรือเริ่มรู้จักใช้โมเลกุลของสารต่าง ๆ เป็นแหล่งให้พลังงาน

2.         นิวคลีโอโปรตีนภายในเซลล์สามารถที่จะสร้างโมเลกุลใหม่ได้ ทำให้เซลล์มีขนาดเพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นการเจริญเติบโต และมีการเพิ่มจำนวนหรือทวีจำนวนออกเป็นสองเซลล์เล็ก ๆ

3.         เกิดปฏิกิริยาเคมีในลักษณะใหม่ ๆ ทำห้ได้สารใหม่และคุณสมบัติผิดแปลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

86.       Eating เป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งในการหาอาหาร พบในสิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของ(1) บรรพบุรุษของพืช            (2) บรรพบุรุษของสัตว์

(3) บรรพบุรุษของเห็ดรา          (4) บรรพบุรุษของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน

ตอบ 2 หน้า 26 การกิน (Eating) เป็นการปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการขาดแคลนอาหารของ สิ่งมีชีวิตเริ่มแรกที่เป็นบรรพบุรุษของสัตว์ โดยสิ่งมีชีวิตที่หาอาหารด้วยวิธีนี้จะเปลี่ยนแปลง รูปร่างหรือโครงสร้างเซลล์ เพื่อให้สะดวกแก่การกลืนกินเซลล์อื่น

87.       ในอดีตพลังงานที่กระตุ้นให้สารเคมีในมหาสมุทรทำปฏิกิริยาต่อกัน แล้วเกิดการรวมตัวใหม่เป็น สารประกอบอินทรีย์ขึ้น พลังงานนั้นได้มาจากที่ใด

(1) พลังงานจากใต้พื้นพิภพ    (2) พลังงานจากฟ้าแลบ ฟ้าผ่า

(3) พลังงานจากคลื่น ลม ในมหาสมุทร           (4) พลังงานจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์

ตอบ 2 หน้า 17, (คำบรรยาย) วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มเกิด สารประกอบอินทรีย์ เนื่องจากทะเลและมหาสมุทรในระยะเริ่มแรกนั้นมีสารประกอบคาร์บอน (C) หรือสารอินทรีย์ประเภทมีเทนเป็นจำนวนมาก มีเทนซึ่งได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ และพลังงานจากฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และประจุไฟฟ้าในขั้นบรรยากาศ ก็จะไปทำปฏิกิริยาเคมี กับโมเลกุลของมีเทน นํ้า แอมโมเนีย หรือไปทำปฏิกิริยาเคมีกับอะตอมหรือโมเลกุลของธาตุ หรือสารประกอบอื่น ๆ แล้วเกิดการรวมตัวใหม่เป็นสารประกอบอินทรีย์ 6 ประเภท คือ น้ำตาล กลีเซอรีน กรดไขมัน กรดอะมิโน ไพริมิดีน และพิวรีน

88.       ทฤษฎีเกี่ยวกับกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกที่กล่าวว่า สิ่งมีชีวิตมาจากต่างดาว” ทฤษฎีนี้กล่าวถึงสิ่งมีชีวิต ในลักษณะใด

(1)       สิ่งมีชีวิตมีการรวมกันของสารเคมี โดยมีการกระตุ้นด้วยทลังงานจากต่างดาว และตกลงมายังโลก

(2)       สิ่งมีชีวิตมากับอุกกาบาต โดยมีลักษณะเป็นสปอร์ และเจริญได้บนผิวโลก

(3)       สิ่งมีชีวิตมีลักษณะรูปร่างที่เฉพาะตัว เกิดขึ้นบนดาวดวงอื่นและมาสร้างอาณาจักรบนโลกภายหลัง

(4)       ไม่มีข้อถูก

ตอบ 3 หน้า 13 ในปี ค.ศ. 1865 Richter ได้ตั้งทฤษฎีชื่อ Cosrnazoan Theory โดยกล่าวว่าสิ่งมีชีวิตแรกบนพื้นพิภพนั้นมาจากต่างดาวหรือดาวดวงอื่น สิ่งมีชีวิตนั้นลอยมาในรูปของสปอร์ ซึ่งมีขนาดเล็ก และทนต่อสภาวะที่ไม่เหมาะสมได้อย่างดี สปอร์นี้มาสู่โลกได้พร้อมกับสะเก็ดดาว หรืออุกกาบาต เมื่อมาถึงผิวโลกในเวลาพอดีที่สิ่งแวดล้อมขณะนั้นเหมาะสมแก่การเจริญชีวิต จึงได้ขยายพันธุ์และมีวิวัฒนาการมาเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ จนปัจจุบันนี้

89.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดในโปรโตพลาสม์ พบในสิ่งมีชีวิตพวกใด

(1) พลานาเรีย (2) หนอนตัวกลม         (3) ปลากระดูกแข็ง     (4) พารามีเซียม

ตอบ 4 หน้า 98106195 – 196, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตขั้นตํ่าประเภทเซลล์เดียวซึ่งได้แก่ พวกโปรติสตา (Protista) เช่น ยูกลีนา อะมีบา พารามีเซียม จะเกิดขึ้นพร้อมกันในก้อนโปรโตพลาสม์ ส่วนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ขั้นสูงและ ในพืชทั่วไปนั้น จะมีโครงสร้างหรืออวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากกัน

90.       เรารู้สึกร้อนเมื่อโดนนํ้าร้อนลวก หน่วยรับความรู้สึกที่เกี่ยวข้องคือข้อใด

(1) Pressoreceptor    (2) Thermoreceptor (3) Chemoreceptor   (4) Phonoreceptor

ตอบ 2 หน้า 196, (คำบรรยาย) ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) มีอวัยวะที่เป็นหน่วยรับ ความรู้สึก ได้แก่

1. Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนหรือเย็น (อุณหภูมิ) ได้แก่ ผิวหนัง

2. Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น จมูก และ หนวดแมลงบางชนิด เช่น ผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

5. Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

91.       เมื่อเรามองเห็นวัตถุอันตราย แล้วเราเดินเลี่ยง การที่เรามีพฤติกรรมดังกล่าวนั้น แสดงว่าร่างกาย มีกระบวนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างไร

(1) มีกระบวนการตอบโต้        

(2) มีกระบวนการแปลความหมายและสั่งการ

(3) มีกระบวนการรับความรู้สึก            

(4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบกล้ามเนื้อ เซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่กระแสความรู้สึกถูกส่งผ่านเซลล์ประสาทรับความรู้สึก (Sensory Neuron) ไปยังระบบ ประสาทส่วนกลาง (สมองและไขสันหลัง) แล้ว โดยที่ Motor Neuron จะส่งกระแสคำสั่งจากระบบ ประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนองหรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับแหล่งรับความรู้สึก ทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อขาเพื่อให้เดินถอยหลัง การเดินเลี่ยงเมื่อเรามองเห็นวัตถุอันตราย เป็นต้น

92.       ข้อใดกล่าวถึงการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดเฉพาะในกระบวนการรับความรู้สึกได้ถูกต้องที่สุด

(1)       การขยับเท้าอย่างรวดเร็วของหญิงสาว เมื่อพบเห็นงูเลื้อยผ่านหน้าไป

(2)       ดวงตาของเสือมีความไวต่อแสง จึงมองเห็นเก้งได้เป็นอย่างดีในที่มืด

(3)       กระแสความรู้สึกผ่านเข้าเซลล์ประสาททางเดนไตรต์และออกจากเซลส์ประสาททางแอ็กซอน

(4)       ไม่มีข้อถูก

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 90. ประกอบ

93.       กลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งกระแสความรู้สึกจากสิ่งเร้าที่มีในสัตว์ขั้นสูง ได้แก่

(1) เซลล์ผิวหนัง          (2) เซลล์สมอง (3) เซลล์ประสาท        (4) เซลล์กล้ามเนื้อ

ตอบ 3 หน้า 196 เนื้อเยื่อหรือกลุ่มเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ขั้นสูง ได้แก่

1.         เนื้อเยื่อหรือเซลล์ประสาท ทำหน้าที่รับส่งกระแสความรู้สึกจากสิ่งเร้า

2.         เนื้อเยื่อหรือเซลล์กล้ามเนื้อ ทำหน้าที่แสดงการโต้ตอบสิ่งเร้านั้น

94.       สิ่งเร้าภายในที่ส่งเสริมให้พืชมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า โดยยอดพืชเบนเข้าหาแสง ได้แก่

(1) ฮอว์โมนออกซิน      (2) ฮอร์โมนไคนิน         (3) แรงโน้มถ่วงของโลก (4) แสงแดด

ตอบ 1 หน้า 199 ออกซิน (Auxin) เป็นสิ่งเร้าภายในในรูปฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมและควบคุม การเจริญเติบโตของพืช ซึ่งฮอร์โมนนี้พืชจะสร้างจากปลายยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากในลักษณะ ที่หนีแสงสว์าง ทำให้พืชเกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหรือมีพฤติกรรมการตอบสนอง โดยการที่ยอดพืชจะโค้งหรือเบนเข้าหาแสง ส่วนรากพืชจะเบนหนีแสง

95.       ข้อใดคือการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชที่เรียกว่า Phototropism

(1)       การเจริญของยอดพืช ชูเหนือยอดไม้อื่นในป่า

(2)       การเจริญของรากไทรที่เติบโตบนต้นไม้อื่นมายังพื้นดิน

(3)       การเหี่ยวเฉาของใบไมยราบเมือได้รับการรบกวน

(4)       การบานของดอกราตรีในเวลากลางคืน

ตอบ 1 หน้า 200 Phototropism เป็นการเคลื่อนไหวตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกของพืชเนื่องจาก การเจริญเติบโตโดยมีแสงเป็นสิ่งเร้า เช่น การเจริญของยอดพืช ชูเหนือยอดไม้อื่นในป่า เป็นต้น

96.       สิ่งมีชีวิตมีการคัดสรรโดยธรรมชาติ” (Natural Selection) เป็นทฤษฎีทางวิวัฒนาการที่กล่าวโดย

(1) De Vries        (2) Lamarck       (3) Darwin          (4) Mendel

ตอบ 3 หน้า 212 – 213 ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ได้กล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 4 ประการ คือ

1.         สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันย่อมมีความผันแปรทางพันธุกรรม (Variation)

2.         สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มักมีลูกหลานมากเกินไป จนไม่มีอาหารหรือได้รับการเลี้ยงดูไม่เพียงพอ แก่ความต้องการของลูกหลานทุกชีวิตนั้น

3.         สิ่งมีชีวิตเกิดการแก่งแย่งแข่งขัน เพื่อให้ตนเองได้รับอาหารมากตามต้องการ

4.         สิ่งมีชีวิตมีการแข่งขันกับสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ ทำให้เหลืออยู่แต่ผู้ที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอดและถ่ายทอดหรือสอนลักษณะนั้น ๆ สืบต่อกันจากบรรพบุรุษไปยัง ลูกหลาน เกิดเป็นพันธุใหม่ที่ดีขึ้นมาโดยดาร์วินได้เรียกวิธีการนี้ว่า การคัดสรรโดยธรรมชาติ” (Natural Selection)

97.       ทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด

(1) ความผันแปรทางพันธุกรรม           (2) การถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ

(3) การแข่งขันกับสิ่งแวดล้อม (4) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 96. ประกอบ

98.       หลักฐานทางบรรพชีวินของสิ่งมีชีวิตที่มีสภาพกลายเป็นหิน (Fossil) ใช้อธิบายถึง

(1) วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต    (2) ลักษณะของบรรพบุรุษสิ่งมีชีวิตบนโลก

(3) การสูญพันธุของสิ่งมีชีวิตบนโลก  (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 213 หลักฐานเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         หลักฐานโดยตรงจากการศึกษาซากสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน หรือที่เรียกว่า ฟอลซิล (Fossil)

2.         หลักฐานจากการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตในยุคปัจจุบัน ในแง่รูปร่าง โครงสร้าง พัฒนาการ และลักษณะการทำงานของอวัยวะในสิ่งมีชีวิต

99.       ข้อใดไม่ใช่เหตุผลในการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตเพื่อการหาอาหาร

(1) ปากของตั๊กแตนมีลักษณะแข็งแรง            (2) นกกานํ้ามีพังผืดระหว่างนิ้วเท้า

(3) งูเขียวหางไหม้ชอบอาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ที่มีสีเชียว (4) การเปลี่ยนสีเลียนแบบธรรมชาติของผีเสื้อกลางคืน

ตอบ4 หน้า 228 – 230, (คำบรรยาย) การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ

1.         เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น ตั๊กแตนมีลักษณะปากแข็งแรงนกกระยางมีนิ้วเท้า เรียวยาวเหมาะแก่การทรงตัวนกกานํ้ามีนิ้วเท้าแบนมีพังผืดงูเชขียวหางไหม้ชอบอาศัยอยู่ ตามพุ่มไม้ที่มีสีเชียวนกฮูกมีนิ้วเท้างองุ้มเล็บแหลมคมไก่มีเล็บเท้าใหญ่และแข็งเหมาะแก่ การคุ้ยเขี่ย เป็นต้น

2.         เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจากศัตรู เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่นการเปลี่ยนสีเลียนแบบ ธรรมชาติของผีเสี้อกลางคืน เป็นต้น

100.    ข้อใดไม่ใช่การปรับตัวเพื่อควบคุมปริมาณนํ้าของพืชพวก Xerophyte

(1) มีปากใบบนผิวใบเพื่อควบคุมการคายนํ้า  (2) ใบมีขนาดเล็ก ลดรูปเป็นหนาม

(3) มี Cutin ที่ผิวของลำต้น (4) ผลัดใบในฤดูร้อน

ตอบ 1 หน้า 231 Xerophyte ได้แก่ พืชที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง มีนํ้าน้อย พืชพวกนี้มักมีใบเล็กมาก หรือเปลี่ยนใบไปเป็นหนาม ไม่มีปากใบ ลำต้นทำหน้าที่สังเคราะห์แสงสร้างอาหารแทนใบได้ รากยาวหยั่งลึกและแผ่ไปไกลเพื่อดูดหานํ้า นอกจากนี้ยังมีสาร Cutin ฉาบเคลือบลำต้นไว้ ค่อนข้างหนาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหย และมักจะผลัดใบในฤดูร้อน

 

BIO1001 ชีววิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา BIO 1001 ชีววิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดในประเทศไทยในระยะที่ผ่านมานี้ หากพิจารณาเป็นวิชาการ จัดอยู่ในศาสตร์สาขาใด

(1)       พฤติกรรมศาสตร์         

(2) สังคมศาสตร์          

(3) รัฐศาสตร์   

(4) วิทยาศาสตร์

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior Science) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของวิทยาศาลตร์ ชีวภาพที่เน้นศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชา คือ

1.         สังคมศาสตร์ (Social Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ วิชานิติศาสตร์ สังคมวิทยา เช่น สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในระยะที่ผ่านมา เป็นต้น

2.         รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็นความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ที่พิจารณาถึงฐานะ บทบาท หน้าที่ของสมาชิกในสังคมสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

2.         ประกาศคาดการณ์ลักษณะอากาศหรือพยากรณ์อากาศ เป็นความรู้ในสาขาวิชาใด

(1)       อุทกวิทยา        

(2) อุตุนิยมวิทยา         

(3) ธรณีวิทยา  

(4) ปฐพีวิทยา

ตอบ 2 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาคาสตร์บริสุทธิ์ หรือวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งแวดล้อมของโลก หรือความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น อุตุนิยมวิทยา (การสังเกตและศึกษา เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนการประกาศคาดการณ์ลักษณะอากาศหรือพยากรณ์อากาศ)ธรณีวิทยา (แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด)อุทกวิทยา (น้ำท่วม)ดาราคาสตร์ (ท้องฟ้า ดวงดาว) เป็นต้น

3.         การทำงานโดยวิธีวิทยาศาสตร์ เริ่มต้นที่

(1)       การสำรวจปัญหา        

(2) หาตัวเหตุของปัญหา 

(3) วางแนวทางแกัปัญหา 

(4) หาวิธีแก้ปัญหา

ตอบ 1 หน้า 2, (คำบรรยาย) การทำงานโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (The Scientific Method)มี 5 ขั้นตอน ดังนี้     1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (การสำรวจหรือกำหนดปัญหา)

2. การตั้งสมมุติฐาน (คิดหาแนวทางแก้ปัญหา) 3. การสังเกต ตรวจสอบ ทดลอง (ออกแบบ การทดลอง)     4. การประมวลสังเคราะห์หาข้อสรุป (วิเคราะห์ข้อมูลแล้วสรุปผล)

5. การสร้างหรือกำหนดทฤษฎี (แสดงวิธีการแก้ปัญหา) เช่น คำกล่าวที่ว่า เจ็บแล้วต้องจำ

4.         เจ็บแล้วต้องจำ” เป็นขั้นตอนใด ตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์

(1)       ขั้นวางสมมุติฐาน         (2) ขั้นตอนการทดสอบ (3) ขั้นสรุปประเมินผล           (4) ขั้นกำหนดทฤษฎี

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

5.         การสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน มีความเกี่ยวข้องกับศาสตร์สาขาใด

(1) ปฐพีวิทยา  (2) อุตุนิยมวิทยา         (3) ธรณีวิทยา (4) วิทยาการคอมพิวเตอร์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

6.         ความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิทยาศาสตร์สาขาใด

(1) วิทยาศาสตร์1บริสุทธิ์        (2) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

(3) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ          (4) วิทยาคาสตร์ประยุกต์

ตอบ 4 (คำบรรยาย) วิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (Applied Science/Technology Science) เป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเรื่องราวของธรรมชาติ แล้วนำผลของความรู้นั้นไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อกิจกรรมเพื่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

7.         การเลื่อมใส ศรัทธา บูชา สิ่งศักดิสิทธิ์ที่มีในสังคมไทยพื้นบ้านนั้น อยู่ในสายความรู้แบบใด

(1) วิทยาศาสตร์          (2) ศิลปกรรมศาสตร์   (3) ไสยศาสตร์ (4) รัฐศาสตร์

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ไสยศาสตร์ หมายถึง ความรู้แบบที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้าง กับความเชื่อได้ เป็นการเลื่อมใส ศรัทธา และบูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลายที่มีรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น ภูตผีปีศาจ วิญญาณ เจ้าเข้าทรง เป็นต้น ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นมาในสังคมไทยนับร้อย ๆ ปีมาแล้ว

8.         ข้อใดไม่เป็นพลังงาน (Energy)

(1)       แสงสว่าง        (2) อากาศ       (3) อุณหภูมิ     (4) แม่เหล็กไฟฟ้า

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พลังงาน (Energy) คือ สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่รับรู้ได้ แต่ไม่มีรูปทรงหรือตัวตนไม่มีน้ำหนัก และไม่ต้องการที่อยู่อาศัย เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ (ความร้อน/เย็น) กระแสลม หรือพลังลม แม่เหล็กไฟฟ้า พลังแม่เหล็ก พลังไฟฟ้า เป็นต้น

9.         การศึกษาเรื่องไฟฟ้า ต้องใช้ความรู้วิทยาศาสตร์สาขาใด      

(1) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

(2)       วิทยาศาสตร์กายภาพ            (3) วิทยาศาสตร์ประยุกต์        (4) วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

10.       การเกิดปฏิกิริยาของธาตุใดต่อไปนี้ เกิดเป็นสารประกอบเคมีประเภทมีเทน (CH4) แล้วทำให้โลกอบอุ่นขึ้น

(1) คาร์บอนและออกซิเจน      (2) ไฮโดรเจนและออกซิเจน

(3)       ไฮโดรเจนและคาร์บอน           (4) ไฮโดรเจนและไนโตรเจน

ตอบ 3 หน้า 16 วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกระยะที่ 1 เมื่ออุณหภูมิของโลกเย็นลงจนอำนวยให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นได้แล้วนั้น อะตอมของธาตุเบา ๆ จะทำปฏิกิริยาต่อกัน เกิดเป็นสารประกอบทางเคมีขึ้นมา โดยอะตอมของไฮโดรเจน (H) จะเป็นอะตอมที่ว่องไวในการ ทำปฏิกิริยามากที่สุด ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับอะตอมของออกซิเจน (o) จะได้เป็นไอนํ้า (H2o)ทำปฏิกิริยากับอะตอมของไนโตรเจน (N) จะได้เป็นก๊าซแอมโมเนีย (NH3)ทำปฏิกิริยากับ อะตอมของคาร์บอน (C) จะได้เป็นก๊าซมีเทน (CH4)

11.       ข้อใดไม่ใช่หลักเกณฑ์โดยทั่วไปที่ใช้วินิจฉัยสภาพการเป็นสิ่งมีชีวิต

(1) การมีกระบวนการเมแทบอลิสม์และสืบพันธุ์         

(2) มีรูปร่างและการจัดระเบียบของโครงสร้าง

(3) มีการเจริญเติบโตจากภายใน        

(4) เป็นสารเคมีที่ประกอบขึ้นจากธาตุคาร์บอน

ตอบ 4 หน้า 58 – 10, (คำบรรยาย) หลักเกณฑ์ทั่วไปที่ใขช้วินิจฉัยสภาพการเป็นสิ่งมีชีวิต มีดังนี้

1.         มีการจัดระเบียบแบบแผนของโครงสร้างและรูปร่าง

2.         มีกระบวนการเมแทบอลิสม์ (เมแทบอลิซึม) และการสืบพันธุ์

3.         มีการเจริญเติบโตขยายขนาดจากภายใน       4. มีการตอบสนองโดยการเคลื่อนไหว

5. มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม 6. มีเอกภาพและความหลากหลายของชีวิต

12.       คุณสมบัติข้อใดที่ไม่พบในสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มบนโลก

(1) มีกระบวนการหายใจ

(2)       การปรุงอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์ทางชีวเคมี

(3)       การเติบโตเพิ่มขนาดเซลล์      

(4) การทวีจำนวน

ตอบ 2 หน้า 24 คุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มบนโลก มีดังนี้

1.         มีกระบวนการหายใจหรือการแลกเปลี่ยนอากาศ หรือเริ่มรู้จักใช้โมเลกุลของสารต่าง ๆ เป็นแหล่งให้พลังงาน

2.         นิวคลีโอโปรตีนภายในเซลล์สามารถที่จะสร้างโมเลกุลใหม่ได้ ทำให้เซลล์มีขนาดเพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นการเจริญเติบโต และมีการเพิ่มจำนวนหรือทวีจำนวนออกเป็นสองเซลล์เล็ก ๆ

3.         เกิดปฏิกิริยาเคมีนลักษณะใหม่ ๆ ทำให้ได้สารใหม่และคุณสมบัติผิดแปลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

13.       ลักษณะการกินอาหารแบบใดที่พบในสิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของสัตว์

(1)       Saprophytism  

(2) Photosynthesis    

(3) Eating  

(4) Chemosynthesis

ตอบ 3 หน้า 26 การกิน (Eating) เป็นการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตเริ่มแรกที่เป็นบรรพบุรุษ ของสัตว์ โดยวิธี กิน” สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่หาอาหารด้วยวิธีนี้จะเปลี่ยนแปลงรูปร่าง หรือโครงสร้างเซลล์ เพื่อให้สะดวกแก่การกลืนกิน

14.       ปฏิกิริยาของกระบวนการทางชีวเคมีใดที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่ม แล้วทำให้บรรยากาศมีก๊าซออกซิเจน

(1)       Decomposition        (2) Photosynthesis    (3) Respiration (4) Chemosynthesis

ตอบ 2 หน้า 26 – 2738, (คำบรรยาย) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) เป็นการปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการขาดแคลนอาหารของสิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่มที่เป็นบรรพบุรุษ ของพืช ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่สิงมีชีวิตบางขนิดที่เซลล์มีสารคลอโรฟิลล์ในการกักเก็บพลังงาน จากแสงแดดเอาไว้ ได้ใช้พลังงานแสงกระตุ้นการสังเคราะห์อาหาร โดยนำเอาโมเลกุลของ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ไปรวมกับโมเลกุลของนํ้า (H2o) จนได้สารอินทรีย์ประเภท นํ้าตาลกลูโคส (C6H12O6) และเกิดก๊าซออกซิเจน (O2) เป็นผลพลอยได้ ซึ่งจากปฏิกิริยาของ กระบวนการทางชีวเคมีนี้ ทำให้ขึ้นบรรยากาศของโลกมีก๊าซออกซิเจนมากขึ้นจนเหมาะสมต่อ การดำรงชีวิต และช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศลงได้

15.       ในอดีตพลังงานที่กระตุ้นให้สารเคมีในมหาสมุทรทำปฏิกิริยาต่อกัน แล้วเกิดการรวมตัวใหม่เป็น สารประกอบอินทรีย์ คือ

(1)       พลังงานจากใต้พื้นพิภพ          (2) พลังงานจากฟ้าแลบ ฟ้าผ่า

(3) พลังงานจากคลื่นลม ในมหาสมุทร            (4) พลังงานจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์

ตอบ 2 หน้า 1719, (คำบรรยาย) วิวัฒนาการทางเคมีของการกำเนิดโลกระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มเกิด สารประกอบอินทรีย์ เนื่องจากทะเลและมหาสมุทรในระยะเริ่มแรกนั้นมีสารประกอบคาร์บอน (C) หรือสารอินทรีย์ประเภทมีเทนเป็นจำนวนมาก มีเทนซึ่งได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ และ พลังงานจากฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และประจุไฟฟ้าในขึ้นบรรยากาศ ก็จะไปทำปฏิกิริยาเคมีกับโมเลกุล ของมีเทน น้ำ แอมโมเนีย หรือไปทำปฏิกิริยาเคมีกับอะตอมหรือโมเลกุลของธาตุหรือสารประกอบ อื่น ๆ แล้วเกิดการรวมตัวใหม่เป็นสารประกอบอินทรีย์ 6 ประเภท คือ น้ำตาล กลีเซอริน กรดไขมัน กรดอะมีโน ไพริมิดีน และพิวรีน

16.       ความคิดเรื่องกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มีมาตั้งแต่ยุคโบราณก่อนคริสตกาล ข้อใดคือแนวคิดที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับในเชิงวิทยาศาสตร์

(1) สิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต

(2)       สิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดมาจากดาวดวงอื่น         

(3) สิ่งมีชีวิตเกิดจากการเสกสรรของพระผู้เป็นเจ้า

(4)       สิ่งมีชีวิตแรกเริ่มเกิดจากการรวมตัวของสารอินทรีย์ในปริมาณและสภาวการณ์ที่เหมาะสม

ตอบ 4 หน้า 14 – 15 แนวคิดเรื่องการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มีมาตั้งแต่ยุคโบราณก่อนคริสตกาล แล้ว โดยแนวคิดที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับในเชิงวิทยาศาสตร์ก็คือ สิ่งมีชีวิตแรกเริ่มเกิดจาก การรวมตัวของสารอินทรีย์ในปริมาณและสภาพการณ์ที่เหมาะสมยิ่ง และสภาพการณ์นั้น เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว จากนั้นชีวิตแรกเริ่มที่เกิดขึ้นมาก็จะมี วิวัฒนาการทีละน้อย ๆ ในช่วงเวลานับล้าน ๆ ปี จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ

17.       เพราะเหตุใดความเชื่อเกี่ยวกับกำเนิดของชีวิตของผู้คนในอดีต จึงไม่มีข้อพิสูจน์อย่างชัดแจ้งในทางวิทยาศาสตร์

(1)       ได้รับอิทธิพลในด้านภาษาสื่อความหมาย       (2) ได้รับอิทธิพลจากความแตกต่างของสีผิว

(3)       ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อด้านศาสนา          (4) ได้รับอิทธิพลจากสงคราม

ตอบ 3 หน้า 11, (คำบรรยาย) ในสมัยโบราณมนุษย์จะมีความเชื่อในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งได้รับ อิทธิพลมาจากความเชื่อด้านศาสนา โดยเชื่อว่า ชีวิตต่าง ๆ นั้นเกิดมาจากการเสกสรรของ พระผู้เป็นเจ้า และทรงเป็นผู้กำหนดควบคุมความเป็นไปของชีวิตเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับการกำเนิดชีวิตของผู้คนในอดีตไม่มีข้อพิสูจน์อย่างชัดแจ้งในทางวิทยาศาสตร์

18.       ออร์แกเนลล์ชนิดใด ที่พบเฉพาะในพืชไม่พบในสัตว์

(1)       ไลโซโซม (Lysosome)     (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาสติด (Plastids)

ตอบ 4 หน้า 50 – 53 ออร์แกเนลล์ที่พบเฉพาะในเซลล์พืช คือ ผนังเซลล์ (Cell Wall) และพลาสติด (Plastids) ส่วนที่พบเฉพาะในเซลล์สัตว์ คือ ไลโซโซม (Lysosome) และกอลจิบอดี (Golgi Body) และที่พบทั้งในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ คือ ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ไรโบโซม (Ribosome) และแวคิวโอล (Vacuoles)

19.       ออร์แกเนลล์ข้อใด สามารถย่อยเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม

(1)       ไลโซโซม (Lysosome)     (2) แวคิวโอล (Vacuoles)

(3) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)    (4) พลาลติด (Plastids)

ตอบ 1 หน้า 52, (คำบรรยาย) ไลโซโซม (Lysosome) เป็นออร์แกเนลล์ที่ทำหน้าที่เป็นถุงเก็บ เอนไซม์ไฮโดรไลติก สำหรับใช้ย่อยสลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาภายในเซลล์ ขจัดสิ่งที่เซลล์ไม่ต้องการ ตลอดจนย่อยสลายตัวเองเมื่อเซลล์มีอายุมากหรือเซลล์ตาย (Autolysis) และยังเกี่ยวข้องกับการสลายหางลูกอ๊อดด้วยเอนไซม์คาเทพซินขณะที่เจริญเป็นตัวเต็มวัยอีกด้วย

20.       Desoxyribose Nucleic Acid มีหน้าที่อะไร

(1)       สร้างโปรตีน

(2)       สร้างน้ำย่อยหรือเอนไซม์

(3)       ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน

(4)       ส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโต

ตอบ 3 หน้า 43, (คำบรรยาย) DNA (Desoxyribose Nucleic Acid) หรือ Gene เป็นสารพันธุกรรม ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ  1. กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดหรือแต่ละหน่วยให้เป็นไปตามเผ่าพันธุ์ของตน และสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้น จากบรรพบุรุษไปสู่ลูกหลานได้ ดังคำกล่าวที่ว่า หว่านพืชชนิดใด ย่อมได้ผลเป็นพืชชนิดนั้น” 2. ควบคุมกิจกรรมทุกประเภทที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

21.       วิตามินในข้อใดช่วยป้องกันการเป็นหมัน

(1) วิตามิน A  

(2) วิตามิน 

(3) วิตามิน E  

(4) วิตามิน K

ตอบ 3 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันการเป็นหมัน และช่วยทำให้ตัวอ่อนเกาะติดผนังมดลูกได้เหนียวแน่นขึ้น ไม่ให้แท้งงาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับ การยืดอายุเซลล์ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะ ผลิตเซลล์เชื้อเพศ

22.       ถ้าขาดวิตามินในข้อใด จะทำให้โลหิตแข็งตัวช้า

(1) วิตามิน A  

(2) วิตามิน 

(3) วิตามิน E  

(4) วิตามิน K

ตอบ 4 หน้า 46, (คำบรรยาย) วิตามิน เป็นวิตามินที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับคุณภาพ ของเลือด (โลหิต) ก็คือ ทำให้นํ้าเลือดข้นเหนียวจนเกิดการไหลของเลือดช้าลง และทำให้เลือด แข็งตัวปิดปากแผลเพื่อป้องกันเลือดไหลออกมาภายนอกร่างกาย ซึ่งถ้าร่างกายขาดวิตามินนี้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เสียเลือดมาก หรือเลือดไหลหยุดช้าเมื่อเกิดบาดแผล

23.       ข้อใดจัดเป็นคาร์โบไธเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก

(1) นํ้าตาลกาแล็กโทส 

(2) นํ้าตาลมอลโทส     

(3) เด็กซทริน   

(4) นํ้าตาลทราย

ตอบ 3 หน้า 37 – 39, (คำบรรยาย) สารประกอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         Monosaccharide หรือ Simple Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กมาก หรือ ที่เรียกว่านํ้าตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ นํ้าตาลกลูโคส นํ้าตาลฟรุกโทส น้ำตาลกาแล็กโทส

2.         Disaccharide หรือ Double Sugar เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลคู่ หรือที่เรืยกว่า นํ้าตาลเชิงประกอบ ได้แก่ นํ้าตาลทราย นํ้าตาลมอลโทส นั้าตาลแล็กโทส

3.         Polysaccharide เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลใหญ่มาก ได้แก่ แป้งไกลโคเจนในสัตว์ เซลลูโลส เด็กซทริน ไคติน

24.       ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์ให้พลังงานความร้อนกี่กิโลแคลอรี่

(1) 4.1 กิโลแคลอรี      (2) 5.1 กิโลแคลอรี      (3) 6.2 กิโลแคลอรี      (4) 9.1 กิโลแคลอรี

ตอบ 4 หน้า 39, (คำบรรยาย) ไลปิดหรือไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุดในปริมาณนํ้าหนัก ที่เท่ากันของสาร โดยไขมันจะให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรต กล่าวคือ ไขมัน 1 กรัม เมื่อเผาไหม้โดยสมบูรณ์แล้วจะให้พลังงานความร้อน 9.1 กิโลแคลอรี ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงานความร้อนเพียง 4.1 กิโลแคลอรีเท่านั้น

25.       Ribose Nucleic Acid (RNA) มีหน้าที่อะไร

(1) สร้างไขมัน (2) ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

(3) สร้างนํ้าย่อยหรือเอนไซม์    (4) สร้างน้ำตาล

ตอบ 3 หน้า 43, (คำบรรยาย) Ribose Nucleic Add (RNA) เป็นกรดนิวคลีอิกที่ประกอบด้วยนํ้าตาลไรโบส และเบสอะดีนิน กัวนีน ไซโตซีน และยูราซิส ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง โปรตีนและน้ำย่อยหรือเอนไซม์ในเซลล์ (แต่ไม่ได้มีหน้าที่สร้างโปรตีนโดยตรง) นั่นคือRNA จะเป็นตัวควบคุมปริมาณสารโปรตีน และตรวจสอบความจำเป็นโนการสร้างโปรตีนภายในเซลล์ โดยส่วนใหญ่จะพบในบริเวณไซโตพลาสม์

26.       ธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบหลักของอะไร

(1) ไขมัน          (2) โปรตีน       (3) แป้ง           (4) วิตามิน

ตอบ 2 หน้า 182040 โปรตีน (Protein) เป็นสารประกอบอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ที่เกิดจากการรวมตัวกัน ของกรดอะมีโน (Amino Acid) ซึ่งประกอบขึ้นด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และ ไนโตรเจน โดยธาตุไนโตรเจนจะยึดเกาะอยูกับธาตุไฮโดรเจน กลายเป็นหมู่ธาตุที่เรียกว่า อนุมูลกรดอะมีโน (Amino Radical-NH2)

27.       วัฎจักรของไนโตรเจนจะมีแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างน้อยกี่ประเภท

(1) หนึ่งประเภท          (2) สองประเภท          (3) สามประเภท          (4) สี่ประเภท

พอบ 4 หน้า 7489 วัฏจักรของไนโตรเจน เป็นการหมุนเวียนของก๊าซไนโตรเจนในอากาศ โดยจะมีแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างน้อย 4 ประเภท ได้แก่

1.         Decomposing bacteria มีหน้าที่ทำให้ซากพืชซากสัตว์เกิดการเน่าเปื่อยกลายเป็น ก๊าซแอมโมเนีย

2.         Nitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซแอมโมเนียให้เป็นสารประกอบไนเตรท

3.         Denitrifying bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจน กลับคืนสู่อากาศ

4.         Nitrogen-fixing bacteria มีหน้าที่เปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนเตรท ซึ่งเป็นรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

28.       ความหลากหลายทางชีวภาพ” หมายถึง การปรากฏชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตในบริเวณหนึ่ง ดังนั้นจึงพบได้ใน

(1) Population  (2) Community (3) Species         (4) Society

ตอบ 2 หน้า 672, (คำบรรยาย) ชุมชนหรือชุมชีพ (Community) หมายถึง พื้นที่บริเวณหนึ่งที่มี ความหลากหลายทางชีวภาพ” หรือมีการปรากฏชนิดต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตในบริเวณหนึ่ง นั่นคือ เป็นพื้นที่ที่มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดมาอาศัยอยู่รวมกันในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน เช่น สวนสัตว์ ตลาดสด สวนสาธารณะ เป็นต้น

29.       สารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้นได้โดยกระบวนการสังเคราะห์แสง คือ

(1) นํ้าตาล       (2) โปรตีน       (3) เกลือแร่      (4) ไขมัน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

30.       วัฎจักรของเกลือแร่ (Mineral Cycle) ประกอบด้วยวัฎจักรย่อยสองอันเกี่ยวพันกัน คือ

(1) Rock Cycle และ Carbon Cycle         (2) Rock Cycle และ Organic Cycle

(3) Organic Cycle และ Nitrogen Cycle         (4) Nitrogen Cycle และ Rock Cycle

ตอบ 2 หน้า 75 วัฏจักรของเกลือแร่ (Mineral Cycle) ประกอบด้วยวัฏจักรย่อย ๆ สองอันเกี่ยวพันกัน คือ

1.         Rock Cycle เป็นระยะที่เกลือแร่ที่สะสมอยู่ในหินและดินจะหลุดออกมาโดยการผุกร่อน แตกทำลายของหินและดินเหล่านั้น จากการกระทำของนํ้า ลมฟ้าอากาศ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

2.         Organic Cycle เป็นระยะที่เกลือแร่ที่หลุดออกมาจะละลายปนอยู่ในนํ้าแล้วซึมแทรกไปยัง ที่ต่าง ๆ และถูกสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนำไปใช้ จนกระทั่งถูกขจัดออกมาหรือเมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ตายไป เกลือแร่ก็จะกลับมาสะสมเพิ่มพูนอยู่ในดินอีกครั้งหนึ่ง

31.       แบคทีเรียบางชนิดสามารถเปลี่ยนแปลงสารประกอบไนเตรทให้สลายตัวเป็นก๊าซไนโตรเจน แบคทีเรียชนิดนี้ เรียกว่า

(1) Nitrifying bacteria        

(2) Nitrogen-fixing bacteria

(3) Denitrifying bacteria   

(4) Decomposing bacteria

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 27. ประกอบ

32.       สิ่งมีชีวิตกลุ่มผู้บริโภคกินกลุ่มผู้ผลิต นิสัยการกินจัดเป็นแบบ

(1) Carnivore     

(2) Omnivore    

(3) Insectivore  

(4) Herbivore

ตอบ 4 หน้า 234, (คำบรรยาย) กลุ่มผู้บริโภค (Consumer) สามารถจำแนกออกตามลักษณะนิสัย การกินได้เป็น 3 พวก คือ

1.         Herbivore เป็นพวกที่กินกลุ่มผู้ผลิตหรือพืชเป็นอาหาร เช่น หนอน แพะ วัว ควาย กระต่าย ฯลฯ

2.         Carnivore เป็นพวกที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น เสือ สิงโต จระเข้ ฯลฯ

3.         Omnivore เป็นพวกที่กินทั้งพืซและเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เช่น มนุษย์ สุนัข ฯลฯ

33.       นกเอี้ยงที่กินแมลงบนหลังควาย เป็นการอยู่ร่วมกันแบบใด

(1) Commensalism    

(2)       Mutualism       

(3)       Protocooperation   

(4) Neutralism

ตอบ 3 หน้า     76,     (คำบรรยาย) Protocooperation     (+/+) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบที่แต่ละฝ่ายจะเสริมประโยชน์แก่กัน แต่ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว ฝ่ายที่เหลือก็ยังคงดำรงชีวิต อยู่เองได้ เช่น นกเอี้ยงที่กินแมลงบนหลังควาย ผีเสื้อกับดอกไม้ เป็นต้น

34.       นกฮูกกับหนู เป็นการอยู่ร่วมกันแบบใด

(1) Predation     (2)       Parasitism         (3)       Amensalism     (4) Neutralism

ตอบ 1 หน้า 77, (คำบรรยาย) Predation (+/-) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตแบบที่ฝ่ายหนึ่งทำลาย หรือสังหารอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นอาหาร เช่น นกฮูกกับหนู เสือกับกวาง วัวกับหญ้า เป็นต้น

35.       หอยแครงมักอาศัยอยู่ในบริเวณใด

(1) หาดทราย   (2)       หาดหิน            (3)       ทะเลลึก           (4) หาดโคลน

ตอบ 4 (คำบรรยาย) หาดโคลน (Mud Flat) มักพบอยู่ใกล้กับบริเวณแม่น้ำสายใหญ่ เมื่อตะกอนดินจากแผ่นดินถูกนํ้ากัดเซาะละลายไปตามลำคลองหรือแม่นํ้าไหลลงสู่ทะเลแล้วตกตะกอนลง ณ บริเวณปากแม่น้ำเกิดเป็นลานโคลนหรือเลนขึ้น เวลานํ้าทะเลขึ้นจะถูกท่วมจนมิดลาน เมื่อน้ำลง จะปรากฏขึ้นเป็นลานกว้าง แต่อาจมีแอ่งนํ้าขังอยู่บ้างเล็กน้อย และด้วยความอุดมสมบูรณ์ ของธาตุอาหารในตะกอนดินที่มีการทับถมกันและระดับนํ้าทะเลหรือนํ้ากร่อยที่พอเหมาะ หาดโคลนจะมีพรรณไม้ราบลุมป่าชายเลนขึ้นตามธรรมชาติ และพบสัตว์นํ้าที่มักอยู่อาศัยตาม หาดโคลน เช่น หอยแครง เป็นต้น

36.       ข้อแตกต่างของแหล่งนํ้าจืดและนํ้าเค็มคือข้อใด

(1)       น้ำจืดมักมีกระแสน้ำเชี่ยว

(2)       นํ้าทะเลมักมีกระแสน้ำเชี่ยว

(3)       นํ้าทะเลมีความเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าจืด

(4)       สัตว์ทะเลกำลังการว่ายน้ำจะคล่องตัวกว่าสัตว์น้ำจืด

ตอบ 1 หน้า 81 – 82 ข้อแตกต่างของแหล่งนํ้าจืดและนํ้าเค็ม มีดังนี้

1. ปริมาณของเกลือในน้ำจืดมีน้อยกว่าน้ำเค็ม 2. น้ำจืดมักมีกระแสน้ำเชี่ยวกว่านํ้าเค็ม

3.         นํ้าจืดมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศได้ง่ายกว่านํ้าเค็ม โดยอุณหภูมิของนํ้าจืด จะมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะอากาศตลอดเวลา

37.       สัตว์นํ้าชนิดใดจัดเป็นสัตว์นํ้าจืด

(1) ปลาเก๋า     (2) กุ้งตะกาด  (3) หอยลาย    (4) ปลานิล

ตอบ 4 (คำบรรยาย) สัตว์นํ้าจืด หมายถึง สัตว์ที่อาศัยอยู่ได้เฉพาะแหล่งนํ้าจืดธรรมชาติทั่วไป เช่น แม่น้ำ คู หนอง บึง หรือลำธารนํ้าตกบนภูเขาหรือในป่าดิบชื้น เช่น ปลานิล ปลาจีน ปลาดุก ปลากราย ปลากัด ปลาม้า ปลาแรด กุ้งก้ามกราม หอยขม เป็นต้น

38.       Terrestrial Habitat เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย

(1) แหล่งอาศัยนํ้าจืด   (2) แหล่งอาศัยนํ้าเค็ม (3) แหล่งอาศัยนํ้ากร่อย (4) แหล่งอาศัยบนพื้นดิน

ตอบ 4 หน้า 79 – 82, (คำบรรยาย) แหล่งที่อยู่อาศัย (Habitat) ที่ประกอบขึ้นมาเป็นโลก มีอยู่ 2 ส่วน คือ

1.         Hydrosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นนํ้า ซึ่งแบ่งออกเป็นแหล่งอาศัยนํ้าจืด (Freshwater /Inland Habitat), แหล่งอาศัยนํ้าเค็ม (Marine /Oceanic /Maritime Habitat) และ แหล่งอาศัยน้ำกร่อย (Estuarine Water Habitat)

2.         Lithosphere คือ แหล่งอาศัยที่เป็นพื้นดินหรือแหล่งอาศัยบนบก (Terrestrial /Land Habitat) โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ดิน อากาศ อุณหภูมิ และปริมาณนํ้าฝน

39.       ประเทศไทยจัดอยู่ในภูมิอากาศแบบใด

(1) เขตป่าดิบชื้น          (2) เขตป่าผลัดใบ        (3) เขตทุ่งหญ้า            (4) เขตป่าสน

ตอบ 1 หน้า 82 – 83, (คำบรรยาย) เขตป่าดงดิบ ป่าดิบขึ้น ป่าร้อนชื้น หรือป่าฝนเขตร้อน (Tropical Rain Forest) เนินบริเวณที่อยู่ใกล้เส้นศนย์สูตรของโลก มีความชื้นสูง มีปริมาณนํ้าฝนมากที่สุด โดยเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 80 – 90 นิ้ว มีไม้ยืนต้นขนาดสูงใหญ่จำนวนมาก และเป็นบริเวณ ที่มีสิ่งมีขีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น ซึ่งเขตภูมิประเทศแบบนี้จะพบมากในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เช่น ประเทศไทย) เอเชียใต้ แอฟริกากลาง อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

40.       ข้อใดบอกลักษณะของพันธุ์พืชในเขตป่าดงดิบได้ถูกต้อง

(1) มอสส์         (2) พืชล้มลุก   (3) สนสองใบ  (4) ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 39. ประกอบ

41.       องค์ประกอบที่สำคัญสำหรับแหล่งอาศัยบนพื้นดิน คือ

(1) ความต่างของระดับพื้นที่   

(2) ปริมาณนํ้าฝน

(3) ชนิดของพืช            

(4) ชนิดของสัตว์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

42.       สัตว์ที่มักจะไม่กินนํ้าเพื่อปรับตัวในด้านต่าง ๆ ในการสงวนนํ้าไว้ในตัว เป็นสัตว์ในภูมิประเทศแบบใด

(1)       เขตทุงหญ้า     

(2) เขตป่าผลัดใบ        

(3) เขตทะเลทราย       

(4) เขตร้อนชื้น

ตอบ 3 หน้า 83 – 84 เขตทะเลทราย (Desert) เป็นบริเวณที่มีปริมาณนํ้าฝนโดยเฉลี่ยตลอดปีไม่เกิน 10 นิ้ว จึงทำให้ภูมิภาคนี้มีอากาศร้อนและแห้งแล้งตลอดเวลา แต่อาจมีบางบริเวณ ที่ระดับนํ้าใต้ดินขึ้นมาใกล้ผิวดินมาก ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นมีพืชและสัตว์อาศัยอยู่อย่างชุกชุม ซึ่งเรียกบริเวณที่มีความชุ่มชื้นในทะเลทรายว่า โอเอซิส” (Oasis) ทั้งนี้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขต ทะเลทรายมักจะไม่กินนํ้าเพื่อปรับตัวในด้านต่าง ๆ ในการสงวนนํ้าไว้ในตัว อาศัยอยู่ในโพรง หรือในรู และออกหากินในเวลากลางคืน

43.       สัตว์อาศัยในเขตทุ่งหญ้าโดยมากเป็นสัตว์กินอาหารประเภทใด

(1)       กินพืช  

(2) กินเนื้อ       

(3) กินทั้งพืชและเนื้อ   

(4) ซากพืชและสัตว์

ตอบ 1 หน้า 83 เขตทุ่งหญ้า (Grassland) เป็นบริเวณที่อยู่ถัดไปทางเหนือและทางใต้ของเขตป่าดงดิบ โดยมีปริมาณนํ้าฝนโดยเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 10 – 30 นิ้ว สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้โดยมาก เป็นสัตว์ประเภทกินพืช (Herbivorous) ซึ่งต่อไปจะตกเป็นเหยื่อหรืออาหารของสัตว์ประเภท กินเนื้อ (Carnivorous) ที่อาศัยรวมอยู่ในบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

44.       แบคทีเรียมีรูปร่างเป็นแท่งยาวโค้ง เรียกว่า

(1) Bacillus         (2) Flagellum     (3) Spirillum      (4) Coccus

ตอบ 3 หน้า 94 – 96 บัคเตรีหรือแบคทีเรีย (Bacteria) มีเซลล์ที่มีขนาดเล็กมากและมีรูปร่าง หลายแบบ โดยแบบที่สำคัญ คือ 1. Coccusเป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างกลม

2.         Bacillus เป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นท่อนทรงกระบอก เช่น Lactobacillus pentosus

3.         Spirillum เป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นแท่งยาวโค้ง

45.       แบคทีเรียชนิดก่อให้เกิดโรควัณโรค คือ

(1) Diplococcus pneumoniae   (2) Mycobacterium tuberculosis

(3) Vibrio cholerae    (4) Salmonella typhosa

ตอบ 2 หน้า 95 – 96 โรคภัยของมนุษย์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ 1. โรควัณโรค เกิดจากชนิด Mycobacterium tuberculosis 2. โรคปอดบวม เกิดจากชนิด Diplococcus pneumoniae และเชื้ออื่น ๆ   3. อหิวาตกโรค เกิดจากชนิด Vibrio cholerae

4.         ไทฟอยด์ เกิดจากชนิด Salmonella typhosa

5.         บาดทะยัก เกิดจากชนิด Clostridium tetani ฯลฯ

46.       Lactobacillus pentosus มีรูปร่างแบบใด

(1) กลม           (2) ท่อนทรงกระบอก   (3) แท่งยาวโค้ง           (4) กลมรี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 44. ประกอบ

47.       สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมีการดำรงชีวิตได้ทั้งแบบอิสระและปรสิต คือ

(1) Virus     (2) Rickettsia     (3) Mycoplasma        (4) Pneumonia

ตอบ 3 หน้า 96 – 97 สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กใน Phylum Schizophyta ที่มีลักษณะคล้ายแบคทีเรีย แต่มีขนาดเล็กกว่า ได้แก่ Spirochete Mycoplasma Rickettsia และ Virus โดยพวกที่มี การดำรงชีวิตได้ทั้งแบบอิสระและแบบปรสิต ก็คือ Spirochete และ Mycoplasma

48.       ข้อความใดบอกลักษณะของแอลจีสีเขียวแกมน้ำเงิน (Blue-green Algae) ไม่ถูกต้อง

(1) มีสารละลาย Phycocyanin ในเซลล์            (2) ไม่มีสาร Chlorophyll กระจายอยู่ในเซลล์

(3) มีชีวิตอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและนํ้าทะเล          (4) สามารถเพิ่มปริมาณธาตุไนโตรเจนให้แก่ดิน

ตอบ 2 หน้า 97 Phylum Cyanophyta เป็นโปรติสต์ที่ภายในเซลล์มีสารละลายของสีชนิดที่เรียกว่า Phycocyanin ซึ่งมีสีนํ้าเงินปนอยู่กับสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) กระจายอยู่ทั่วเซลล์ โดยส่วนมากจะมีลักษณะเป็นเซลล์เดียว แต่มีบางชนิดอยู่รวมกันเป็นสายยาวและมีเมือกใส หุ้มสายเซลล์ไว้ มีการดำรงชีวิตอยู่ในที่ทั่ว ๆ ไปทั้งนํ้าจืด นํ้าทะเล และในดิน ทำให้มีความสัมพันธ์ กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เป็นอย่างมาก เพราะบางชนิดสามารถเพิ่มปริมาณธาตุไนโตรเจนให้แก่ดินได้ ตัวอย่างโปรติสต์ในไฟลัมนี้ ได้แก่ แอลจีสีเจียวแกมนํ้าเงิน (Blue-green Algae)

49.       Chloreiia จัดเป็นแอลจีอยู่ในไฟลัม (Phylum) ใด

(1)       Euglenophyta (2) Cyanophyta (3) Pyrrophyta  (4) Chlorophyta

ตอบ 4 หน้า 98 Phylum Chlorophyta เป็นแอลจีที่มีสีเขียวอ่อนหรีอแอลจีสีเขียว (Green Algae)มีทั้งชนิดที่อยู่เซลล์เดียวและที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นสาย บางชนิดอาจมีแส้ (Flagellum) เป็นองค์ประกอบของเซลล์ และมีผนังเซลล์ค่อนข้างแข็งทำให้คงรูปร่างไว้ได้ โดยผนังเซลล์ จะประกอบด้วยสารเซลลูโลส (Cellulose) เหมือนกับในพืชชั้นสูงทั่วไป จึงทำให้สันนิษฐานกันว่า แอลจีในไฟลัมนี้เป็นบรรพบุรุษของพืชชั้นสูง ตัวอย่างของแอลจีสีเจียวเช่น Spiroqyra, Voivox, Chloreiia, Chlamydomonas, Ulva เป็นต้น

50.       แอลจีในไฟลัม (Phylum) ใดซึ่งสันนิษฐานเป็นบรรพบุรุษของพืชชั้นสูง

(1)       Euglenophyta (2)       Cyanophyta     (3)       Pyrrophyta       (4) Chlorophyta

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 49. ประกอบ

51.       เหตุผลในข้อใดคือข้อสันนิษฐานว่าเป็นบรรพบุรุษของพืชชั้นสูง

(1)       ประกอบด้วยสาร Chlorophyll  

(2) มี Flagellum 1 เส้น

(3) ผนังเซลล์ประกอบด้วยสาร Cellulose         

(4) ประกอบด้วย Phycocyanin

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 49. ประกอบ

52.       แอลจีชนิดใดที่อยู่ในไฟลัม (Phylum) เดียวกับ Spiro§yra

(1) Voivox 

(2)       Chondrus          

(3)       Euglena   

(4) Laminaria

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 49.       ประกอบ

53.       แปะก๊วย จัดอยู่ใน Class ใด

(1)       คลาสเฮพาทิชี (Class Flepaticae)     

(2) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

(3) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae) 

(4) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

ตอบ 3 หน้า 115 คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae) เป็นพืชที่มีเมล็ดแต่เมล็ดแก่ไม่มีผนังห้อหุ้ม หรือพืชไม่มีดอก โดยเป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลำต้นมีขนาดสูงใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ผลัดใบ และสืบพันธุ์โดยใช้เมล็ด ได้แก่ ปรง สนแห้ แปะก๊วย และเครือมะเมื่อย

54.       Pollination คืออะไร

(1)       การถ่ายละอองเกสร    (2)       การติดเมล็ด    (3)       การปฏิสนธิ     (4) การงอกของเมล็ด

ตอบ 1 หน้า 127 การถ่ายละอองเกสร (Pollination) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเกสรตัวผู้ ปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ถ้าเกิดในดอกเดียวกับเรียกว่า Self-Pollination หรือ Close-Pollination แต่ถ้าเกิดต่างดอกกันเรียกว่า Cross Pollination ซึ่งการถ่ายละอองเกสรนี้ จะส่งผลทำให้เกิดการผสมเกสร (Fertilization) ขึ้นในที่สุด

55.       Complete Flower หมายถึงอะไร

(1)       ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้    (2) ดอกที่มีแต่เกสรตัวเมีย

(3) ดอกที่มีอวัยวะไม่ครบ        (4) ดอกที่มีอวัยวะครบ

ตอบ 4 หน้า 125 – 126 Complete Flower หมายถึง ดอกที่มีอวัยวะครบทุกวงชั้น คือ ชั้นของกลีบดอกวงนอกสุด (Calyx), วงชั้นของกลีบดอก (Corolla), วงชั้นของเกสรตัวผู้ (Androecium) และวงชั้นของเกสรตัวเมีย (Gynaecium) ทั้งนี้ในดอกบางชนิดยังมีอีกวงหนึ่งนอกCalyx ออกมา เรียกว่า Epicalyx เช่น ดอกชบา

56.       พืชใน Class ใด จัดเป็นพืชดอก

(1)       คลาสเฮพาทิชี (Class Flepaticae)     (2) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

(3) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae) (4) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

ตอบ 2 หน้า 116 – 117 คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae) เป็นพืชที่มีเมล็ดและเมล็ดมีผนังห่อหุ้ม หรือพืชดอก ได้แก่ ข้าว กุหลาบ พริก มะเขือ เป็นต้น ซึ่งพืชใน Class นี้ นับว่าเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และมีจำนวนมากที่สุดในยุคปัจจุบัน

57.       ผักแว่น จัดเป็นพืชใน Class ใด

(1)       คลาสเฮพาทิชี (Class Hepaticae)      (2) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

(3) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae) (4) คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae)

ตอบ 4 หน้า 113115 คลาสฟิลิซินี (Class Filicinae) เป็นพืชในกลุ่มเฟิร์น โดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ใหญ่ ๆ คือ 1. เฟิร์นที่อยู่บนบก เช่น เฟิร์นฝอย เฟิร์นเกล็ดหอย เฟิร์นก้านดำ เฟิร์นเขากวาง เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย เป็นต้น 2. เฟิร์นที่อยู่ตามชายนํ้า เช่น เฟิร์นปรงไข่ เฟิร์นปรงทอง เฟิร์นปรงนํ้า เป็นต้น 3. เฟิร์นที่อยู่ในนํ้า เช่น ผักแว่น แหนแดง จอกหหนู เป็นต้น

58.       เป็นพืชมีอายุหลายปี ไม่ผลัดใบ เมล็ดไม่มีผนังห่อหุ้ม เป็นลักษณะของพืชใน Class ใด

(1)       คลาลเฮพาทิชี (Class Hepaticae)      (2) คลาสแองจิโอสเปอร์มี (Class Angiospermae)

(3) คลาสจิมโนสเปอร์มี (Class Gymnospermae) (4) คลาสฟิสิซินี (Class Filicinae)

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

59.       พืชชนิดใด จัดอยู่ในดิวิชั่นย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida)

(1) ต้นสามร้อยยอด     (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) หวายทะนอย         (4) เฟิร์นก้านดำ

ตอบ 1 หน้า 112-113 พืชในดิวิซับย่อยไลคอพซิดา (Subdivision Lycopsida) มีชื่อสามัญว่า Club Moss เป็นพืชที่ขึ้นรวมอยู่ด้วยกันเป็นกลุม มีใบเป็นแผ่นเล็ก ๆ ขึ้นรอบลำต้น ลำต้น มีทั้งส่วนที่อยู่ใต้ดินและส่วนเหนือระดับดิน ตอนปลายสุดของกิ่งที่อยู่พ้นระดับดินจะมีลักษณะ เป็นข้ออัดแน่นเป็นรูปกรวยเรียกว่า Cone หรือ Strobilus เป็นแหล่งสร้างสปอร์เพื่อการขยายพันธุ์ และมีท่อลำเลียงทั้งในราก ลำต้น และใบ ซึ่งพืชที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ต้นสามร้อยยอด (Lycopodium) หญ้ารังไก่ ข้องนางคลี่ สร้อยนางกรอง และสร้อยสุกรม

60.       พืชชนิดใด จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับจอกหูหนู

(1)       ต้นสามร้อยยอด         (2) หญ้าถอดปล้อง     (3) หวายทะนอย         (4) เฟรินก้านดำ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 57. ประกอบ

61.       ข้อใดเป็นลักษณะของปรง    

(1) มีอายุปีเดียว

(2)       สืบพันธุ์โดยใช้สปอร์   

(3) เมล็ดแก่ไม่มีผนังห่อหุ้ม      

(4) ขึ้นทั่วไปบริเวณที่ชื้นแฉะ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

62.       พืชชนิดใดมีดอกเป็นแบบช่อดอก (Inflorescence)

(1) ฟักทอง      

(2)      มะเขือ  

(3)       มะม่วง 

(4)       พริก

ตอบ 3 หน้า 126 ช่อดอก (Inflorescence) หมายถึง ดอกหลาย ๆ ดอกที่ติดอยู่กับก้านดอกที่เป็น ก้านเดี่ยว ทำให้ดอกมีลักษณะเป็นช่อ ซึ่งพืซที่มีดอกแบบนี้ ได้แก่ มะม่วง กล้วย มะไฟ ซ่อนกลิ่น สะเดา เป็นต้น

63.       หว่านพืชซนิดใด ย่อมได้ผลเป็นพืชชนิดนั้น” ในทางชีววิทยาเราทราบว่านี่เป็นผลการทำงานของ

(1) วิวัฒนาการ            

(2)       ดีเอ็นเอ            

(3)       การสืบพันธุ์     

(4)       ความเป็นสิ่งมีชีวิต

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 20.       ประกอบ

64.       ผลลัพธ์ของกระบวนการเมแทบอลิซึม คือ

(1) Anabolism   (2)       Catabolism       (3)       Reproduction  (4)       Growth

ตอบ 4 หน้า 147153, (คำบรรยาย) กระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) เป็นกระบวนการ ทางเคมีทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในตัวของสิ่งมีชีวิต ฃึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         แอแนบอลิซึม (Anabolism) เป็นกระบวนการสังเคราะห์ที่นำเอาสารโมเลกุลเล็กมาประกอบ รวมกันให้เกิดเป็นสารใหม่ที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น เช่น การแปรรูปโมเลกุลของกลูโคสให้กลายเป็น แป้งไกลโคเจน ฯลฯ

2.         แคแทบอลิซึม (Catabolism) เป็นกระบวบการที่ทำให้สารต่าง ๆ ที่มีโมเลกุลใหญ่แยกสลายได้ เป็นสารโมเลกุลเล็กพื้นฐาน เช่น การย่อยโปรตีนให้กลายเป็นกรดอะมิโน ฯลฯ

ทั้งนี้ผลลัพธ์โดยรวมหรือผลลัพธ์สุดท้ายที่จะได้รับจากกระบวนการเมแทบอลิซึม ก็คือ การเจริญเติบโต (Growth) หรือความมีชีวิต นั่นเอง

65.       กระบวนการเมแทบอลิซึมที่เปลี่ยนให้สารโมเลกุลเล็กแปรเป็นสารโมเลกุลใหญ่ คือ

(1) Catabolism  (2) Anabolism   (3)       Metabolism     (4)       Synthesis

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

66.       ผลลัพธ์โดยรวมของกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) คือ

(1) การเจริญเติบโต (2) การขยายขนาด         (3)       การสืบพันธุ์     (4)       การชดเชยทดแทน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

67.       การดำเนินการข้อใดที่จัดเป็น กระบวนการ” (Process)

(1) ไปตลาด     (2) เชียร์กีฬา   (3)       ลงทะเบียนเรียน          (4)       ฟังการอภิปราย

ตอบ 3 (คำบรรยาย) กระบวนการ (Process) หมายถึง การกระทำที่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน และมีระเบียบแบบแผนที่แน่นอน เช่น การลงทะเบียนเรียบ การเรียนรู้ การปลูกบ้าน การซักผ้า การหุงข้าว การขับรถ ฯลฯ

68.       การย่อยอาหาร สิ้นสุดลงที่

(1) ลำไส้เล็กส่วนปลาย           (2) ลำไส้ใหญ่ตอนต้น  (3) ลำไส้หญ่ตอนกลาง (4) ลำไส้เล็กส่วนกลาง

ตอบ 1 หน้า 149152, (คำบรรยาย) การย่อยอาหารทุกประเภทของมนุษย์จะสิ้นสุดสมบูรณ์ที่ลำไล้เล็กตอนปลาย โดยลำไส้เล็กจะมีบทบาทหลักในการย่อยสกัดเอาสารอาหารออกมาใช้งาน คือ สารอาหารที่ได้จากการย่อยสกัดประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอลจะถูกดูดซึมและลำเลียง เข้าสู่หลอดนํ้าเหลืองหรือท่อแลคทีล (Lacteal) แล้วเข้าไปในเส้นเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ส่วนสารอาหารประเภทกลูโคสและกรดอะมิโนจะถูกดูดซึมและลำเลียงเข้าสู่หลอดเลือดฝอย (Capillary) ไปยังตับและจะถูกนำไปใช้งานต่อไป โดยหลอดนํ้าเหลืองและหลอดเลือดฝอยที่เป็น ทางเข้าของสารอาหารเหล่านี้จะแทรกซึมอยู่ในผนังของลำไส้เล็กซึ่งยื่นออกมาเป็นเส้นเล็ก ๆ เรียกวา วิลลัส (Villus)

69.       การสังเคราะห์ให้เกิดสารโมเลกุลใหญ่ในร่างกายเป็นเมแทบอลิซึมด้านใด

(1) แอแนบอลิซึม (Anabolism)  (2) แคแทบอลิซึม (Catabolism)

(3)       การแลกเปลี่ยน           (4) การถ่ายเท

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

70.       ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทันทีในสิ่งมีชีวิต แล้วถ่ายทอดลักษณะนั้นไปสู่รุ่นหลังได้ เรียกว่า

(1) Mutation     (2) Development       (3) Differentiation    (4) Evolution

ตอบ1 หน้า 22193, (คำบรรยาย) การฝาเหล่าหรือมิวเตชัน (Mutation) เป็นความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีในสิ่งมีชีวิต และลักษณะของความเปลี่ยนแปลงนั้นยังคงสภาพอยู่ และสามารถถ่ายทอดไปสู่รุ่นหลังหรือรุ่นลูกหลานได้ เช่น คนผิวเผือก ปลาดุกเผือก ลิงเผือก หมูห้าขา กบสามขา หมาสามหู ฯลฯ

71.       สารอาหารประเภทกรดไขมันและกลีเซอรอล จะถูกดูดซึมเข้าสู่

(1) ท่อแลคทีล 

(2) หลอดเลือดฝอย     

(3) หลอดเวน   

(4) หลอดเลือดอาร์เทอร์

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 68. ประกอบ

72.       การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (Meiosis) เปลี่ยนแปลงอย่างไร

(1) จาก 1 เซลล์ได้4 เซลล์       

(2) จาก 1 เซลล์ได้3 เซลล์

(3) จาก 1 เซลล์ ได้ 2 เซลล์     

(4) จาก 1 เซลล์ ได้ 8 เซลล์

ตอบ 1 หน้า 172 – 174, (คำบรรยาย) การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (Meiosis) เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อให้เซลล์นั้นไปทำหน้าที่เป็นเซลล์สืบพันธุ์หรือเซลล์เชื้อเพศของสิ่งมีชีวิตขั้นสูงในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งลำดับขั้นตอนการแบ่งเซลล์จะมี 2 ขั้นตอนต่อเนื่องกัน โดยเริ่มจากเซลล์ตั้งต้นเดิม 1 เซลล์ แบ่งสองครั้งได้เซลล์ใหม่เกิดขึ้น 4 เซลล์ และแต่ละเซลล์จะมีจำนวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่ง ของจำนวนโครโมโซมตั้งต้นเดิม (Haploid Number) ซึ่งการแบ่งเซลล์แบบนี้จะพบได้ในการ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ

73.       การปฏิสนธิแบบ Self-fertilization พบในสิ่งมีชีวิตประเภทใด

(1) Monoecious 

(2) Dioecious   

(3) Synoecious  

(4) Poloecious

ตอบ 1 (คำบรรยาย) Self-fertilization เป็นการปฏิสนธิที่เกิดขึ้นในตัวเองโดยไม่ต้องมีคู่ผสมพันธุ์ซึ่งจะเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตประเภทที่มีเพศครบทั้งสองเพศในต้นหรือในตัวเดียวกัน (Monoecious) โดยที่เชื้อเพศจะแก่ตัวพร้อมกัน และเชื้อเพศผู้ก็จะผสมกับเชื้อเพศเมียในตัวหรือใบต้นเดียวกัน เช่น การปฏิสนธิในพยาธิตัวตืดการปฏิสนธิในฝักข้าวโพด ฯลฯ

74.       การเกิดเนื้อใหม่หลังจากการรักษาบาดแผลแล้ว เป็น

(1) Budding        (2)       Regeneration  (3)       Fission      (4)       Parthenogenesis

ตอบ 2 (คำบรรยาย) การงอกแทนที่ (Regeneration) เป็นกระบวนการสร้างเสริมส่วนของร่างกายที่ขาดหายไปขึ้นมาใหม่ให้ครบสมบุรณ์เหมือนเดิม ภายใต้การควบคุมของ DNA ในนิวเคลียส สารเคมีในไซโตพลาสม์ รวมทั้งสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งจะพบได้ในพวกสัตว์ชั้นตํ่าบางชนิด (เช่น ฟองน้ำ ปลาดาว ฯลฯ) และพืชที่ยังไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียง (เช่น ลิเวอร์เวิร์ต ฯลฯ) เช่น การเกิดเนื้อใหม่หลังจากการรักษาบาดแผลแล้ว เป็นต้น

75.       กล้วยไข่ กล้วยหอม ไม่มีเมล็ด เติบโตโดยวิธี

(1) Regeneration       (2)       Budding   (3)       Fission      (4)       Parthenogenesis

ตอบ 4 หน้า 175 พาร์ทีโนจีเนซิส (Parthenogenesis) เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ไข่หรือ เซลล์สืบพันธุ์เพศเมียสามารถจะเจริญเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตหรือเป็นผลไม้ขึ้นมาได้เอง โดยไม่ต้อง ได้รับการผสมพันธุ์จากเซลล์เพศผู้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นการได้ลูกหรือผลจากไข่ที่ไม่มีการปฏิสนธิหรือไม่ได้รับการผสมเชื้อเพศผู้ ซึ่งตัวอย่างที่พบเห็นเป็นประจำ เช่น มด ผึ้ง ปลวก องุ่นไร้เมล็ด ส้มไร้เมล็ด แตงโมไร้เมล็ด กล้วยไข่ กล้วยหอม เป็นต้น

76.       การสร้างเซลล์เชื้อเพศ เรียกทั่วไปว่า

(1) Oogenesis    (2)       Spermatogenesis (3)            Gametogenesis (4)    Meiosis

ตอบ 3 หน้า 172, (คำบรรยาย) กระบวนการสร้างเซลล์เชื้อเพศหรือเซลล์สืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต หากกล่าว โดยรวมทั่วไปไม่ระบุชนิดของเพศ เรียกว่า แกมีโทจิเนซิส‘’ (Gametogenesis) ซึ่งแบ่งออกเป็น

1.         กระบวนการสร้างเซลล์ไข่หรือเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรืยกว่า โอโอจีเนซิส” (Oogenesis)

2.         กระบวนการสร้างสเปิร์มหรือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เรียกว่า สเปอร์มาโทจีเนซิส” (Spermatogenesis)

77.       เมื่อสเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่แล้ว เกิดเป็นระยะสืบพันธุ์ที่เรียกว่า

(1) ไซโกต        (2) เอ็มบริโอ    (3) Fetus    (4) Enfant

ตอบ 1 หน้า 184 – 185, (คำบรรยาย) เมื่อสเปิร์มเข้าไปผสมหรือปฏิสนธิกับไข่แล้ว ไข่จะแปรสภาพ เกิดเป็นระยะสืบพันธุ์ที่เรียกว่า ไซโกต (Zygote) และจากนั้นไซโกตก็จะเจริญเป็นตัวอ่อนหรือเอ็มบริโอ (Embryo) ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์

78.       ความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เด็กอ่อนจนถึงวัยรุ่น จัดเป็น

(1) Differentiation     (2) Development       (3) Mutation     (4) Evolution

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พัฒนาการ (Development) เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน แต่เราสามารถรู้ขั้นตอนหรือเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ เช่น การเจริญเติบโตหรือ พัฒนาการตามขั้นตอนของเด็กอ่อนจนถึงวัยรุ่น เป็นต้น

79.       ปีนี้เป็นปีมะเมีย สัตว์ชนิดนี้มีการออกลูกแบบใด

(1) Oviparous    (2) Ovoviviparous (3) Viviparous       (4) Omnivorous

ตอบ 3 หน้า 91138, (คำบรรยาย) Enaima เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และเลือดมีสีแดง ซึ่งประกอบด้วยสัตว์ 2 พวก ได้แก่

1.         Oviparous คือ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นไข่ เช่น เต่า จระเข้ กบ ยุง เป็ด ไก่ ตุนปากเป็ด ห่าน ไดโนเสาร์ เป็นต้น

2.         Viviparous คือ สัตว์ที่ตัวเมียออกลูกเป็นตัว เช่น มนุษย์ (คน) ปลาฉลาม ปลาวาน ปลาโลมา พะยูน ค้างคาว ม้า (มะเมีย) วัว สุนัข แมว หนุ จิงโจ้ หมีแพนค้า เป็นต้น

80.       การเกิดทารกแฝดที่มีหน้าตา เพศ และอุปนิสัยเหมือนกันมาก เรียกว่าทารกแฝดร่วมไข่ (Identical Twins)มีโอกาสเกิดได้จาก

(1)       เกิดจากไข่ 1 ใบ + สเปีร์ม 2 ตัว หรือมากกว่า

(2)       เกิดจากไข่ 1 ใบ + สเปิร์ม 1 ตัว แต่แตกต่างกันเมื่อมีการแบ่งเซลล์หลังปฏิสนธิ

(3)       เกิดจากไข่ 1 ใบ เกิดการแบ่งเซลล์หลายเซลล์แล้วจึงปฏิสนธิภายหลัง

(4)       จำนวนไข่กี่ใบก็ได้ แต่เกิดการผสมในข่วงเวลาเดียวกัน

ตอบ 2 หน้า 184, (คำบรรยาย) ฝาแฝดแท้ (Identical Twins) เป็นฝาแฝดที่เกิดจากไข่ 1 ใบถูกผสมด้วยสเปิร์ม 1 ตัว ได้เป็นไซโกต แต่แตกต่างกันเมื่อมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis) จาก 1 เป็น 2 หลังการปฏิสนธิ โดยแต่ละเซลล์ก็จะเป็นต้นกำเนิดของ 1 ชีวิต ฝาแฝดแบบนี้ จะมีเพศเดียวกัน มีลักษณะหน้าตาและอุปนิสัยเหมือนกันมาก หรือที่เรียกว่าทารกแฝดร่วมไข่

81.       การเคลื่อนไหวที่เกิดจากกระบวนการทำงานของเซลล์พืช ซึ่งไม่จัดว่าเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าคือข้อใด

(1)       การเคลื่อนที่ของสาหร่ายเซลล์เดียวเมื่ออุณหภูมินํ้าเปลี่ยนแปลง

(2)       ต้นพืชมีความสูงมากขึ้นเมื่อมีฮอร์โมนมากระตุ้น

(3)       การเหี่ยวของใบไมยราบเมื่อโดนสัมผัส

(4)       การบานของดอกบัวเมื่อได้รับแสงแดด

ตอบ 3 หน้า 201 การเคลื่อนไหวที่เกิดจากกระบวนการทำงานของเซลล์พืช ซึ่งไม่จัดว่าเป็นการตอบสนอง ต่อสิ่งเร้า มี 2 แบบ คือ

1.         การเคลื่อนไหวจากความเต่งของเนื้อเยื่อ เป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดจากกระบวนการ Osmosis ทำให้ใบเต่งหรือเหี่ยวเฉาม้วนเข้าหากัน ซึ่งพบมากในใบพืชตระกูลถั่ว เช่น การเหี่ยวของ ใบไมยราบเมื่อโดนสัมผัส เป็นต้น

2.         การเคลื่อนไหวของเนื้อเยื่อที่ไม่มีชีวิต เป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการขยายตัวของเซลล์ ภายหลังที่ได้รับความชื้น เช่น การแตกของฝักหรือผลแห้งการแตกของฝักต้อยติ่ง เป็นต้น

82.       ข้อใดจัดเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต

(1) การมองเห็นของนก            

(2) การได้ยินเสียงเรียกของสุนัข

(3)       การเคลื่อนที่เข้าหาแสงของแมลง        

(4) การแลบลิ้นของงูเขียว

ตอบ 3 หน้า 195, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้า (Responsiveness) หมายถึง การที่สิงมีชีวิต มีการตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้น เพื่อให้มีการปรับตัวหรือต่อต้านต่อสิ่งที่มากระตุ้นนั้น เช่น การเคลื่อนที่เข้าหาแสงของแมลงดอกไม้บานในยามเช้าเมื่อได้รับแสงแดดใบพืชเหี่ยวเมื่อ อุณหภูมิสูงขึ้นการจ้องมองภาพหรือวัตถุการมีความรู้สึกเจ็บปวดและหดมือถอยหนีเมื่อโดน นํ้าร้อนลวก ถูกของแหลมทิ่มแทงหรือถูกไฟจี้การที่ต้นไม้เอนเข้าหาแสงสว่างการเหลียวไปมอง เมื่อได้ยินเสียง เป็นต้น

83.       งูจงอางมองวัตถุที่เคลื่อนที่แล้วเลื้อยตาม งูชนิดนี้มีหน่วยรับความรู้สึกที่เรียกว่า

(1) Thermoreceptor (2) Pressoreceptor (3) Photoreceptor (4) Phonoreceptor

ตอบ3  หน้า 196, (คำบรรยาย) ในกระบวนการรับความรู้สึก (Reception) มีอวัยวะที่เป็นหน่วยรับความรู้สึก ได้แก่

1.         Thermoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกร้อนหรือเย็น (อุณหภูมิ) ได้แก่ ผิวหนัง

2.         Photoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงสว่าง ได้แก่ ตา เช่น งูจงอางมองเห็น วัตถุที่เคลื่อนที่แล้วเลื้อยตาม เป็นต้น

3.         Pressoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกสัมผัสและความเจ็บปวด ได้แก่ ผิวหนัง

4.         Chemoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านรสและกลิ่น ได้แก่ ลิ้น จมูก และ หนวดแมลงบางชนิด เช่น ผีเลื้อกลางคืน เป็นต้น

5.         Phonoreceptor เป็นอวัยวะที่รับความรู้สึกด้านเสียง ได้แก่ หู

84.       การเจริญของรากไทรจากยอดต้นไม้อื่นลงสู่พื้นดิน เป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เรียกว่า

(1) Thermonastic (2) Geotropism      (3) Chemotropism (4) Hydrotropism

ตอบ 2 หน้า 200 Geotropism เป็นการเคลื่อนไหวตอบสนองภายนอกต้นพืชเนื่องจากการเจริญเติบโต โดยมีแรงดึงดูดของโลกเป็นสิ่งเร้า เช่น การเจริญของรากไทรจากยอดต้นไม้อื่น ลงสู่พื้นดิน เป็นต้น

85.       การตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดในโปรโตพลาสม์ พบในสิ่งมิชีวิตพวกใด

(1) ในสัตว์ชั้นสูง          (2) ในพวกพืชทั่วไป

(3)       สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำประเภทเซลล์เดียว       (4) พบในสิ่งมีชีวิตทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 3 หน้า 98106195 – 196, (คำบรรยาย) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสิ่งมีชีวิตชั้นตํ่าประเภท เซลล์เดียวซึ่งได้แก่ พวกโปรติสตา (Protista) เช่น ยูกลีบา อะมีนา พารามีเซียม จะเกิดขึ้น พร้อมกันในก้อนโปรโตพลาสม์ ส่วนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าในสัตว์ขชั้นสูงและใบพืชทั่วไปนั้น จะมีโครงสร้างหรืออวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากกัน

86.       งูกะปะรับสัญญาณของเหยื่อโดยอาศัยหน่วยรับความรู้สึกที่เกี่ยวกับอุณหภูมิ เรียกหน่วยรับความรู้สึกนั้นว่า

(1) Chemoreceptor (2) Phonoreceptor (3) Thermoreceptor (4) Pressoreceptor

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 83. ประกอบ

87.       นายดำเป็นนักโทษหนีคดี เมื่อพบเห็บเจ้าหน้าที่ตำรวจและรู้ว่าตนเองต้องโดนจับ แต่นายดำยืนนิ่ง เหมือนคนทำอะไรไม่ถูก นายดำน่าจะขาดกระบวนการใดในการตอบสนองต่อสิ่งเร้า

(1)       กระบวนการรับความรู้สึก (Reception)

(2)       กระบวนการตอบโต้ (Effect)

(3)       กระบวบการนำความรู้สึก (Conduction)

(4)       กระบวนการแปลความหมายและสั่งการ (Modulation)

ตอบ 2 หน้า 197 – 198, (คำบรรยาย) กระบวนการตอบโต้ (Effect) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบกล้ามเบื้อ เซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neuron) และระบบต่อมสร้างฮอร์โมน ซึ่งเกิดขึ้น หลังจากที่กระแสความรู้สึกถูกส่งผ่านเซลล์ประสาทรับความรู้สึก (Sensory Neuron) ไปยัง ระบบประสาทส่วนกลาง (สมองและไขสันหลัง) แล้ว โดยที่ Motor Neuron จะส่งกระแสคำสั่ง จากระบบประสาทส่วนกลางมากระตุ้นให้หน่วยตอบสนองหรือกล้ามเนื้อในบริเวณใกล้กับ แหล่งรับความรู้สึกทำงานด้วยการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบ ต่าง ๆ เช่น การวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจของนักโทษหนีคดี การหดตัวของกล้ามเนื้อขา เพื่อให้เดินถอยหลัง การเดินเลี่ยงเมื่อเรามองเห็นวัตถุอันตราย เป็นต้น

88.       การพรางตัวของสิ่งมีชีวิตพวกผีเสื้อให้มีสีเหมือนวัตถุที่เกาะอาศัย เกิดประโยชน์กับผีเสื้อด้านใดมากที่สุด

(1)       จับเหยื่อพวกแมลงเป็นอาหาร            (2) หลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อของผู้ล่า

(3) เพื่อความสวยงามดึงดูดเพศตรงข้าม         (4) ขับไล่ศัตรู

ตอบ 2 หน้า 228 – 230, (คำบรรยาย) การปรับตัวทางด้านรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้น มีจุดมุ่งหมาย สำคัญ 2 ประการ คือ

1.         เพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาอาหาร เช่น ตั๊กแตนมีลักษณะปากแข็งแรงนกกระยางมีนิ้วเท้า เรียวยาวเหมาะแก่การทรงตัวนกกานํ้ามีนิ้วเท้าแบนมีพังผืดงูเชียวหางไหม้ชอบอาศัยอยู่ ตามพุ่มไม้ที่มีสีเขียวนกฮูกมีนิ้วเท้างองุ้มเล็บแหลมคมไก่มีเล็บเท้าใหญ่และแข็งเหมาะแก่ การคุ้ยเขี่ย เป็นต้น

2.         เพื่อการป้องกันหรือหลบหลีกอันตรายจากศัตรู (ผู้ล่า) เช่น การมีหูและขาหลังที่ยาวของกระต่ายการมีเปลือก กระดอง เกล็ด ขนแข็ง ของหอย ปู เต่า นิ่ม และเม่นการเปลี่ยนสีเลียนแบบ ธรรมชาติหรือการพรางตัวให้มีสีเหมือนวัตถุที่เกาะอาศัยของผีเสื้อกลางคืน เป็นต้น

89.       การเบนหาแสงของยอดพืชเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยมีฮอร์โมนใดเกี่ยวข้อง   

(1) ไคนิน (Kinin)

(2)       ออกซิน (Auxin)    (3) จิบเบอเรลลิน (Gibberellin) (4) อินซูลิน (Insulin)

ตอบ 2 หน้า 199 ออกชิน (Auxin) เป็นสิ่งเร้าภายในในรูปฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมและควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งฮอร์โมนนี้พืชจะสร้างจากปลายยอดแล้วลำเลียงลงสู่รากในลักษณะ ที่หนีแสงสว่าง ทำให้พืชเกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหรือมีพฤติกรรมการตอบสนอง โดยการที่ยอดพืชจะโค้งหรือเบนเข้าหาแสง ส่วนรากพืชจะเบนหนีแสง

90.       สัตว์บางชนิดส่งสารติดต่อกันได้โดยใช้กลิ่นที่ขับออกมานอกร่างกาย กลิ่นที่สัตว์เหล่านั้นสร้างขึ้น เรียกว่า

(1)       ฮอร์โมน          (2) ฟีโรโมน      (3) พาราฮอร์โมน         (4) อะดรินาลีน

