การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4008 กฎหมายที่ดิน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 นายสง่าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2496 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ ใน พ.ศ. 2528 นายสง่าได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้แก่นายบุญชูโดยมอบที่ดินให้นายบุญชูครอบครอง นายบุญชูได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา ขณะนี้นายบุญชูมีความจำเป็นจึงไปขอออกโฉนดที่ดิน ดังนี้ อยากทราบว่านายบุญชูจะนำที่ดินแปลงนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 27 ตรี เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา 58 วรรคสอง ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา 27 ทวิ แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย
มาตรา 59 ทวิ ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่ ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิ ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้
1) จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ มาตรา 5 และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย
2) ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี กล่าวคือ ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย ตามมาตรา 59 ทวิ ไม่ได้
3) มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ ถ้าเกิน 50 ไร่ จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
นายบุญชูจะนำที่ดินไปขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เห็นว่า นายสง่าได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2496 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ กรณีเช่นนี้ ถือว่านายสง่าเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ในที่ดิน และไม่ได้แจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 5 (ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่านายสง่าได้มีการแจ้งการครอบครอง)
ต่อมาได้ความว่า ในปี พ.ศ. 2528 นายสง่าได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้นายบุญชู และนายบุญชูได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา กรณีจึงถือว่านายบุญชูเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายสง่า ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 วรรคสอง
และข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่าในท้องที่ดังกล่าว เคยมีประกาศตามมาตรา 58 มาก่อนแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุที่ผู้ครอบครองที่ดินจะต้องปฏิบัติ ตามมาตรา 27 ตรี นายบุญชูจึงไม่ใช่ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติ ตามมาตรา 27 ตรี
ฉะนั้นแล้ว ในขณะนี้นายบุญชูมีความจำเป็นที่จะไปขอออกโฉนด นายบุญชูก็สามารถนำที่ดินแปลงนั้นไปขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายได้ ตามมาตรา 59 ทวิ วรรคแรก เพราะนายบุญชูเป็นบุคคลตามมาตรา 59 ทวิ วรรคสอง แต่ทั้งนี้เนื้อที่ต้องไม่เกิน 50 ไร่ ถ้าเกิน 50 ไร่ จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
สรุป นายบุญชูขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายได้