ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาค1 ปีการศึกษา2554

การสอบไล่ภาค 1 ปีกรศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)

1.         บทใดในหนังสือเรียนที่กล่าวถึง การนำวิชามานุษยวิทยาไปใช้ประโยชน์

(1)       บทที่ 1 

(2)       บทที่ 5 

(3) บทที่ 10     

(4) บทที่ 16

ตอบ 4 หน้า 271 หนังสือเรียนวิชามานุษยวิทยาเบื้องต้น (AN 113) บทที่ 16 เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ มานุษยวิทยาปฏิบัติการ (Practicing Anthropology) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า มานุษยวิทยาประยุกต์ (Applied Anthropology) ซึ่งกล่าวถึง การนำวิชามานุษยวิทยา ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

2.         ผู้ใดเขียนหนังสือเรื่อง มานุษยวิทยาเบื้องต้น” (หนังสือเรียนของมหาวิทยาลัยรามคำแหง)

(1)       รศ.ดำรง ฐานดี            

(2)       รศ.ดำรงค์        ฐานดี   

(3) รศ.ณรงค์   ทำดี     

(4) รศ.ณรงค์   หนุนดี

ตอบ.2 หน้า 323, (คำนำ) หนังสือเรียนของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่อง มานุษยวิทยาเบื้องต้น(Introduction to Anthropology) เขียนโดย รศ.ดร.ดำรงค์ ฐานดี ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีศึกษา ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์

3.         Anthropos แปลว่า มนุษย์ มีรากศัพท์มาจากภาษาใด

(1)       โรมัน    

(2)       กรีก     

(3) สเปน         

(4) เยอรมัน

ตอบ 2 หน้า 6 มานุษยวิทยา (Anthropology) คือ วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในทุกแงทุกมุม โดยคำว่า Anthropology เป็นคำผสมที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกสองคำ คือ

1.         Anthropos แปลว่า มนุษย์หรือคน

2.         Logos แปลว่า การศึกษาหรือศาสตร์หรือความรู้ที่ได้รับการจัดให้เป็นระบบ

4.         คำว่า Logos หมายถึงอะไร

(1) การศึกษา

(2)       ศาสตร์            (3) ความรู้ที่ได้รับการจัดให้เป็นระบบ (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

5.         คำใดที่มีความหมายตรงกับคำว่า Physical Anthropology

(1)       Cultural Anthropology    (2) Social Anthropology

(3)       Biological Anthropology (4) Sociological Anthropology

อบ 3 ทน้า 6-7 มานุษยวิทยากายภาพ (Physical Anthropology) หรือมานุษยวิทยาเชิงชีววิทยา (Biological Anthropology) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับตัวมนุษย์ ซึ่งหมายถึงการศึกษาเกี่ยวกับ สรีรวิทยาทางชีวภาพที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวมนุษย์

6.         Evolution หมายถึงอะไร

(1)       การวิวัฒนาการ           (2) การกำเนิด (3) การลองผิดลองถูก (4) ความแตกต่าง

ตอบ 1 หน้า 336 การวิวัฒนาการ (Evolution) เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ดำเนินไปทีละขั้นซึ่งแต่ละขั้นที่สืบต่อจะมีความเกี่ยวพันกันกับขั้นก่อนหน้านั้น หรือหมายถึงความเจริญเติบโต หรือการพัฒนาที่เกี่ยวพันต่อเนื่องกัน

7.         สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น” หรือผลงานอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เรียกว่าอะไร

(1) มนุษย์        (2) วัฒนธรรม  (3) สังคม         (4) กายภาพ

ตอบ 2 หน้า 7 “สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น” หรือผลงานอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ว่าสิ่งนั้น จะเป็นผลผลิตรูปธรรมและผลงานของนามธรรม เรียกว่า วัฒนธรรม .(Culture)

8.         มนุษย์มาจากไหน” “ใครคือบรรพบุรุษของมนุษย์” “มนุษย์กับสัตว์คล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไรและ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น” เป็นการศึกษาเกี่ยวกับอะไร

(1)       การอยู่ร่วมกันเป็นสังคม         (2) มนุษย์คิดขึ้นและทำขึ้น

(3) ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ยุคปัจจุบัน   (4) การวิวัฒนาการของมนุษย์

ตอบ 4 หน้า 6 การศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ (Human Evolution) เป็นการมุ่งเน้นที่จะตอบคำถามว่า มนุษย์มาจากไหน” “ใครคือบรรพบุรุษของมนุษย์”, “มนุษย์กับสัตว์คล้ายคลึง หรือแตกต่างกันอย่างไร” และ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

9.         ผู้ใดกล่าวว่า สิ่งที่เราศึกษาต้องมีกรอบเป็นเครื่องรองรับ จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้และเป็นเหตุผล”       

(1) พระยาอนุมานราชธน

(2)       สุเทพ สุนทรเภสัช       (3) ชนัญ วงศ์วิพากษ์  (4) อนันต์ กาญจนพันธ์

ตอบ 1 หน้า 38 พระยาอนุมานราชธน (เสถียรโกเศศ) ได้กล่าวอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราศึกษาต้องมีกรอบเป็นเครื่องรองรับ จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้และเป็นเหตุผลอันง่ายต่อการเสริมเติมแต่ง ความรู้ต่อไปในอนาคต” ซึ่งหมายความว่า ท่านได้เริ่มให้ความสนใจที่จะใช้กรอบความคิด และระเบียบวิธีศึกษาทางมานุษยวิทยาตะวันตกมาเป็นแนวทางในการศึกษาสังคมและวัฒนธรรม จึงเป็นผลทำให้สาขามานุษยวิทยาในประเทศไทยเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวหน้ามา จนถึงทุกวันนี้

10.       ผู้ใดถือว่าเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

(1) ทาซิตัส       (2) ฮีโรโดตัส    (3) รูโบรค        (4) มาร์โคโปโล

ตอบ 2 หน้า 4 ในช่วงปี 484 – 426 ก่อนคริสตกาล ฮีโรโดตัส (Herodotus) ถือว่าเป็นนักประวัติศาสตร์คนสำคัญของกรีก ที่ได้ออกเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ ปาเลสไตน์ บาบิโลน แม็คคาโดเนีย และตราช แล้วทำการจดบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่ได้พบเห็น เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับข้อแตกต่างระหว่างชาวอียิบต์กับชาวกรีก เป็นต้น ซึ่งจากผลงานเหล่านี้เอง ที่ทำให้นักมานุษยวิทยาสังคมชาวอังกฤษได้ยกยองเขาว่าเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา ANT 1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)

1.         ลุ่มนํ้าใดเป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกของอารยธรรมล้านนา

(1) ลุ่มน้ำกก    

(2) ลุ่มนํ้าปิง    

(3) ลุ่มน้ำโขง   

(4) ลุ่มน้ำชี

ตอบ 1 หน้า 2 ประวัติศาสตร์ล้านนาโบราณ ในยุคเริ่มก่อตั้งชุมชนเจ้านครได้กล่าวถึงความสำคัญ ของลุ่มแม่น้ำกกว่า เป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกของอารยธรรมล้านนาที่ผู้คนสามารถควบคุมนํ้า เพื่อการเกษตรแบบนาดำ จนสามารถผลิตอาหารได้มากเพียงพอที่จะส่งมอบให้ชนชั้นปกครอง ในรูปของการภาษีอากรได้ ซึ่งบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรล้านนาว่า มีขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 มาแล้ว

2.         อาณาจักรล้านนากำเนิดขึ้นในพุทธศตวรรษที่เท่าใด

(1) 8    

(2) 13  

(3) 15  

(4) 17

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         ตำนานใดที่เขียนเป็นภาษาบาลี

(1)จามเทวีวงศ์            

(2)พื้นเมืองเชียงใหม่   

(3)เมืองเงินยางเชียงแสน        

(4)ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 2 ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษา เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของไทยอย่างละเอียด และกล่าวว่าตำนานได้ให้ภาพความรู้ทาง ประวัติศาสตร์พื้นเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำนานพระยาเจือง (มีขีวิตอยู่ในช่วง พ.ศ. 1625 – 1705) ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสน และตำนานจามเทวีวงศ์ ที่เขียนเป็นภาษาบาลี และตำนานมูลศาสนาที่เขียนเป็นภาษาไทยเหนือ (ไทยยวน)

โดยตำนานเหล่านี้จะเขียนลงบนใบลานเรียกว่า คัมภีร์ใบลาน และสมุดข่อยเรียกว่า คัมภีร์สมุดข่อย

4.         ในยุคใดที่ประเทศไทยได้นำเอาระเบียบวิธีการศึกษาเชิงมานุษยวิทยาของชาวตะวันตกมาใช้เป็นแนวทาการศึกษาเป็นครั้งแรก

(1) อู่ทอง         (2) สุโขทัย       (3) อยุธยา       (4) รัตนโกสินทร์

ตอบ 4 หน้า 3 ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีผลงานการศึกษาในเรื่ยงการดำรงชีวิตและขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมทั้งของคนไทยและชนกลุ่มต่าง ๆ ในแถบสุวรรณภูมิเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการนำเอาระเบียบวิธีการศึกษาเชิงมานุษยวิทยาของชาวตะวันตกมาใช้เป็นแนวทาง ในการศึกษาเป็นครั้งแรกด้วย

5.         ข้อใดที่เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

(1) นิราศตะเลงพ่าย    (2) นิราศลอนดอน

(3) พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน      (4) พระราชนิพนธ์จากบ้าน

ตอบ 3 หน้า 3-4 งานเขียนเรื่องราวของชนต่างชาติที่ได้รับความสนใจแพร่หลายที่สุด คือ พระราชนิพนธ์ไกลบ้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)ซึ่งทรงนิพนธ์ขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปในระหว่างปี พ.ศ. 2449 – 2450 โดยพระองค์ ทรงเขียนเป็นพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงนิภานภดล (สมเด็จหญิงน้อย) จำนวน 43 ฉบับ ทั้งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นการเปิดโฉมหน้าของการศึกษาสาขามานุษยวิทยาของไทยโดยแท้

6.         จากการศึกษาของ ฮีโรโดตัส” กล่าวว่า ชนชาติใดที่ผู้ชายทำการทอผ้า

(1) โรมัน          (2) อียิปต์        (3)       จีน       (4) อาหรับ

ตอบ 2. หน้า 4 ในช่วงปี 484 – 426 ก่อนคริสตกาล ฮีโรโดตัส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้ออกเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ ปาเลสไตน์ บานิโลน แม็คคาโดเนีย และตราซ แล้วทำการจดบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่ได้พบเห็น เช่น “…ในประเทศอียิปต์ ผู้หญิงจะเป็นผู้ทำการค้าขาย ในตลาด ในขณะที่ผู้ชายจะทอผ้าอยู่ที่บ้าน ผู้หญิงใช้หัวไหล่เพื่อแบกสิ่งของ ส่วนผู้ชายใช้ศีรษะ ลูกผู้ชายจะไม่ช่วยพ่อแม่ทำงานนอกจากลูกผู้หญิง…” ซึ่งจากผลงานเหล่านี้เองที่ทำให้ นักมานุษยวิทยาสังคมชาวอังกฤษได้ยกย่องเขาว่าเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

7.         ใครคือผู้ที่สนใจและได้เขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมตะวันออก

(1) มาร์โคโปโล            (2) อีโรโดตัส    (3)       ทาซิตัส            (4) เมนเดล

ตอบ 1 หน้า 5 ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 3 มาร์โคโปโล ผู้ซึ่งเคยรับราชการในสมัยกุบไลข่าน เป็นเวลานานถึง 17 ปี ได้เขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมอันสูงส่งของชนในซีกโลก ตะวันออกเผยแพร่ในยุโรป ส่งผลให้ความเชื่อของชาวยุโรปที่ว่า ศูนย์กลางของอารยธรรม ของโลกมีอยู่เฉพาะในทวีปยุโรปนั้นค่อย ๆ ลดลง

8.         นักมานุษยวิทยาสังคมอังกฤษได้ยกย่องให้ท่านใดเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

(1)มาร์โคโปโล (2)ฮีโรโดตัส     (3)ทาซิตัส        (4)เมนเดล

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

9.         ตำนานใดที่เขียนขึ้นเป็นภาษาไทยยวน

(1) พื้นเมืองเชียงรุ้ง     (2) พื้นเมืองเชียงแสน (3)        มูลศาสนา        (4) จามเทวีวงศ์

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

10.       ข้อใดที่เขียนขึ้นจากเค้าความจริง ไม่ใช่จากจินตนาการ

(1)นิทานท้องถิ่น          (2)พงศาวดาร  (3)สารคดี        (4)ตำนาน

ตอบ 3 หน้า 10 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ระบุว่า

1.         ตำนาน คือ เรื่องราวที่แสดงกิจการอันมีมานานแล้วแต่ปางหลังหรือเรื่องราวนมนานที่เล่า สืบต่อกันมา

2.         สารคดี คือ เรื่องที่เขียนขึ้นจากเค้าความจริง ไม่ใช่จากจินตนาการ

3.         พงศาวดาร คือ เรื่องราวของเหตุการณ์เกี่ยวกับประเทศหรือพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุข ของประเทศนั้น

4.         นิทานท้องถิ่น คือ เรื่องที่เล่าจากปากต่อปากของชาวบ้าน

ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา ANT 1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)

1.         ตำนานใดต่อไปนี้ที่เขียนเป็นภาษาบาลี

(1)       พระยาเจือง     

(2) จามเทวีวงศ์           

(3) เมืองเงินยางเชียงแสน       

(4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 2-3 ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษา เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของไทยอย่างละเอียด และกล่าวว่าตำนานได้ให้ภาพความรู้ทาง ประวัติศาสตร์พื้นเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำนานพระยาเจือง(มีชีวีตอยูในช่วงพ.ศ. 1625 – 1705) ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสน และตำนานจามเทวีวงศ์ งานเหล่านี้ เขียนเป็นภาษาบาลี ยกเว้นตำนานมูลศาสนาที่เขียนเป็นภาษาไทยเหนือ (ไทยยวน) โดย ตำนานเหล่านี้จะเขียนลงบนใบลานเรียกว่า คัมภีร์บลาน และสมุดข่อยเรียกว่า คัมภีร์สมุดข่อย

2.         นักมานุษยวิทยาคนแรกของโลกคือใคร

(1)       ทาซิตัส            

(2)       อีโรโดตัส          

(3)       คาร์ปินี

(4)        ทาเลส

ตอบ 2 หน้า 4 ในช่วงปี 484 – 426 ก่อนคริสตกาล ฮีโรโดตัส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้ออกเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ ปาเลสไตน์ บาบิโลน แม็คคาโดเนีย และตราซ แล้วทำการ จดบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่ได้พบเห็น เช่น “…ในประเทศอียิปต์ ผู้หญิงจะเป็นผู้ทำการค้าขาย ในตลาด ในขณะที่ผู้ชายจะทอผ้าอยู่ที่บ้าน ผู้หญิงใช้หัวไหล่เพื่อแบกสิ่งของ ส่วนผู้ชายใช้ศีรษะ ลูกผู้ชายจะไม่ช่วยพ่อแม่ทำงานนอกจากลูกผู้หญิง…” ซึ่งจากผลงานเหล่านี้เองที่ทำให้ นักมานุษยวิทยาสังคมชาวอังกฤษได้ยกย่องเขาว่าเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

3.         พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนิพนธ์ไว้มีจำนวนกี่ฉบับ

(1)       18        

(2)       23        

(3)       37        

(4)       43

ตอบ 4 หน้า 3-4 งานเขียนเรื่องราวของชนต่างชาติที่ได้รับความสนใจแพร่หลายที่สุด คือ พระราชนิพนธ์ไกลบ้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัฃกาลที 5) ซึ่ง ทรงนิพนธ์ขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปในระหว่างปี พ.ศ. 2449 – 2450 โดยพระองศ์ ทรงเขียนเป็นพระราขหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงนิภานภดล (สมเด็จหญิงน้อย) จำนวน 43 ฉบับ ทั้งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นการเปิดโฉมหน้าของ การศึกษาสาขามานุษยวิทยาของไทยโดยแท้

4.         ชาวกรีกโบราณได้แล่นเรือไปตามเมืองต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนในศตวรรษที่เท่าใดก่อนคริสต์ศักราช

(1)       8          (2) 12              (3) 15  (4) 17

ตอบ 1 หน้า 4 ในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์คักราช ชาวกรีกโบราณได้แล่นเรือไปตามเมืองต่าง ๆที่ตั้งอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน พวกเขาได้บรรยายถึงความแตกต่างของคนและเมืองท่าต่าง ๆ ความรู้ดังกล่าวก่อให้เกิดประโยซน์มหาศาลแก่พอค้าที่ทำการค้าขายระหว่างกัน

5.         ทาซิตัส” เป็นชาวอะไร

(1) กรีซ            (2) โรมัน          (3) อียิปต์        (4) ผิดทั้งหมด

ตอบ 2 หน้า 4 – 5 ทาซิตัส (Tacitus) นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน ได้เขียนเรื่องราวของคนเถื่อน(ชนเผาเยอรมัน) ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของยุโรป โดยกล่าวถึงลักษณะโครงสร้างทางร่างกาย แบบบ้าน สภาพแวดล้อมทางสังคม และขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างละเอียด

6.         ความหมายของคำว่า “Logos” ในภาษากรีก คืออะไร

(1) มนุษย์        (2) ศาสตร์       (3) นักปราชญ์ (4) เทพเจ้า

ตอบ 2 หน้า 6 มานุษยวิทยา (Anthropology) คือ วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ใน ทุกแง่ทุกมุม โดยคำว่า Anthropologyเป็นคำผสมที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกสองคำ คือ

1.         Anthropos แปลว่า มนุษย์หรือคน

2.         Logos แปลว่า การศึกษาหรือศาสตร์หรือความรู้ที่ได้รับการจัดให้เป็นระบบ

7.         ฮีโรโดตัส ได้เดินทางไปที่ใด

(1) จีน  (2)       หมูเกาะมาดากัสกา     (3) บาบิโลน    (4)       บอร์เนียว

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

8.         ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ เขียนเป็นภาษาอะไร

(1) บาลี           (2)       สันสกฤต         (3) ไทยเหนือ   (4)       ไทยยวน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

9.         นักประวัติศาสตร์ท่านใดที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับคนเถื่อน (ชนเผ่าเยอรมัน)

(1) คาร์ปินี       (2)       ทาซิตัส            (3) ฮีโรโดตัส    (4)       มาร์โคโปโล

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

10.       ลุ่มแม่นํ้าใดที่เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมล้านนา

(1) ลุ่มแม่น้ำปิง           (2)       ลุ่มแม่นํ้าสาละวิน        (3) ลุ่มแม่น้ำกก           (4)       ลุ่มแม่น้ำโขง

ตอบ 3 หน้า 2 ประวัติศาสตร์ล้านนาโบราณ ในยุคเริ่มก่อตั้งชุมชนเจ้านครได้กล่าวถึงความสำคัญของ ลุ่มแม่น้ำกก” ว่าเป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกของอารยธรรมล้านนาที่ผู้คนสามารถควบคุมนํ้า เพื่อการเกษตรแบบนาดำ จนสามารถผลิตอาหารได้มากเพียงพอที่จะส่งมอบให้ชนชั้นปกครอง ในรูปของการภาษีอากรได้ ซึ่งบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรล้านนาว่ามีขึ้นตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 13 มาแล้ว

ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา ANT 1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)

1.         อาณาจักรล้านนามีความเจริญรุ่งเรืองมากในช่วงพุทธศตวรรษที่เท่าใด

(1)  13        

(2) 14  

(3) 15 

(4) 16

ตอบ 1 หน้า 2 ประวัติศาสตร์ล้านนาโบราณ ในยุคเริ่มก่อตั้งชุมชนเจ้านครได้กล่าวถึงความสำคัญของ ลุ่มแม่น้ำกก” ว่าเป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกของอารยธรรมล้านนาที่ผู้คนสามารถควบคุมนํ้าเพื่อการเกษตรแบบนาดำ จนสามารถผลิตอาหารได้มากเพียงพอที่จะส่งมอบให้ชนชั้นปกครองในรูปของการภาษีอากรได้ ซึ่งบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรล้านนาว่ามีขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษพี่ 13 มาแล้ว

2.         พระราชนิพนธ์ไกลบ้านเป็นงานเขียนของใคร

(1)       พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ห้ว          

(2) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

(3) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  

(4) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

ตอบ 2 หน้า 3-4 งานเขียนเรื่องราวของชนต่างชาติที่ได้รับความสนใจแพร่หลายที่สุด คือพระราชนิพนธ์ไกลบ้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งทรงนิพนธ์ขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปในระหว่างปี พ.ศ. 2449 – 2450 โดยพระองค์ทรงเขียน เป็นพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงนิภานภดล (สมเด็จหญิงน้อย) จำนวน 43 ฉบับ เล่าถึงความทุกข์สุขส่วนพระองค์ในการเสด็จไปครั้งนั้น และบรรยายถึงการตั้งถิ่นฐาน บ้านเรือนและขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศต่าง ๆ ในยุโรปอย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นผลงาน ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นการเปิดโฉมหน้าของการศึกษาสาขามานุษยวิทยาของไทยโดยแท้

3.         เนื้อหาในพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน ได้บรรยายถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของที่ใด

(1)       เอเชีย   

(2) ยุโรป          

(3)       เอเชียตะวันออก          

(4)       อเมริกา

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

4.         มาร์โคโปโล ได้รับราชการในจีนเป็นเวลานานกี่ปี

(1)3ปี  (2)8ปี  (3)17ปี            (4)25ปี

ตอบ 3 ทน้า 5 ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 3 มาร์โคโปโล ผู้ซึ่งเคยรับราชการในจีนสมัยกุบไลข่านเป็นเวลานานถึง 17 ปี ได้เขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมอันสูงส่งของชนในซีกโลก ตะวันออกเผยแพร่ในยุโรป ส่งผลให้ความเชื่อของาวยุโรปที่ว่า ศูนย์กลางของอารยธรรม ของโลกมีอยู่เฉพาะในทวีปยุโรปนั้นค่อย ๆ ลดลง

5.         จังหวัดใดที่อยู่ในอาณาจักรล้านนา

(1) ลำปาง       (2) ลำพูน         (3)       เชียงใหม่         (4)       ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 10 อาณาจักรล้านนา ได้แก่บริเวณที่ชาวพื้นเมืองใช้ภาษาคำเมือง(ไทยเหนือ)เป็นสื่อในการ พูดและภาษาไทยยวนเป็นภาษาเขียน โดยในยุคต้นนั้นอาณาจักรล้านนาประกอบด้วย เมืองโยนก เชียงแสน เมืองฝาง (ไชยปราการ) เมืองหริภุญชัย (ลำพูน) และเมืองเชียงราย (มังราย) ส่วนในปัจจุบัน อาณาจักรล้านนาประกอบด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน

6.         พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน เขียนเป็นจดหมายรวมทั้งหมดกี่ฉบับ

(1)       43 ฉบับ           (2) 68 ฉบับ     (3)       89 ฉบับ           (4) 115 ฉบับ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. บระกอบ

7.         ใครที่เคยถูกจับขึ้นศาลมองโกล

(1) มาร์โคโปโล            (2) คาร์ปินี       (3)       รูโบรค  (4) ข้อ 2 และ 3

ตอบ 4 หน้า 5 ในคริสต์ศตวรรษที่ 3 เมื่อพวกมองโกลขยายอาณาบริเวณมาทางภาคตะวันตกของ ทวีปเอเชีย มีชาวยุโรปสองคนชื่อ คาร์ปินีและรูโบรค ถูกจับและถูกนำขึ้นศาลของพวกมองโกล โดยชายทั้งสองได้เขียนเล่าถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของชนเผ่านี้และนำไปเผยแพร่ในยุโรป

8.         ใครคือผู้ทีเขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมตะวันออก

(1) มาร์โคโปโล            (2) คาร์ปินี       (3)       รูโบรค  (4) ข้อ 2 และ 3

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

9.         ตำนานใดที่เขียนเป็นภาษาไทยยวน

(1)       มูลศาสนา        (2) จามเทวีวงศ์           (3)       พื้นเมืองเชียงใหม่ (4) พระยาเจือง

ตอบ1 หน้า 2-3 ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของไทยอย่างละเอียด และกล่าวว่าตำนานได้ให้ภาพความรู้ทาง ประวัติศาสตร์พื้นเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำนานพระยาเจือง(มีชีวิตอยู่ในช่วงพ.ศ. 1625 – 1705) ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสน และตำนานจามเทวีวงศ์ งานเหล่านี้ เขียนเป็นภาษาบาลี ยกเว้นตำนานมูลศาสนาที่เขียนเป็นภาษาไทยเหนือ (ไทยยวน) โดยตำนาน เหล่านี้จะเขียนลงบนใบลานเรียกว่า คัมภีร์ใบลาน และสมุดข่อยเรียกว่า คัมภีร์สมุดข่อย

10.       เสถียรโกเศศ” คือใคร        

(1) พระยาประเสริฐสุนทราศรัย

(2)       พระยาอนุมานสรรพกิจ           (3) เจ้าพระยาอภัยภูเบศร       (4) พระยาอนุมานราชธน

ตอบ 4 หน้า 261 – 263, (คำบรรยาย) พระยาอนุมานราชธน เดิมมีชื่อว่า หลีกวงหยง” ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อไทยว่า ยง” และได้รับนามสกุลพระราชทานว่า เสถียรโกเศศ” เป็นผู้ที่มี คุณูปการต่อการศึกษาวิชามานุษยวิทยาของไทยเป็นอย่างมาก จึงทำให้ได้รับการยอมรับว่า เป็นปรมาจารย์สาขามานุษยวิทยารุ่นแรกของไทย

ANT1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2557

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2557

ข้อสอบกระบวนวิชา ANT 1013 มานุษยวิทยาเบื้องต้น

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)

1.         มานุษยวิทยา ศึกษาเกี่ยวกับอะไร

(1)       ศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในทุกแง่ทุกมุม         

(2) ศึกษาเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของมนุษย์

(3) ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาทางสังคมของมนุษย์ 

(4) ศึกษาวิวัฒนาการของมนุษย์

ตอบ 1 หน้า 6 มานุษยวิทยา (Anthropology) คือ วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ใน ทุกแง่ทุกมุม โดยคำว่า Anthropologyเป็นคำผสมที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกสองคำ คือ

1.         Anthropos แปลว่า มนุษย์หรือคน

2.         Logos แปลว่า การศึกษาหรือศาสตร์หรือความรู้ที่ได้รับการจัดให้เป็นระบบ

2.         คำว่า Anthropos แปลว่าอะไร

(1)       สัตว์ทุกชนิด     

(2) มนุษย์หรือคน         

(3) สิ่งมิชีวิตทุกชนิด    

(4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         การวิวัฒนาการของมนุษย์” ตรงกับความหมายใด

(1)       Man 

(2) Human Evolution 

(3) Human Variation 

(4) People

ตอบ 2 หน้า 6 – 716 มานุษยวิทยากายภาพ (Physical Anthropology) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มานุษยวิทยาเชิงชีววิทยา (Biological Anthropology) สนใจศึกษา 2 หัวข้อใหญ่ คือ

1.         การวิวัฒนาการของมนุษย์ (Human Evolution) โดยเน้นศึกษาหมู่สัตว์ในสายโฮโมเป็นหลัก เพื่อค้นหาต้นตอและสายการวิวัฒนาการจนกลายมาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน

2.         ความแตกต่างในหมู่มนุษยชาติใบยุคปัจจุบัน (Human Variation) เช่น สีผิว ขนาดและ โครงสร้างทางร่างกาย กลุ่มเลือด การปรับตัวของร่างกายต่อภูมิอากาศและสภาพแวดล้อม ทั้งนี้เพราะเป็นความแตกต่างที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดและสามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลาน โดยผ่านทางพันธุกรรมได้

4.         ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ เป็นนักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยใด

(1)       มหิดล (2) ศิลปากร    (3) เชียงใหม่    (4) ธรรมศาสตร์

ตอบ 3 หน้า 2-3 ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของไทยอย่างละเอียด และกล่าวว่าตำนานได้ให้ภาพความรู้ทางประวัติศาสตร์- พื้นเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำนานพระยาเจือง (มีชีวิตอยู่ในช่วง พ.ศ. 1625 – 1705)ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเงินยางเชียงแสน และตำนานจามเทวีวงศ์ งานเหล่านี้ เขียนเป็นภาษาบาลี ยกเว้นตำนานมูลศาสนาที่เขียนเป็นภาษาไทยเหนือ (ไทยยวน) โดยตำนาน เหล่านี้จะเขียนลงบนใบลานเรียกว่า คัมภีร์ใบลาน และสมุดข่อยเรียกว่า คัมภีร์สมุดข่อย

5.         มานุษยวิทยากายภาพ ตรงกับความหมายข้อใด       

(1) มานุษยวิทยาธรรมชาติ

(2)       มานุษยวิทยาวัฒนธรรม         (3) มานุษยวิทยาสรีรภาพ        (4) มานุษยวิทยาเชิงชีววิทยา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ 

6.         สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่าอะไร

(1)       วัฒนธรรม        (2) สังคม         (3) รูปธรรม      (4) นวัตกรรม

ตอบ 1 หน้า 7 วัฒนธรรม (Culture) หมายถึง สิ่งที่เป็นผลงานที่มนุษย์สร้างและผลิตขึ้น ตลอดจน แต่งเติมเสริมต่อสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น

1.         ผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ โต๊ะ เก้าอี้ พัดลม ตึก สวนสาธารณะ รถยนต์ ฯลฯ

2.         ผลงานที่เป็นนามธรรม ได้แก่ รูปแบบหรือระบบการอยู่รวมกันเป็นสังคม ศาสนา ค่านิยม ความเชื่อ การปกครองแบบประชาธิปไตย ความดี ความเลว ฯลฯ

7.         มานุษยวิทยาวัฒนธรรมได้มีการแพร่หลายขึ้นในยุโรปในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ต่อมาได้รับความสนใจ ในหมูนักวิชาการกลุ่มใด

(1)       อเมริกาใต้        (2) เอเชีย         (3) ออสเตรเลีย            (4) อเมริกัน

ตอบ 4 หน้า 7 ความสนใจศึกษาเรื่องวัฒนธรรมมีมานานแล้ว ต่อมาเมื่อได้มีการจัดระเบียบความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมให้เป็นระบบเพื่อสร้างองค์ความรู้หรือศาสตร์สาขานี้ขึ้นในยุโรปและแพร่หลายไปยัง สหรัฐอเมริกาในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ความรู้สาขานี้จึงได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย ในหมู่นักวิชาการชาวอเมริกัน จึงได้เรียกองค์ความรู้ในสาขานี้ว่า มานุษยวิทยาวัฒนธรรม (Cultural Anthropology)

8.         ตามความเชื่อของชาวเขาเผ่าเย้า ใครคือผู้สร้างโลก

(1)       เปี้ยนโกฮูง       (2) สองพี่น้องตระกูลซ้ง

(3)       เทพเจ้าแห่งเขาไทซาน (4) ผิดทั้งหมด

ตอบ 1 หน้า 1-2 นิยายปรัมปราของซาวเขาเผ่าเย้าได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษของ พวกเขาว่า ในวันที่แปดเดือนสี่ของปีหนึ่ง ได้เกิดนํ้าท่วมโลกเจ็ดวันเจ็ดคืน ผู้คนล้มตายจนเหลือเพียง หญิงชายคู่หนึ่งซึ่งเป็นพี่น้องกัน เทวดาองค์หนึ่งชื่อ เปี้ยนโกฮูง” ซึ่งเป็นผู้สร้างโลกและสวรรค์ และเป็นที่เคารพนับถือของชาวเขาเผ่าเย้าได้แปลงตนเป็นชายชราและบอกสองพี่น้องให้แต่งงานกันเพื่อสร้างมนุษย์ ต่อมาเมื่อน้องสาวคลอดลูกเป็นฟัก จึงมีเทวดาองค์หนึ่งเสด็จลงมาผ่าลูกฟัก พร้อมกับรับสั่งว่า ให้โยนเมล็ดฟักลงบนพื้นราบ สวนเนื้อฟักให้โยนขึ้นบนดอย แต่พี่ชายเกิดจำคำสั่งไขว้เขว คือได้โยนเนื้อฟักลงบนพื้นราบ ต่อมาได้กลายเป็นผู้คนทำมาหากินในที่ราบ ส่วนเมล็ดฟักได้โยนขึ้นไปบนดอยและกลายเป็นชาวเขาเผ่าเย้าที่ทำมาหากินอยู่บนดอย

9.         ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการชี้ให้เห็นถึงอะไร

(1)       ความอุดมสมบูรณ์ทางภูมิศาสตร์แถบนี้         

(2) ความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธ

(3) ความสวยงามของพระธาตุ           

(4) ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมในแถบสุวรรณภูมิ

ตอบ 4 หน้า 3 เอกสารประเภทตำนานที่ปรากฏในภาคต่าง ๆ ของไทย เช่น ตำนานพระธาตุ เมืองนครศรีธรรมราชในภาคใต้ และตำนานพระธาตุพนมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นตำนานที่ชี้ให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของสังคมต่าง ๆ ในแถบสุวรรณภูมิที่เกิดมีขึ้น นับตั้งแต่โบราณกาล

10.       ข้อใดคือพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็อพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

(1)       ประพาสต้น     (2) ไกลบ้าน     (3) สุวรรณโคมคำ        (4) ย้อนรอยอารยธรรม

ตอบ 2 หน้า 3-4 งานเขียนเรื่องราวของชนต่างชาติที่ได้รับความสนใจแพร่หลายที่สุด คือ

พระราชนิพนธ์ไกลน้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งทรง นิพนธ์ขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปในระหว่างปี พ.ศ. 2449 – 2450 โดยพระองค์ทรงเขียน เป็นพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้หญิงนิภานภดล (สมเด็จหญิงน้อย) จำนวน 43 ฉบับ เล่าถึงความทุกข์สุขส่วนพระองค์ในการเสด็จไปครั้งนั้น และบรรยายถึงการตั้งถิ่นฐาน บ้านเรือนและขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศต่าง ๆ ในยุโรปอย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นผลงาน ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นการเปิดโฉมหน้าของการศึกษาสาขามานุษยวิทยาของไทยโดยแท้

11.       นักประวัติศาสตร์ท่านใดที่ได้เดินทางไปยังอียิปต์และเขียนบรรยายความแตกต่างของชาวอียิปต์และชาวกรีกไว้

(1)       ทาซิตัส           

(2) คาร์ปินี และรูโบรค 

(3) มาร์โคโปโล            

(4) ฮีโรโดตัส

ตอบ 4 หน้า 4 ในช่วงปี 484 – 426 ก่อนคริสตกาล ฮีโรโดตัส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้ออกเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ ปาเลสไตน์ บาบิโลน แม็คคาโดเนีย และตราซ แล้วทำการ จดบันทึกเรื่องราวของผู้คนที่ได้พบเห็น เซ่น “…ในประเทศอียิปต์ ผู้หญิงจะเป็นผู้ทำการค้าขายในตลาด ในขณะที่ผู้ชายจะทอผ้าอยู่ที่บ้าน ผู้หญิงใช้หัวไหล่เพื่อแบกสิ่งของ ส่วนผู้ชายใช้ศีรษะ ลูกผู้ชายจะไม่ช่วยพ่อแม่ทำงานนอกจากลูกผู้หญิง…” ซึ่งจากผลงานเหล่านี้เองที่ทำให้นักมานุษยวิทยาสังคมชาวอังกฤษได้ยกย่องเขาว่าเป็น ‘‘นักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

12.       คำว่า Logos หมายถึงอะไร

(1) การจัดระบบวิวัฒนาการของสัตว์

(2)       ความรู้ที่ได้รับการจัดให้เป็นระบบ 

(3) การจัดระบบวิวัฒนาการของพืช         

(4) มนุษย์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

13.       ลุ่มแม่นํ้าใดเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมล้านนา

(1)       กก       

(2) ปิง  

(3) มูล 

(4) น่าน

ตอบ 1 หน้า 2 ประวัติศาสตร์ล้านนาโบราณ ในยุคเริ่มก่อตั้งชุมชนเจ้านครได้กล่าวถึงความสำคัญของ ลุ่มแม่นํ้ากก” ว่าเป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกของอารยธรรมล้านนาที่ผู้คนสามารถควบคุมน้ำเพื่อการเกษตรแบบนาดำ จนสามารถผลิตอาหารได้มากเพียงพอที่จะส่งมอบให้ชนชั้นปกครอง ในรูปของการภาษีอากรได้ ซึ่งบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรล้านนาว่ามีขึ้นตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 13 มาแล้ว

14.       ความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมล้านนาเริ่มมีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่เท่าใด

(1)       10       (2) 13  (3) 15  (4) 16

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 13. ประกอบ

15.       ใครคือผู้ที่นำระเบียบวิธีการศึกษาเชิงมานุษยวิทยาของชาวตะวันตกมาใช้เป็นแนวทางการศึกษาในประเทศไทยเป็นท่านแรก         

(1) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

(2)       พระยาอนุมานราชธน

(3) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว    

(4) พระยาดำรงราชานุภาพ

ตอบ 2 หน้า 3261 – 263, (คำบรรยาย) พระยาอนุมานราชธน เดิมมิซื่อว่า หลีกวงหยง” ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อไทยว่า ยง” และได้รับนามสกุลพระราชทานว่า เสถียรโกเศศ” เป็นผู้ที่นำ ระเบียบวิธีการศึกษาเชิงมานุษยวิทยาของชาวตะวันตกมาใช้เป็นแนวทางการศึกษาในประเทศไทย เป็นท่านแรก และเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อการศึกษาวิชามานุษยวิทยาของไทยเป็นอย่างมาก จึงทำให้ท่านได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมาจารย์สาขามานุษยวิทยารุ่นแรกของไทย

16.       นักมานุษยวิทยาชาวอังกฤษยกย่องว่าผู้ใดเป็นนักมานุษยวิทยาคนแรกของโลก

(1) ทาซิตัส       (2)       ทาเลส (3) ชาร์ลส์ ดาร์วิน        (4)     ฮีโรโดตัส

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

17.       ใครคือผู้ที่เขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมอันสูงส่งของชนในซีกโลกตะวันออก

(1) ฮีโรโดตัส    (2)       ยอร์จ ชาลเลอร์            (3) ไดแอน ฟอลซี่         (4)       มารโคโปโล

ตอบ 4 หน้า 5 ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 3 มารโคโปโล ผู้ซึ่งเคยรับราชการในจีนสมัยกุบไลข่าน เป็นเวลานานถึง 17 ปี ได้เขียนเรื่องราวของคนจีนและอารยธรรมอันสูงส่งของชนในซีกโลกตะวันออกเผยแพร่ในยุโรป ส่งผลให้ความเชื่อของชาวยุโรปที่ว่า ศูนย์กลางของอารยธรรมของโลกมีอยู่เฉพาะในทวีปยุโรปนั้นค่อย ๆ ลดลง

18.       สิ่งที่เราศึกษาต้องมีกรอบเป็นเครื่องรองรับ จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจ” เป็นคำกล่าวของใคร

(1) กรมพระยาดำรงราชานุภาพ          (2) ชาร์ลส์ ดาร์วิน

(3)       พระยาอนุมานราชธน  (4) ไดแอน ฟอสซี่

ตอบ 3 หน้า 38 พระยาอนุมานราชธนได้กล่าวอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราศึกษาต้องมีกรอบเป็นเครื่องรองรับ จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจ” อย่างถ่องแท้และเป็นเหตุผลอันง่ายต่อการเสริมเติมแต่งความรู้ต่อไปในอนาคต ซึ่งหมายความว่า ท่านได้เริ่มให้ความสนใจที่จะใช้กรอบความคิดและระเบียบวิธีศึกษา ทางมานุษยวิทยาตะวันตกมาเป็นแนวทางในการศึกษาสังคมและวัฒนธรรม จึงเป็นผลทำให้ สาขามานุษยวิทยาในประเทศไทยเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้

19.       เสถียรโกเศศ มีความสัมพันธ์กับท่านใดต่อไปนี้

(1) กรมพระยาดำรงราชานุภาพ          (2) พระยาประเสริฐสุนทราศรัย

(3)       เจ้าพระยาจมื่นไวยวรนาถ       (4) พระยาอนุมานราชธน

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 15. ประกอบ

20.       Physical Anthropology ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องใด

(1) Human Evolution         (2) Cultural Anthropology

(3) Human Variation          (4) ข้อ 1 และ 3

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

21.       ข้อใดคือความหมายของคำว่า ตำนาน

(1) เรื่องที่เขียนจากเค้าความจริง         

(2) เรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์

(3) เรื่องราวที่มีและเล่าสืบกันมาแต่ปางหลัง  

(4) เรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวกับเรื่องจริงไม่อิงนิยาย

ตอบ 3 หน้า 10 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ระบุว่า 1. ตำนาน คือ เรื่องราว ที่แสดงกิจการอันมีมานานแล้วแต่ปางหลังหรือเรื่องราวนมนานที่เล่าสืบต่อกันมา 2. สารคดี คือ เรื่องที่เขียนขึ้นจากเค้าความจริง ไม่ใช่จากจินตนาการ 3. พงศาวดาร คือ เรื่องราวของเหตุการณ์เกี่ยวกับประเทศหรือพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น 4. นิทานท้องถิ่น คือ เรื่องที่เล่าจากปากต่อปากของชาวบ้าน

22.       ศิลาจารึกใดที่เป็นของคนไทยและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

(1) ศิลาจารึกแห่งเมืองเชียงของ          

(2) ศิลาจารึกขอม

(3) ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง            

(4) ศิลาจารึกแห่งอาณาจักรทวาราวดี

ตอบ 3 หน้า 3 ศิลาจารึก เป็นงานเขียนที่บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้บนแผ่นหินทำให้คนในยุคปัจจุบัน สามารถรับรู้เรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี ศิลาจารึกที่เป็นของคนไทยและเป็นที่รู้จักกันอย่าง แพร่หลาย คือ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง

23.       การศึกษาตามแนว ชีววัฒนธรรม” เป็นการศึกษาในข้อใด 

(1) วิวัฒนาการทางชีวภาพของมนุษย์

(2)       สิ่งแวดล้อม     

(3) วัฒนธรรมที่สร้างขึ้น          

(4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 1315 การศึกษาตามแนว ชีววัฒนธรรม” (Biocultural Approach) ของนักมานุษยวิทยา- กายภาพ เป็นการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการวิวัฒนาการทางชีวภาพของมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่สร้างขึ้น เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องราวของมนุษย์อย่างสมบูรณ์

24.       การพัฒนาจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวมาเป็นกลุ่มสัตว์ ก่อนที่จะวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ เรียกว่าอะไร

(1) Genes  (2) Logos   (3) Primate        (4) Paleotology

ตอบ 3 หน้า 16 – 17 สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นครั้งแรกนั้นจะมีเพียงเซลล์เดียว ต่อมาก็จะมีเซลล์มากขึ้นจนกลายเป็นพืช สัตว์นํ้า สัตว์บก และพัฒนาก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มสัตว์ที่เรียกว่า ไพรเมต (Primate) ซึ่งไพรเมตนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์

25.       การศึกษาเกี่ยวกับการปรับตัวของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เรียกว่าวิชาอะไร

(1)       Human Sciences     (2) Human Adaptopology

(3)       Human Ecology       (4) Human Andropology

ตอบ 3 หน้า 20335 มนุษยนิเวศวิทยาหรือนิเวศวิทยามนุษย์ (Human Ecology) เป็นวิทยาคาสตร์ สาขาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับการปรับตัวของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งที่มีชีวิตและไมีมีชีวิต รวมทั้งในด้านโครงสร้างและการพัฒนาชุมชนหรือสังคมว่ามนุษย์ได้ปรับปรุงสภาพชีวิตของตน ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง ในสังคมวิทยาบางครั้งใช้คำนี้ในความหมายเดียวกับคำว่า “Social Ecology”

26.       หัวใจหลักของการศึกษาเกี่ยวกับวิชามานุษยวิทยากายภพคืออะไร

(1) Anthropological study

(2)       Empirical study        (3) Humanism   (4) Physical Anthropology

ตอบ 2 หน้า 21 หัวใจหลักของการศึกษาเกี่ยวกับวิชามานุษยวิทยากายภาพ คือ การเรียนรู้จากข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้ (Empirical Study) ซึ่งเป็นวิธีการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการศึกษาจากข้อเท็จจริง หลักฐานที่ค้นพบ การสังเกต การวัดขนาดและการคำนวณอายุของหลักฐานที่ได้รับ

27.       กระดูกส่วนใดของมนุษย์ที่นิยมนำมาทำการศึกษามากที่สุด

(1)       กะโหลก          (2) สะโพก       (3) เล็บ            (4) ฟัน

ตอบ 4 หน้า 22 – 23 กระดูกที่นักมานุษยวิทยากายภาพนิยมนำมาใช้ในการศึกษามากที่สุดก็คือ ฟัน ทั้งนี้เพราะฟันเป็นกระดูกที่มีความคงทนและคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ใน ซากดึกดำบรรพ์ของไพรเมตที่เสียชีวิตมาแล้วนับหมื่นนับแสนปี (กระดูกส่วนอื่นที่พบมาก รองลงมาคือ ขากรรไกร แขน ขา หัวกะโหลก ฯลฯ)

28.       วิธี โปแตสเซียม อาร์กอน” เป็นวิธีการใช้ทำอะไร   

(1) คำนวณขนาดของร่างกาย

(2)       คำนวณช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่    (3) คำนวณอายุของโครงกระดูก         (4) คำนวณหาอุณหภูมิของโลก

ตอบ 2 หน้า 24 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการคำนวนหาอายุหรือ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิตหรือากดึกดำบรรพ์ คือ การคำนวณด้วยวิธีคาร์บอน-14 และวิธีโปแตสเซียม อาร์กอน กับซากกระดูกของมนุษย์โบราณ ซึ่งทำให้คาดคะเนกาลเวลาได้ ค่อนข้างแม่นยำ

29.       การศึกษาเรื่องราวของการวิวัฒนาการ ต้องอาศัยการวิเคราะห์อะไรเป็นหลัก           

(1) เครื่องมือเครื่องใช้

(2)       ซากกระดูกและอวัยวะ            (3) สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ            (4) เครื่องประดับ

ตอบ 2 หน้า 16 นักมานุษยวิทยากายภาพศึกษาเรื่องราวของการวิวัฒนาการของมนุษย์ โดยอาศัยการวิเคราะห์ซากกระดูกและอวัยวะซึ่งเรียกว่า ซากดึกดำบรรพ์ ซากเน่าเปื่อย หรือฟอสซิล (Fossil) ของสิ่งมีชีวิตที่เคยมีชีวิตในอดีต แลัวนำมาเปรียบเทียบกับโครงสร้างกายวิภาคของสัตว์และมนุษย์ ในยุคปัจจุบัน เพื่อสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับสายการวิวัฒนาการจนกลายเป็นโฮโม เซเปียนส์

30.       ส่วนใดของซากมนุษย์ที่ใช้ในการบ่งชี้เพศได้ดี

(1)       อวัยวะเพศ      (2) กะโหลก     (3) กระดูกสะโพก       (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 3 หน้า 24 เกณฑ์ที่จะชี้ว่าซากดึกดำบรรพ์ของมนุษย์โบราณเป็นเพศใดนั้น สามารถดูได้จาก กระดูกสะโพก โดยกระดูกสะโพกของเพศหญิงจะมีโครงสร้างแบน กว้าง และอยู่ในตำแหน่งต่ำ เพื่อจะสามารถผายออกได้เมื่อตั้งครรภ์ ส่วนกระดูกสะโพกของเพศชายจะอยู่ในระดับสูงและ แคบกว่ามาก

31.       ไพรเมต” คืออะไร   

(1) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

(2)       สัตว์เซลล์เดียว           

(3) สัตว์เลื้อยคลาน     

(4) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เลือดอุ่น มีกระดูกสันหลัง

ตอบ 4 หน้า 176369 ไพรเมต เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชั้นสูง มีเลือดอุ่น และมีกระดูกสันหลังโดยไพรเมตรุ่นแรกเกิดขึ้นบนโลกในยุคซีโนโซอิกเมื่อราว 65 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งนักมานุษยวิทยา ถือว่าไพรเมตเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการการเป็นมนุษย์ โดยสัตว์ในลำดับนี้แบ่งออกเป็น 1. ลำดับตํ่าสุด ได้แก่ ลิงเลมูร์ ลิงทาร์เซีย 2. ลำดับสูง ได้แก่ ลิง ค่าง ชะนี และวานร (เช่น ชิมแปนซี กอริลลา และอุรังอุตัง) ซึ่งต่อมาวานรได้วิวัฒนาการเป็นมนุษย์โบราณและ สุดท้ายพัฒนาเป็นโอโม เซเปียนล์ หรือมนุษย์ยุคปัจจุบัน

32.       ไพรเมตอุบัติขึ้นในโลกครั้งแรกในราวกี่ล้านปีมาแล้ว

(1) 50  

(2) 65  

(3) 75  

(4) 80

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 31. ประกอบ

33.       นักมานุษยวิทยากายภาพท่านใดที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของลิงอุรังอุตัง

(1) ฟิลลิส ฮอลินาว      

(2) เจน กูดเดลล์          

(3) ไดแอน ฟอสซี่         

(4) เซนต์ ออกัสติน

ตอบ ใม่มีข้อใดถูก หน้า 1872 – 73 นักมานุษยวิทยากายภาพที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของไพรเมต ที่ไม่ใช่มนุษย์ในสภาพธรรมชาติ ได้แก่ 1. ไดแอน ฟอสซี่ ศึกษาพฤติกรรนของลิงกอริลลา ในประเทศแองโกล่า 2. เจน กูดเดลล์ ศึกษาพฤติกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของลิงในแถบ แอฟริกาตะวันออกและชิมแปนซีนประเทศยูกานดา 3. ฟิลลิส ฮอลินาว ศึกษาพฤติกรรม ของลิงแลงเกอร์ในประเทศอินเดีย   4. บิรุท กอลดิกาส-บรินดามลร์ ศึกษาพฤติกรรมของลิงอุรังอุตังในหมู่เกาะบอร์เนียว ลิงแบมบูนในแอฟริกา และลิงมาคัสในตอนกลางของ ประเทศญี่ปุ่น

34.       นักมานุษยวิทยากายภาพท่านใดที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลิงแลงเกอร์

(1)       ฟิลลิส ฮอลินาว           (2)       เจน กูดเดลล์   (3) ไดแอน       ฟอสซี่  (4)       เซนต์ ออกัสติน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ

35.       นักมานุษยวิทยากายภาพท่านใดทำการศึกษาเกี่ยวกับลิงกอริลลา

(1)       ฟิลลิส ฮอลินาว           (2)       เจน กูดเดลล์   (3) ไดแอน       ฟอสซี่  (4)       เซนต์ ออกัสติน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ

36.       การศึกษากลุ่มไพรเมตในสกุลโฮโม มีชื่อเรียกเฉพาะว่าอะไร

(1) มนุษยนิเวศวิทยา

(2)       มานุษยวิทยากายภาพ          

(3) วิชามนุษย์โบราณวิทยา    

(4) มานุษยวิทยาชีวภาพ

ตอบ 3 หน้า 19 วิชามนุษย์โบราณวิทยา (Human Paleotology) เป็นวิชาที่ทำการศึกษากลุ่มไพรเมตโบราณในสกุลโฮโม โดยศึกษาวิเคราะห์ซากโครงกระดูกและชิ้นส่วนกระดูกที่ค้นพบ (Fossil Remains)

37.       ข้อใดที่ไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างของมนุษย์ด้วยตาเปล่า

(1) สีผิว           (2)       ดวงตา (3) เส้นผม       (4)       กลุ่มเลือด

ตอบ 4 หน้า 1999 ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         ความแตกต่างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (Phenotype) ได้แก่ สีผิว สีของนัยน์ตา เส้นผม รูปทรงของใบหน้า ขนาดของร่างกาย กระดูกขากรรไกร ฯลฯ

2.         ความแตกต่างภายในยีนที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (Genotype) ได้แก่ กลุ่มเลือด คุณลักษณะด้อย (Recessive Trait) ที่มีอยู่ในยีน ฯลฯ

38.       Man ในความหมายของวิชามานุษยวิทยา หมายถึงข้อใด

(1) มนุษย์เพศชาย       (2)       คนและสัตว์เพศผู้        (3) สิ่งมีชีวิตเพศผู้        (4)       มนุษย์ทั้งปวง

ตอบ 4 หน้า 20 ในวิชามานุษยวิทยากายภาพนั้น จะใช้คำว่า “Man” ในความหมายที่กว้างขวางกว่า ความหมายที่ว่า ผู้ชาย” (Male)โดยจะใช้คำว่า “Man” ในความหมายกว้างขวางรวมไปถึง มนุษย์ทั้งปวง” (Human Beings)

39.       ข้อใดไม่จัดอยู่ในวิธีการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์

(1)       การตั้งสมมุติฐาน        (2) การสังเกต (3) การคาดเดา           (4) การทดลอง

ตอบ 3 หน้า 21 วิธีการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ คือ ความพยายามใช้การสังเกตและการทดลองจาก หลักฐานที่ค้นพบจริง ๆ เพื่อนำมาพิสูจน์ตามสมมุติฐานที่ตั้งขึ้น ซึ่งการพิสูจน์จะกระทำกัน หลายครั้งจนแน่ใจว่าความรูที่ได้รับเป็นเหตุเป็นผลตามสมมุติฐานหรือไม่ และในขั้นสุดท้าย จะสรุปเป็นทฤษฎีและกฎเพื่อใช้ในการอธิบายต่อไป

40.       ใครคือผู้ที่ทำการเสนอทฤษฎีการวิวัฒนาการ

(1) Georges Louis Leclerc

(2) Charles Darwin        

(3) Nicolus Copernicus    

(4) Giordano Bruno

ตอบ 2 หน้า 273576 ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) เป็นผู้เสนอทฤษฎีการวิวัฒนาการ และเสนอ แนวคิดเกี่ยวกับการเลือกสรรทางธรรมชาติ โดยได้เขียนสรุปข้อคิดเห็นในเรื่องการเลือกสรรตาม ธรรมชาติเบื้องต้นในปี ค.ศ. 1844 และในปี ค.ศ. 1859 จึงได้พิมพ์เป็นหนังสือชื่อ On Origin of Species ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่นำชื่อเสียงก้องโลกให้แก่เขา และต่อมาในปี ค.ศ. 1871 ได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับบรรพบุรุษของมนุษย์ชื่อ The Descent of Man

41  ใครคือผู้ที่กล่าวว่า สิ่งมีชีวิตมีจุดเริ่มต้นมาจากนํ้า

(1) Heraclitus    

(2) Tales    

(3) Aristotle       

(4) Lucretius

ตอบ 2 หน้า 27 – 28 ทาเลส (Tales) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในระหว่างปี 640 – 546 ก่อนคริสต์ศักราช กล่าวว่า สิ่งมีชีวิตมีจุดเริ่มต้นมาจากนํ้า” ซึ่งจากทัศนะนี้เองทำให้ทาเลสเป็นคนแรกที่นำเสนอแนวคิด ตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์แทนการกล่าวตามนิยายปรัมปราดังเช่นคนร่วมสมัยอื่น ๆ ที่ชี้นำว่า สรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตในโลกล้วนได้รับการสร้างขึ้นจากอำนาจเหนือรรมชาติแทบทั้งสิ้น

42.       De Rerum Natura เป็นผลงานการเขียนของใคร

(1) St. Augustin 

(2) Nicolus Copernicus

(3) Lucretius 

(4) Giordano Bruno

ตอบ 3 หน้า 28 ลูเครติอุส (Lucretius) ซึ่งมีชีวิตอยู่ราว 99 ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้เขียนบทกลอนชื่อ “De Rerum Natura” โดยกล่าวว่า พืชจะเกิดก่อนสัตว์ สัตว์ที่มีอวัยวะของร่างกายที่อยู่ใน ชั้นสูงขึ้นจะมีการแยกกลุ่มตามเพศ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการวิวัฒนาการจากสัตว์ชั้นต่ำกว่า และ สภาวะธรรมชาติที่ผันแปรจะก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดแปลกใหม่ที่มีสภาพร่างกายที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมใหม่นั้น

43.       ในยุคใดที่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ของยุโรปหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว

(1) ยุคดึกดำบรรพ์       

(2) ยุคหิน        

(3) ยุคเก่า        

(4) ยุคกลาง

ตอบ 4 หน้า 28 – 29, (คำบรรยาย) ยุคกลางหรือยุคมืดของยุโรป เป็นยุคที่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ทั้งนี้เพราะผู้คนต้องยอมรับและกระทำตามคำอธิบายของศาสนาในเรื่อง การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตและมนุษยชาติทั้งมวลโดยยุคมืดของยุโรปได้คลี่คลายลงในคริสต์ศตวรรษ ที่ 16 เมื่อศาสนจักรได้รับการท้าทายจากปรัชญาเมธีทางการเมืองที่พยายามผลักดันอำนาจของสันตะปาปาที่กรุงโรมให้พ้นจากอำนาจทางการเมือง

44.       ยุคมืดของยุโรปที่ถูกศาสนจักรควบคุม ได้คลี่คลายลงในคริสต์ศตวรรษที่เท่าใด

(1)16   (2)17   (3)18   (4)19

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 43. ประกอบ

45.       ใครคือบิดาแห่งการศึกษาสาขาสัตววิทยา

(1) Charles Lyll 

(2) Eramus Darwin

(3) George Cuvier

(4) Georges Louis Leclerc

ตอบ 3 หน้า 33 ยอร์จ คูเวียร์ (George Cuvier) น้กวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้รับการขนานนามว่าเป็น บิดาแห่งการศึกษาสาขาสัตววิทยา” ที่เชี่ยวชาญในการศึกษาด้านกระดูก โดยเขา ไม่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่ที่บังเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการวิวัฒนาการจากพันธุ์เก่า แต่เห็นว่า สิ่งมีชีวิตทุกกลุ่มทุกพันธุ์ได้รับการกำหนดโครงสร้างของรูปร่างให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ แน่นอนตายตัว แต่เมื่อโลกต้องพบกับภัยพิบัติอย่างร้ายแรง จะทำให้สิ่งมีชีวิตบางส่วน ถูกทำลายลง จากนั้นสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่ก็จะอุบัติขึ้นและขยายพันธุ์ต่อไป

46.       Theory of Fixity of Species คืออะไร

(1) ทฤษฎีการวิวัฒนาการ       (2) ทฤษฎีเสถียร

(3)       ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลง          (4) ทฤษฎีสถิต

ตอบ 4 หน้า 35 ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบนกกระจาบ 13 ชนิด ที่อาศัยอยู่บน หมู่เกาะกาลาปาโกสในมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้กับประเทศโคลัมเบีย โดยพบว่า นกดังกล่าว มีความแตกต่างกันทั้ง ๆ ที่สภาพแวดล้อมของแต่ละเกาะไม่ได้แตกต่างกันทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งคำถามว่าอะไรคือสาเหตุที่ก่อให้เกิดความแตกต่างทางด้าน ร่างกายหากมิใช่ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม ซึ่งจากข้อสงสัยนี้ทำให้เขาให้ความเชื่อถือทฤษฎีสถิต (Theory of Fixity of Species) น้อยลง

47.       หนังสือเล่มใดที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ชาร์ลส์ ดาร์วิน     

(1) The Descent of Primate

(2)       On Origin of Species        

(3) System Naturae 

(4) Theory of Biology

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 40. ประกอบ

48.       ข้อใดที่ไม่ใช่หลักการที่ก่อให้เกิดการวิวัฒนาการ

(1) Mutation     (2) Speciation   (3) Migration    (4) G.enetic Drift

ตอบ 2 หน้า 39 – 42 หลักการที่ก่อให้เกิดการวิวัฒนาการ ได้แก่

1.         การผ่าเหล่าหรือมิวเทชั่น (Mutation)

2.         การเคลื่อนย้ายของยีนหรือไมเกรชั่น (Migration)

3.         โอกาสในการจับคู่ของยีน (Genetic Drift)

4.         การจัดระเบียบใหม่ภายในโครงสร้างของยีน (Recombination)

5.         การเลือกสรรตามธรรมชาติ (Natural Selection)

49.       นักปราชญ์ท่านใดที่มีทัศนะว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกสามารถเคลื่อนไหวได้

(1)       Tales        (2) Aristotle       (3) Lucretius      (4) Heraclitus

ตอบ 4 หน้า 28 เฮราคลิตัส (Heraclitus) กล่าวว่า ทุกสิ่ง (ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต) บนโลกนี้สามารถเคลื่อนไหวได้” ซึ่งนับว่าเป็นแนวคิดใหม่ที่ตรงข้ามกับแนวคิดที่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่าง จะมีสภาพคงที่ หยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง

50.       นักวิทยาศาสตร์ท่านใดที่ทำการจำแนกและจัดลำดับพืชและสัตว์    

(1) Georges Louis Leclerc

(2)       Carolus Linnaeus     (3) William Harvey   (4) Giordano Bruno

ตอบ 2 หน้า 29 – 30 คาโรลัส ลินเน่ (Carolus Linnaeus) นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1707 – 1773 ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับระบบการจำแนกพืชและสัตว์ชื่อ “Systema Naturae” โดยได้จัดพิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1758 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ทำให้ ลินเน่มีชื่อเสียงอย่างมากเพราะเขาได้จำแนกพืชและสัตว์ออกเป็นกลุ่ม ๆ อย่างเป็นระบบ และ ตั้งชื่อเรียกพืชและสัตว์แต่ละประเภทตามสปีชี่ โดยพิจารณาถึงโครงสร้างและหน้าที่ทางชีวภาพ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด ความสำเร็จของลินเน่ก่อให้เกิดคำกล่าวที่ว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้าง สรรพสิ่งขึ้นบนโลก ส่วนลินเน่เป็นผู้จัดจำแนกอย่างเป็นระบบ

51.       ข้อใดที่หมายถึง การเลือกสรรตามธรรมชาติ

(1) Natural Selection         

(2)       Mutation 

(3) Genetic Drift        

(4)            Nationalization

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 48. ประกอบ

52.       นักปราชญ์ท่านใดที่ตั้งสมมุติฐานว่า จักรวาลจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

(1) ชาร์ลส์ ดาร์วิน        

(2)       ชาร์ลล์ ลีลล์     

(3) เซนต์ ออกัสติน      

(4)       ยอร์จ คูเวียร์

ตอบ ไมุมีข้อใดถูก หน้า 30 ยอร์จ หลุยส์ เลอเคลร์ (Georges Louis Leclerc) หรือที่รู้จักกันในนาม บุฟฟง” (Buffon)ขุนนางชาวฝรั่งเศส มีชีวิตอยู่ในระหว่างปี ค.ศ. 1707 – 1778ได้ตั้งสมมุติฐาน ว่า จักรวาลจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่” จากสมมุติฐานดังกล่าว บุฟฟง จึงให้ความเห็นต่อไปอีกว่า เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะมองสิ่งมีชีวิตทั้งมวลว่าเป็นกระบวนการของระบบที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ทุกสิ่งหาได้มีโครงสร้างทางกายภาพที่แน่นอนตายตัว

53.       มีการค้นพบความรู้เกี่ยวกับเซลล์และโมเลกุลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่เท่าใด

(1) ตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20            

(2) ตอนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20

(3)       ตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21     

(4) ตอนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 21

ตอบ.2 หน้า 273740 ตอนกลางของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้มีการค้นพบความรู้เกี่ยวกับเซลล์และโมเลกุลขึ้นเป็นครั้งแรก โดยนักวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจในเรื่องโมเลกุลและ การเปลี่ยนแปลงภายในยีน จึงทำให้เข้าใจกลไกของกระบวบการวิวัฒนาการอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

54.       เมื่อราว 2,000 ปีมาแล้ว นักปราชญ์ชาติใดที่ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับโลก จักรวาล และมนุษย์

(1) โรมัน          (2)       กรีก     (3)       ฝรั่งเศส            (4)       สเปน

ตอบ 2 หน้า 27 เมื่อราว 2,000 ปีมาแล้ว มีนักปราชญ์ชาวกรีกได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับโลก จักรวาล และมนุษย์ โดยได้กล่าวยํ้าว่า สิ่ง 3 สิ่งนี้มีความเกี่ยวพันและสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น

55.       ลูเครติอุส ได้เขียนบทกลอนชื่อว่าอะไร

(1) Syatema Naturae (2)     Kadeir Teyrnon (3)    Natural Systems (4)  ผิดทั้งหมด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ

56.       ท่านใดที่ได้อธิบายว่า มนุษย์ทุกชีวิตในโลกสืบสายตระกูลมาจากอาดัมและอีวา

(1)       ชาร์ลล์ ดาร์วิน (2)       ฮีโรโดตัส          (3)       ยอร์จ คูเวียร์    (4)       เซนต์ ออกัสติน

ตอบ 4 หน้า 28 เซนต์ ออกัสติน อธิบายวา มนุษย์ทุกชีวิตในโลกสืบสายตระกูลมาจากอาดัมและอีวาซึ่งเป็นบรรพบุรุษคู่แรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นเมื่อราว 6,000 ปีมาแล้ว

57.       ลินเน่ มีชื่อเสียงมากจากการเขียนหนังสือเล่มใด      

(1) On Origin of Species

(2)       The Descent of Man         (3)       Systema Naturae     (4) De Return Natura

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 50. ประกอบ

58.       บุฟฟง” คือชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของใคร       

(1) มาร์โคโปโล

(2) ยอร์จ หลุยส์ เลอเคลร์        (3)       เซนต์ ออกัสติน            (4) คาโรลัส ลินเน่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 52. ประกอบ

59.       นักวิทยาศาสตร์ท่านใดที่เป็นผู้เสนอ หลักยูนิฟอร์ม (Uniformitarionism)

(1)       ชาร์ลส์ ดาริวิบ (2)       คาร์ล มาร์ก      (3)       คาโรลัส ลินเน่  (4)       ชาร์ลส์ ลีลล์

ตอบ 4 หน้า 33 ชาร์ลส์ ลีลล์ (Charles Lyll) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เป็นผู้เสนอ หลักยูนิฟอร์ม” (Uniformitarionism) เขาได้คัดค้านทฤษฎีภัยพิบัติของคูเวียร์ โดยกล่าวแย้งว่าชั้นหินของโลก ที่ก่อรูปมาเป็นดังเช่นทุกวันนี้ได้ผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ เรื่อยมา

60.       ใครคืออาจารย์ของชาร์ลล์ ดาร์วิน     

(1) ยอร์จ คูเวียร์

(2)       จอห์น สตีเวนล์ เฮนสโลว์         (3)       ชาร์ลส์ ลิลล์     (4) อีรามัส ดาร์วิน

ตอบ 2 หน้า 34 – 35 ชาร์ลส์ ดาร์วิน เกิดในประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1809 เขาเข้าศึกษาระดับ ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี ค.ศ. 1828 และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1831 ณ ที่นี้เองที่ทำให้เขาเริ่มให้ความสนใจความรู้สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเมื่อได้เป็นลูกศิษย์ ของศาสตราจารย์ทางพฤกษศาสตร์ชื่อ จอห์น สตีเวนส์ เฮนสโลว์

61.       ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้เดินทางรอบโลกไปกับเรืออะไร

(1) S.M.H. Bridge       

(2)       H.S.M. Bengi    

(3)       H.M.S. Beagle  

(4)       ผิดทั้งหมด

ตอบ 3 หน้า 35 ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้รับเชิญให้เดินทางรอบโลกไปกับเรือชื่อ H.M.3. Beagleโดยเริ่มออกเดินทางจากเมืองท่าของประเทศอังกฤษในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1831 และ กลับถึงประเทศอังกฤษในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1836 รวมเวลาเดินทางรอบโลกราว 5 ปี

62.       ใครคือผู้ที่เสนอแนวคิด การเลือกสรรทางธรรมชาติ

(1) ชาร์ลส์ ดาร์วิน        

(2)       คาร์ล มาร์ก      

(3)       คาโรลัส ลินเน่  

(4)       ชาร์ลส์ ลีลล์

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 40. ประกอบ

63.       ชาร์ลส์ ดาร์วิน ใช้เวลาในการเดินทางรอบโลกกี่ปี

(1)2ปี  

(2)3ปี  

(3)       5ปี       

(4)       7ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

64.       ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้แวะที่เกาะกาลาปาโกส และเขาได้ทำการศึกษาสัตว์ประเภทใดที่เกาะนี้

(1) นกเขา        (2)       นกกระจาบ      (3)       นกขุนทอง        (4)       นกกระตั้ว

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

65.       แนวความคิดในการเลือกสรรทางธรรมชาติ หมายถึงอะไร

(1) พืชและสัตว์มีความแตกต่างกัน     (2) ทุกชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามแบบเรขาคณิต

(3)       ทุกชีวิตต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด        (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 36 แนวความคิดในการเลือกสรรทางธรรมชาติตามทัศนะของชาร์ลส์ ดาร์วิน มีดังนี้

1.         พืชและสัตว์ทั้งหลายจะมีความแตกต่างกัน    2. ทุกชีวิตจะเพิ่มปริมาณเป็นทวีคูณตาม

ระบบเรขาคณิต           3. ทุกชีวิตจะต้องปรับตัวและต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด

66.       มนุษย์ยุคต้นโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ เรียกว่าอะไร

(1) ชวา            (2) ปักกิ่ง         (3) สวอนสโคมบ์         (4) โครมันยอง

ตอบ 4 หน้า 89 – 90 มนุษย์โครมันยอง (Cro-magnon) เป็นโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ ในยุคต้น โดยมีการค้นพบซากกระดูกของมนุษย์โครมันยองเป็นครั้งแรกที่หมู่บ้านโครมันยอง บริเวณตอนใต้ ของประเทศฝรั่งเศส มนุษย์กลุ่มนี้มีชีวิตอยู่ในระหว่างครึ่งหลังของยุคนํ้าแข็งรุ่นสุดท้ายที่มีอากาศ อบอุ่นและหนาวสลับกันไป เป็นมนุษย์ที่มีความสามารถในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยไม้ กระดูกและเขาสัตว์  ปั้นรูป ทำเครื่องปั้นดินเผา และสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมอื่น ๆ ได้ เช่น วิธีการล่าสัตว์ ศิลปะ และพิธีกรรม นอกจากนี้ยังริเริ่มพิธีการฝังศพด้วย

67.       ผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ตับ จัดอยู่ในเซลล์ประเภทใด

(1)โครโมโซม   (2)โซมาติกเซลล์          (3) เซลล์สืบพันธุ์         (4) เซลล์ร่างกาย

ตอบ2 หน้า 47 เซลล์ในร่างกายของมนุษย์ จำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. โซมาติกเซลล์ (Somatic Cells) โดยในร่างกายของคนเรานั้นจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อ (Tissues) หลายประเภท ที่ประกอบกันขึ้นเป็นร่างกาย เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และตับ เป็นต้น ซึ่งเนื้อเยื่อ เหล่านี้เป็นที่รวมของโซมาติกเซลล์นับเป็นจำนวนหลายพันล้านเซลล์ โดยโซมาติกเซลล์จะมี การสร้างขึ้นใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไปในทุก ๆ 7 ปี 2. เซลล์สืบพันธุ์ (Sex Cells)จะทำหน้าที่นำรหัสที่เป็นคุณลักษณะของพ่อแม่ถ่ายทอดไปยังลูกหลานทางพันธุกรรม

68.       หน่วยของสารประเภทต่าง ๆ ประกอบกันขึ้นเป็นยีนอยู่ภายในนิวเคลียสของเซลล์ คืออะไร

(1) โครโมโซม  (2)       โซมาติกเซลล์  (3)       เซลล์สืบพันธุ์   (4)       เซลล์ร่างกาย

ตอบ 1 หน้า 49 โครโมโซม คือ หน่วยของสารประเภทต่าง ๆ ที่ประกอบกับขึ้นเป็นยีนอยู่ภายใน นิวเคลียสของเซลล์ โดยโครโมโซมของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นชนิดหรือพันธุ์เดียวกันกจะมีลักษณะเหมือนกัน

69.       ข้อใดที่ไม่ใช่สารทางชีวภาพที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์

(1) คารโบไฮเดรต        (2)       กรดนิวคลิอิก   (3)       ไขมัน   (4)       ผิดทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 49 เซลล์ (Cell) ประกอบด้วยสารทางชีวภาพหลัก 4 ชนิด คือ

1.         คารโบไฮเดรต (Carbohydrates)        2. ไขมัน (Lipid)

3.         กรดนิวคลิอิก (Nucleic Acids) 4. โปรตีน (Proteins) (สำคัญที่สุด)

70.       สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของโมเลกุลดีเอ็นเอมีกี่ตัว

(1) 1    (2)       2          (3)       3          (4)       4

ตอบ 4 หน้า 53 – 54 โมเลกุลดีเอ็นเอ (Deoxyribonucleic Acid ะ DNA) เป็นสารจำพวกโปรตีนพิเศษ ที่ถือว่าเป็นตัวนำคุณลักษณะทางชีวภาพของพ่อและแม่ไปสู่ลูกหลาน ซึ่งประกอบด้วยสารเคมี 4 ตัว ได้แก่ Adenine, Guanine Cytosine และ Thymine นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของนํ้าตาลและฟอสเฟตอันเป็นตัวนำคุณลักษณะทางพันธุกรรมด้วย

71.       ท่านใดที่ได้นำเสนอรายงานการวิจัยต่อที่ประชุมของ Natural History Society of Biunn

(1) คาร์ล วอน  เนเกลี  

(2)       เมนเดล            

(3)       ฟรีดริช ฟรานซ์ 

(4)       ชาร์ลล์ ลีลล์

ตอบ 2 หน้า 57 – 60 เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel) พระชาวออสเตรีย เป็นลูกชาวนา เกิดที่หมู่บ้านซิเลเซียน ประเทศออสเตรีย เขาได้ค้นพบกฎแห่งพันธุกรรม (พันธุศาสตร์) เป็นคนแรก โดยได้ทำการค้นคว้าทดลองด้วยการนำถั่วผิวเรียบกับถั่วผิวขรุขระมาผสมข้ามพันธุ์ ภายหลังที่ได้ ทำการค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานถึง 8 ปี จึงได้เขียนรายงานการวิจัยต่อที่ประชุมของ Natural History Society of Brunn ในปี ค.ศ. 1865 แต่ไม่มีผู้ใดให้ความสนใจในงานขชิ้นนี้เลย ผลงาน การวิจัยของเมนเดลได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางภายหลังจากมีผู้นำผลงานของเขาไปศึกษาอย่าง จริงจัง และได้รับการยอมรับเมื่อราวปี ค.ศ. 1900 หรือภายหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว 16 ปี

72.       กรดนิวคลิอิก มีกี่ชนิด

(1) 2    

(2) 3    

(3) 4    

(4) 5

ตอบ 1 หน้า 49 ภายในนิวเคลียสจะมีกรดนิวคลิอิก 2 ชนิดที่ทำหน้าที่หลักในการถ่ายทอดรหัส ทางพันธุกรรม คือ   1. ดีเอ็นเอ (Deoxyribonucleic Acid : DNA) 2. อาร์เอ็นเอ

(Ribonucleic Acid : RNA)

73.       DNA ทำหน้าที่อะไร

(1) ถ่ายทอดรหัสทางพันธุกรรม

(2)       สร้างเซลลใหม่ในร่างกาย        (3) ถ่ายทอดรหัสทางเพศ        (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 72. ประกอบ

74.       DNA ทำหน้าที่คล้ายกับอะไร

(1) โครโมโซม  (2)       RNA (3)       โซมาติกเซลล์  (4)       เซลล์ทางเพศ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 72. ประกอบ

75.       โครโมโซมทางเพศของเพศหญิงใช้สัญลักษณใด

(1) XY          (2)       YX     (3)       YY     (4)       XX

ตอบ 4 หน้า 49 โครโมโซมของมนุษย์มีจำนวนทั้งสิ้น 46 ตัว หรือ 23 คู่ โดยในโซมาติกเซลล์จะมีโครโมโซม 2 ประเภท คือ โครโมโซมจำนวน 22 คู่ เรียกว่า ออโตโซม (Autosomes) ส่วนโครโมโซมคู่ที่ 23 เรียกว่า โครโมโซมทางเพศ (Sex Chromosomes) เป็นโครโมโซมที่แตกต่างจากโครโมโซม ตัวอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งในเพศหญิงจะใช้อักษรแทนว่า XX ส่วนในเพศชายจะใช้อักษรแทนว่า XY

76.       โครมาโซมของมนุษย์ มีทั้งหมดกี่คู่

(1) 46  (2)       44        (3)       23        (4)       22

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 75. ประกอบ

77.       กระบวนการการแบ่งเซลล์โซมาติกของร่างกายเรียกว่าอะไร

(1) มีโอซิส       (2)       ไมโตซิส           (3)       เซมาซิอิก         (4)       โซมาซิอิก

ตอบ 2 หน้า 49 – 50 การแบ่งแยกเซลล์ (Cell Division) จำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.         กระบวนการแบ่งเซลล์โซมาติก เรียกว่า ไมโตซิส (Mitosis) เป็นกระบวนการแบ่งเซลล์ที่ไม่สลับซับซ้อน โดยจะก่อให้เกิดความเจริญเติบโตของร่างกายและทำให้ร่างกายสามารถ ธำรงอยู่ได้ต่อไป ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ Interphase, Prophase, Metaphase, Anaphase และ Telophase

2.         กระบวนการแบ่งเซลล์สืบพันธุ์หรือเซลล์ทางเพศ เรียกว่า ไมโอซิส (Meios’s) เป็นกระบวนการ แบ่งเซลล์ที่ก่อให้เกิดการสร้างลูกหลาน หรือที่เรียกว่าการสืบพันธุ์ (Reproduction)โดยผ่านกระบวนการพิเศษที่มีลักษณะเฉพาะ

78.       เราเรียกเซลล์ที่เกิดจากการปฏิสนธิว่าอะไร

(1) ไซโกท        (2) นิวเคลียส   (3) มีโซอิก       (4) มิวเตอิก

ตอบ 1 หน้า 53 ไซโกท (Zygote) คือ เซลล์ใหม่ที่เกิดจากการปฏิสนธิของโครโมโซมของฝ่ายพ่อกับฝ่ายแม่ โดยไซโกทถือเป็นที่รวมคุณลักษณะทางพันธุกรรมของฝ่ายพ่อครึ่งหนึ่งบวกกับฝ่ายแม่ครึ่งหนึ่ง

79.       ใครคือผู้ที่ค้นพบโมเลกุล DNA

(1)ฟรานซิส คริค          (2) เจมส์ วัทสัน           (3)มอริช วิลกินส์          (4)ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 หน้า 54 การค้นพบโมเลกุลดีเอ็นเอ (DNA) ในระหว่างปี ค.ศ. 1951 – 1953 นั้น เป็นผล มาจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งผู้ที่ค้นพบโมเลกุลดีเอ็นเอ คือ เจมส์ ดี. วัทสัน (James D. Watson), ฟรานซิส คริค (Francis Crick) และมอริช วิลกินส์ (Maurice Wilkins) โดยผลงานดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งสามได้รับรางวัลโนเบลสาขา การแพทย์และกายวิภาคศาสตร์ในปี ค.ศ. 1962

80.       อาจารย์ของเมนเดล ได้แนะนำให้เขาเลือกทำแบบใดเพื่อเรียนให้จบ

(1) เดินทางรอบใลกไปกับเรือ (2) ออกบวชเป็นพระ

(3)       ขอทุนรัฐบาลเรียนต่อ   (4) รับจ้างทำงานวิจัยหาเงินเรียนต่อ

ตอบ 2 หน้า 57 ในปี ค.ศ. 1841 เกรเกอร์ เมนเดล ต้องหาเงินด้วยการสอนพิเศษเพื่อนำมาเป็น ค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ เขาทำงานหนักมากจึงทำให้สุขภาพทรุดโทรม จึงตัดสินใจนำเรื่อง อนาคตไปปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาชื่อ ฟรีดริช ฟรานซ์ โดยอาจารย์ได้แนะนำให้เขาออกบวช เป็นพระ เพราะจะทำให้เขาสามารถศึกษาต่อจนจบและทำการค้นคว้าวิจัยตามที่ต้องการได้

81.       เมนเดลได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยใด

(1) ออกฟอร์ด  

(2) เวียนนา      

(3) เคมบริดจ์   

(4) ลอนดอน

ตอบ2 หน้า 57 ในขณะที่เกรเกอร์ เมนเดล เป็นพระนั้น เขาไม่อาจร่วมกิจกรรมทางศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ เพราะสุขภาพไม่ดี จึงขอให้เจ้าอาวาสส่งให้ไปเป็นผู้ช่วยครูในโรงเรียนมัธยม และสามารถ เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเวียนนาได้ ณ สถานศึกษาแห่งนี้เขาได้พบกับอาจารย์สาขาพฤกษศาสตร์ ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ยังผลให้เขาสามารถนำความรู้ไปใช้ในการทดลองวิจัย ในเวลาต่อมา

82.       เมนเดลได้ทำการทดลองผสมข้ามพันธุ์พืชชนิดใด

(1) ถั่วแขก กับถั่วปากอ้า         

(2) แอปเปิ้ลแดง กับแอปเปิ้ลเขียว

(3)       ถั่วผิวเรียบ กับถั่วผิวขรุขระ     

(4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 71. ประกอบ

83.       ไดโนเสาร์และสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ได้สูญพันธุ์ในยุคใด

(1) พรีแคมเบรียน        

(2) พาลิโอโซอิก           

(3) ซีโนโซอิก    

(4) เมโสโซอิก

ตอบ 4 หน้า 63 ยุคเมโสโซอิก (ระหว่าง 225 – 65 ล้านปีมาแล้ว) เป็นยุคที่น้ำแข้งซึ่งปกคลุมโลก ได้ละลายลง ก่อให้เกิดการพังทลายของภูเขาในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยสิ่งมีขีวิต ที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ถือเป็นการเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกบนโลกของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) ในขณะที่สัตว์เลื้อยคลานได้ครองอำนาจเหนือโลก ต่อมาในช่วงกลาง จึงมีนกเกิดขึ้น และช่วงสุดท้ายก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น คือ การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ และสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่

84.       สัตว์ตระกูลไพรเมตเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคใด

(1) พรีแคมเบรียน        (2) พาลิโอโซอิก           (3)       ซีโนโซอิก         (4)       เมโสโซอิก

ตอบ 3 หน้า 6369 ยุคซีโนโซอิก (ระหว่าง 65 ล้านปี – 10,000 ปีมาแล้ว) มีสภาพทั่วไปเหมาะสำหรับ การดำรงชีวิตของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทำให้กล่าวกันว่า ยุคนี้เป็นยุคของสัดว์เลี้ยงลูกด้วยนม” และมีสัตว์ในตระกูลไพรเมตเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ได้แก่ ลิงลมและค่าง หรือที่รียกว่า พรอสิเมียน (Prosimian) เมื่อราว 65 – 58 ล้านปีมาแล้ว และในช่วงสุดท้ายของยุค ระหว่าง 1.6 ล้านปี – 10,000 ปี ได้เกิดมนุษย์สายพันธุโฮโม เซเปียนส์ หรือมนุษย์สายพันธุ์เดียวกับมนุษย์ปัจจุบัน (ดูคำอธิบายข้อ 31. ประกอบ)

85.       สัตว์พวกแรกที่เป็นไพรเมตในลำดับย่อยพรอสิมี คืออะไร

(1) ค่าง            (2) อุรังอุตัง      (3)       ชะนี     (4)       ลิงเลมูร์

ตอบ 4 หน้า 71 สัตว์ที่มีวิวัฒนาการเป็นไพรเมตในลำดับย่อยพรอสิมีพวกแรก ไดแก่ ลิงลมหรือลิงเลมูร์ เป็นไพรเมตที่มีจมูกยาว มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก โดยมีขนาดตั้งแต่เท่าหนูไปจนถึง เท่าสุนัข มีหางใช้ในการทรงตัว แด่ไม่อาจใช้เกาะเกี่ยวกิ่งไม้ได้ ส่วนพรอสิมีลำดับย่อยที่สูงขึ้น ได้แก่ ลิงทาร์เซีย เป็นไพรเมตที่มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 8 นิ้ว มีขนปุกปุย ใบหน้าแบนและ มีนัยน์ตาโตตั้งอยู่ตรงด้านหน้า สามารถหันศีรษะได้รอบ 180 องศา ซึ่งปัจจุบันสามารถพบได้ ตามหมู่เกาะมลายูและฟิลิปปินส์

86.       สัตว์จำพวกชะนีที่มีความว่องไวมากจัดอยู่ในวงศ์ใด

(1) Pongidae      (2) Hominidae  (3) Hominid       (4) Hylobatidae

ตอบ 4 หน้า 72 – 73 วงศใหญ่โฮมินอยดี (Hominoidae) จำแนกออกเป็น 3 วงศ์ คือ

1.         Hylobatidae เป็นสัตว์จำพวกชะนีที่ว่องไวผาดโผน สามารถปีนป่ายห้อยโหนบนต้นไม้ ได้อย่างคล่องแคลว มีความสูงไม่เกิน 3 ฟุต และมีขนาดมันสมองราว 100 ลบ.ซม.ได้แก่ ลิงกิบบอน

2.         Pongidae ซึ่งอาจเรียกว่า เอปหรือวานร เป็นลิงขั้นสูงสุด มีขนาดมันสมองราว 400 – 500 ลบ.ซม. ได้แก่ ชิมแปนซี กอริลลา และอุรังอุตัง

3.         Hominidae ถือเป็นวงศ์ที่วิวัฒนาการเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์โบราณและจะกลายมาเป็น มนุษย์ปัจจุบัน

87.       ใครคือผู้ที่ค้นพบโครงกระดูกที่วิวัฒนาการจากออสตราโลพิธิคัสมาเป็นสกุลโฮโม และตั้งชื่อว่า Homo Habilis

(1) Louis Leakey         (2) Robert Broom      (3) Richard Leakey    (4) Raymond Dart

ตอบ 3 หน้า 79 ริชาร์ด ลีกกี้ (Richard Leakey) ได้ค้นพบซากโครงกระดูก ซึ่งคาดว่าได้วิวัฒนาการ สูงขึ้นจากสกุลออสตราโลพิธิคัสมาเป็นสกุลโฮโม โดยเขาตั้งชื่อว่า โฮโม ฮาบิลิส (Homo Habilis) ซึ่งมีขนาดของสมองราว 775 ลบ.ซม. และมีอายุราว 250,000 ปีมาแล้ว

88.       สกุลโฮโมวิวัฒนาการแยกออกจากสกุลออสตราโลพิธิคัสเมื่อราวกี่ปีมาแล้ว

(1) 1 แสนปี     (2) 1 ล้านปี     (3) 2 ล้านปี     (4) 5 ล้านปี

ตอบ 3 หน้า 83 สกุลโฮโมวิวัฒนาการแยกออกจากสกุลออสตราโลพิธิคัสเมื่อราว 2 ล้านปีมาแล้ว และถือกันว่าสกุลโฮโมนี้เป็นสกุลที่พัฒนาขั้นสูงขึ้นจนมาเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน

89.       สกุลโฮโมจำแนกออกเป็น 2 สปีชี่ได้แก่อะไร

(1) Homo Habilis, Homo Robustus   (2) Homo Africanus, Homo Erectus

(3)       Homo Erectus, Homo Sapiens         (4) Homo Sapiens, Homo Fobustus

ตอบ 3 หน้า 217073 – 747783 กลุ่มสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตในวงศ์โฮมินิเดีย (Hominidae) ประกอบด้วย 2 สกุล คือ           1. สกุลออสตราโลพิธิคัส (Australopithecus) แยกออกเป็น 2 สปีชี่ ได้แก่ ออสตราโลพิธิคัส แอฟริกานัส (Australopithecus Africanus) และ ออสตราโลพิธิคัส โรบัสตัส (Australopithecus Robustus) 2. สกุลโฮโม (Fiomo) แยกออกเป็น 2 สปีชี่ ได้แก่ โฮโม อีเรคตัส (Homo Erectus) และโฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens)

90.       โฮโม อีเรคตัส มิได้ถูกค้นพบในทวีปใด

(1) ยุโรป          (2) อเมริกา      (3) เอเชีย         (4) แอฟริกา

ตอบ 2 หน้า 84 – 85 มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของโฮโม อิเรคตัส ในทวีปเอเชีย ยุโรป และ แอฟริกา แต่ไม่พบในทวีปอเมริกาและออสเตรเลีย ซึ่งซากดึกดำบรรพ์ที่ค้นพบนั้น ได้แก่ ซากกระดูกของมนุษย์ชวา มนุษย์ปักกิ่ง และมนุษย์ไฮเดลเบอร์ก

91.       ใครคือผู้ที่ค้นพบซากกระดูกมนุษย์ชวา

(1)       Richard Leakey        

(2) Harry Nelson        

(3) Eugene Dubois 

(4) Raymond Dart

ตอบ 3 หน้า 84 ยูยีน ดูบัว (Eugene Dubois) ชาวฮอลันดา เป็นผู้ค้นพบซากกระดูกมนุษย์ชวาเป็นคนแรก โดยในปี ค.ศ. 1891 เขาได้ค้นพบหัวกะโหลกและกระดูกโคนขาในชวาประเทศอินโดนีเซีย จึงนำมาศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดและเขียนเป็นบทความออกมาเผยแพร่ โดยได้ตั้งชื่อสิ่งที่ค้นพบว่า พิธิแคนโธรปัส อิเรคตัส” (Pethecanthropus Erectus) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า มนุษย์ชวา

92.       มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในยุคปัจจุบันคือมนุษย์อะไร

(1)       Homo Habilis

(2)       Homo Erectus 

(3) Homo Sapiens Sapiens        

(4)       Australopithecus

ตอบ 3 หน้า 63708691 โฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ (Homo Sapiens Sapiens) เป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นสปีชี่ย่อยของโฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens) โดยเกิดขึ้น ครั้งแรกเมื่อราว 40,000 ปีมาแล้ว

93.       มนุษย์เริ่มทำการเพาะปลูกมาแล้วประมาณกี่ปี

(1)       5,000ปี          

(2) 6,000 ปี     

(3) 8,000ปี      

(4) 10,000ปี

ตอบ 4 หน้า 91 มนุษย์เริ่มทำการเพาะปลูกเมื่อ 10,000 ปีมาแล้ว โดยบริเวณแหล่งเพาะปลูกโบราณ ที่สำคัญในยุคต้น ได้แก่ ตอนเหนือของจีน เม็กซิโก และเปรู โดยมีผู้ค้นพบหลักฐานว่าดินแดน แถบสุวรรณภูมิของเรานี้เริ่มทำการเพาะปลูกเมื่อ 9,000 ปีมาแล้ว

94.       วัฒนธรรมซองโฮโม เซเปียนส์ เรียกว่าอะไร   

(1)       วัฒนธรรมอาชูเลี่ยน

(2)       วัฒนธรรมอัสสิเรียน    (3) วัฒนธรรมมุสเตอเรียน       (4)       วัฒนธรรมโอดูแวน

ตอบ 3 หน้า 8795 โฮโม เซเปียนส์ มีวัฒนธรรมแบบ มุสเตอเรียน” (Mousterian) โดยโฮโม เซเปียนส์ในยุคแรก (ยุคต้น) ได้แก่

1.         มนุษย์สไตน์เฮม (Steinheim) พบในประเทศเยอรมนี มีอายุราว 300,000 – 200,000 ปีมาแล้ว

2.         มนุษย์สวอนสโคมบ์ (Swanscombe) พบในประเทศอังกฤษ ใกล้กรุงลอนดอน โดยมีชีวีตอยู่ ในช่วงเดียวกับมนุษย์สตน์เฮม

3.         มนุษย์นีแอนเดอร์ธอลส์ (Neanderthals) พบในประทศอิรัก โซเวียต และจีน มีอายุราว 125,000 – 40,000 ปีมาแล้วซึ่งมนุษย์นีแอนเดอร์ธอลส์นี้มีรูปร่างใกล้เคียงกับมนุษย์สมัยใหม่ และถือเป็นมนุษย์ขั้นสุดท้ายที่อะวิวัฒนาการกลายเป็นโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์

95.       กลุ่มใดไม่ใช่กลุ่มชาติพันธุ์ของมนุษย์ที่ยูเนสโกได้แบ่งไว้

(1) Caucasoid    (2) Mongoloid  (3) American     (4) Negroid

ตอบ 3 หน้า 103 องค์การยูเนสโก ได้จัดประชุมนักมานุษยวิทยากายภาพที่กรุงปารีสในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1951 โดยได้เห็นพ้องกันว่า กลุ่มชาติพันธุ์ของมนุษย์ในโลกนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1. พวกผิวขาว (Caucasoid)          2. พวกผิวเหลือง (Mongoloid)  3. พวกผิวดำ (Negroid)

96.       กลุ่มอารยันจัดอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ใด

(1) Caucasoid    (2) Mongoloid  (3) Americanoid (4) Negroid

ตอบ 1 หน้า 102 – 103 มนุษย์ชาติพันธุ์ผิวขาว (Caucasoid/Caucasian) ส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่ใน ทวีปยุโรป ซึ่งมีการแบ่งแยกย่อยออกเป็น            1. อารยัน เช่น กรีก และอินเดียตอนเหนือ  2. แฮมิติก เช่น อียิปต์โบราณ       3. เซมิติก เช่น บาบิโลเนีย และอาสซิเรีย

97.       มองโกลอยด์ จัดอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีสีผิวอะไร

(1) ขาว            (2) เหลือง        (3) ดำ  (4) ดำ-แดง

ตอบ 2 หน้า 103105 มนุษย์ชาติพันธุ์ผิวเหลือง (Mongoloid) แบ่งแยกย่อยออกเป็น

1.         มองโกลอยด์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จีน ทิเบต มองโกเลีย

2.         อินเดียนแดง อยู่แถบทวีปอเมริกาทั้งตอนเหนือและตอนใต้

3.         เอสกิโ อยู่แถบเหนือสุดของทวีปอเมริกา รัฐอลาสก้า และตอนเหนือของแคนาดา

4.         มาลายัน อยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มลายู ชวา ไทย บาหลี

98.       ใครคือผู้ค้นพบระบบ ABO

(1) Karl Landsteiner (2) Carl Rojer     (3) Lamark         (4) France Boas

ตอบ 1 หน้า 109 นักวิทยาศาสตร์จัดจำแนกกลุ่มเลือดของมนุษย์ออกเป็นหลายกลุ่มตามโครงสร้าง ในเม็ดเลือดและตามประเภทของสารที่เป็นองค์ประกอบในเม็ดเลือด ซึ่งกรจำแนกนี้มีอยู่ หลายระบบ เช่น ABO System, p System, Lutheran System และ Kell System เป็นต้น สำหรับประเทศไทยใช้การจำแนกกลุ่มเลือดระบบ ABO System ซึ่งเป็นระบบที่ถูกค้นพบโดย คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ (Karl Landsteiner) เมื่อปี ค.ศ. 1900

99.       ชาวอินเดียนแดงแถบทวีปอเมริกาส่วนใหญมีกลุ่มเลือดใด

(1) A  (2) O           (3) B  (4) AB

ตอบ 2 หน้า 110 การกระจายตัวของมนุษย์ตามกลุ่มเลือดต่าง ๆ มีดังนี้

1.         กลุ่มเลือด จะพบมากในทวีปยุโรป และพบน้อยมากในทวีปอเมริกากลางและใต้

2.         กลุ่มเลือด จะพบมากในแถบตะวันออกกลางและตามเทือกเขาหิมาลัย และพบน้อยที่สุด ในหมู่ชาวโพลีนีเชีย

3.         กลุ่มเลือด จะพบมากในหมู่ชาวอินเดียนแดงแถบทวีปอเมริกา ซึ่งมีความถี่สูงถึง 100% แต่ในยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางมีเพียง 60 – 70%

100.    ในแถบลุ่มแม่นํ้าคองโกมีชนกลุ่มใดอาศัยอยู่

(1) ปาปัวนิวกินี           (2) อาชูเลี่ยน   (3)       ปิกมี่    (4)       ทมิฬ

ตอบ 3 หน้า 105 ปิกมี่หรือคนแคระ เป็นมนุษย์ชาติพันธุ์ผิวดำที่มีรูปร่างเตี้ยตํ่ากว่า 140 เซนติเมตร ลงมา มักอาศัยอยู่ตามลุ่มแม่นํ้าคองโกในทวีปแอฟริกา ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ทางแหลมมลายู และบางเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

101 สามารถพบคนเลือดกลุ่ม ได้มากในทวีปใด

(1) อเมริกา      

(2) เอเชีย         

(3)      ยุโรป    

(4)       แอฟริกา

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 99. ประกอบ

102.    มนุษย์กลุ่มใดที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับมนุษย์สมัยใหม่

(1) สไตน์เฮม   

(2) นีแอเดอร์ธอลส์ 

(3)          สวอนสโคมบ์   

(4)       มฺสเตอเรียน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

103.    ในปัจจุบันมีทฤษฏีที่กล่าวถึงสกุลโฮโมว่ามีสายวิวัฒนาการมาจากจุดไหนอย่างไรกี่ทฤษฏี

(1) 3    

(2) 5    

(3) 7              

(4) 9

ตอบ 4 หน้า 83 ปัจจุบันมีทฤษฎีที่กล่าวถึงสกุลโฮโมว่ามีสายวิวัฒนาการมาจากจุดไหนอย่างไร ทั้งหมด 9 ทฤษฎี

104.    ทวีปใดเป็นแหล่งที่ค้นพบซากที่อยู่ของโฮโม อิเรคตัส

(1) เอเชีย         (2) อาร์คติก     (3)       ออสเตรเลีย     (4)       อเมริกา

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 90. ประกอบ

105.    มนุษย์สวอนสโคมบ์ ได้ถูกค้นพบ ณ ที่ใด

(1) เยอรมนี      (2) แอนตาร์กติก          (3)       อังกฤษ            (4)       จีน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

106.    โฮโม เซเปียนส์ ยุคแรก ได้แก่กลุ่มใด

(1)       มนุษย์สไตน์เฮม          (2) มนุษย์นีแอนเดอร์ธอลส์

(3)       มนุษย์สวอนสโคมบ์     (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

107.    บริเวณใดที่เคยเป็นแหล่งเพาะปลูกโบราณที่สำคัญในยุคต้น           

(1) ตอนเหนือของจีน

(2)       ประเทศเม็กซิโก          (3) ประเทศเปรู            (4) ถูกทั้งหมด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

108.    ดินแดนสุวรรณภูมิได้เริ่มทำการเพาะปลูกมาแล้วราวกี่ปี

(1) 5,000ปี      (2)       9,000ปี           (3)       15,000ปี         (4)       30,000ปี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

109.    ปิกมี่” มีความสูงเฉลี่ยราวกี่เซนติเมตร

(1) 100            (2)       120     (3)       140     (4)       150

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 100. ประกอบ

110.    คนกลุ่มใดที่มีอัตราความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังสูง

(1) ผิวขาว        (2)       ผิวดำ   (3)       ผิวเหลือง         (4)       ผิวดำ-แดง

ตอบ 1 หน้า 106 จากการทดลองพบว่า ผิวสีดำของคนนิโกรจะสะท้อนแสงได้เพียง 24% ในขณะที่ ผิวสีขาวของคนยุโรปจะสะท้อนแสงได้ราว 64% นั่นหมายความว่า คนผิวดำจะได้เปรียบในแง่ การดูดซับความร้อนได้ดีกว่าคนผิวขาว ดังนั้นผิวขาวจึงไหม้ได้ง่ายกว่าหากถูกแสงแดดตรง ๆ และผิวขาวยังมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังสูงกว่าผิวดำอีกด้วย

