การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกระบวนวิชา HIS 1201 พื้นฐานวัฒนธรรมไทย
คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)
1. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ชุมชนระดับหมู่บ้านพัฒนาเป็นชุมชนเมือง
(1) มีการเพาะปลูกข้าว
(2) การค้าขายระหว่างชุมชน
(3) มีแหล่งนํ้าที่เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภค
(4) การนับถือพุทธศาสนา
ตอบ 4 หน้า 8-9 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชุมชนระดับหมู่บ้านพัฒนาเป็นชุมชนเมืองได้ มีดังนี้
1. มีแหล่งเพาะปลูกข้าว 2. มีแหล่งน้ำที่เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภค
3. มีการค้าขายระหว่างชุมชน
2. ข้อใดกล่าวถึงแคว้นศรีวิชัยได้ถูกต้อง
(1) ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาท
(2) อาณาเขตของศรีวิชัยครอบคลุมคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา
(3) ประชากรส่วนใหญ่เป็นพวกนิกรอยด์
(4) เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตอบ 2 หน้า 15 ลักษณะสำคัญของแคว้นศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 12 – 18) มีดังนี้ 1. เจริญขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ต่อมามีอาณาเขตครอบคลุมไปตลอดคาบสมุทรมลายู และเกาะสุมาตรา 2. ประชากรส่วนใหญ่เป็นพวกมาลาโยโพลีเนเชียน 3. นับถือพุทธศาสนา นิกายมหายานเป็นส่วนใหญ่ ส่วนศาสนาฮินดูก็มีผู้นับถือเช่นกัน 4. เป็นศูนย์กลางทางการค้า ที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้โดยเป็นคนกลางติดต่อระหว่างอินเดียและจีน
3. ข้อใดไม่ใช่แว่นแคว้นโบราณที่อยู่ในเขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย
(1) แคว้นเชลียง
(2) แคว้นหริภุญไชย (3) แคว้นหิรัญนครเงินยาง (4) แคว้นโยนกเชียงแสน
ตอบ 1 หน้า 14, 18, 20, 24 แว่นแคว้นโบราณที่อยู่ในเขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 – 18 มีดังนี้ 1. แคว้นหริภุญไชย 2. แคว้นโยนกเชียงแสน 3. แคว้นเงินยางเชียงแสน หรือหิรัญนครเงินยาง 4. แคว้นพะเยา (ส่วนแคว้นเชลียง เจริญขึ้นมาในเขตลุ่มน้ำยมราวพุทธศตวรรษที่ 17 บริเวณ จ.สุโขทัยในเขตภาคกลางตอนบน)
4. ราชวงศ์กษัตริย์ที่ปกครองแคว้นศรีธรรมราชคือราชวงศ์ใด
(1) ปัทมวงศ์ (2) มังราย (3) ศรีนาวนำถม (4) สิงหนวัติ
ตอบ 1 หน้า 25 แคว้นศรีธรรมราช หรือนครศรีธรรมราช พัฒนาไปจากแคว้นศรีวิชัยภายหลังที่แคว้นศรีวิชัยเสื่อมอำนาจไปแล้ว โดยมีกษัตริย์ราชวงศ์ปัทมวงศ์หรือปทุมวงศ์ เข้ามามีอำนาจ และปกครองแคว้นศรีธรรมราชในตอนกลางพุทธศตวรรษที่ 18 ทั้งนี้แคว้นศรีธรรมราชจะมี ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลังกามากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการที่พุทธศาสนาเถรวาทจากลังกา เข้ามามีอิทธิพลแทนที่พุทธศาสนามหายานของศรีวิชัย
5. ยุคทองของแคว้นล้านนาตรงกับสมัยกษัตริย์องค์ใด
(1) พระยากือนา (2) พระยาติโลกราช (3) พระยาแก้ว (4) พระยางำเมือง
ตอบ 2 หน้า 32 สมัยของพระยาติโลกราช (พ.ศ. 198*1 – 2030) ถือได้ว่าเป็นยุคทองของอาณาจักร ล้านนา เพราะสามารถฟื้นฟูอำนาจของล้านนาขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้พระยาติโลกราชยังเป็นผู้มีความสามารถในการรบและขยับรบ จึงมีนโยบายขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง เช่น ทางเหนือขึ้นไปถึงเขตไทยใหญ่ คือ เมืองเชียงรุ้ง ส่วนทางใต้ลงมาถึงเมืองแพร่และน่าน
6. ข้อใดไม่ใช่อุดมการณ์การปกครองตามแบบเดิมของชนชาติไทย
(1) ผู้นำต้องเป็นนักรบที่มีความสามารถ (2) ผู้นำมีความสัมพันธ์กับอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์
(3) ผู้นำต้องปกครองตามระบบคุณธรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในสมัยนั้น
(4) ผู้นำใช้แนวทางการปกครองที่มีพื้นฐานมาจากการนับถือเทพเจ้าในศาสนาฮินดู
ตอบ 4 หน้า 90 – 92 อุดมการณ์การปกครองตามแบบเดิมของชนชาติไทย มีลักษณะสำคัญที่สรุปได้ดังนี้
1. กษัตริย์หรือผู้นำต้องเป็นนักรบที่มีความสามารถ 2. กษัตริย์หรือผู้นำมีความสัมพันธ์กับ อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. กษัตริย์หรือผู้นำใช้การปกครองแบบพ่อปกครองลูก 4. กษัตริย์หรือ ผู้นำต้องปกครองตามระบบคุณธรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคมในสมัยพุทธศตวรรษที่ 19
5. ฐานะของผู้ปกครองยังไม่แตกต่างหรืออยู่ห่างจากราษฎรมากนัก
7. ข้อใดกล่าวถึง “มหาชนสมมุติ” ได้ถูกต้องที่สุด
(1) เป็นมนุษย์ที่ได้รับการสรรเสริญจากคนทั่วไปให้เป็นเทพเจ้า
(2) หลักการมหาชนสมมุติปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระเวท
(3) เป็นมนุษย์ที่ได้รับการยอมรับและเลือกสรรจากประชาชนให้เป็นผู้นำ เพราะมีคุณธรรมสูงกว่าผู้อื่น
(4) เป็นผู้นำที่มีอำนาจเด็ดขาดเพราะเป็นเทพเจ้าอวตารลงมา
ตอบ 3 หน้า 92 ผู้นำที่ดีควรเป็น “มหาชนสมมุติ” เป็นหลักการของพุทธศาสนาที่ปรากฏอยู่ใน
พระไตรปิฏก ตอนอัคคัญสูตร ซึ่งได้กล่าวถึงผู้นำที่ดีว่า ผู้นำหรือกษัตริย์ควรเป็นมนุษย์เหมือน ประชาชนมิใช่เทพเจ้า โดยต้องเป็นมนุษย์ที่ได้รับการยอมรับและเลือกสรรจากประชาชน ให้เป็นผู้นำ เพราะมีคุณธรรมสูงกว่าผู้อื่น จึงจะเรียกว่าเป็นมหาชนสมมุติ
8. ข้อใดไม่ใช่ความแตกต่างของสถาบันกษัตริย์ล้านนากับสุโขทัยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20
(1) การเน้นความสูงส่งของพระจักรพรรดิราช (2) การใช้คำราชาศัพท์
(3) การอ้างบทบาทของผู้ปกครองดุจดังพระโพธิสัตว์ (4) การเน้นความสำคัญของหลักทศพิธราชธรรม
ตอบ 4 หน้า 98 ลักษณะของสถาบันกษัตริย์ล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 จะมีส่วนที่แตกต่างจาก สถาบันกษัตริย์สุโขทัย คือ ไม่มีการเน้นความสูงส่งของพระจักรพรรดิราช หรือไม่มีการอ้างบทบาท ของผู้ปกครองดุจดังพระโพธิสัตว์ และไม่มีการใช้คำราชาศัพท์กับกษัตริย์เหมือนดังทางสุโขทัย ส่วนหลักการของธรรมราชาอื่นๆ เช่น การเน้นความสำคัญของหลักทศพิธราชธรรม การทำสงครามธรรมยุทธ ฯลฯ ทางล้านนาก็ใช้คล้ายคลึงกับสุโขทัย
9. เทวดาหรือยักษ์ที่ทำหน้าที่รักษาทิศทั้ง 4 ในจักรวาล
(1) จตุมหาราชิกา (2) จตุโลกบาล (3) จตุรงคบาท (4) จตุคาม
ตอบ 2 หน้า 99, (คำบรรยาย) ในคติพราหมณ์มีความเชื่อว่า ในระบบจักรวาล (Universe or Macrocosmos) มีทิศหลักที่สำคัญอยู่ 4 ทิศ คือ ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก ซึ่งแต่ละทิศจะมีเทวดาหรือยักษ์ผู้รักษาทิศทั้ง 4 ของจักรวาลอยู่ประจำ รวมทั้งหมด 4 ตน เรียกว่า “โลกาปะละ หรือจตุโลกบาล”
10. คติการปกครองที่กษัตริย์อ้างว่าเป็นพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้าคือคติใด
(1) พุทธราชา (2) ธรรมราช (3) เทวราช (4) ถูกทั้งข้อ 1 และ 2
ตอบ 2 หน้า 95 – 96 สถาบันกษัตริย์สุโขทัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ได้เพิ่มความสูงส่ง ของคติการปกครองแบบธรรมราชาหรือธรรมราชขึ้นไปอีก โดยใช้วิธีการหนึ่งคือ กษัตริย์แสดง บทบาทในฐานะพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้า ดังหลักฐานในจารึกสุโขทัยหลักที่ 4 ที่กล่าวถึง การเสด็จออกผนวชของสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไทย และทรงตั้งปณิธานจะเป็นพระพุทธเจ้า พาสรรพสัตว์ข้ามวัฏสงสาร