การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3006 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 1

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นางสายเดี่ยวอยู่กินกับนายสายลมโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส  มีบุตรชื่อนางสาวเอวลอย  อายุ  17  ปี  นางสาวเอวลอยถูกนายเบี้ยวข่มขืนกระทำชำเรา  แต่นางสาวเอวลอยก็ยังไปเรียนหนังสือได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้น

ในแต่ละกรณีดังต่อไปนี้  ถ้าท่านเป็นพนักงานสอบสวน  ท่านจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 

(ก)  นางสายเดี่ยวร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายเบี้ยวข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอวลอยในขณะที่นางสาวเอวลอยคัดค้านและไม่ยินยอมให้นางสายเดี่ยวร้องทุกข์  เพราะเกรงว่าตนเองและครอบครัวจะได้รับความอับอาย

(ข)  นางสาวเอวลอยร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายเบี้ยวข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา  ต่อมานางสายเดี่ยวขอถอนคำร้องทุกข์เพราะเกรงว่าตนเองและครอบครัวจะได้รับความอับอาย  ในขณะที่นางสาวเอวลอย  คัดค้านและไม่ยินยอมให้นางสายเดี่ยวถอนคำร้องทุกข์

ธงคำตอบ

มาตรา  2  ในประมวลกฎหมายนี้

(4)  ผู้เสียหาย  หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งรวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้  ดังบัญญัติไว้ในมาตรา  4, 5  และ  6

(7) คำร้องทุกข์  หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้  ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้นจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย  และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ

มาตรา  5  บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้

(1) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาล  เฉพาะแต่ในความผิดซึ่งได้กระทำต่อผู้เยาว์หรือผู้ไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความดูแล

วินิจฉัย

(ก)  นางสาวเอวลอย  อายุ  17  ปี  บุตรนอกสมรสของนางสายเดี่ยวถูกนายเบี้ยวข่มขืนกระทำชำเรา  นางสาวเอวลอยซึ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา  จึงถือได้ว่า  นางสาวเอวลอยเป็นผู้เสียหายโดยตรง  ตามมาตรา  2(4)

การที่นางสายเดี่ยวร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายเบี้ยวข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอวลอยนั้น  เห็นว่า  นางสายเดี่ยวมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแทนนางสาวเอวลอยได้  เพราะเหตุว่า  เด็กที่เกิดจากหญิงที่ไม่ได้สมรสกับชายให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1546  บุตรผู้เยาว์จึงอยู่ในอำนาจปกครองของมารดา  นางสาวสายเดี่ยวจึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายเบี้ยวในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอวลอย  บุตรของตนที่เป็นผู้เยาว์ได้  ตามมาตรา  5(1)  แม้นางสาวเอวลอยจะคัดค้านและไม่ยินยอมก็ตาม

(ข)  โดยหลัก  ผู้เยาว์ไม่สามารถฟ้องคดีอาญาด้วยตัวเองได้  (ฎ. 563/2517)  แม้จะได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก็ตาม  แต่ผู้เยาว์ชอบที่จะร้องทุกข์เองได้ (ฎ. 1892/2498)

การที่นางสาวเอวลอยร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายเบี้ยวในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานั้น  เห็นว่า  นางสาวเอวลอยมีอำนาจที่จะกระทำได้  เพราะเหตุว่า  การที่ผู้เยาว์ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายย่อมมีอำนาจร้องทุกข์ด้วยตัวเองได้  ตามมาตรา  2(7)

และนางสายเดี่ยว  ไม่มีอำนาจขอถอนคำร้องทุกข์ดังกล่าว  เพราะเหตุว่า  เมื่อผู้เยาว์ได้ร้องทุกข์ตามความประสงค์แล้ว  นางสายเดี่ยวเป็นมารดาของนางสาวเอวลอยก็ไม่สามารถถอนคำร้องทุกข์ซึ่งเป็นการขัดขืนฝืนความประสงค์ของผู้เยาว์ได้  (ฎ. 214/2549)  ดังนั้น  นางสายเดี่ยวจึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ดังกล่าว

สรุป

(ก)  นางสายเดี่ยวมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้

(ข)  นาวสาวเอวลอยมีอำนาจในการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน  และนางสายเดี่ยวไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์

 

ข้อ  2  นายหนึ่งออกเช็คชำระหนี้ให้นางสอง  100,000  บาท  นายสองนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารเมื่อเช็คถึงกำหนด  ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีนายหนึ่งไม่พอจ่าย  นายสองนำเช็คไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า  ผู้แจ้งเกรงว่าคดีจะขาดอายุความ  จึงขอแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน 