ตอบ 2 หน้า 209, (คำบรรยาย) ฟีโรโมน (Pheromone) เป็นกลิ่นของสารอินทรีย์เคมีที่สร้างโดยต่อมมีท่อ แล้วถูกขับออกมาใช้งานภายนอกร่างกาย เพื่อการสื่อสารหรือส่งสารติดต่อ กับสิ่งมิชีวิตชนิดเดียวกัน เช่น กลิ่นตัวและกลิ่นเหงื่อของคนกลิ่นสาบของสัตว์ต่าง ๆ,การเดินตามกันเป็นแถวของปลวกหรือมดแมลงต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลกันสามารถติดตามหรือ ส่งสารติดต่อกันได้ เป็นต้น

91.       สิ่งมิชีวิตรุ่นลูกมีความแตกต่างจากพ่อแม่โดยสิ้นเชิง เกิดเนื่องจากความผันแปรทางพันธุกรรมหรือมิวเตชันความคิดเห็นนี้กล่าวโดยผู้ใด  

(1) ลามาร์ค (Lamarck)

(2)       ดาร์วิน (Darwin)   

(3) เดอ ฟรีส์ (De Vries)   

(4) อริสโตเติล (Aristotle)

ตอบ 3 หน้า 213, (คำบรรยาย) ฮิวโก เดอ ฟรีล์ (Hugo De Vries) ได้กล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตไว้ว่า สิ่งมีชีวิตอาจเกิดพันธุ์ใหม่ขึ้นได้อย่างทันทีทันใด เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ภายในเซลล์สืบพันธุ์ และความเปลี่ยนแปลงนี้สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ นั่นคือ สิ่งมีชีวิต รุ่นลูกจะมีความแตกต่างจากพ่อแม่โดยสิ้นเชิง เกิดเนื่องจากความผันแปรทางพันธุกรรม ซึ่งการผันแปรนี้เรียกว่า การผ่าเหล่าหรือมิวเตชัน” (Mutation)

92.       ผู้ใดกล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการ “Law of use and disuse”

(1) Mendel         

(2) Lamarck       

(3) De Vries        

(4) Darwin

ตอบ 2 หน้า 212, (คำบรรยาย) ลามาร์ค (Lamarck) ได้กล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ไว้ในหนังสือชื่อ Philosophie Zoologigue โดยได้เสนอความคิดเกี่ยวกับการสร้างสมและ การถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่อันเนื่องมาจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ภายใต้กฎของการใช้ และไม่ใช้ (Law of use and disuse)

93.       การคัดสรรโดยธรรมชาติ” เป็นทฤษฎีทางวิวัฒนาการที่กล่าวถึงการเกิดของสิ่งมีชีวิตบนโลก สอดคล้อง ในหลายเรื่อง ยกเว้นข้อใด

(1)       สิ่งมีชีวิตมีการแข่งขันกับสิ่งแวดล้อม

(2)       สิ่งมีชีวิตมีความผันแปรทางพันธุกรรม

(3)       อวัยวะของสิ่งมีชีวิตที่ใช้บ่อยจะยังหลงเหลือและถ่ายทอดสู่รุ่นลูก

(4)       ลูกสุนัขจิ้งจอกตัวที่อ่อนแอมักจะแย่งอาหารไม่ทันและอาจอยู่รอดไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์

ตอบ 3 หน้า 212 – 213 ชาร์ลล์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ได้กล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการในเชิงการเกิด ของสิ่งมีชีวิตบนโลกไว้ 4 ประการ คือ 1. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันย่อมมีความผันแปรทางพันธุกรรม (Variation)

2. สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มักมีลูกหลานมากเกินไป จนไมมีอาหารหรือได้รับการเลี้ยงดู ไม่เพียงพอแก่ความต้องการของลูกหลานทุกชีวิตนั้น

3. สิ่งมีชีวิตเกิดการแก่งแย่งแข่งขัน เพื่อให้ตนเองได้รับอาหารมากตามต้องการ

4. สิ่งมีชีวิตมีการแข่งขันกับสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ โดยผู้ที่อ่อนแอจะตายไป เหลืออยู่แต่ผู้ที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอด มีอาหาร และถ่ายทอดหรือสอนลักษณะนั้น ๆ สืบต่อกันจากบรรพบุรุษไปยังลูกหลาน เกิดเป็น พันธุ์ใหม่ที่ดีขึ้นมา ซึ่งดาร์วินเรียกวิธีการนี้ว่าการคัดสรรโดยธรรมชาติ” (Natural Selection)

94.       หลักฐานบรรพชีวินในข้อใดที่ยืนยันการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน

(1)       สารเคมีของสิ่งมีชีวิตในอดีตเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในปัจจุบัน

(2)       ตัวอ่อนของไก่ ปลา สุกร และมนุษย์มีความเหมือนกันมาก จึงเชื่อว่ามีบรรพบุรุษร่วมกัน

(3)       ฟอสซิลของพืชกลุ่มเฟิร์นชนิดที่เหลือรอดจากการสูญพันธุ์และพบได้ในปัจจุบัน

(4)       งูเหลือมมีร่องรอยของกระดูกขาหลังหลงเหลืออยู่ แสดงว่าบรรพบุรุษในอดีตเดินได้

ตอบ 3 หน้า 213 – 215 หลักฐานที่ยืนยันการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกในยุคปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 บระเภท คือ

1.         หลักฐานทางบรรพชีวินที่ศึกษาเกี่ยวกับซากสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นหิน หรือที่เรียกว่า ฟอสซิล (Fossil) เช่น ฟอสซิลของพืชกลุ่มเพิร์นชนิดที่เหลือรอดจากการสูญพันธุ์และพบได้ในปัจจุบัน

2.         หลักฐานจากการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแงรูปร่าง โครงสร้าง พัฒนาการ และลักษณะการทำงานของอวัยวะในสิ่งมีชีวิต

95.       ข้อใดกล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการ “การคัดสรรโดยธรรมชาติ” ของชาร์ลล์ ดาร์วิน ได้ถูกต้องที่สุด

(1)       สัตว์ป่ามีการคัดเลือกผู้นำฝูงในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม

(2)       สัตว์ป่าเกิดการคัดสรรโดยธรรมชาติ ตัวที่แข็งแรงจึงจะอยู่รอดได้

(3)       การคัดเลือกพันธุ์พืชที่ดีที่สุดมาปลูก ช่วยให้พืชมีอายุยืนยาวถึงลูกถึงหลาน

(4)       การคัดเลือกพันธุ์ตามธรรมชาติที่ดีที่สุด คือ การผสมพันธุ์ในเครือญาติเดียวกัน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

96.       ข้อใดกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่จัดเป็นวิวัฒนาการที่ถูกต้องที่สุด

(1)       การตัดไม้ทำลายป่าเมื่อเวลาผ่านไปทำให้ภูเขากลายเป็นเขาหัวโล้น

(2)       การผสมข้ามพันธุ์ของไม้ดอกทำให้รุ่นลูกมีดอกที่แตกต่างจากรุ่นพ่อแม่

(3)       ยีราฟในยุคแรกและยุคปัจจุบันมีลำคอยาวต่างกันเนื่องจากปรับตัวเพื่อหาอาหาร

(4)       วิวัฒนาการเกิดขึ้นเฉพาะในสัตว์มีกระดูกสันหลังเท่านั้น

ตอบ 3 หน้า 9. 211 – 212, (คำบรรยาย) วิวัฒนาการ (Evolution) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงจากสภาพหนึ่งไปสู่อีกสภาพหนึ่ง ในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับขั้นโดยใข้ระยะเวลา ยาวนานมาก ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

1.         วิวัฒนาการเกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต (Inorganic Evolution) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอยู่ใน หลายสาขาวิขา เช่น ทางดาราคาสตร์ ทางธรณีวิทยา ทางเคมี เป็นต้น

2.         วิวัฒนาการเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต (Organic Evolution) ซึ่งจะพบในสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษร่วมกัน หากแต่มีความผิดแผกแปรผันจากกันไปเพราะ ความเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมและการปรับปรุงสภาพให้เหมาะสมกับภาวะแวดล้อม เช่น ยีราฟในยุคแรกและยุคปัจจุบันมีลำคอยาวต่างกันเนื่องจากปรับตัวเพื่อหาอาหาร เป็นต้น

97.       ข้อใดไม่ใช่การปรับตัวเพื่อควบคุมปริมาณน้ำในต้นพืชของพืชพวก Xerophyte

(1) มีปากใบบนผิวใบเพื่อควบคุมการคายนํ้า  (2) ใบมีขนาดเล็ก ลดรูปเป็นหนาม

(3)       มี Cutin ที่ผิวของลำต้น       (4) ผลัดใบในฤดูร้อน

ตอบ 1 หน้า 231 Xerophyte ได้แก่ พืชที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง มีนํ้าน้อย พืชพวกนี้มักมีใบเล็กมาก หรือเปลี่ยนใบไปเป็นหนาม ไม่มีปากใบ ลำต้นทำหน้าที่สังเคราะห์แสงสร้างอาหาร แทนใบได้ รากยาวหยั่งลึกและแผ่ไปไกลเพื่อดูดหาน้ำ นอกจากนี้ยังมีสาร Cutin ฉาบเคลือบผิว ของลำต้นไว้ค่อนข้างหนาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหย และมักจะผลัดใบในฤดูร้อน

98.       ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต

(1) การปรับตัวไมใช่สัญชาตญาณ      (2) การปรับตัวเกิดขึ้นเพื่อหาอาหาร

(3)       การปรับตัวเกิดขึ้นเพื่อหลบหนีภัยอันตราย     (4) การปรับตัวเกิดขึ้นเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์

ตอบ 1 หน้า 227 – 228 การปรับตัว (Adaptation) หมายถึง วิถีทางที่สิ่งมีชีวิตจัดทำหรือแสวงหา เพื่อปรับปรุงส่งเสริมความเป็นอยู่ให้สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นดำรงอยู่ในถิ่นที่อาศัยของตนอย่าง มีความสุขสบาย เป็นการปรับตัวที่เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณ ทั้งนี้โดยมีจุดประสงค์ที่สำคัญ 3 ประการ คือ เพื่อการหาอาหาร เพื่อการต่อสู้ป้องกันและหลบหนีภัยอันตราย และ เพื่อการสืบพันธุ์หรือการดำรงเผ่าพันธุ์

99.       ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Physiological Adaptation

(1) การสร้าง Cyst ของโปรโตซัว       (2) เล็บที่ใหญ่และแข็งแรงของไก่

(3) ปากแบบม้วนเข้าของผีเสื้อ            (4) ปากแบบท่อดูดของยุง

ตอบ 1 หน้า 228230 – 231, (คำบรรยาย) การปรับตัวทางสรีระ (Physiological Adaptation) หมายถึง การปรับตัวทางด้านโครงสร้างภายในร่างกายและหน้าที่ของอวัยวะเหล่านั้นจะมีทั้ง เพื่อการหาอาหาร การป้องกันตัว และการสืบพันธุ์ ซึ่งการปรับตัวแบบนี้จะเป็นไปอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่สัตว์ชั้นตํ่ามาจนถึงสัตว์ชั้นสูง รวมตลอดไปถึงพืชด้วย เช่น การสร้างเกราะ (Cyst) ขึ้น ห่อหุ้มร่างกายของโปรโตซัว (เช่น อะมีบา) และจุลินทรีย์หลายชนิดเพื่อป้องกันความแห้งแล้งการมีกลิ่นเหม็นของเม่น เป็นต้น

100.    ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Behavioral Adaptation

(1) การยืนไม่ได้ของนกกระจอกเทศ    (2) การมีกลิ่นเหม็นของเม่น

(3) การชอบกินเนื้อสัตว์ของเสือดาว    (4) ความขี้ระแวง ตกใจง่ายของกระต่าย กระรอก

ตอบ 4 หน้า 228231 การปรับตัวทางพฤติกรรม (Behavioral Adaptation) เป็นการปรับตัว เพื่อเสริมและสอดคล้องกับการปรับตัวทางด้านรูปร่างและสรีระ เช่น นิสัยหรือพฤติกรรม ในการเดินย่อง จดจ้อง และกระโดดอย่างว่องไวของเสือดาวการมีนิสัยขี้ระแวง ตกใจง่าย และกระโดดหนีไปได้อย่างรวดเร็วของกระต่ายและกระรอก เป็นต้น

error: Content is protected !!