111.    กลุ่มเลือดใดที่มีลักษณะเด่น

(1) A  

(2)       AB

(3)       O        

(4)       ข้อ 1 และ 2

ตอบ 1 หน้า 109 กลุ่มเลือด O เป็นอัลลีนที่มีคุณลักษณะด้อย (Recessive Trait) ซึ่งการที่จะปรากฎ เป็นเลือดกลุ่ม O ได้ก็ต่อเมื่อมีอัลลีนในยีน (Genotype) เป็น OO เท่านั้น แต่หากผสมกับอัลลีน หรือ จะทำให้เป็น AO หรือ BO คน ๆ นั้นก็จะมีกลุ่มเลือด (Phenotype) เป็น หรือ ทั้งนี้เพราะ และ เป็นอัลลีนทีมีคุณลักษณะเด่น (Dominant Trait)

112.    การจัดระบบกลุ่มเลือดของมนุษย์ตามระบบ ABO System ค้นพบในปี ค.ศ.ใด

(1) 1853         

(2)       1890   

(3)       1900   

(4)       1925

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 98.       ประกอบ

113.    ผิวสิดำของมนุษย์ สามารถสะท้อนแสงได้ราวกี่เปอร์เซ็นต์

(1) 12  

(2)       24        

(3)       36        

(4)       48

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 110. ประกอบ

114.    ที่ราบสูงแอนดิส มีความสูงราวกี่ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล

(1) 8,500        (2)       13,000            (3)       17,500            (4)       12,500

ตอบ 3 หน้า 109 บริเวณที่ราบสูงแอนดิสในทวีปอเมริกาใต้ มีความสูงราว 17,500 ฟุตเหนือระดับ นํ้าทะเล ซึ่งบริเวณที่อยู่อาศัยที่มีความสูงขนาดนี้จะมีผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์หากคนจาก พื้นราบขึ้นไปอาศัยอยู่

115.    ใครคือผู้ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธุ์ของสมาชิกของสังคมเน้นในเรื่องแบบแผนการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ที่เกาะซามัว

(1) เจน กูดเดลส์          (2) มาร์กาเรต มีด

(3)       ฟรานซ์ โบแอส (4) เอ็ดเวอร์ด ไทเลอร์

ตอบ 2 หน้า 259291 มาร์กาเรต มีด (Margaret Mead)ได้ทำการวิจัยเชิงมานุษยวิทยาโดยการ ออกไปศึกษาชีวิตของเด็กสาวบนเกาะซามัวแถบทะเลใต้ ซึ่งเน้นศึกษาความสัมพันธ์ของสมาชิก ของสังคมนั้นในเรื่องแบบแผนการอบรมเลี้ยงดูเด็กของพ่อแม่ เช่น ฝึกการขับก่าย การให้อาหาร การรักษาความสะอาด ตลอดจนการอบรมสั่งสอนทางวัฒนธรรม (Socialisation)

116.    ใครคือผู้ที่ทำการศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบของวัฒนธรรมของเผ่าพิวโบล เผ่าควาคิตอล และชาวเกาะโดบู

(1) ฟรานซ์ โบแอส       (2) จอห์น เบตตี้           (3) รูธ เบนเนดิกท์        (4) เอ็ดเวอร์ด ไทเลอร์

ตอบ 3 หน้า 259291 รูธ เบนเนดิกท์ (Ruth Benedict) ได้ทำการวิจัยเชิงมานุษยวิทยาโดยทำการศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบของวัฒนธรรมของชาวอินเดียนแดงเผ่าพิวโบล เผ่าควาคิตอล และชาวเกาะโดบู ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ความแตกต่างในเรื่องของค่านิยม การมองโลก และ สภาพแวดล้อมทางสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้เกิดรูปแบบทางวัฒนธรรมที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะของชนแต่ละเผ่า

117.    หนังสือ Primitive Culture ที่เขียนโดย เอ็ดเวรร์ด ไทเลอร์ เขียนขึ้นในปี ค.ศ.ใด

(1) 1815         (2) 1887         (3) 1890         (4) 1903

ตอบ 4 หน้า 255 – 256295 เอ็ดเวอร์ด ไทเลอร์ (Edward B. Tylor) นักมานุษยวิทยาชาวอังกฤษ ได้เขียนหนังสือชื่อ “Primitive Culture” ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1903 ซึ่งถือได้ว่าเป็นความพยายาม ในการศึกษาเรื่อง วัฒนธรรม” ของมนุษย์ที่เป็นระบบและมีความสมบูรณ์ที่สุดเล่มแรกของโลก

118.    มนุษย์กลุ่มใดที่สามารถใช้ระบบสัญลักษณ์ในการสื่อสารได้เป็นครั้งแรก

(1) โฮโม อีเรคตัส         (2) โฮโม เซเปียนส์(3) นีแอนเดอร์ธอลส์(4) ออสตราโลพิธิคัส

ตอบ1 หน้า 838695 วัฒนธรรมของโฮมิบนิดยุคโฮโม อีเรคตัส เรียกว่า วัฒนธรรมอาชูเลี่ยน (Acheulian) ซึ่งมีลักษณะสำคัญดังนี้

1.         มีการใช้เครื่องมือเครื่องใช้ที่สำคัญ คือ เครื่องมือหินสำหรับลับหรือตัด ซึ่งแหล่งทำหิน ที่สำคัญก็คือ อาชูเลี่ยน

2.         สามารถสร้างเครื่องมือเพื่อใช้ล่าสัตว์ขนาดใหญ่ได้

3.         อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม

4.         ริเริ่มใช้ ไฟ” เป็นครั้งแรก

5.         เป็นกลุ่มแรกที่ริเริ่มการใช้ภาษาในการสื่อสาร โดยใช้ระบบสัญลักษณ์ด้านภาษาพูด เพื่อบ่งบอกถึงความต้องการและความรู้สึกของตน ฯลฯ

119.    ซากกระดูกมนุษย์โครมันยองถูกค้นพบในประเทศใด

(1) อังกฤษ      (2) จีน  (3) กรีก            (4) ฝรั่งเศส

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

120.    มนุษย์ใดที่อยู่ในขั้นสุดท้ายก่อนการวิวัฒนาการเป็นโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์

(1) โฮโม อีเรคตัส         (2) นีแอนเดอร์ธอลส์    (3) สวอนสโคมบ์         (4) ชวา

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

LAW4008 กฎหมายที่ดิน 2/2549

การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW4008 กฎหมายที่ดิน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายอาทิตย์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2537  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  นายอาทิตย์ได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินแต่ไม่ได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดินจึงไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2545  นายอาทิตย์ถึงแก่ความตายโดยมีนางเดือนภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  ใน  พ.ศ. 2549  นางเดือนก็ได้รับโฉนดที่ดินจากทางราชการ  ขณะนี้นางเดือนต้องการจะโอนที่ดินแปลงนี้ให้แก่นายตะวันบุตรชายซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว  ให้วินิจฉัยว่านางเดือนจะโอนที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  27  ตรี  เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา  58  วรรคสอง  ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. 2497  หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา  27 ทวิ  แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน  ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น  ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ  ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง  ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา  59  ทวิ  ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ.  2497  แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27  ตรี  ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่  ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด  ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

วินิจฉัย

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้

1)    จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ  มาตรา  5  และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย

2)    ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  กล่าวคือ  ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  ไม่ได้

3)    มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน  และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร  และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน  50  ไร่  ถ้าเกิน  50  ไร่  จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

นางเดือนจะขอออกโฉนดที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่  เห็นว่า  นายอาทิตย์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  กรณีเช่นนี้ถือว่านายอาทิตย์เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ก่อนวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ต่อมาได้ความว่า  ในปี  พ.ศ. 2535  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้นข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  นายอาทิตย์ได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดิน  แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  กรณีเช่นนี้ต้องถือว่า  นายอาทิตย์เป็นผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรีแล้ว  แม้นายอาทิตย์จะไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดินอันทำให้ไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ตามมาตรา  58  วรรคสามก็ตาม  ทั้งนี้เพราะเหตุว่า  ตามมาตรา  27  ตรี  ใช้คำว่า  หรือ  แสดงว่าปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ ระหว่างให้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินหรือมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  ดังนั้น  นายอาทิตย์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก

และเมื่อใน  พ.ศ. 2543  นายอาทิตย์ถึงแก่ความตายโดยมีนางเดือนภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายครอบครองและทำประโยชน์ตลอดมา  ในกรณีดังกล่าวนี้  ถือว่านางเดือนเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิในมรดกของนายอาทิตย์และเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายอาทิตย์  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคสอง 

จึงมีสิทธิขอออกโฉนดที่ดิน  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก

สรุป  นางเดือนสามารถโอนที่ดินให้แก่นายตะวันได้


ข้อ  2  ผู้ซึ่งมีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองที่ดิน  จะโอนที่ดินนั้นให้แก่กันได้หรือไม่ตามกฎหมายที่ดิน

ธงคำตอบ

อธิบาย

ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครอง  หรือ  ผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดินแต่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์  หมายถึง  ผู้เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้  คือ  หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  หนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)  ใบจอง  (น.ส.2)  ใบไต่สวน  (น.ส.5)  เป็นต้น

การจะพิจารณาว่าผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินต่อไปได้หรือไม่  มีหลักคือ  ให้พิจารณาว่าที่ดินนั้นได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วหรือไม่  ถ้ามีก็สามารถโอนได้ตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  9  ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วให้โอนกันได้

ดังนั้น  ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินได้หรือไม่  สามารถแยกพิจารณาดังนี้

1       ที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)

หนังสือรับรองการทำประโยชน์  คือ  หนังสือคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  1  ดังนั้น  เมื่อที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงสามารถโอนให้แก่กันได้ตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  เว้นแต่ในบางกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติห้ามโอนไว้  เช่น  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  31 และมาตรา  58  ทวิ  วรรคห้า  เป็นต้น

2       ที่ดินที่มีใบจอง  (น.ส.2

ใบจอง  เป็นเพียงหนังสือที่แสดงว่า  บุคคลผู้เป็นเจ้าของที่ดินได้รับอนุญาตให้เข้าครอบครองที่ดินของรัฐชั่วคราว  แต่ที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วจนกว่าจะได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ดังนั้น  สำหรับที่ดินที่มีใบจองหรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจองนั้น  ถ้ายังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  ผู้ได้รับอนุญาตจะโอนไม่ได้  เว้นแต่  จะตกทอดทางมรดกตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง

3       ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  (ส.ค.1)

ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น  จะทำการโอนทางทะเบียนไม่ได้  เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  แต่อย่างไรก็ดี  ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน  แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1378

ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น  จะทำการโอนทางทะเบียนไม่ได้  เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  แต่อย่างไรก็ดี  ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน  แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กัน  ตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1378

ดังนั้น  ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินให้แก่กันได้เฉพาะที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ส่วนที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  หรือใบจอง  เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงไม่สามารถโอนให้แก่กันได้


ข้อ  3  นายศุกร์ได้ขายที่ดินซึ่งมีโฉนดแปลงหนึ่งให้แก่นางจันทร์  โดยทำสัญญาซื้อขายกันเองที่บ้านของนายศุกร์  หลังจากนั้น  6  เดือนนายศุกร์ได้หลอกเอาโฉนดที่ดินคืนเพื่อจะนำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันเงินกู้กับนายอังคาร  ต่อมาก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจำนองนางจันทร์ได้นำหนังสือสัญญาซื้อขายไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินและขออายัดที่ดินแปลงนั้นไว้  เจ้าพนักงานที่ดินก็ได้สั่งรับอายัดตามคำขอ  หลังจากอายัดได้  15  วัน  นายศุกร์ทราบว่าที่ดินถูกอายัดจึงทำหนังสือคัดค้านขอให้เลิกอายัด  ดังนี้  ให้วินิจฉัยว่าเจ้าพนักงานที่ดินจะต้องสั่งยกเลิกการอายัดดังกล่าวหรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  83  ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินใดอันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียน  หรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้  มีความประสงค์จะขออายัดที่ดิน  ให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71

เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนเอกสารหลักฐานที่ผู้ขอได้นำมาแสดงแล้ว  ถ้าเห็นสมควรเชื่อถือก็ให้รับอายัดไว้มีกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่สั่งรับอายัด  เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว  ให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  และผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

ถ้าผู้มีส่วนได้เสียคัดค้านว่า  การอายัดนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสอบสวนพยานหลักฐานเท่าที่จำเป็น  เมื่อเป็นที่เชื่อได้ว่าได้รับอายัดไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ยกเลิกการอายัดนั้น  และแจ้งให้ผู้ขออายัดทราบ

วินิจฉัย

การอายัด  หมายถึง  การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อไปดำเนินการทางศาล  ดังนั้น  ถ้าที่ดินแปลงใดถูกอายัดจะมีการจดทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินนั้นไม่ได้  เว้นแต่จะเป็นการจดทะเบียนที่เป็นการปลดเปลื้องภาระผูกพัน  เช่น  ที่ดินถูกอายัด  แต่จะมีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง  ไถ่ถอนขายฝาก  กรณีเช่นนี้  ยอมให้จดทะเบียนได้  เพราะเป็นการทำให้ที่ดินปลอดจากภาระผูกพัน

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการอายัดไว้ดังนี้ 

1       ผู้ขออายัดจะต้องมีส่วนได้เสียในที่ดินโดยตรงอันอาจฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินได้

2       พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งรับอายัดไว้ได้มีกำหนด  30  วัน  นับแต่วันที่สั่งรับอายัด

3       เมื่อครบกำหนด  30  วันแล้วผู้ขออายัดยังไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งอายัดที่ดินให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  ผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

เจ้าพนักงานที่ดินจะต้องสั่งยกเลิกการอายัดดังกล่าวหรือไม่  เห็นว่า  การที่นายศุกร์ได้ขายที่ดินที่มีโฉนดแปลงหนึ่งให้แก่นางจันทร์  โดยทำสัญญาซื้อขายกันเองนั้น  การซื้อขายดังกล่าวถือว่าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  กล่าวคือ  ตาม  ป.พ.พ.   มาตรา  456  กำหนดว่า  การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้เป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ท่านว่าเป็นโมฆะ  ดังนั้น  เมื่อการซื้อขายระหว่างนายศุกร์และนางจันทร์ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  จึงตกเป็นโมฆะ  กรรมสิทธิ์ในที่ดินจึงยังคงเป็นของนายศุกร์อยู่

เมื่อการซื้อขายตกเป็นโมฆะ  นางจันทร์จึงไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดิน  อันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนที่เกี่ยวกับที่ดินนั้นได้  ดังนั้น  การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดตามคำขอของนางจันทร์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

และเมื่อการอายัดไม่ชอบด้วยกฎหมาย  นายศุกร์เจ้าของที่ดินซึ่งถือว่าผู้มีส่วนได้เสีย  ได้ทำหนังสือคัดค้านการอายัดและขอให้ยกเลิกการอายัด  กรณีเช่นนี้  เจ้าพนักงานที่ดินจึงต้องสั่งยกเลิกการอายัดที่ดินและแจ้งให้นางจันทร์ทราบ  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  วรรคท้าย

สรุป  เจ้าพนักงานที่ดินต้องสั่งยกเลิกการอายัด


ข้อ  4  นายสมพรได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินบนเกาะแห่งหนึ่งตั้งแต่   พ.ศ. 2489  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน ใน พ.ศ. 2498  นายสมพรได้ไปแจ้งการครอบครองจึงได้หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  ขณะนี้นายสมพรได้ติดต่อขอกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อจะนำเงินไปลงทุนสร้างบ้านพักตากอากาศในที่ดินนั้น  นายสมพรจึงได้ไปขอออกโฉนดที่ดินเพื่อจะนำไปจำนองเป็นประกันเงินกู้ดังกล่าว  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่านายสมพรจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

 ธงคำตอบ

มาตรา  59  ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะรายไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา  58  แล้วหรือไม่ก็ตาม  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร  ให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองด้วย

วินิจฉัย

โดยหลักแล้ว  ที่เกาะเป็นที่ดินที่ต้องห้ามมิให้นำมาออกโฉนดที่ดิน  เว้นแต่เป็นที่ดินที่ประชาชนมิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว  เช่น  มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  ใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  เป็นต้น

นายสมพรจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า  นายสมพรได้ครอบครองและทำประโยชน์  ในที่ดินบนเกาะแห่งนี้ตั้งแต่  พ.ศ. 2489  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  ต่อมาในปี  พ.ศ. 2498  นายสมพรได้ไปแจ้งการครอบครอง  จึงได้รับหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  กรณีเช่นนี้  ถือว่านายสมพรเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิครอบครองในที่ดิน  โดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองอันถือว่ามีสิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว  นายสมพรจึงสามารถนำที่ดินที่เป็นเกาะมาขอออกโฉนดที่ดินได้

และเมื่อได้ความว่า  ในขณะนี้นายสมพรประสงค์จะนำที่ดินไปขอออกโฉนด  แต่ไม่มีประกาศของทางราชการเพื่อออกโฉนดที่ดินแบบทั้งตำบล  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  นายสมพรจึงขอออกโฉนดที่ดินได้เป็นการเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา 59

สรุป  นายสมพรขอออกโฉนดที่ดินได้

LAW4008 กฎหมายที่ดิน 1/2550

การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2550


ข้อสอบกระบวนวิชา  
LAW4008  
กฎหมายที่ดิน
 

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายเอกกู้ยืมเงินจางนางจันทร์โอยมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้นางจันทร์ยึดถือไว้เป็นประกัน  ต่อมานายเอกไม่มีเงินชำระหนี้จึงยกที่ดินแปลงซึ่งนางจันทร์ยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์อยู่นั้นตีใช้หนี้  โดยส่งมอบที่ดินให้นางจันทร์ครอบครอง  ขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  ดังนี้อยากทราบว่านางจันทร์จะนำที่ดินแปลงนั้นมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  4  ทวิ  นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา  58  วรรคแรก  วรรคสองและวรรคสาม  เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในจังหวัดใดในปีใด  ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา  กำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์สำหรับปีนั้น  เขตจังหวัดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร

เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง  ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท้องที่และวันเริ่มต้นของการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้น  โดยปิดประกาศไว้  ณ  สำนักงานที่ดิน  ที่ว่าการอำเภอ  ที่ว่าการกิ่งอำเภอ  ที่ทำการกำนัน  และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ก่อนวันเริ่มต้นสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

เมื่อได้มีประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดตามวรรคสอง  ให้บุคคลตามมาตรา  58  ทวิ  วรรคสองหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว  นำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย  เพื่อทำการสำรวจรังวัดแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัดหมาย

มาตรา  58  ทวิ  วรรคแรก  วรรคสอง  เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่  หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา  58  แล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง  เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้  คือ

(3) ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดิน  ภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับและไม่มีใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

วินิจฉัย

นางจันทร์จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  การที่นายเอกเจ้าของที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวตีใช้หนี้ให้แก่นายจันทร์โดยส่งมอบที่ดินให้แก่นางจันทร์ครอบครอง  การยกที่ดินตีใช้หนี้ดังกล่าว  ถือเป็นการโอนที่ไม่ทำตามกฎหมายที่ดิน  มาตรา  4  ทวิ  ที่กำหนดว่า  การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  การโอนดังกล่าวจึงมีผลเป็นโมฆะ  ส่งผลให้นางจันทร์เป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  และไม่มีใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  ทวิ  วรรคสอง  (3)

และเมื่อได้ความว่า  ในขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  อันถือว่าเป็นการออกโฉนดแบบทั้งตำบล  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  วรรคแรกและวรรคสอง  กรณีเช่นนี้  นางจันทร์จึงสามารถนำที่ดินแปลงดังกล่าวมาขอออกโฉนดที่ดินได้  โดยมานำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมายเพื่อทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตน ตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่นัดหมาย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  วรรคสาม  และนางจันทร์จะได้รับโฉนดที่ดิน  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  ทวิ  วรรคสอง  (3)

สรุป  นางจันทร์ขอออกโฉนดที่ดินได้


ข้อ  2  นายชอบครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2493  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2535  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  นายชอบได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินไว้แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดินจึงไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2543  นายชอบได้ขายที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายบุญธรรมโดยทำสัญญาซื้อขายกันเองและส่งมอบที่ดินให้นายบุญธรรมครอบครอง  ขณะนี้นายบุญธรรมได้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่านายบุญธรรมจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  27  ตรี  เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา  58  วรรคสอง  ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. 2497  หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา  27  ทวิ  แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน  ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น  ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ  ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง  ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา  59  ทวิ  ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ.  2497  แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27  ตรี  ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่  ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด  ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

วินิจฉัย

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้

1)    จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ  มาตรา  5  และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย

2)    ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  กล่าวคือ  ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  ไม่ได้

3)    มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน  และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร  และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน  50  ไร่  ถ้าเกิน  50  ไร่  จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

นายบุญธรรมจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  นายชอบครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2493  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  กรณีเช่นนี้ถือว่านายชอบเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ก่อนวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ต่อมาได้ความว่า  ในปี  พ.ศ. 2535  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  นายชอบได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดิน  แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  กรณีเช่นนี้ต้องถือว่า  นายชอบเป็นผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรีแล้ว  แม้นายชอบจะไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดินอันทำให้ไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ตามมาตรา  58  วรรคสามก็ตาม  ทั้งนี้เพราะเหตุว่า  ตามมาตรา  27  ตรี  ใช้คำว่า  หรือ  แสดงว่าปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้  ระหว่างให้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินหรือมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  ดังนั้น  นายชอบจึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายได้  ตามมาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก

และเมื่อใน  พ.ศ. 2543  นายชอบได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายบุญธรรม  โดยนาบบุญธรรมผู้ซื้อได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ตลอดมา  กรณีจึงถือว่านายบุญธรรม  เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายชอบ  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคสอง  และในกรณีนี้นายบุญธรรมก็สามารถนำที่ดินไปยื่นขอออกโฉนดแบบเฉพาะรายได้  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก  เพราะต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น

สรุป  นายบุญธรรมขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายได้


ข้อ  3  (ก)  สิทธิในที่ดินหมายความว่าอย่างไร  ให้อธิบายโดยยกหลักกฎหมายประกอบด้วย

(ข)  นายอาทิตย์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  ดังนี้อยากทราบว่านายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดินหรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1  ในประมวลกฎหมายนี้

สิทธิในที่ดิน  หมายความว่า  กรรมสิทธิ์  และให้ความหมายรวมถึงสิทธิครอบครองด้วย

(ก)   อธิบาย

โดยหลักแล้ว  ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน  อาจมีเพียงสิทธิครอบครองในที่ดิน  หรือมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ได้  สุดแล้วแต่ว่าที่ดินนั้น  จะมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินประเภทใด

ผู้มีสิทธิในที่ดินแบ่งได้  2  ประเภท  คือ

1)    กรรมสิทธิ์  กล่าวคือ  เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีกรรมสิทธิ์  ซึ่งการที่บุคคลใดจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้นั้น  จะต้องมีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใด  ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา  1  กำหนด  คือ  โฉนดที่ดิน  โฉนดแผนที่  โฉนดตราจอง  ตราจองว่า  ได้ทำประโยชน์แล้ว

สำหรับผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินโดยมีกรรมสิทธิ์นี้  โดยหลักแล้ว  สามารถใช้ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ยันแก่บุคคลทั่วไป  ติดตามเอาคืนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้  อีกทั้ง  ยังสามารถทำนิติกรรมใดๆอันเกี่ยวกับที่ดินได้  เว้นแต่จะมีกฎหมายที่ดินบางมาตรา  บัญญัติห้ามโอนไว้โดยเฉพาะ  เช่น  ประมวลกฎหมายที่ดิน   มาตรา  31  และมาตรา  58  ทวิ  วรรคห้า  เป็นต้น

2)    สิทธิครอบครอง  กล่าวคือ  เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีสิทธิครอบครอง  (ยังไม่มีกรรมสิทธิ์)  ซึ่งการที่บุคคลใดจะมีสิทธิครอบครองในที่ดินได้นั้น  จะต้องมีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้  เช่น  หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  หนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)  ใบจอง  (น.ส.2)  ใบไต่สวน  (น.ส.5)  เป็นต้น

(ข)  วินิจฉัย

นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินหรือไม่  เห็นว่า  ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา  1  บัญญัติว่า   สิทธิในที่ดิน  หมายความว่า กรรมสิทธิ์  และให้ความหมายรวมถึงสิทธิครอบครอง  เมื่อได้ความว่า  นายอาทิตย์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือแสดงสิทธิ  คือ  หลักฐานการแจ้งการครอบครอง  (ส.ค.1)  จึงถือว่า  นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดิน  ดังนั้น  นายอาทิตย์จึงเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

สรุป  นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดิน


ข้อ  4  นายหนึ่งกับนายสองเป็นเจ้าของร่วมกันในที่ดินแปลงหนึ่ง  ที่ดินแปลงนั้นมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก)  ตั้งอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  นายหนึ่งกับนายสองต้องการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินเพื่อแต่ละคนจะได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของตน  นายหนึ่งและนายสองมีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครไม่สะดวกที่จะเดินทางไปสำนักงานที่ดินที่จังหวัดสงขลา  บุคคลทั้งสองจึงได้ไปยื่นคำขอต่อสำนักงานที่ดินที่กรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินการให้สำนักงานที่ดินที่มีอำนาจทำการจดทะเบียนให้  ดังนี้  อยากทราบว่าสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครจะรับดำเนินการให้ได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  72  ผู้ใดประสงค์จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  ให้คู่กรณีนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71

การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง  สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินใบไต่สวนหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  คู้กรณีอาจยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  กรมที่ดิน  หรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71  ดำเนินการจดทะเบียนให้  เว้นแต่การจดทะเบียนที่ต้องมีการประกาศหรือต้องมีการรังวัด

วินิจฉัย

ผู้ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  นอกจากจะมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71  แล้ว  บทบัญญัติมาตรา  72  วรรคสอง  ยังให้สิทธิคู่กรณีอาจจะมายื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  กรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้  แต่ทั้งนี้จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ทั้ง  3  ประการดังต่อไปนี้  คือ

1)    ที่ดินที่จะต้องจดทะเบียนนั้นจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน  ใบไต่สวน  หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  กล่าวคือ  ถ้ามีเอกสารอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาจะยื่นคำขอไม่ได้

2)    การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการประกาศก่อน  กล่าวคือ  กรณีใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทำเรื่องประกาศก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจะมาใช้มาตรา  72  วรรคสองไม่ได้

3)    การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการรังวัดก่อน

ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า  พนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯจะรับดำเนินการจดทะเบียนตามคำขอให้ได้หรือไม่  เห็นว่า กรณีเป็นเรื่องจดทะเบียนแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  79  ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว แม้ที่ดินที่นายหนึ่งและนายสองประสงค์จะแบ่งแยกกันนั้นจะเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3  ก)  และการจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องมีการประกาศก่อนก็ตาม  แต่การจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินออกเป็นหลายแปลง  บทบัญญัติมาตรา  79  ให้นำมาตรา  69  ทวิมาใช้บังคับด้วย  กล่าวคือ  จะต้องมีการรังวัดสอบเขตที่ดินก่อน  กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามมาตรา  72  วรรคสอง  สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ  จึงรับดำเนินการให้ไม่ได้  นายหนึ่งและนายสองต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลาเท่านั้น ตามมาตรา  71

สรุป  สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ  ไม่สามารถรับดำเนินการตามคำขอให้ได้  

LAW4008 กฎหมายที่ดิน 2/2550

การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW4008 กฎหมายที่ดิน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายสง่าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ  ใน  พ.ศ. 2528  นายสง่าได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้แก่นายบุญชูโดยมอบที่ดินให้นายบุญชูครอบครอง  นายบุญชูได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  ขณะนี้นายบุญชูมีความจำเป็นจึงไปขอออกโฉนดที่ดิน  ดังนี้  อยากทราบว่านายบุญชูจะนำที่ดินแปลงนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  27  ตรี  เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา  58  วรรคสอง  ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. 2497  หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา  27 ทวิ  แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน  ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น  ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ  ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง  ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา  59  ทวิ  ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ.  2497  แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27  ตรี  ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่  ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด  ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

วินิจฉัย

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้

1)    จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ  มาตรา  5  และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย

2)    ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  กล่าวคือ  ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  ไม่ได้

3)    มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน  และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร  และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน  50  ไร่  ถ้าเกิน  50  ไร่  จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

นายบุญชูจะนำที่ดินไปขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  นายสง่าได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ  กรณีเช่นนี้  ถือว่านายสง่าเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ก่อนวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ในที่ดิน  และไม่ได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  5  (ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่านายสง่าได้มีการแจ้งการครอบครอง)

ต่อมาได้ความว่า  ในปี  พ.ศ. 2528  นายสง่าได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้นายบุญชู  และนายบุญชูได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  กรณีจึงถือว่านายบุญชูเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายสง่า  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  วรรคสอง

และข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่าในท้องที่ดังกล่าว  เคยมีประกาศตามมาตรา  58  มาก่อนแต่อย่างใด  จึงไม่มีเหตุที่ผู้ครอบครองที่ดินจะต้องปฏิบัติ  ตามมาตรา  27  ตรี  นายบุญชูจึงไม่ใช่ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติ  ตามมาตรา  27  ตรี

ฉะนั้นแล้ว  ในขณะนี้นายบุญชูมีความจำเป็นที่จะไปขอออกโฉนด  นายบุญชูก็สามารถนำที่ดินแปลงนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายได้  ตามมาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก  เพราะนายบุญชูเป็นบุคคลตามมาตรา  59  ทวิ  วรรคสอง  แต่ทั้งนี้เนื้อที่ต้องไม่เกิน  50  ไร่  ถ้าเกิน  50  ไร่  จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

สรุป  นายบุญชูขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายได้ 


ข้อ  2  นายเอกได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดินโดยรัฐจัดที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยให้แก่ประชาชนและรัฐช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภคและอื่นๆด้วย  ทางราชการออกใบจองให้ในวันที่  13  ธันวาคม  พ.ศ. 2543  ใน  พ.ศ. 2547  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  นายเอกไม่ได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดินจึงไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ใน พ.ศ. 2550  นายเอกได้ขายที่ดินให้แก่นายโทและนายโทเข้าครอบครองและทำประโยชน์ต่อมา  ขณะนี้นายโททำประโยชน์แล้วเสร็จเต็มเนื้อที่แล้วจึงได้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน  ดังนี้  อยากทราบว่านายโทจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  59  ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะรายไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา  58  แล้วหรือไม่ก็ตาม  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร  ให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองด้วย

มาตรา  59  ทวิ  ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ.  2497  แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27  ตรี  ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่  ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด  ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

พ.ร.บ.  ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  8  วรรคสอง  ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจองแต่ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  ผู้ได้รับอนุญาตจะโอนไปไม่ได้เว้นแต่จะตกทอดโดยทางมรดก

วินิจฉัย

นายโทจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  นายเอกได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดินโดยรัฐจัดที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยให้  ซึ่งทางราชการออกใบจองให้เมื่อวันที่  13  ธันวาคม  พ.ศ. 2543  กรณีถือว่านายเอกเป็นผู้ครอบครองที่ดินที่มีใบจอง  ซึ่งที่ดินที่มีใบจองเป็นที่ดินที่ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  นายเอกจึงโอนให้ใครไม่ได้  เว้นแต่จะตกทอดโดยมรดกตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง

ต่อมาได้ความว่า  ในปี  พ.ศ. 2550  นายเอกได้ขายที่ดินให้แก่นายโท  ซึ่งการขายที่ดินดังกล่าวไม่ใช่เป็นการตกทอดโดยทางมรดก  ดังนั้น  การโอนดังกล่าวจึงฝ่าฝืน  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง  ในกรณีนี้แม้นายโทจะเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องตลอดมา  ก็ไม่ทำให้นายโทเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน  แต่อย่างไรก็ตามการที่นายเอกส่งมอบการครอบครองให้แก่นายโท  ย่อมมีผลทำให้นายโทเป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  เมื่อในขณะนี้นายโทประสงค์จะขอออกโฉนดที่ดิน  แต่ไม่ปรากฏว่ามีประกาศของทางราชการเพื่อจะออกโฉนด  (แบบทั้งตำบล)  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  จึงต้องพิจารณาการออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  และมาตรา  59  ทวิ

สำหรับการออกโฉนดแบบเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินได้  จะต้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน  กล่าวคือ  เป็นเจ้าของที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง  เมื่อนายโทเป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน  เนื่องจากการโอนดังกล่าวฝ่าฝืน  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง  นายโทจึงขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  วรรคแรกไม่ได้  อีกทั้ง  ในกรณีดังกล่าวนี้  นายโทก็จะอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองต่อเนื่อง  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  วรรคสอง  ไม่ได้เช่นกัน  เพราะนายโทมิใช่ผู้ครอบครองต่อเนื่องจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  (ส.ค.1)

ส่วนผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิได้นั้น  กฎหมายกำหนดว่า  จะต้องเป็นผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  5  เท่านั้น  เมื่อได้ความว่า  นายโทเป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ภายหลังวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าว  ดังนั้น  นายโทจึงไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  ได้เช่นกัน

สรุป  นายโทเป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  จึงขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  และมาตรา  59  ทวิ  ไม่ได้เลย


ข้อ  3  นายอาทิตย์ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินจากนางเดือนโดยทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อกันที่บ้านของนางเดือน  นายอาทิตย์ได้เข้าไปปลูกบ้านในที่ดินนั้นและได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อจนครบถ้วนแล้ว  แต่นางเดือนไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินให้  นายอาทิตย์ได้ปรึกษาทนายความว่าจะฟ้องนางเดือนโอนที่ดินให้  แต่ก่อนฟ้องนายอาทิตย์ได้ไปขออายัดที่ดินไว้เพราะกลัวว่านางเดือนจะขายที่ดินให้แก่บุคคลอื่นเสียก่อน  ดังนี้  อยากทราบว่านายอาทิตย์จะขออายัดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  83  ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินใดอันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียน  หรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้  มีความประสงค์จะขออายัดที่ดิน  ให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71

เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนเอกสารหลักฐานที่ผู้ขอได้นำมาแสดงแล้ว  ถ้าเห็นสมควรเชื่อถือก็ให้รับอายัดไว้มีกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่สั่งรับอายัด  เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว  ให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  และผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

ถ้าผู้มีส่วนได้เสียคัดค้านว่า  การอายัดนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสอบสวนพยานหลักฐานเท่าที่จำเป็น  เมื่อเป็นที่เชื่อได้ว่าได้รับอายัดไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ยกเลิกการอายัดนั้น  และแจ้งให้ผู้ขออายัดทราบ

วินิจฉัย

การอายัด  หมายถึง  การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อไปดำเนินการทางศาล  ดังนั้น  ถ้าที่ดินแปลงใดถูกอายัดจะมีการจดทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินนั้นไม่ได้  เว้นแต่จะเป็นการจดทะเบียนที่เป็นการปลดเปลื้องภาระผูกพัน  เช่น  ที่ดินถูกอายัด  แต่จะมีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง  ไถ่ถอนขายฝาก  กรณีเช่นนี้  ยอมให้จดทะเบียนได้  เพราะเป็นการทำให้ที่ดินปลอดจากภาระผูกพัน

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการอายัดไว้ดังนี้ 

1       ผู้ขออายัดจะต้องมีส่วนได้เสียในที่ดินโดยตรงอันอาจฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินได้

2       พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งรับอายัดไว้ได้มีกำหนด  30  วัน  นับแต่วันที่สั่งรับอายัด

3       เมื่อครบกำหนด  30  วันแล้วผู้ขออายัดยังไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งอายัดที่ดินให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  ผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

นายอาทิตย์จะขออายัดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  นายอาทิตย์ได้ทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อที่ดินจากนางเดือนและได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว  แต่นางเดือนไม่ยอมจดทะเบียนโอนให้  ในกรณีดังกล่าวนี้  โดยหลักแล้วนายอาทิตย์สามารถฟ้องบังคับให้นางเดือนไปจดทะเบียนโอนที่ดินที่เช่าซื้อให้แก่ตนได้  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  572  ดังนั้น  จึงถือว่านายอาทิตย์เป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินอันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  นายอาทิตย์จึงขออายัดที่ดินได้

สรุป  นายอาทิตย์ขออายัดที่ดินได้


ข้อ  4  นางพลอยเป็นผู้จัดการมรดกของนายสำรวยโดยพินัยกรรม  ขณะนี้นางพลอยต้องการจะจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกในที่ดินซึ่งเป็นมรดก  ดังนี้  ให้ท่านแนะนำขั้นตอนการจดทะเบียนในกรณีดังกล่าว

ธงคำตอบ

อธิบาย

โดยหลักแล้ว  การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกอาจมีได้หลายกรณี  กล่าวคือ  ผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล  ผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม  และผู้จัดการมรดกโดยมติของทายาท

สำหรับกรณีนางพลอยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมประสงค์จะจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกลงในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก  นางพลอยจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  82  ดังนี้

1       นางพลอยผู้จัดการมรดกต้องยื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  71  พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานต่อไปนี้

1.1)         หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน  เช่น  โฉนดที่ดิน  หนังสือรับรองการทำประโยชน์

1.2)         หลักฐานการตายของเจ้ามรดก  (นายสำรวย)  เช่น  ใบมรณะบัตร

1.3)         หลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก  คือ  พินัยกรรม

1.4)         บัญชีเครือญาติ

 2       พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน  และในกรณีนี้นางพลอยถือเป็นผู้จัดการมรดกโดยทางอื่นนอกจากคำสั่งศาล  คือ  เป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม  พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องประกาศเป็นหนังสือมีกำหนด  30  วัน  (มาตรา  81  วรรคสอง  ประกอบมาตรา  82  วรรคแรก)

3       เมื่อประกาศตาม  ข้อ  2  แล้ว  ถ้าไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนตามคำขอให้ได้เลย  แต่ถ้ามีผู้โต้แย้งคัดค้านให้พนักงานเจ้าหน้าที่รอเรื่องไว้  และให้คู่กรณีไปดำเนินการทางศาล  หลังจากนั้นถ้าศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดประการใด  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามนั้น

LAW4008 กฎหมายที่ดิน S/2550

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2550

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4008 กฎหมายที่ดิน

คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 ที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้น ถ้าทำสัญญาซื้อขายกันเองและส่งมอบที่ดินให้แก่กัน อยากทราบว่าผู้ซื้อจะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ กรณีขอออกเป็นการเฉพาะราย

ธงคำตอบ

มาตรา 4 ทวิ นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา 59 ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะรายไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา 58 แล้วหรือไม่ก็ตาม เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร ให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองด้วย

มาตรา 59 ทวิ ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่ ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

วินิจฉัย

การซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยทำสัญญาซื้อขายกันเอง มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการโอนที่ไม่ทำตามกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 ทวิ ที่กำหนดว่า “การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่” การซื้อขายที่ดินดังกล่าวจึงมีผลเป็นโมฆะ ส่งผลให้ผู้ซื้อซึ่งผู้ขายส่งมอบที่ดินให้เป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ

เมื่อผู้ซื้อประสงค์จะนำที่ดินมาขอออกโฉนด กรณีขอออกเป็นการเฉพาะราย จึงต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิ

สำหรับการขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินได้ จะต้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน กล่าวคือ เป็นเจ้าของที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อผู้ซื้อเป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแต่อย่างใด เนื่องจากการโอนดังกล่าวฝ่าฝืนประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 ทวิ ผู้ซื้อจึงขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 วรรคแรกไม่ได้ อีกทั้งในกรณีดังกล่าวนี้ผู้ซื้อก็จะอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองต่อเนื่อง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 วรรคสอง ไม่ได้เช่นกัน เพราะผู้ซื้อมิใช่ผู้ครอบครองต่อเนื่องจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)

ส่วนผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิได้นั้น กฎหมายกำหนดว่า จะต้องเป็นผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 5 เท่านั้น เมื่อได้ความว่า ผู้ซื้อเป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (ภายหลังวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าว ดังนั้นผู้ซื้อจึงไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิ ได้เช่นกัน

สรุป ผู้ซื้อเป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ จึงขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิ ไม่ได้เลย

ข้อ 2 นายเล็กได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดินโดนรัฐจัดที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยให้แก่ประชาชน ทางราชการออกใบจองให้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ต่อมาใน พ.ศ. 2549 นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้แก่นายใหญ่แทนหนี้เงินซึ่งนายเล็กกู้ยืมมา นายใหญ่เข้าครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจนได้รับโฉนดที่ดินจากทางราชการใน พ.ศ. 2550 ขณะนี้นายใหญ่จะจดทะเบียนขายที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายเอก ดังนี้อยากทราบว่านายใหญ่จะขายที่ดินนั้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา 58 ทวิ วรรคแรก วรรคสองและวรรคห้า เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา 58 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้ คือ

(3) ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดิน ภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับและไม่มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

ภายในสิบปีนับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้บุคคลตามวรรคสอง (3) ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้อื่น เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดก หรือโอนให้แก่ทบวงการเมือง องค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือโอนให้แก่สหกรณ์เพื่อชำระหนี้โดยได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนสหกรณ์

พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 วรรคสอง ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจอง แต่ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ผู้ได้รับอนุญาตจะโอนไปไม่ได้เว้นแต่จะตกทอดโดยทางมรดก

วินิจฉัย

นายเล็กเป็นผู้รอบครองที่ดินที่มีใบจอง โดยทางราชการออกใบจองให้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ซึ่งที่ดินที่มีใบจองนี้เป็นที่ดินที่ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว นายเล็กผู้ครอบครองจึงโอนให้ใครไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดกตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 8 วรรคสอง

เมื่อได้ความว่า ในปี พ.ศ. 2549 นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวตีใช้หนี้ให้แก่นายใหญ่แทนหนี้เงินที่นายเล็กกู้ยืมมา ซึ่งการยกให้ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ มาตรา 8 วรรคสอง ทั้งก็มิใช่เป็นการตกทอดทางมรดกแต่อย่างใด ในกรณีดังกล่าว แม้นายใหญ่จะได้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาก็ไม่ทำให้นายใหญ่เป็นผู้ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน

แต่อย่างไรก็ดี การยกที่ดินตีใช้หนี้โดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันนั้น มีผลทำให้นายใหญ่เป็นผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (หลังวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) ซึ่งการที่นายใหญ่ครอบครองและทำประโยชน์มาจนได้รับโฉนดจากทางราชการ ใน พ.ศ. 2550 ถือว่านายใหญ่เป็นผู้ได้รับโฉนดที่ดินเนื่องจากเป็นผู้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และไม่มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคสอง (3) นายใหญ่จึงอยู่ในบังคับห้ามโอนที่ดินภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เว้แต่จะเข้าข้อยกเว้น ตามมาตรา 58 ทวิ วรรคห้าตอนท้าย

ดังนั้น การที่นายใหญ่ประสงค์จะโอนที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายเอกจึงไม่สามารถโอนได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เพราะเป็นการโอนภายในกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่ได้รับโฉนด ทั้งไม่เข้าข้อยกเว้นของกฎหมาย เพราะไม่ใช่การโอนตกทอดโดยทางมรดกแต่อย่างใด

สรุป นายใหญ่ไม่สามารถจดทะเบียนขายที่ดินดังกล่าวให้แก่นายเอก

ข้อ 3 นายศุกร์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน นายศุกร์ต้องการจะขายที่ดินนั้นให้แก่นายอาทิตย์ จึงให้วินิจฉัยว่าในประเด็นต่อไปนี้

(ก) นายศุกร์จะไปทำการจดทะเบียนขายที่ดินให้แก่นายอาทิตย์ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) ถ้าการซื้อขายได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและส่งมอบที่ดินให้แก่กัน ต่อมามีประกาศของทางราชการ เพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น นายอาทิตย์ผู้ซื้อจะนำที่ดินไปขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใ

ธงคำตอบ

มาตรา 58 วรรคแรก วรรคสองและวรรคสาม เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในจังหวัดใดในปีใด ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์สำหรับปีนั้น เขตจังหวัดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร

เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท้องที่และวันเริ่มต้นของการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้น โดยปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานที่ดิน ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ก่อนวันเริ่มต้นสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

เมื่อได้มีประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดตามวรรคสอง ให้บุคคลตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสองหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว นำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย เพื่อทำการสำรวจรังวัดแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัดหมาย

มาตรา 58 ทวิ วรรคแรก วรรคสองและวรรคสาม เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา 58 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้ คือ

(1) ผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราว่า ได้ทำประโยชน์แล้ว หรือเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดินตามวรรคสอง (1) ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

ตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ให้โอนกันได้

วินิจฉัย

(ก) นายศุกร์จะไปทำการจดทะเบียนขายที่ดินให้แก่นายอาทิตย์ได้หรือไม่ เห็นว่า นายศุกร์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีสิทธิครอบครอง ซึ่งการจะพิจารณาว่าผู้มีสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินให้แก่กันได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาว่าที่ดินดังกล่าวได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วหรือไม่ตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 9

เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่า ที่ดินที่มีเพียงหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เป็นที่ดินที่ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 9 ดังนั้น การที่นายศุกร์ประสงค์จะไปทำการจดทะเบียนขายที่ดินให้แก่นายอาทิตย์ จึงไม่สามารถทำได้

แต่อย่างไรก็ดี ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง แม้จะโอนไม่ได้ตามกฎหมายที่ดินก็ตาม แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันตาม ป.พ.พ. มาตรา 1387

(ข) การที่นายศุกร์เจ้าของที่ดินที่มีเพียงหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่นายอาทิตย์โดยทำเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและส่งมอบที่ดินให้แก่กัน กรณีเช่นนี้ เมื่อที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว การโอนดังกล่าวจึงฝ่าฝืน พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 9

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อนายศุกร์ได้ส่งมอบการครอบครองให้แก่นายอาทิตย์แล้ว กรณีจึงถือว่านายอาทิตย์เป็นบุคคลซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายศุกร์ผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง เพราะตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสาม กำหนดว่า ผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองตามวรรคสาม (1) ให้หมายความรวมถึง ผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

เมื่อมีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน (ออกทั้งตำบล) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคแรกและวรรคสอง นายอาทิตย์จึงไปขอออกโฉนดที่ดินได้ เพราะนายอาทิตย์เป็นบุคคลตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสาม ซึ่งกฎหมายให้ถือเป็นบุคคลตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (1) โดยนายอาทิตย์ต้องมานำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมายเพื่อทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัดหมายตามมาตรา 58 วรรคสามแล้วนายอาทิตย์จะได้รับโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (1)

สรุป

(ก) นายศุกร์จดทะเบียนขายที่ดินไม่ได้

(ข) นายอาทิตย์ขอออกโฉนดที่ดินได้

ข้อ 4 นายทวีเป็นผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล ขณะนี้นายทวีต้องการจะจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกลงในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก ดังนี้ให้ท่านแนะนำขั้นตอนการจดทะเบียนในกรณีดังกล่าว

ธงคำตอบ

อธิบาย

โดยหลักแล้ว การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกอาจมีได้หลายกรณี กล่าวคือ ผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล ผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม และผู้จัดการมรดกโดยมติของทายาท

สำหรับนายทวีซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล ถ้าต้องการจะจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกลงในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก มีขั้นตอนการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 82 ดังนี้

1 นายทวีผู้จัดการมรดกต้องยื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 71 พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานต่อไปนี้

1.1) หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน คือ โฉนดที่ดิน

1.2) หลักฐานการตายของเจ้ามรดก

1.3) หลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก คือ สำเนาคำสั่งศาล

2 พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และกรณีนี้นายทวีซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนตามคำขอให้ได้เลยโดยไม่จำต้องประกาศก่อน

หมายเหตุ ถ้าเป็นผู้จัดการมรดกโดยทางอื่น เช่น เป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องประกาศเป็นหนังสือ มีกำหนด 30 วัน (นำความในมาตรา 81 วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม) และถ้ามีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านให้พนักงานเจ้าหน้าที่รอเรื่องไว้ และให้คู่กรณีไปดำเนินการทางศาล หลังจากนั้น ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดประการใด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินไปตามนั้น

LAW4008 กฎหมายที่ดิน 1/2552

การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2552

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW4008 กฎหมายที่ดิน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายเล็กครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ.2495  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน  เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  นายเล็กไม่ได้แจ้งการครอบครองตามที่กฎหมายกำหนดใน  พ.ศ.2530  นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้แก่นายใหญ่  นายใหญ่เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  ขณะนี้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  ดังนี้  อยากทราบว่านายใหญ่จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  27  ตรี  เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา  58  วรรคสอง  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. 2497  หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา  27 ทวิ  แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวนถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้นให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ  ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้มานำหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง  ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้

ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา  58  วรรคแรก  วรรคสองและวรรคสาม  เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในจังหวัดใดในปีใด  ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา  กำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์สำหรับปีนั้น  เขตจังหวัดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร

เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง  ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท้องที่และวันเริ่มต้นของการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้น  โดยปิดประกาศไว้  ณ  สำนักงานที่ดิน  ที่ว่าการอำเภอ  ที่ว่าการกิ่งอำเภอ  ที่ทำการกำนัน  และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ก่อนวันเริ่มต้นสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

เมื่อได้มีประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดตามวรรคสอง  ให้บุคคลตามมาตรา  58  ทวิ  วรรคสองหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว  นำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย  เพื่อทำการสำรวจรังวัดแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัดหมาย

มาตรา  58  ทวิ  เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่  หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา  58  แล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง  เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้คือ

(2) ผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี

วินิจฉัย

นายใหญ่จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  การที่นายเล็กครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่ง  ตั้งแต่  พ.ศ. 2495  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน  และนายเล็กก็ไม่ได้แจ้งการครอบครองที่ดินตามกฎหมายกำหนด  กรณีเช่นนี้  ถือว่านายเล็กเป็นผู้รอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ก่อนวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  5

ต่อมาได้ความว่า  ใน  พ.ศ. 2530  นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวตีใช้หนี้ให้แก่นายใหญ่  โดยนายใหญ่เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  ในกรณีดังกล่าวนี้ถือว่านายใหญ่เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากนายเล็กตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  27  ตรี  วรรคสอง

เมื่อขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  (แบบทั้งตำบล)  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  วรรคแรกและวรรคสอง  นายใหญ่ก็สามารถนำที่ดินนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินได้โดยต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  27  ตรี  วรรคแรก  กล่าวคือ

1       นายใหญ่ต้องมาแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลา  30  วัน  นับแต่วันปิดประกาศ  หรือ

2       ถ้านายใหญ่มิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้มานำหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่รังวัดตามวันเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  กรณีเช่นนี้  ให้ถือว่านายใหญ่ประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เมื่อนายใหญ่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นอย่างหนึ่งอย่างใดแล้ว  นายใหญ่ก็จะได้รับโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  ทวิ  วรรคสอง  (2)

สรุป  นายใหญ่ขออกโฉนดที่ดินได้เพราะเป็นบุคคลตามมาตรา  27  ตรี  วรรคสอง  โดยต้องปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  วรรคแรก  และจะได้รับโฉนดที่ดินตามมาตรา  58  ทวิ  วรรคสอง  (2)


ข้อ  2  นายสิงห์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ใน  พ.ศ.2542  นายสิงห์ได้ยกที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายช้าง  ซึ่งเป็นพี่น้องบิดามารดาเดียวกันโดยมอบที่ดินและเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้นายช้างครอบครอง  ใน  พ.ศ.2550  นายช้างได้รับโฉนดที่ดินจากทางราชการขณะนี้นายช้างต้องการจะโอนที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายเสือบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและบรรลุนิติภาวะแล้ว ดังนี้อยากทราบว่านายช้างจะจดทะเบียนโอนที่ดินให้นายเสือได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  4  ทวิ  นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ  การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา  58  ทวิ  วรรคแรก  วรรคสองและวรรคห้า  เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่  หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา  58  แล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้  คือ

(3) ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดิน  ภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับและไม่มีใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

ภายในสิบปีนับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง  ห้ามมิให้บุคคลตามวรรคสอง  (3)  ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้อื่น  เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดก  หรือโอนให้แก่ทบวงการเมือง  องค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล  รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ  หรือโอนให้แก่สหกรณ์เพื่อชำระหนี้โดยได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนสหกรณ์

วินิจฉัย

การที่นายสิงห์ได้ยกที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่นายช้าง  โดยมอบที่ดินและเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่นายช้างครอบครอง  ถือเป็นการโอนที่ไม่ทำตามกฎหมายที่ดิน  มาตรา  4  ทวิ  ที่กำหนดว่า  การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  การยกให้ดังกล่าวจึงมีผลเป็นโมฆะ  ส่งผลให้นายช้างเป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ

ซึ่งการที่นายช้างครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจนได้รับโฉนดจากทางราชการ  ใน  พ.ศ. 2550  กรณีเช่นนี้  ถือว่านายช้างเป็นผู้ได้รับโฉนดที่ดินเนื่องจากเป็นผู้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและไม่มีใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  วรรคสอง  (3)  นายช้างจึงอยู่ในบังคับที่ห้ามโอนที่ดินภายในกำหนด  10  ปี  นับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา  58 ทวิ  วรรคห้า  เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา  58  ทวิ  วรรคห้าตอนท้าย

ดังนั้น  การที่นายช้างประสงค์จะโอนที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายเสือจึงไม่สามารถโอนได้  ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา 58  ทวิ  วรรคห้า  เพราะเป็นการโอนภายในกำหนดเวลา  10  ปี  นับแต่ได้รับโฉนด  ทั้งไม่เข้าข้อยกเว้นของกฎหมาย  เพราะไม่ใช่การโอนโดยตกทอดทางมรดกแต่อย่างใด

สรุป  นายช้างจึงโอนที่ดินให้แก่นายเสือไม่ได้


ข้อ  3  นายไก่จะไปจดทะเบียนรับมรดกที่ดิน  ซึ่งมีโฉนดที่ดินโดยที่ดินแปลงนั้นตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น  แต่นายไก่มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร  และไม่สะดวกจะไปทำการจดทะเบียนที่จังหวัดขอนแก่น  นายไก่จึงนำเอกสารไปยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร  เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  สำนักงานที่ดินที่มีอำนาจทำการจดทะเบียนให้  อยากทราบว่า นายไก่จะยื่นคำขอในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  72  ผู้ใดประสงค์จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  ให้คู่กรณีนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71

การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง  สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน  ใบไต่สวนหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  คู่กรณีอาจยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  กรมที่ดิน  หรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71  ดำเนินการจดทะเบียนให้  เว้นแต่การจดทะเบียนที่ต้องมีประกาศหรือต้องมีการรังวัด

มาตรา  81  วรรคแรกและวรรคสอง  การขอจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้มาโดยทางมรดก  ให้ผู้ได้รับมรดกนำหลักฐานสำหรับที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมด้วยหลักฐานในการได้รับมรดกมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71  ถ้าหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินอยู่กับบุคคลอื่น  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวนั้นได้

เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนพยานหลักฐาน  และเชื่อได้ว่าผู้ขอเป็นทายาทแล้ว  ให้ประกาศโดยทำเป็นหนังสือปิดไว้ในที่เปิดเผยมีกำหนดสามสิบวัน  ณ  สำนักงานที่ดิน  เขตหรือที่ว่าการอำเภอ  หรือกิ่งอำเภอ  สำนักงานเทศบาล  ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล  ที่ทำการแขวงหรือที่ทำการกำนันท้องที่  ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่  และบริเวณที่ดินนั้นแห่งละหนึ่งฉบับ  และให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือส่งประกาศดังกล่าวให้บุคคลที่ผู้ขอแจ้งว่าเป็นทายาททุกคนทราบเท่าที่สามารถจะทำได้  หากไม่มีทายาทซึ่งมีสิทธิได้รับมรดกโต้แย้งภายในกำหนดเวลาที่ประกาศและมีหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ขอมีสิทธิได้รับมรดกแล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการจดทะเบียนให้ตามที่ผู้ขอแสดงหลักฐานการมีสิทธิตามกฎหมาย  ทั้งนี้  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

วินิจฉัย

ผู้ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  นอกจากจะมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71  แล้ว  บทบัญญัติมาตรา  72  วรรคสอง  ยังให้สิทธิคู่กรณีอาจจะมายื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  กรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้  แต่ทั้งนี้จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ทั้ง  3  ประการดังต่อไปนี้  คือ

1       ที่ดินที่จะต้องจดทะเบียนนั้นจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน  ใบไต่สวน  หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  กล่าวคือ  ถ้ามีเอกสารอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาจะยื่นคำขอไม่ได้

2       การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีประกาศก่อน  กล่าวคือ  กรณีใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทำเรื่องประกาศก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจะมาใช้มาตรา  72  วรรคสอง  ไม่ได้

3       การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการรังวัดก่อน

กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการจดทะเบียนรับมรดกที่ดินที่มีโฉนด  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  81  ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว  แม้ที่ดินที่จะจดทะเบียนนั้นจะเป็นที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน  และการจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องมีการรังวัดก่อนก็ตาม  แต่การขอจดทะเบียนรับมรดกที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  81  วรรคสอง  กำหนดให้ต้องมีการประกาศก่อน  30  วัน  ดังนั้น  กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามมาตรา  72  วรรคสอง  สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯจึงรับดำเนินการให้ไม่ได้  นายไก่ต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ณ  สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่นเท่านั้น

สรุป  นายไก่จะยื่นคำขอในกรณีดังกล่าวไม่ได้


ข้อ  4  ที่ดินซึ่งยังไม่มีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก่กันได้หรือไม่ตามกฎหมายที่ดิน  ให้อธิบายโดยยกหลักกฎหมายประกอบ

ธงคำตอบ

อธิบาย

ที่ดินที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์  โดยหลักแล้วก็สามารถโอนให้แก่กันได้  ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีหนังสือแสดงสิทธิที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  9  ที่ว่า  ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วให้โอนกันได้

ดังนั้น  ที่ดินซึ่งยังไม่มีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก่กันได้หรือไม่  สามารถแยกพิจารณาดังนี้

1       ที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  คือ  หนังสือคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  1  ดังนั้น  เมื่อที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงสามารถโอนให้แก่กันได้ตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  เว้นแต่ในบางกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติห้ามโอนไว้  เช่น  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  31  และมาตรา  58  ทวิ  วรรคห้า  เป็นต้น

2       ที่ดินที่มีใบจอง  (น.ส.2)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีใบจอง  เป็นเพียงหนังสือที่แสดงว่า  บุคคลผู้เป็นเจ้าของที่ดินได้รับอนุญาตให้เข้าครอบครองที่ดินของรัฐชั่วคราว  แต่ที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วจนกว่าจะได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ดังนั้น  สำหรับที่ดินที่มีใบจองหรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจองนั้น  ถ้ายังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  ผู้ได้รับอนุญาตจะโอนไม่ได้  เว้นแต่  จะตกทอดทางมรดกตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง

3       ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  (ส.ค.1)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น  จะทำการโอนทางทะเบียนไม่ได้  เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  แต่อย่างไรก็ดี  ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน  แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1378

ดังนั้น  ที่ดินซึ่งยังไม่มีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก่กันได้เฉพาะที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ส่วนที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  หรือใบจอง  เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงไม่สามารถโอนให้แก่กันได้

WordPress Ads
error: Content is protected !!