เมื่อพนักงานสอบสวนสอบสวนเสร็จแล้ว  พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลให้ลงโทษนายหนึ่งทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ  ระหว่างศาลชั้นต้นพิจารณาคดี  นายสองยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ

ดังนี้  ถ้าท่านเป็นศาลจะวินิจฉัยคดีของพนักงานอัยการและคำร้องของนายสองว่าอย่างไร  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  2  ในประมวลกฎหมายนี้

(4)  ผู้เสียหาย  หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งรวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้  ดังบัญญัติไว้ในมาตรา  4, 5  และ  6

(7) คำร้องทุกข์  หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้  ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้นจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย  และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ

มาตรา  30  คดีอาญาใดซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว  ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ได้

มาตรา  120  ห้ามมิให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีใดต่อศาล  โดยมิได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นก่อน

มาตรา  121  วรรคสอง  แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว  ห้ามมิให้ทำการสอบสวนเว้นแต่จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ

วินิจฉัย

นายสองเป็นผู้ทรงเช็คในขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน  นายสองจึงเป็นผู้เสียหายทางอาญาในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ  ตามมาตรา  2(4)  แต่การที่นายสองนำเช็คไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า  ผู้แจ้งเกรงว่าคดีจะขาดอายุความ  จึงขอแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน  ถือว่านายสองยังไม่มีเจตนาให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ  (ฎ. 62/2521)  ถ้อยคำที่แจ้งจึงไม่เป็นคำร้องทุกข์  ตามมาตรา  2(7)

ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเป็นความผิดต่อส่วนตัว  เมื่อไม่มีคำร้องทุกข์พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวนตามมาตรา  121  วรรคสอง  ทำให้การสอบสวนของพนักงานสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย  เป็นผลให้พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องตามมาตรา  120  ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องคดีของพนักงานอัยการ

เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องคดีของพนักงานอัยการแล้ว  จึงไม่มีคำฟ้องอยู่ในศาล  นายสองแม้จะเป็นผู้เสียหายก็ไม่สามารถเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามมาตรา  30  ศาลจึงต้องสั่งยกคำร้องของนายสองเช่นเดียวกัน 

(ฎ. 228/2544)

สรุป  ศาลต้องพิพากษายกฟ้องคดีของพนักงานอัยการและต้องสั่งยกคำร้องของนายสองเช่นเดียวกัน

 

ข้อ  3  อัยการประจำศาลแขวงใต้ฟ้องนายแดงฐานขับรถยนต์โดยประมาทชนนายดำบาดเจ็บสาหัสต่อศาลแขวง  ระหว่างพิจารณา  นายดำได้ถึงแก่ความตายเนื่องจากการขับรถโดยประมาทตามที่ได้ฟ้องทำให้คดีไม่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาได้  อัยการประจำศาลแขวงจึงได้ขอถอนฟ้องเพื่อส่งสำนวนไปให้อัยการประจำศาลจังหวัด  ด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาทเป็นเหตุให้คนตายอยู่ในอำนาจศาลจังหวัดที่จะพิจารณาพิพากษาได้  และต่อมาอัยการประจำศาลจังหวัดได้ยื่นฟ้องนายแดงฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้นายดำถึงแก่ความตายต่อศาลจังหวัด

เช่นนี้  ถ้าท่านเป็นศาลจังหวัดจะรับฟ้องของอัยการดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  36  วรรคแรก  คดีอาญาซึ่งได้ถอนฟ้องไปจากศาลแล้วจะนำมาอีกหาได้ไม่  เว้นแต่จะเข้าอยู่ในข้อยกเว้นต่อไปนี้

(1) ถ้าพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีอาญาซึ่งไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัวไว้แล้วได้ถอนฟ้องคดีนั้นไป  การถอนนี้ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่

(2) ถ้าพนักงานอัยการถอนคดีซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวไป  โดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้เสียหาย  การถอนนั้นไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่

วินิจฉัย

ศาลจังหวัดจะรับฟ้องของพนักงานอัยการไว้พิจารณาหรือไม่นั้น  เห็นว่า  ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้นายดำได้รับบาดเจ็บสาหัสและความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้นายดำถึงแก่ความตายนั้น  ถือได้ว่าเป็นคดีเดียวกันเพราะในสองฐานความผิดดังกล่าวได้เกิดจากรถยนต์นั้นชนเช่นเดียวกัน  เมื่อได้ความว่าคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้ฟ้องต่อศาลแขวงแล้ว  และต่อมาได้ขอถอนฟ้องไป  ซึ่งผลของการถอนฟ้องดังกล่าว  ทำให้ไม่สามารถนำคดีอาญามาฟ้องใหม่ได้อีก  ตามมาตรา  36  วรรคแรก  แม้ได้ความว่าจะฟ้องต่อศาลจังหวัดก็ตาม  และในกรณีนี้ก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้น  ตามมาตรา  36(1)(2)  ที่จะสามารถฟ้องใหม่ได้แต่อย่างใด

