LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ s/63

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2108 (LAW 2008) ป.พ.พ. ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ฯลฯ

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)

ข้อ 1 จิ๋วและโก๋เป็นเพื่อนกัน จิ๋วจึงให้โก๋เช่าบ้านพร้อมที่ดินแปลงหนึ่งของตนเพื่ออยู่อาศัย มีกําหนด เวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 – 31 ธันวาคม 2565 ชําระค่าเช่าทุกเดือนในอัตราเดือนละ 5,000 บาท หลังจากที่โก๋เช่าบ้านพร้อมที่ดินไปได้ 2 ปี โก้ผิดนัดไม่ชําระค่าเช่า 3 เดือน เนื่องจากโก๋ตกงาน จิ๋วจึงบอกเลิกสัญญากับโก๋ทันที และให้โก๋ออกจากบ้านและที่ดินที่เช่า แต่โก๋ปฏิเสธ จิ๋วจึงนําคดีมาฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ และขอให้ศาลสั่งขับไล่โก๋

(ก) หากสัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวตกลงด้วยวาจา ถ้าท่านเป็นศาลในคดีนี้ ท่านจะวินิจฉัย คดีเช่นไร เพราะเหตุใด

(ข) หากสัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวทําเป็นหนังสือ ถ้าท่านเป็นศาลในคดีนี้ ท่านจะวินิจฉัย คดีเช่นไร เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

มาตรา 560 “ถ้าผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้

แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้องบอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชําระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกําหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน

วินิจฉัย

ตามบทบัญญัติมาตรา 538 ได้กําหนดไว้ว่า สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟ้องร้องบังคับคดี กันได้ก็ต่อเมื่อได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ และถ้าเป็นการเช่า ที่มีกําหนดเวลาเกิน 3 ปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ถ้ามิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

กรณีตามอุทาหรณ์ แยกวินิจฉัยได้ดังนี้

(ก) การที่จิ๋วให้โก๋เช่าบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ มีกําหนดเวลา 3 ปี และตกลงกัน ด้วยวาจานั้น สัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดินระหว่างจิ๋วและโก๋ เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด ลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดคือโก๋ แม้สัญญาเช่าจะสมบูรณ์ แต่ก็ไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ดังนั้น การที่โก๋ผิดนัดไม่ชําระค่าเช่า 3 เดือน จิ๋วจึงไม่สามารถฟ้องร้องให้โก๋ชําระค่าเช่าที่ค้างชําระได้

ส่วนการที่จิ๋วฟ้องขอให้ศาลขับไล่โก๋ออกจากบ้านและที่ดินที่เช่านั้น มิใช่เป็นการฟ้องเพื่อให้บังคับตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด ดังนั้น แม้สัญญาเช่าจะมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสําคัญก็ตาม จิ๋วผู้เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินก็สามารถฟ้องร้องขับไล่โก๋ได้

(ข) การที่จิ๋วให้โก๋เช่าบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวโดยทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือนั้น สัญญาเช่าย่อมมีผลสมบูรณ์และสามารถใช้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ตามมาตรา 538 แต่อย่างไรก็ดี มาตรา 560 ได้บัญญัติหลักไว้ว่า ถ้าค่าเช่านั้นได้กําหนดชําระกันเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เมื่อผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิก สัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชําระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน ถ้าผู้เช่ายังไม่ยอมชําระอีก จึงจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้

การที่โก๋ได้ตกลงจะชําระค่าเช่าแก่จิ๋วเป็นรายเดือน แล้วต่อมาผิดนัดชําระค่าเช่า 3 เดือนนั้น โดยหลักแล้วจิ๋วย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 560 วรรคหนึ่ง แต่เมื่อสัญญาเช่านั้นมีการกําหนดชําระค่าเช่าเป็นรายเดือน ดังนั้น จิ๋วจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จิ๋วจะต้องบอกกล่าวให้โก๋นําค่าเช่ามาชําระก่อน โดยจะต้องให้เวลาแก่โก๋นําค่าเช่ามาชําระอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งหากโก๋ไม่ยอมชําระอีก จิ๋วจึงจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 560 วรรคสอง แต่ตามข้อเท็จจริง จิ๋วได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับโก๋ทันที โดยไม่มีการบอกกล่าวให้โก๋นําค่าเช่าที่ค้างชําระมาชําระก่อน การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าทันทีของจิ๋วจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สัญญาเช่าจึงยังไม่ระงับ จิ๋วจึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่และเรียกค่าเช่าจากโก๋ได้

สรุป ถ้าข้าพเจ้าเป็นศาลในคดีนี้ จะวินิจฉัยทั้ง 2 กรณีดังนี้คือ

(ก) จะยกฟ้องคดีที่จิ๋วฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ แต่จะรับฟ้องคดีฟ้องขับไล่ของจิ๋ว

(ข) จะยกฟ้องทั้งคดีฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ และคดีฟ้องขับไล่ของจิ๋ว

ข้อ 2 ทิชาทําสัญญาเช่าซื้อบ้านหลังหนึ่งจากคิวในราคา 1,000,000 บาท สัญญาทําเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย แต่ยังไม่ได้นําไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยกําหนดค่าเช่าซื้องวดละ 100,000 บาท ชําระทุกวันที่ 20 ของเดือน มีกําหนด 10 งวด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ในวันทําสัญญา ทิชาได้ให้ค่าเช่าล่วงหน้าไว้ 200,000 บาท หลังจากที่ทิชาชําระค่าเช่าซื้องวดที่ 7 แล้ว ทิชาก็ไม่ได้ชําระค่าเช่าซื้ออีกเลย ในวันที่ 21 ตุลาคม 2563 คิวจึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่ที่ชา ทันที ดังนี้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของคิวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 572 วรรคสอง “สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทําเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ”

มาตรา 574 วรรคหนึ่ง “ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อ

ที่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้รับเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน และเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ทิชาทําสัญญาเช่าซื้อบ้านหลังหนึ่งจากคิว ในราคา 1,000,000 บาท โดยทําสัญญากันเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย แต่ยังไม่ได้นําไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ถือว่าสัญญาเช่าซื้อบ้านระหว่างทิชาและคิวได้ทําถูกต้องตามแบบที่มาตรา 572 วรรคสอง ได้กําหนดไว้แล้ว เพราะตามมาตรา 572 ไม่ได้กําหนดว่าสัญญาเช่าซื้อจะต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ดังนั้น

สัญญาเช่าซื้อดังกล่าวจึงมีผลสมบูรณ์ใช้บังคับกันได้ตามกฎหมาย

เมื่อในสัญญาเช่าซื้อดังกล่าว ได้ตกลงให้ทิชาชําระค่าเช่าซื้อทุกวันที่ 20 ของเดือน มีกําหนด 10 งวด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยในวันทําสัญญา ทิชาได้ให้ค่าเช่าล่วงหน้าไว้ 200,000 บาท และหลังจากทิชาชําระค่าเช่าซื้องวดที่ 7 แล้ว ทิชาก็ไม่ได้ชําระค่าเช่าซื้ออีกเลยนั้น เมื่อนําค่าเช่าล่วงหน้า 200,000 บาท มาหักออกจากยอดที่ไม่ได้ชําระค่าเช่าซื้อก่อนแล้ว ย่อมถือว่าทิชาได้ชําระค่าเช่าซื้อจนถึงงวดที่ 9 แล้ว และยังคงผิดนัดไม่ใช้เงินค่าเช่าซื้องวดที่ 10 ที่มีกําหนดชําระวันที่ 20 ตุลาคม 2563 เพียงงวดเดียวเท่านั้น จึงถือเป็นกรณี ที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงินเพียง 1 คราว มิใช่การผิดนัดไม่ใช้เงิน 2 คราวติด ๆ กัน อันจะทําให้คิวมีสิทธิบอกเลิก สัญญาเช่าซื้อตามมาตรา 574 วรรคหนึ่งได้ ดังนั้น การที่คิวบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อทันทีในวันที่ 21 ตุลาคม 2563 และฟ้องขับไล่ทิชานั้น การกระทําของคิวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สรุป การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของตัวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ข้อ 3 (ก) จงอธิบายเหตุที่นายจ้างจะไล่ลูกจ้างออกได้โดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหม ทดแทน และยกตัวอย่างประกอบให้เข้าใจพอสังเขป

(ข) ผู้ว่าจ้างทําของจะบอกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างทําของในกรณีที่การที่จ้างยังทําไม่เสร็จได้หรือไม่และผู้ว่าจ้างทําของต้องดําเนินการอย่างไรในการบอกเลิกสัญญา จงอธิบายและยกตัวอย่างประกอบให้เข้าใจพอสังเขป

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 583 “ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคําสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นําพาต่อคําสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี กระทําความผิดอย่างร้ายแรงก็ดี หรือทําประการอื่น อันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้”

จากบัญญัติมาตรา 583 จะเห็นได้ว่า นายจ้างจะไล่ลูกจ้างออกได้โดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

หรือให้สินไหมทดแทนได้ ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้คือ

1 ลูกจ้างจงใจขัดคําสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมาย

2 ลูกจ้างละเลยไม่นําพาต่อคําสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างเป็นอาจิณ

3 ลูกจ้างละทิ้งการงานไปเสีย

4 ลูกจ้างกระทําความผิดอย่างร้ายแรง

5 ลูกจ้างกระทําโดยประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต

ตัวอย่าง นาย ก. ได้ทําสัญญาจ้างนาย ข. เป็นลูกจ้างมีกําหนดเวลา 5 ปี โดยตกลงจ่ายสินจ้าง ทุก ๆ วันสิ้นเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ปรากฏว่าในเดือนเมษายน 2564 นาย ข. ได้มาทํางานสาย ถึง 10 ครั้ง และนาย ก. ก็ได้ทําการตักเตือนเป็นหนังสือให้ทราบแล้วว่าตามระเบียบของที่ทํางานนั้นต้องมาทํางาน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. แต่นาย ข. ก็ยังมาทํางานสายอีกหลายครั้ง ดังนี้ ถือว่านาย ข. ได้ละเลยไม่นําพาต่อคําสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายเป็นอาจิณ นาย ก. ย่อมสามารถบอกเลิกสัญญาจ้างนาย ข. ได้ทันที โดยมิพักต้อง บอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทน

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 605 “ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญาได้เมื่อเสียค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น”

จากบัญญัติมาตรา 605 จะเห็นได้ว่า กรณีสัญญาจ้างทําของนั้น ผู้ว่าจ้างทําของจะบอกเลิกสัญญา กับผู้รับจ้างทําของในกรณีที่การที่จ้างยังทําไม่เสร็จได้ แต่ผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อ ความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดจากการเลิกสัญญานั้น

ตัวอย่าง พรทําสัญญาจ้างเพ็ญให้ตัดเย็บหน้ากากผ้าจํานวน 10,000 ชิ้น โดยจะจ่ายสินจ้าง ให้เพ็ญเมื่องานเสร็จเป็นเงิน 100,000 บาท เมื่อเพ็ญดําเนินการตัดเย็บหน้ากากผ้าไปแล้ว 2,000 ชิ้น พรเห็นว่า แบบที่ว่าจ้างให้เพ็ญตัดเย็บนั้น มีขายมากเกินไปในท้องตลาด ซึ่งอาจจะขายไม่หมดตามจํานวนที่คาดไว้ ดังนั้น พรจึงสามารถบอกเลิกสัญญาจ้างกับเพ็ญได้ แต่พรจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเลิกสัญญานั้นให้แก่เพ็ญ

LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ s/2562

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2562

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ฯลฯ

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)

ข้อ 1. ก๋วยจั๊บและก๋วยเตี๋ยวเป็นเพื่อนสนิทกัน ก๋วยจั๊บจึงให้ก๋วยเตี๋ยวเช่าบ้านพร้อมที่ดินแปลงหนึ่งของตน สัญญาเช่าตกลงด้วยวาจามีกําหนดเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 31 ธันวาคม 2564 ชําระค่าเช่าทุกเดือนในอัตราเดือนละ 10,000 บาท หลังจากที่ก๋วยเตี๋ยวเช่าบ้านพร้อมที่ดินไปได้ 2 ปี ก๋วยเตี๋ยวผิดนัดไม่ชําระค่าเช่า 3 เดือน เนื่องจากก๋วยเตี๋ยวตกงาน ก๋วยจั๊บจึงบอกเลิกสัญญา กับก๋วยเตี๋ยวทันที และให้ก๋วยเตี๋ยวออกจากบ้านและที่ดินที่เช่า แต่ก๋วยเตี๋ยวปฏิเสธ ก๋วยจั๊บจึงนํา คดีมาฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระและขอให้ศาลสั่งขับไล่ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวต่อสู้ขอให้ศาลยกฟ้อง โดยอ้างว่าสัญญาเช่าทําไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และการบอกเลิกสัญญาเช่าทําโดยมิชอบ ดังนี้ ถ้าท่านเป็นศาลในคดีนี้ ท่านจะวินิจฉัยคดีเช่นไร

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนด ตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

วินิจฉัย

ตามบทบัญญัติมาตรา 538 ได้กําหนดไว้ว่า สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟ้องร้องบังคับ คดีกันได้ ก็ต่อเมื่อได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ และถ้าเป็น การเช่าที่มีกําหนดเวลาเกิน 3 ปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ถ้ามิได้ทําเป็นหนังสือและ จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ก๋วยจั๊บให้ก๋วยเตี๋ยวเช่าบ้านพร้อมที่ดินมีกําหนดเวลา 3 ปี และตกลงกัน ด้วยวาจานั้น สัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดินระหว่างก๋วยจั๊บกับก๋วยเตี๋ยวเมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ (ก๋วยเตี๋ยว) จึงไม่สามารถที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ดังนั้นการที่ก๋วยเตี๋ยว ผิดนัดไม่ชําระค่าเช่า 3 เดือน ก๋วยจับจึงไม่สามารถฟ้องร้องให้ก๋วยเตี๋ยวชําระค่าเช่าได้

ส่วนการที่ก๋วยจั๊บฟ้องขอให้ศาลขับไล่ก๋วยเตี๋ยวออกจากบ้านและที่ดินที่เช่านั้น มิใช่เป็นการฟ้อง

เพื่อให้บังคับตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด ดังนั้น แม้สัญญาเช่าจะมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ก๋วยจั๊บผู้เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินก็สามารถฟ้องขับไล่ก๋วยเตี๋ยวได้

สรุป ถ้าข้าพเจ้าเป็นศาลในคดีนี้ จะวินิจฉัยยกฟ้องคดีที่ก๋วยจั๊บฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ แต่ จะรับฟ้องคดีฟ้องขับไล่ของก๋วยจั๊บ

 

ข้อ 2 (ก) ไบรท์ทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือให้กินเช่าบ้านของไบรท์มีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุกวันที่ 5 ของเดือนในอัตราเดือนละ 10,000 บาท ในวันทําสัญญาเช่า วินได้ให้เงินค่าเช่าล่วงหน้าไว้เป็นจํานวน 30,000 บาท วินเข้าไปอยู่ใน บ้านที่เช่าจนถึงเดือนมีนาคม 2563 แต่วินไม่ได้ชําระค่าเช่าให้กับไบรท์เลยตั้งแต่เริ่มทําสัญญา ดังนั้น ในวันที่ 1 มีนาคม 2563 ไบรท์จึงมีหนังสือแจ้งให้วินนําค่าเช่ามาชําระให้เสร็จสิ้น ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าว มิฉะนั้นให้ถือเอาหนังสือบอกกล่าวเป็น การบอกเลิกสัญญา เมื่อครบกําหนด 15 วันแล้ว วินก็ไม่ได้ชําระค่าเช่าให้กับไบรท์ ดังนั้น วันที่ 17 มีนาคม 2563 ไบรท์จึงฟ้องขับไล่วินออกจากบ้านที่เช่า การบอกเลิกสัญญาเช่า ของไบรท์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

(ข) ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ คําตอบของท่านจะแตกต่างไปหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักศึกษาจะต้องอธิบายเหตุผลประกอบด้วย มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน)

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 560 “ถ้าผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้

แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้อง บอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชําระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกําหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน”

วินิจฉัย

ในเรื่องสัญญาเช่าทรัพย์นั้นตามบทบัญญัติมาตรา 560 ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้าการชําระค่าเช่ากําหนด ชําระกันเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เมื่อผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชําระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน ถ้าผู้เช่ายังไม่ยอมชําระอีกจึงจะบอกเลิกสัญญาได้

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ไบรท์ทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือให้กินเช่าบ้านของไบรท์มีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุกวันที่ 5 ของเดือนในอัตราเดือนละ 10,000 บาทนั้น ถือเป็นสัญญาเช่าที่มีการตกลงชําระค่าเช่าเป็นรายเดือน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าวินไม่ได้ชําระค่าเช่าให้กับไบรท์เลย นับแต่เริ่มทําสัญญา ดังนี้เมื่อหักค่าเช่าล่วงหน้าที่วินให้ไว้ 30,000 บาท จึงถือว่าวินยังไม่ได้ชําระค่าเช่าในวันที่ 5 มกราคม และ 5 กุมภาพันธ์ 2563 และการที่ไบรท์มีหนังสือแจ้งให้วินนําค่าเช่ามาชําระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าว มิฉะนั้นให้ถือเอาหนังสือบอกกล่าวเป็นการบอกเลิกสัญญานั้น ย่อมถือได้ว่า ผู้ให้เช่าได้บอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนแล้วว่าให้ชําระค่าเช่าภายในกําหนดเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน ดังนั้นเมื่อครบกําหนด 15 วันแล้ววินก็ยังไม่ได้ชําระค่าเช่าให้แก่ไบรท์ และไบรท์ได้ฟ้องขับไล่วินออกจากบ้านที่ให้เช่าในวันที่ 17 มีนาคม 2563 การบอกเลิกสัญญาเช่าของไบรท์จึงชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 560

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 574 วรรคหนึ่ง “ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อ ที่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้รีบ เป็นของเจ้าของทรัพย์สิน และเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย”

วินิจฉัย

ถ้าข้อเท็จจริงตาม (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ การที่วินผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน คือไม่ชําระ ค่าเช่าซื้อในเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ดังนั้นไบรท์ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ ตามมาตรา 574 วรรคหนึ่ง การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของไบรท์จึงชอบด้วยกฎหมาย

