การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2010
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยค้ำประกัน จำนอง จำนำ
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายนิติภูมิทำสัญญาจ้างนายสมัครเป็นพนักงานเก็บเงินในร้านสะดวกซื้อ ในการนี้นายสมัครได้ส่งมอบสมุดบัญชีเงินฝากของตนไว้เป็นประกันการเข้าทำงาน ต่อมาอีก 2 วัน นายสมบัติได้ทำสัญญาค้ำประกันการทำงานของนายสมัครต่อนายนิติภูมิ หลังจากนั้นอีก 3 เดือน นายสมัครได้ยักยอกเงินนายนิติภูมิไปเป็นเงิน 3 แสนบาท เมื่อนายนิติภูมิทราบเรื่องได้ไล่นายสมัครออกจากงานและได้เรียกร้องให้นายสมบัติรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน ถ้านายสมบัติจะยกข้อต่อสู้ต่อไปนี้ ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่าข้อต่อสู้ของนายสมบัติจะรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
1 นายสมบัติไม่ต้องรับผิดเพราะในขณะเข้าทำสัญญาค้ำประกันยังไม่มีหนี้ที่นายสมัครจะต้องรับผิดต่อนายนิติภูมิ การยักยอกเงินเพิ่งเกิดขึ้นหลังนายสมบัติเข้าทำสัญญาค้ำประกัน
2 นายสมบัติเรียกร้องให้นายนิติภูมิไปบังคับเอากับเงินฝากที่นายสมัครได้มอบสมุดบัญชีไว้เป็นหลักประกันก่อน ขาดเท่าไรจึงมาเรียกร้องให้นายสมบัติรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
ธงคำตอบ
มาตรา 681 วรรคสอง หนี้ในอนาคตหรือหนี้มีเงื่อนไข จะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซึ่งหนี้ นั้นอาจเป็นผลได้จริง ก็ประกันได้
มาตรา 686 ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
มาตรา 690 ถ้าเจ้าหนี้มีทรัพย์ของลูกหนี้ยึดไว้เป็นประกันไซร้ เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซึ่งเป็นประกันนั้นก่อน
วินิจฉัย
1 การที่นายสมบัติเข้าทำสัญญาค้ำประกันการทำงานของนายสมัคร ถือว่าเป็นการค้ำประกันหนี้ในอนาคตที่นายสมัครลูกจ้าง (ลูกหนี้) อาจก่อให้เกิดขึ้นแก่นายนิติภูมินายจ้าง (เจ้าหนี้) ภายในระหว่างสัญญาจ้างแรงงานยังไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หนี้นั้นอาจเป็นผลได้จริงก็สามารถมีการค้ำประกันได้ตามมาตรา 681 วรรคสอง ดังนั้นแม้ปรากฏว่าในขณะที่นายสมบัติเข้าทำสัญญาค้ำประกัน นายสมัครลูกจ้างยังไม่ได้กระทำการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายนิติภูมินายจ้างก็ตาม แต่ภายหลังจากทำสัญญาค้ำประกันได้ 3 เดือน นายสมัครได้ยักยอกเงินก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายนิติภูมิ จึงถือว่านายสมัครลูกหนี้มีการผิดนัด (มาตรา 206) ความรับผิดของนายสมบัติผู้ค้ำประกันจึงเกิดมีขึ้น ตามมาตรา 686 นายสมบัติจึงมิอาจที่จะยกข้อต่อสู้ว่าในขณะเข้าทำสัญญาค้ำประกันยังไม่มีหนี้ประธานเกิดขึ้นเพื่อเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดได้ เพราะเป็นการค้ำประกันหนี้ในอนาคต ตามมาตรา 681 วรรคสอง ดังนั้นข้อต่อสู้ของนายสมบัติจึงฟังไม่ขึ้น
2 ในขณะที่นายสมบัติเข้าทำสัญญาค้ำประกัน นายสมัครลูกจ้างได้ส่งมอบสมุดเงินฝากให้นายนิติภูมิยึดถือไว้เป็นประกันการทำงาน เห็นว่า การที่นายสมัครส่งมอบสมุดเงินฝากให้นายนิติภูมิไม่ถือว่าเป็นการที่ลูกหนี้ได้ให้หลักประกันแก่เจ้าหนี้ตามกฎหมาย เพราะการส่งมอบสมุดเงินฝากไม่ถือว่าเป็นการจำนำตามมาตรา 747 เป็นแต่เพียงทำให้เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะยึดถือสมุดเงินฝากไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้จากนายสมัครลูกจ้างเท่านั้น ดังนั้นข้อต่อสู้ที่ให้นายนิติภูมิ ไปบังคับเอากับสมุดเงินฝากที่ยึดถือไว้เป็นหลักประกันก่อนตามมาตรา 690 จึงับฟังไม่ได้ แต่ถ้านายสมบัติผู้ค้ำประกันสามารถพิสูจน์ได้ว่า นายสมัครลูกหนี้มีเงินฝากอยู่ในบัญชีสมุดเงินฝากซึ่งสามารถนำมาชำระหนี้ได้และการบังคับชำระหนี้ไม่เป็นการยากก็สามารถเรียกร้องให้นายนิติภูมิเจ้าหนี้ ไปบังคับเอากับเงินฝากที่นายสมัครได้มอบสมุดบัญชีไว้เป็นหลักประกันก่อน ขาดเท่าไรจึงมาเรียกร้องให้นายสมบัติรับผิดตามสัญญาค้ำประกันข้อต่อสู้ดังกล่าวฟังไม่ขึ้น ตามมาตรา 690 แต่ชอบที่จะเกี่ยงตามมาตรา 689 ได้
สรุป
1 ข้อต่อสู้ฟังไม่ขึ้น ตามมาตรา 682 วรรคสอง
2 ข้อต่อสู้ฟังไม่ขึ้น ตามมาตรา 690 แต่ชอบที่จะยกข้อต่อสู้ตามมาตรา 689 ได้