สรุป  ถ้าข้าพเจ้าเป็นศาลจังหวัดก็จะไม่รับฟ้องของอัยการไว้พิจารณา

 

ข้อ  4  พ.ต.ต. สิทธิชัยขับรถออกตรวจท้องที่เวลาห้าทุ่ม  เห็นนายสุเมธยกปืนขึ้นเล็งไปที่นายปริญญาซึ่งทั้งนายสุเมธและนายปริญญาอยู่ภายในบ้านของนางปุ้ย  พ.ต.ต.สิทธิชัยจึงเข้าไปทำการจับกุมนายสุเมธในบ้านของนางปุ้ยทันทีโดยที่ไม่มีหมายจับและหมายค้น

ดังนี้การที่  พ.ต.ต.สิทธิชัยเข้าไปจับนายสุเมธในบ้านของนางปุ้ยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  78  พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับผู้ใด  โดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งของศาลนั้นไม่ได้  เว้นแต่

(1) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดังได้บัญญัติไว้ในมาตรา  80

มาตรา  80  วรรคแรก  ที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้านั้น  ได้แก่  ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำหรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยได้เลยว่าเขาได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ

มาตรา  81  ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม  ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน  เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน

มาตรา  92  ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล  เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้นและในกรณีดังต่อไปนี้

(2)  เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน

มาตรา  96  การค้นในที่รโหฐานต้องกระทำระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและตก  มีข้อยกเว้นดังนี้

(2) ในกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งหรือซึ่งมีกฎหมายอื่นบัญญัติให้ค้นได้เป็นพิเศษ  จะทำการค้นในเวลากลางคืนก็ได้

วินิจฉัย

การจับของ  พ.ต.ต.  สิทธิชัยเป็นการจับในที่รโหฐานในเวลากลางคืน  (เนื่องจากตามข้อเท็จจริงการกระทำความผิดเกิดเวลาห้ามทุ่ม)  ซึ่งการที่จะเข้าไปจับได้ต้องมีอำนาจในการจับโดยมีหมายจับ  หรืออำนาจที่กฎหมายให้ทำการจับได้โดยไม่ต้องมีหมายและต้องทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน  คือ  มีอำนาจในการค้นโดยมีหมายค้นหรือมีอำนาจที่กฎหมายให้ทำการค้นได้โดยไม่ต้องมีหมาย  รวมถึงจะต้องมีอำนาจที่จะเข้าไปทำการค้นในที่รโหฐานในเวลากลางคืน

การที่  พ.ต.ต. สิทธิชัย  เห็นนายสุเมธยกปืนขึ้นเล็งไปที่นายปริญญา  การกระทำของนายสุเมธเป็นความผิดฐานพยายามฆ่านายปริญญา  ตาม  ป.อ.  มาตรา  288  ประกอบมาตรา  80  เมื่อ  พ.ต.ต.  สิทธิชัย  เห็นการกระทำดังกล่าวจึงมีอำนาจในการจับเนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า  ประเภทความผิดซึ่งหน้าอย่างแท้จริงกรณีเห็นบุคคลกำลังกระทำความผิดตามมาตรา  78  ประกอบมาตรา  80  วรรคแรก  และตามปัญหาเป็นกรณีนายสุเมธกระทำความผิดซึ่งหน้า  (พ.ต.ต. สิทธิชัย)  ในบ้านของนางปุ้ยซึ่งเป็นที่รโหฐาน  จึงถือว่า  พ.ต.ต. สิทธิชัย  ได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐานคือมีอำนาจในการค้นแล้วตามมาตรา  92(2) ประกอบมาตรา  81  ถือเป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งซึ่งจะทำการค้นในที่รโหฐานเวลากลางคืนก็ได้ตามมาตรา  96(2)  เนื่องจากหาก  พ.ต.ต. สิทธิชัยไม่เข้าไปขณะนั้น  (เวลาห้าทุ่ม)  นายปริญญาอาจได้รับอันตรายถึงชีวิตได้  พ.ต.ต. สิทธิชัยจึงสามารถเข้าไปทำการจับนายสุเมธในบ้านของนางปุ้ยได้

สรุป  การที่  พ.ต.ต. สิทธิชัยเข้าไปจับนายสุเมธในบ้านของนางปุ้ยชอบด้วยกฎหมาย 

Advertisement