สรุป (ก) การบอกเลิกสัญญาเช่าของไบรท์ชอบด้วยกฎหมาย

(ข) การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของไบรท์ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นคําตอบจึงไม่แตกต่างกัน

 

ข้อ 3 แบมทําสัญญาจ้างให้ออยตัดเย็บหน้ากากผ้าตามแบบจํานวน 10,000 ชิ้น โดยจะจ่ายสินจ้าง ให้แก่ออยเมื่องานเสร็จเป็นเงินรวม 100,000 บาท ออยเห็นว่ามีงานต้องทําเป็นจํานวนมากจึงทํา สัญญาจ้างบีมเป็นลูกจ้างไม่มีกําหนดระยะเวลา โดยให้สินจ้างสัปดาห์ละ 2,000 บาท กําหนดจ่าย สินจ้างกันทุกวันศุกร์ เมื่อออยดําเนินการตัดเย็บหน้ากากผ้าไปแล้ว 2,000 ชิ้น แบมเห็นว่าแบบที่ ว่าจ้างให้ออยตัดเย็บนั้นมีขายเยอะเกินไปในท้องตลาดจึงขายไม่ออกตามจํานวนที่คาดไว้ แบมจึงบอกเลิกสัญญากับออย

(ก) แบมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับออยหรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) ออยเห็นว่าไม่ค่อยมีงานให้บีมทําแล้ว จึงบอกเลิกสัญญาจ้างกับบีมในวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2563 ดังนี้ ทีมต้องทํางานให้ออยถึงวันที่เท่าใด

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 587 “อันว่าจ้างทําของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทํา การงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสําเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสําเร็จ

แห่งการที่ทํานั้น”

มาตรา 605 “ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญาได้เมื่อ เสียค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น”

วินิจฉัย

โดยหลักในเรื่องสัญญาจ้างทําของนั้น ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จ ผู้ว่าจ้างสามารถบอกเลิก

สัญญาจ้างได้ แต่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดจากการเลิกสัญญานั้น ให้กับผู้รับจ้าง (มาตรา 605)

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่แบมทําสัญญาจ้างให้ออยตัดเย็บหน้ากากผ้าตามแบบจํานวน 10,000 ชิ้น โดยจะจ่ายสินจ้างให้แก่ออยเมื่องานเสร็จเป็นเงินรวม 100,000 บาทนั้น ถือเป็นสัญญาจ้างทําของตามมาตรา 587 เมื่อออยดําเนินการตัดเย็บหน้ากากผ้าไปแล้ว 2,000 ชิ้น แบมเห็นว่าแบบที่ว่าจ้างให้ออยตัดเย็บนั้นมีขายเยอะเกินไป ในท้องตลาดจึงขายไม่ออกตามจํานวนที่คาดไว้จึงบอกเลิกสัญญาจ้างกับออยนั้น แบมย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้าง กับออยได้ แต่แบมจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเลิกสัญญานั้นให้แก่ ออยด้วยตามมาตรา 605

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 575 “อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทํางาน ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทํางานให้”

มาตรา 582 “ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กําหนดลงไว้ในสัญญาว่าจะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้า ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง

เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทําได้ แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่าวดังว่านี้ นายจ้างจะจ่ายสินจ้างแก่ลูกจ้างเสียให้ครบจํานวนที่จะต้องจ่าย

จนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกําหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียวแล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสียในทันทีก็อาจทําได้”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ออยทําสัญญาจ้างบีมเป็นลูกจ้างไม่มีกําหนดระยะเวลาโดยให้สินจ้าง สัปดาห์ละ 2,000 บาท กําหนดจ่ายสินจ้างทุกวันศุกร์นั้น ถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงานตามมาตรา 575 และเมื่อเป็น สัญญาจ้างที่ไม่มีกําหนดเวลาจึงเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 582 วรรคหนึ่ง กล่าวคือ ถ้าออยจะบอกเลิกสัญญาจ้าง จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่งเพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากัน เมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ออยได้บอกเลิกสัญญากับทีมในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ย่อมถือว่าเป็น การบอกเลิกสัญญาของการจ่ายสินจ้างในศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563 เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนด จ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า คือ เลิกสัญญากันในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ดังนั้น บีมจึงต้องทํางานให้ออย ต่อไปจนถึงวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563

สรุป (ก) แบมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับออยได้ แต่แบมจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับออย ในความเสียหายซึ่งเกิดจากการบอกเลิกสัญญาจ้างนั้นด้วย

(ข) ออยบอกเลิกสัญญากับบีมในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 บีมต้องทํางานให้ออยจนถึง วันที่ 17 กรกฎาคม 2563

LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ 1/2563

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ฯลฯ

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ

ข้อ 1 แดงได้ทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือแต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าให้ขาวเช่าอาคารพาณิชย์ของแดง มีกําหนดเวลา 6 ปี ตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันสิ้นเดือน และสัญญาเช่าข้อ 5 ระบุว่า “หากสัญญาเช่า ครบ 6 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ผู้ให้เช่าให้คํามั่นจะให้ผู้เช่าเช่าอาคารพาณิชย์ต่อไป อีก 3 ปี” หากปรากฏข้อเท็จจริงว่า

(ก) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ขาวได้แจ้งความประสงค์ไปยังแดงว่าขาวต้องการเช่าอาคาร ต่อไปอีก 3 ปี แต่แดงอ้างว่าไม่มีคํามั่นจะให้เช่าแล้ว จึงไม่ต้องปฏิบัติตาม การปฏิเสธของแดง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จงวินิจฉัย

(ข) ขาวเช่าอาคารพาณิชย์มาได้ 1 ปีเท่านั้น แดงได้ขายอาคารพาณิชย์ให้กับดํา การซื้อขา ทําโดยชอบด้วยกฎหมาย ทําให้ขาวเข่าอาคารพาณิชย์จนครบ 6 ปี ครั้นถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ดําฟ้องขับไล่ขาวออกจากอาคาร และให้ขาวส่งมอบอาคารคืน เพราะขาวยังอยู่ในอาคารพาณิชย์ โดยที่ดํามิได้บอกเลิกสัญญาเช่าก่อน คําอ้างว่าครบกําหนดเวลาเช่า 6 ปีแล้ว ดังนี้ การกระทํา ของดําชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จงวินิจฉัย

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนด ตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

วินิจฉัย

ตามบทบัญญัติมาตรา 538 ได้กําหนดไว้ว่า สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟ้องร้องบังคับ คดีกันได้ ก็ต่อเมื่อได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ และถ้าเป็น การเช่าที่มีกําหนดเวลาเกิน 3 ปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ถ้ามิได้ทําเป็นหนังสือและ จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่แดงได้ทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือ แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าให้ขาวเช่า อาคารพาณิชย์ของแดงมีกําหนดเวลา 6 ปีนั้น สัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ระหว่างแดงและขาวมีผลสมบูรณ์ แต่สามารถใช้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้เพียง 3 ปี ตามมาตรา 538 ดังนั้น แม้ในสัญญาเช่าข้อ 5 จะระบุว่า “หากสัญญาเช่าครบ 6 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ผู้ให้เช่าให้คํามั่นจะให้ผู้เช่าเช่าอาคารพาณิชย์ต่อไป อีก 3 ปี” ก็ตาม แต่เมื่อการเช่าดังกล่าวนั้นได้มีการเช่ากันครบ 3 ปีแล้ว สัญญาเช่าและคํามั่นจะให้เช่า ดังกล่าวย่อมไม่มีผลบังคับกันอีกต่อไป เมื่อขาวได้แจ้งความประสงค์ไปยังแดงในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ว่า ขาวต้องการเช่าอาคารต่อไปอีก 3 ปี แต่แดงอ้างว่าไม่มีคํามั่นจะให้เช่าแล้ว จึงไม่ต้องปฏิบัติตามนั้น การปฏิเสธ ของแดงจึงชอบด้วยกฎหมาย

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนด ตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

มาตรา 566 “ถ้ากําหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐานได้ไซร้ ท่านว่า

คู่สัญญาฝ่ายใดจะบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกําหนดชําระค่าเช่าก็ได้ทุกระยะ แต่ต้อง บอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกําหนดเวลาชําระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือน”

มาตรา 569 “อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไป เพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า

ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย”

มาตรา 570 “ในเมื่อสิ้นกําหนดเวลาเช่าซึ่งได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้าผู้เช่ายังคงครองทรัพย์สินอยู่ และผู้ให้เช่ารู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วงไซร้ ท่านให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทําสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกําหนดเวลา”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ เมื่อสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ระหว่างแดงและขาวมีผลสมบูรณ์ และสามารถ ใช้บังคับกันได้ 3 ปีนั้น เมื่อปรากฏว่าขาวได้เช่าอาคารพาณิชย์มาได้ 1 ปี แดงได้ขายอาคารพาณิชย์ที่ให้ขาวเช่า ให้แก่ดํา โดยการซื้อขายทําโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ย่อมไม่ทําให้สัญญาเช่าระหว่างแดงผู้ให้เช่ากับขาวผู้เช่า ระงับสิ้นไปตามมาตรา 569 วรรคหนึ่ง โดยดําผู้รับโอนจะต้องผูกพันรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่า นั้นด้วย กล่าวคือ ดําจะต้องให้ขาวเช่าอาคารพาณิชย์นั้นต่อไปจนครบกําหนด 3 ปี ตามสัญญาเช่าตามมาตรา 569 วรรคสอง

และเมื่อสัญญาเช่าครบกําหนด 3 ปีแล้ว แต่ยังคงให้ขาวเช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวต่อไปจน ครบกําหนด 6 ปี ถือว่าสัญญาเช่า 3 ปีหลังนั้น เป็นสัญญาเช่าที่ไม่มีกําหนดระยะเวลาตามมาตรา 570 ซึ่งสิทธิและ หน้าที่ของคู่สัญญาให้นําสัญญาเดิมมาใช้บังคับ และเมื่อเป็นสัญญาเช่าที่ไม่มีกําหนดเวลา ดําย่อมมีสิทธิบอกเลิก สัญญาเช่าได้ แต่ต้องบอกกล่าวให้ขาวรู้ตัวก่อนชั่วกําหนดเวลาชําระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จําต้อง บอกกล่าวล่วงหน้ากว่า 2 เดือน ตามมาตรา 566 แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ดําได้ฟ้องขับไล่ขาวออกจากอาคาร และให้ขาวส่งมอบอาคารคืนโดยที่ดํายังมิได้บอกเลิกสัญญาเช่าก่อน โดยอ้างว่า ครบกําหนดเวลาเช่า 6 ปีนั้น การกระทําของดําย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตํายังไม่ได้บอกกล่าวให้ขาว รู้ตัวก่อนล่วงหน้าตามมาตรา 566

สรุป (ก) การปฏิเสธของแดงชอบด้วยกฎหมาย

(ข) การกระทําของดําไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ข้อ 2 (ก) น้ําเงินได้ทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือให้เหลืองเช่าที่ดินของน้ําเงินมีกําหนดเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันที่ 15 ของเดือน เป็นค่าเช่า เดือนละ 25,000 บาท ในวันทําสัญญาเช่าเหลืองได้ชําระเงินมัดจําค่าเช่าไว้ 75,000 บาท หลังจากนั้นเหลืองไม่ได้ชําระค่าเช่าให้น้ําเงินอีกเลยจนถึงปัจจุบันนี้ ดังนั้น น้ําเงินจึงบอกเลิก สัญญาเช่ากับเหลืองในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 และให้เหลืองส่งมอบที่ดินคืนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 พร้อมกับชําระเงินค่าเช่าที่ค้างด้วย การบอกเลิกสัญญาของน้ําเงิน ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ คําตอบของท่านจะแตกต่างไปหรือไม่ เพียงใด

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 560 “ถ้าผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้

แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้อง บอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชําระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกําหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน

วินิจฉัย

ในเรื่องสัญญาเช่าทรัพย์นั้นตามบทบัญญัติมาตรา 560 ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้าการชําระค่าเช่ากําหนด ชําระกันเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เมื่อผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชําระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน ถ้าผู้เช่ายังไม่ยอมชําระอีกจึงจะบอกเลิกสัญญาได้

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่น้ําเงินทําสัญญาเป็นหนังสือให้เหลืองเช่าที่ดินของน้ําเงินมีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันที่ 15 ของแต่ละเดือน ๆ ละ 25,000 บาท และในวันทําสัญญาเช่าเหลืองได้วางเงินมัดจําค่าเช่าไว้เป็นเงิน 75,000 บาท แต่เหลืองไม่ได้ชําระค่าเช่าให้น้ําเงิน อีกเลยจนถึงปัจจุบันนั้น การที่เหลืองไม่ได้ชําระค่าเช่า 5 เดือน เมื่อหักค่าเช่า (มัดจํา) ออก 3 เดือน ตามที่เหลือง ได้ชําระไว้ ย่อมถือว่าเหลืองไม่ได้ชําระค่าเช่า 2 เดือนติดต่อกัน คือ เดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีผลทําให้ น้ําเงินมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสัญญาเช่านั้นมีการกําหนดชําระค่าเช่ากันเป็นรายเดือน น้ําเงินจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้เหลืองนําค่าเช่ามาชําระก่อน โดยต้องให้เวลา แก่เหลืองนําค่าเช่ามาชําระอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งถ้าเหลืองไม่ยอมชําระอีก น้ําเงินจึงจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตาม มาตรา 560 วรรคสอง ดังนั้น การที่น้ําเงินบอกเลิกสัญญาเช่ากับเหลืองทันทีในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 และ ให้เหลืองส่งมอบที่ดินคืนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 นั้น การบอกเลิกสัญญาเช่าของน้ําเงินจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่น้ําเงินสามารถเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ 2 เดือนได้

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 574 วรรคหนึ่ง “ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญา ในข้อที่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้ริบเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน และเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย”

วินิจฉัย

ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ การที่เหลืองผิดนัดไม่ชําระค่าเช่าในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน 2563 นั้น ย่อมถือเป็นกรณีที่เหลืองผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กันแล้ว ดังนั้น น้ําเงิน ผู้ให้เช่าซื้อจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ทันทีตามมาตรา 574 วรรคหนึ่ง การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของน้ําเงินจึงชอบด้วยกฎหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม น้ําเงินจะเรียกเงินค่าเช่าซื้อที่เหลืองยังไม่ชําระในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2563 จํานวน 50,000 บาท ไม่ได้ เพราะตามหลักกฎหมายมาตรา 574 วรรคหนึ่ง หากผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงิน ค่าเช่าซื้อสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสําคัญ ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และ ริบเงินค่าเช่าซื้อที่ได้ใช้มาแล้วเท่านั้น จะเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชําระเพราะผิดนัดหรือผิดสัญญาดังกล่าวไม่ได้

สรุป (ก) การบอกเลิกสัญญาเช่าทรัพย์ทันทีของน้ําเงินไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่น้ําเงินสามารถ เรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ 2 เดือนได้

(ข) การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อทันทีของน้ําเงินชอบด้วยกฎหมาย แต่น้ําเงินจะเรียกค่าเช่าซื้อ ที่เหลืองค้างชําระ 2 เดือนไม่ได้ ดังนั้น คําตอบจึงแตกต่างกัน

 

ข้อ 3 (ก) นายพิชิตทําสัญญาจ้างนายสมัยเป็นลูกจ้างตําแหน่งช่างเครื่อง โดยตกลงทําสัญญาด้วยวาจา ทําเป็นสัญญาจ้างมีกําหนดระยะเวลาจ้างอย่างต่ํา 6 เดือน และไม่เกิน 2 ปี ให้เริ่มสัญญาตั้งแต่ เดือนมกราคม 2563 มีข้อสัญญาว่าให้ชําระสินจ้างเดือนละ 15,000 บาท ทุก ๆ วันสิ้นเดือน ปรากฏว่าในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 นายจ้างได้ทําหนังสือบอกกล่าวแก่นายสมัยว่าจะทําการ เลิกสัญญาจ้างนายสมัยด้วยเหตุผลเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก ไม่มีลูกค้าสั่งซื้อสินค้า และจะ เลิกสัญญาจ้างในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 นายสมัยเห็นว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากสัญญาจ้าง ยังไม่ครบกําหนด คือ เดือนธันวาคม 2564 เช่นนี้ ท่านเห็นว่าอย่างไร ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด จงอธิบาย

(ข) “ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ” ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 7 จ้างทําของ ได้กําหนด “หน้าที่และความรับผิด” ของผู้รับจ้างทําของไว้อย่างไรบ้างตามมาตราใด ให้อธิบายตามสมควร

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 575 “อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทํางาน ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทํางานให้

มาตรา 582 “ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กําหนดลงไว้ในสัญญาว่าจะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้า ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง

เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทําได้ แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่าวดังว่านี้ นายจ้างจะจ่ายสินจ้างแก่ลูกจ้างเสียให้ครบจํานวนที่จะต้องจ่าย

จนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกําหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียวแล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสียในทันทีก็อาจทําได้”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายพิชิตทําสัญญาจ้างนายสมัยเป็นลูกจ้างตําแหน่งช่างเครื่อง โดยตกลง ทําสัญญาจ้างด้วยวาจา และตกลงชําระสินจ้างเดือนละ 15,000 บาท ทุก ๆ วันสิ้นเดือนนั้น ถือเป็นสัญญาจ้าง แรงงานตามมาตรา 575 ซึ่งสามารถทําได้ เพราะการทําสัญญาจ้างแรงงานนั้น กฎหมายไม่ได้กําหนดแบบไว้ ดังนั้นการทําสัญญาจ้างแรงงานจึงอาจตกลงกันด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ และเมื่อมีการทําสัญญาจ้าง มีกําหนดระยะเวลาจ้างอย่างต่ํา 6 เดือน และไม่เกิน 2 ปี ซึ่งนายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างภายในกําหนดเวลาดังกล่าว เมื่อใดก็ได้ กําหนดเวลานั้นจึงไม่ใช่กําหนดระยะเวลาการจ้างที่แน่นอน จึงเป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกําหนดระยะเวลา ตามนัยมาตรา 582 (คําพิพากษาฎีกาที่ 1604/2528)

การที่นายจ้างได้ทําหนังสือบอกกล่าวแก่นายสมัยในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ว่าจะทําการเลิก สัญญาจ้างนายสมัยด้วยเหตุผลเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก ไม่มีลูกค้าสั่งซื้อสินค้า และจะเลิกสัญญาจ้างในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 นั้น ไม่ถูกต้องตามมาตรา 582 วรรคหนึ่ง ทั้งนี้เพราะในกรณีที่เป็นสัญญาจ้างไม่มีกําหนด ระยะเวลานั้น ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้าง คราวใดคราวหนึ่ง เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า ดังนั้น การบอกกล่าว เลิกจ้างของนายจ้างดังกล่าว จึงให้ถือว่าเป็นการเลิกสัญญาจ้างในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 589 “ถ้าสัมภาระสําหรับทําการงานที่กล่าวนั้นผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหา ท่านว่าต้องจัดหาชนิดที่ดี”

มาตรา 595 “ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระไซร้ ความรับผิดชอบของผู้รับจ้างในการบกพร่องนั้น ท่านให้บังคับด้วยบทแห่งประมวลกฎหมายนี้ ลักษณะซื้อขาย”

มาตรา 603 “ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทํานั้นพังทลาย หรือบุบสลายลงก่อน ได้ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่านว่าความวินาศอันนั้นตกเป็นพับแก่ผู้รับจ้าง หากความวินาศนั้นมิได้เป็นเพราะการ กระทําของผู้ว่าจ้าง

ในกรณีเช่นว่านี้ สินจ้างก็เป็นอันไม่ต้องใช้”

ตามบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า สัญญาจ้างทําของนั้น ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ กฎหมาย ได้กําหนดหน้าที่และความรับผิดของผู้รับจ้างทําของไว้ 3 ประการดังนี้คือ

1 ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาสัมภาระที่ดี (มาตรา 589) คือต้องจัดหาสัมภาระที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถนํามาสร้างงานได้โดยไม่บกพร่อง

2 ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระแล้วจัดหาสัมภาระที่ไม่ดีหรือไม่มีคุณภาพทําให้งานบกพร่อง เช่น ถ้าสัมภาระที่ผู้รับจ้างจัดหามาชํารุดบกพร่องไม่ว่าผู้รับจ้างจะรู้ถึงความชํารุดบกพร่องนั้นหรือไม่ ผู้รับจ้าง ต้องรับผิดชอบ จะอ้างว่าตนไม่รู้ไม่ได้ (มาตรา 595 ประกอบมาตรา 472)

3 ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทํานั้นพังทลายหรือบุบสลายลงก่อนได้ส่งมอบกัน ถูกต้อง ความเสียหายที่เกิดขึ้นตกเป็นพับแก่ผู้รับจ้าง หากความเสียหายนั้นมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดหรือ การกระทําของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้เพราะ ผู้รับจ้างยังคงเป็นเจ้าของสัมภาระอยู่ จนกว่าจะได้ส่งมอบแก่ผู้ว่าจ้าง และกรณีดังกล่าวนี้ ผู้รับจ้างไม่อาจได้รับสินจ้าง หรือหากได้รับไปแล้วบางส่วน ก็ต้องคืนให้แก่ผู้ว่าจ้าง (มาตรา 603)

LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ 1/2562

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2562

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ฯลฯ

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ

ข้อ 1 แดงได้ทําสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าให้ขาวเช่าที่ดินของแดงมีกําหนดเวลา 10 ปี โดยตกลงชําระค่าเช่าเป็นรายปีเป็นค่าเช่าปีละหนึ่งล้านบาท สัญญาเช่ามีสาระสําคัญดังนี้คือ

ข้อ 3 “ผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์ของผู้เช่าเท่านั้นโดยจะไม่นําที่ดินไปใช้ เป็นการอย่างอื่น”

ข้อ 4 “หากสัญญาเช่าครบกําหนด 10 ปีแล้วผู้ให้เช่าให้คํามั่นจะไปจดทะเบียนการเช่าที่ดิน ให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 10 ปี โดยเรียกค่าเช่าเพิ่มปีละ 100,000 บาท”

(ก) ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้เช่าได้รับพื้นที่ดินที่ผู้ให้เช่าส่งมอบให้แล้ว แต่ผู้เช่ามิได้ก่อสร้างอาคาร พาณิชย์แต่ผู้เช่าได้นําที่ดินไปให้ผู้อื่นเช่าเพื่อวางวัสดุก่อสร้างบ้าง และให้ผู้อื่นเช่าที่ดินที่เช่า เป็นที่จอดรถยนต์ ในกรณีเช่นนี้ผู้ให้เช่ามาปรึกษาท่านเพื่อบอกเลิกสัญญาเช่า ท่านจะให้คําปรึกษาผู้ให้เช่าว่าอย่างไร

(ข) หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปจากข้อ (ก) คือผู้เช่าได้สร้างอาคารพาณิชย์ตามสัญญาเช่าและได้อยู่ในอาคารพาณิชย์ได้เพียง 5 ปี ผู้ให้เช่าได้ขายที่ดินที่เช่านี้ให้กับดํา ครั้นผู้เช่าได้เช่าที่ดิน มาจนครบ 10 ปีพอดี ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ขาวจึงแจ้งให้ดําไปจดทะเบียนการเช่า ให้ขาวเช่าที่ดินแปลงนี้ต่อไปอีก 10 ปีตามสัญญาข้อ 4 ดําจะต้องปฏิบัติตามความต้องการของขาวหรือไม่ จงวินิจฉัย

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนด ตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

มาตรา 544 “ทรัพย์สินซึ่งเช่านั้น ผู้เช่าจะให้เช่าช่วงหรือโอนสิทธิของตนอันมีในทรัพย์สินนั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนให้แก่บุคคลภายนอก ท่านว่าหาอาจทําได้ไม่ เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาเช่า

ถ้าผู้เช่าประพฤติฝ่าฝืนบทบัญญัติอันนี้ ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้”

มาตรา 552 อันผู้เช่าจะใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ใช้กันตามประเพณีนิยมปกติ หรือการดังกําหนดไว้ในสัญญานั้น ท่านว่าหาอาจจะทําได้ไม่

มาตรา 554 “ถ้าผู้เช่ากระทําการฝ่าฝืนบทบัญญัติในมาตรา 552 มาตรา 553 หรือฝ่าฝืนข้อสัญญา ผู้ให้เช่าจะบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทกฎหมายหรือข้อสัญญานั้น ๆ ก็ได้ ถ้าและผู้เข่าละเลยเสีย ไม่ปฏิบัติตาม ท่านว่าผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้”

มาตรา 569 “อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไป เพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินผู้รับโอนยอมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เข่านั้นด้วย”

วินิจฉัย

(ก) กรณีตามอุทาหรณ์ การที่แดงทําสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าให้ขาวเช่าที่ดินของแดงมีกําหนด เวลา 10 ปี โดยตกลงชําระค่าเช่าเป็นรายปีเป็นค่าเช่าปีละหนึ่งล้านบาทนั้น สัญญาเช่าดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมาย สามารถฟ้องร้องบังคับกันได้ตามมาตรา 538

เมื่อสัญญาเช่ามีสาระสําคัญตามข้อ 3 ว่า “ผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์ของผู้เช่าเท่านั้นโดยจะไม่นําที่ดินไปใช้เป็นการอย่างอื่น” แต่เมื่อผู้เช่าได้รับพื้นที่ดินที่ผู้ให้เช่าส่งมอบให้แล้ว ผู้เช่ามิได้ก่อสร้างอาคารพาณิชย์แต่ได้นําที่ดินไปให้ผู้อื่นเช่าเพื่อวางวัสดุก่อสร้าง และให้ผู้อื่นเช่าที่ดินที่เช่าเป็นที่จอดรถยนต์นั้น ผู้ให้เช่าย่อมสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าได้ 2 กรณี คือ

1 การที่ขาวได้นําที่ดินไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงอันเป็นการผิดสัญญาเช่าตามข้อ 3 นั้น แดงผู้ให้เช่า ย่อมสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนตามมาตรา 544 หรือ

2 การที่ขาวผู้เช่าได้นําทรัพย์สินที่เช่าไปใช้เพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่กําหนดไว้ในสัญญา แดงผู้ให้เช่าย่อมสามารถบอกเลิกสัญญาได้ตามมาตรา 552 ประกอบมาตรา 554 โดยแดงจะต้องบอกกล่าวให้ ชาวผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อสัญญาก่อน เมื่อมีการบอกกล่าวแล้วแต่ผู้เช่าละเลยเสียไม่ปฏิบัติตาม แดงผู้ให้เช่า บอกเลิกสัญญาเช่านั้นได้

(ข) การที่ขาวผู้เช่าได้สร้างอาคารพาณิชย์ตามสัญญาเช่าและได้อยู่ในอาคารพาณิชย์ได้ 5 ปี แล้วแดง ให้เช่าได้ขายที่ดินที่เช่านี้ให้กับค่า ดังนี้ ผู้รับโอนย่อมต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของแดงผู้โอนซึ่งมีต่อขาว ผู้เช่าด้วยตามมาตรา 569 กล่าวคือ ดําจะต้องให้ขาวเช่าที่ดินแปลงนี้ต่อไปจนครบกําหนด 10 ปีตามสัญญาเช่า ส่วนข้อตกลงในข้อ 4 ที่ว่า “หากสัญญาเช่าครบกําหนด 10 ปีแล้ว ผู้ให้เช่าให้คํามั่นจะไปจดทะเบียนการเช่าที่ดิน ให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 10 ปี โดยเรียกค่าเช่าเพิ่มปีละ 100,000 บาท” นั้น เป็นเพียงสิทธิและหน้าที่ตามคํามั่นจะให้เช่า ไม่ใช่สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า จึงไม่ผูกพันดําผู้รับโอน ดังนั้น เมื่อขาวผู้เช่าได้เช่าที่ดินมาจนครบ 10 ปีแล้ว สัญญาเช่าระหว่างแดงและขาวย่อมระงับลง และเมื่อขาวได้แจ้งให้ดําไปจดทะเบียนการเช่าให้ขาว เช่าที่ดินแปลงนี้ต่อไปอีก 10 ปี โดยอ้างสัญญาข้อ 4 ดําจึงไม่ต้องปฏิบัติตามความต้องการของขาวแต่อย่างใด

สรุป (ก) ผู้ให้เช่าสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 544 หรืออาจบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 52 ประกอบมาตรา 554

(2) เมื่อขาวแจ้งให้ทําไปจดทะเบียนการเช่าให้ขาวเช่าที่ดินต่อไปอีก 10 ปี ไม่ต้องปฏิบัติตามความต้องการของขาว

 

ข้อ 2 (ก) ม่วงทําสัญญาเป็นหนังสือให้เขียวเช่าที่ดินของม่วงมีกําหนดเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันที่ 15 ของแต่ละเดือน ๆ ละ 25,000 บาท ในวันทําสัญญาเช่าเขียวได้วางเงินมัดจําค่าเช่าไว้เป็นเงิน 75,000 บาท เขียวได้รับส่งมอบที่ดินจากม่วงแล้วเขียวไม่ได้ชําระค่าเช่าให้ม่วงอีกเลยจนถึงปัจจุบันนี้ ดังนั้นในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ม่วงจึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับเขียวทันที และให้เขียวออกจากที่ดินไปภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 พร้อมกับเรียกค่าเช่าที่เขียวค้างชําระ ดังนี้การกระทําของม่วงชอบด้วย กฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) หากข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ คําตอบของท่านจะแตกต่างไปหรือไม่ เพียงใด

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 560 “ถ้าผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้อง บอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชําระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกําหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน

วินิจฉัย

ในเรื่องสัญญาเช่าทรัพย์นั้นตามบทบัญญัติมาตรา 560 ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้าการชําระค่าเช่ากําหนด ชําระกันเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เมื่อผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชําระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน ถ้าผู้เช่ายังไม่ยอมชําระอีกจึงจะบอกเลิกสัญญาได้

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ทรงทําสัญญาเป็นหนังสือให้เขียวเช่าที่ดินของม่วงมีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันที่ 15 ของแต่ละเดือน ๆ ละ 25,000 บาท และในวันทําสัญญาเช่าเขียวได้วางเงินมัดจําค่าเช่าไว้เป็นเงิน 75,000 บาท แต่เขียวไม่ได้ชําระค่าเช่าให้ม่วงอีกเลย จนถึงปัจจุบันนั้น การที่เขียวไม่ได้ชําระค่าเช่า 5 เดือน เมื่อหักค่าเช่า (มัดจํา) ออก 3 เดือน ตามที่เขียวได้ชําระไว้ ย่อมถือว่าเขียวไม่ได้ชําระค่าเช่า 2 เดือนติดต่อกัน คือ เดือนกันยายนและเดือนตุลาคม ซึ่งมีผลทําให้ม่วงมีสิทธิ บอกเลิกสัญญาเช่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสัญญาเช่านั้นมีการกําหนดชําระค่าเช่ากันเป็นรายเดือน ม่วงจะบอก เลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้เขียวนําค่าเช่ามาชําระก่อน โดยต้องให้เวลาแก่เขียวนําค่าเช่า มาชําระอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งถ้าเขียวไม่ยอมชําระอีก ม่วงจึงจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 560 วรรคสอง ดังนั้น การที่ม่วงบอกเลิกสัญญาเช่ากับเขียวทันทีในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 และให้เขียวออกจากที่ดินที่เช่า ภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นั้น การบอกเลิกสัญญาเช่าของม่วงจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ม่วงสามารถเรียกค่าเช่าที่ค้างชําระ 2 เดือนได้

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 574 วรรคหนึ่ง “ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้รับเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน และเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย”

วินิจฉัย

ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ การที่เขียวผิดนัดไม่ชําระค่าเช่าในเดือนกันยายนและ ตุลาคม 2562 นั้น ย่อมถือเป็นกรณีที่เขียวผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กันแล้ว ดังนั้น ม่วงผู้ให้เช่าซื้อ จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ทันทีตามมาตรา 574 วรรคหนึ่ง การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของเขียวจึงชอบด้วยกฎหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม ม่วงจะเรียกเงินค่าเช่าซื้อที่เขียวยังไม่ชําระในเดือนกันยายนและตุลาคม 2562 จํานวน 50,000 บาท ไม่ได้ เพราะตามหลักกฎหมายมาตรา 574 วรรคหนึ่ง หากผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงินค่าเช่าซื้อ สองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสําคัญ ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และรับเงินค่าเช่าซื้อที่ได้ใช้มาแล้วเท่านั้น จะเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชําระเพราะผิดนัดหรือผิดสัญญาดังกล่าวไม่ได้

สรุป (ก) การบอกเลิกสัญญาเช่าทรัพย์ทันทีของม่วงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ม่วงสามารถเรียก ค่าเช่าที่ค้างชําระ 2 เดือนได้

(ข) การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อทันทีของม่วงชอบด้วยกฎหมาย แต่ม่วงจะเรียกค่าเช่าซื้อที่เขียวค้างชําระ 2 เดือนไม่ได้ ดังนั้น คําตอบจึงแตกต่างกัน

ข้อ 3

(ก) นายพิชิตทําสัญญาจ้างนายสมัยเป็นลูกจ้างช่วยงานช่างเครื่อง โดยทําเป็นสัญญาจ้างมีกําหนด ระยะเวลาจ้างอย่างต่ำ1 ปี และไม่เกิน 2 ปี ให้เริ่มสัญญาตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 มีข้อสัญญา ให้ชําระสินจ้างเดือนละ 14,000 บาท ทุก ๆ วันสิ้นเดือน ปรากฏว่าในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ฝ่ายนายจ้างได้ประชุมกันและให้ทําการเลิกจ้างนายสมัยและลูกจ้างคนอื่นอีก 8 คน ด้วยเหตุผลเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก นายพิชิตจึงมีหนังสือบอกกล่าวนายสมัยและลูกจ้างทั้งหมดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 และเลิกสัญญาจ้างในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 นายสมัยและลูกจ้างคนอื่น อีก 8 คน เห็นว่าไม่ถูกต้อง เช่นนี้ ท่านเห็นว่าอย่างไร เพราะเหตุใด จงอธิบาย

(ข) นายสุริยาได้พูดตกลงกับนายธนชาติว่าให้นายธนชาติทําการต่อรถบรรทุกน้ำมันให้ 1 คัน ราคา 2 ล้านบาท โดยตกลงชําระสินจ้างเป็นส่วน ๆ ตามความสําเร็จของงานตามที่ตกลงกัน เมื่อต่อรถบรรทุกน้ํามันเสร็จก็ได้ให้ลูกน้องของนายสุริยามาทําการตรวจสอบความเรียบร้อยเพื่อส่งมอบให้แก่นายสุริยาในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าในคืนนั้นเองได้เกิดฝนฟ้าคะนองฟ้าผ่า รถบรรทุกน้ำมันไฟไหม้หมดทั้งคัน นายธนชาติได้เรียกร้องสินจ้างอีก 1 ล้านบาทที่ยังไม่ได้ รับชําระ (ได้รับไปแล้ว 1 ล้านบาท) เช่นนี้

ก) นายสุริยาต่อสู้ว่า ไม่พูดตกลงกับนายธนชาติโดยไม่ได้ทําสัญญาเป็นหนังสือ จึงฟ้องร้องไม่ได้

และ

ข) นายสุริยาจะต้องชําระสินจ้าง 2 ล้านบาทให้นายธนชาติหรือไม่ เพราะเหตุใดตามมาตราใด

จงอธิบาย

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 575 “อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทํางาน ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทํางานให้

มาตรา 582 “ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กําหนดลงไว้ในสัญญาว่าจะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้า ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง

เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทําได้ แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่าวดังว่านี้ นายจ้างจะจ่ายสินจ้างแก่ลูกจ้างเสียให้ครบจํานวนที่จะต้องจ่าย จนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกําหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียวแล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสียในทันทีก็อาจทําได้”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายพิชิตทําสัญญาจ้างนายสมัยเป็นลูกจ้างช่วยงานช่างเครื่อง โดยทําเป็นสัญญาจ้างโดยตกลงชําระสินจ้างเดือนละ 14,000 บาท ทุก ๆ วันสิ้นเดือนนั้น ถือเป็นสัญญาจ้างแรงงาน ตามมาตรา 575 และเมื่อมีการทําสัญญาจ้างมีกําหนดระยะเวลาจ้างอย่างต่ํา 1 ปี และไม่เกิน 2 ปี ซึ่งนายจ้าง มีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างภายในกําหนดเวลาดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ กําหนดเวลานั้นจึงไม่ใช่กําหนดระยะเวลาการจ้างที่แน่นอน จึงเป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกําหนดระยะเวลาตามนัยมาตรา 582 (คําพิพากษาฎีกาที่ 1604/2528)

การที่นายจ้างได้ประชุมกันในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 และให้ทําการเลิกจ้างนายสมัยและลูกจ้าง คนอื่นอีก 8 คน ด้วยเหตุผลเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก และนายพิชิตได้มีหนังสือบอกกล่าวนายสมัยและลูกจ้างทั้งหมด ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นั้น ย่อมถือว่าเป็นการบอกกล่าวในเดือนกรกฎาคม 2562 อันถือว่าเป็นการบอกกล่าว ล่วงหน้าเพื่อให้มีผลเป็นการเลิกสัญญาจ้างได้ในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 ดังนั้น การที่นายพิชิตได้บอกกล่าว ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 โดยให้ถือว่าเป็นการเลิกสัญญาจ้างในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 จึงไม่ถูกต้องตามมาตรา 582

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 567 “อันว่าจ้างทําของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทําการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสําเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสําเร็จแห่งการที่ทํานั้น”

มาตรา 603 “ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทํานั้นพังทลายหรือบุบสลายลง ก่อนที่ได้ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่านว่าความวินาศภัยอันนั้นตกเป็นพับแก่ผู้รับจ้าง หากความวินาศภัยนั้นมิได้ เป็นเพราะการกระทําของผู้ว่าจ้าง

ในกรณีเช่นว่านี้ สินจ้างก็เป็นอันไม่ต้องใช้”

วินิจฉัย

ตามอุทาหรณ์ การที่นายสุริยาได้พูดตกลงกับนายธนชาติว่าให้นายธนชาติทําการต่อรถบรรทุกน้ำมัน ให้ 1 คัน ราคา 2 ล้านบาท โดยตกลงชําระสินจ้างเป็นส่วน ๆ ตามความสําเร็จของงานตามที่ตกลงกันนั้น ระหว่างนายสุริยากับนายธนชาติถือเป็นสัญญาจ้างทําของตามมาตรา 587 และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเมื่อนายธนชาติต่อรถบรรทุกน้ํามันเสร็จก็ได้ให้ลูกน้องของนายสุริยามาตรวจสอบความเรียบร้อยเพื่อส่งมอบให้แก่ นายสุริยาในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าในคืนนั้นเองได้เกิดฝนฟ้าคะนองฟ้าผ่ารถบรรทุกน้ํามันไฟไหม้หมดทั้งคัน และ นายธนชาติได้เรียกร้องสินจ้างอีก 1 ล้านบาทที่ยังไม่ได้รับชําระ (ได้รับชําระไปแล้ว 1 ล้านบาท) ดังนี้

ก) การที่นายสุริยาต่อสู้ว่าได้พูดตกลงกับนายธนชาติโดยไม่ได้ทําสัญญาเป็นหนังสือจึงฟ้องร้อง ไม่ได้นั้น นายสุริยาไม่สามารถต่อสู้ได้ เนื่องจากสัญญาจ้างทําของตามมาตรา 587 นั้น ไม่มีแบบ ดังนั้นสัญญาจ้าง ทําของจึงอาจทําเป็นหนังสือสัญญาหรืออาจตกลงด้วยวาจาก็ได้

ข) การที่รถบรรทุกน้ำมันได้พังทลายหรือบุบสลายลงทั้งหมดเนื่องจากเหตุดังกล่าวข้างต้น และความวินาศภัยนั้นก็มิได้เกิดขึ้นเพราะการกระทําของนายสุริยาผู้ว่าจ้าง และตามสัญญาจ้างนั้นนายธนชาติก็เป็น ผู้จัดหาสัมภาระเอง อีกทั้งความวินาศภัยได้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการส่งมอบการที่จ้างทํานั้น ดังนั้น ความวินาศภัย ดังกล่าวจึงตกเป็นพับแก่นายธนชาติผู้รับจ้างตามมาตรา 63 นายธนชาติจึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับสินจ้างอีก 1 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับชําระ และนายธนชาติจะต้องส่งคืนสินจ้างที่ได้รับไปแล้ว 1 ล้านบาทแก่นายสุริยาด้วย

สรุป

(ก) การบอกกล่าวของนายพิชิตในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 และให้มีผลเป็นการเลิกสัญญาจ้าง ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ไม่ถูกต้อง

(ข) ก) นายสุริยาจะต่อสู้ว่าได้พูดตกลงกับนายธนชาติโดยไม่ได้ทําสัญญาเป็นหนังสือ จึงฟ้องร้องไม่ได้นั้น ไม่อาจต่อสู้ได้

ข) นายสุริยา ไม่ต้องชําระสินจ้าง 2 ล้านบาทให้แก่นายธนชาติ และนายธนชาติก็ต้อง ส่งคืนสินจ้างที่ได้รับไปแล้วจํานวน 1 ล้านบาทด้วย

LAW2007 กฎหมายอาญา 2 1/2562

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2562

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2007 กฎหมายอาญา 2

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ

ข้อ 1 นายเบี้ยวกู้ยืมเงินนายซื่อโดยทําสัญญากู้ยืมกันไว้ เมื่อถึงกําหนดชําระเงินตกลงกันไม่ได้ ทั้งคู่ จึงไปหา ร.ต.อ.สะอาด ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนให้ช่วยตัดสิน ร.ต.อ.สะอาดตัดสินให้นายเบี้ยว ใช้เงินคืนนายซื่อ นายเบี้ยวจึงด่า ร.ต.อ.สะอาดต่อหน้าว่า “ไอเย็ดแม่มึง มึงลําเอียงเข้าข้างไอ้ซื่อ ตัดสินไม่ยุติธรรม” ดังนี้ นายเบี้ยวมีความผิดต่อเจ้าพนักงานประการใดหรือไม่

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 136 “ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทําการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทําการตามหน้าที่

ต้องระวางโทษ…”

วินิจฉัย

ความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136 มีองค์ประกอบของความผิด ดังนี้

1 ดูหมิ่น

2 เจ้าพนักงาน

3 ซึ่งกระทําการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทําการตามหน้าที่

4 โดยเจตนา

“ดูหมิ่น” หมายถึง การกระทําด้วยประการใด ๆ อันเป็นการดูถูก เหยียดหยาม สบประมาท หรือ ด่าแช่ง ต่อผู้ถูกกระทํา ซึ่งอาจจะกระทําโดยวาจา กิริยาท่าทาง หรือลายลักษณ์อักษรก็ได้ การดูหมิ่นด้วยวาจา เช่น พูดจาด่าทอว่า “อ้ายเย็ดแม่” “ตํารวจชาติหมา” หรือด้วยกิริยาท่าทางก็เช่น ยกส้นเท้าให้ หรือถ่มน้ำลายรด เป็นต้น

การดูหมิ่นที่จะเป็นความผิดตามมาตรานี้ จะต้องเป็นการดูหมิ่น “เจ้าพนักงาน” ถ้าบุคคลที่ ถูกดูหมิ่นนั้นไม่ใช่เจ้าพนักงานย่อมไม่ผิดตามมาตรา 136 ทั้งนี้จะต้องได้ความว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าพนักงาน อยู่ในขณะถูกดูหมิ่นด้วย หากได้พ้นตําแหน่งไปแล้วก็ไม่มีความผิดตามมาตรานี้เช่นกัน

อนึ่ง การดูหมิ่นที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 136 นี้ จะต้องเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานเฉพาะ

2 กรณี ต่อไปนี้คือ

(ก) ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทําการตามหน้าที่ หรือ

(ข) ดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะได้กระทําการตามหน้าที่

“ซึ่งกระทําการตามหน้าที่” หมายความว่า ดูหมิ่นขณะเจ้าพนักงานนั้นกระทําการตามหน้าที่

ซึ่งกฎหมายได้ให้อํานาจไว้ ดังนั้นหากเป็นการดูหมิ่นขณะเจ้าพนักงานกระทําการนอกเหนืออํานาจหน้าที่หรือ เกินขอบเขต ย่อมไม่ผิดตามมาตรานี้

“เพราะได้กระทําการตามหน้าที่” หมายความว่า ดูหมิ่นภายหลังจากที่เจ้าพนักงานได้กระทําการตามหน้าที่แล้ว

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายเบี้ยวด่า ร.ต.อ.สะอาดต่อหน้าว่า “ไอเย็ดแม่มึง มึงลําเอียงเข้าข้าง ไอ้ซื่อ ตัดสินไม่ยุติธรรม” นั้น แม้ถ้อยคําดังกล่าวจะเป็นการดูถูก เหยียดหยาม สบประมาทอันถือว่าเป็นการดูหมิ่น ร.ต.อ.สะอาดซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน และได้กระทําโดยเจตนาก็ตาม แต่เมื่อ ร.ต.อ.สะอาดเป็นพนักงานสอบสวน คดีอาญาเท่านั้น ไม่มีหน้าที่และอํานาจตัดสินคดีแพ่งแต่อย่างใด การกระทําของนายเบี้ยวจึงไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่น เจ้าหนักงานซึ่งกระทําการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทําการตามหน้าที่ ดังนั้น นายเบี้ยวจึงไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136

สรุป นายเบี้ยวไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136

ข้อ 2 นายจันทร์และนางแรมได้รับที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของบิดาร่วมกันจํานวน 1 แปลง และ มีการนําออกให้ผู้อื่นเช่าทํานาแล้วตกลงเอาค่าเช่ามาแบ่งปันกัน แต่นายจันทร์เก็บเงินค่าเช่าจากผู้เช่าแล้วไม่ยอมแบ่งให้กับนางแรม เมื่อถูกนางแรมทวงถามฝ่ายนายจันทร์กลับท้าให้นางแรมไปฟ้องเอา นางแรมจึงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจันทร์เป็นจําเลยต่อศาลในข้อหายักยอกเงินค่าเช่านา ตาม ป.อ. มาตรา 352 ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูลจึงรับไว้พิจารณา ต่อมานายจันทร์ กลับเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางแรมต่อศาลเดียวกันในข้อหาฟ้องเท็จตาม ป.อ. มาตรา 175 กล่าวหาว่า นางแรมเอาความอันเป็นเท็จมาฟ้องตนต่อศาล แต่ศาลเห็นว่าคําฟ้องของนายจันทร์ไม่มีมูลจึง ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ให้วินิจฉัยว่า นายจันทร์มีความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรมตามประมวล กฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 175 “ผู้ใดเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทําความผิดอาญา หรือว่ากระทํา ความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ต้องระวางโทษ…”

วินิจฉัย

ความผิดฐานฟ้องเท็จตามมาตรา 175 มีองค์ประกอบดังนี้ คือ

1 เอาความอันเป็นเท็จ

2 ฟ้องผู้อื่นต่อศาล

3 ว่ากระทําความผิดอาญา หรือว่ากระทําความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง

4 โดยเจตนา

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายจันทร์เก็บเงินค่าเช่าที่ดินจากผู้เช่าแล้วไม่ยอมแบ่งให้กับนางแรมตามข้อตกลง เมื่อถูกนางแรมทวงถามฝ่ายนายจันทร์กลับท้าให้นางแรมไปฟ้องเอานั้น พฤติการณ์ของนายจันทร์ ย่อมทําให้นางแรมเข้าใจได้ว่านายจันทร์เบียดบังเอาเงินค่าเช่าที่ดินไปเป็นของตนเองโดยทุจริต ดังนั้น การที่นางแรม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจันทร์เป็นจําเลยต่อศาลในความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 จึงเป็นการใช้สิทธิทางศาลกล่าวหานายจันทร์ไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นการเอาความอันเป็นเท็จฟ้องนายจันทร์แต่อย่างใด

ต่อมาการที่นายจันทร์กลับมาเป็นโจทก์ฟ้องนางแรมต่อศาลเดียวกันโดยกล่าวหาว่านางแรมเอาความอันเป็นเท็จมาฟ้องตนต่อศาล ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่นํามาฟ้องนางแรมนั้นเป็นความเท็จ การกระทําของนายจันทร์ จึงเป็นฟ้องเท็จตามมาตรา 175 และเมื่อนายจันทร์ฟ้องเท็จแล้ว แม้ศาลจะได้ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม การกระทําของนายจันทร์ก็เป็นความผิดสําเร็จตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว ดังนั้น นายจันทร์จึงมีความผิดฐานฟ้องเท็จตามมาตรา 175

สรุป นายจันทร์มีความผิดฐานฟ้องเท็จตามมาตรา 175

ข้อ 3 ชาวบ้าน 20 คน ได้จัดขบวนแห่นาคเพื่อจะไปอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่ง ระหว่างทางที่ขบวนแห่นาคมาถึงหน้าตลาด จําเลยเมาสุราได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด เป็นเหตุให้ขบวนแห่นาคเกิดความโกลาหลวุ่นวาย ดังนี้ จําเลยมีความผิดเกี่ยวกับศาสนาหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 207 “ผู้ใดก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในที่ประชุมศาสนิกชนเวลาประชุมกัน นมัสการ หรือ กระทําพิธีกรรมตามศาสนาใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษ….”

วินิจฉัย

องค์ประกอบความผิดฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายในที่ประชุมศาสนิกชนตามมาตรา 207 ประกอบด้วย

1 ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในที่ประชุมศาสนิกชน

2 เวลาประชุมกัน นมัสการ หรือกระทําพิธีกรรมตามศาสนาใด ๆ

3 โดยชอบด้วยกฎหมาย

4 โดยเจตนา

สําหรับการก่อให้เกิดความวุ่นวายที่จะมีความผิดดังกล่าวข้างต้นนั้น จะต้องเกิดในเวลาประชุมกัน ในเวลานมัสการ หรือในเวลากระทําพิธีกรรม และต้องเป็นเรื่องตามศาสนาด้วย เช่น เวลาสวดมนต์ไหว้พระ เวลาทําพิธีบรรพชาอุปสมบท และไม่จํากัดสถานที่ว่าจะต้องทําในสถานที่ใด อาจจะเป็นในบ้านก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาแล้ว ย่อมไม่มีความผิดตามมาตรานี้

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่จําเลยยิงปืนขึ้นฟ้า แม้จะทําให้ขบวนแห่นาคเกิดความโกลาหลวุ่นวาย แต่เมื่อปรากฏว่าการแห่นาคเป็นเพียงการกระทําตามประเพณีนิยม ไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนา การกระทําของจําเลย จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 207 เพราะการจะเป็นความผิดตามมาตรา 207 ได้นั้น จะต้องเป็นการก่อให้เกิดการวุ่นวายในที่ประชุมศาสนิกชนเวลาประชุมกัน นมัสการ หรือกระทําพิธีกรรมทางศาสนา

สรุป จําเลยไม่มีความผิดเกี่ยวกับศาสนาตามมาตรา 207

ข้อ 4 นางสาวหมิงมีรถยนต์ 3 คัน คันที่หนึ่งยี่ห้อ Audi หมายเลขทะเบียน ตก 5555 คันที่สองยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน สธ 9999 และคันที่สามยี่ห้อ Maserati ยังไม่มีหมายเลขทะเบียน

นางสาวหมิงได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ Audi ผ่านมหาวิทยาลัยรามคําแหงซึ่งมีน้ำท่วมขังอยู่จนเป็นเหตุให้ ป้ายทะเบียนหลุดหายไป เมื่อกลับถึงบ้านจึงได้ทําแผ่นป้ายทะเบียนขึ้นมาเองโดยมีตัวอักษรและ ตัวเลข ตก 5555 และนําไปติดไว้กับรถยนต์คันดังกล่าว

ในเวลาต่อมา นางสาวหมิงได้นําแผ่นป้ายทะเบียน สธ 9999 ของรถยนต์ยี่ห้อ BMW ซึ่งเป็น รถยนต์คันเก่าและไม่ค่อยได้ใช้งานไปติดไว้กับรถยนต์ยี่ห้อ Maserati ที่เพิ่งซื้อมาใหม่

ให้วินิจฉัยว่า นางสาวหมิงมีความผิดเกี่ยวกับเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 264 วรรคหนึ่ง “ผู้ใดทําเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอน ข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทําเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสาร ที่แท้จริง ผู้นั้นกระทําความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษ…”

มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษ…

มาตรา 268 วรรคหนึ่ง “ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทําความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ”

วินิจฉัย

องค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย

1 กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

(ก) ทําเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด

(ข) เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือ

(ค) ประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร

2 โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

3 ได้กระทําเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง

4 โดยเจตนา

“ตาม อุทาหรณ์ แยกวินิจฉัยได้ดังนี้

กรณีแรก การที่นางสาวหมิงได้ทําแผ่นป้ายทะเบียนปลอมขึ้นใหม่โดยมีตัวอักษรและตัวเลข ตก 5555 เหมือนกับแผ่นป้ายทะเบียนเดิมที่หลุดหายไปนั้น แม้จะเป็นการปลอมเอกสารที่ทางราชการทําขึ้น เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และได้กระทําโดยเจตนาก็ตาม แต่การที่นางสาวหมิงได้นําแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาติดไว้กับรถยนต์ยี่ห้อ Audi คันดังกล่าวของนางสาวหมิงเองนั้น ไม่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน ดังนั้นนางสาวหมิงจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 วรรคหนึ่ง และเมื่อ นางสาวหมิงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารแล้ว จึงไม่จําต้องวินิจฉัยต่อไปว่าได้กระทําความผิดตามมาตรา 265 และมาตรา 268 วรรคหนึ่งหรือไม่

กรณีที่ 2 การที่นางสาวหมิงได้นําแผ่นป้ายทะเบียน สธ 9999 ของรถยนต์ยี่ห้อ BMW ไปติดไว้กับ รถยนต์ยี่ห้อ Maserati เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีหมายเลขทะเบียน สธ 9999 นั้น เมื่อแผ่นป้าย ทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น และข้อเท็จจริง ก็ไม่ปรากฏว่านางสาวหนึ่งได้ทําการเติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขหมายเลขทะเบียนให้ผิดไปจากของจริง แต่อย่างใด ดังนั้นแม้การกระทําของนางสาวหมิงน่าจะเกิดความเสียหายแก่ราชการก็ตาม กรณีนี้นางสาวหมิง ก็ไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 วรรคหนึ่ง และเมื่อนางสาวหมิงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารแล้ว จึงไม่จําต้องวินิจฉัยต่อไปว่าได้กระทําความผิดตามมาตรา 265 และมาตรา 268 วรรคหนึ่งหรือไม่

สรุป นางสาวหมิงไม่มีความผิดอาญาฐานปลอมเอกสารทั้ง 2 กรณี

LAW2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ s/2561

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2561

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2108 (2008) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ฯลฯ

คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ

ข้อ 1 แดนทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือให้ดิวเช่าบ้านของแดนเพื่ออยู่อาศัยโดยไม่มีกําหนดระยะเวลาการเช่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 คู่สัญญาตกลงชําระค่าเช่าทุกสิ้นเดือนในอัตราเดือนละ 5,000 บาท หลังจากทําสัญญาเช่าได้ 2 ปี ดิวได้ใช้บ้านที่เช่านั้นในการเปิดธุรกิจร้านอาหาร แดนเห็นว่าดิวทําผิด สัญญาจึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับดิวทันทีในวันที่ 16 มกราคม 2562

ให้ท่านวินิจฉัยว่า การที่แดนบอกเลิกสัญญาเช่าเพราะการกระทําดังกล่าวของดิวนั้น เป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 538 “เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้น จะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี”

มาตรา 552 “อันผู้เช่าจะใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ใช้กันตามประเพณีนิยม ปกติ หรือการดังกําหนดไว้ในสัญญานั้น ท่านว่าหาอาจจะทําได้ไม่

มาตรา 554 “ถ้าผู้เช่ากระทําการฝ่าฝืนบทบัญญัติในมาตรา 552 มาตรา 553 หรือฝ่าฝืนข้อสัญญา ผู้ให้เช่าจะบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทกฎหมายหรือข้อสัญญานั้น ๆ ก็ได้ ถ้าและผู้เช่าละเลยเสีย ไม่ปฏิบัติตาม ท่านว่าผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้”

มาตรา 566 “ถ้ากําหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐานได้ไซร้ ท่านว่า คู่สัญญาฝ่ายใดจะบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกําหนดชําระค่าเช่าก็ได้ทุกระยะ แต่ต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกําหนดเวลาชําระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือน”

วินิจฉัย

ตามบทบัญญัติมาตรา 558 ได้กําหนดไว้ว่า สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ ก็ต่อเมื่อได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ และถ้าเป็นการเช่าที่มีกําหนดเวลาเกิน 3 ปีขึ้นไป หรือกําหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ถ้ามิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

กรณีตามอุทาหรณ์ สัญญาเช่าบ้านระหว่างแดนและดิวซึ่งไม่มีกําหนดระยะเวลาการเช่านั้น เมื่อได้มีการทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือ สัญญาเช่าดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายและสามารถฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้ตามมาตรา 538

การที่ดิวเช่าบ้านของแดนเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่หลังจากทําสัญญาเช่าได้ 2 ปี ดิวได้ใช้บ้าน ที่เช่านั้นเปิดทําธุรกิจเป็นร้านอาหารซึ่งมิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญาเช่า กรณีนี้ถือว่า ดิวผู้เช่าได้ใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ได้กําหนดไว้ในสัญญาตามมาตรา 552 ซึ่งแดนผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิตามมาตรา 554 กล่าวคือ สามารถบอกกล่าวให้ดิวผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาและถ้าดิวผู้เช่า ละเลยเสียไม่ปฏิบัติตาม แดนผู้ให้เช่าก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแดนผู้ให้เช่ามิได้บอกกล่าวให้ดิวผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามสัญญาก่อนแต่อย่างใด แต่แดนได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับดิวในทันทีในวันที่ 16 มกราคม 2562 การบอกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าวของแดนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 554

อนึ่ง ในกรณีดังกล่าว แดนไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเช่าโดยใช้มาตรา 566 โดยการบอกกล่าวให้ อีกฝ่ายหนึ่งรู้ตัวก่อนชั่วกําหนดเวลาชําระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย เพราะกรณีนี้เป็นเรื่องที่ตัวผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามมาตรา 552

สรุป การบอกเลิกสัญญาเช่าของแดนเพราะการกระทําดังกล่าวของดิวนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ข้อ 2 (ก) ส้มทําสัญญาเช่าเป็นหนังสือให้ชมพูเช่าที่ดินของส้มมีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุกวันที่ 25 ของเดือนในอัตราเดือนละ 20,000 บาท ในวันทําสัญญาเช่า ชมพูได้ให้เงินค่าเช่าล่วงหน้าไว้เป็นจํานวน 40,000 บาท ชมพูเข้าไปอยู่ในที่ดินที่เช่าจนถึงเดือนมีนาคม 2562 แต่ชมพูไม่ได้ชําระค่าเช่าให้กับส้มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้น ส้มจึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับชมพูในวันที่ 1 มีนาคม 2562 และฟ้องขับไล่ชมพูในวันที่ 14 มีนาคม 2562 การบอกเลิกสัญญาเช่าของส้มชอบด้วย กฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ คําตอบของท่านจะแตกต่างออกไปหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 560 “ถ้าผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้

แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้อง บอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชําระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกําหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน

วินิจฉัย

ในเรื่องสัญญาเช่าทรัพย์นั้นตามบทบัญญัติมาตรา 560 ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้าการชําระค่าเช่ากําหนด ชําระกันเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เมื่อผู้เช่าไม่ชําระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชําระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน ถ้าผู้เช่ายังไม่ยอมชําระอีกจึงจะบอกเลิกสัญญาได้

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ชมพูเช่าที่ดินของส้มมีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยตกลงชําระค่าเช่าทุก ๆ วันที่ 25 ของเดือน ในอัตราเดือนละ 20,000 บาท และในวันทําสัญญาเช่า ชมพูได้ให้เงินค่าเช่าล่วงหน้าไว้เป็นจํานวน 40,000 บาทนั้น เมื่อปรากฏว่าชมพูไม่ได้ชําระเงินค่าเช่าตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2561 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ดังนี้ การที่ชมพูได้ให้เงินค่าเช่าล่วงหน้าไว้ 2 เดือนแล้วนั้น ย่อมถือว่าเป็นการจ่ายค่าเช่าให้แก่ส้มแล้ว 2 เดือน คือเดือนพฤศจิกายน 2561 และเดือนธันวาคม 2561 จึงถือว่า กรณีนี้ชมพูไม่ได้ชําระค่าเช่าให้แก่ส้มในวันที่ 25 มกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รวม 2 เดือน จึงมีผลทําให้ ส้มมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อตามสัญญาเช่านั้นมีการกําหนดชําระค่าเช่ากันเป็นรายเดือน ดังนั้น ส้มจะบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีเลยไม่ได้ ส้มจะต้องบอกกล่าวให้ชมพูนําค่าเช่ามาชําระก่อน และต้องให้เวลาชมพูไม่น้อยกว่า 15 วัน ซึ่งถ้าชมพูไม่นําค่าเช่ามาชําระ ส้มจึงจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 560 ดังนั้น การที่ส้มได้บอกเลิก สัญญาเช่ากับชมพูทันทีในวันที่ 1 มีนาคม 2562 และฟ้องขับไล่ชมพูในวันที่ 14 มีนาคม 2562 นั้น การบอกเลิก สัญญาเช่าของส้มจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 574 วรรคหนึ่ง “ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อ ที่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้รับเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน และเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย”

วินิจฉัย

ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (1) เป็นสัญญาเช่าซื้อ การที่ชมพูผิดนัดไม่ชําระค่าเช่าในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ 2562 นั้น ย่อมถือเป็นกรณีที่ชมพูผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กันแล้ว ดังนั้น ส้มผู้ให้เช่าซื้อจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ทันทีตามมาตรา 574 วรรคหนึ่ง การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของส้มจึงชอบด้วยกฎหมาย

สรุป (ก) การบอกเลิกสัญญาเช่าทรัพย์ของส้มไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(ข) การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของส้มชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นคําตอบจึงแตกต่างกัน

 

ข้อ 3 บอยทําสัญญาจ้างให้บัวตัดเย็บเสื้อผ้าตามแบบจํานวน 5,000 ชุด โดยจะจ่ายสินจ้างให้แก่บัว เมื่องานเสร็จเป็นเงินรวม 500,000 บาท บัวเห็นว่ามีงานต้องทําเป็นจํานวนมากจึงทําสัญญาจ้างบี เป็นลูกจ้างไม่มีกําหนดระยะเวลา โดยให้สินจ้างเดือนละ 15,000 บาท กําหนดจ่ายสินจ้างกัน ทุกวันที่ 20 ของเดือน เมื่อบัวดําเนินการตัดเย็บเสื้อผ้าไปแล้ว 1,000 ชุด บอยเห็นว่าแบบที่ว่าจ้างให้บัวตัดเย็บนั้นไม่เป็นที่นิยมในตลาดจึงบอกเลิกสัญญากับบัว

(ก) บอยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับบัวหรือไม่ เพราะเหตุใด

(ข) บัวเห็นว่าไม่ค่อยมีงานให้ทําแล้ว จึงบอกเลิกสัญญาจ้างกับบีในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ดังนี้ ต้องทํางานให้บัวถึงวันที่เท่าใด

ธงคําตอบ

(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 587 “อันว่าจ้างทําของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทําการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสําเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสําเร็จแห่งการที่ทํานั้น”

มาตรา 605 “ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญาได้เมื่อ เสียค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น”

วินิจฉัย

โดยหลักในเรื่องสัญญาจ้างทําของนั้น ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จ ผู้ว่าจ้างสามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ แต่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดจากการเลิกสัญญานั้น ให้กับผู้รับจ้าง (มาตรา 605)

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่บอยทําสัญญาให้บัวตัดเย็บเสื้อผ้าตามแบบจํานวน 5,000 ชุด โดยจะจ่ายสินจ้างให้แก่บัวเมื่องานเสร็จเป็นเงินรวม 500,000 บาทนั้น ถือเป็นสัญญาจ้างทําของตามมาตรา 587 เมื่อบัวดําเนินการตัดเย็บเสื้อผ้าไปแล้ว 1,000 ชุด บอยเห็นว่าแบบที่ว่าจ้างให้บัวตัดเย็บนั้นไม่เป็นที่นิยมในตลาด จึงบอกเลิกสัญญาจ้างกับบัวนั้น บอยย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับบัวได้ แต่บอยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเลิกสัญญานั้นให้แก่บัวด้วยตามมาตรา 605

(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 575 “อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทํางาน ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทํางานให้

มาตรา 582 “ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กําหนดลงไว้ในสัญญาว่าจะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้า ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง

เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทําได้ แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่าวดังว่านี้ นายจ้างจะจ่ายสินจ้างแก่ลูกจ้างเสียให้ครบจํานวนที่จะต้องจ่าย

จนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกําหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียวแล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสียในทันทีก็อาจทําได้”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่บัวทําสัญญาจ้างเป็นลูกจ้างไม่มีกําหนดระยะเวลาโดยให้สินจ้างเดือนละ 15,000 บาท กําหนดจ่ายสินจ้างทุกวันที่ 20 ของเดือนนั้น ถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงานตามมาตรา 575 และเมื่อเป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกําหนดเวลาจึงเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 582 วรรคหนึ่ง กล่าวคือ ถ้าบัวจะบอกเลิกสัญญาจ้าง จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่งเพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากัน เมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า บัวได้บอกเลิกสัญญากับบีในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ย่อมถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาของการจ่ายสินจ้างในวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า คือ เลิกสัญญากันในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ดังนั้น บีจึงต้องทํางานให้บัวต่อไป จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2562 จึงจะชอบด้วยกฎหมาย

สรุป (ก) บอยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับบัวได้ แต่บอยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับบัว ในความเสียหายซึ่งเกิดจากการบอกเลิกสัญญาจ้างนั้นด้วย

(ข) บัวบอกเลิกสัญญากับบีในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 บีต้องทํางานให้บัวจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2562 จึงจะชอบด้วยกฎหมาย

ENG2002 การอ่านตีความ s/2563

ข้อสอบสําหรับเตรียมสอบภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 2002 การอ่านตีความ

Part I: Seen Passages

ส่วนที่ 1 : เนื้อเรื่องในตํารา

A: Directions: Read the following statements. Then blacken ) for a true

statement, and blacken (2) for a false statement. (1=True; 2=False)

(คําสั่ง : ให้อ่านข้อความต่อไปนี้ ถ้าถูกให้ตอบข้อ 1 ถ้าผิดให้ตอบข้อ 2)

1 Referring items can be words or phrases.

ถาม รายการที่เป็นคําอ้างอิงอาจเป็นกลุ่มคําหรือเป็นวลีก็ได้

ตอบ 1 ถูกต้อง การใช้คําอ้างอิง (Pronoun Reference) คือ การใช้คําอื่นหรือสรรพนามเพื่อกล่าวแทน

คําหรือวลี ที่อยู่ในบทความนั้น ผู้อ่านสามารถทําความเข้าใจได้โดยหาการเชื่อมโยงทั้งภายในประโยค หรือระหว่างประโยค ซึ่งทิศทางในการหาการเชื่อมโยงที่ 2 ทิศทาง คือ

1 สืบการเชื่อมโยงไป ข้างหน้า (Forward) และ 2 สืบการเชื่อมโยงกลับไปข้างหลัง (Backward)

2 The stated main idea can be identified only at the beginning of each paragraph.

ถาม ใจความสําคัญที่ผู้เขียนไว้นั้น จะกําหนดไว้ในช่วงต้นของแต่ละย่อหน้าเท่านั้น

ตอบ 2 ใจความสําคัญ (main idea) จะกําหนดไว้ในประโยคสาระสําคัญ (Topic Sentence) ซึ่ง

ประโยคดังกล่าวอาจจะกําหนดไว้ต้นย่อหน้า (Beginning) กลางย่อหน้า (Middle) หรือห้ายย่อ หน้า (Ending) ก็ได้

3 The main idea is expressed as a sentence that is a complete thought.

ถาม ใจความสําคัญสามารถแสดงเป็นประโยคที่มีแนวที่สมบูรณ์

ตอบ 1 ถูกต้อง ใจความสําคัญ (Main Idea) ต้องอยู่ในรูปประโยคและมีความหมายที่สมบูรณ์เพราะเกิด

จากการนําหรือความคิดรวบยอด (Central Thought) มาขยายวลีที่เป็นหัวเรื่อง = Topic (วลี) + Sentence (ประโยค)

4 Inferences involve using what the reader knows to make a guess about what he/she does not know, or reading between the lines.

ถาม สรุปความ (Inference) นั้นเกี่ยวพันกับสิ่งที่ผู้อ่านเคยรู้มาก่อนแล้วนํามาใช้คาดเดา (guess) ใน

สิ่งที่ผู้อ่านไม่รู้หรือคาดเดาระหว่างบรรทัด

ตอบ 1 inferences หมายถึง การสรุปหรือการอนุมาน หาความหมายแฝง (indirect meaning) ซึ่งผู้อ่านสามารถใช้ภูมิความรู้ความเข้าใจเดิมหรือคาดเดาสิ่งที่ผู้เขียนไม่ได้บอกข้อมูลไว้ทางตรง หรือ

คาดเดาการเชื่อมโยงของใจความที่มีอยู่ระหว่างบรรทัดของเนื้อเรื่องไว้

5 In order to fully comprehend texts, the reader needs to be able to use all reading

strategies to extract meaning.

ถาม เพื่อให้เข้าใจบทความทั้งหมด ผู้อ่านต้องสามารถใช้กลยุทธ์การอ่านทุกรูปแบบในการที่จะนํา

ความหมายออกมาได้

ตอบ 1 ในการอ่านบทความนั้น บางครั้งผู้อ่านไม่จําเป็นต้องแปลความหมายออกมาทั้งหมดหรือทุกถ้อยคํา

แต่ผู้อ่านจําเป็นต้องมีความเข้าใจในกลยุทธ์การอ่านที่จําเป็นถึงจะเข้าใจความหมายได้ ได้แก่

1 Skimming technique : การอ่านเพื่อหาข้อมูลด้านกว้าง

2 Scanning technique : การอ่านเพื่อหาข้อมูลเจาะจง

3 Inference technique : การอ่านเพื่อสรุปความ

4 Reference technique : การอ่านเพื่อหาการเชื่อมโยง

5 Context Clues : การเดาความหมายโดยอาศัยบริบทแวดล้อม

6 Reading with a clear, meaningful purpose helps the reader gain more from the text.

ถาม การอ่านโดยมีวัตถุประสงค์ให้ได้ความหมายทั้งหมดและมีความหมายที่ชัดเจนช่วยให้ผู้อ่านได้รับ

ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นจากตัวบทความ

ตอบ 1 การอ่านบทความจะมีกลยุทธ์และเทคนิคมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้อ่านต้องการ

อ่านอะไร ถ้าต้องการความหมายทั้งหมดและความหมายที่ชัดเจน ผู้อ่านต้องอ่านละเอียดจนเข้าใจได้

เช่น การอ่านตําราหรือบทความทางวิชาการ

7 Prior knowledge assists the reader in understanding the text.

ถาม ความรู้พื้นฐานเดิมเก่าก่อนจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้

ตอบ 1 ถูกต้อง ความรู้ดั้งเดิม (prior knowledge) มีส่วนช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบทความเร็วขึ้น เช่น ความรู้

ในศัพท์ทางการแพทย์ (medical terms) จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบทความทางการแพทย์ได้ง่าย และ

เร็วกว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้อ่านจะเข้าใจทุกบทความ

8 Reading is considered a thinking process in which readers have to decode the meaning of the text.

ถาม การอ่านถือเป็นกระบวนการคิดที่ผู้อ่านต้องถอดความหมายของบทความนั้น

ตอบ 2 การอ่านเป็นกระบวนการคิด (thinking process) เพราะผู้อ่านจะต้องทําการผ่านกระบวนการ

ความคิดคือ

1 การหาการเชื่อมโยงใจความและประโยค

2 การคาดเดาเนื้อหาถัดไป

3 การสรุปความ

ดังนั้นการอ่านจึงมิใช่การแปลหรือถอดความหมายของบทความ ผู้อ่านจะต้องฝึกฝน กลยุทธ์ และทักษะการอ่านเป็นสิ่งสําคัญ

9 Scanning is sometimes called “reading with fingers.”

ถาม การอ่านจําเพาะเจาะจงบางครั้งก็เรียกว่า “การอ่านด้วยนิ้วมือ”

ตอบ 1 การอ่านแบบ (Scanning) เป็นการอ่านเเบบสํารวจ (survey) เพื่อค้นหาข้อมูลเจาะจง (specific

information) เช่น ใคร? ทําอะไร? ที่ไหน? เมื่อไร? จํานวนเท่าใด? เพราะอะไร? อย่างไร? โดย ผู้อ่านทําการอ่านแบบกวาดสายตาหาจากซ้ายไปขวา หรือใช้นิ้วลากหาข้อมูลเจาะจงทีละบรรทัด ดังนั้นการอ่านแบบสแกนจึงมีชื่อเรียกอย่างหนึ่งว่า อ่านด้วยนิ้วมือ

10 In order to skim the article effectively, the reader does not need much language skill.

ถาม เพื่อที่จะอ่านแบบสกิมมิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้อ่านไม่ต้องมีทักษะทางด้านภาษามากนัก

ตอบ 2 ทักษะทางภาษา (language skill) คือ พื้นฐานทางภาษาที่ผู้อ่านควรจะต้องมีเช่น คําสรรพนาม,

คําเชื่อม, รูปประโยค ส่วนการอ่านแบบสกิม (skimming) เป็นการอ่านแบบคร่าว ๆ ไม่ต้องสนใจ รายละเอียด (detail) เพราะผู้อ่านมีวัตถุประสงค์เพื่อหาข้อมูลกว้าง ๆ (general information) อย่างเช่น หัวข้อเรื่อง (topic) ประโยคแสดงใจความสําคัญ (main idea) ดังนั้นผู้อ่านจึงอ่าน เหมือนอ่านกระโดดข้าม (skip) บางบรรทัด หรือบางประโยค แต่การกระโดดข้ามใจความหรือ ประโยคนั้น ผู้อ่านต้องมีทักษะทางภาษาจึงจะพอคาดเดาได้ว่า ประโยคถัดไปควรอ่านเพื่อหาข้อมูลอะไร

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer for each question. (คําสั่ง: อ่านเนื้อหาต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดในแต่ละคําถาม)

Passage 1

It is ironic that, if we consider the hazards to man from food, many people would say that the most serious hazards are food additives. In reality they are the least of our problems. Microbiological hazards, resulting in food poisoning, are a far more serious threat each year. Not only is food poisoning a more serious problem than food additives, but it is also significantly more serious than environmental contamination of the food supply.

เป็นสิ่งที่ไร้เหตุผล (ironic) ถ้าเรามองว่า อันตรายมาจากอาหารต่อมนุษย์นั้นเป็นสิ่งเดียว เพียงแต่เราคิดว่า สิ่งที่อันตรายที่สุดนั่นคือสารเติมแต่งอาหาร (food additives) เพราะความจริงแล้ว สารดังกล่าวสร้างปัญหาเราน้อยมาก อันตรายที่มาจากพวกจุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย (microbiological) ที่ก่อให้อาหารบูดเป็นพิษ นี่สิอันตราย มากกว่าเพราะนอกจากอาหารจะบูดเน่าแล้ว แต่ยังทําให้สิ่งแวดล้อมของอาหารที่เรานํามากินเกิดการปนเปื้อนได้ มากกว่าสารกันบูดที่เติมเข้าไปในอาหาร

11 What can be inferred from the passage?

1 Food poisoning is more threatening than the hazards from additives.

2 Food contamination is a bigger problem than people realize.

3 Most natural foods have some poisonous substances.

4 The hazards of food additives are our most severe problem.

ถาม จากบทความสามารถสรุปความได้อย่างไร

ข้อมูล (facts) 1 อาหารเน่าบูดอันตรายมากกว่าสารเติมแต่งอาหาร

1 อาหารเน่าบูดเป็นภัยคุกคามมากกว่าอันตรายจากสารเติมแต่งอาหาร

2 การปนเปื้อนในอาหารเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คนทั่วไปรู้

3 อาหารตามธรรมชาติส่วนใหญ่มีสารพิษบางชนิด

4 อันตรายจากสารเติมแต่งอาหารเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากที่สุดของเรา

ตอบ 3 เป็นความหมายทางอ้อมและใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงในเรื่องมากที่สุด

12 Which of the following is not mentioned in the article?

1 Food additives

2 Food poisoning

3 Food preservation,

4 Environmental contamination

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวถึงในเนื้อเรื่อง

1 สารเติมแต่งอาหาร

2 การเน่าบูดของอาหาร

3 การถนอมอาหาร

4 การปนเปื้อนสารพิษในสิ่งแวดล้อม

ตอบ 3 ข้อที่ไม่ได้กล่าวถึง คือ การถนอมอาหาร

13 The word “hazards” in bold type is closest in meaning to ____.

1 dangers

2 differences

3 problems

4 nutrients

ถาม คําวา “hazards” ในตัวพิมพ์หนามีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 อันตราย

2 ความแตกต่าง

3 ปัญหา

4 สารอาหาร

ตอบ 1 hazards = dangers = อันตราย

14 The phrase “resulting in” in bold type is closest in meaning to _____.

1 coming up with

2 contributing to

3 complaining about

4 concentrating on

ถาม วลีว่า “resulting in” ในตัวพิมพ์หนามีความหมายใกล้เคียงกับ

1 มาด้วย 2 นําไปสู่ 3 ร้องเรียนเกี่ยวกับ 4 จดจ่ออยู่กับ

ตอบ 2 resulting to = contributing to = นําไปสู่ ก่อให้เกิด ผลลัพธ์

Passage 2

We seem to jump from fad to fad convinced that there is an elixir of life which will guarantee perpetual youth, sexual vigor, and freedom from obesity. Millions are spent each year in this futile effort. It should be noted that man has shown his adaptability and ability to live healthfully in any part of the world and to thrive on the diet available to him, including a wide variety of diets. Because no single food provides all of the known nutrients, it is

advisable that we select a variety of foods, and that doesn’t mean fifty-seven varieties of :.. snack crackers. Many in this country do not necessarily eat intelligently, but, among the

countries of the world, we do have a unique opportunity to eat healthfully.

ดูเหมือนพวกเราจะข้ามผ่านความนิยมครั้งแล้วครั้งเล่า ความเชื่ออย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า มียาอายุวัฒนะ ซึ่ง รับประกันความเป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดกาล, ทําให้เกิดความคึกทางเพศ และทําให้ไม่อ้วนได้ ในแต่ละปีจะมีการใช้ จ่ายเงินไปหลายล้านในความพยายามที่ไร้ประโยชน์นี้ มันควรจะถูกตั้งข้อสังเกตว่า มนุษย์ได้แสดงให้เห็นความสามารถ ในการปรับตัวให้เหมาะสมและมีความสามารถที่จะดํารงชีวิตอย่างเป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าในส่วนใดของโลกและ เติบโตด้วยอาหารที่หามาได้ รวมถึงอาหารที่หลากหลายชนิด เพราะว่าไม่ได้มีอาหารเพียงชนิดเดียวที่จะให้สารอาหารที่ ครบทุกอย่าง จึงแนะนําให้เราเลือกทานอาหารหลากหลายชนิดต่าง ๆ และนั่นไม่ได้หมายถึง 57 ชนิด ของอาหาร ว่างที่เป็นขนมปังกรอบ ผู้คนจํานวนมากในประเทศนี้ไม่ได้ทานอาหารเท่าที่จําเป็นต่อสุขภาพอย่างใช้สติปัญญา แต่ในบรรดาประเทศต่าง ๆ ของโลก เรามีโอกาสไม่เหมือนใครที่จะกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่าง แท้จริง

 

15 The paragraph should be the ___ part of an article.

1 body

2 introduction

3 conclusion

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้ควรเป็นส่วน ____ ของเนื้อเรื่อง

1 ส่วนตัวเรื่อง : มักจะชี้แจงรายละเอียด

2 ส่วนกล่าวนํา : อารัมภบท หรือ ประเด็นไว้ให้คาดเคาต่อ

3 ส่วนสรุป : มักจะนําความเห็นส่วนตัวหรือข้อแนะนําของผู้เขียนมาอธิบายไว้

ตอบ 3 จากบทความช่วงท้ายย่อหน้า จะปรากฏความเห็นซึ่งเป็นข้อแนะนํา “it is advisable…”

ของผู้เขียน แสดงว่าเนื้อหาช่วงนี้เป็นช่วงสรุป (conclusion) ของบทความ

16 Which of the following statements is true, according to the passage?

1 Some are convinced that there is a cure-ai for health.

2 People cannot live on a diet based on just a small number of staples.

3 Perhaps men are more adaptable to change than women

4 Modern humans are not genetically adapted to the environment.

ถาม ข้อความไหนต่อไปนี้ถูกต้อง ตามเนื้อเรื่อง

1 บางคนถูกทําให้เชื่อว่ามีการรักษาได้ทั้งหมดเพื่อสุขภาพ

2 ผู้คนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่อยู่บนอาหารหลักเพียงจํานวนน้อย

3 บางที่ผู้ชายสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าผู้หญิง

4 มนุษย์สมัยใหม่ไม่ได้ปรับตัวในทางพันธุกรรมให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้

ตอบ 1 จากเนื้อเรื่องบางคนคิดว่ามีอายุวัฒนะ สามารถรักษาทุกโรคได้

17 According to the passage, the author advises that we consume _____

1 whatever is tasty

2 one certain type of food as much as possible

3 different kinds of food

4 a variety of fad diets

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้เขียนแนะว่าเรา (คนอเมริกัน) ควรบริโภค

1 อะไรก็ได้ที่อร่อย 2 อาหารประเภทหนึ่งให้มากเท่าที่ได้ 3 อาหารที่หลากหลายชนิด 4 อาหารที่นิยมชมชอบหลากหลายชนิด

ตอบ 3 จากเนื้อเรื่องที่ว่า it is advisable that we select a variety of foods แนะนําให้ทาน

อาหารที่หลากหลายชนิด

18 The word “thrive” in bold type is closest in meaning to ____.

1 prosper

2 consume

3 derive

4 digest

ถาม คําว่า “thrive” ในตัวพิมพ์หนามีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 ก้าวหน้า 2 บริโภค 3 ได้มา 4 ย่อย

ตอบ 1 thrive = prosper = เจริญเติบโต ก้าวหน้า

19 What does “many” in bold type refer to?

1 Snack crackers

2 Americans

3 People

4 The countries of the world

ถาม “many” ในตัวพิมพ์หนาอ้างอิงถึงอะไร

1 ขนมปังกรอบ 2 ชาวอเมริกัน 3 ผู้คน 4 ประเทศต่าง ๆในโลก

ตอบ 3 many = people = จํานวนมาก หมายถึง ผู้คน

20 The word “intelligently” in bold type is closest in meaning to _____

1 diligently

2 reasonably

3 decisively

4 patiently

ถาม คําว่า “intelligently” ในตัวพิมพ์หนามีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 อย่างขยัน

2 อย่างมีเหตุผล

3 อย่างมั่นใจ

4 อย่างอดทน

ตอบ 2 intelligently = reasonably = อย่างมีไหวพริบ อย่างมีเหตุผล

 

Passage 3

In short, using various methods of communication, different chimpanzees and an occasional gorilla have managed to communicate at about the level of a somewhat slow four-year-old child. This may not be the limit of the chimps abilities-perhaps more intensive or more ingenious training will carry them further-but it is certainly a substantial step beyond what has been done before. If nothing else, it demonstrates the enormous importance of learning in the acquisition of language, and opens up the possibility that someday we will be able to communicate at least on a minimal level with other species.

 

กล่าวโดยสรุป การใช้วิธีของการสื่อสารที่หลากหลายกับลิงชิมแปนซีที่แตกต่างกันและลิงกอริลล่าที่ใช้ทดลองใน บางโอกาสมีความสามารถที่จะสื่อสารได้ในระดับเด็กอายุ 4 ขวบ ที่ค่อนข้างจะเรียนรู้ช้า สิ่งนี้อาจจะไม่ได้ เป็น ข้อจํากัดความสามารถของลิงชิมแปมซี บางทีการฝึกฝนที่ชาญฉลาดและจริงจังมากกว่านี้อาจจะทําให้พวกมันพัฒนามาก ขึ้น แต่แน่นอนว่ามันเป็นขั้นตอนที่สําคัญเหนือกว่าสิ่งที่ได้ทํากันมาก่อนหน้านี้ ถ้าไม่มีการฝึกฝนเลยมันก็จะพิสูจน์ให้ เห็นความสําคัญอย่างมากของการเรียนรู้ภาษาและเปิดรับความเป็นไปได้ว่า สักวันหนึ่งเราจะสามารถสื่อสารกับสัตว์ อื่นๆได้อย่างน้อยที่สุดก็ในระดับต่ำสุด

21 This paragraph should be the _____ part of an essay.

1 introduction

2 body

3 conclusion

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้ควรเป็นส่วน _____ ของบทความ

1 บทนํา

2 เนื้อหา

3 บทสรุป

4 ถูกหมด

ตอบ 3 คําวา in short = In conclusion = กล่าวโดยสรุป เป็นบทสรุป

22 Which is correct, according to the passage?

1 The chimp and human are about the same in intellectual capacity

2 Chimpanzees show the greatest accomplishment

3 More comprehensive language training might carry chimpanzees further

4 Chimpanzees’ cognitive abilities are limited

ถาม ข้อไหนถูกต้อง ตามเนื้อเรื่อง

1 ซิมแปนซีและมนุษย์มีความสามารถทางสติปัญญาเท่ากัน (ผิด ไม่ได้กล่าวไว้)

2 ชิมแปนซีแสดงให้เห็นถึงความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

3 การฝึกภาษาที่ครอบคลุมมากขึ้นอาจนําพาให้ชิมแปนซีไปได้ไกลขึ้น

4 ความสามารถทางปัญญาของชิมแปนซีถูกจํากัด

ตอบ 3 จากเนื้อเรื่อง ตัวเลือกที่3 ถูกต้องที่สุด ถ้ามีการฝึกฝนที่ชาญฉลาดและจริงจังเข้มข้นกว่านี้อาจช่วย

พัฒนาชิมแปนซีไปได้ไกลกว่านี้

23 How many non-human animals are mentioned by name in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ในเรื่องนี้มีชื่อสัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์เท่าไร

ตอบ 2 มี 2 ชนิด คือ ชิมแปนซีและกอริลล่า

24 Which of the following topics does the story seem to touch on?

1 Linguistics

2 Demography

3 Dialectics

4 Anthology

ถาม เนื้อเรื่องนี้ดูเหมือนเกี่ยวข้องกับหัวข้ออะไร

1 ภาษาศาสตร์ 2 ประชากรศาสตร์ 3 ภาษาถิ่น 4 กวีนิพนธ์

ตอบ 1 กล่าวถึงเรื่อง สัตว์สามารถเรียนรู้ภาษา

25 Overall, what mood is portrayed in this passage?

1 Hopefu

2 Fearful

3 Mysterious

4 Melancholic

ถาม โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงอารมณ์ใด

1 มีความหวัง 2 น่ากลัว 3 ลึกลับ 4 เศร้าโศก

ตอบ 1 เนื้อเรื่องนี้สุดท้าย กล่าวถึง ยังคงมีความหวัง

26 The phrase “in short” (in bold type) can be replaced with _____

1 In brief

2 In fact

3 on the contrary

4 on the other hand

ถาม วลีที่ว่า “in short” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วยคําว่า ____

1 โดยสรุป 2 อันที่จริงแล้ว 3 ในทางตรงกันข้าม 4 ในทางตรงกันข้าม

ตอบ 1 In short = In brief = กล่าวโดยสรุป อย่างย่อ

Passage 4

Part of the explanation of women’s exclusion from artistic endeavors, as well as many others, such as politics and business, is to be sought in their virtually complete lack of economic autonomy and the toils exacted by childbirth and domestic responsibilities. A case in point is Marietta Robusti, daughter of the famous Venetian Mannerist painter known as Tintoretto. After years as an apprentice in her father’s studio, she gained international recognition as a portraitist and was called to the Spanish royal court of Phillip II. Her father forbade her to go and found her a husband instead. She died four years later in childbirth. Her father, on the other hand, lived to the age of seventy-six. The extreme brevity of the careers of many brilliant women artists has meant that few of their works remain. Such is the case of the talented and highly original sculptor Properzia de’Rossi, who died of illness at an early age, or the French painter Marie Guillemine Benoist, who was forced to abandon her art because her husband’s official appointment made it impossible for her to continue to participate in the state – sponsored exhibitions that had been opened to women under the revolutionary government. A notable exception to these truncated careers is that of a sixteenth century painter from Bologna, Lavinia Fontana, who painted for several decades in spite of familial duties (with which her husband helped), received papal commissions, and was elected to the Roman Academy.

 

ส่วนของการอธิบายถึงการกีดกันผู้หญิงจากความพยายามในการสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมถึงความพยายามด้าน อื่น ๆ เช่น การเมืองและธุรกิจ, เป็นการแสวงหาการขาดความเป็นตัวของตัวเองทางเศรษฐกิจ และปัญหาที่ถูกกําหนดจากการคลอดบุตร และความรับผิดชอบภายในครอบครัว ตัวอย่างที่ตรงจุดนี้คือ มาร์เร็ตตา โรบัสตี, บุตรสาว ของจิตรกรและนักศิลปนิยมชาวเวนิสรู้จักกันในชื่อ ตินโตเร็ทโต หลังจากหลายปีที่เธอได้เป็นเด็กฝึกงานในสตูดิโอ ของพ่อเป็นเวลาหลายปี เธอได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในฐานะที่เป็นนักวาดภาพเหมือน และได้รับเชิญ ไปยังราชสํานักของพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปน แต่พ่อของเธอห้ามไม่ให้เธอไปและหาสามีให้เธอแทน เธอเสียชีวิตใน 4 ปีต่อมาจากการคลอดบุตร ซึ่งตรงกันข้ามกับพ่อของเธอมีอายุจนถึง 76 ปี ในระยะเวลาอันสั้นอย่างมากของการประกอบอาชีพของจิตรกรหญิงที่ชาญฉลาดหลายคน หมายความว่าแทบจะไม่มีผลงานทางศิลปะของพวกเธอ หลงเหลืออยู่เลย ซึ่งเป็นตัวอย่างกรณีของนักประติมากรที่มีพรสวรรค์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เธอ คือ โพรเพอเซีย เดอ รอสซี เธอเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่อายุยังน้อย หรือจิตรกรชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Marie Guillermine เธอ ถูกบังคับให้ทิ้งงานศิลปะของเธอเพราะว่าการแต่งตั้งตําแหน่งที่เป็นทางการของสามีเธอ ทําให้เป็นไปไม่ได้สําหรับเธอที่จะเข้ามีส่วนร่วมในนิทรรศการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่ได้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงภายใต้ รัฐบาลที่มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลง ข้อยกเว้นที่โดดเด่นในการตัดโอกาสอาชีพนี้ก็คือ จิตรกรในศตวรรษที่ 16 จาก Bologna ที่ชื่อว่าวิเนีย ฟอนตานา เธอวาดภาพมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ทั้ง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัว (ซึ่ง สามีของเธอคอยให้ความช่วยเหลือเธอด้วย) เธอได้รับแต่งตั้งจากพระสันตะปาปาและได้รับเลือกให้ดํารงตําแหน่งใน สมาคมส่งเสริมศิลปะแห่งโรมัน

 

27 Which is incorrect, according to the passage?

1 Marietta Robusti painted for several decades in spite of familial duties.

2 The roles of men have barely affected women’s lives.

3 Marietta Robusti died while giving birth.

4 Women are responsible for the household work.

ถาม ข้อไหนไม่ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 มาร์เร็ตตา โรบัสตีวาดภาพมาหลายสิบปี ทั้งๆ ที่มีหน้าที่ในครอบครัว

2 บทบาทของผู้ชายแทบจะไม่มีผลต่อชีวิตผู้หญิงเลย

3 มาร์เร็ตตา โรบัสตีเสียชีวิตขณะคลอดบุตร

4 ผู้หญิงมีหน้าที่รับผิดชอบงานบ้าน

ตอบ 4

1 ข้อนี้ไม่ถูกต้องเพราะตามเนื้อเรื่องตัวอย่างคือ ลาวิเนีย ฟอนตานา

2 ข้อนี้ไม่ถูกต้องเพราะผู้ชายมีผลต่อชีวิตผู้หญิงเช่นพ่อของมาเร็ตตา โรบัสตี้ห้ามไม่ให้เธอทํางาน

ศิลปะ

3 ไม่ถูกต้องเพราะในบทความเธอเสียชีวิตหลังจากให้กําเนิดลูกแล้ว 4 ปี

4 ถูกต้องเพราะเนื้อเรื่องผู้หญิงต้องรับผิดชอบงานบ้าน

ข้อนี้คําถามน่าจะถามว่าข้อใดถูกต้อง จึงจะตอบข้อ 4

28 Which of the following does not explain women’s exclusion from art?

1 Lack of economic freedom

2 Lack of adequate talent

3 Politics and business

4 Tolls exacted by childbirth

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้อธิบายถึงการกีดกันผู้หญิงจากศิลปะ

1 การขาดอิสรภาพทางเศรษฐกิจ

2 การขาดความสามารถทางพรสวรรค์ที่เพียงพอ

3 การเมืองและธุรกิจ

4 การเสียชีวิตจากการคลอดบุตร

ตอบ 2 ข้อ 1,3 และ4 เป็นข้อที่เกี่ยวพันกับการกีดกันผู้หญิง ส่วนข้อ 2 เรื่องพรสวรรค์หรือ ไม่มี

ความสามารถ ไม่ได้กล่าวถึงเป็นการกีดกัน

29 How many names of women artists are mentioned in this passage?

1 3

2 4

3 5

4 6

ถาม มีศิลปินผู้หญิงที่คนที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่องนี้

ตอบ 2 มี 4 คนคือ 1 Marietta Robusti 2 Properzia de’Rossi 3 Marie Guillermine

Benoist และ 4 Lavinia Fontana

30 Who was elected to the Roman Academy?

1 Lavinia Fontana’s family

2 Lavinia Fontana’s husband

3 Lavinia Fontana

4 All are correct

ถาม ใครได้ถูกเลือกให้ดํารงตําแหน่งในสมาคมส่งเสริมศิลปะแห่งโรมัน

ตอบ 3 จากบทความช่วงท้าย ผู้หญิงที่กล่าวคนสุดท้ายคือ Lavinia Fontana ลาวินเนีย ฟอนทาน่า

31 The passage describes mainly artists in the _____ context.

1 Southern American

2 Western Europe

3 Eastern European

4 Northern American

ถาม เนื้อเรื่องกล่าวถึงศิลปินส่วนใหญ่อยู่ใน _____.

ตอบ2 ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส ก็คือกลุ่มยุโรปตะวันตก

32 Which of the following topics does this story seem not to touch on?

1 Women artists

2 Female artists

3 Social exclusion

4 Social inclusion

ถาม เรื่องนี้ดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อไหนต่อไปนี้

1 ศิลปินผู้หญิง 2 ศิลปินหญิง 3 การกีดกันทางสังคม 4 การรวมตัวทางสังคม

ตอบ 4 เรื่องนี้กล่าวถึงศิลปินหญิง และการกีดกันผู้หญิง ส่วนข้อ 4 ไม่เกี่ยวข้อง

33 The word “famous” (in bold type) is closest in meaning to _____

1 notorious

2 impressive

3 renowned

4 common

ถาม คําว่า “famous” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี 2 ประทับใจ 3 มีชื่อเสียง 4 ปกติ ธรรมดาทั่วไป

ตอบ 3 famous = renowned, wel-liked = มีชื่อเสียง เป็นที่ชื่นชอบ

34 The word “she’ (in bold type) refers to ____

1 Tintoretto

2 the Venetian Mannerist

3 Marietta Robusti

4 All are correct

ถาม คําว่า “she” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____

ตอบ 3 เธอ จากบรรทัดที่ 4 ในที่นี้คือ Marietta Robusti

 

Passage 4

Many of the world’s people are concerned about the dwindling number of whales in the oceans and seas. They are worried because the number of whales is getting so small. Whales are very large, aquatic animals. People have hunted whales since about the eleventh century. Certain types of whales have been hunted too much. Recently, their numbers have decreased so much that they are in danger of becoming extinct. These concerned people are working to save the whales.

ผู้คนในโลกจํานวนมากมีความรู้สึกห่วงใยเกี่ยวกับจํานวนของปลาวาฬ ในมหาสมุทรและท้องทะเลที่ร่อยหรอ ลงไปทุกวัน พวกเขาวิตกกังวลเพราะว่าจํานวนของปลาวาฬกําลังจะน้อยลง ปลาวาฬเป็นสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่มาก ผู้คนได้ล่าปลาวาฬกันมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 11 ปลาวาฬบางชนิดถูกล่ามากจนเกินไปเมื่อไม่นานมานี้จํานวนของมันลดลงมากเสียจนกระทั่งพวกมันตกอยู่ในอันตรายของการสูญพันธ์ ผู้คนที่มีความรู้สึกห่วงใยเหล่านี้กําลังทํางาน กันเพื่อช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬเอาไว้

35 This paragraph should be the _____ part of an article. .

1 introduction

2 body

3 conclusion

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้ ควรอยู่ในส่วน ____ ของบทความ

ตอบ 1 จากประโยคสุดท้ายของบทความ “These concerned people are working to saves the

whales” “ผู้คนที่ห่วงใยเหล่านี้กําลังทําการปกป้องวาฬกัน” ชี้ให้เห็นว่าบทความนี้เป็นช่วงการ กล่าวนํา (introduction) เพื่อจะให้สืบหาวีการปกป้องปลาวาฬต่อไปนี้ว่าจะหาวิธีใดดีที่จะช่วย ปกป้องปลาวาณที่กําลังลดจํานวนลง

36 The problem stated in this passage is about ____

1 vanishing whales

2 modern whaling

3 the cruelty of whaling

4 None is correct

ถาม ปัญหาที่กล่าวในเรื่องนี้เกี่ยวกับ _____

1 ปลาวาฬที่หายไป

2 การล่าวาฬสมัยใหม่

3 ความโหดร้ายของการล่าวาฬ

4 ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงจํานวนปลาวาฬที่ลดลง (dwindfing number of whales) และบางชนิดที่อยู่

ในภาวะอันตรายจนกลายเป็นสูญพันธ์ (extinct)

37 Which is correct according to the passage?

1 Some types of whales have been hunted for a long time

2 The practice of hunting whales has existed for more than 1,100 years.

3 All types of whales have been hunted massively.

4 Everyone is worried about whaling.

ถาม ข้อไหนถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 ปลาวาฬบางชนิดถูกล่ามาเป็นเวลานาน (ไม่ถูกต้องเพราะข้อความเป็นจริง แต่กล่าวเกินข้อเท็จจริง)

2 การกระทําการล่าปลาวาฬมีมานานกว่า 1,100 ปีมาแล้ว (ตรงกับเนื้อหาที่เป็นข้อเท็จจริง เพราะมีการล่าปลาวาฬตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 – ปัจจุบันศตวรรษที่ 21 แล้ว แสดงว่ามากกว่า 1,000 ปี

3 ปลาวาฬทุกชนิดถูกล่าอย่างจํานวนมาก (ไม่ตรงกับข้อเท็จริง ในบทความกล่าวถึง จํานวนวาฬที่ลดลงเรื่อย ๆ จากการล่าต่อเนื่องยาวนานไม่ใช่จํานวนมาก หรือทุกชนิด)

4 ใคร ๆ ก็กังวลเรื่องการล่าปลาวาฬ (ไม่ตรงกับข้อเท็จริงเพราะคนที่กังวลเท่านั้นที่กําลังต่อสู้เพื่อปกป้องปลาวาฬ)

ตอบ 2 ผู้คนได้ล่าปลาวาฬกันมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 11 มาถึงปัจจุบันคือ มากกว่า 1,100 ปีมาแล้ว

38 Why are people worried about whales?

1 Whales are hunted for commercial gain.

2 Whales are rapidly disappearing.

3 Whales become more dangerous.

4 Whales are getting smaller.

ถาม ทําไมผู้คนกังวลเกี่ยวกับปลาวาฬ

1 ปลาวาฬถูกล่าเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า

2 ปลาวาฬกําลังหายไปอย่างรวดเร็ว

3 ปลาวาฬกลายมาเป็นอันตรายมากขึ้น

4 ปลาวาฬกําลังเล็กลง

ตอบ 2 สาเหตุที่กังวลเพราะปลาวาฬได้ลดจํานวนลงอย่างรวดเร็ว ถ้าตอบ 4 สามารถตีความหมายว่า

ปลาวาฬกําลังตัวเล็กลงก็ได้ หรือขนาดเล็กลง แต่เราเหมายถึง จํานวนน้อยลง ถ้ามีคําว่า number is getting smaller ก็จะถูกต้อง

39 What does “their” in bold type refer to?

1 Hunted whales

2 Whales

3 Dead whales

4 Aii are correct

ถาม “their” ในตัวพิมพ์หนาอ้างอิงถึงอะไร

1 ปลาวาฬที่ถูกล่า

2 ปลาวาฬ

3 ปลาวาฬที่ตายแล้ว

4 ถูกทั้งหมด

ตอบ 2 ของพวกมัน ก็คือ ปลาวาฬ

Passage 5

Other concerned people are working to save whales from extinction in another way. These people believe that the best means to save the whales is by making whale products expensive. They think that if whale products become less economical than similar products, whalers will kill fewer whales. The supply of whale products will decrease because of the lower demand for whale products. For example, one of the most valuable whale products is whale oil. Whale oil, which is processed from the fat, meat, and bones of whales, has many uses. For example, it is used in the manufacture of margarine, soap, and certain cosmetics. One large whale may yield 150 barrels of whale oil. Scientists have found a plant oil that is similar to the valuable whale oil; it is the oil of a desert plant, jojoba (pronounced ho-Ho-ba) oil. People hope that jojoba oil can be produced more economically than whale oil and that, in this way, they can help to save the whales.

คนอื่น ๆ ที่รู้สึกห่วงใยกําลังทํางานกันเพื่อช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬให้รอดพ้นจากการสูญพันธ์ ในอีกวิธีการหนึ่ง ผู้คนเหล่านี้เชื่อว่า วิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬคือ โดยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬมีราคาแพง พวกเขาคิดว่า ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬมีราคาประหยัดน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน ผู้ล่าปลาวาฬจะฆ่า ปลาวาฬน้อยลง การจัดป้อนสินค้าสู่ท้องตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากราวาฬจะลดลง เนื่องจากความต้องการสินค้า ของตลาดสําหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬลดต่ำลง ยกตัวอย่างเช่น เนบรรดาผลิตภัณฑ์จากปลาวาฬที่มีมูลค่ามากที่สุดตัวหนึ่งคือ น้ำมันปลาวาฬ น้ำมันปลาวาฬซึ่งถูกผ่านกรรมวิธีมาจากไขมัน เนื้อ และกระดูกของปลาวาฬ ปี ประโยชน์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น มันจะถูกใช้ในการผลิตเนยเทียม สบู่ และเครื่องสําอางบางชนิด ปลาวาฬขนาด ใหญ่หนึ่งตัวอาจจะให้น้ำมันปลาวาฬที่มีค่า มันเป็นน้ำมันของพืชในทะเลทรายชนิดหนึ่ง นั่นคือ น้ำมันโจโจบา (ออก

เสียงว่า โฮ-โฮ-บา) ผู้คนต่างหวังว่า น้ำมันโจโจบา จะสามารรถถูกผลิตขึ้นมาได้อย่างประหยัดมากกว่าน้ำมันปลาวาฬ และนั่นก็หมายความว่า ด้วยวิธีการนี้พวกเขาจะสามารถช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ได้

40 The main idea of the paragraph is in sentence _____

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้อยู่ในประโยคที่ _____

ตอบ 2 ใจความสําคัญอยู่ในประโยคที่ 2 เพราะบอกวิธีที่จะช่วยปกป้องปลาวาฬ

41 How many names of mammals are mentioned in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมกี่ชนิดที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่อง

ตอบ 1 ได้กล่าวถึงชนิดเดียวคือ whales ปลาวาฬ

42 How many names of plants are mentioned in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีชื่อพืชชนิดที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่อง ตอบ 1 ชนิดเดียวคือ โจโจบา

43 It can be inferred from the passage that one strategy used to save the whales is _____

1 by making whale products costly.

2 by making whale products unique .

3 by making whale products famous

4 by making whale products more popular

ถาม สามารถสรุปจากเนื้อเรื่องว่ากลยุทธ์อันหนึ่งที่ใช้ปกป้องปลาวาฬคือ _____

1 โดยทําให้ผลิตภัณฑ์ปลาวาฬมีราคาแพง

2 โดยทําให้ผลิตภัณฑ์ปลาวาฬเป็นเอกลักษณ์

3 โดยทําให้ผลิตภัณฑ์ปลาวาฬมีชื่อเสียง

4 โดยทําให้ผลิตภัณฑ์ปลาวาฬเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น

ตอบ 1 คําว่า costly = expensive ก็คือทําให้มีราคาแพง ผู้คนจะได้ซื้อน้อยลง

44 Which of the following is not mentioned in the article?

1 It can be assumed that jojoba does not thrive in frosty climates.

2 Whale oil is used in the manufacture of some cosmetics.

3 People are working to save whales from extinction.

4 Jojoba oil is similar to the oils naturally produced by human skin.

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวถึงในเนื้อเรื่อง

1 สันนิษฐานว่าโจโจบาไม่เจริญเติบโตในสภาพอากาศที่หนาวจัด

2 น้ำมันโจโจบ้าถูกใช้ในการผลิตเครื่องสําอางบางชนิด

3 ผู้คนกําลังทํางานเพื่อช่วยปลาวาฬจากการสูญพันธุ์

4 น้ำมันโจโจบามีความคล้ายคลึงกับน้ำมันที่ผิวหนังมนุษย์สร้างขึ้นตามธรรมชาติ

ตอบ 4 ไม่ได้กล่าวในเนื้อเรื่องว่าเป็นน้ํามันที่คล้ายกับน้ำมันที่ผิวหนังมนุษย์สร้าง

45 Overall, what mood is portrayed by the end of this passage?

1 Informative

2 Hopeful

3 Skeptical

4 Dismissive

ถาม โดยรวมแล้ว ในตอนท้ายของเรื่องได้แสดงอารมณ์อะไรไว้

1 ให้ข้อมูล

2 มีความหวัง

3 สงสัย

4 เลิก

ตอบ 2 ตอนท้ายกล่าวให้ความหวังว่าน้ำมันโจโจบามาแทนที่น้ํามันจากปลาวาฬได้ทําให้ล่าน้อยลง

46 The word “concerned” (in bold type) here is closest to the meaning to _____

1 composed

2 worried

3 terrified

4 scared

ถาม คําว่า “concerned” ในตัวหนามีความหมายใกล้เคียงกับ_____

1 ประกอบขึ้น 2 กังวล 3 ทําให้ตกใจ 4 ตกใจ ผวา

ตอบ 2 concerned = worried = วิตกกังวล

Passage 7

In general, therefore, an unconscious secret is more harmful than one that is conscious. I have seen many patients in difficult situations of life which might have driven weaker natures to suicide. These patients had at times a tendency towards suicide, but, on account of their inherent reasonableness, would not allow the suicide urge to come into consciousness. But it remained active in the unconscious, and brought about all kinds of dangerous accidents-as for instance an attack of faintness or hesitation in front of an advancing motorcar, the swallowing of corrosive sublimate in the belief that it was a cough mixture, a sudden zest for dangerous acrobatics, and so forth. When it was possible to make the suicide leaning conscious, common-sense could helpfully intervene; the patients could then recognize and avoid those situations that tempted them to self-destruction.

