การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว และเนื้อข่าว) (20 คะแนน)
หัวข้อบรรยาย “ทักษะของพนักงาน…ที่นายจ้างยุคใหม่ต้องการ”
1. ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า งานหลาย ๆ อย่างที่เราต้องทำกันอยู่ทุกวัน แม้บางงาน จะเรียกว่าเป็นงานรูทีน แต่ในรายละเอียดนั้นเรามักจะต้องเจอกับปัญหานานาชนิดไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะปัญหากับเพื่อนรวมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นเราควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ใช่ว่าเจอเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ฟ้องผู้จัดการ หรือ โบ้ยปัญหาไปให้คนอื่นเสียหมด
2. ทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่เราใช้อยู่เป็นประจำ คงปฏิเสธไม่ได้ใน ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศแบบนี้ อุปกรณ์ไฮเทคเข้ามาอยู่ในสำนักงานกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราควรจะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาง่ายที่อาจเกิดขึ้นบ่อย ๆ ระหว่างที่เราใช้อุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือ แม้กระทั่งเครื่องถ่ายเอกสารที่ใช้เป็นประจำ กระดาษหมด กระดาษติด สามารถจัดการได้ โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ เกิดปัญหาเครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้
3. ทักษะทางด้านทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานใหญ่ ๆ หลายแห่งมีปัญหาในเรื่องของพนักงาน ไม่ถูกกัน ทำงานร่วมกันไม่ได้ ติดต่อกันไม่เข้าใจ เป็นต้น ดังนั้นหากเราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ รู้จักการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในเบื้องต้น จะมีประโยชน์ต่อการทำงานมาก รู้วิธีการติดต่อ หรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ
4. ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ นอกจากว่าคุณต้องมีความสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด โปรแกรมเอ็กเซล โปรแกรมโฟโต้ช็อบ และโปรแกรมพื้นฐานอื่นแล้ว ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การส่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะ ให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML
5. ทักษะที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ ทักษะดังกล่าวนี้จะขึ้นอยู่กับว่าเราเรียนมาทางไหน และจะประกอบอาชีพอะไร เช่น ต้องการเป็นพนักงานขายก็ควรจะได้รับการฝึกอบรมในเรื่อง การขาย การดูแลลูกค้า นักประชาสัมพันธ์อาจจะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมในเรื่องของภาษา เป็นต้น
6. ทักษะทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ะ จะเป็นการดียิ่งถ้าหากเราเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ และวิทยาสาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะประกอบอาชีพเกี่ยวกับวิศวกรรม การแพทย์ หรือ ในสาขาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ
7. ทักษะการจัดการด้านการเงิน ผู้ที่มีการวางแผนทางต้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้ คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพี่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่า เราไม่รู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินและกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้
8. ทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล เนื่องจากว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร การจัดการ ข้อมูลของตนเองที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ในยุคนี้ข้อมูลที่รวดเร็วสามารถช่วยให้การตัดสินใจ เป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นเราควรจะมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้ สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมู่ และค้นหาได้ง่าย
9. ทักษะด้านกาษาต่างประเทศ ถ้าเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะได้รับการพิจารณา เป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากเราสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยเยอะ ภาษาอังกฤษแน่นอนว่ามีความสำคัญ แต่ถ้า ยิ่งสามารถพูดภาษาของเจ้าของบริษัทได้อีกด้วยแล้วยิ่งดีใหญ่ อย่างเช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น
10. ทักษะในการบริหารธุรกิจ เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแค่ว่าเข้าอบรม ระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อยก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรา มีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัท ได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะ แสดงความสามารถในโอกาสที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะใน การบริหารจัดการนี่แหละ***
(สมมติว่าข้อมูลข้างต้นเก็บความจากการบรรยายของ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง เนื่องในงานปัจฉิมนิเทศนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา)
แนวคำตอบ หน้า 32-37 หัวข่าว
คณบดี ม.ษ. แนะว่าที่บัณฑิตเพิ่มทักษะด้านไอที-ภาษาต่างประเทศ
เนื้อข่าว
รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ กล่าวในงานปัจฉิมนิเทศ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ว่า นอกเหนือจากวิชาความรู้เฉพาะที่บัณฑิตได้รับการฝึกฝนมาโดยตรงแล้ว ปัจจุบันนายจ้างยังต้องการบัณฑิต ที่มีทักษะสำคัญ ได้แก่ ทักษะทางต้านคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซล โฟโต้ช็อบ และ โปรแกรมพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา ข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การล่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML รวมทั้งมีทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล ควรมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมู่และค้นหาได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือแม้กระทั่ง เครื่องถ่ายเอกสารกระดาษหมด กระดาษติด ต้องสามารถจัดการได้ และหากโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่เกิดปัญหา เครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้
ทักษะด้านภาษาต่างประเทศก็มีความสำคัญเช่นกัน ถ้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะ ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยมาก ซึ่งภาษาที่สำคัญ คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในการแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า แม้งานที่ทำจะเป็นงานประจำ แต่ในรายละเอียดนั้นมักจะต้องพบกับปัญหานานาชนิด เช่น ปัญหากับ เพื่อนร่วมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ตาง ๆ กรณีที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ควรนำภาระปัญหาให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ หรือผลักปัญหาให้คนอื่นแก้เสียทุกเรื่อง ตลอดจนควรมีมนุษยสัมพันธ์ รู้วิธีการติดต่อหรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ
คณบดีคณะมนุษยศาสตร์กล่าวในตอนท้ายว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในด้านการ จัดการการเงิน และทักษะในการบริหารธุรกิจ
“ผู้ที่มีการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพื่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน และกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้ ส่วนการบริหารธุรกิจนั้น เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแค่ว่าเข้าอบรมระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อย ก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรามีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัทได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะแสดงความสามารถในโอกาส ที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะในการบริหารจัดการนี่แหละ”