MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552

 ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทังหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. ตามหลักการที่ศึกษา ข่าว” คืออะไร และรายงานเนื้อหาประเภทไดได้บ้าง ยกตัวอย่างเนื้อหา แต่ละประเภทประกอบ ประเภทละ 2 ตัวอย่าง (ไมต้องเขียนข่าว)    (10 คะแนน)

แนวคำตอบ

ข่าว คือ รายงานข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งความเห็น ของบุคคลซึ่งมีความสำคัญเป็นที่น่าสนใจของผู้รับสารหรือมีผลกระทบต่อสาธารณชน และต้องมีการรายงานหรือ แถลงให้ผู้คนได้รับทราบ

1.         ข่าวการเมือง เช่น การจัดการเลือกตั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

2.         ข่าวเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย มูลค่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

3.         ข่าวอาชญากรรม เช่น ข่าวฆาตกรรม ข่าวปล้นชิงทรัพย์

4.         ข่าวการศึกษา เช่น ความเปลี่ยนแปลงในการสอบแอดมิดชั่น ความเปลี่ยนแปลง ในกระบวนการเรียนการสอน

5.         ข่าวกีฬา เช่น ผลการแข่งขันของกีฬาประเภทต่าง ๆ การจัดแข่งชันฟุตบอลโลก

6.         ข่าวบันเทิง เช่น ความเคลื่อนไหวในวงการบันเทิง กิจกรรมของดารานักร้อง

7.         ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น ความก้าวหน้าในวงการแพทย์ การประดิษฐ์ คิดค้นอาวุธยุทโธปกรณ์

8.         ข่าวสตรี เด็ก และเยาวชน เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ ความเคลื่อนไหวของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง

9.         ข่าวท้องถิ่น เช่น การเมืองท้องถิ่น เศรษฐกิจชุมชน

10.       ข่าวต่างประเทศ เช่น วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ความขัดแย้ง ระหว่างประเทศเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้

ข้อ 2. ข่าวอาชญากรรมกับข่าวการเมืองมีคุณค่าเชิงข่าวด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างประเด็นข่าวประกอบ การอธิบาย   (10 คะแนน)

ถ้านักศึกษาเป็นบรรณาธิการข่าวจะให้น้ำหนักความสำคัญแก่ข่าวประเภทใดมากกว่ากัน เพราะเหตุใด อธิบายโดยใช้หลักการเกี่ยวกับการพิจารณากลั่นกรองของนายทวารข่าวสารหรือ Gate Keeper (10 คะแนน)

1.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน เช่น การนำเสนอประเด็นข่าวปล้นชิงทรัพย์ก็อาจทำไห้ผู้อ่านระมัดระวังไมนำของมีค่าติดตัว และหลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปในที่เปลี่ยว ๆ

2.         ความเปลี่ยนแปลง คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ข่าวภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิในภาคใต้ของไทย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน

3.         ความไม่คาดคิด คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดชื้น เช่น ข่าวการจลาจลเผาบ้านเผาเมืองในกรุงเทพฯ เป็นวิธีการที่ไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน

4.         ความมีเงื่อนงำ คือ ข่าวอาชญากรรมบางข่าวยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร เช่น ข่าวฆาตกรรม ซึ่งตำรวจยังไมสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้

5.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่าวอาชญากรรมทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ

6.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ข่าวปล้นบ้าน ขโมยรถยนต์ อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกตอไป

7.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งทั้งทางกายและความคิด มีการเผชิญหน้าปะทะกัน เช่น ข่าวประท้วงรัฐบาลที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

8.         ความทันต่อกาลเวลา คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวที่สดใหม่ ทันเหตุการณ์ หรือ บางข่าวก็เพิ่งเปิดเผย

ข่าวการเมืองมีคุณค่าเชิงข่าว (News Value) โดยรวม ดังนี้

1.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ ข่าวการเมืองมีความเกี่ยวข้องกับผู้รับสารทั้งทางตรงและ ทางอ้อม เช่น ข่าวจัดการเลือกตั้งก็มีผลให้ประชาชนต้องไปใช้สิทธิทางการเมืองเพื่อเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ

2.         ผลกระทบ คือ ข่าวการเมืองมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก เช่น ข่าวการที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษี ข่าวรัฐบาลกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ ฯลฯ

3.         ความเปลี่ยนแปลง คือ ข่าวการเมืองเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ข่าวการประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ข่าวการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ฯลฯ

4.         ความไมคาดคิด คือ ข่าวการเมืองบางข่าวก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เช่น ข่าวการก่อจลาจล ฯลฯ

5.         ความมีเงื่อนงำ คือ ข่าวการเมืองบางข่าวก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงเช่นไร ทำให้ต้องติดตาม ต่อไป เช่น ข่าวทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองที่ยังสาวไปถึงต้นตอไม่ได้

6.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่าวการเมืองทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการไม่ยอมเข้าประชุมสภาของ ส.ส. ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อหน่าย 

7.         ความใกล้ชิด คือ ข่าวการเมืองเป็นเรื่องราวใกล้ตัว เกิดขึ้นไนสังคมไทย และยังเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วไป เช่น ข่าวนโยบายเรียนฟรีที่รัฐบาลได้ประกาศออกมาใช้

8.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเลียง คือ ข่าวการเมืองจะเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นที่รู้จักของ ประชาชน เช่น ข่าวการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับวาระโอกาสที่สำคัญและ สถานที่ที่มีชื่อเสียง

9.         ความขัดแย้ง/การแข่งขัน/การเผชิญหน้า คือ ข่าวภารเมืองเป็นเรื่องที่มีความขัดแย้ง ทั้งทางกายและทางความคิด รวมทั้งยังมีการแข่งขันและการเผชิญหน้า เช่น ข่าวการชุมนุมทางการเมือง

10.       ความทันต่อเวลา คือ ข่าวการเมืองเป็นข่าวที่สดใหม่ ทันเหตุการณ์ หรือบางข่าวก็เพิ่ง เปิดเผย เช่น ข่าวการทุจริตของภาครัฐที่กระทำต่อเนื่องมานาน แต่เพิ่งมีการค้นพบ

หลักการพิจารณากลั่นกรองข่าวของนายทวารข่าวสาร (Gate Keeper)

เมื่อผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องราวต่าง ๆ มายังกองบรรณาธิการแล้ว บรรณาธิการข่าวจะทำหน้าที่ กลั่นกรองอีกชั้นหนึ่งว่าจะนำเสนอเรื่องใดบ้าง ซึ่งระหว่างข่าวอาชญากรรมกับข่าวการเมือง ควรจะให้น้ำหนัก ความสำคัญกับข่าวการเมืองมากกว่า โดยพิจารณาจากหลักการของผู้รักษาประตูหรือนายทวารข่าวสาร (Gate Keeper) มาคัดเลือกข่าว ซึ่งมือยู่ 5 ประการ คือ

1.         ความน่าลนใจ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วทำให้ประชาชนสนใจใคร่รู้อยากติดตาม ทำให้ความเล็ก/ใหญ่ของแต่ละข่าวไม่เท่ากัน โดยข่าวที่น่าสนใจคือข่าวที่ผู้อ่านต้องการจะอ่านมากที่สุด ซึ่งข่าว การเมืองย่อมน่าสนใจสำหรับผู้อ่านในสถานการณ์ขณะนี้

2.         ความสำคัญ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีความสำคัญต่อตัวเรา ผู้อ่าน สังคม และคนทังประเทศ ซึ่งข่าวการเมืองย่อมสำคัญต่อคนทั้งประเทศมากกว่าข่าวอาชญากรรม

3.         ความชอบธรรม หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีความถูกต้องทางจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ซึ่งข่าวการเมืองสามารถรายงานได้โดยไม่ผิดกฎหมายและเป็นเรื่องที่ผู้คนสมควรรับรู้ เพราะมี ผลกระทบต่อคนจำนวนมาก

4.         ความมีประโยชน์ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ซึ่งข่าวการเมือง สามารถให้ความรู้ ยกระดับสติปัญญา และรสนิยมของผู้อ่านได้

5.         ความสดทันสมัย หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ใหม่ ๆ หรือพึ่งเกิดขึ้นไมนาน ซึ่งข่าวการเมืองใดมีความสดมากก็ยิ่งมีคุณค่าข่าวสูงและเป็นที่สนใจของผู้อ่านมาก

ข้อ 3. รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้มากที่สุด คือรูปแบบใด มีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องอย่างไร ยกตัวอย่างประเด็นเนื้อหาประกอบคำอธิบาย โดยไมต้องเขียนข่าว  

แนวคำตอบ

รูปแบบการเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ (Inverted Pyramid)

การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ เป็นการรายงานข่าวในลักษณะสรุปย่อข้อเท็จจริงที่สำคัญ ๆ เป็นความนำของข่าว แล้วจึงค่อยขยายรายละเอียดของข้อเท็จจริงเหล่านั้นตามลำดับ จึงเป็นรูปแบบการเขียนข่าว ที่นิยมใช้มากที่สุด โดยมีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องออกเป็น 2 รูปแบบ

1 แบบถือความสำคัญเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญและจำเป็น ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึง ย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด เหมาะกับข่าวเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเดียว หรือเป็นเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับช้อน เช่น ข่าวรับสมัครนักศึกษาใหม่ ข่าวดาราค้ายาเสพติด ฯลฯ ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมี ลำดับเนื้อเรื่อง

ความนำ / ประเด็นสำคัญ >ข้อเท็จจริงที่ 1 >ข้อเท็จจริงที่ 2 >ข้อเท็จจริงที่ 3 >ข้อเท็จจริงที่ 4

2.         แบบถือเวลาที่เกิดเหตุการณ์เป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปย่อเหตุการณ์และ ผลลัพธ์ทั้งหมด ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าตามลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ก่อนหลัง อาจมีข้อเท็จจริงเสริมในตอนท้าย จึงเหมาะกับข่าวเหตุการณ์ระทึกใจ เหตุการณ์ที่ข้อมูลข่าวมีความ ต่อเนื่องกันตลอด และเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น ข่าวแข่งขันกีฬา ฟุตบอล ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมีลำดับเนื้อเรื่อง

ความนำ >เล่าเรื่องตามลำดับเวลา >ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง >ต่อเวลา >สรุปผลแท้-ชนะ >ข้อเท็จจริงเสริม

ข้อ 4. ในการรายงานข่าวไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารในที่ทำการของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ควรใช้แหล่งข่าว อะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบอย่างน้อย 3 แหลงข่าว 

และควรนำเสนอประเด็นใดบ้างในเนื้อข่าว     (5 คะแนน)

แนวคำตอบ

แหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าวควรใช้ในการรายงานข่าวไฟไหม้ 

–           เจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           ศูนย์ข่าวข่ายต่าง ๆ ของตำรวจ

–           มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ

–           สถานีดับเพลิง นักดับเพลิง

–           โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล

–           ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ และผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

–           พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์

–           บริษัทประกันภัย (กรณีที่เจ้าของสถานที่เกิดเหตุได้ทำประกันอัคคีภัยเอาไว้)

–           ห้องสมุดหนังสือพิมพ์ เพื่อหาข้อมูลย้อนหลังที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน

ฯลฯ

ประเด็นที่ควรนำเสนอในเนื้อข่าวไฟไหม้ มีดังนี้

–           เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ไหน ลุกลามไปอย่างไร ความยากลำบาก ในการดับเพลิง

–           สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

–           รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์อย่างไร

–           ความเห็นของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสาเหตุซองไฟไหม้

–           คำสัมภาษณ์ของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ประสบเหตุ และผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับ พรรคการเมืองที่ถูกไฟไหม้

–           ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติ ความเป็นมา สิ่งบอกเหตุก่อนหน้านี้

ข้อ 5. คุณลักษณะ (Identification) หมายถึงอะไร ในการรายงานข่าวมรณกรรมต้องกล่าวถึงคุณลักษณะ อะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบโดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว          (10 คะแนน)

แนวคำตอบ

คุณลักษณะ (Identification) หมายถึง ตัวตน ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณสมบัติ ของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ รวมทั้งบุคคลและสถานที่ที่มาเกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการขยายความเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบ

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่ารมรณกรรม 

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ซื่อ-นามสกุลอายุอาชีพหรืองานอดิเรกยศหรือ ตำแหน่งเกียรติภูมิหรือชื่อเสียง รวมทั้งผลงานที่เป็นที่รู้จัก และในกรณีที่ผู้ตายเป็นญาติของบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็จะต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่เสียชีวิต ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอก ที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือในกรณีที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์อาจต้องบอก หลัก กม. ที่ บนถนนสาย… อยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด หรือสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ยังต้องบอก สถานที่จัดพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่วัดใด เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้าง ๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าว อยู่ตรงไหน และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว ซึ่งในบางกรณีอาจ ต้องบอกถึงเหตุการณ์ตื่นเต้น เช่น มีอาการหัวใจวาย ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ฯลฯ หรือถ้าไม่มีอาจไม่ต้องบอก ก็ได้ เช่น เป็นอาการป่วยธรรมดา เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้าน ฯลฯ

ข้อ 6. ลีลา (Style) การเขียนข่าวมีหลายรูปแบบ หากต้องการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา ควรใช้ลีลา การเขียน (Style) แบบใด (5 คะแนน)

และควรนำเสนอประเดินใดบ้าง          (5 คะแนน)

แนวคำตอบ

ลีลาการเขียน (Style) ในการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา

การรายงานข่าวการแข่งขันกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนข่าวได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน เพราะหากข้อมูลข่าวนั้นได้มาจากการให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวก็ต้องมีการอ้างอิงคำพูดของบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ หรือบุคคลที่แถลงทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าข้อมูลข่าวที่ได้มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลง และมีความคืบหน้าตลอดเวลาก็ควรรายงานตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิด แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป ก็อาจเขียนใน ลักษณะเรียบง่าย ซึ่งลีลาการเขียนข่าว (Style) แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่

1. การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป (Fact Story) มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับช้อน อาจมีตัวเลข สถิติ หรือเป็นข่าวสั้น ข่าวประกอบภาพก็ได้

2.         การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว (Action Story) เป็นการรายงานเหตุการณ์ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ ความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เขียนข่าว ต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง ได้รับความ ตื่นเต้น ดีใจ สลดใจไปกับบุคคลในข่าว ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหว พัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว

3.         การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย (Quote Story) เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริง ที่ได้มาจากคำพูด การแสดงความคิดเห็น การแถลง การให้สัมภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้ง ประกาศ หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน โดยจะคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น แบงออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

1)         การยกคำพูดมาโดยตรง (Direct Quote) โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือเลขใน กำกับ ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อให้ผู้อ่านทราบวาเป็นคำพูดของใคร

2)         การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง และมีเครื่องหมายคำพูด กำกับ (Indirect Quote) แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้ โดยไม่มีการแต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น และ ระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน

ประเด็นข่าวที่ควรนาเสนอในการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา มีดังนี้

1.         ประเด็นข่าวที่ควรนาเสนอก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขันสถิติ ที่ฝานมาระบบการเล่นที่ผ่านมาสภาพความพร้อมของผู้เล่นการวิเคราะห์วิจารณ์การเล่นแผนการเล่นสภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่นความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชม และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

2.         ประเด็นข่าวที่ควรนำเสนอหลังการแข่งขัน ได้แก่ ใครเป็นผู้ชนะคะแนนเท่าใดรายละเอียดการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบเปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีมผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้างขาดใครที่ ทำให้ทีมเกิดปัญหาจำนวนผู้เข้าชมสภาพอากาศระหว่างการแข่งขันคะแนนรวม และการทำลายสถิติ

ข้อ 7. จากข้อมูลข่าวต่อไปนี้

ขาดโรงเรียนไปปล้น

เด็ก ขาดเรียน” เป็นเรื่องธรรมดา ใครที่ไม่เคย ขาด (เรียน)” เลยสักครั้งสิแปลก

ก็ชีวิตคนเราไม่ว่าวัยไหนมันก็ต้องมีธุระ มี งานเข้า” กันบ้างล่ะเข้าใจใช่ปะ?

แต่ที่เราไม่เข้าใจเลยก็คือ… มีด้วยหรือ เด็กที่โดดเรียนไปปล้น

แต่เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว ที่เมืองวอร์วิค รัฐโรดไอส์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ที่ตำรวจเล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อนตำรวจสามารถตามจับตัวเด็กนักเรียนชายวัย 17 ที่บุกเดี่ยวเข้าปล้นธนาคารโคสด์เวย์ คอมมิวนิตี้ แบงก์ได้แล้ว

ทั้งนี้ตำรวจเล่าว่า นักเรียนชายซึ่งตำรวจต้องปิดชื่อด้วยยังเป็นผู้เยาว์เดินเข้าไปที่ธนาคาร แล้วก็ยื่นกระดาษส่งให้พนักงานแบงก์มีใจความว่า ให้ส่งเงินมา หากขัดขืนเค้าจะยิงทุกคนเล้ย

แคชเชียร์ก็หยิบเงินส่งให้ไป

แต่หลังจากนั้นประมาณ 6 ชั่วโมง ไม่รู้ว่า…ทันได้ ใช้เงิน” หรือเปล่า ตำรวจก็อาศัยภาพ ในกล้องทีวีวงจรปิดที่ธนาคารติดไว้ รวมทั้ง ลายนิ้วมือ” บนกระดาษโน้ตตามจับตัวเด็กชายจนได้

และส่งตัวไปอยู่ที่โรงเรียนดัดสันดานเรียบร้อย

คราวนี้เจ้าหนูก็จะได้มีเวลาเรียนรู้ที่จะทำตัวใหม่ และเรียนหนังสืออย่างจริงจังสักที

เพราะขนาดแคในกระดาษโน้ตใบนั้นเจ้าหนูยังเขียนสะกดคำผิดอยู่หลายที่

7.1 ข่าวนี้เขียนด้วยรูปแบบใด รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นอย่างไร            (5 คะแนน)

แนวคำตอบ

รูปแบบการเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวตั้ง (Upright Pyramid)

ข่าวข้างต้นเขียนด้วยรูปแบบพีระมิดหัวตั้ง ซึ่งเป็นการรายงานข่าวที่ตรงข้ามกับแบบพีระมิด หัวกลับ คือ เริ่มต้นด้วยความนำในลักษณะเกริ่นนำเรื่อง ตามด้วยเนื้อข่าวซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ค่อย ๆ เพิ่มความ สำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนย่อหน้าสุดท้ายจะสรุปเรื่องที่เป็นไคลแม็กซ์หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่อง ที่ผู้อ่านอยากรู้มากที่สุดเอาไว้ จึงมีลักษณะเด่นคือ เหมาะกับข่าวเหตุการณ์สั้น ๆ และใช้กับเรื่องแปลก ๆ ที่คาด ไมถึง เรื่องที่ไม่สามารถเดาตอนจบได้ โดยจะมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น เรียกว่า ข่าวสั้นขำขัน รวมทั้งยังใช้กับข่าวอาชญากรรมที่ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน แต่จะไม่เหมาะกับเรื่องหนัก ๆ ที่จริงจัง เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ฯลฯ ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมีลำดับเนื้อเรื่องดังนี้

เกริ่นนำ >ข้อเท็จจริงที่ทวี >ความสำคัญหรือบอก >ข่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ >ประเด็นสำคัญที่สุด

7.2 ให้เขียนข่าวจากข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบลำดับความสำคัญ       (5 คะแนน)

แนวคำตอบ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองวอร์วิค รัฐโรดไอล์แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานความคืบหน้า กรณีที่มีคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าปล้นธนาคารโคสต์เวย์ คอมมิวนิตี้ว่า สามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุได้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่าเป็นเด็กนักเรียนชายอายุเพียง 17 ปี ซึ่งหยุดโรงเรียนไปก่อเหตุปล้นธนาคารเพียงคนเดียว จึงได้ควบคุมตัว ส่งสถานพินิจ เนื่องจากผู้กระทำผิดยังเป็นเด็กและเยาวชนอยู่

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า วันเกิดเหตุเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปที่ธนาคาร พร้อมกับส่งกระดาษให้พนักงานธนาคารมีข้อความว่า ให้ส่งเงินมา หากขัดขืนจะยิงทุกคน พนักงานธนาคารจึง หยิบเงินส่งให้ แต่หลังจากที่ก่อเหตุได้เพียง 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระหำ ผิดได้ โดยอาศัยภาพภายในกล้องทีวีวงจรปิดของธนาคาร และหลักฐานจากลายนิ้วมือบนกระดาษที่ส่งให้พนักงานธนาคาร

ข้อ 8. จากข้อมูลข่าวต่อไปนี้ จงเขียนความนำ (10 คะแนน)

และหัวข่าว      (10 คะแนน)

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคาร ไทยพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 เมษายนนี้ว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ เชิงลึกถึงปัจจัยทางโครงสร้างประชากรที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการบริโภคของคนไทย เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาส และความท้าทายสำหรับภาคธุรกิจในการตอบสนองแนวโน้มความต้องการในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะจากกลุ่ม ผู้บริโภคใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะโครงสร้างประชากรทั้งทางด้านอายุ สถานภาพสมรส ระดับรายได้ และพฤติกรรมการดำเนินชีวิต

ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า การบริโภคของเราขึ้นอยูกับว่าเราเป็นใคร เช่น คนหนุ่มสาวในเมือง รายได้น้อยจะมีพฤติกรรมการบริโภคต่างออกไปจากครอบครัวฐานะปานกลางในชนบทที่มีบุตรอยู่ด้วย ซึ่งสถานะ ของเรานั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากความสูงวัย รายได้ที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป ความสูงวัยของประชากรเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยภายในปี 2020 ประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยมากกว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 17% ของประชากร นอกจากนี้ระดับรายได้ ยังเพิ่มสูงขึ้นโดยสัดส่วนของครัวเรือนที่มีรายได้ปานกลางจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของประชากรทั้งหมด พฤติกรรม ของประชากรก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน จะมีการแต่งงานช้าลง การหย่าร้างมากขึ้น และบุตรจะย้ายออกจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่และพึ่งพิงตนเองมากขึ้น

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจฯ นำเอาแนวโน้มต่าง ๆ มาประมาณการโครงสร้างของประชากร ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยได้พิจารณาในทั้ง 5 มิติที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อายุ เพศ รายได้ พื้นที่ที่อยู่อาศัย (กรุงเทพฯ และปริมณฑล หัวเมืองในเขตภูมิภาค และชนบท) และโครงสร้างครัวเรือน (เช่น อยู่คนเดียว สมรสแต่ไมมีบุตร เป็นต้น) ซึ่งพบว่า มีครัวเรือนจำนวนมากขึ้นที่อยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลางแต่ไม่ใช่ครัวเรือนในลักษณะดั้งเดิม อีกทั้งยังพบว่ามีผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ความต้องการอาจยังไม่ได้ถูกตอบสนองได้เต็มที่เกิดขึ้นมา เช่น สตรีที่เป็นโสด คูสมรสที่ไม่มีบุตร และคูสมรสที่อยู่กับบุตรหลาน จากรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างประชากร สามารถจัดประเภทของผู้บริโภคได้มากกว่า 4,000 แบบ

ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาดครัวเรือนแบบใหม่ ๆ ที่แม้ จะไม่ใช่กลุ่มตลาดที่ใหญ่มาก แตกเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยคาดว่าครัวเรือนแบบ คลาสสิก” หรือครอบครัว พ่อแม่ลูก มีสัดส่วนที่ลดลงเรื่อย ๆ โดยลดลงจากประมาณ 44% ของประชากรในปี 1994 เหลือเพียง 32% ในปี 2007 และจะตกลงมาอยู่ที่ราว 21% ในปี 2020

ในทางตรงกันข้ามคนที่อยู่คนเดียวและคูสามีภรรยาที่ไม่มีบุตรจะเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าในปี 2020 จะมีลัดส่วน 6% และ 14% ของประชากรตามสำดับ นอกจากนั้นครอบครัวที่ไม่ใช่ครัวเรือนเดี่ยวจะเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง แต่จะเป็นการเพิ่มขึ้นจากคู่สามีภรรยาที่อยู่แต่กับหลาน (เช่น หลานอยู่กับคุณปู่คุณย่า) และคนโสด ที่อยู่กับญาติ มากกว่าครอบครัวขยายแบบดั้งเดิม

ยกตัวอย่าง คู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรเป็นลักษณะครัวเรือนที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากที่สุด โดยในปี 2007 มีลัดส่วนกว่า 35% แซงหน้าครัวเรือนประเภทที่อยู่คนเดียวที่เคยมีสัดส่วนสูงสุด อีกทั้งยังเป็น ลักษณะครัวเรือนที่ย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นสูงที่สุดด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมราว 15% ต่อปี ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การตัดสินใจระหว่างเลือกสร้างบ้านเดี่ยวขายหรือคอนโดมิเนียมอาจไม่พออีกต่อไป แต่ต้องตัดสินใจต่อด้วยว่าจะสร้างประเภทไหน ถึงจะถูกใจผู้เอและขายได้ดี เช่น แทนที่จะมุ่งเน้นห้องพักประเภท Studio มีพื้นที่ใช้สอยไมมาก ตั้งอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า มาเป็นจัดให้มีห้องพักประเภท 1 – 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร อาจมีครัวย่อม ๆ มีที่จอดรถเพียงพอ” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว

แนวคำตอบ หน้า 2855 – 70,

หัวข่าว

ไทยพาณิชย์แนะธุรกิจเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ

ความนำ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยปัจจัยทางโครงสร้างประชากร ทำให้ การบริโภคของคนไทยเปลี่ยนไป ชี้อนาคตกลุ่มสตรีที่เป็นโสด คูสมรสที่ไม่มีบุตร และคูสมรสที่อยู่กับบุตรหลาน จะมีอัตราเพิ่มมากขึ้นและกลายเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ผู้ประกอบการภาคธุรกิจควรให้ความสำคัญ

MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. จงกล่าวถึงนิยามหรือความหมายของคำว่า”ข่าว”ตามหลักการที่ได้ศึกษามาอย่างน้อย 4. นิยาม พร้อมยกตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวที่มีลักษณะตรงกับนิยามดังกล่าว   

แนวคำตอบ หน้า 1 – 2, (คำบรรยาย)

นิยามหรือความหมายของคำว่าข่าว

1. ข่าว หมายถึง เรื่องคนกัดหมา หรือเรื่องที่แปลกไปจากสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน เช่น ข่าวการจัดไปทัวร์ท่องเที่ยวนอกโลก เป็นต้น

2.         ข่าว หมายถึง เรื่องที่ผู้อ่านไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น

3.         ข่าว หมายถึง เรื่องอะไรอย่างหนึ่งที่ประชาชนต้องพูดถึง เช่น ข่าวเรื่องเตียงหัก รักร้าว หรือคลิปฉาวของดารานักร้อง เป็นต้น

4.         ข่าว หมายถึง รายงานอันสุจริตและสมบูรณ์ของเหตุการณ์ที่เป็นผลประโยชน์ และ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณชน โดยมีการรายงานทางสื่อมวลชน และต้องเป็นรายงานที่สมบูรณ์ทุกแง่ทุกมุมจาก ทุกความคิดเห็นของคนที่เกี่ยวข้อง เช่น ข่าวรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาทข่าวกระทรวง พาณิชย์อนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม เป็นต้น

5.         ข่าว หมายถึง การแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นในอันจะทำให้บุคคลได้รับความตื่นเต้น หรือเกิด อารมณ์ความรู้สึก เช่น ข่าวนักมวยไทยได้รับเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก เป็นต้น

ข้อ 2. เมื่อจัดแบ่งประเภทของข่าวตามเนื้อหาที่นำเสนอ เช่น ข่าวการเมือง อาชญากรรม บันเทิง สิ่งแวดล้อม กีฬา ฯลฯ ข่าวแต่ละประเภทมีคุณค่าเชิงข่าวแตกต่างกัน ถ้านักศึกษาเป็นบรรณาธิการข่าวของ สื่อมวลชนแขนงหนึ่ง ระหว่างข่าวทหารสหรัฐฯ สังหารนายบิน ลาเด็น ผู้นำอัลไคด้า กับข่าวเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน นักศึกษาจะให้น้ำหนักความสำคัญ แก่ข่าวใดมากกว่ากัน เพราะเหตุใด จงวิเคราะห์และอธิบายโดยใช้หลักการด้านคุณค่าเชิงข่าว (News Value)    

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

ข่าวทหารสหรัฐฯ สังหารนายบิน ลาเด็น ผู้นำอัลไคด้า มีน้ำหนักความสำคัญมากกว่า เนื่องจาก เป็นเหตุการณ์ที่มีความเด่นเหนือกว่าเหตุการณ์อื่น ๆ โดยพิจารณาจากหลักการด้านคุณค่าเชิงข่าว (News Value) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ดีใจ เป็นต้น

2.         ผลกระทบ คือ มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน อาจทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้คนดีขึ้นหรือเลวลง

3.         ความเปลี่ยนแปลง/ความก้าวหน้า คือ มีความเปลี่ยนแปลงไมเป็นปกติอย่างที่เคยเป็น และยังเป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีทางการทหาร

4.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ มีความเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียงของตัวบุคคล ได้แก่ นายบิน ลาเด็น ผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นใน ตัวเหตุการณ์

5.         ความไมคาดคิด/มีเงื่อนงำ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยังเป็นเหตุการณ์ ที่มีเงื่อนงำว่านายบิน ลาเด็น ตายจริงหรือไม่ และก่อให้ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ ทำให้ต้องติดตามข่าวเพื่อยืนยันความจริงต่อไป

6.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ ทันต่อเหตุการณ์ หรือเพิ่งได้รับการเปิดเผย

ข้อ 3. ตามหลักการที่ศึกษามา (10 คะแนน)

3.1       รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้ในหนังสือพิมพ์มีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างมา 2 รูปแบบ พร้อมทั้งอธิบายว่าแต่ละรูปแบบมีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องอย่างไร

แนวคำตอบ หน้า 3848, (คำบรรยาย)

รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้ในหนังสือพิมพ์ 

1. การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ (Inverted Pyramid) ชนิดถือความสำคัญเป็นหลัก คือ การรายงานข่าวในลักษณะสรุปย่อข้อเท็จจริงสำคัญ ๆ เป็นความนำของข่าวไปก่อน แล้วจึงตามด้วยเนื้อข่าว ที่เป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและน่าสนใจลดหลั่นกันลงไป เริ่มจากรายละเอียดที่สำคัญมากที่สุด ในย่อหน้าแรก ไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายที่เป็นรายละเอียดสำคัญน้อยที่สุด

ความนำ / ประเด็นสำคัญ >ข้อเท็จจริงที่ 1 >ข้อเท็จจริงที่ 2 >ข้อเท็จจริงที่ 3 >ข้อเท็จจริงที่ 4

2. การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวดัง (Upright Pyramid) คือ การรายงานข่าว ที่มักใช้ กับเหตุการณ์สั้น ๆ และมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกขบขัน โดยย่อหน้าแรก จะเป็นความน้าหรือเกริ่นนำซึ่งเป็นส่วนเริ่มเรื่อง แล้วจึงตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงที่ค่อยๆ พิ่มความสำคัญ มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนย่อหน้าสุดท้ายจะเป็นส่วนสรุปเรื่องที่เป็นไคลแมกซ์ (Climax) หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรือง ซึ่งมักเสนอไวในตอนจบของเนื้อข่าว 

ความนำหรือเกริ่นนำ >ข้อเท็จจริงที่ทวี >ความสำคัญหรือบอกข่าว >เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ>ประเด็นสำคัญที่สุด

3.2       ยกตัวอย่างหัวข้อข่าวที่เหมาะสมกับการรายงานข่าวแบบตามลำดับเวลา 1 ข่าว และยกตัวอย่าง ประเด็นข่าวที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว

แนวคำตอบ หน้า 40 – 47

หัวข้อข่าวที่เหมาะสมกับการรายงานข่าวแบบตามลำดับเวลา คือ ข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ซึ่งมีประเด็นข่าวที่ควรรายงานดังนี้

1.         ใครเป็นผู้ชนะ คะแนนเทาใด ผลการแข่งขันทำให้สามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่

2.         รายละเอียดการแข่งขันตั้งแต่ครึ่งแรก ครึ่งหลัง จนกระทั่งต่อเวลา

3.         เปรียบเทียบการเลนของแต่ละทีม

4.         ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้าง ขาดใครที่ทำให้ทีมเกิดปัญหา

5.         จำนวนผู้ชมมีมากน้อยเพียงใด

6.         สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน

7.         คะแนนรวม และการทำลายสถิติ

8.         ความคิดเห็นของผู้จัดการทีม และความรู้สึกของผู้เล่น ผู้ชมการแข่งขัน เช่น สาเหตุที่ ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น หรือการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น ฯลฯ

ข้อ 4. ในการรายงานข่าวการรณรงค์เลือกตั้งของพรรคการเมือง ควรใช้แหล่งข่าวอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง ประกอบอย่างน้อย 5 ตัวอย่าง แต่ละแหล่งข่าวควรสัมภาษณ์ในประเด็นใด (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 15-17, (คำบรรยาย)

แหล่งข่าวที่ใช้ในการรายงานข่าวการรณรงค์เลือกตั้งของพรรคการเมือง มีดังนี้

1.         หัวหน้าพรรคการเมืองแค่ละพรรค ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องนโยบายในการหาเสียงของแค่ละพรรค การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ การลงพื้นที่หาเสียง การปราศรัยครั้งใหญ่ ฯลฯ

2.         คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องความพร้อมในการ จัดการเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด การเตรียมการป้องกันการโกงการเลือกตั้ง กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ฯลฯ

3.         เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆ คดีที่เกิดขึ้นจากการหาเสียงเลือกตั้ง การวางตัวเป็นกลาง ของข้าราชการ ฯลฯ

4.         หน่วยงานที่จัดทำโพลต่าง ๆ ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องการหยั่งเสียงการเลือกตั้ง ความนิยมของประชาชนในพรรคการเมืองต่าง ๆ พรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง นโยบายใดเป็นที่พึงพอใจของ ประชาชน ฯลฯ

5.         ประชาชนทั่วไป ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับการปราศรัยหาเสียง ของพรรคการเมืองค่าง ๆ นโยบายที่ชื่นชอบ การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ฯลฯ

ข้อ 5. ในการรายงานข่าวการเมือง – การปราศรัยหาเสียงครั้งใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย กับข่าวบันเทิง – ผู้จัดละครและผู้แสดงนำในละครโทรทัศน์ ดอกส้มสีทอง” ระบุว่า ละครดังกล่าว มีข้อคิดสอนใจ ไมตั้งใจท้าทายสังคม

ต้องระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในข่าว (Identification) ยกตัวอย่างคุณลักษณะที่ต้องใช้ในแต่ละข่าว โดยไมต้องเขียนเนื้อข่าว   (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวการเมืองข้างต้น 

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้สมัครแค่ละพรรคชื่อเล่น/ฉายา/ การตั้งชื่อให้ใหม่อาชีพยศหรือตำแหน่งเกียรติภูมิหรือชื่อเสียง และในกรณีที่ผู้สมัครเป็นญาติของบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็จะต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่จัดการปราศรัยหาเสียงครั้งใหญ่ของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง ซอย ถนน จังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนการปราศรัยหาเสียงของทั้ง 2 พรรคการเมือง บรรยากาศเป็นอย่างไร จากนั้นการปราศรัยดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้น หลังการปราศรัยจบลงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวบันเทิงข้างต้น มีดังนี้

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้จัดละครและผู้แสดงนำชื่อเล่น/ฉายา/ การตั้งชื่อให้ใหม่ ที่อยู่ (สังกัดช่องใด). อาชีพ และตำแหน่งหน้าที่การงานของบุคคลที่ตกเป็นข่าว

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าว ซึ่งต้องระบุ คุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง ซอย ถนน จังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็น ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ความเป็นมา วัตถุประสงค์ และเบื้องหลังที่ทำให ผู้จัดละครและผู้แสดงนำในละครเรื่องนี้ต้องออกมาชี้แจงกับสังคม จากนั้นลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นชี้แจง เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นจบลงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

ข้อ 6. จงเขียนประเด็นสำคัญที่ควรรายงานในการเขียนข่าวประเภทที่ระบุต่อไปนี้

6.1 ข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน        (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 147 – 149, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกันควรนำเสนอประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.         ความนำ

–           เกิดอะไรขึ้น ที่ไหน

–           ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

–           สาเหตุของอุบัติเหตุเท่าที่จะทราบได้

2.         เนื้อข่าว

–           ลำดับเหตุการณ์ เวลาที่เกิดเหตุ

–           บรรยายเหตุการณ์ให้ผู้อ่านมองเห็นภาพ

–           สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และอื่น ๆ

–           ความเห็นของเจ้าหน้าที่หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

–           คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ

–           ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติ ความเป็นมาของบุคคล พาหนะ สถานที่เกิดเหตุ

6.2       ข่าวมรณกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 131, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีควรนำเสนอประเด็นสำคัญ ดังนี

1.         ความนำ

–           ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ หรือตำแหน่งสูงสุดของผู้ตาย ความโดดเด่นของผู้ตาย

–           สาเหตุการเสียชีวิต วันที่ เวลา สถานที่ที่เสียชีวิต

2.         เนื้อข่าว

–           เหตุการณ์ก่อนที่จะเสียชีวิต เหตุการณ์ตื่นเต้น การรักษาอาการป่วย

–           อ้างคำพูดของผู้ใกล้ชิด ผู้เห็นเหตุการณ์

–           รายละเอียดเกี่ยวกับการงาน ตำแหน่งทางสังคม

–           บุตรธิดา หรือญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียง

–           รายละเอียดเกี่ยวกับพิธีศพ และพิธีสวดอภิธรรมจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็น เจ้าภาพสวดอภิธรรม กำหนดการบรรจุศพ กำหนดการฌาปนกิจ

ข้อ 7. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนหัวข่าวและความนำ  

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.1 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมก๊วนไฮโซ ประกอบด้วย นายโชติวรรธน์ กลิ่นเกลี้ยง หลานของนายดามพ์ ดัสกร อดีตดาราชื่อดัง นายบดินทร์ภัทร์ กลิ่นเกลี้ยง และ จ.ส.อ.สมพงษ์ กลิ่นเกลี้ยง ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตราย สิ่งกีดกั้น เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินนั้นด้วยประการใด หรือรับของโจร พร้อมของกลาง เงินสด 560,000 บาท พระเลี่ยมทอง กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กช์ กระเป๋าใส่นามบัตร และทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายาร รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท พร้อมยึด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 174 ถนนลาดพร้าว ซอย 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตลาดพร้าว กทม.

พล.ต.ต.สุพิศาล กลาวว่า สืบเนื่องจากหน่วยป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน (หน่วยโรบินฮู้ด) บก.ป. ได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่ออกตระเวนทุบรถยนต์ของ ผู้เสียหายที่จอดไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อโจรกรรมทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถ ซึ่งก่อเหตุในหลายพื้นที่ และหลายครั้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต่อมาสืบทราบว่านายโชติวรรธน์ เป็นหัวหน้าทีม จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ และสามารถติดตาม จับกุมตัวไว้ด้ที่บ้านพัก และพบทรัพย์สินของกลางอีกจำนวนมาก จากการสอบสวนนายโชติวรรธน์ และนายบดินทร์ภัทร์ ให้การภาคเสธโดยอ้างว่า รับซื้อทรัพย์สิน ของกลางมาอีกทอดหนึ่ง สำหรับ จ.ส.อ.สมพงษ์ พี่ชายแท้ ๆ ของนายดามพ์ ดัสกร ดาราชื่อดัง ซึ่งเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกลาวหา โดยจะนำรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดไว้ได้พสต์ ในเว็บไซต์ www.csd.go.th เพื่อให้ผู้เสียหายได้ตรวจสอบ หากพบว่าเป็นของตนเองและ มีหลักฐานยืนยันก็สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ บก.ป. ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่ง สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป

แนวคำตอบ หน้า 63 – 80, (คำบรรยาย)

หัวข่าว

รวบหลานดามพ์ ดัสกร แก๊งไฮโซทุบรถ ยึดของกลางนับ 10 ล้าน ความนำ

ตำรวจหน่วยโรบินฮู้ด กองปราบปรามเจ๋ง จับกุมหลานชาย ดามพ์ ดัสกร’’ ดาราดาวร้ายชื่อดัง พร้อมพวกก๊วนไฮโซรวม 3 คน ก่อเหตุใช้รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ BMW ซีรีย์ 3 ตระเวนทุบรถชิงทรัพย์เหยื่อ ยึดของกลางนับ 10 ล้าน แต่ผู้ต้องหายังปากแข็งให้การปฏิเสธ อ้างรับซื้อของกลางมาอีกทอดหนึ่ง

ข้อ 8. จากข้อมูลต่อไปนี้        

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวผูกคอตายโชว์ผ่านโปรแกรม แคมฟร็อก” ภายในเอสเอ็น แมนชั่น ถนนพหลโยธิน ซอย 69 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน แพทย์เวร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนชั้น 2 จากการตรวจสอบภายไนห้องเลขที่ 203 พบศพนางสาวนิชากร ศรีสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 3 ต.แม่เป็น อ.แม่เป็น จ.นครสวรรค์ สภาพศพเสียชีวิตในท่ายืน ใช้ผ้าปูที่นอนสีฟ้าผูกคอตัวเองกับพัดลมเพดาน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล หน้าเขียว ลิ้นจุกปาก ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย นอกจากนี้บริเวณด้านข้างศพยังพบคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่องเปิดทิ้งไว้ โดยหน้าจอเป็นโปรแกรมแคมฟร็อก ห้องโกสเรดิโอ และมีการพูดคุย สนทนากันกับผู้ชาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตาย เนื่องจากข้อความมีเนื้อหาตัดพ้อ เรื่องความรัก ส่วนกล้องเว็บแคมที่ติดอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ถูกหันไปที่กระจก เพื่อให้เห็น การฆ่าตัวตาย ทำให้มีคนเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ยังพบว่ามีจานข้าว ที่ยังไม่ได้รับประทานอีก 1 จาน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ อย่างละเอียด

จากการสอบถามแม่บ้านของแมนชั่นดังกส่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ชายไมทราบชื่อและนามสกุล โทรศัพท์มาบอกว่ามีผู้หญิงที่พักอยู่ห้อง 203 กำลังจะผูกคอตาย จึงรีบขึ้นไปเคาะประตูเรียก แต่ ปรากฏว่าประตูห้องล็อก จึงไปตามคนที่รู้จักกับผู้ตายมาช่วยเกลี้ยกล่อม และรีบงัดห้องเข้าไป ตรวจสอบ แต่เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ต่อมานายธีรวัฒน์ จีรภาพเจริญ อายุ 25 ปี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเปิดเผยว่า ตนเป็นแฟน ของผู้ตาย โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับผู้ตายผ่านทางโปรแกรมแคมฟร็อก และคบหากันได้ 1 เดือน ระหว่างที่คบกันตนสังเกตเห็นว่าผู้ตายเป็นคนที่ค่อนข้างมีความเครียดและใจร้อน อีกทั้งยังพูด ให้ฟังว่าแฟนเก่ากลับมาขอคืนดี ทำให้ตนกับผู้ตายทะเลาะกัน จนกระทั่งวันนี้ขณะที่ตนอยู่ที่บ้าน ได้พูดคุยกับแฟนสาวทางแคมฟร็อกและมีปากเสียงกันอีก จึงเอ่ยปากบอกเลิกกับผู้ตาย ซึ่งผู้ตาย ได้ตอบกลับมาว่าทุกวันนี้ที่มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมีตน แต่ถ้าไม่มีแล้วก็ไมรู้จะอยู่ไปทำไม จากนั้น แฟนสาวก็พยายามจะผูกคอตายให้เห็นผ่านทางห้องสนทนาดังกล่าว ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกที่ อพาร์ทเม้นท์ให้รีบขึ้นไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

8.1 หากต้องการอธิบายขยายความเพิ่มเติมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านในลักษณะของภูมิหลัง หรือส่วนเชื่อม ควรเสนอประเด็นอะไร

แนวคำตอบ หน้า 83 – 91

ลักษณะของภูมิหลังหรือส่วนเชื่อมในข่าวข้างต้นควรเสนอประเด็นต่อไปนี้

1.         วัน เวลา ที่เกิดเหตุการณ์

2.         ชื่อสถานที่เกิดเหตุ ที่อยู่ ลักษณะสภาพห้องพัก

3.         ชื่อ-นามสกุลผู้เสียชีวิต อายุ อาชีพ ที่อยู่

4.         ชื่อ-นามสกุลแหล่งข่าวหรือเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเหตุ อาชีพ ยศหรือตำแหน่ง

5.         รายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมแคมฟร็อก วิธีใช้งาน

ฯลฯ

8.2       ควรมีแหล่งข่าวใดเสริมอีกบ้างหรือไม่ ถ้ามีจะเสริมในประเด็นใด

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

แหล่งข่าวเสริมเพิ่มเติมจากข้อมูลข่าวข้างต้น มีดังนี้

1.         ครอบครัว ญาติพี่น้อง แฟนเก่าของผู้เสียชีวิต ควรเสริมในประเด็นนิสัยส่วนตัวของ เสียชีวิตเป็นอย่างไร มีประวัติการบำบัดโรคทางจิตหรือไม่

2.         เพื่อนผู้ใกล้ชิด ควรเสริมในประเด็นพฤติกรรมในช่วงก่อนเกิดเหตุของผู้เสียชีวิตเป็น อย่างไร มีความเครียด หรือเคยมีแนวโน้มว่าจะก่อเหตุหรือไม่

3.         เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี ควรเสริมในประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของ

การฆ่าตัวตาย

4.         สถาบันนิติเวช ควรเสริมในประเด็นเรื่องผลการชันสูตรศพ สาเหตุการตายที่แน่นอน

 

MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การรายงานข่าว

คำแนะนำ  ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลสมมติต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว ความนำ และเนอข่าว)        (20 คะแนน)

สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ในการดำเนินการสำรวจความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต และการสำรวจ ความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของนิสิตนักศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้กำหนดให้มีการสำรวจความพึงพอใจ 2 ส่วน

1.         การสำรวจความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต โดยสัมภาษณ์ผู้ใช้บัณฑิต ได้แก่ นายจ้าง/หัวหน้า/ผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต

2.         การสำรวจความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของนักศึกษาโดยการสัมภาษณ์นิสิตนักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ทั้งนี้การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 20 กันยายน 2554

สรุปประเด็นสำคัญในส่วนของมหาวิทยาลัยนานา 

1. ความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต คะแนนที่ได้จากการสำรวจอยู่ที่ 4.3491 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละของคะแนน 86.98 โดยผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจในประเด็นคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ความรู้ความสามารถ ทางวิชาการ และความรู้ความสามารถพื้นฐานตามลำดับ

2.         ความพึงพอใจต่อมหาวิทยาลัยนานาของนักศึกษา คะแนนที่ได้จากการสำรวจอยู่ที่ 4.1877 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละของคะแนน 83.95 โดยนักศึกษามีความพึงพอใจ ในประเด็นด้านการจัดการเรียนการสอนสูงกว่าประเด็นด้านการให้บริการของสถาบัน โดยมีรายละเอียดในแต่ละประเด็นหลัก 

2.1       ด้านการจัดการเรียนการสอน นักศึกษามีความพึงพอใจในสถานที่สำหรับการจัด การเรียนการสอนสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ อาจารย์ผู้สอน การจัดหลักสูตร การเรียนการสอน และสื่อ/เอกสาร และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนตามสำดับ

2.2       ด้านการให้บริการของมหาวิทยาลัย นักศึกษามีความพึงพอใจในการให้บริการทั่วไป สูงกว่าการให้บริการด้านวิชาการ

แนวคำตอบ หน้า 29-31

หัวข่าว

ม. นานา ได้ใจนายจ้าง ชี้ผลิตบัณฑิตมีคุณธรรม

ความนำ

ผลการสำรวจพบ มหาวิทยาลัยนานาได้รับความนิยมจากนายจ้างด้านการผลิตบัณฑิตมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด ส่วนนักศึกษาโดนใจด้านการจัดการเรียนการสอนมากกว่าการให้บริการของสถาบัน

เนื้อข่าว

สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไดร่วมกัน ดำเนินการสำรวจเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต และความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของ นิสิตนักศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้บัณฑิต ได้แก่ นายจ้าง หัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต และนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลการสำรวจในส่วนของมหาวิยาลัยนานาพบว่า ด้านความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต ผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจ 4.35 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 86.98 ในประเด็นคุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ความรู้ความสามารถทางวิชาการ และความรู้ความสามารถพื้นฐาน ตามลำดับ

ในด้านความพึงพอใจต่อมหาวิทยาลัยนานาของนักศึกษาพบว่า นักศึกษามีความพึงพอใจ 4.19 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 83.95 ในประเด็นด้านการจัดการเรียนการสอนสูงกว่าประเด็นด้านการให้บริการ ของสถาบัน กล่าวคือ ด้านการจัดการเรียนการสอน นักศึกษามีความพึงพอใจในสถานที่สำหรับการจัดการเรียนการสอน สูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ อาจารย์ผู้สอน การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน และสื่อ เอกสาร รวมทั้งอุปกรณ์ ประกอบการเรียนการสอนตามลำดับ ส่วนด้านการให้บริการของมหาวิทยาลัย นักศึกษามีความพึงพอใจในการ ให้บริการทั่วไปสูงกว่าการให้บริการด้านวิชาการ

ข้อ 2. จากข่าวต่อไปนี้ จงเขียนหัวข่าว (10 คะแนน)

ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดำเนินการสำรวจ รามคำแหงโพล” เกี่ยวกับผลงาน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และการแต่งตั้ง ครม. ยิ่งลักษณ์ 2 เก็บข้อมูลจากประชาชน จำนวน 11,595 คน ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และกรุงเทพมหานครฯ ระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2555

ผลการสำรวจพบว่า ด้านความพอใจในการบริหารงานของนายกยิ่งลักษณ์ 1 ในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา ประชาชนพอใจร้อยละ 45.00 ไม่พอใจร้อยละ 15.63 ประเด็นที่ไม่พอใจคือ มีความเห็นว่า สร้างความแตกแยกด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญร้อยละ 26.55 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่มีภาวะผู้นำ ร้อยละ 25.91 มีการก่อหนี้สินให้ประเทศชาติโดยไม่จำเป็นร้อยละ 15.32 ก้าวก่ายงานข้าราชการประจำ ร้อยละ 11.77 อย่างไรก็ตามมีประชาชนที่เห็นว่านายกยิ่งลักษณ์มีความเป็นเลิศในการบริหารงาน แผ่นดินร้อยละ 20.45

ในด้านความพอใจต่อการแต่งตั้ง ครม. ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ 2 พบว่า ประชาชนพอใจ ร้อยละ 42.00 ไม่พอใจร้อยละ 20.23 ทั้งนี้ประชาชนเห็นว่าการแต่งตั้ง ครม. มีความเหมาะสม ร้อยละ 35.92 ไม่มีความเหมาะสมร้อยละ 25.06 นอกจากนั้นยังมีความเห็นว่าการแต่งตั้ง ครม. ครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 22.32 แต่งตั้งเพื่อตอบแทนบุญคุณให้ สมาชิกพรรคร้อยละ 16.70

แนวคำตอบ หน้า 2932 – 33 หัวข่าว

โพลชี้ผลงานปู 1 และ ครม. ปู 2 คนพอใจให้สอบผ่าน

ข้อ3. เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ฝนตกหนัก จะได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด          (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News

Values) ดังนี้

1. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ จนกระทั่งบ้านเรือนเสียหาย หรืออาจบาดเจ็บล้มตาย

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้รับสารทั้งทางตรง และทางอ้อม ส่งผลให้ผู้รับสารที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้รับความเดือดร้อนจากการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือทรัพย์สินเสียหายจากลมพายุ นอกจากนี้ยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่านให้สร้างบ้านเรือนที่มั่นคงแข็งแรง

3.         ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของ ผู้คนจำนวนมาก และยังเป็นผลกระทบในเชิงลบโดยตรงต่อผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

4.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเป็นสิ่งไม่ปกติธรรมดา ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน

5.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย และยังอาจเกี่ยวข้องกับ ตัวผู้รับสารเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

6.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติภัยในเขตเมืองหลวง จึงมี ความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์

7. ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ 

ข้อ 4. ข่าวการเมือง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าวและแหล่งข่าวประกอบ(10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 159 – 162

ข่าวการเมืองครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1. การจัดการเลือกตั้ง การจัดตั้งพรรคการเมือง นโยบายของแต่ละพรรค และการรณรงค์ หาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ

2.         การเจรจาตอรองในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล การเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี โครงสร้างของคณะรัฐมนตรี และการวางตัวบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง

3.         การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา การปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล

4.         กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การบังคับใช้กฎหมาย

5.         การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ และองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรี การปรับคณะรัฐมนตรี ฯลฯ

6.         บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา

7.         ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐสภา

8.         การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.บ. ที่มีปัญหา

9.         การฟ้องร้องของประชาชนต่อศาลปกครอง รวมทั้งการวินิจฉัยต่าง ๆ

10.       การปฏิบัติงานขององค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ

11.       ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ตัวอย่างข่าวการเมืองและแหล่งข่าวประกอบ

ข่าวการตรวจสอบการถือครองหุ้นของรัฐมนตรีเกินกว่ากำหนด ซึ่งใช้แหล่งข่าวประกอบ ดังนี้

–           คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบแห่งชาติ (ปปช.)

–           รัฐมนตรีที่เข้าข่ายความผิดถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5

–           นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543

–           สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องแจ้งเรื่องคุณสมบัติของ รัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่ง

–           บริษัทเอกชนที่รัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5%

–           บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี

–           รัฐมนตรีและบุคคลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องจริยธรรม ของรัฐมนตรี

ข้อ5 การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง และใช้แหลงข่าวใดบ้าง         (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 184 – 186

การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหา 

1.         การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงานสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการปรับปรุง แผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น

2.         การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งข้นใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งข้นทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้างและ ขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และ คะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น

แหล่งข่าวของข่าวกีฬา 

–           การกีฬาแห่งประเทศไทย

–           กระทรวงศึกษาธิการ

–           คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

–           สมาคมกีฬาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ซึ่งมี 25 สมาคม

–           กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีสำนักกีฬาทหารของกองทัพทั้ง 4 เหล่าทัพ

–           กรุงเทพมหานครและเทศบาลของจังหวัดต่าง ๆ

–           หน่วยงานภาคเอกชน เช่น บริษัท ฟุตบอลไทย จำกัดบริษัท แกรนด์สปอร์ต จำกัด

เป็นต้น

–           สโมสรกีฬาต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน

–           สมาคมวิชาชีพทางพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬา

–           นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีม

ข้อ 6. การรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน กับข่าวดารานักร้องชื่อดังเสพยา จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าว เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน มีดังนี้

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อายุของผู้ตายและผู้บาดเจ็บอาชีพหรืองานอดิเร ยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และ ที่อยู่หรือที่ทำงานของผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะ โดยการบอกจุดเกิดเหตุ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือหากอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ต่างจังหวัดก็ควรบอก หลัก กม. ที่เท่าไหร่ บนถนนสายอะไร และหากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดี ก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ของการเกิดอุบัติเหตุรถชนกันตั้งแต่ ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้ตายและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์หรือ ผู้บาดเจ็บ และข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวดารานักร้องชื่อดังเสพยา มีดังนี

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของดารานักร้องที่เสพยา และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ชื่อเล่น หรือชื่อที่ใช้ในวงการบันเทิงอายุของดารานักร้องอาชีพที่อยู่เกียรติภูมิหรือผลงานที่ สร้างชื่อเสียง. ยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ดารานักร้องชื่อดังเสพยา หรือสถานที่ที่ถูกตำรวจ จับกุมตัวได้ ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ของข่าวตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่ เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีจำนวน ผู้เสพยาที่ตำรวจจับกุมตัวได้กี่คน คำพูดของดารานักร้องที่เสพยาหรือผู้เห็นเหตุการณ์ ความรับผิดชอบต่อสังคม ของต้นสังกัดของดารานักร้องผู้นั้น และความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับหลักฐาน การให้ประกันตัว เป็นต้น 

ข้อ 7. โครงสร้างการเขียนข่าวประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไร อธิบายพอเข้าใจ (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 29638391, (คำบรรยาย)

โครงสร้างของการเขียนข่าวทั่วไปประกอบด้วยส่วนสำคัญ 

1.         หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้ทราบถึงสาระสำคัญของข่าว และช่วยดึงดูดสายตาหรือสร้างความสนใจ ให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่จะบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าว ที่น่าสนใจอะไรบ้าง โดยมักใช้ตัวอักษรตัวใหญ่และหนากว่าส่วนประกอบอื่น

2.         ความนำหรือวรรคนำ (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย โดยความนำจะทำหน้าที่สรุปสาระของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียง มองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงเป็นการช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้โดยย่อ

3.         ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ โดยส่วนเชื่อมจะทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย

4.         เนื้อข่าว (Body or Details) คือ ส่วนที่เป็นข้อมูลทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายหรือให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่ข้อมูลข่าวที่กล่าวถึงไปแล้วในความนำ รวมทั้งเพิ่มข้อมูลข่าว ที่ไม่ได้กล่าวถึงเลยในความนำ ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากมีความสำคัญไมมากนักเมื่อเทียบกับข้อมูลข่าวอื่น ๆ ที่เสนอไว้ ในความนำ

ข้อ 8. สมมติเกิดเหตุระเบิดท่ามกลางงานคอนเสิร์ตซึ่งจัดขึ้นในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยมี ดารานักร้องชื่อดัง และบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในงานด้วย ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงาน ประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว และควร มีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อข่าวดังกล่าว           (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 15- 17118 – 122148 – 149

ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว มีดังนี้

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ บรรยากาศในงานคอนเสิร์ตเป็นอย่างไร มีดารานักร้องชื่อดังและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานกี่คน เป็นใครบ้าง ผู้จัดงานเป็นใครและมีผู้มาชมงานประมาณกี่คน

–           เหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นในช่วงไหนของคอนเสิร์ต ความโกลาหลและการหนีเอาตัวรอด ของผู้คน และการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่

–           สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และการช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บของเจ้าหน้าที่

–           รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีดารานักร้อง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อย่างไร

–           ความเห็นหรือข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดระเบิด การพบ พยานวัตถุและหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ

–           คำสัมภาษณ์ของผู้เห็นเหตุการณ์ ดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งรอดชีวิต จากเหตุการณ์

–           ข้อมูลเสริม เช่น ภูมิหลังที่ทำให้ทราบว่าเคยมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าหรือไม่ก่อนเกิด เหตุการณ์ระเบิดขึ้น

แหล่งข่าวที่ใช้ประกอบการรายงานข่าวดังกล่าว มีดังนี้

–           เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด

–           เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ

–           โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล

–           ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์

–           พยานที่รู้เห็นเบาะแสของเหตุการณ์

–           ผู้จัดงาน หรือผู้รับผิดชอบในการจัดงานคอนเสิร์ต

–           ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ครูอาจารย์

–           ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต

–           บริษัทประกันวินาศภัย

คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนอข่าวดังกล่าว มีดังนี้

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ ดารานักร้อง บุคคลที่ มีชื่อเสียง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชื่อเล่น หรือชื่อที่ใช้ในวงการของดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียงอายุของผู้ตายและผู้บาดเจ็บอาชีพหรืองานอดิเรกยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ครูอาจารย์ที่อยู่ ที่เรียน หรือที่ทำงานของผู้ตายและผู้บาดเจ็บเกียรติภูมิหรือ ผลงานที่สร้างชื่อเสียงของดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น มหาวิทยาลัยที่จัดงานคอนเสิร์ตและเกิดเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้ กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดระเบิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้ตายและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดระเบิด ผู้ก่อเหตุ หลักฐานที่พบ เป็นต้น

MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

 ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว และเนื้อข่าว)         (20 คะแนน)

หัวข้อบรรยาย ทักษะของพนักงาน…ที่นายจ้างยุคใหม่ต้องการ

1.         ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า  งานหลาย ๆ อย่างที่เราต้องทำกันอยู่ทุกวัน แม้บางงาน จะเรียกว่าเป็นงานรูทีน แต่ในรายละเอียดนั้นเรามักจะต้องเจอกับปัญหานานาชนิดไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะปัญหากับเพื่อนรวมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นเราควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ไมใช่ว่าเจอเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ฟ้องผู้จัดการ หรือ โบ้ยปัญหาไปให้คนอื่นเสียหมด

2.         ทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่เราใช้อยู่เป็นประจำ  คงปฏิเสธไมได้ใน ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศแบบนี้ อุปกรณ์ไฮเทคเข้ามาอยู่ในสำนักงานกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราควรจะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาง่ายที่อาจเกิดขึ้นบ่อย ๆ ระหว่างที่เราใช้อุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือ แม้กระทั่งเครื่องถ่ายเอกสารที่ใช้เป็นประจำ กระดาษหมด กระดาษติด สามารถจัดการได้ โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ เกิดปัญหาเครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้

3.         ทักษะทางด้านทรัพยากรมนุษย์  สำนักงานใหญ่ ๆ หลายแห่งมีปัญหาในเรื่องของพนักงาน ไม่ถูกกัน ทำงานร่วมกันไม่ได้ ติดต่อกันไม่เข้าใจ เป็นต้น ดังนั้นหากเราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ รู้จักการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในเบื้องต้น จะมีประโยชน์ต่อการทำงานมาก รู้วิธีการติดต่อ หรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ

4.         ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์  นอกจากว่าคุณต้องมีความสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด โปรแกรมเอ็กเซล โปรแกรมโฟโต้ช็อบ และโปรแกรมพื้นฐานอื่นแล้ว ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคลว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การส่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะ ให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML

5.         ทักษะที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ  ทักษะดังกล่าวนี้จะขึ้นอยู่กับว่าเราเรียนมาทางไหน และจะประกอบอาชีพอะไร เช่น ต้องการเป็นพนักงานขายก็ควรจะได้รับการฝึกอบรมในเรื่อง การขาย การดูแลลูกค้า นักประชาสัมพันธ์อาจจะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมในเรื่องของภาษา เป็นต้น

6.         ทักษะทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ะ จะเป็นการดียิ่งถ้าหากเราเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ และวิทยาสาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะประกอบอาชีพเกี่ยวกับวิศวกรรม การแพทย์ หรือ ในสาขาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ

7.         ทักษะการจัดการด้านการเงิน  ผู้ที่มีการวางแผนทางต้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้ คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพี่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่า เราไมรู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินและกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้

8.         ทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล  เนื่องจากว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร การจัดการ ข้อมูลของตนเองที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ในยุคนี้ข้อมูลที่รวดเร็วสามารถช่วยให้การตัดสินใจ เป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นเราควรจะมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้ สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมู และค้นหาได้ง่าย

9.         ทักษะด้านกาษาต่างประเทศ  ถ้าเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะได้รับการพิจารณา เป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากเราสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยเยอะ ภาษาอังกฤษแน่นอนว่ามีความสำคัญ แต่ถ้า ยิ่งสามารถพูดภาษาของเจ้าของบริษัทได้อีกด้วยแล้วยิ่งดีใหญ่ อย่างเช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น

10.       ทักษะในการบริหารธุรกิจ  เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแคว่าเข้าอบรม ระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อยก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรา มีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัท ได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะ แสดงความสามารถในโอกาสที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะใน การบริหารจัดการนี่แหละ***

(สมมติว่าข้อมูลข้างต้นเก็บความจากการบรรยายของ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง เนื่องในงานปัจฉิมนิเทศนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา)

แนวคำตอบ หน้า 32-37 หัวข่าว

คณบดี ม.ษ. แนะว่าที่บัณฑิตเพิ่มทักษะด้านไอที-ภาษาต่างประเทศ

เนื้อข่าว

รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ กล่าวในงานปัจฉิมนิเทศ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ว่า นอกเหนือจากวิชาความรู้เฉพาะที่บัณฑิตได้รับการฝึกฝนมาโดยตรงแล้ว ปัจจุบันนายจ้างยังต้องการบัณฑิต ที่มีทักษะสำคัญ ได้แก่ ทักษะทางต้านคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซล โฟโต้ช็อบ และ โปรแกรมพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา ข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การล่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML รวมทั้งมีทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล ควรมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมูและค้นหาได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือแม้กระทั่ง เครื่องถ่ายเอกสารกระดาษหมด กระดาษติด ต้องสามารถจัดการได้ และหากโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่เกิดปัญหา เครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้

ทักษะด้านภาษาต่างประเทศก็มีความสำคัญเช่นกัน ถ้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะ ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยมาก ซึ่งภาษาที่สำคัญ คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น

รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในการแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า แม้งานที่ทำจะเป็นงานประจำ แต่ในรายละเอียดนั้นมักจะต้องพบกับปัญหานานาชนิด เช่น ปัญหากับ เพื่อนร่วมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ตาง ๆ กรณีที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ควรนำภาระปัญหาให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ หรือผลักปัญหาให้คนอื่นแก้เสียทุกเรื่อง ตลอดจนควรมีมนุษยสัมพันธ์ รู้วิธีการติดต่อหรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ

คณบดีคณะมนุษยศาสตร์กล่าวในตอนท้ายว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในด้านการ จัดการการเงิน และทักษะในการบริหารธุรกิจ

ผู้ที่มีการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพื่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน และกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้ ส่วนการบริหารธุรกิจนั้น เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแค่ว่าเข้าอบรมระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อย ก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรามีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัทได้ด้วย ไมใช่เฉพาะผู้บริหารเทานั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะแสดงความสามารถในโอกาส ที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะในการบริหารจัดการนี่แหละ” 

ข้อ 2. จงเขียนข่าวจากข้อมูลสมมติต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว และเนื้อข่าว)           (10 คะแนน)

รางวัลมีดังนี้ เทคนิคสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม ได้แก่ อาทยา บุญสูง จากอุโมงค์ผาเมือง เทคนิคพิเศษแต่งหน้าเยี่ยม พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม จากลัดดาแลนด์ ออกแบบเครื่องแต่งกายเยี่ยม นพดล เตโช จากลัดดาแลนด์ กำกับศิลป์เยี่ยม ดุสิต ญาปกวงศ์ และถิรนันท์ จันทคัต จากเรื่อง พุ่มพวง ดนตรีประกอบเยี่ยม เจษฎา สุขทรามร ชัยยุทธ โตสง่า และราชศักดิ์ เรืองใจ จากคนโขน เพลงประกอบเยี่ยม มันคงเป็นความรัก ประพันธ์โดยแสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข บันทึกเสียง และผสมเสียงเยี่ยม อัครินเฉลิม กัลยาณมิตร ริชาร์ด ฮอคส์ บริษัท เทคนิค คัลเลอร์ จำกัด จากฝนตกขึ้นฟ้า ลำดับภาพเยี่ยม ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค จากลัดดาแลนด์ ถ่ายภาพเยี่ยม ชาญกิจ ชำนิวิภัยพงศ์ จากฝนตกขึ้นฟ้า บทภาพยนตร์เยี่ยม โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ จากลัดดาแลนด์

รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม จากภาพยนตร์เรื่องฝนตกขึ้นฟ้า นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ป็อก-ปิยธิดา วรมุสิก จากภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ต้อม-เป็นเอก รัตนเรือง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลัดดาแลนด์ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปันปัน- สุทัตตา อุดมศิลป์ จากภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กั๊ก-วรรณศักดิ์ ศิริหล้า จากเรื่องศพไม่เงียบ

งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่21 ประจำปี 2555 ที่โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่…

แนวคำตอบ หน้า 32 – 37

หัวข่าว

ลัดดาแลนด์คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลสุพรรณหงส์

เนื้อข่าว

งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2555 ที่โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผลปรากฏว่า ภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ได้รับ รางวัลมากที่สุด คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลัดดาแลนด์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ต้อม-เป็นเอก รัตนเรือง บทภาพยนตร์เยี่ยม โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล และโสภณ ศักดาพิศิษฏ์ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ป็อก-ปิยธิดา วรมุสิก นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ เทคนิคพิเศษแต่งหน้าเยี่ยม พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม ออกแบบเครื่องแต่งกายเยี่ยม นพดล เตโช ลำดับภาพเยี่ยม ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค

ส่วนรางวัลอื่น ๆ ได้แก่ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม จากภาพยนตร์ เรื่องฝนตกขึ้นฟ้า นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กั๊ก-วรรณศักดิ้ ศิริหล้า จากเรื่องศพไม่เงียบ เทคนิคสร้างภาพ พิเศษยอดเยี่ยม อาทยา บุญสูง จากอุโมงค์ผาเมือง กำกับศิลป์เยี่ยม ดุสิต ญาปกวงศ์ และถิรนันท์ จันทคัต จากเรื่องพุ่มพวง ดนตรีประกอบเยี่ยม เจษฎา สุขทรามร ชัยยุทธ โตสง่า และราชศักดิ์ เรืองใจ จากคนโขน เพลงประกอบเยี่ยม มันคงเป็นความรัก ประพันธ์โดยแสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข บันทึกเสียงและผสมเสียงเยี่ยม อัครินเฉลิม กัลยาณมิตร และริชาร์ด ฮอคส์ บริษัท เทคนิค คัลเลอร์ จำกัด จากฝนตกขึ้นฟ้า ถ่ายภาพเยี่ยม ชาญกิจ ชำนิวิภัยพงศ์ จากฝนตกขึ้นฟ้า

ข้อ 3. เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ และข่าวดาราแต่งงาน จะได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนเนื่องจากเบนเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด          (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมี คุณค่าเชิงข่าว (News Values) 

1เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อานเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ จนกระทั่งบ้านเรือนเสียหาย หรืออาจบาดเจ็บล้มตาย

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับผู้รับสารทั้งทางตรง และทางอ้อม นอกจากนี้ยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่านในจังหวัดอื่น ๆ ให้สร้างบ้านเรือนที่มั่นคงแข็งแรง

3.         ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน จำนวนมาก และยังเป็นผลกระทบในเชิงลบโดยตรงต่อผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

4.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นความเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ และเป็นสิ่งไม่ปกติธรรมดาซึ่งไมได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน

5.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย และยังอาจเกี่ยวข้องกับ ตัวผู้รับสารเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

6.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติภัยในเขตเมืองหลวง จึงมี ความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ หรือมีชื่อเสียงในตัวสถานที่ที่เกิดเหตุ

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข่าวดาราแต่งงานได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News

Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ชื่นชมยินดีที่ดาราที่ตนชื่นชอบจะแต่งงานมีครอบครัว เป็นเรื่องของความรัก การแต่งงาน ซึ่งยิ่งเร้าความสนใจ ของมนุษย์มากยิ่งขึ้น

2.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย นอกจากนี้บุคคลในข่าว ยังเป็นดาราซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของสาธารณชน จึงยิ่งมีความใกล้ชิดระหว่างผู้อ่านกับ บุคคลที่ตกเป็นข่าว

3.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีความ โดดเด่นในสังคม จึงมักได้รับการรายงานเป็นข่าว ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด

4.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข้อ 4. การรายงานข่าวการเมืองควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 2 ข่าว ระบุแหล่งข่าวและ ประเด็นในแต่ละข่าว (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 159 – 162

การรายงานข่าวการเมืองควรรายงานเนื้อหา 

1.         การจัดการเลือกตั้ง การจัดตั้งพรรคการเมือง นโยบายของแต่ละพรรค และการรณรงค์ หาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ

2.         การเจรจาต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล การเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี โครงสร้างของคณะรัฐมนตรี แลการวางตัวบุคคลดำรงตำแหน่งทาง การเมือง

3.         การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา การปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล

4.         กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การบังคับใช้กฎหมาย

5.         การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ และองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรี การปรับคณะรัฐมนตรี ฯลฯ

6.         บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา

7.         ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐสภา

8.         การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.บ. ที่มีบัญหา

9.         การฟ้องร้องของประชาชนต่อศาลปกครอง รวมทั้งการวินิจฉัยต่าง ๆ

10.     การปฏิบัติงานขององค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ

11.       ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ตัวอย่างข่าวเสื้อแดงปทุมธานีฮือไล่อภิสิทธิ์ ไม่พอใจสลายการชุมนุม

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นปราศรัยในงานอะไร บรรยากาศก่อนเริ่ม ปราศรัยเป็นอย่างไร ระหว่างที่ปราศรัยเป็นอย่างไร คนเสื้อแดงมารวมตัวขับไล่ ที่บริเวณไหน อย่างไร และเหตุการณ์จบลงอย่างไร มีความรุนแรงบานปลาย หรือไม่

–           การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุน นายอภิสิทธิ์กับคนเสื้อแดงหรือไม่ และตำรวจป้องกันเหตุวุ่นวายอย่างไร

–           หลังเกิดเหตุ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร และแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวว่า อย่างไร

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำ ฝ่ายค้าน แกนนำคนเสื้อแดงที่มาขับไล่ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล (กรณีมี ผู้บาดเจ็บจากการปะทะกัน)

ตัวอย่างข่าวสภาฯ ป่วน ฝ่ายค้านยกเก้าอี้ประธาน ค้านมติปรองดอง

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์อภิปรายในสภาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลัง เกิดเหตุ เช่น บรรยากาศก่อนการประชุมสภาฯ เป็นอย่างไร มี ส.ส. มาครบ องค์ประชุมหรือไม่ จากนั้นการประชุมสภาฯ ดำเนินไปอย่างไร มีเหตุความขัดแย้ง ระหว่างประธานสภาฯ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้าน ช่วงไหน อย่างไร เป็นต้น

–           ประธานสภาฯ ควบคุมสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างไร ส.ส. ฝ่ายค้านปฏิบัติตาม หรือไม่ และแสดงพฤติกรรมตอบโต้ประธานสภาฯ แบบไหน

–           การประชุมสภาฯ ต้องยกเลิกหรือไม่ หรือต้องเลื่อนการประชุมไปวันไหน

–           หลังเกิดเหตุบรรยากาศเป็นอย่างไร ความคิดเห็นของประธานสภาฯ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

–           ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี และประชาชนทั่วไปต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ ประธานสภาฯ ผู้นำฝ่ายค้าน ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้านที่เข้าร่วมประชุม นายกรัฐมนตรี และประชาชนทั่วไป

ข้อ 5. คำว่า ข่าวอาชญากรรม” ครอบคลุมเนื้อหาประเภทใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 2 ข่าว ระบุประเด็น และแหล่งข่าวในแต่ละข่าว    (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 169 – 172

ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1 ข่าวฆาตกรรม เช่น ลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ

2.         ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไมคาดคิดมาก่อน และ คนให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแกชีวิตและทรัพย์สิน เช่น รถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ

3.         ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ต้องระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุจูงใจ ที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ หมอ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย

4.         ข่าวเบ็ดเตร็ด เช่น คนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย

5.         ข่าวสะท้อนสังคม เช่น เด็กนักเรียนขายตัว คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ ข่าวชู้สาว การวิวาท ระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว

6.         ข่าวเกี่ยวกับความผิดทางอาญา เช่น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ

ตัวอย่างข่าว นักเรียนเทคนิคดักยิงนักเรียนคู่อริบนรถเมล์

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถเมล์คันที่เกิดเหตุสายอะไร วิ่งจากไหนไปที่ไหน นักเรียนคู่อริขึ้นรถเมล์จากป้ายใด และกลุ่มนักเรียนที่ดักยิง อยู่บริเวณไหน

–           วิธีการก่ออาชญากรรม อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

–           สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น มีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตกี่คน เป็นใครบ้าง มีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงหรือไม่

–           การวางแผนติดตามจับกุม ความเห็น และข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ

–           ความเห็นและการแก้ปัญหาของผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล คนขับรถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ ผู้โดยสารรถเมล์สายนั้น พยานแวดล้อมที่เห็น เหตุการณ์ ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ

ตัวอย่างข่าวอุบัติเหตุรถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำ

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถบรรทุกแก๊สเป็นของบริษัทอะไร วิ่งมาจากไหนไปที่ไหน พลิกคว่ำบริเวณใด หลังเกิดเหตุคนขับหลบหนีไปหรือไม่ ต้องปิดการจราจรบริเวณใดบ้าง

–           สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และอื่น ๆ

–           การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และผู้เกี่ยวข้อง อื่น ๆ

–           คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ

–           ความเห็นและข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           ความรับผิดชอบของบริษัทที่ขนส่งแก๊ส

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ พยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ คนขับรถบรรทุกแก๊ส (กรณีที่ไม่ได้หลบหนี) ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต ผู้บริหารของบริษัทที่ขนส่งแก๊ส ฯลฯ

ข้อ 6. การรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง กับข่าวตรวจพบยาเสพติดและ อุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในเรือนจำแห่งหนึ่ง จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวเหมือนกันหรือแตกต่างกัน อย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ            (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะ (Identification) ในข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง กับข่าวตรวจพบยาเสพติดและอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในเรือนจำแห่งหนึ่ง จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวแตกต่างกัน 

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง

1 คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องยศหรือตำแหน่ง และชื่อเล่น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ซึ่งอาจเป็นที่รัฐสภา ก็ต้องระบุลงไปในข่าวด้วย หรือหากเป็นการสัมภาษณ์ระหว่างไปลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าก็ต้องระบุว่าเป็น ตลาดอะไร ตั้งอยู่ที่ซอยอะไร ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนการสัมภาษณ์ ขณะสัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งจบการสัมภาษณ์ หากไปลงพื้นที่ที่ตลาดก็ต้องระบุถึงบรรยากาศในตลาดเป็นอย่างไร มีประชาชนมาต้อนรับมากน้อยแค่ไหน จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์อย่างไร รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ เช่น รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ แม่ค้าพ่อค้า ตลอดจนความคิดเห็นของประชาชน

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวตรวจพบยาเสพติดและอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมาก ในเรือนจำแห่งหนึ่ง 

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้ว่าราชการจังหวัด (กรณีเรือนจำในต่างจังหวัด) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เรือนจำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระบุ ยศหรือตำแหน่งของบุคคลเหล่านี้ด้วย

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น เรือนจำที่เข้าไปตรวจค้น เป็นเรือนจำที่ตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด ตรวจค้นที่แดนเรือนนอนชาย-หญิง บริเวณไหนบ้าง ควรระบุลงไปให้ละเอียด

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร มีใครบ้าง ที่บุกเข้าตรวจค้น ขณะตรวจค้นมีจำนวนผู้ต้องขังเท่าใด เป็นชายและหญิงกี่คน ตรวจพบอะไรบ้าง วิธีดำเนินการ กับเจ้าหน้าที่เรือนจำที่มีส่วนรู้เห็น และมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ข้อ 7. จงอธิบายความสำคัญและแนวทางการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 63 – 648391, (คำบรรยาย)

ความสำคัญและแนวทางการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว

–           หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว เป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้รู้ว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร บอกอารมณ์ของข่าว และช่วยกระตุ้นความสนใจให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องมีเสมอ เพื่อบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าวที่น่าสนใจอะไรบ้าง

แนวทางการเขียนหัวข่าวคือ การพิจารณาประเด็นที่สำคัญที่สุดของข่าวและเป็นสิ่งที่ น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้อ่าน มาเขียนให้ได้ใจความโดยใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม แต่สื่อความหมายได้ครบถ้วน ตามประเด็นข่าว ดังนั้นข้อความในหัวข่าวจึงต้องสั้นเพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่กระดาษอันจำกัด โดยมักใช้ตัวอักษร ตัวใหญ่และหนากว่าส่วนอื่น

–           ความนำหรือวรรคนา (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกประเด็นสำคัญของข่าว หรือสรุปสาระสำคัญ ของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียงมองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงเป็นการช่วยให้ผู้อ่านไมต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้ โดยย่อ

แนวทางการเขียนความนำคือ ก่อนที่จะเขียนความนำ ควรทราบก่อนว่าตัวข่าวเป็น เรื่องอะไร โดยควรเน้นที่ตัวข่าว หรือเน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ แล้วจึงสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยยึดหลักในสิ่งที่คนอยากรู้มากที่สุดตามเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ควรเขียนเป็นประโยคที่สั้น ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจมีความยาวเพียง  ย่อหน้าสั้น ๆ เท่านั้น

–           ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย

แนวทางการเขียนส่วนเชื่อมคือ การเขียนข้อความเชื่อมระหว่างความนำกับเนื้อข่าว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เป็นข่าวได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่มักจะระบุชื่อบุคคลที่เป็นข่าว ชื่อสถานที่ แหล่งข่าว วัน เวลาที่เกิดเหตุการณ์ หรือการท้าวความโดยย่อจากเรื่องที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

ข้อ8. สมมติเกิดเหตุไฟไหม้ตลาดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะที่กลุ่มนักการเมืองกำลังหาเสียงเพื่อ เลือกตั้งซ่อม ส.ส. โดยมีดาราชื่อดังอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงาน ประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว และควรมีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อข่าวดังกล่าว         (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17118 – 122, (คำบรรยาย)

ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว 

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น กลุ่มนักการเมืองที่มาหาเสียงเป็นใครบ้าง สังกัดพรรคใด  บรรยากาศในการหาเสียง เป็นอย่างไร ดาราที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเป็นใคร และระหว่างการหาเสียงต้นเพลิงเกิดขึ้น ที่ไหน ลุกลามไปอย่างไร เป็นต้น

–           ความโกลาหลและการหนีเอาตัวรอดของผู้คน

–           การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อุปสรรคในการเข้าไปช่วยเหลือผู้คน ในตลาด ความยากลำบากในการดับเพลิง

–           สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

–           รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีนักการเมือง ดาราชื่อดัง เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์อย่างไร ได้รับบาดเจ็บหรือไม่

–           ความเห็นหรือข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุของไฟไหม้ หรือการพบ วัตถุหลักฐานในที่เกิดเหตุ

–           คำสัมภาษณ์ของนักการเมืองที่มาหาเสียง ดาราชื่อดังที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือแม่ค้าพ่อค้า ประชาชนในตลาดที่รู้เห็นการลุกลามของต้นเพลิง

–           แนวทางการป้องกันแก้ไขการเกิดไฟไหม้จากเจ้าของตลาด

–           ข้อมูลเสริม ประวัติสถานที่เกิดเหตุ เช่น เคยเป็นพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องไล่ที่หรือไม่ เคยมีเหตุไฟไหม้มาแล้วกี่ครั้ง มีความขัดแย้งระหว่างพอค้าแม่ค้ากับเจ้าของตลาด หรือไม่ ฯลฯ

–           เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง

–           มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ

–           โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล

–           กลุ่มนักการเมืองที่มาหาเสียง ดาราชื่อดังที่อยู่ในเหตุการณ์

–           แม่ค้าพ่อค้า ประชาชนที่มาเดินตลาด ซึ่งรู้เห็นการลุกลามของต้นเพลิง

–           เจ้าของตลาด              

–           บริษัทประกันอัคคีภัย (หากทำประกันอัคคีภัยไว้)

คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนอข่าวดังกล่าว มีดังนี้

1.         คุณลักษณะของบุคคล แบ่งออกเป็น

–           นักการเมืองที่มาหาเสียง เช่น ชื่อ-นามสกุล มีความใกล้ชิดกับใคร สังกัดพรรคใด เลือกตั้งซ่อมเขตใด แทนใคร และ ส.ส. เดิมในเขตนั้นเป็นใคร พรรคอะไร

–           ดาราชื่อดัง เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น ผลงานล่าสุด

–           เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล ยศหรือตำแหน่ง

–           ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ ที่อยู่

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น ตลาดที่เกิดไฟไหม้ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ซอย ถนน เขตอะไร ในกรุงเทพฯ หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดไฟไหม้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ หลักฐานที่พบ เป็นต้น

 

MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาค 1 ปีภารศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การรายงานข่าว

คำสั่ง ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลต่อไปนี้ (เขียนเฉพาะเนื้อข่าว)     (20 คะแนน)

ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอนำเสนอรามคำแหงโพล (RU POLL) ครั้งที่ 15/2555 โดยทำการสำรวจความคิดเห็นด้านบุคลิกภาพของนายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งได้ทำการสำรวจในช่วงวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 3 กันยายน 2555 ทั้งในกรุงเทพฯ จำนวน 10,000 คน และต่างจังหวัด จำนวน 1,600 คนโดยผู้ตอบแบนลอบถามรวมทั้งสิ้น 11,600 คน เป็นเพศชายจำนวน 5,362 คน (46.22%) และเพศหญิงจำนวน 6,238 คน (53.78%) เป็นนักการเมืองร้อยละ 40.08 ธุรกิจเอกชน ร้อยละ 31.96 และอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐร้อยละ 15.98

ตาราง1 เรื่องที่เบื่อหน่ายนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด

ตาราง2 เรื่องที่ชื่นชมนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด

ตาราง3 เรื่องที่ต้องการให้นายกยิ่งลักษณ์แสดงความเป็นผู้นำมากที่สุด

แนวคำตอบ หน้า 91-118

เนื้อข่าว

ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือรามคำแหงโพล (RU POLL) สำรวจความคิดเห็น ด้านบุคลิกภาพของนายกยิ่งลักษณ์ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 11,600 คนในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 3 กันยายน 2555 พบว่า เรื่องที่เบื่อหน่ายนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด ได้แก่ ความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาร้อยละ 30.73 รองลงมาคือ การขาดภาวะผู้นำร้อยละ 19.57 ส่วนเรื่องที่ชื่นชม นายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด ได้แก่ การนิ่งเงียบไม่โต้ตอบร้อยละ 43.39 รองลงมาคือ ความอดทนร้อยละ 17.74 สำหรับเรื่องที่ต้องการให้นายกยิ่งลักษณ์แสดงความเป็นผู้นำมากที่สุด ได้แก่ บริหารงานเพื่อประโยชน์โดยรวม ของคนในชาติร้อยละ 37.71 รองลงมาคือ ควบคุมแกนนำเสื้อแดงให้เคารพกฎหมายร้อยละ 22.13

ข้อ 2. หากนักศึกษาจะต้องรายงานข่าวต่อไปนี้จะสัมภาษณ์แหลงข่าวใดเพิ่มเติมอีกบ้างในประเด็นใดบ้าง (เขียนเฉพาะประเด็นที่จะถาม ไม่ต้องเขียนรายละเอียดเนื้อหา)     

ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผอ.วิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า โครงสร้างตลาดแรงงานไทยในปัจจุบันยังคงใช้แรงงานระดับล่างและระดับกลางเป็นหลัก และสถานการณ์การใช้ แรงงานปัจจุบันค่อนข้างตึงตัว มีความต้องการแรงงานแต่หาไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีแรงงานบางส่วนตกงาน ว่างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานระดับสูง ป.ตรีขึ้นไป จากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเรามีผู้ว่างงานลดลงอย่างต่อเนือง เฉลี่ยปีละ 55,000 คน นับเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดประเทศหนึ่ง หมายความว่า ต่อให้ส่งเสริมอย่างไร เราก็ไม่มีคนกลับเข้าไปสู่ตลาดแรงงานได้เพียงพอ

เมื่อดูว่าในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงานขั้นวิกฤติ ก็ยังมีคนว่างงานปีละ 2.8 แสนคน พร้อมกับ มีความต้องการแรงงานปีละ 2.5 แสนคน ซึ่งน่าจะทดแทนกันได้ แต่เราไม่สามารถเอามาใช้งานได้ เพราะ 70% ของผู้ว่างงานไม่ยอมทำงานหรือหางานทำ เราจึงมีภาวะขาดแรงงานตึงตัว นอกจากนี้ยังต้องมาเสียวัยแรงงานส่วนหนึ่ง ที่ควรใช้ประโยชน์อยู่ในตลาดแรงงานไปกับคนที่มีปัญหา พฤติกรรมไม่เหมาะสม อยู่ในสถนพินิจหลายหมื่นคน และมีอายุไม่ถึง 30 ปีที่ถูกจำคุกอีกกว่า 1 แสนคน

ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การเกิด น้อยลง วัยแรงงานมีน้อยลง และระบบการศึกษาปัจจุบันเป็นระบบที่กักเขาไว้ในโรงเรียนยาวนานในลักษณะยืดเวลา ว่างงานออกไป เพราะเมื่ออยู่ในโรงเรียนนานหมายถึง การเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่คือสายสามัญ แล้วไปต่ออุดมศึกษา ป.ตรี โท เอก ซึ่งตลาดแรงงานมีความต้องการน้อยกว่าสายอาชีวะหรือวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งเป็น แรงงนระดับกลางลงมา ซึ่งหากเทียบกับช่วงชีวิตการทำงาน (Lifetime Earning) ของผู้มีอายุ 24 ปีขึ้นไป ผู้จบ มัธยมปลายมีรายได้น้อยกว่าผู้จบอาชีวศึกษา

การนิยมใบปริญญา ผู้ปกครองอยากให้ลูกได้ปริญญาจึงส่งเสริมให้เรียนสายสามัญแล้วก็ไปรอตกงานในระดับ ปริญญาตรีและสูงกว่า ซึ่งทุกปีมีว่างงานปีละกว่า 1 แสนคน หากเข้าใจความต้องการแท้จริงของตลาดแรงงานก็ไม่ควร หลงใหลใบปริญญาที่ได้มาติดข้างฝาจนเกินเหตุแล้วก็กลายมาเป็นคนว่างงาน

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

แหล่งข่าวเสริมและประเด็นสัมภาษณ์เพิ่มเติมจากข่าวข้างต้น มีดังนี้

1.         ผู้ปกครอง หรือเด็กนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและกำลังจะศึกษาต่อ ควร

สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุผลที่นิยมเลือกเรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีวะ และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหากตัดสินใจ เลือกเรียนสายอาชีวะ

2.         กระทรวงศึกษาธิการ ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับนโยบายที่จะส่งเสริมให้เด็กเรียนสายอาชีวะ หรือวิขาชีพเฉพาะให้มากขึ้น และแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

3.         คณะกรรมการอาชีวศึกษา ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับความต้องการแรงงานสายอาชีพใน ปัจจุบัน และมาตรการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการเรียนสายอาชีวะ เช่น ปัญหาเด็กยกพวกตีกัน เป็นต้น

4.         กระทรวงแรงงาน ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับอัตราความต้องการแรงงานในสายต่าง ๆ หรือ แรงงานประเภทใดเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด

5.         สำนักงานสถิติแห่งชาติ ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับอัตราว่างงานของไทยในปัจจุบัน หรือ ผู้จบการศึกษาระดับใดมีอัตราว่างงานมากที่สุด

ข้อ 3. เหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง และข่าวอดีตนักแสดงหญิงจมน้ำตายปริศนา ได้รับการรายงาน เป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ไฟไหมีโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมี คุณค่าเชิงข่าว (News Values) 

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2.         ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก ทั้งที่เป็นพนักงานที่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันแห่งนั้น รวมทั้งประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอาจได้รับควันพิษที่เกิดจากไฟไหม้ครั้งนี้

3.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

4.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

5.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

6.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยังมี เงื่อนงำเพราะยังไม่สามารถคลี่คลายหรือตีแผ่หาสาเหตุได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้อ่าน เกิดความฉงนสนเท่ห์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข่าวอดีตนักแสดงหญิงจมน้ำตายปริศนา ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจาก

มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น โคกเศร้า สงสาร หรือ เห็นอกเห็นใจครอบครัวของอดีตนักแสดงหญิง

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน

3.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย

4.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

5.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดวาจะเกิดขึ้น และยังมี เงื่อนงำว่าเป็นอุบติเหตุหรือการฆาตกรรม นอกจากนี้ยังทำให้ผู้อ่านสงสัยว่าเกิดขึ้นได้ อย่างไร

6.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งระหว่างญาติพี่น้อง และสามีผู้ตายเกี่ยวกับสาเหตุการตายและการแย่งชิงมรดก ทำให้มีการเผชิญหน้าและ ทะเลาะวิวาทกัน

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข้อ 4. การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 1 ข่าว ระบุแหล่งข่าวและ ประเด็นข่าว       (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 184 – 186 

 การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหา 

1. การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงานสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมี การเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการ ปรับปรุงแผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น

2.         การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งขันใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งขันทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้างและ ขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และ คะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการ เตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไปเป็นต้น

ตัวอย่างข่าวไทยพ่ายสเปน 1 – 7 ตกรอบฟุตซอลโลก

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           มีการแข่งขันอะไร แข่งที่ไหน เมื่อวันที่เท่าไร และใครแพ้ ใครชนะ

–           บรรยากาศในการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์คึกคักหรือไม่ และผู้เล่นที่สำคัญ ของทั้ง 2 ทีม ประกอบด้วยใครบ้าง

–           ลำดับการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดเกมจนจบเกม ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง มีจุดโทษ และมีการต่อเวลาหรือไม่

–           ภายหลังจบเกมผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ทีมที่ผ่านเข้ารอบต้องไปเจอกับทีมใด

–           ความคิดเห็นของกุนซือทีมชาติทั้ง 2 ทีม ผู้จัดการทีม และนักเตะดาวเด่นภายหลัง จบเกม

–           การให้เงินอัดฉีด และแนวทางการพัฒนากีฬาฟุตซอลไทยในอนาคต

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ กุนซือทีมชาติทั้ง 2 ทีม ผู้จัดการทีม และนักเตะดาวเด่น ของทั้ง 2 ทีม รวมทั้งประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติไทย

ข้อ 5. คำว่า ข่าวอาชญากรรม” ครอบคลุมเนื้อหาประเภทใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 1 ข่าว ระบุประเด็น และแหล่งข่าว            (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 169 – 172

ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1.         ข่าวฆาตกรรม เช่น ลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ

2.         ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อน และคน ให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เช่น รถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึง ข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ

3.         ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ต้องระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุ จูงใจที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ แพทย์ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย

4.         ข่าวเบ็ดเตล็ด เช่น คนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย

5.         ข่าวสะท้อนสังคม เช่น คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ การวิวาท ระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว

6.         ข่าวเกี่ยวทับความผิดทางอาญา เช่น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ

ตัวอย่างข่าวนักเรียนเทคนิคดักยิงนักเรียนคู่อริบนรถเมล์

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–          เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร 

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถเมล์คันที่เกิดเหตุสายอะไร วิ่งจากไหนไปที่ไหน นักเรียนคู่อริขึ้นรถเมล์จากป้ายใด และกลุ่มนักเรียนที่ดักยิง อยู่บริเวณไหน

–           วิธีการก่ออาชญากรรม อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

–           สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น มีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตกี่คน เป็นใครบ้าง มีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงหรือไม่

–           การวางแผนติดตามจับกุม ความเห็น และข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ

–           ความเห็นและการแก้ปัญหาของผู้เกี่ยวช้อง เช่น ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล คนขับรถเมล์ กระเปารถเมล์ ผู้โดยสารรถเมล์สายนั้น พยานแวดล้อมที่เห็น เหตุการณ์ ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ 

ข้อ 6. การรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ กับข่าวบัณฑิตตกงาน ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง ประกอบ       

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะ (Identification) ในข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วม ในปีนี้ กับข่าวบัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวแตกต่างกัน

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ 

1.         คุณลักษณะองบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าวยศหรือตำแหน่ง และชื่อเล่น 

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์จะต้องระบุลงไปใน ข่าวด้วย หรือหากเป็นการสัมภาษณ์ระหว่างไปลงพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ก็ต้องระบุลงไปด้วยว่าพื้นที่นั้นตั้งอยู่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอะไร หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ควรระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนการสัมภาษณ์ ขณะสัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งจบการสัมภาษณ์ รัฐบาลมีแผนการป้องกันและมาตรการรองรับปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ อย่างไร ได้ดำเนินการแก้ไขอะไรไปแล้วบ้าง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวบัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ได้แก่

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของบัณฑิตที่ก่อเหตุ ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าวอายุของผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายอาชีพยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่อยู่ ของผู้ก่อเหตุ ผู้เสียหาย

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่บัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ซึ่งจะต้อง ระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือ สถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ควรระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีจำนวนผู้เสียหายกี่คน ทรัพย์สินที่ถูกจี้ชิงไปมีอะไรบ้าง มีการทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างไร

ข้อ 7. หัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมมีความสำคัญอย่างไร พร้อมทั้งอธิบายหลักการเขียนแต่ละส่วน พอเข้าใจ      

แนวคำตอบ หน้า 63 – 648391, (คำบรรยาย)

ความสำคัญและหลักการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว

–           หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว เป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้รู้ว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร บอกอารมณ์ของข่าว และช่วยกระตุ้นความสนใจให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องมีเสมอ เพื่อบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าวที่น่าสนใจอะไรบ้าง

หลักการเขียนหัวข่าวคือ การพิจารณาประเด็นที่สำคัญที่สุดของข่าวและเป็นสิ่งที่น่าสนใจ มากที่สุดสำหรับผู้อ่าน มาเขียนให้ได้ใจความโดยใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม แต่สื่อความหมายได้ครบถ้วนตาม ประเด็นข่าว ดังนั้นข้อความในหัวข่าวจึงต้องสั้นเพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่กระดาษอันจำกัด โดยมักใช้ตัวอักษร ตัวใหญ่และหนากว่าส่วนอื่น

–           ความนำหรือวรรคนำ (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกประเด็นสำคัญของข่าว หรือสรุปสาระสำคัญ ของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียงมองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าควรจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้โดยย่อ

หลักการเขียนความนำคือ ก่อนที่จะเขียนความนำ ควรทราบก่อนว่าตัวข่าวเป็นเรื่องอะไร โดยควรเน้นที่ตัวข่าว หรือเน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ แล้วจึงสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นโดยยึดหลัก ในสิ่งที่คนอยากรู้มากที่สุดตามเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ควรเขียนเป็นประโยคที่สั้น ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจมีความยาวเพียง 1 ย่อหน้าสั้น ๆ เท่านั้น

–           ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย

หลักการเขียนส่วนเชื่อมคือ การเขียนข้อความเชื่อมระหว่างความนำกับเนื้อข่าว เพื่อให้ ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เป็นข่าวได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่มักจะระบุชื่อบุคคลที่เป็นข่าว ชื่อสถานที่ แหล่งข่าว วัน เวลาที่เกิดเหตุการณ์ หรือการเท้าความโดยย่อจากเรื่องที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

ข้อ 8. สมมุติพบเด็กนักเรียนหลายสิบคนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพๆ มีอาการท้องเสียและอาเจียน อย่างหนักต้องนำส่งโรงพยาบาล ในจำนวนผู้ป่วยนั้นมีบุตรของรัฐมนรีคนหนึ่งอยู่ด้วย ถ้านักศึกษา เป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงานประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบ การรายงานข่าวให้สมบูรณ์   

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เวลาใด อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น ก่อนเกิดเหตุนักเรียนรับประทานอาหารอะไรเข้าไป หลังจากนั้นนักเรียนเริ่มมีอาการป่วย ตอนไหน เด็กนักเรียนที่ป่วยและเป็นบุตรของรัฐมนตรีชื่ออะไร เป็นบุตรของรัฐมนตรีคนใด และโรงเรียนดูแลรักษาพยาบาลเด็กที่ป่วยอย่างไร

–           อาการของเด็กที่ป่วย การรักษาพยาบาลเบื้องต้น และการนำเด็กส่งโรงพยาบาลของโรงเรียน

–           การรักษาของแพทย์ การวินิจฉัยถึงสาเหตุของโรค และการเก็บตัวอย่างอาหารในโรงเรียนไปตรวจสอบ

–           การสอบถามเหตุการณ์จากครูที่นำนักเรียนส่งโรงพยาบาล และเด็กนักเรียนที่ป่วยแต่ พอที่จะให้สัมภาษณ์ได้

–           ความคิดเห็นของรัฐมนตรีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอาการของบุตรที่ป่วย รวมถึง ความคิดเห็นของผู้ปกครองคนอื่น ๆ

–           คำสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการโรงเรียนเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้ง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

–           ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติของโรงเรียนที่เกิดเหตุ เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว หรือไม่

แหล่งข่าวที่ควรไปสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว มีดังนี้

–           ครูในโรงเรียนที่รู้เห็นเหตุการณ์

–           ผู้อำนวยการโรงเรียน

–           เด็กนักเรียนที่ป่วย

–           โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล

–           มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือนำเด็กส่งโรงพยาบาล

–           รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ป่วย

–           ผู้ปกครองของนักเรียนที่ป่วยคนอื่น ๆ

 

MCS 2201 (MCS2260) การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 (MC 221) การรายงานข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 7 ข้อ ให้นักศึกษาทำข้อสอบทุกข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน

ข้อ 1. จงอธิบายความหมายของข่าวตามหลักการที่ศึกษามา พร้อมยกตัวอย่างข่าวที่มีลักษณะสอดคล้องกับ ความหมายดังกล่าวประกอบการอธิบายอย่างน้อย 3 ตัวอย่าง โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว 

แนวคำตอบ หน้า 1 – 2, (คำบรรยาย)

นิยามหรือความหมายของข่าวตามหลักการที่ได้ศึกษามา 

1.         ข่าว หมายถึง เรื่องคนกัดหมา หรือเรื่องที่แปลกไปจากสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวการจัดไปทัวร์ท่องเที่ยวนอกโลก

–           ข่าวการจัดพิธีสมรสหมู่กบ เขียด อึ่งอ่าง ที่ จ.มหาสารคาม

–           ข่าวหญิงคนหนึ่งคลอดทารกแฝด 6 คน

2.         ข่าว หมายถึง เรื่องที่ผู้อ่านไม่เคยรู้มาก่อน ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร

–           ข่าวการเกิดสึนามิที่ภาคใต้ของไทย

–           ข่าวประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

3.         ข่าว หมายถึง เรื่องอะไรอย่างหนึ่งที่ประชาชนต้องพูดถึง ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวเรื่องเตียงหัก รักร้าว หรือคลิปฉาวของดารานักร้อง

–           ข่าวอดีตพระเณรคำร่ำรวยอย่างผิดปกติ

–           ข่าวนักแบดมินตันไทยชกต่อยกันเองระหว่างการแข่งขันระดับโลก

4.         ข่าว หมายถึง รายงานอันสุจริตและสมบูรณ์ของเหตุการณ์ที่เป็นผลประโยชน์และ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณชน โดยมีการรายงานทางสื่อมวลชนและต้องเป็นรายงานที่สมบูรณ์ทุกแง่มุมจากทุกความคิดเห็นของคนที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวรัฐบาลปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม (LPG)

–           ข่าวรัฐบาลปรับขึ้นเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท

–           ข่าวรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท

5.         ข่าว หมายถึง การแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นในอันจะทำให้บุคคลได้รับความตื่นเต้น หรือเกิด อารมณ์ความรู้สึก ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวนักมวยไทยได้รับเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก

–           ข่าวเยาวชนไทยคว้าเหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิก

–           ข่าวตะกร้อทีมชาติไทยชนะมาเลเซียในกีฬาซีเกมส์

ข้อ 2. คำว่า ข่าวอาชญากรรม” กับ ข่าวบันเทิง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างประเด็น หรือหัวข้อข่าวประกอบการอธิบาย โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 169 – 170188 – 189

ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1.         ข่าวฆาตกรรม เช่น ข่าวการลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ

2.         ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อน และ คนให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ข่าวรถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ

3.         ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ตองระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุ จูงใจที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ หมอ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย เช่น ข่าวการทำอัตวินิบาตกรรม

4.         ข่าวเบ็ดเตล็ด เช่น ข่าวคนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

5.         ข่าวสะท้อนสังคม เช่น คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ การวิวาทระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว

6.         ข่าวเกี่ยวกับความผิดทางอาญา เช่น ข่าวความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ

ตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวอาชญากรรม

ปล้นร้านทองกลางห้างดัง กวาดทองหนัก 100 บาท หนีลอยนวล

ข่าวบันเทิงครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา ดังนี้

1.         ข่าวบันเทิงภายในประเทศ เป็นข่าวมาจากแหล่งข่าวภายใบประเทศ เข่น ข่าวภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่ ความคืบหน้าของการถ่ายทำละคร งานประกวดผลรางวัลของสมาคมต่าง ๆ ในแวดวงบันเทิง งานแต่งงานของดารานักร้อง การใช้ชีวิตคู่ การจัดงานนิทรรศการ งานศิลปะ ข่าวเกี่ยวกับบุคคลเด่นในสังคม ข่าวศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรมที่ได้รับรางวัล การแสดงคอนเสิร์ต มหกรรมดนตรี แฟชั่น ละครเวที และรายการโชว์พิเศษต่าง ๆ ฯลฯ

2.         ข่าวบันเทิงต่างประเทศ เป็นข่าวมาจากแหล่งข่าวต่างประเทศ เช่น ข่าวความเคลื่อนไหว ของดารานักร้องและนักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูดในภาพยนตร์ต่าง ๆ งานประกาศรางวัลออสการ์ งาบประกวด ผลรางวัลแกรมมี่อวอร์ด การจัดงานคอนเสิร์ต แฟชั่น นิทรรศการต่าง ๆ ละครเวที การแนะนำภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่องใหม่ ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแต่ละสัปดาห์ ฯลฯ

ตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวบันเทิง

พ่อนักแสดงวัยรุ่นวัย 16 ยอมรับลูกสาวหนีเที่ยวตามคลิปจริง

ข้อ 3. กรณีชุดปฏิบัติการพิเศษวิสามัญนักโทษที่ฆ่าผู้คุมหลังจับผู้คุมเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนีจากคุก เรื่องนี้ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใดบ้าง (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

3.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

4.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของเรือนจำที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่ราชการที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

5.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรืองที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทำให้ ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และยังเป็นเหตุการณ์ที่มีเงื่อนงำ เพราะยังไม่สามรถ ตีแผ่หาสาเหตุถึงวิธีการที่นักโทษแหกคุกมาจับผู้คุมเป็นตัวประกันได้

6.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งทางกาย ทำให้เกิด การเผชิญหน้าต่อสู้ปะทะกัน จนถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ 

ข้อ 4. หากนักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นักศึกษาจะรายงานเนื้อหาด้านใด ยกตัวอย่าง 1 ข่าว ระบุประเด็นข่าว แหล่งข่าว พร้อมระบุว่าจะสัมภาษณ์หรือหาข้อมูลจากแหล่งข่าวนั้น ๆ ในประเด็นใด    

แนวคำตอบ หน้า 157 – 162, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ควรรายงานเนื้อหา ด้านผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 

ตัวอย่างข่าวสุขุมพันธุ์คว้า 1.2 ล้านเสียง เป็นผู้ว่าฯ กทม. อีกสมัย

1 ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว 

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เวลาใด และผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการนับคะแนน ระหว่างการนับคะแนน และหลังจากนับคะแนนเสร็จ เช่น บรรยากาศการนับคะแนนของเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยการเลือกตั้งเป็นอย่างไร มีบัตรเสียมากน้อยแค่ไหน การทำงานมี ความโปร่งใสหรือไม่ ฯลฯ

–           หน่วยการเลือกตั้งมีกี่หน่วย จากทั้งหมดจำนวนกี่เขตการเลือกตั้ง

–           จำนวนผู้มาใช้สิทธิมีกี่คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดเท่าไร และคิดเป็น กี่เปอร์เซ็นต์

–           ผลการเลือกตั้งของผู้ที่มีคะแนนอันดับที่ 1 จนถึงอันดับสุดท้าย

–           ความรู้สึก ความคิดเห็น และการขอบคุณประชาชนของผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่สังกัด

–           ความรู้สึก ความคิดเห็น และการแสดงความยินดีต่อผู้ชนะของผู้ที่แพ้การเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่สังกัด

–           การรับรองผลการเลือกตั้งและการตรวจสอบการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ขององค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น กกต.

2.         แหล่งข่าวและประเด็นที่จะสัมภาษณ์ ได้แก่

–           ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร สัมภาษณ์ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. อย่างไม่เป็นทางการ จำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งหมด

–           เขตการเลือกตั้งแต่ละเขต สัมภาษณ์ผลการนับคะแนนในเขตนั้น ๆ การทุจริต การเลือกตั้ง และผู้มาใช้สิทธิที่ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง

–           ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และพรรคประชาธิปัตย์ สัมภาษณ์ความรู้สึกที่ชนะ การเลือกตั้ง การทำงานร่วมกับรัฐบาล และสิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้

–           พ.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย สัมภาษณ์ความรู้สึก ที่พ่ายแพ้ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ และสิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้

–           คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สัมภาษณ์ขั้นตอนการรับรองผลการเลือกตั้ง และการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง

ข้อ 5. คุณลักษณะ (Identification) หมายถึงอะไร ในการรายงานข่าวประชุมคณะรัฐมนตรี กับข่าวคนร้าย ก่อคดีข่มขืน ต้องกล่าวถึงคุณลักษณะอะไรบ้าง ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว   

แนวคำตอบ หน้า 118 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะ (Identification) หมายถึง ตัวตน ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณสมบัติของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ รวมทั้งบุคคลและสถานที่ที่มาเกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการขยายความเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบว่าเป็นอะไร โดยมีความสำคัญ ความพิเศษ หรือ มีความผิดปกติอย่างไร เพื่อช่วยให้ข่าวนั้นมีสีสันและเพิ่มความน่าอ่านยิ่งขึ้น

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวประชุมคณะรัฐมนตรี

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ เข้าร่วมประชุม รวมทั้งยศหรือตำแหน่งหน้าที่การงาน

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะต้องระบุลงไปในข่าวด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าหากเป็นการประชุมนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ก็ต้องระบุลงไปด้วยว่า สถานที่นั้นตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอะไร หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้อง ระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ความเป็นมา วัตถุประสงค์ หรือหัวข้อในการประชุม จากนั้นลำดับเหตุการณ์การประชุมตั้งแต่ก่อนประชุม บรรยากาศเป็นอย่างไร มีผู้เข้าร่วมประชุมครบหรือไม่ การประชุมดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และข้อสรุปที่เกิดขึ้นหลังจากการประชุมจบลง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวคนร้ายก่อคดีข่มขืน ได้แก่

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าว และนามสมมติของผู้เสียหายอายุของผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายอาชีพยศหรือตำแหน่งของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่อยู่ของผู้ก่อเหตุ

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่คนร้ายก่อเหตุ ซึ่งจะต้องระบุคุณลักษณะโดย การบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียง ก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อคดีข่มขืนตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว ผู้เสียหายโดนทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างไร จับคนร้ายได้ หรือไม่

ข้อ 6. การรายงานข่าวกีฬาสามารถนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรได้บ้าง และควรใช้ลีลาการเขียน (Style) อย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง 1 ข่าว โดยกำหนดประเด็นข่าว และแหล่งข่าว พร้อมระบุว่าจะสัมภาษณ์ หรือหาข้อมูลจากแหล่งข่าวนั้น ๆ ในประเด็นใด   (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 106 – 115184 – 186, (คำบรรยาย)

ารรายงานข่าวกีฬาสามารถนำเสนอเนื้อหาได้ 

1.         การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงนสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมี การเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการปรับปรุง แผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น

2.         การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งขันใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งขันทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้าง และขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และคะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น

ลีลาการเขียน (Style) ในการรายงานข่าวกีฬา

การรายงานข่าวกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับ ข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

1.         การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป (Fact Story) มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อน อาจมีตัวเลข สถิติ หรือเป็นข่าวสั้น ข่าวประกอบภาพก็ได้

2.         การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว (Action Story) เป็นการรายงานเหตุการณ์ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ ความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เขียนข่าว ต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง และได้รับ ความตื่นเต้น ดีใจ สลดใจไปกับบุคคลในข่าว ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหวและพัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว

3.         การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย (Quote Story) เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริง ที่ได้มาจากคำพูด การแสดงความคิดเห็น การแถลงข่าว การให้ส้มภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้ง ประกาศ หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน โดยจะคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น แบ่งออก เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

1)         การยกคำพูดมาโดยตรง (Direct Quote) โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือมี เลขในกำกับ ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อให้ผู้อ่านทราบว่า เป็นคำพูดของใคร

2)         การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง และมีเครื่องหมาย คำพูดกำกับ (Indirect Quote) แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้ โดยไม่มีการแต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น และระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างข่าวหงส์แดงชนะไทย 3-0 ฟุตบอลนัดพิเศษที่ กกท

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           มีการแข่งขันอะไร แข่งที่ไหน เมื่อวันที่เท่าไร และใครแพ้ใครชนะ

–           บรรยากาศในการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์คึกคักหรือไม่ และผู้เล่น ที่สำคัญของทั้ง 2 ทีม ประกอบด้วยใครบ้าง

–           ลำดับการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดเกมจนจบเกม ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง มีจุดโทษ และมีการต่อเวลาหรือไม่

–           ภายหลังจบเกมผลการแข่งขันเป็นอย่างไร และแต่ละทีมมีโปรแกรมต้องแข่งกับ ทีมใดต่อไป

–           ความคิดเห็นของผู้จัดการทีมทั้ง 2 ทีม โค้ช และนักเตะดาวเด่นภายหลังจบเกม

–           ข้อมูลเสริม เช่น สถิติที่ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาก่อน ทีมใดแพ้-ชนะรวมทั้งหมด กี่ครั้ง

2.         แหล่งข่าวและประเด็นที่จะสัมภาษณ์ ได้แก่

–           ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล สัมภาษณ์ความคิดเห็นภายหลังชนะทีมชาติไทย ชุดเตรียมซีเกมส์ ความพึงพอใจกับชัยชนะครั้งนี้ และโปรแกรมการฝึกซ้อม หรือการแข่งขันนัดต่อไป

–           ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ทำให้ทีมแพ้ ข้อผิดพลาดหรือเรื่องที่ต้องปรับปรุง และการเตรียมตัวกับการแข่งขันนัดต่อไป

–           นักเตะดาวเด่นของทั้ง 2 ทีม สัมภาษณ์ความรู้สึกภายหลังจบเกม ความพอใจ หรือไม่พอใจในภาพรวมของเกม

–           บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือดารานักแสดงที่มาร่วมชมการแข่งขัน สัมภาษณ์ความรู้สึก

–           และความประทับใจที่ได้มาชมการแข่งขันนัดนี้ ความชื่นชอบในตัวผู้เล่น และ ความคิดเห็นต่อผลการแข่งขัน

ข้อ 7. จากข้อมูลโครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ (Devcom R.u. Open House Season 2) ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต” ให้เขียนเนื้อข่าว    

และเขียนหัวข่าว      

โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ Devcom R.u. Open House Season 2 ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต 

หลักการและเหตุผล

หลักสูตรสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการเน้นศึกษาแนวคิดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ การกำหนดนโยบายใช้การสื่อสารเพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาสังคมเมืองและชนบท ศึกษาหลักการ วางแผน การดำเนินการ และการประเมินผลการสื่อสาร โดยมีรายวิชา DEV 7302 การสัมมนา ประยุกต์การสื่อสาร ซึ่งศึกษาวิเคราะห์ประเด็นปัญหาและสถานการณ์การสื่อสารในมิติต่าง ๆ ของสังคม เช่น การสื่อสารด้านการเมือง การสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อม การสื่อสารด้านการศึกษา เป็นต้น

จากผลการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันประการหนึ่ง คือ การที่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครมีพฤติกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์ในเรื่องเกี่ยวกับ การดาวน์โหลดเพลงบนอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ การดาวน์โหลดภาพ/ ภาพถ่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน และการคัดลอกข้อความ งานวิจัย และวิทยานิพนธ์ บนอินเทอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา

เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกัน/แก้ไขปัญหาสังคม และขับเคลื่อนกระบวนการป้องปราม ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต และเพื่อให้นักศึกษาของโครงการๆ มีประสบการณ์ เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาแนวทางการตัดสินใจในการบริหารจัดการ โดยนำทฤษฎีและหลักการที่ได้ จากการศึกษารายวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรมาประยุกต์ใช้ รวมทั้งเป็นการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร ผ่านการจัดสัมมนาในหัวข้อเรื่อง โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ Devcom R.u. Open House Season 2 ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

วัตถุประสงค์ของโครงการ

1.         เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิขาการสื่อสารพัฒนาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้เป็นที่รู้จักในสังคม

2.         เพื่อนำเสนอผลงานทางวิชาการของนักศึกษาสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการสู่สังคม อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการศึกษา

3.         เพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต แก่กลุ่มเป้าหมาย

4.         เพื่อปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และรับรู้แนวคิดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

กำหนดการ

โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ

(DEVCOM R.U. OPEN HOUSE SEASON 2)

วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

วันที่ 9 เมษายน 2556 ณ. ห้องประชุมพวงแสด คณะมนุษยศาสตร์

เวลา 08.30 – 09.00 น.            ลงทะเบียน

เวลา 09.30 – 09.45 น.            พิธีเปิด (บริเวณลานปสาน)

เวลา 10.00 – 12.00 น.            เสวนา เรื่อง สมรภูมิลิขสิทธิ์กับความคิดที่แตกต่าง

โดย คุณสุทธิพงษ์ วัฒนจัง

ศิลปินอิสระ ผู้ประพันธ์เพลง นักแสดง

            – คุณศศกร วัฒนาสุทธิวงศ์

ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรณาธิการสำนักพิมพ์แจ่มใส

            – อาจารย์สุวรรณา สมบัติรักษาสุข นักวิชาการด้านกฎหมายสื่อมวลชน

ดำเนินรายการ โดย

คุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ ผู้ประกาศข่าว

เวลา 12.00 – 13.00 น.            พัก

เวลา 13.00 – 16.00 น.            การนำเสนอผลงานสื่อสาระบันเทิง (Edutainment)

(หนังสั้น ละคร หนังสือการ์ตูน นิทรรศการมีชีวิต)

หัวข้อ วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

ผลงานของนักศึกษาสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ รุ่นที่ 7 และการวิพากษ์ผลงาน โดย รศ.ถิรนันท์ อนวัชศิริวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.วาริศา พลายบัว คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

แนวคำตอบ หน้า 32 – 3791 – 118

หัวข่าว

ม.ร. เปิดบ้านถกปัญหาวัยรุ่นละเมิดลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์

เนื้อข่าว

โครงการศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดโครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ (Devcom R.u. Open House Season 2) ตอน วัยรุ่นกับการ ละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต’’ ในวันที่ 9 เมษายน 2556 ณ ห้องประชุมพวงแสด คณะมนุษยศาสตร์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ตรวมทั้งปลูกจิตสำนึกและกระตุ้น ให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและรับรู้แนวคิดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

กิจกรรมในงานที่น่าสนใจ ได้แก่ การเสวนาเรื่อง สมรภูมิลิขสิทธิ์กับความคิดที่แตกต่าง” โดยมีนายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง ศิลปินอิสระ ผู้ประพันธ์เพลง นักแสดง เป็นวิทยากร ร่วมด้วยบรรณาธิการ สำนักพิมพ์แจ่มใส นักวิชาการด้านกฎหมายสื่อมวลชน และดำเนินรายการโดย นางคิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ ผู้ประกาศข่าว นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอผลงานสื่อสาระบันเทิงในหัวข้อ วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต” ของนักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ รุ่นที่ 7 เช่น หนังสั้น ละคร หนังสือการ์ตูน นิทรรศการ-มีชีวิต ฯลฯ และการวิพากษ์ผลงานโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ

 

MCS 2201 (MCS2260) การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 (MCS 2260) การรายงานข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำข้อสอบทุกข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน

ข้อ 1. ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวการชุมนุมประท้วงรัฐบาล จะรายงาน เหตุการณ์นี้ในแง่มุมหรือประเด็นใดได้บ้าง ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว  

แนวคำตอบ (คำบรรยาย)

แง่มุมหรือประเด็นที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว 

–           มีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ไหน วันที่-เวลาใด

–           การชุมนุมประท้วงรัฐบาลครั้งนี้มีสาเหตุมาจากอะไร ผู้ชุมนุมเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล

–           ใครเป็นแกนนำ และมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณกี่คน

–           มีการตั้งเวทีการชุมนุมที่ไหน และแกนนำปราศรัยว่าอย่างไรบ้าง

–           หากมีการยกระดับการชุมนุม โดยการเคลื่อนไหวไปปิดการจราจร หรือปิดสถานที่ต่าง ๆ ให้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

–           ฝ่ายรัฐบาลมีความเคลื่อนไหว หรือมีมาตรการอย่างไรต่อการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ มีการ ส่งใครมาเป็นตัวแทนเจรจาหรือไม่

–           มีเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมหรือไม่ ตำรวจใช้อาวุธในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไร และผู้ชุมนุมตอบโต้ตำรวจด้วยวิธีการใด

–           ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงครั้งนี้มีหรือไม่ จำนวนเท่าใด ความเสียหาย ต่อทรัพย์สินต่าง ๆ และผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป

–           เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงรัฐบาลครั้งนี้จบลงอย่างไร หรือมีบทสรุปอย่างไร

ข้อ 2. สมมุตินักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.รามคำแหง ชนะเลิศการประกวดร้องเพลง เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์

2.1       มีประเด็นข่าวอะไรบ้างที่ควรรายงาน 

2.2       จะหาข้อมูลได้จากแหล่งข่าวใด แต่ละแหล่งข่าวให้ข้อมูลได้ในประเด็นใด    

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17189, (คำบรรยาย)

2.1 ประเด็นข่าวที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว มีดังนี้

–           มีการแข่งขันร้องเพลงรายการอะไร แข่งที่ไหน วันที่-เวลาที่แข่ง

–           บรรยากาศก่อนการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนคึกคักเพียงใด 

–         กติกาการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็นอย่างไร ผู้ชนะจะได้รับรางวัลอะไร

–           ผู้เข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายประกอบด้วยใครบ้าง แต่ละคนมีใครเป็นโค้ช และต้องร้องเพลงอะไรในการแข่งขันรอบนี้

–           ลำดับการแข่งขันร้องเพลงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ใครเป็นผู้ชนะ

–           บรรยากาศหลังการแข่งขันจบลง ความรู้สึกของผู้ชนะ ความคิดเห็นของโค้ช และการแสดง ความยินดีของกองเชียร์

–           ประวัติของผู้ชนะ กำลังศึกษาอยู่ที่ไหน หรือเคยประกวดร้องเพลงได้รับรางวัลอะไร มาบ้าง

2.2       แหล่งข่าวและประเด็นที่จะให้ข้อมูลในข่าวดังกล่าว ได้แก่

–           ผู้จัดรายการเดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกติกาการแข่งขัน และรางวัล ที่ผู้ชนะจะได้รับ

–           กรรมการหรือโค้ชที่ผู้ชนะเป็นลูกทีม ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่ลูกทีมของตน ได้รับชัยชนะ รวมทั้งความคิดเห็นชองโค้ชคนอื่น ๆ

–           ตัวผู้ชนะการแข่งขัน/พ่อแม่พี่น้อง ซึ่งจะให้ข้อมูลเรื่องประวัติส่วนตัวต่าง ๆ และ ความรู้สึกที่ได้รับชัยชนะ

–           อธิการบดี/คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.รามคำแหง ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เกียรติประวัติในด้านต่าง ๆ ที่ผู้ชนะเคยทำให้แก่มหาวิทยาลัย รวมทั้งความรู้สึกที่ลูกศิษย์ ได้รับชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย

ข้อ 3. ในการเขียนข่าวการแข่งขันกีฬากับข่าวไฟไหม้ต้องระบุถึงคุณลักษณะ (Identification) อะไรบ้าง ในข่าว ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว     (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการเขียนข่าวการแข่งขันกีฬา 

1.         คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลของนักกีฬา โค้ช และผู้เกี่ยวข้องในข่าวอายุของนักกีฬา ในกรณีที่อายุน้อยแต่คว้าแชมป์ได้ยศหรือตำแหน่งของผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องในข่าว เช่น นายกสมาคมกีฬาชนิดต่าง ๆเกียรติภูมิหรือชื่อเสียงของนักกีฬาที่เคยเป็นอดีตแชมป์ในรายการแข่งขันนั้น ๆ มาก่อนชื่อเล่นหรือฉายาของนักกีฬาดาวเด่น เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่จัดการแข่งขันตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้องระบุลงไปด้วย ในกรณีที่สถานที่จัดการแข่งขันอยู่ในต่างประเทศก็ต้องระบุว่าอยู่ที่เมืองใด ประเทศอะไร หรือมีความสำคัญอย่างไร เช่น เป็นเมืองหลวง เมืองท่า ฯลฯ

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับการแข่งขันกีฬาตั้งแต่ก่อนแข่ง บรรยากาศ เป็นอย่างไรจากนั้นการแข่งขันกีฬาดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร ใครแพ้ ใครชนะ และภายหลังจบเกมบรรยากาศ เป็นอย่างไร มีโปรแกรมการแข่งขันต่อไปอย่างไรบ้าง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการเขียนข่าวไฟไหม้ 

1.         คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องอายุของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเด็กอาชีพของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าทีตำรวจที่อยู่ของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่เกิดไฟไหม้ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ซอย ถนน เขตอะไร ในกรุงเทพฯ หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดไฟไหม้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ หลักฐานที่พบ เป็นต้น

ข้อ 4. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนเนื้อข่าว         (10 คะแนน)

สกิมเมอร์ คืออะไร

สกิมเมอร์ เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ ที่คนร้ายสร้างขึ้นด้วยการนำแถบแม่เหล็ก วงจรถอดรหัสและวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สามารถพกพาได้ และใช้พลังงานจาก แบตเตอรี่ จากนั้นนำไปติดตั้งไว้ที่ช่องรูดบัตรของตู้เอทีเอ็ม เมื่อมีคนนำบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตมารูด หรือสอดบัตรเข้าช่องเสียบบัตร แล้วกดรหัส ตัวแถบแม่เหล็กของสกิมเมอร์ก็จะบันทึกข้อมูลแล้วส่งไป เก็บไว้ในหน่วยความจำ หรืออาจส่งข้อมูลต่อไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพเลยก็ได้ จากนั้น หน้าจอเอทีเอ็มอาจแสดงข้อความว่า ขออภัย เครื่องไม่สามารถทำรายการได้” หรือ ท่านทำรายการ เรียบร้อยแล้ว กรุณารับเงิน” ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรปลอมที่ใช้

เมื่อมิจฉาชีพขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มและรหัสฝานไปแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้นไปสร้าง บัตรปลอมที่มีข้อมูลในแถบแม่เหล็กเหมือนกับบัตรจริง ซึ่งสามารถนำไปกดเงินหรือรูดซื้อสินค้าได้ เหมือนบัตรจริงทุกประการ ทั้งนี้คนร้ายบางคนอาจไม่นำข้อมูลไปทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลไปขายต่อ ในอินเทอร์เน็ตอีกทอดก็มี

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตู้เอทีเอ็มตู้ไหนปลอดภัย ไร้สกิมเมอร์ ???

เนื่องจากมิจฉาชีพมักซ่อนเครื่องสกิมเมอร์ไว้อย่างแนบเนียนมาก ดังนั้นการตรวจสอบ อาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่อย่างน้อยก็มีแนวทางที่จะช่วยให้เราสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูว่าตู้เอทีเอ็มนั้นเสี่ยง ต่อการใช้งานหรือไม่ นั่นก็คือ

ตรวจดูสิ่งผิดปกติรอบตู้เอทีเอ็มก่อนใช้งาน เพื่อดูว่ามีกล้องตัวเล็กซุกซ่อนอยู่หรือไม่ โดย มิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวไว้บริเวณเครื่องเพื่อใช้ซ่อนกล้อง ถ้าพบเห็นกล่องใส่ใบปลิวแปลก ๆ ไม่ควรใช้เครื่องดังกล่าว และควรแจ้งให้ธนาคารทราบทันที/

ตรวจสอบบริเวณที่สอดบัตร หรือตรงแป้นกดตัวเลขว่า มีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่ หรือไม่ หากสังเกตเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ให้รีบแจ้งให้ธนาคารทราบ/

ลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ต่าง ๆ ของตู้เอทีเอ็มดู เพราะหากมีตัวสกิมเมอร์ติดอยู่ การโยก อาจจะทำให้ตัวสกิมเมอร์หลุดออกมาได้ เนื่องจากปกติแล้วคนร้ายจะไม่ติดตั้งเครื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนา เท่าใดนัก เพราะต้องถอดเครื่องสกิมเมอร์ไปใช้ติดตั้งตู้อื่น ๆ ด้วย/

หากเครื่องเอทีเอ็มเกิดขัดข้องและบัตรติดอยู่ในเครื่อง ให้รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตร ทันที เพราะการที่เครื่องขัดข้องอาจเป็นเล่ห์กลของคนร้ายที่ใช้เศษไม้ หรือไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปในช่องอ่านบัตร เพื่อให้บัตรของผู้ใช้บริการติดอยู่ที่เครื่อง แล้วจะทำทีเข้ามาช่วยเหลือกดรหัสให้/

หากใส่บัตรไปในเครื่องแล้วไม่มีไฟกะพริบรอบช่องเสียบบัตร ควรเปลี่ยนใช้ตู้อื่น เพราะตู้นั้นอาจมีการติดตัวสกิมเมอร์ไว้ดูดข้อมูล/

*** ข้อมูลจากกระปุก ดอทคอม http://highUght.kapook.com/view/93328

แนวคำตอบ หน้า 91 – 118, (คำบรรยาย)

เนื้อข่าว

จากข้อมูลในเว็บไซต์กระปุก ดอทคอม ระบุวิธีใช้เครื่องเอทีเอ็มอย่างปลอดภัยว่า เนื่องจาก มิจฉาชีพมักซ่อนเครื่องสกิมเมอร์ไว้อย่างแนบเนียนมาก ดังนั้นการตรวจสอบอาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่อย่างน้อยก็มี แนวทางที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูว่าเครื่องเอทีเอ็มนั้นเสี่ยงต่อการใช้งานหรือไม่ คือ ก่อนใช้บริการ ให้ดูสิ่งผิดปกติรอบเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อดูว่ามีกล้องตัวเล็กซุกซ่อนอยู่หรือไม่ โดยมิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวไว้ บริเวณเครื่องเพื่อใช้ซ่อนกล้อง ถ้าพบเห็นกล่องใส่ใบปลิวแปลก ๆ ไม่ควรใช้เครื่องดังกล่าว และควรแจ้งให้ธนาคาร ทราบทันที นอกจากนี้ควรตรวจสอบบริเวณที่สอดบัตร หรือตรงแป้นกดตัวเลขว่า มีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ หากสังเกตเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ควรรีบแจ้งให้ธนาคารทราบ จากนั้นลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่อง เอทีเอ็มดู เพราะหากมีตัวสกิมเมอร์ติดอยู่ การโยกอาจจะทำให้ตัวสกิมเมอร์หลุดออกมาได้ เนื่องจากปกติแล้ว มิจฉาชีพจะไม่ติดตั้งเครื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนาเท่าใดนัก เพราะต้องถอดเครื่องไปใช้ติดตั้งเครื่องอื่น ๆ ด้วย

ในกรณีที่เครื่องเอทีเอ็มเกิดขัดข้องและบัตรติดอยู่ในเครื่อง ให้รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตร ทันที เพราะการที่เครื่องขัดข้องอาจเป็นเล่ห์กลของมิจฉาชีพที่ใช้เศษไม้ หรือไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปในช่องอ่านบัตร เพื่อให้บัตรของผู้ใช้บริการติดอยู่ที่เครื่อง แล้วจะทำทีเข้ามาช่วยเหลือกดรหัสให้ และเมื่อใส่บัตรไปในเครื่องแล้ว ไม่มีไฟกะพริบรอบช่องเสียบบัตร ควรเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่น เพราะเครื่องนั้นอาจมีการติดตั้งตัวสกิมเมอร์ไว้ดูดข้อมูล

สำหรับสกิมเมอร์นั้น เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นด้วยการนำ แถบแม่เหล็กวงจรถอดรหัสและวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สามารถพกพาได้ และใช้พลังงานจาก แบตเตอรี่โดยมักนำไปติดตั้งไว้ที่ช่องรูดบัตรของเครื่องเอทีเอ็ม เมื่อมีคนนำบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตมารูด หรือสอดบัตรเข้าช่องเสียบบัตร และกดรหัส ตัวแถบแม่เหล็กของสกิมเมอร์ก็จะบันทึกข้อมูลแล้วส่งไปเก็บไว้ใน หน่วยความจำ หรืออาจส่งข้อมูลต่อไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพเลยก็ได้ จากนั้นหน้าจอเครื่องเอทีเอ็ม อาจแสดงข้อความว่า ขออภัย เครื่องไม่สามารถทำรายการได้ หรือท่านทำรายการเรียบร้อยแล้ว กรุณารับเงิน ซึ่งก็ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรปลอมที่ใช้

อย่างไรก็ตามเมื่อมิจฉาชีพขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอมและรหัสผ่านไปแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้น ไปสร้างบัตรปลอมที่มีข้อมูลในแถบแม่เหล็กเหมือนกับบัตรจริง ซึ่งสามารถนำไปกดเงินหรือรูดซื้อสินค้าได้เหมือน บัตรจริงทุกประการ ทั้งนี้มิจฉาชีพบางคนอาจไม่นำข้อมูลไปทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลไปขายต่อในอินเทอร์เน็ต อีกทอดก็มี

ข้อ 5. หากนักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามรายงานข่าวเรื่องสกิมเมอร์ (จากข้อมูลในข้อ 4.)

นักศึกษาจะรายงานข่าวในประเด็นใดบ้าง และหาข้อมูลจากแหล่งข่าวใดบ้าง          (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

ประเด็นที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว 

–           มีจำนวนผู้เสียหายในกรณีนี้กี่คน และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเป็นเงินเท่าไร

–           เครื่องเอทีเอ็มที่ติดตั้งตัวสกิมเมอร์มักพบอยู่บริเวณใด จังหวัดอะไร

–           การดำเนินคดีและวางแผนจับกุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           แก๊งมิจฉาชีพส่วนใหญ่เป็นคนชาติใด มีวิธีการก่อเหตุ และยักยอกเงินของผู้เสียหายอย่างไร

–           มาตรการป้องกันของธนาคาร และการเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว

–           มาตรการแก้ไขและวิธีป้องกันภัยในกรณีดังกล่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

–           ผู้เสียหาย

–           เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี

–           ธนาคารที่เป็นเจ้าของเครื่องเอทีเอ็ม ผู้อำนวยการสาขา หรือกรรมการผู้จัดการของ ธนาคารนั้น ๆ

–           ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี หรือนักวิชาการคอมพิวเตอร์

–           กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

–           เนคเทค (NECTEC)

–           กล้องวงจรปิด

ข้อ 6. จากเหตุการณ์ม็อบชัดดาวน์กรุงเทพฯ ที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนไทย เพราะมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) อะไรบ้าง  (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนไทย เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ตื่นเต้น ตกใจ สะใจ โกรธ เกลียด ฯลฯ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (ฝ่ายม็อบ/ฝ่ายรัฐบาล)

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร/ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมากที่อาศัย อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะมีการปิดการจราจร ปิดสถานที่ราชการ ทำให้ข้าราชการไม่สามารถไปทำงานและให้บริการแก่ ประชาชนที่มาติดต่อได้

3.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

4.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

5.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของแกนนำ ดารานักร้องที่เข้าร่วมชุมนุม รวมทั้งสถานที่ราชการที่ม็อบเดินทางไปปิด

6.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยัง เป็นเหตุการณ์ที่มีเงื่อนงำว่าจะจบลงอย่างไร ม็อบจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป รัฐบาลจะยอมตามที่ม็อบ เรียกร้องหรือไม่ ทำให้ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ จึงต้องติดตามเรื่องราวต่อไป

7.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งทั้งทางกายและ ความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการเผชิญหน้าต่อสู้ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับม็บ มีการยิง แก๊สน้ำตา ปาระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

8.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ 

ข้อ 7. ตามหลักการที่ศึกษามาในการรายงานข่าวบุคคลเสียชีวิต สามารถรายงานในมิติ/ประเด็นใดได้บ้าง อธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ      (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 131 – 139, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวบุคคลเสียชีวิตสามารถรายงานได้หลายแบบตามสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ข่าวมรณกรรมของบุคคลสำคัญหรือคนดังในสังคม ข่าวอุบัติเหตุที่ส่งผลให้เสียชีวิต เช่น ข่าวฆาตกรรม (ถูกฆ่าตาย) ข่าวอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) เป็นต้น

ตัวอย่างข่าวบุคคลเสียชีวิตในกรณีข่าวมรณกรรมของบุคคลสำคัญ สามารถรายงานในมิติ หรือประเด็นต่อไปนี้

–           ผู้ตายเป็นใคร เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ ยศหรือตำแหน่งสูงสุดในปัจจุบัน ฯลฯ

–           สาเหตุการเสียชีวิต เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจวาย ฯลฯ

–           สถานที่เสียชีวิต/วันที่-เวลาที่เสียชีวิต เช่น เป็นการป่วยและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ที่บ้าน ในวันที่-เวลาใด

–           เหตุการณ์ตื่นเต้นในขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต ลางร้าย หรือลางสังหรณ์ก่อนเสียชีวิต

–           ผลงานของผู้ตาย/เคยทำอะไรมาบ้าง เช่น เป็น ส.ส. พรรคอะไร เคยดำรงตำแหน่งใด มาบ้าง หรือมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอะไรบ้าง

–           ประวัติส่วนตัว/ความเป็นมา เช่น ผู้ตายมีบิดา-มารดา สามี-ภรรยา บุตร-ธิดา หรือญาติ พี่น้องที่เป็นคนดัง นอกจากนี้ผู้ตายมีประวัติการศึกษาจบชั้นมัธยม ปริญญาตรี/โท/เอก หรือปริญญากิตติมศักดิ์อะไรมาบ้าง

–           รายละเอียดของพิธีศพ เช่น พิธีสวดพระอภิธรรมจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรม กำหนดภารบรรจุศพ และกำหนดการฌาปนกิจ

ข้อ 8. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนความนำของข่าว       (10 คะแนน)

และเขียนหัวข่าว          (10 คะแนน)

พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของวัยรุ่น จาก http://www.gotoknow.org/posts/410843

–           พฤติกรรมด้านบวก

มือถือกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของวัยรุ่น เพราะมือถือก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย เป็นทั้งเครื่องมือ การสื่อสารที่ย่นทั้งระยะทางและระยะเวลาระหว่างกัน เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านมือถือนั้นสร้าง ความสะดวกสบายให้กับวัยรุ่นได้อย่างมาก บางครั้งที่มีอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือด่วน มือถือ ก็จะมีประโยชน์มากในช่วงเวลานั้น หรือบางทีมือถือยังทำหน้าที่สร้างและกระชับความสัมพันธ์ของคน ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือกลุ่มเพื่อน ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากแต่ก็เชื่อมความสัมพันธ์กันได้ ด้วยมือถือ ยิ่งปัจจุบันนี้มือถือมีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ซึ่งนอกจากจะดูหนังฟังเพลงแล้วยัง สามารถใช้อินเทอร์เน็ต และยังสามารถเล่นได้เกือบทุกที่ทุกเวลา ยิ่งทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามการใช้โทรศัพท์มือถือให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นต้องคำนึงถึงความจำเป็น ใช้แต่พอเพียงเท่านั้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นทาสของมือถือ

– พฤติกรรมด้านลบ

โรคที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีผลกระทบในเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนไทย ได้แก่

1)         โรคเห่อตามแฟชั่น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นนิยมเปลี่ยนมือถือตามแฟชั่นเพื่อให้อินเทรนด์ ดูทันสมัย ไม่ตกรุ่น ทัดเทียมเพื่อน ดังนั้นมือถือจึงกลายเป็นเครื่องประดับที่บ่งบอกสถานภาพทางสังคมอีกทางหนึ่ง

2)         โรคทรัพย์จาง ซึ่งหลายคนต้องหาเงินเพื่อมาซื้อมือถือรุ่นใหม่ ทั้งนี้บางคนไม่มีเงินแต่รสนิยมสูง จึงเกิด สภาวะทรัพย์จางต้องไปกู้ยืมหนี้ยืมสินมาซื้อมือถือ เป็นต้น

3) โรคขาดความอดทนและใจร้อน เนื่องจาก คุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือกดปุ๊บต้องติดปั๊บ ทำให้หลายคนกลายเป็นคนไม่มีความอดทน แม้แต่ เรื่องเล็ก ๆ เช่น นัดเพื่อนไว้ช้าแค่ 5 นาที ต้องโทรตาม จึงกลายเป็นคนเร่งรีบ ร้อนรน และไม่รอบคอบ

4) โรคขาดกาลเทศะและไร้มารยาท ซึ่งการโทรศัพท์ไปหาบุคคลที่เราอยากจะพูดทุกเวลา โดยไม่ดูเวลา หรือกาลเทศะที่ควรโทร บางคนโทรขายประกัน ขายเครื่องกรองน้ำ ชวนสมัครบัตรเครดิตทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน ทำให้ผู้รับสายเกิดความรำคาญใจ

5) โรคขาดมนุษยสัมพันธ์ คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือพูดคุยกับญาติสนิท ขาดความใส่ใจที่จะสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น หลบมุมโทรไปคุยกับเพื่อนแทนที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านห่างเหิน ซึ่งจะเกิดอาการเฉาหรือเหงาหงอย กลายเป็นคน แยกตัวออกจากสังคมมีโลกของตัวเองและเป็นโรคติดโทรศัพท์ในที่สุด

6)โรคไม่จริงใจ เนื่องจากการ พูดคุยทางโทรศัพท์ไม่ต้องเห็นหน้าตา ท่าทาง สายตา และปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ทำให้หลายคน สามารถใช้คำหวานหลอกลวง หรือพูดโกหกผู้อื่น หรือนิยมส่ง SMS ไปยังอีกฝ่าย ทำเสมือนรักใคร่ ผูกพัน หรือห่วงใย

จากผลสำรวจของกรุงเทพโพล โดยเก็บข้อมูลจากวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานครที่ใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 1,700 คน เป็นเพศชายร้อยละ 48.8 และเพศหญิงร้อยละ 51.2 สรุปผลว่า มีดังนี้ พูดคุยและส่ง SMS ร้อยละ 57.7 ฟังเพลง ฟังวิทยุ ร้อยละ 20.3 ถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอ ร้อยละ 11.6 เล่นเกม ร้อยละ 5.6 เล่นอินเทอริเน็ต ร้อยละ 4.8

แนวคำตอบ หน้า 29 – 3063 – 80, (คำบรรยาย)

หัวข่าว

วัยโจ๋เสี่ยง 6 โรคใหม่ ภัยของคนติดมือถือ

ความนำ

เว็บไซต์โกทูโนวระบุวัยรุ่นเสี่ยงเป็น 6 โรคใหม่ หากตกเป็นทาสของมือถือ นำโดยโรคเห่อตาม แฟชั่น โรคทรัพย์จาง โรคขาดความอดทนและใจร้อน โรคขาดกาลเทศะและไร้มารยาท โรคขาดมนุษยสัมพันธ์ ตบท้ายด้วยโรคไม่จริงใจ ด้านผลสำรวจพบวัยรุ่นนิยมพูดคุยและส่ง SMS มากที่สุด ร้อยละ 57.7 แต่เล่นเน็ตน้อยสุด แค่ร้อยละ 4.8

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         หนังสือพิมพ์บริการชุมชนในรูปแบบใด

(1)       การ์ตูน 

(2) ข่าว            

(3) โฆษณา     

(4) บทความ

ตอบ 3 หน้า 215 การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) ถือเป็น การบริการชุมชนอย่างหนึ่งของหนังสือพิมพ์ โดยการเป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวที่เป็น ประโยชน์ต่อสาธารณชน เช่น การอุทิศเนื้อที่เพื่อการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง การรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุภัยพิบัติ ตลอดจนการตีพิมพ์โฆษณาทั้งโฆษณาในท้องถิ่น โฆษณาย่อย และโฆษณาทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ

2.         ข้อใดไม่สอดคล้องกับความเป็นหนังสือพิมพ์

(1)       มีจ่าหน้าชื่อเดียวกัน     

(2) ตีพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ

(3) มีการเย็บเล่ม         

(4) พัฒนามาจากสังคมที่เจริญแล้ว

ตอบ 3 หน้า 2-3, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ส่วน Encyclopedia Americana อธิบายว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เย็บเล่ม ตีพิมพ์เผยแพร่อย่าง สม่ำเสมอ… Collier’s Encyclopedia กล่าวว่า หนังสือพิมพ์พัฒนามาจากสังคมที่เจริญแล้ว…

3.         ข่าวหนัก (Hard News) มีคุณสมบัติอย่างไร

(1)       ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์

(2)       ให้คุณค่าแกผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward)

(3)       ให้คุณค่าแก่ผู้อ่านอย่างรวดเร็ว (Immediate Reward)

(4)       ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน

ตอบ 2 หน้า 441, (คำบรรยาย) ข่าวหนัก (Hard News) คือ ข่าวที่ให้น้ำหนักต่อความสำคัญของเรื่อง มากกว่าอย่างอื่น ซึ่งมักจะเป็นเรื่องราวที่ให้ผลตอบแทนหรือให้คุณค่าแก่ผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward) ดังนั้นผู้อ่านจึงต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการอ่านพอสมควร โดยส่วนใหญ่ มักเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์คุณภาพ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวปัญหาสังคม ฯลฯ

4.         สาเหตุสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์มีหลายกรอบ ได้แก่

(1) รักษายอดขายของหนังสือพิมพ์     (2) สนองการทำข่าวตลอด 24 ชั่วโมง

(3) ตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้           (4) เป็นนโยบายของหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ ๆ

ตอบ 3 หน้า 5, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวันโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูง มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาปิดข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องเขียนข่าวให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด เพื่อจะได้จัดพิมพ์ให้ทันจำหน่าย ทั้งๆที่เหตุการณ์ของข่าวนั้นยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นหนังสือพิมพ์จึงอาจตีพิมพ์วันละหลายกรอบเพื่อให้สะดวกต่อการจำหน่าย และสามารถตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้ ทำให้เนื้อหาบางส่วนของหนังสือพิมพ์วันเดียวกัน แต่คนละกรอบจึงอาจแตกต่างกันได้

5.         หนังสือพิมพ์ใดนิยมตีพิมพ์วันละหลายกรอบ

(1)       หนังสือพิมพ์ประชานิยม          (2) หนังสือพิมพ์คุณภาพ

(3) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก       (4) หนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

6.         ข่าวประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่(1)       ความสด ความน่าสนใจ ความก้าวหน้า           (2) ข้อเท็จจริง บรรณาธิการ นักข่าว

(3) ความน่าสนใจ ข้อเท็จจริง ผู้อ่าน    (4) บรรณาธิการ นักข่าว ผู้อ่าน

ตอบ 3 หน้า 38 ข่าวประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญ 3 ประการ คือ

1.         ความน่าสนใจ (Interest)  2. ข้อเท็จจริง (Facts)         3. ผู้อ่าน (Readers)

7.         ข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจได้นั้นควรมีลักษณะอย่างไร

(1) ต้องเป็นความจริง  (2) ต้องมีจำนวนมากพอ

(3) ต้องมีความเป็นกลาง         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 29 ข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือดีที่สุดนั้น จะต้องเป็นความจริง มีความเป็นกลาง และมีจำนวนมากพอ แต่ในความเป็นจริงแล้วประชาชน หรือพลเมืองยังมีช่องว่างในการรับรู้และการทำความเข้าใจกับความเป็นจริง ดังนั้นการตัดสินใจ ของคนเราจึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลที่มีข้อจำกัด

8.         ข้อใดมีรูปแบบเฉพาะที่แตกต่างจากข้ออื่น

(1) หนังสือพิมพ์กำแพง           (2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid)

(3) หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) (4) หนังสือพิมพ์เนื้อหาเฉพาะเรื่อง

ตอบ 1 หน้า 7-8, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์แบ่งตามรูปแบบหรือขนาดรูปเล่มได้ 2 ขนาด ดังนี้

1.         หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) เป็นหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ หนังสือพิมพ์ทั่วไป หนังสือพิมพ์ประชานิยม หนังสือพิมพ์คุณภาพ หนังสือพิมพ์เฉพาะเรื่อง ฯลฯ

2.         หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) มีขนาดครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (ส่วนหนังสือพิมพ์กำแพงจะจัดทำเป็นแผ่นเหมือนโปสเตอร์ปะติดไว้ตามกำแพง)

9.         บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) ของหนังสือพิมพ์ มีผลต่อข้อดมากที่สุด

(1) การไหลของข่าวสารสู่สาธารณชน (2) การบริหารงานของหนังสือพิมพ์

(3) การทำงานของนักข่าว       (4) การทำงานของบรรณาธิการ

ตอบ 1 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง/ประเมินคุณค่าเนื้อหา ของข่าวสาร และตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไรหรือจะคัดเลือกข่าวนั้นๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึงพื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

10.       สิ่งใดเป็นเอกสารที่บันทึกประวัติศาสตร์รายวัน

(1) วารสาร      (2) นิตยสาร     (3) ใบปลิว       (4) หนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 1 หนังสือพิมพ์ใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ เนื่องจากหนังสือพิมพ์ได้บันทึก เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไว้ บันทึกข้อคิด/ความเห็นต่าง ๆ ในแต่ละยุคสมัย จนกระทังมีผู้กล่าวว่า หนังสือพิมพ์เป็นเอกสารที่บันทึกประวัติศาสตร์รายวัน

ข้อ 11. – 13. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       To Inform          

(2) To Entertain 

(3) To Advertise 

(4) To Give Opinion

11.       คอลัมน์ซุบซิบในหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 1546, (คำบรรยาย) หน้าที่การให้ความบันเทิง (To Entertain) คือ การนำเสนอเนื้อหา เพื่อให้ผู้อ่านผ่อนคลายความเคร่งเครียดจากเนื้อหาหนัก ๆ ซึ่งเนื้อหาเพื่อความบันเทิงอาจ ปรากฏในรูปแบบของการ์ตูน เรื่องสั้น การนำเรื่องราวของละครโทรทัศน์มาตีพิมพ์ล่วงหน้า คอลัมน์ซุบซิบต่าง ๆ และคอลัมน์พยากรณ์ชะตาชีวิต เป็นต้น

12.       การเดินทางไปอวยพรวันเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศ

ตอบ 1 หน้า 14 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทั้งทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าว สารคดี ประกาศแจ้งความ หรืออื่น ๆ

13.       การตีพิมพ์คำทำนายชะตาชีวิต

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

14.       การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบใด

(1) รัฐบาลเป็นเจ้าของ (2) เป็นบริษัทมหาชน

(3) เป็นห้างหุ้นส่วน     (4) เอกชนเป็นเจ้าของ/กิจการของครอบครัว

ตอบ 3 หน้า 11 – 12, (คำบรรยาย) การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบเอกชนเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งอาจจะแบ่งการดำเนินงานออกได้เป็น 3 แบบ ดังนี้

1.         เจ้าของเป็นผู้ประกอบการเองหรือเป็นกิจการของครอบครัว ซึ่งรูปแบบนี้เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ

2.         ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ซึ่งหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบนี้กันมาก

3.         บริษัทมหาชน ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ได้ขยายตัวขึ้นมากในปัจจุบัน

ข้อ 15. – 18. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Watchdog    (2) Gatekeeper (3) Informer       (4) Ombudsman

15.       การติดตามข่าวคุณภาพของข้าวที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล

ตอบ 1 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทำอันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทำงานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่ เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อทำให้สังคมโปร่งใสและสามารถป้องปรามการคอร์รัปชั่นได้

16.       นักข่าวเลือกไปทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีแทนที่จะทำข่าวการโยกย้ายตำรวจตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 9. ประกอบ

17.       การรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตอบ 3 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นผู้แจ้งข่าวสาร (Informer) คือ หนังสือพิมพ์จะเข้าไปในชุมชนต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นข่าว บทความ สารคดี ฯลฯ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ ประชาชนได้รับรู้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และมากพอ จึงถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ เพราะเนื้อหาหลักที่มีมากที่สุดในหนังสือพิมพ์ก็คือ ข่าว (News) ดังบั้นการที่ หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวสารที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และความคิดเท่าทันโลก

18.       การรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดน้ำมัน

ตอบ 4 หน้า 18161169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่

1.         การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไปสืบหาข้อมูล แล้วนำมารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

2.         การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ประชาชน ประหยัดน้ำมัน ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ บริจาคเงิน/สิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯลฯ

19.       กลุ่มใดมีบทบาทน้อยในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม

(1)       กลุ่มนักศึกษา (2) กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ    (3) กลุ่มนักการเมือง    (4) กลุ่มข้าราชการประจำ

ตอบ 1 หน้า 192129 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคมจำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานกลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ          2. กลุ่มนักการเมือง         3. กลุ่มข้าราชการประจำ

20.       ข้อใดเป็นอำนาจเชิงโครงสร้างของหนังสือพิมพ์        

(1) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา

(2)       หนังสือพิมพ์เข้าถึงมวลชนอันหลากหลายได้อย่างรวดเร็ว

(3)       หนังสือพิมพ์ขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่   (4) หนังสือพิมพ์มักได้รับความเกรงใจจากคนทุกกลุ่ม

ตอบ 2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีอำนาจในตัวเอง ซึ่งอำนาจนี้แน่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่

1.         อำนาจเซชิงโครงสร้าง คือ หนังสือพิมพ์มีความเป็นสถาบันสาธารณะ จึงสามารถเข้าถึง มวลชน/ประชาชนที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

2.         อำนาจเชิงจิตวิทยา คือ หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสารข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง

3.         อำนาจเชิงปทัสถาน คือ หนังสือพิมพ์ถูกมองว่าเป็นผู้สืบเสาะแสวงหาข่าวสารมานำเสนออย่างเป็นกลาง และขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่ จึงได้รับความไว้วางใจจากสังคม

ข้อ 21 – 24. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) บทบรรณาธิการ     (2) บทปริทัศน์ (3) บทวิจารณ์ (4) สารคดี

21.       บทความใดสำคัญที่สุด

ตอบ 1 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้น เพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ทีมีต่อเรื่องที่เขียน

22.       เป็นการแสดงความเห็นและประเมินคุณค่าของสิ่งที่เขียนถึง

ตอบ 3 หน้า 44, (คำบรรยาย) บทวิจารณ์ (Criticism) หมายถึง งานเขียนที่มีการใช้ความรู้อย่างมีศิลปะ เพื่อการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของชิ้นงานต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นผู้เขียนจึงต้องเป็นผู้ที่ มีความรู้ในเรื่องที่จะวิจารณ์เป็นอย่างดี โดยควรวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีจรรยาบรรณ สร้างสรรค์ และควรวิจารณ์ทั้งในแง่บวกและลบ รวมทั้งมีเหตุผลประกอบการแสดงความคิดเห็น เพื่อมุ่งให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้ง และสามารถพิจารณาข้อดีข้อเสียในชิ้นงานนั้น ๆ ได้

23.       เน้นองค์ประกอบด้าน Human Interest มากกว่าความสด

ตอบ 4 หน้า 45 มาลี บุญศิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เป็นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ความรู้ และในเวลาเดียวกันก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด

24.       เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

ข้อ 25. – 28. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Official Gazette (2) News Letters (3) Pamphlets   (4) News Sheets

25.       เป็นต้นกำเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 55 จดหมายเหตุการค้า (News Letters) เกิดจากพ่อค้าชาวยิวในสมัยกลางมีความคิดว่า ในการทำการค้านั้นพ่อค้าจะต้องรู้ข่าวสารบ้านเมืองควบคู่กันไป จึงมีการรวบรวมข่าวสารบ้านเมือง และข่าวการค้าขายในรูปแบบจดหมายเหตุการค้าส่งให้แก่กันและกัน โดยเน้นเพื่อประโยชน์ ทางการค้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงถือเป็นต้นกำเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

26.       เป็นต้นกำเนิดของข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์ กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีน ใช้สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็น ต้นกำเนิดของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

27.       เป็นต้นกำเนิดของการโฆษณาในหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 55 ใบปลิวข่าว (News Sheets) เป็นเรื่องที่ผู้พิมพ์หรือผู้ว่าจ้างเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป จึงต้องการแจ้งข่าวสารให้คนจำนวนมากได้รับรู้ โดยมักจะแจกจ่ายฟรีมากกว่าขาย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการโฆษณาสินค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

28.       เป็นต้นกำเนิดของบทความและบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์

ตอบ 3 หน้า 55 จุลสาร (Pamphlets) เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเน้นหนักในด้านการวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองและการนับถือศาสนา โดยผู้เขียนบทความส่วนใหญ่ จะเป็นผู้มีความรู้ จึงถือเป็นต้นกำเนิดของการเซียนบทความ ได้แก่ บทบรรณาธิการ (Editorial) และบทวิจารณ์ (Criticism) ใบหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

ข้อ 29. – 31. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) John Waiter I (2) john Wilkes        (3) Rupert Murdoch (4) William Carter

29.       คนแรกในประวัติคาสตร์หนังสือพิมพ์อังกฤษที่ถูกแขวนคอเพราะใช้หนังสือพิมพ์ต่อต้านรัฐบาล

ตอบ 4 หน้า 57 ในปี ค.ศ. 1584 วิลเลี่ยม คาร์เตอร์ (William Carter) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้ออกจุลสารต่อต้านทางราชการในยุคอำนาจนิยมได้ถูกฝ่ายบ้านเมืองลงโทษด้วยการแขวนคอ ในข้อหาตีพิมพ์จุลสารสนับสนุนนิกายต้องห้าม ดังนั้นจึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่มีนักหนังสือพิมพ์ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

30.       เป็นผู้เรียกร้องให้นักหนังสือพิมพ์เข้าไปรายงานข่าวการประชุมรัฐสภาได้สำเร็จ

ตอบ 2 หน้า 59 – 60 ในปี ค.ศ. 1762 จอห์น วิลค์ส (John Wilkes) ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์นอร์ธ โบรตัน (North Briton) ได้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ โดยขอให้รัฐบาลอังกฤษยินยอมให้ นักหนังสือพิมพ์เข้าไปฟัง (รายงาน) ข่าวการประชุมรัฐสภาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งต่อมารัฐสภาอังกฤษต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องนี้ในปี ค.ศ. 1771 จึงทำให้เขาได้รับ การยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

31.       เป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ The Times

ตอบ 1 หน้า 61, (คำบรรยาย) จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) คือ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ “The Times” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับความเชื่อมันศรัทธา จากประชาชนผู้อ่านทั่วโลกไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้เพราะการประกาศนโยบายเป็นกลาง ไม่เป็นแนวร่วมกับกลุ่มการเมืองใด ทำให้ The Times ก้าวมายืนในตำแหน่งผู้นำของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ เป็นสัญลักษณ์ของความมีจริยธรรม พร้อมกับได้รับการสรรเสริญว่า “ เป็นแบบอย่างที่แท้จริง ของสิ่งที่เป็นหรือจะเป็นประชามติของชาวอังกฤษ

32.       ข้อความว่า ถ้าหากการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนแล้ว ไม่ถือว่าหมิ่นประมาท” สำคัญอย่างไร

(1)       เป็นคดีตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาล

(2)       เป็นเนื้อหาสำคัญของกฎหมายหมิ่นประมาท

(3)       เป็นก้าวแรกของการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญของกฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

33.       Join or Die คืออะไร

(1)       ภาพการ์ตูนการเมือง

(2)       บทความต่อต้านรัฐบาลอังกฤษที่ปกครองชาวอเมริกัน

(3)       หัวข้อข่าวที่มีชื่อเสียงในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองของอเมริกา     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 74 – 75168 – 169 ในปี ,ศ. 1754 หนังสือพิมพ์ Pennsylvania Gazette ของ เบนจามีน แฟรงคลิน ได้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนการเมืองภาพแรก เป็นภาพงูที่มีลำตัวแยกเป็น 8 ชิ้น แต่ละชิ้นหมายถึงอาณานิคมแต่ละรัฐของอเมริกา และมีคำบรรยายเขียนว่า Join or Die ซึ่งเป็นการรณรงค์เรียกร้องให้ชาวอาณานิคมร่วมมือกันต่อต้านอังกฤษที่ปกครองชาวอเมริกัน และต้องการให้รวมอาณานิคมทั้ง 8 เข้าด้วยกัน เพื่อการปกครองตนเองของสหรัฐอเมริกา

34.       Yellow Journalism คืออะไร

(1)       บทความการเมืองที่มีชื่อเสียงในหนังสือพิมพ์อเมริกัน (2) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ

(3) การ์ตูนล้อเลียนการเมือง   (4) การรับสินบนของหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม เกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบัน กับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

35.       หนังสือพิมพ์เครือข่ายเกิดขึ้นสมัยใด

(1)       ยุคปลายศตวรรษที่ 18            (2) ยุคปลายศตวรรษที่ 19

(3) ยุคปลายศตวรรษที่ 20      (4) ยุคปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา

ตอบ 3 หน้า 84 ในช่วงปลายของยุค Yellow Journalism (ยุคปลายศตวรรษที่ 19) หนังสือพิมพ์ ก็ได้เข้าสู่ยุคหนังสือพิมพ์ลูกโซ่หรือหนังสือพิมพ์เครือข่าย ได้แก่ การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ หลาย ๆ ฉบับในขณะเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะของหนังสือพิมพ์ในศตวรรษที่ 20 โดยบุคคลแรก ที่ริเริ่มกิจการหนังสือพิมพ์เครือข่าย คือ สองพี่น้องตระกูล Scripps

36.       The Big Three of Japan คืออะไร

(1)       ความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาของญี่ปุ่น

(2)       นโยบายการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น 3 ประการ

(3)       หนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น

(4)       นโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ 3 ประเภท ได้แก่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา

ตอบ 3 หน้า 89 The Big Three of Japan คือ หนังสือพิมพ์ขนาดยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น ซึ่งได้แก่ อาซารี (Asahi), ไมนิชิ (Mainichi) และโยมิอุริ (Yomiuri)

ข้อ 37. – 40. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 4  (2) รัชกาลที่ 5  (3) รัชกาลที่ 6  (4) รัชกาลที่ 7

37.       เทียนวรรณ และ ก.ศ.ร.กุหลาบ เป็นนักหนังสือพิมพ์ในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 104 – 105 นักหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่ามีความคิด ก้าวหน้า (หัวสมัยใหม่) ฝีปากคม กล้าพูด ตรงไปตรงมา โดยไม่เกรงกลัวผู้ใด มี 2 คน คือ

1.         ต.ว.ส.วัณณาโภ มีนามปากกาว่าเทียนวรรณ เจ้าของหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ

2.         ก.ศ.ร.กุหลาบ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามประเภทสุนทโรวาทพิเศษ

38.       สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

39.       การเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ไทยเริ่มขึ้นในสมัยใด

ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้ 1. มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)      2. มีการพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าแรก 3. มีการเขียนวรรคนำ (Lead)  4. เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อและการ์ตูน            5. มีการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

40.       กฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทยถูกตราขึ้นในสมัยใด

ตอบ 3 หน้า 109112 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้ตรา พ.ร.บ.ว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2465 ขึ้นเป็น พ.ร.บ. การพิมพ์หรือกฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทย ทั้งนี้เพราะสมัยนั้น มีหนังสือพิมพ์ออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ยากต่อการควบคุมดูแล โดยบางฉบับตีพิมพ์ข่าวรุนแรงเกินกว่าเหตุแต่ไม่สามารถหาตัวบรรณาธิการได้ ดังนั้นจึงนับว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้สามารถควบคุม ดูแลหนังสือพิมพ์ได้ในระดับหนึ่ง

41.       หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน

(1) ยุคมืด 2501 – 2512          

(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

(3) ยุคเริ่มต้นเสรีภาพ  

(4) ยุคสำลักเสรีภาพ

ตอบ 2 หน้า 117, (คำบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 นับได้ว่าเป็นยุคมืดของวงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคำสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน โดยให้เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปขอใบอนุญาตประกอบการจาก เจ้าพนักงานการพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อควบคุมหนังสือพิมพ์ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเอาไว้

42.       ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1) บรรณาธิการใหญ่  

(2) เจ้าของผู้ลงทุน    

(3) บรรณาธิการบริหาร 

(4) หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทาง ของหนังสือพิมพ์ และมีอำนาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

43.       ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้ 1. บรรณาธิการรับข่าวมาจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/ วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย2. ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว            3. แปลข่าว      4. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว  5. บรรณาธิการจัดหน้า            6. ฝ่ายผลิต     7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

44.       ตามสายการเดินทางของข่าวกีฬา ขั้นตอนแรกของงานได้แก่

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว

(3) การออกไปสื่อข่าว  (4) พาดหัวข่าว

ตอบ3 หน้า 132136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.         ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2.         บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ 3. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

4. บรรณาธิการจัดหน้า            5. ฝ่ายผลิต 6. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 45. – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สารคดี โฆษณา     (2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน

(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น        (4) ภาพข่าว โฆษณา

45.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็น หน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ชื่อหนังสือพิมพ์     2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)   3. ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด) 4. ภาพข่าว 5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา 7. คอลัมน์ประจำ (อาจมี หรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัวของบรรณาธิการ

46.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ 1. บทบรรณาธิการ        2. ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ 3. จดหมายถึงบรรณาธิการ     4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น(Press Digest) 5. องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่ เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

47.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

48.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน

ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าในมีดังนี้          1.โฆษณา 2.ภาพ 3.หัวเรื่อง 4. คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนำ ขำขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

49.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ตูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ

50.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า (2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม (3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง  (4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจจะ มุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้ง ข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

51.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน         

(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด   

(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยูกับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

52.       ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า           

(2)       การเรียงพิมพ์ 

(3)       การพาดหัวข่าว           

(4)       การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับเสร็จแล้ว ก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้น ฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

53.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1) โต๊ะข่าวกีฬา          

(2)       ห้องบรรณาธิการ        

(3)       ห้องภาพ         

(4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสือข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

54.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1) บรรณาธิการบริหาร          

(2)       บรรณาธิการข่าว        

(3)       บรรณาธิการโต๊ะข่าว  

(4)       ผู้สื่อข่าว

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเสือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุมกองบรรณาธิการ)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว

3.         วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว

4.         พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ 

55.       โต๊ะข่าวใดมีขนาดใหญ่ที่สุด

(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ  

(2) โต๊ะข่าวการเมือง   

(3) โต๊ะข่าวกีฬา          

(4) โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 หน้า 127134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสำคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ มีข่าวใดซึ่งกำลังได้รับความสนใจ จากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณาตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสำคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

56.       งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ

(1) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์         

(2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก

(3) การขอโฆษณา      

(4) การออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว

ตอบ 4 หน้า 123 งานที่สำคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่

1.         งานด้านบริหาร-ธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งานการเงิน-บัญขี งานพัสดุ ฯลฯ

2.         งาบด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจำหน่ายและงานโฆษณา (ถือเป็นงานหลักของฝ่ายจัดการ)

รวมทั้งงานการพิมพ์ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างจากการพิมพ์หนังสือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 52. ประกอบ)

ข้อ 57. – 61. จงใข้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม     

(1) การจัดหน้าแนวนอน       

(2) การจัดหน้าสมดุลแตกต่าง

(3) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ      

(4) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ

57.       จัดหน้าง่ายที่สุด

ตอบ 1 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

58.       นิยมใช้ในการจัดหน้ามากที่สุด

ตอบ 2 หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้าที่ นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริงซึ่งจะดูเรียบเกินไป

59.       ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นมาก ๆ เพียงข่าวเดียว

ตอบ 3 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็พิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นซึ่งมีความสำคัญ น้อยลงมา โดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

60.       ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว

ตอบ 4 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็น การจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าว และจัดคอลัมน์ไห้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจ จากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้น มีความสำคัญเท่าเทียมกัน

61.       ใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 57. ประกอบ

62.       ผู้ใดทำหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว

(1) Editor   

(2) Copy Reader 

(3) Proof Reader 

(4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

63.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาหั    (2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

(3)       หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท    (4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดสถาบันการศึกษา

ตอบ 1 หน้า 126, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรใน กองบรรณาธิการน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเล็ก รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา ทั้งนี้เพราะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์มีบุคลากรเพียงผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน) เท่านั้น

64.       หลักการใดไม่ใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา (2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ well หน้าเดี่ยว        (4) การจัดแบบ well สองหน้าคู่

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้   1. แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)

2. แบบ Well หน้าเดี่ยว 3. แบบ Well สองหน้าคู่ 4. แบบ Island (แบบเกาะ)

5.         แบบแนวบอนล่าง        6. แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

65.       หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        (2) ความสมดุล           (3) ความเด่น   (4) ความหลากหลาย

ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับ หลักการทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ

1.         การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance)

2.         การลำดับความสำคัญของเรื่อง 

66.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป็    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163, (ดูคำอธิบายข้อ 56. ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการ มากกว่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่าย บรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

67.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1) หน้าบรรณาธิการ   (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่นๆ ของหน้า

68.       โต๊ะข่าวใดมีความสำคัญมากที่สุด

(1) โต๊ะข่าวการเมือง    (2) โต๊ะข่าวสังคม        (3) โต๊ะข่าวเครษฐกิจ   (4) โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69.       Size คีออะไร

(1) แบบของพาดหัวข่าว          (2) ขนาดของพื้นที่สำหรับหัวข่าว

(3) ขนาดของตัวอักษร (4) ขนาดของคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซี่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์ จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (2.54 ซม.)

70.       ข้อใดไม่ใช่แบบของตัวอักษร

(1) ตัวหนา       (2) ตัวเอียง      (3) ตัวยก         (4) ตัวธรรมดา

ตอบ 3 หน้า 175179, (คำบรรยาย) แบบของตัวอักษรที่ใช้พิมพ์ (Font) ได้แก่ รูปร่างลักษณะของตัวอักษรที่เกิดจากการออกแบบ อาจมีรูปร่างกลม ป้อม สูงยาว กว้างแคบ หรือคล้ายตัวเขียน ซึ่งปัจจุบันหนังสือพิมพ์มักนิยมจัดหน้าโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมบรรจุแบบของตัวอักษร ที่มีอยู่มากมายหลายแบบและตั้งชื่อไว้ต่าง ๆ กัน เช่น Angsana UPC, Cordia UPC ฯลฯ

71.       ข้อใดเป็นหน่วยวัดขนาดของตัวอักษร

(1) ไพก้า (Pica)      (2) พอยท์ (Point)

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 69. ประกอบ

72.       งานหลักของ Rewriter คือข้อใด

(1) ช่วยบรรณาธิการตรวจข่าว และเรียบเรียงข่าวใหม่

(2) เขียนพาดหัวข่าว

(3) เขียนข่าวที่มีผู้ส่งมาจากภายบอกสำนักงาน         

(4) ถูกทุกข้อ 

ตอบ 3 หน้า 131 ผู้เรียบเรียงข่าว (Rewriter) คือ ผู้ที่อยู่ประจำสำนักพิมพ์เพื่อทำหน้าที่เรียบเรียงข่าว ที่ส่งเข้ามาจากภายนอกสำนักงาน โดยจะเขียนข่าวให้อยู่ในรูปแบบของข่าวก่อนส่งไปพิมพ์ ทั้งนี้ผู้เรียบเรียงข่าวมักจะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการสื่อข่าวมาก่อน จึงทำให้สามารถจับประเด็นข่าวได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

73.       โดยทั่วไปการจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์ นิยมวางภาพโฆษณาไว้ที่ตำแหน่งใด

(1) ด้านซ้ายบนของหน้าพิมพ์ (2) ด้านซ้ายล่างของหน้าพิมพ์

(3) วางไว้บริเวณกลาง ๆ ของหน้าพิมพ์           (4) ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 160, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจัดหน้าในโดยวางภาพไว้ตรงมุมซ้ายและขวา ของหน้า เพราะถือว่าบริเวณนี้มีความสำคัญที่สุด โดยภาพซึ่งวางตรงมุมซ้ายด้านบนจะเป็นสิ่งที่มาถ่วงน้ำหนักกับภาพโฆษณาที่นิยมวางอยู่ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์นั้น แต่บางครั้งอาจวางภาพ ไว้ตรงส่วนล่างของหน้าก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีโฆษณาจำนวนน้อย (เพียง 2 หรือ 3 ชิ้น)

74.       การจัดวางภาพไว้ส่วนล่างของหน้าพิมพ์ มีประโยชน์อย่างไร

(1) จัดหน้าง่าย            (2) เปิดโอกาสให้วางโฆษณาบริเวณส่วนบนของหน้าพิมพ์ได้

(3) เป็นการเฉลี่ยความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์   (4) เหมาะกับการจัดหน้าซึ่งมีภาพจำนวนน้อย

ตอบ 3 หน้า 160 การจัดวางภาพไว้ตรงส่วนล่างของหน้าพิมพ์จะทำให้เกิดความสมดุล เป็นการเฉลี่ย ความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์ และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงโฆษณาอีกด้วย เพราะภาพจะช่วย ดึงสายตาของผู้อ่านไปยังโฆษณาหรือบริเวณใกล้เคียงกับโฆษณาตรงส่วนล่างได้เป็นอย่างดี

75.       คอลัมน์แบบเปิดมีประโยชน์อย่างไร

(1) แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน   (2) จัดข้อความเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมได้ง่าย

(3) จัดง่ายกว่าคอลัมน์แบบปิด           (4) ดูโปร่ง สบายตา น่าอ่าน

ตอบ 4 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใข้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน จึงจัดหน้าได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

76.       ข้อใดสามารถสร้างเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

(1) วิธีการจัดหน้า        (2) ขนาดของหนังสือพิมพ์

(3) คำขวัญของหนังสือพิมพ์    (4) ชื่อหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 141 เอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์จะเกิดขึ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าพิมพ์ เพื่อให้ ผู้อ่านเคยชินและจำหนังสือพิมพ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องดูชื่อหนังสือพิมพ์ ได้แก่ ขนาดของหนังสือพิมพ์ (มีผลต่อเอกลักษณ์ของหนังลือพิมพ์น้อยที่สุด) จำนวนหน้ารูปแบบของตัวอักษร สี แนวของภาพ ที่เสนอ แนวของถ้อยคำที่ใข้พาดหัวข่าว และที่สำคัญคือ รูปแบบหรือวิธีการจัดหน้า ซึ่งสามารถ สร้างเอกลักษณ์ได้ดีที่สุด เพราะหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับนั้นจะมีแนวการจัดหน้าของตนเองโดยเฉพาะ

77.       หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง แบ่งหนัาพิมพ์เป็นกี่คอลัมน์

(1) 5 คอลัมน์   (2) 6 คอลัมน์   (3) 7 คอลัมน์   (4) 8 คอลัมน์

ตอบ 2 หน้า 139, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก CTabloid) จะมีจำนวนคอลัมน์น้อย (4-8 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์ฝึกหัดอาร์ยูบิวส์ (RU News) และหนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง แบ่งหน้าพิมพ์ เป็น 6 คอลัมน์ ฯลฯ ส่วนหนังสือขนาดใหญ่ (Full Size) หรือหนังสือพิมพ์มาตรฐาน (Standard Size) จะมีจำนวนคอลัมน์มาก (8 – 12 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แบ่งหน้าพิมพ์เป็น 12 คอลัมน์ ฯลฯ

78.       ข้อใดจัดวางตำแหน่งชื่อของหนังสือพิมพ์แบบคงที่

(1) ไทยรัฐ        (2) มติชน         (3) สยามรัฐ     (4) เดลินิวส์

ตอบ 3 หน้า 146, (คำบรรยาย) ชื่อหนังสือพิมพ์ (Name Plate) เบ่รืยบเสมือนเครื่องหมายการค้า ซึ่งต้องการให้เป็นที่รู้จัก จดจำ และสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ โดยสามารถจัดได้ 2 รูปแบบ คือ           1. แบบคงที่ เป็นการวางชื่อหนังสือพิมพ์ที่เดิมทุกวัน ๆ เช่น หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ ฯลฯ 2. แบบไม่คงที่ เป็นการเปลี่ยนที่วางชื่อหนังสือพิมพ์ ไปทุกวัน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มติชน ข่าวสด เดลินิวส์ คมชัดลึก ฯลฯ

79.       การจัดแบ่งส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์มีประโยชน์อย่างไร

(1) หนังสือพิมพ์มีความหนามากขึ้น    (2) จัดเรื่องให้เป็นหมวดหมู่ได้ง่าย

(3) ราคาจำหน่ายสูงขึ้น           (4) หนังสือพิมพ์มีความน่าสนใจมากขึ้น

ตอบ 2 หน้า 31-32 การที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ขยายตัวและมีการแข่งขันสูงขึ้น ประกอบกับผู้บริโภค ต้องการข่าวสารมากขึ้น ทำให้หนังสือพิมพ์มีเนื้อหาและมีความหนามากเกินไป จึงมีการจัดแบ่ง ส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้สามารถจัดเรื่องให้เป็นหมวดหมู่ ได้ง่าย ทำให้อ่านง่ายไม่สับสน และรู้สึกว่าหนังสือพิมพ์มีจำนวนหน้ามากขึ้นจนคุ้มค่าต่อการ ซื้อหามาอ่าน

80.       ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) มีประโยชน์อย่างไร 

(1) จัดหน้าง่าย

(2)       หนังลือพิมพ์มีความสวยงามกว่าการจัดแบบช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ)

(3)       เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหาสั้น   

(4) เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว

ตอบ 4 หน้า 141, (คำบรรยาย) การแบ่งจำนวนคอลัมน์น้อยจะทำให้ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) ขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว แต่ไม่สามารถลงข่าวที่หลากหลาย และการจัดควบหรือ จัดแทรกจะทำได้ยาก ในขณะที่การแบ่งจำนวนคอลัมน์มากจะทำให้ช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ) ขึ้น ซึ่งจะทำให้บรรจุเรืองราวที่สั้น ๆ ได้หลายเรื่อง และแทรกเนื้อหาได้ง่าย แต่ก็จะอ่านยากกว่า

81.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบัน คือฉบับใด

(1) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2540        

(2) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2545

(3) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2550        

(4) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2551

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ การพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

82.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ฉบับที่ใช้ปัจจุบัน เนื้อหาใดยังยึดเป็นหลักการเดิม

(1) ด้านการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์   

(2) ด้านการอนุญาตให้ทำหนังสือพิมพ์

(3) ด้านการจัดจำหน่าย           

(4) ด้านการกำหนดราคาหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 (คำบรรยาย) เนื้อหาที่ยังคงยึดเป็นหลักการเดิมของ พ.ร.บ. การพิมพ์ฉบับปัจจุบัน คือ

ด้านการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ โดย พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ค. 2550 มาตรา 15 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณาต้องมีคุณสมบัติและ ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนื้         

1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ)

2.         มีสัญาติทย 

3. มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร

4.         ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

5.         ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

83.       ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ข้อใดจะเป็นนิติบุคคลไม่ได้

(1) ผู้พิมพ์        (2) ผู้โฆษณา   (3) เจ้าของหนังสือพิมพ์ (4) บรรณาธิการ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 7 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีนิติบุคคล เป็นผู้พิมพ์หรือผู้โฆษณา กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนอื่นของนิติบุคคลนั้น ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย และมาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ที่เป็นนิติบุคคลต้องมีบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเป็นผู้มีสัญชาติไทยด้วย (ส่วนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องเป็นบุคคลธรรมดา จะเป็นนิติบุคคลไม่ได้)

84.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ไมใช้บังคับสิ่งพิมพ์ใด

(1) ใบเสร็จรับเงิน        (2) แผนที่         (3) แผ่นเสียง แผ่นชีดี  (4) บทเพลง

ตอบ 1 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ค. 2550 มาตรา 5 ระบุว่า พระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังต่อไปนื้ คือ

1.         สิ่งพิมพ์ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

2.         บัตร บัตรอวยพร ตราสาร แบบพิมพ์ และรายงานซึ่งใช้กันตามปกติในการส่วนตัว การสังคม การเมือง การค้า หรือสิ่งพิมพ์ที่มีอายุการใช้งานสั้น เช่น แผ่นพับหรือแผนโฆษณา ใบเสร็จรับเงิน

3.         สมุดบันทึก สมุดแบบฝึกหัด หรือสมุดภาพระบายสี

4.         วิทยานิพนธ์ เอกสารคำบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทำนองเดียวกัน ที่เผยแพร่ในสถานศึกษา

85.       ผู้ใดมีอำนาจสั่งระงับการนำสิ่งพิมพ์เข้ามาในราชอาณาจักร

(1) อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ        (2) อธิบดีกรมราชทัณฑ์

(3) ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ       (4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 10 ระบุว่า ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจออกคำสั่งโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ห้ามสั่งเข้าหรือนำเข้าเพื่อเผยแพร่ ในราชอาณาจักร ซึ่งสิ่งพิมพ์ใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์…

86 บุคคลที่มิสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย หมายถึง

(1) บุคคลธรรมดา       (2) นิติบุคคล   (3) นายกรัฐมนตรี        (4) รัฐมนตรี

ตอบ1 (คำบรรยาย) บุคคลธรรมดา” หมายถึง บุคคลที่มิสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วน นิติบุคคล” หมายถึง บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย โดยกฎหมายรับรอง ให้มิสิทธิและหน้าที่ได้เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา

87 บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย หมายถึง

(1) บุคคลธรรมดา       (2) นิติบุคคล   (3) นายกรัฐมนตรี        (4) รัฐมนตรี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 86. ประกอบ

88  ข้อมูลข่าวสารใดที่รัฐต้องเป็ดเผย

(1) แผนงานและงบประมาณประจำปี            (2) สัมปทานที่มีลักษณะผูกขาดตัดตอน

(3) ผลการพิจารณาคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการประมูลโครงการ   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 188190 ข้อมูลข่าวสารที่รัฐต้องเปิดเผย ต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้

ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 มีดังนี้

1.         ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน (เช่น ผลการประมูลโครงการ)

2.         แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปี

3. คู่มือหรือคำสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

4. สัญญาสัมปทาน สัญญาที่มีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือสัญญาร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ       

5. มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน ฯลฯ

89.       ข้อใดอยู่ใน พ.ร.บ. การพิมพ์

(1) การตีพิมพ์จุลสารต้องขออนุญาต  (2) การขายแผ่นเสียงหรือซีดีต้องได้รับลิขสิทธิ์

(3) การรับโฆษณาสินค้าใดต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด           (4) ต้องส่งสงพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 9 ระบุว่า ให้ผู้พิมพ์ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา 8 จำนวน 2 ฉบับให้หอสมุดแห่งชาติภายใน 30 วันนับแต่วันเผยแพร่

90.       การพิจารณาคดีโดยใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว มีข้อดีอย่างไร

(1) พิจารณาโดยผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์ (2) พิจารณาโดยลดโทษกึ่งหนึ่งเสมอ

(3) ใช้หลักการพิทักษ์เด็กซึ่งกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสังเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

91.       ข้อใดไม่อยู่ในบทบัญญัติของกฎหมาย

(1)       ห้ามบันทึกภาพของเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามโฆษณาชื่อตัว ชื่อสกุลของเยาวชนนั้น

(3)       ให้พิจารณาคดีในห้องพิเศษที่ไม่ใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา

(4)       ให้พิจารณาคดีโดยรวดเร็ว เพื่อพิทักษ์เด็กและเยาวชน 

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 72 ระบุว่า การพิจารณา คดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจำเลย ให้กระทำในห้องที่มิใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา… และ มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของ เด็กหรือเยาวชน ซึ่งตัองหาว่ากระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุล ของเด็กหรือเยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด หรือสถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

92.       เด็ก ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คือบุคคลกลุ่มใด

(1)0-6ปี           

(2) 7-14ปี        

(3) 15-17ปี     

(4) 18-20ปี

ตอบ 2 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

93.       ท่านใดร่าง ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(1) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (2) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์

(3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 217 – 218 พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ และนักหนังสือพิมพ์ ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน เช่น นายเฉลิม วุฒิโฆสิตนายสถิตย์ เสมานิลนายมาลัย ชูพินิจนายเสลา เลขะรุจิ ฯลฯ ได้ร่วมกันยกร่าง ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2486

94.       จริยธรรมคืออะไร

(1) หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์         (2) แนวการปฏิบัติของคนในวงวิชาชีพ

(3) หลักปฏิบัติที่ตราขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร            (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217, (คำบรรยาย) สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายว่า จริยธรรม หมายถึง หลักแห่งความประพฤติหรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติอันถูกธรรมหรือ ความประพฤติที่เป็นธรรมของนักหนังสือพิมพ์ ส่วนฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึกของบุคคลในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร

ข้อ 95. – 96. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย        (2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย   (4) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

95.       จริยธรรมของนักวิชาชีพที่มีความเป็นสากลที่สุด

ตอบ 4 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่อง ว่ามีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

96.       จริยธรรมของสมาคมใดใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา

ตอบ 3 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้

1. ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)            2. ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)        4. ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏินัติ)        7. ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

97.       ข้อใดไม่ใช่จริยธรรมของหนังสือพิมพ์

(1) ไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว           (2) ไม่ลอกข่าวจากหนังสือพิมพ์อืน

(3) เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้ชี้แจงประเด็นข่าว         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 229 – 230 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ค. 2541 ของ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ข้อ 9 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็น ลงในข่าวข้อ 10 ระบุว่า เมื่อคัดลอกข้อความใดจากหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือแหล่งข้อมูล อื่น ๆ ต้องบอกที่มาของข้อความนั้น และข้อ 11 ระบุว่า การเสนอข่าวที่มีการพาดพิงอันอาจ เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ต้องแสดงถึงความพยายามในการเปิดโอกาสให้ ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาแสดงข้อเท็จจริงด้วย

98.       เหตุใดนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรม

(1)       ควรจะต้องควบคุมกันเอง       (2) มีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยขน์ของสังคมมาก

(3) มีหลายแห่งทำให้ยากต่อการควบคุม         (4) เป็นวิชาชีพอิสระ

ตอบ 2 หน้า 232 ผู้ที่ประกอบวิขาชีพหนังสือพิมพ์ย่อมมีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยขน์ของสังคมมาก ดังนั้นนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องควบคุมความประพฤติและกำกับการทำงาน ของสมาชิก โดยเมื่อมีการประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณก็จะมีหลักเกณฑ์การลงโทษ ซึ่งเป็นโทษทางสังคมมากกว่าโทษทางกฎหมาย ทั้งนี้เพราะจริยธรรมเป็นเรื่องของจิตใจ

99.       ท่านใดเริ่มแนวคิดการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์     

(1) นายชวน หลีกภัย

(2)       ม.ร.ว.คึกฤทธิ๋ ปราโมช (3) รัขกาลที่ 6  (4) นายอานันท์ ปัญยารชุน

ตอบ 2 หน้า 116 เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2518 ก็ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่หนังสือพิมพ์จะต้องมีเสรีภาพควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ จึงได้ร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ ฉบับใหมขึ้นมา เพื่อให้เสรีภาพแก่หนังสือพิมพ์ในการควบคุมกันเองมากขึ้น ซึ่งร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ ดังกล่าวได้เริ่มเสนอแนวคิดให้มีการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์ (Press Council) ขึ้นมา

100.    ข้อใดเป็น อกุศลมูล

(1) ใช้ภาษาและภาพที่หยาบโลน        (2) รายงานข่าวด้วยความลำเอียง

(3)       รายงานข่าวโดยรับอามิสสินจัาง          (4) รายงานข่าวโดยไม่ถือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ตอบ 3 หน้า 227, (ดูคำอธิบายข้อ 96. ประกอบ) ความเป็นไท ได้แก่ ความไม่ตกเป็นทาสของใคร ทั้งกายและจิตใจ จะโดยอามิสสินจ้างอื่นใด ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ ความไม่ตก เป็นทาสของ อกุศลมูล” (คำว่า อกุศลมูล” หมายถึง การตกเป็นทาสของสิ่งใดทั้งร่างกาย และจิตใจ เช่น การรายงานข่าวโดยรับอามิสสินจ้างอันมีค่าหรือผลประโยชน์อื่นใด)

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาค1 ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเข้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1)       การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี  

(2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           

(4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5.ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน โดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21.ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้อง สิทธิหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

2.         ประเทศใดเป็นต้นแบบซองจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์

(1)       อังกฤษ           

(2) ฝรั่งเศส      

(3) สหรัฐอเมริกา         

(4) ญี่ปุ่น

ตอบ 1 หน้า 233, (คำบรรยาย) ประเทศอังกฤษถือเป็นประเทศแม่แบบของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย และเป็นประเทศต้นแบบของจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์ โดยมีคณะกรรมการ รับเรื่องราวร้องทุกข์ของหนังสือพิมพ์ (The Press Complaints Commission) เป็นผู้กำหนด แนวปฏิบัติด้านจริยธรรมสำหรับนักหนังสือพิมพ์ไว้เมื่อ ค.ศ. 1993

3.         ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ           

(1) การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักข้า

4.         การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1)       เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม     (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้องกระทำโดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

5.         ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุวา ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6.         ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) ถูกทุกข้อ

คอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่ามีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

ข้อ 7. – 10.       จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

7.         มีหนังสือพิมพ์ของคนไทยฉบับแรก

ตอบ 2 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ที่ตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

8.         มีนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรก

ตอบ 3 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธ์โกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

9.         พระเจ้าแผ่นดิบเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 108 รัชกาลที่ 6 ทรงเขียนความเห็นลงตีพิมพ์เป็นบทความในหนังสือพิมพ์ของพระองค์เอง และหนังสือพิมพ์อื่น ๆ โดยทรงใช้นามปากกาว่าอัศวพาหุ รามจิตตี และพันแหลม ซึ่งบทความ ที่มีผู้สนใจมาก คือ บทความเรื่อง ยิวแห่งบูรพาทิศ” เป็นเรื่องที่กล่าวถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่อยู่ใต้อิทธิพลของยิวแห่งบูรพาทิศ (ชาวจีน)

10.       มีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันมาก

ตอบ 1 หน้า 99 – 101, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์เริ่มเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 3ซึ่งกิจการการพิมพ์หนังสือในสมัยนี้ล้วนมีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันทั้งสิ้น โดยหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีชื่อว่า บางกอกรีคอร์เดอร์” (Bangkok Recorder) ดำเนินการโดยหมอบรัดเลย์ ซึ่งเป็นหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน

11.  หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน

(1)       ยุค 14 ตุลาคม 2516   

(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

(3) ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ค. 2475  

(4) ยุคสำลักเสรีภาพ

ตอบ 2 หน้า 117, (คำบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 นับได้ว่าเป็นยุคมืดของ วงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคำสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน โดยให้เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปขอใบอนุญาตประกอบการจาก เจ้าพนักงานการพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อควบคุมหนังสือพิมพ์ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเอาไว้

12. ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวนายกรัฐมนตรีไปเยือนต่างประเทศ

(1)       ผู้สื่อข่าวทั่วไป  

(2) ผู้สื่อข่าวประจำ      

(3)       ผู้สื่ข่าวพิเศษ 

(4)ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 1 หน้า 130 ผู้สื่อข่าวทั่วไป (General Assignment Reporter) หมายถึง ผู้สื่อข่าวที่มีความรู้ ความสามารถในการทำข่าวได้ทุกประเภท มักเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีข่าวหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจจะได้รับมอบหมายให้ไปติดตามสื่อข่าว ดังนั้นผู้สื่อข่าวทั่วไป จึงต้องมีความรู้อย่างกว้างขวาง มีทักษะและเทคนิคการหาข่าวพอสมควร ตลอดจนต้องมีความพร้อมและความคล่องตัวในการสื่อข่าวอย่างทันทีทันใด

13.ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1)       บรรณาธิการใหญ่        (2) เจ้าของผู้ลงทุน   

(3)       บรรณาธิการบริหาร     (4)       หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in—Chief) เป็นตำแหนงบริหารสูงสุดขององค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทางของหนังสือพิมพ์และมีอำนาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

14. ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนใดสำคัญที่สุด     

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ       (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุม,กองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอน ที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

15. ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่      

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ

(2)       บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว         (3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวมาจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย  2. ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก

รวบรวม เรียบเรียงข่าว                  3. แปลข่าว   4. ประขุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

5. บรรณาธิการจัดหน้า            6. ฝ่ายผลิต     7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 16. – 20. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       คอลัมน์            (2) สารคดี       (3) บทความ    (4) ข่าว

16.       ข้อใดไม่ควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 2. 3 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็น หน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ชื่อหนังสือพิมพ์ 2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) 3. ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)4. ภาพข่าว   5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา 7. คอลัมน์ประจำ(อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัวของบรรณาธิการ

17.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้น ข้อเขียนที่ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมาย จากผู้อ่านที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

18.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

19.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

20.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ 1. บทบรรณาธิการ 2. ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ๆลๆ 3. จดหมายถึงบรรณาธิการ 4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)        5. องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

21.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า         

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม

(3)       หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง       

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

22.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          

(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3)       การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด          

(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140., (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

23.       ข้อใดไมอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2)       การเรียงพิมพ์  (3)       การถ่ายภาพข่าว         (4)       การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าทีรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

24.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1) โต๊ะข่าวกีฬา           (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3) ห้องภาพ    (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

25.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1) บรรณาธิการบริหาร           (2)       บรรณาธิการข่าว        

(3) บรรณาธิการโต๊ะข่าว         (4)บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

26.       ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของการประชุมกองบรรณาธิการ(1) ทบทวนการทำงาน      (2)เลือกข่าวหน้า 1

(3)เขียนบทบรรณาธิการ         (4)สรุปข่าวในรอบวัน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

27.       ใครเป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าว

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) หัวหน้าข่าว

(3) หัวหน้ากองบรรณาธิการ    (4) หัวหน้าแผนก

ตอบ 3 หน้า 124132 – 133, (คำบรรยาย) โต๊ะข่าว (Copydesk) เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในห้องข่าว โดยจะมีบุคลากรประกอบไปด้วย หัวหน้าข่าวหรือบรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าว และผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ ซึ่งการทำงานของบุคลากรทั้งหมดนี้จะขึ้นตรงต่อหัวหน้ากองบรรณาธิการที่เป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าวอีกทีหนึ่ง

28.       งานใดอยู่ในฝ่ายข่าว

(1) งานห้องสมุดข่าว   (2) การรับข่าวจากภายนอก

(3) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (4) การจัดแฟ้มข้อมูลแหล่งข่าว

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

29.       ผู้ใดมีความเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในข่าวมากที่สุด

(1)       Editor       (2) Copy Reader (3) Proof Reader (4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจขาว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

30.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการมากที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    (2) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           (4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 2 หน้า 4126, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ถือเป็นหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่บุคลากร ในกองบรรณาธิการมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดกลาง หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา ตัวอย่างของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือหนังสือพิมพ์ปริมาณ ซึ่งมีจำนวนพิมพ์และยอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่นไทยรัฐข่าวสด เดลินิวส์ ฯลฯ

31.       หลักการใดนิยมใช้จัดหน้ากลาง

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา 

(2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดียว       

(4) การจัดแบบ Well สองหน้คู่

ตอบ 4 หน้า 166 – 167 การจัดหน้าในแบบ Well สองหน้าคู่ เป็นการนำเอาหน้า 2 หน้ามาพิจารณา เป็นหน่วยเดียวกันโดยจัดโฆษณาเป็นรูปพีระมิดวางไว้ทางริมซ้ายมือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านซ้าย และริมขวามือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านขวา ปล่อยเนื้อที่สวนที่เหลือของ 2 หน้า ควบให้กางออกเต็มที่เป็นรูปอักษรวี จึงนิยมใช้จัดหน้ากลาง หรือหน้าพิมพ์ที่มีเนื้อหาของข่าวยาว และเหมาะสำหรับจัดหน้าหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

32.       หลักการจัดหน้าหนึ่งข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        

(2) ความสมดุล           

(3) ความเด่น   

(4) ความหลากหลาย

ตอบ 1 หน้า 145148 หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ มีความสำคัญในแงของการดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน ความสวยงาม สะดุดตา และเชิญชวนให้ซื้อหนังสือพิมพ์ ดังนั้นหลักการจัดหน้าหนึ่ง ที่ดีควรจะมีคุณลักษณะเชิงศิลปะ คือ มีความสวยงาม (ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด) ดึงดูดสายตา น่าซื้อ และมีคุณสมบัติทางวารสารศาสตร์ ได้แก่ ลำดับข่าวได้ตรงตามความสำคัญของข่าว และ สะท้อนถึงบุคลิกของหนังสือพิมพ์

33.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163 การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการ มากกว่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณา มักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสมสำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็น ต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

34.       Journalism แปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) สารที่ออกตามสาระ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) คำว่า journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารศาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

35.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตามกฎหมาย

(1) ออกจำหน่ายตามวาระ       (2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวและความรู้          (4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกันหรื เหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ไห้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

36.       ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น

(1)       เสนอข่าวได้รวดเร็ว (2) มีจำนวนจำหน่ายสูง (3) เห็นภาพพจน์          (4) เป็นสื่อที่คงทนถาวร

ตอบ 4(คำบรรยาย) คุณสมบัติเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น มีดังนี้

1.         เสนอข่าวได้อย่างวิเคราะห์เจาะลึก      2. มีราคาไม่แพง          3. พกพาสะดวก อ่านได้ทุกที่  4. มีความน่าเชื่อถือ            5. ใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้     6. ใช้อ้างอิงได้ง่าย 7. เป็นสื่อที่คงทนถาวร เก็บไว้ได้นาน  8. สามารถให้บริการแก่ชุมชนได้   9. มีคุณค่าด้านวรรณกรรม

37.       Tabloid คืออะไร 

(1) ข่าวประเภทหนึ่ง

(2)       บทความที่มีผู้เขียนประจำ      (3) หนังสือพิมพ์ประเภทหนึ่ง  (4) วารสารประเภทหนึ่ง

ตอบ 3 หน้า 7-8 หนังสือพิมพ์แบ่งตามรูปแบบหรือขนาดรูปเล่มได้ 2 ประเภท คือ                    1.หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) บางครั้งอาจเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ (Broadsheet Newspapers) หรือขนาดเต็มรูป (Full Size Newspapers) มีขนาดกว้างยาวประมาณ 15 X 22 นิ้ว

2.         หนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid) หรือเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 11 X 15 นิ้ว หรือครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

38.       ข้อใดไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายคาบ        

(1) หนังสือพิมพ์ที่ออกรายวัน

(2)       หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์          (3) หนังสือพิมพ์รายปักษ์        (4) หนังสือพิมพ์รายสะดวก

ตอบ1 หน้า 6, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายคาบ หมายถึง หนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ออกรายวัน(Non-daily Newspaper) ซึ่งแต่ละคาบอาจเป็น 3 วัน7 วัน (รายสัปดาห์)10 วัน15 วัน (รายปักษ์)30 วัน (รายเดือน) หรือรายสะดวกก็ได้ โดยมักไม่เน้นความสดของข่ว แต่จะเน้น เสนอข้อมูลข่าวสาร สารคดี และบทวิเคราะห์ที่ทันสมัย เช่น ฐานเศรษฐกิจ ประชาชาติธุรกิจ ฯลฯ

39.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด   

(1) Digital Newspaper

(2)       Quality Newspaper (3) Popular Newspaper (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 30. ประกอบ

ข้อ 40. – 41. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคนมืออาชีพ     (2) หนังสือพิมพ์ต้องเสนอข่าวจากทุกหนทุกแห่ง

(3)       หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

40.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์นระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

41.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

42.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้จากการลงโฆษณาในอัตราส่วนใด

(1) ร้อยละ 55 จากรายได้ทั้งหมด        

(2) ร้อยละ 65 จากรายได้ทั้งหมด

(3)       ร้อยละ 75 จากรายได้ทั้งหมด 

(4) ร้อยละ 85 จากรายได้ทั้งหมด

ตอบ 3 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายได้จากค่าขาย เนื้อที่ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

43.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีความน่าสนใจ     (2) มีความสำคัญ

(3)       มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ

(4)       มีองค์ประกอบของความสำคัญมากกว่าความน่าสนใจ

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่า องค์ประกอบอย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

44.       ข้อใดไมใช่ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1) ประหยัดกระดาษ (2) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว (3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา (4) ถูกข้อ 2 และ 3 ตอบ 4 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ผ่านจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสอประเภทนี้เกิดจากการ บรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีภาพ-เสียง เทคโนโลยีการพิมพ์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ดิจิทัล จะมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะ เปลี่ยนข่าวได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

ข้อ 45. – 46. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       ให้ข่าวสาร       (2) ให้ข้อเสนอแนะ      (3) ให้ความบันเทิง      (4) เป็นสื่อในการโฆษณา

45.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวการพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ตอบ 1 หน้า 14 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าว สารคดี ประกาศแจ้งความ หรืออื่น ๆ

46.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์การรับสมัครคนเข้าทำงาน

ตอบ 4 หน้า 1546, (คำบรรยาย) หน้าที่เป็นสื่อในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) คือ การเป็นตัวกลางระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าและบริการในด้านของการโฆษณา เช่น การตีพิมพ์ตารางการฉายภาพยนตร์ของโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ การตีพิมพ์การรับสมัครงาน การตีพิมพ์ข้อมูลราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ฯลฯ และเป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณซน เช่น การตีพิมพ์สารคดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว การเสนอโครงการเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ข้อ 47. – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       นายทวารข่าวสาร        (2) ผู้แจ้งข่าวสาร         (3) สุนัขยาม    (4) รับเรื่องราวร้องทุกข์

47.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอุกกาบาตตกที่ประเทศรัสเซีย คนบาดเจ็บนับพัน

ตอบ 2 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นผู้แจ้งข่าวสาร (Informer) คือ หนังสือพิมพ์จะเข้าไป ในชุมชนต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นข่าว บทความ สารคดี ฯลฯ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ ประชาชนได้รับเอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และมากพอ จึงถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ เพราะเนื้อหาหลักที่มีมากที่สุดในหนังสือพิมพ์ก็คือ ข่าว (News) ดังนั้นการที่หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวสารที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และความคิดเท่าทันโลก

48.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวว่าประชาชนอยากให้ดอกกุหลาบนายกรัฐมนตรีในวันวาเลนไทน์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       หนังสือพิมพ์ประชุมกองบรรณาธิการเพื่อเลือกเรื่องตีพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง/ประเมินคุณค่าเนื้อหา ของข่าวสาร และตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึงพื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร (ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ)

50.       กลุ่มใดเป็นกลุ่มผลประโยชน์

(1)       กลุ่มข้าราชการ            (2) กลุ่มเกษตรกร        (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 20 – 22 กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ คือ การรวมกลุ่มของคนในสังคมเพื่อวัตถุประสงค์ร่วมกัน ซึ่งในสังคมจะมีกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นใครก็ได้ที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อให้มีอำนาจต่อรอง และเรียกร้องผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กันกลุ่มของตน เช่น กลุ่มลูกจ้าง กลุ่มผู้บริโภค กลุ่มข้าราชการ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มพ่อค้า ฯลฯ

51.       เหตุใดหนังสือพิมพ์จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง

(1) หนังสือพิมพ์มีผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมาก      

(2) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสาร

(3) หนังสือพิมพ์มีบรรทัดฐานเป็นกลาง           

(4) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอความคิดเห็น

ตอบ2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจในตัวเองประการหนึ่ง คือ อำนาจเชิงจิตวิทยา ได้แก่ การมีความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน เพราะในความรู้สึกของประชาชนนั้น สื่อมวลชนเป็น สถาบันที่มีหน้าที่เสนอข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง ด้วยเหตุนี้หนังสือพิมพ์จึงน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากกว่านักการเมืองและหน่วยงานของรัฐ

52.       ข้อใดเป็น Passive News

(1) โจรใต้ก่อกวน ถูกวิสามัญ 16 ศพ  

(2) รัฐบาลประกาศนโยบายประชานิยม

(3)       มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดพิธีมอบปริญญาบัตรเดือนมีนาคม 2556

(4)       พบสายแร่ทองคำในประเทศไทยมูลค่ามหาศาล

ตอน 3 หน้า 41 ประเภทของข่าวแบ่งตามลักษณะการได้มาออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.         ข่าวที่ต้องสื่อข่าวเอง (Active News) คือ ข่าวที่ผู้สื่อข่าวต้องออกไปสืบเสาะหาข้อมูล ด้วยตนเอง เช่น ข่าวการเมือง อุบัติเหตุ ภัยพิบัติ อาชญากรรม ฯลฯ

2.         ข่าวที่ได้จากเอกสาร (Passive News) คือ ข่าวที่ได้จากเอกสารที่แจกมายังสำนักงาน ใบประกาศ หรือแถลงการณ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถตีพิมพ์ได้ทันที เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานต่าง ๆ

53.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1)       ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ            (2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3) มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น       (4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

54.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์       

(1) ความถนัดของนักข่าว

(2)       นโยบายของหนังสือพิมพ์       (3) กระแสสังคม          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่

1. นโยบายของหนังสือพิมพ์    2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถและความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ  3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5. ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

55.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1)       หมอบรัดเลย์    (2) ร.อ.เจมส์ โลว์         (3) หมอสมิธ    (4) กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดค้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็นจำนวนมาก และรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1)       หน้าบรรณาธิการ         (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1)       ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป      (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำๆ

(3)       ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น       (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       ในการจัดหน้าใน การจัดโฆษณาในข้อใดไม่นิยม

(1)       แบบพีระมิดซีกขวา      (2) แบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) แบบพีระมิดสองซีก           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกค้านขวา (Pyramided to the Right) 2. แบบ Well (หน้าเดียว)  3.แบบ Well สองหน้าคู่            4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6. แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่า เท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางขึ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือก ข้อ 1 – 3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และ บริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)

(2)       การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3)       การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)

(4)       การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าว และใช้ความแตกต่างของขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริงซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นซึ่งมีความสำคัญ น้อยลงมา โดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       การพิมพ์แบบ Movable Type Printing มีลักษณะอย่างไร

(1) แม่พิมพ์เป็นหินหรือไม้        (2) สามารถนำตัวพิมพ์มาเรียงต่อกันได้

(3) ค้นพบครั้งแรกโดยโยอัน กูเต็นเบอร์ก        (4) เป็นต้นแบบของการพิมพ์ Offset

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1) News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ 4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครันโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1) ยุคอำนาจนิยม       (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ (3) ยุคประชานิยม    (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

ตอบ 2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่า

จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้น ในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้นไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาลแต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลของหนังสือพิมพ์ บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูร์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญของ กฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1) คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน      

(2) การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3) การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ขาว) เพื่อแยกคอลัมน์ 

(4) การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน จึงจัดหน้าได้งายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้นๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วยข่าวสั้นรายงานอากาศประกาศข้อความรณรงค์ หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับใดทันสมัยที่สุด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2551           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือพ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของเจ้าของหนังสือพิมพ์

(1) เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับได้       (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติไทย        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ 15 ระบุว่าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณา ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้       1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์2. มีสัญชาติไทย 3. มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 3 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นตั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       ข้อใดแสดงถึงเสรีภาพในพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1)       ผู้บรรลุนิติภาวะทุกคนยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ได้

(2)       ผู้ยื่นความจำนงที่มีคุณสมบัติครบจะได้รับพิจารณา

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ด้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 2 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงเสรีภาพใน พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 คือ การให้สิทธิเสรีภาพ อย่างเต็มที่ต่อผู้ยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ ซึ่งหากผู้ใดมีคุณสมบัติครบและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามกฎหมาย จะได้รับการพิจารณาและออกหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งให้โดยไม่ชักช้า (ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ)

81.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1) บรรณาธิการไม่จบปริญญาตรี       

(2) บรรณาธิการเป็นชาวต่างชาติ

(3) บรรณาธิการลูกตัดสินให้จำคุก     

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ

82.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

83.       ข้อใดไม่ใช่สิ่งพิมพ์ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1) แผ่นซีดีเพลง          (2) e-book (3) วารสารวิชาการ (4) โปสเตอร์โปรโมทหนัง

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด หนังสือ แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนา (ในทีนี้ต้องเป็นสิ่งพิมพ์ที่เผยแพร่ ไปสูมวลชน เช่น บทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ โปสเตอร์ ฯลฯ) นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึง สิ่งพิมพ์ที่บันทึกด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขายหรือให้เปล่า เช่น แผ่นเสียง แผ่นซีดี e-book เป็นต้น (ส่วนมาตรา 5 ระบุว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังนี้ (4) วิทยานิพนธ์ เอกสารคำบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทำนองเดียวกันที่เผยแพร ในสถานศึกษา เช่น วารสารวิชาการ)

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ด้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเป็ดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลลื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโตโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมกรศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7  ปี         (2)บุคคลที่มีอายุเกิน5ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน14 ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน10ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง15ปี       (2)บุคคลที่มีอายุเกิน12ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง18ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน15ปีแต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและ มีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่งกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนดซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธศาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธคาสนา ดังนี้

1. ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)            2. ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)        4. ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)        7. ความมีมารยาท (ใสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

95.       การเสนอข่าวการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน มีต้นกำเนิดมาจาก

(1) News Sheets         (2) News Letters

(3) News Magazine   (4) Official Gazette

ตอบ4 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกขาว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนขั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

96.       ประเทศใดที่หนังสือพิมพ์มีบทบาทมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาส

(1) ประเทศไทย           (2) สหรัฐอเมริกา         (3) อังกฤษ      (4) ญี่ปุ่น

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออกเป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่าง รัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อสงครามจบลง ผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ดังนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาทอย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

97.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

98.       Yellow Journalism เกิดขึ้นในประเทศใด

(1) ประเทศไทย           (2) อังกฤษ      (3) สหรัฐอเมริกา         (4) พม่า

ตอบ 3 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบัน กับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

99.       ข้อใดเป็น Yellow Journalism

(1)       หนังสือพิมพ์ในพม่าเรียกร้องเสรีภาพ

(2)       หนังสือพิมพ์ในอังกฤษต่อสู้เพื่อเสรีภาพ

(3)       หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาตีพิมพ์เรื่องส่วนตัวกันมาก

(4)       หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้สื่อข่าวมีความรับผิดชอบมากขึ้น

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 98. ประกอบ

100.    หนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการเป็นพระมหากษัตริย์

(1) คอร์ทข่าวราชการ   (2) บางกอกรีคอร์เดอร์            (3) ดรุโณวาท  (4) ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         ข้อใดเป็นจุดเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1)       ได้รับความนิยมสูง       

(2) ประหยัดกระดาษ

(3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา           

(4) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว

ตอบ 2 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ฝานจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสื่อประเภทนี้เกิดจากการบรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ เทคโนโลยีการกระจายเสียง-ภาพ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้จุดเด่นที่สำคัญของ หนังสือพิมพ์ดิจิทัลคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะเปลี่ยนข่าว ได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

2.         หนังสือพิมพ์ดิจิทัลเกิดจากการบรรจบกัน (Convergence) ของสิ่งใด

(1)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

(2)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(3)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(4)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         เจมส์ถ่ายภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของตนเอง

(1)       เจมส์เป็นนักข่าวพลเมือง         (2) เจมส์เป็นนักข่าวสมัครเล่น

(3) เจมส์อยู่ในยุคสังคมข้อมูลข่าวสาร            (4) เจมส์อยู่ในยุคสังคมอุดมปัญญา

ตอบ 1 (คำบรรยาย) การพัฒนาของหนังสือพิมพ์ดิจิทัลไต้นำไปสู่ปรากฏการณ์ของนักข่าวภาคประชาชนหรือนักข่าวพลเมือง (Citizen Journalist) คือ บทบาทของผู้รับข่าวสารจากสื่อที่สามารถปรับเปลี่ยน ไปเป็นผู้ส่งสารเสียเอง โดยการถ่ายภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของสังคมยุคใหม่ที่เน้นการมีส่วนร่วม

4.         ผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขึ้นเวทีปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมด้วย

(1) To Inform     (2) To Entertain (3) To Advertise (4) To Give Opinion

ตอบ 4 หน้า 14161 – 162 หน้าที่การให้ความคิดเห็น หรือให้ข้อเสนอแนะ (To Give Opinion) คือ การวิเคราะห์และแปลความออกมาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือให้ความเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการให้คุณค่าของข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอาจเป็นความคิดเห็นของคน ในกองบรรณาธิการหรือคนนอกก็ได้ เช่น ข่าวสัมภาษณ์ความคิดเห็นของบุคคลต่าง ๆ บทบรรณาธิการ บทวิจารณ์ บทความ คอลัมน์จดหมายจากผู้อ่านหรือจดหมายถึงบรรณาธิการ คอลัมน์ตอบปัญหาชีวิต ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการชุมนุมหรือปราศรัยแสดงความคิดเห็น ทางการเมือง

ข้อ 5. – 7. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Informer       (2) Gatekeeper (3) Watchdog    (4) Ombudsman

5.         ประชาชนติดตามเรื่องราวความเป็นไป คดีนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนผิดกรณีรับจำนำข้าว

ตอบ 3 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทำ อันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทำงานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้อง ทำหน้าที่เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อมีเหตุการถ!ผิดปกติ เกิดขึ้น เพื่อทำให้สังคมโปร่งใสและสามารถป้องปรามการคอร์รัปชั่นได้

6.         หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี

ตอบ 4 หน้า 18161169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่

1.         การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไป สืบหาข้อมูล แล้วนำมารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

2.         การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ประชาชน ประหยัดน้ำมันการรณรงค์ให้ช่วยบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยการตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี ฯลฯ

7.         บรรณาธิการตรวจข่าวอย่างเข้มงวด ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง ประเมินคุณค่า และตรวจเนื้อหาของข่าวสาร ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ ตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึง พื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

8.         กลุ่มใดมีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบาย

(1) กลุ่มข้าราชการ      (2) กลุ่มประชาชน       (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 192129 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม จำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานกลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ          2. กลุ่มนักการเมือง 3. กลุ่มข้าราชการประจำ

9.         ผู้ใดใช้คำว่าหนังสือพิมพ์เป็นท่านแรก

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 2 ในสมัยก่อนคนไทยมักจะเรียกหนังสือพิมพ์ว่า หนังสือข่าว” ทั้งนี้เนื่องจากเนื้อหา ในหนังสือพิมพ์มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอหรือบอกข่าวเป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงใช้ คำว่า หนังสือพิมพ์” แทนคำว่าหนังสือข่าวเป็นพระองค์แรก และหลังจากนั้นคำว่าหนังสือพิมพ์ จึงใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

10.       กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ Journalism เป็นภาษาไทยว่า

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) นิตยสาร

ตอบ 3 (คำ-บรรยาย) คำว่า Journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารคาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

11.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550

(1) ออกในระยะเวลาสั้น ๆ      

(2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวสารความรู้           

(4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน หรือเหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลา หรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

12.       โยฮัน กูเต็นเบอร์ก สำคัญอย่างไร

(1)       เสนอข่าวการเมืองเป็นท่านแรก          

(2) ค้นพบวิธีการพิมพ์แบบ Movable Type

(3) เป็นชาวฝรั่งเศสที่รณรงค์เรื่องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดด้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่อง ว่าเป็นบิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็น จำนวนมากและรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

13.       ข้อใดเป็นหนังสือพิมพ์ Tabloid   

(1) หนังสือพิมพ์อาร์ยูนิวส์

(2)       เดลินิวส์          (3) สยามรัฐรายสัปดาห์          (4) เดอะนชั่น

ตอบ 1 หน้า 8, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) จะมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของ หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ คือ ประมาณ 11 X 15 นิ้ว ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายประการ ได้แก่ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก อ่านง่าย จัดหน้าเป็นส่วน ๆ ได้ง่าย มีจำนวนหน้าและ ความหนามากกว่าหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ จึงให้ความรู้สึกว่ามีราคาไม่แพง เช่น หนังสือพิมพ์ อาร์ยูนิวส์ (R.u. News), เอ็กไซต์ไทยโพสต์, Student Weekly และข่าวรามคำแหง ฯลฯ

14.       หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ออกจำหน่ายรายวันเนื่องจาก

(1) เทคโนโลยีการพิมพ์ทันสมัย           (2) ถูกแรงกดดันจากสื่อดิจิทัล

(3)       หนังสือพิมพ์มีการแข่งขันสูง   (4) หนังสือพิมพ์ต้องการเสนอข่าวอย่างทันเหตุการณ์

ตอบ 4 หน้า 5. (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวัน เป็นหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายเป็นประจำทุกวันอายุของหนังสือพิมพ์จึงสั้น ดังนั้นเมื่อหมดวัน หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมจะล้าสมัยลงทันทีและ มีฉบับใหม่ออกมาแทนที่ โดยหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่มักออกจำหน่ายรายวัน เนื่องจาก หนังสือพิมพ์รายวันมีจุดเด่น คือ ความรวดเร็ว และความสดในการเสนอข่าวได้อย่างทันเหตุการณ์

15.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด

(1) General Newspaper    (2) Quality Newspaper

(3) Popular Newspaper     (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 หน้า 4, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือเรียกว่าหนังสือพิมพ์ปริมาณ จะมีเนื้อหาเป็นข่าวเร้าอารมณ์ (Sensational News) ซึ่งมักเป็นข่าวที่ให้ผลตอบสนอง ทางอารมณ์ได้ทันที และเป็นข่าวที่คนทั่วไปสนใจตามปุถุชนวิสัย (Human Interest) ดังนั้น จึงมีจำนวนพิมพ์สูงสุดและมียอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐข่าวสดเดลินิวส์ ฯลฯ

ข้อ 16. – 17. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคบมืออาชีพ           (2) หนังสือพิมพ์ต้องรับใช้สังคม

(3) หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

16.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์ในระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

17.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

18.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้หลักจากสิ่งใด

(1) เงินอุดหนุนของรัฐบาล       (2) เงินค่าสมาชิกจากผู้อ่านประจำ

(3) เงินค่าขายหนังสือพิมพ์จากลูกค้าทั่วไป     (4) เงินรายได้จากการโฆษณา

ตอบ 4 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุดโดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายไต้จากค่าขายเนื้อที่ ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ถือเป็น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

19.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน            (2) มีความสำคัญและน่าสนใจ

(3) มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ (4) ให้ข้อคิดสำหรับผู้อ่าน

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าองค์ประกอบ อย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบ ต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

20.       ข้อใดไมใช่ลักษณะของสารคดี           

(1) เกิดจากจินตนาการ

(2)       ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน       (3) เน้นองค์ประกอบด้านความน่าสนใจ          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 45 มาลี บุญคิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เน้นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ให้ความรู้ และในเวลาเดียวกับก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด

21.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1) ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ       

(2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3)       มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น 

(4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

22.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

(1) ทุน 

(2) นโยบายของหนังสือพิมพ์

(3) ความสนใจของผู้อ่าน         

(4) ลักษณะของการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่ 1. นโยบายของหนังสือพิมพ์ 2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถ และความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ 3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5.ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

23.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1) หมอบรัดเลย์          (2)       ร.อ.เจมส์โลว์    (3)       หมอสมิธ          (4)       กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 12.       ประกอบ

24.       การเสนอข่าวทางการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาจาก

(1) Official Gazette   (2)       News Letter     (3)       Pamphlet (4) News Sheets

ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้ เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อ ประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

25.       การต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ในประเทศใดที่นำไปสู่สงครามกลางเมือง

(1) อังกฤษ      (2)       สหรัฐอเมริกา   (3)       ญี่ปุ่น   (4)       ประเทศไทย

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออก เป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่างรัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อ สงครามจบลงผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ด้งนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาท อย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

26.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

27.       Yellow Journalism หมายถึงอะไร

(1) หนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องเสรีภาพ     (2) หนังสือพิมพ์คุณภาพ

(3) หนังสือพิมพ์แนว Penny Paper      (4) หนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบ

ตอบ 4 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบันกับหนังสือพิมพ์ทีขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

28.       ประเทศใดใช้พระราชบัญญัติอากรแสตมป์กับหนังสือพิมพ์

(1) อังกฤษ      (2) ฝรั่งเศส      (3) อเมริกา      (4) ทั้ง 3 ประเทศ

ตอบ 1 หน้า 59 ในปี ค.ศ. 1721 รัฐบาลประเทศอังกฤษได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. อากรแสตมป์ (Stamp Act) เพื่อเรียกเก็บภาษีกับหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายขณะนั้นในอัตราที่สูงมาก โดยหวังที่จะจำกัดหนังสือพิมพ์ไม่ให้แพร่หลาย ดังนั้นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับภาษีนี้จึงพากัน ตั้งสมญานามเรียก พ.ร.บ. อากรแสตมป์เสียใหม่ว่า พ.ร.บ. ภาษีความรู้

ข้อ 29. – 32. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 4  (2) รัชกาลที่ 5  (3) รัชกาลที่ 6  (4) รัชกาลที่ 7

29.       เทียนวรรณ เขียนบทความเสนอให้เลิกทาส

ตอบ 2 หน้า 104 – 105 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต.ว.ส.วัณณาโภ หรือมีนามปากกาว่า เทียนวรรณได้ออกหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ เป็นหนังสือพิมพ์รายเดือนเมื่อ พ.ศ. 2433 โดยมีเนื้อหา ไม่เน้นความสด แต่จะเน้นบทความแสดงความคิดเห็นและการเสนอแนะ เช่น เสนอแนะให้มี กฎหมายควบคุมการพนัน เสนอกฎหมายกำหนดให้ชายมีภรรยาเพียงคบเดียว เสนอให้มีการเลิกทาส ฯลฯ

30.       สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

31.       มีการเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้

1.         มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)  2. มีการพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าแรก 3. มีการเขียนวรรคนำ (Lead)         4. เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อและการ์ตูน            5. มีการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

32.       กำเนิดหนังสือพิมพ์ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 1 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ทีตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

33.       สำนักข่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุใด

(1) มีข่าวต่างประเทศมากขึ้น  

(2) เป็นธุรกิจที่มีกำไรดี

(3) หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้ง         

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 62 – 63 ในศตวรรษที่ 18 ข่าวที่หามาเสนอได้ยาก แต่เป็นที่สนใจของประชาชน คือ ข่าวต่างประเทศ แต่เนื่องจากหนังสือพิมพ์ไม่กล้ารับภาระส่งผู้สื่อข่าวไปประจำในต่างประเทศ เพื่อสื่อข่าวเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้งธุรกิจสำนักข่าว (News Agencies) ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งข่าวต่างประเทศที่สำคัญของหนังสือพิมพ์ในสมัยนั้น

34.       ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวการต่อสู้คดีเขาพระวิหารที่ศาลโลก

(1) ผู้สื่อข่าวทั่วไป        (2) ผู้สื่อข่าวประจำ      (3) ผู้สื่อข่าวพิเศษ        (4) ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 3 หน้า 131 ผู้สื่อข่าวพิเศษ (Special Assignment Reporter หมายถึง ผู้สื่อข่าวเฉพาะ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความชำนาญสูง และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือมีความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมักจะได้รับมอบหมายให้สื่อข่าวเฉพาะเรื่อง ซึ่งหนังสือพิมพ์เห็นว่ามีความสำคัญที่อาจจะต้องสื่อข่าวประเภทวิเคราะห์เจาะลึก หรือสื่อข่าว ที่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์มาก เช่น ข่าวการเมืองข่าวต่างประเทศข่าวเศรษฐกิจข่าวกีฬาข่าวสังคม สตรี และวัฒนธรรม ฯลา

35.       ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) เจ้าของผู้ลงทุน    (3) บรรณาธิการบริหาร (4) หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทาง ของหนังสือพิมพ์ และมีอำนาจหน้าที่สังการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

36.       ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.         ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2.         บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ 3. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

4.         บรรณาธิการจัดหน้า   5. ฝ่ายผลิต     6. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

37.       ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว

(3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศจะมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย

2.         ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว

3.         แปลข่าว         4. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว         5. บรรณาธิการจัดหน้า

6.         ฝ่ายผลิต         7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังลือพิมพ์

ข้อ 38. – 43. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สารคดี โฆษณา     (2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน

(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น        (4) ภาพข่าว โฆษณา

38.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็นหน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้

1.         ขอหนังสือพิมพ์           2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)

3.         ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)         4. ภาพข่าว 5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา

7.         คอลัมน์ประจำ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัว ของบรรณาธิการ

39.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้     1. บทบรรณาธิการ

2.         ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ

3.         จดหมายถึงบรรณาธิการ        4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)

5.         องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

40.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ควร จัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

41.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน

ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าใน มีดังนี้         

1. โฆษณา 2. ภาพ 3. หัวเรื่อง 4.คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนำ ขำขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

42.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

43.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 39. ประกอบ

44.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า 

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม 

(3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง  

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

45.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          (2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด    (4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

46.       ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2) การเรียงพิมพ์         (3) การพาดหัวข่าว      (4) การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมิหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

47.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1)       โต๊ะข่าวกีฬา    (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3)       ห้องภาพ          (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

48.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1)       บรรณาธิการบริหาร     (2) บรรณาธิการข่าว    (3)       บรรณาธิการโต๊ะขาว   (4)       บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

49.       โต๊ะข่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ

(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ   (2) โต๊ะข่าวการเมือง    (3)       โต๊ะข่าวกีฬา    (4)       โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 หน้า 127134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสำคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ฯลฯ มีข่าวใดที่กำลังได้รับ ความสนใจจากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณา ตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสำคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

50.       งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ

(1) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก

(3) การขอโฆษณา       (4) การออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว

ตอบ 4 หน้า 123 งานที่สำคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่

1.         งานด้านบริหาร-ธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งาบการเงิน-บัญชี งานพัสดุ ฯลฯ

2.         งานด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจำหน่ายและงานโฆษณา (ถือเป็นงานหลักของฝ่ายจัดการ)

รวมทั้งงานการพิมพ์ ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างจาก การพิมพ์หนังลือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ)

51.       ผู้ใดทำหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว

(1) Editor   

(2) Copy Reader

(3) Proof Reader

(4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

52.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    

(2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           

(4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 1 หน้า 126, (ดำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเล็ก รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา เพราะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์มีบุคลากรเพียงแค่ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน) เท่านั้น

53.       หลักการใดไมใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา (2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดี่ยว       (4) การจัดแบบ Well สองหน้าคู่

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (ดำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)         2. แบบ Well หน้าเดี่ยว 3.แบบ Well สองหน้าคู่   4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6.แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

54.       หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        (2) ความสมดุล           (3) ความเด่น   (4) ความหลากหลาย

ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับหลักการ ทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ1. การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance) 2. การลำดับความสำคัญของเรื่อง

55.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163, (ดูดำอธิบายข้อ 50. ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณา ซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการมากกว่าจะเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1) หน้าบรรณาธิการ   (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหนงให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1) ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป            (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำ ๆ

(3) ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       Dead Copy คืออะไร

(1)       แบบของพาดหัวข่าว    (2) ชิ้นข่าวที่เคยใช้แล้ว เก็บไว้ใช้อีก

(3) ข่าวเกี่ยวกับการตายของบุคคลสำคัญ      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ. 2 หน้า 125 Dead Copy คือ ชิ้นข่าวหรือหลักฐานที่เคยใช้แล้ว ซึ่งจะถูกเก็บรวบรวมไว้ใน ห้องสมุด เพื่อเป็นข้อมูลที่สามารถจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกในภายหลังเมื่อมีการอ้างอิงถึง หรือต้องนำมาประกอบการเขียนเป็นภูมิหลังให้กับข่าวหรือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ ….3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชิ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางชิ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอน 4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่โฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือกข้อ 1-3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ มากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และบริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)          

(2) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3) การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)       

(4) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน และใช้ความแตกต่างในเรื่องของ ขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการนำเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริง ซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่นๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นที่มีความสำคัญ น้อยลงมาโดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบนขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       จุดที่สำคัญน้อยที่สุดบนหน้าพิมพ์คู่ คืออะไร

(1)       ส่วนบนด้านขวาของหน้าขวา   (2) ส่วนบนด้านขวาของหน้าซ้าย

(3) กลางหน้ากระดาษหน้าซ้าย           (4) ส่วนล่างสุดของหน้าขวา

ตอบ 4 หน้า 143 – 145 ตำแหน่งที่น่าสนใจที่สุดของการจัดหน้าพิมพ์คู่นั้นได้แก่ มุมขอบบนด้านริมสุดของแต่ละหน้า (มุมบนขวาของหน้าพิมพ์ด้านขวา และมุมบนซ้ายของหน้าพิมพ์ด้านซ้าย) โดยความสนใจนี้จะค่อย ๆ สำคัญน้อยลงไปตามลำดับเมื่อตำแหน่งเลื่อนต่ำลงมาด้านล่างของ แต่ละหน้า และเลื่อนไปตรงรอยพับกลางเล่มของหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นจุดที่เรียกความสนใจได้ น้อยที่สุด

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1)       News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครับโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และ ข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1)       ยุคอำนาจนิยม (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ

(3) ยุคประชานิยม       (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

บ-2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่าจอห์น วอสเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้นในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้น ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาล แต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์ หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลชองหนังสือพิมพ์บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอบดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ .และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะในที่สุด และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดี ตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญ ของกฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1)       คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน

(2)       การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3)       การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ข่าว) เพื่อแยกคอลัมน์

(4)       การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นลัดส่วน จึงจัดหน้าได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบ ประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้น ๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้ จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วย ข่าวสั้น รายงานอากาศ ประกาศ ข้อความ รณรงค์หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ  

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบัน คือฉบับใด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับส่าสุดทีประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดทำให้เป็นบรรณาธิการไม่ได้

(1) เป็นหญิงแต่งงานกับชาวต่างชาติ  (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติต่างประเทศที่มีสนธิสัญญาร่วมกับ        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ระบุว่า บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ 1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

2.         มีสัญชาติไทย หรือสัญชาติแห่งประเทศที่มีสนธิสัญญากับประเทศไทย

3.         มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       เจ้าพนักงานต้องจดแจ้งการพิมพ์ให้ทุกราย

(4)       สามารถมีหุ้นส่วนเป็นชาวต่างชาติได้

ตอบ 4 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของ หนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวของปัจเจกชนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ใน พ.ร.บ. การพิมพ์ กำหนดให้ ปัจเจกชนทำอย่างไร

(1) แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร้องทุกข์และจับกุม        (2) ทำหนังสือขอให้บรรณาธิการแก้ข่าว

(3) ให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 204 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 41 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ใดโฆษณาเรื่องเกี่ยวกับบุคคลใดคลาดเคลื่อนจากความจริงและอาจจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลนั้น บุคคลนั้น อาจแจ้งเป็นหนังสือขอให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์นั้นแก้เอง หรือลงพิมพ์หนังสือซึ่งแก้หรือ ปฏิเสธเรื่องนั้น

81.       การเรียกร้องตามข้อ 80. จะต้องกระทำภายในระยะเวลาเท่าใด

(1) 2 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(2) 4 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

(3) 6 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(4) 8 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

ตอบ 3 หน้า 205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 43 วรรค 4 ระบุว่า สิทธิขอให้แก้หรือลงหนังสือที่แก้หรือปฏิเสธตามมาตรา 41 นั้น เป็นอันระงับลงภายหลัง 6 เดือน นับแต่วันที่ หนังสือพิมพ์นั้นออกโฆษณาหรือลงข่าวคลาดเคลื่อน

82.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1)       เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 วัน

(2)       เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (1 เดือน)

(3)       เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (2 เดือน)

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 6205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 45 ระบุว่า หนังสือพิมพ์รายวันถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 30 วัน หรือหนังสือพิมพ์รายคาบ (ซึ่งก็คือ หนังสือพิมพ์ที่ไมใช่รายวัน แต่ละคาบอาจเป็น 7 วัน (รายสัปดาห์)15 วัน (รายปักษ์) ฯลฯ) ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 4 คราวหรือเกินกว่า 2 ปี การเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และเจ้าของหนังสือพิมพ์นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง

83.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเปิดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร

(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโดโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมการศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7 ปี          (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 5 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน 14 ปี      (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี     (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 12 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี     (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและมีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึ่งขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92.    จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนด ซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติ ซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธคาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ค. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้

1.         ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)

2.         ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)

4.         ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)

7.         ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 หน้า 227, (ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ) ความจริงใจ ได้แก่ ความไม่มีเจตนาบิดเบือน เมื่อผิดพลาดต้องรีบแก้ไข ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนาคือ สัจจะ

95.       การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเช้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี        (2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           (4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5. ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21. ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้องสิทธิหรือ ผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

96.       การไม่ยอมตีพิมพ์ข้อความเพื่อแก้ข่าวที่เคยลงตีพิมพ์ผิดพลาด ผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) โทสาคติ     (2) โมหาคติ     (3) ภยาคติ      (4) สัจจะ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

97.       ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ

(1)       การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักช้า

98.       การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1) เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม           (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้อง กระทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

99.       ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้าน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการ ห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

100.    ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวอาเซียน

ตอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่ง วิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่า มีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

WordPress Ads
error: Content is protected !!