ดังนั้น โดยทั่วไปความลับที่ไม่รู้ตัวเป็นอันตรายมากกว่าความลับที่รู้ตัว ผมเคยเห็นคนไข้จํานวนมากประสบ สถานการณ์ที่ยากลําบากในชีวิต ซึ่งอาจจะผลักดันธรรมชาติที่อ่อนแอของเขาให้ฆ่าตัวตาย ผู้ป่วยเหล่านี้ในบางครั้งมีแนวโน้มต่อการฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความคิดถึงมีเหตุผลที่อยู่ในตัวของเขาจึงไม่ยอมให้แรงกระตุ้นการฆ่าตัวตายเข้ามาสู่ สติสัมปชัญญะ แต่มันคงกระตือรือร้น (ทํางานอยู่) ภายใต้ความไม่รู้สึกตัวและก่อให้เกิดอันตรายได้ทุกประเภท ตัวอย่างเช่น การเป็นลมหน้ามืดหรือความลังเลอยู่ข้างหน้ารถที่กําลังวิ่งมา หรือการกลืนสารพิษโดยคิดว่ามันเป็นยา แก้ไอ หรือความสนุกสนานตื่นเต้นความอยากเล่นกีฬาโลดโผนอย่างทันทีทันใด และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นไปได้ที่ แนวโน้มในการฆ่าตัวตายอาจจะโน้มเอียงไปเป็นความรู้สึกตัว สติสัมปชัญญะสามารถช่วยขัดขวาง; และคนป่วยรู้ตัว และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ล่อหลอกให้พวกเขาฆ่าตัวตาย

47 What is the most dangerous kind of secret, according to the passage?

1 Conscious secrets

2 Unconscious secrets

3 Any kind of secret

4 Both conscious and unconscious secrets

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ความลับประเภทไหนที่อันตรายมากที่สุด

1 ความลับที่รู้ตัว

2 ความลับที่ไม่รู้ตัว

3 ความลับประเภทไหนก็ได้

4 ทั้งความลับที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

ตอบ 2 จากประโยคแรก ความลับที่ไม่รู้ตัวเป็นอันตรายกว่าความลับที่รู้ตัว

48 The author mentions the difficult situations of life because ____

1 We can find the inner strength to get through them

2 they urge negativity to come into consciousness

3 they can lead to suicide

4 they can affect the quality of life

ถาม ผู้เขียนกล่าวถึงสถานการณ์ที่ยากลําบากในชีวิตเพราะ _____

1 เราสามารถพบความแข็งแกร่งภายในที่จะไปถึงมัน

2 มันกระตุ้นการปฏิเสธให้เข้ามาในจิตสํานึก

3 มันสามารถไปสู่การฆ่าตัวตาย

4 มันสามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

ตอบ 3 จากบทความในประโยคที่ 2 และ 3 นั้นผู้เขียนอธิบายว่า ความยากลําบากในช่วงชีวิตอาจจะผลักดัน

(driven) ให้คนที่ธรรมชาติอ่อนแอ (weaker nature) ทําการฆ่าตัวตาย จึงตอบ 3 ว่าความยากลําบากจะนําไปสู่การฆ่าตัวตาย

49 Which of the following is not true?

1 A conscious secret is harmful.

2 People normally have reasonableness.

3 There is nothing we can do to help people when they are trying to kill themselves.

4 Fainting is one of the effects of having secrets that are active in the unconscious.

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 ความลับที่รู้ตัวเป็นอันตราย

2 ผู้คนโดยปกติมีสติสัมปชัญญะ

3 ไม่มีอะไรที่เราสามารถทําได้ที่จะช่วยผู้คนเมื่อพวกเขาพยายามฆ่าตัวตาย

4 เป็นลมเป็นหนึ่งของผลของการมีความลับที่ทํางานอยู่ในความไม่รู้ตัว

ตอบ 3 จากบทความ 1 ความลับแบบรู้สึกตัวอันตราย แต่น้อยกว่าแบบไม่รู้ตัว

2 ความมีเหตุมีผล จะช่วยทําให้คนจะฆ่าตัวตายมีสติ (consciousness)

3 การที่ไม่มีสิ่งใดช่วยเหลือผู้คนที่จะฆ่าตัวตายนั้นไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่จะช่วยได้คือ การมีเหตุมีผล

4 เป็นไปตามตัวอย่างของภาวะไร้สติ ที่จะทําให้คนฆ่าตัวตาย ฉะนั้นการใช้เหตุผลที่คนมีอยู่แล้วจะช่วยให้คนเข้าสู่การมีสติแล้วไม่ฆ่าตัวตาย

50 What will happen when the thought of committing suicide is active in the

consciousness of patients, according to the passage?

1 They could try not to kill themselves.

2 They could try hard to kill themselves.

3 The fainting and hesitation in front of an advancing motorcar will keep on increasing.

4 All are correct.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อความคิดของการฆ่าตัวตายยังทํางานอยู่ในความรู้สึกตัวของคนไข้

1 พวกเขาพยายามที่จะไม่ฆ่าตัวตาย

2 พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะฆ่าตัวตาย

3 การเป็นลมและความลังเลอยู่ข้างหน้ารถที่กําลังวิ่งเข้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 1  เมื่อคนไข้มีสติสัมปชัญญะ ก็จะไม่ฆ่าตัวตาย

51 The word “avoid” (in bold type) is closest in meaning to _____

1 shun

2 allow

3 stay

4 realize

ถาม  คําว่า “avoid” (ในตัวหนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 หลีกเลี่ยง 2 อนุญาตให้ 3 คงอยู่ 4 รับรู้ ตระหนัก

ตอบ 1 avoid = shun = หลีกเลี่ยง หลบหลีก

52 According to the passage, the word “self-destruction’ (in bold type) is closest in meaning to _______

1 unconsciousness

2 suicide

3 self-assertion

4 difficult situations

ถาม ตามเนื้อเรื่อง คําว่า self-destruction (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 ความไม่รู้สึกตัว 2 การฆ่าตัวตาย 3 การยืนยันตัวเอง 4 สถานการณ์ที่ยากลําบาก

ตอบ 2 self-destruction = suicide = การทําลายตัวเอง ก็คือการฆ่าตัวตาย

Passage 6

Industrial societies recognize the nuclear family, a social unit composed of one or, more commonly, two parents and children. Typically based on marriage, the nuclear family is also often called the conjugal family. In preindustrial societies, however, the extended family, a social unit including parents, children and other kin, predominates. This is also called the consanguine family, meaning that it is based on blood ties, Extended families frequently include grandparents, aunts, uncles, and other kin. In the United States, extended families are not typical, but they are common among some ethnic categories, especially – Americans of Hispanic ancestry. In addition, about one in seven elderly people lives with a relative other than a spouse, thereby forming an extended family.

 

สังคมอุตสาหกรรมจะยอมรับครอบครัวเดียว ซึ่งเป็นหน่วยสังคมที่ประกอบด้วยพ่อแม่หนึ่ง หรือโดยทั่วไปแล้วหรือพ่อและแม่ทั้งสองพร้อมกับลูกๆ โดยปกติแล้วอยู่บนพื้นฐานการแต่งงาน ครอบครัวเดี่ยวจึงมักจะถูกเรียกว่าเป็นครอบครัวสมรส แต่อย่างไรก็ตาม ในสังคมก่อนยุคอุตสาหกรรม ครอบครัวขยาย ซึ่งเป็นหน่วยสังคมที่ประกอบด้วย พ่อแม่ลูก และญาติพี่น้องอื่น ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เด่นกว่าและรูปแบบนี้ก็ยังคงถูกเรียกว่าเป็นครอบครัวร่วมสายเลือดเดียวกัน นั่นหมายความว่า อยู่บนรากฐานของการผูกพันทางสายเลือด ครอบครัวขยายมักจะรวมถึง ปู่ ย่า ตา ยาย ป้า น้า อา ลุง และญาติคนอื่นๆ ด้วย ในประเทศสหรัฐอเมริกาครอบครัวขยายไม่ใช่เป็นครอบครัวแบบฉบับทั่วไป แต่เป็นครอบครัวที่มีอยู่ทั่วไปในกลุ่มเชื้อชาติที่มีขนบธรรมเนียมเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งซาว อเมริกันที่สืบเชื้อสายมาจาก ลาตินอเมริกา นอกจากนี้แล้วคนชราประมาณ 1 ใน 7 จะอาศัยอยู่กับญาติมากกว่าที่จะอยู่กับคู่สมรสของตน ด้วยเหตุนี้จึงทําให้เกิดครอบครัวขยายขึ้น

 

53 This paragraph should be the _____ part of an article

1 body

2 introduction

3 conclusion

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้ควรเป็นส่วน ____ ของเนื้อเรื่อง

1 เนื้อหา

2 บทนํา

3 บทสรุป

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ลักษณะของเนื้อหาเป็นการนิยาม (defined) คําศัพท์ในครอบครัว 2 ชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็น

การเปิดประเด็นและให้ผู้อ่านรู้ถึงศัพท์สําคัญ (key word) ของตัวบทความนี้ ว่าจะพูดถึงอะไร ถัดไป ทําให้รู้ได้ว่าย่อนหน้านี้เป็นช่วงของการกล่าวนํา

54 How many types of families are mentioned in this paragraph?

1 2

2 3

3 4

4 5

ถาม  มีครอบครัวกี่ประเภทได้กล่าวถึงในย่อหน้านี้

ตอบ 1 มี 2 ชนิดคือ 1 nuclear family 2 extended family

55 What is the different between the nuclear family and the extended family?

1 Some ethnic categories

2 Societies

3 Marriage

4 The relation between family members

ถาม อะไรคือความแตกต่างระหว่างครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวขยาย

1 บางกลุ่มชาติพันธุ์

2 สังคมต่าง ๆ

3 การแต่งงาน

4 ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกครอบครัว

ตอบ 2 จากบทความแสดงการเปรียบเทียบระหว่างยุคสังคมอุตสาหกรรมกับยุคสังคมก่อนอุตสาหกรรม

รวมถึงสังคมแบบพวกอีสแพนิค หรือลาตินอเมริกาที่คนแก่จะอยู่อาศัยกับญาติ (relative) มากกว่า ลูกหลานของตน ฉะนั้น สังคม (societies) เพราะผู้เขียนพูดถึงประเภทของสังคม

56 What kind of family type do many Hispanic Americans have?

1 The extended family

2 The typical family

3 The nuclear family

4 The conjugal family

ถาม ชาวอเมริกันที่สืบเชื้อสายจากลาตินอเมริกามีประเภทครอบครัวชนิดไหน

ตอบ 1 จากบทความในตัวอย่างอธิบายว่าชาวอเมริกันเชื้อสายลาตินอเมริกา มักจะไปอาศัยอยู่กับญาติ

ของตน ทําให้เกิดครอบครัวขยาย

57 How many countries are mentioned by name in this paragraph?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีกี่ประเทศที่กล่าวถึงในย่อหน้านี้

ตอบ 1 กล่าวถึงประเทศสหรัฐอเมริกา

 

Passage 7

The major contribution of the humanistic approach is to focus attention on allowing the individual’s inner nature to express itself. It is not necessary to accept the view that our inner nature is formed at birth-our potential can be seen as a product of innate factors plus experience. But humanistic psychologists make the valid point that society often frustrates out needs and creative impulses. A girl may have decided by the age of six to be a lawyer. Her decision was based on identification with a parent plus events involving conditioning, and her own innate intelligence and other abilities. However, this desire may be continually frustrated by a society that says that most women do not become lawyers, that puts various obstacles in her path, and that may try to convince her to become a housewife or nurse instead. Similarly, a boy may learn early in life to be easygoing, not to have strong achievement motivation, and not to strive hard to for financial success. Perhaps he would like to be an artist or just take any job that does not require too much hard work. As an adolescent, he finds enormous pressures from his family, friends, and school to be “successful,” to achieve good grades, to get a “good” job. His artistic nature is frustrated rather than encouraged. Whether these interests and inclinations are present at birth or develop in childhood, there is little question that during adolescence many people find that their environment does not encourage them to express their own, personal feelings. Yet most people would be happier, more productive, and more fulfilled if they were not only allowed but encouraged to do what they want” rather than what society decrees is right for them.

 

การสนับสนุนที่สําคัญของทฤษฎีมนุษยนิยมก็คือ การมุ่งความสนใจไปที่การยอมให้ธรรมชาติภายในของแต่ละ บุคคลได้แสดงตัวมันเองออกมา ไม่ใช่เรื่องจําเป็นที่จะยอมรับความคิดที่ว่า ธรรมชาติภายในของเราจะถูกสร้างขึ้นมา ตั้งแต่เกิด ศักยภาพของเราสามารถมองเห็นได้ในฐานะที่เป็นผลผลิตอย่างหนึ่งของปัจจัยโดยกําเนิด บวกกับประสบการณ์ แต่นักจิตวิทยามนุษยนิยมได้อธิบายอย่างแจ่มชัดไว้ว่า สังคมมักจะขัดขวางความต้องการและแรงกระตุ้น ในทางสร้างสรรค์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอาจจะได้ตัดสินใจตอนอายุ 6 ขวบ ว่าเธอจะเป็นทนายความ การตัดสินใจของเธอ มีพื้นฐานอยู่บนการกําหนดร่วมกันกับพ่อแม่ของเธอ บวกกับความสามารถอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามความปรารถนานี้ อาจจะถูกขัดขวางอย่างต่อเนื่อง จากสังคมที่มักจะบอกว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เป็นทนายความ จากสังคมที่มักจะหยิบยื่นอุปสรรคไว้ตามวิถีทางเดินของเธอ และจากสังคมที่อาจพยายามจะทําให้เธอเชื่อมั่นที่จะเป็นแม่บ้านหรือเป็นนางพยาบาลแทน ในทํานองเดียวกัน เด็กผู้ชายคนหนึ่งอาจจะเรียนรู้ในช่วงแรกของชีวิตแบบเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่มีแรงกระตุ้นเพื่อความสําเร็จที่รุนแรง และไม่พากเพียรอย่างหนักเพื่อความสําเร็จทางด้านการเงิน บางทีเขาอาจะอยากจะเป็นศิลปิน หรือแค่เพียงอยากจะทํางานอะไรก็ได้ที่ไม่เรียกร้องงานที่หนักเกินไป ในฐานะที่เป็นหนุ่มสาว เขาจะพบแรงกดดันอย่างมากมายจากครอบครัว จากเพื่อน จากโรงเรียน เพื่อที่จะ “ประสบความสําเร็จ” ให้ได้ผลการเรียนที่ดี และได้งาน “ที่ดี” ทําธรรมชาติในทางศิลปะของเขาจะถูกขัดขวางมากกว่าถูกส่งเสริม ไม่ว่าความสนใจและความโน้มเอียงเหล่านี้จะมีอยู่ตั้งแต่เกิด หรือพัฒนาขึ้นใหม่ช่วงวัยเด็กก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีความสงสัยว่าในช่วงวัยหนุ่มสาว หลาย ๆ คนพบว่า สภาพแวดล้อมไม่ได้ส่งเสริมให้พวกเขาได้แสดงความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวของเขาเองออกมาเลย แต่คนส่วนใหญ่จะมีความสุขเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานเพิ่มขึ้น และบรรลุผลสําเร็จมากขึ้น ถ้าพวกเขาไม่เพียงได้รับโอกาสแต่ยังได้รับการส่งเสริมให้ “ทําในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทํา” มากกว่าในสิ่งที่สังคมมาออกคําสั่งให้พวกเขาต้องทํา

58 What is the main focus of the humanistic approach?

1 To control individual personality

2 To concentrate on the inner nature of people

3 To create individual personality

4 To change individual personality

ถาม  อะไรคือจุดสนใจหลักของทฤษฎีมนุษยนิยม

1 เพื่อควบคุมบุคลิกภาพของแต่ละคน

2 เพื่อเน้นธรรมชาติภายในของผู้คน

3 เพื่อสร้างบุคลิกภาพของแต่ละคน

4 เพื่อเปลี่ยนบุคลิกภาพของแต่ละคน

ตอบ 2 จากคําอธิบายในประโยคแรกของเนื้อเรื่อง “…..to focus attention on allowing the

individuals inner nature…” มุ่งความสนใจธรรมชาติภายในของแต่ละคน ทฤษฎีมนุษย นิยมเน้นให้สังคมปล่อยให้คนปลดปล่อยธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ภายในของตนเอง

59 Which of the following can be inferred from the passage?

1 Parents should make children study lessons without asking their opinion

2 People should be in a controlled environment.

3 People should be in an environment that allows them to develop their interests.

4 All are correct

ถาม สามารถสรุปจากเนื้อเรื่องว่าอะไร

1 พ่อแม่ควรให้ลูกเรียนบทเรียนโดยไม่ต้องถามความคิดเห็น

2 ผู้คนควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม

3 ผู้คนควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนา ความสนใจได้

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 เนื้อเรื่องต้องการพูดถึง ผู้คนควรได้ทําในสิ่งที่พวกเขาสนใจด้วยตัวพวกเขาเอง

60 The author mentions that people will be more productive by _____

1 being encouraged to express themselves the way they are

2 doing what they want

3 being encouraged to express themselves the way they are and doing what they want

4 being in a controlled environment

ถาม ผู้เขียนกล่าวว่าผู้คนจะมีประสิทธิผลโดย _____

1 ได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกในแบบที่ตนเป็น

2 ทําในสิ่งที่ต้องการ

3 ได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกในสิ่งที่ตนเป็นและทําในสิ่งที่ตนต้องการ

4 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม

ตอบ 3 ถูกทั้ง 1 และ 2 รวมกันในตัวเลือกที่ 3

 

Part II : Unseen Passages : Directions: Read the following passage. Then blacken for a true statement, and blacken (2) for a false statement. (1=True; 2=False)

(คําสั่ง: อ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้ ถ้าเป็นข้อความที่ถูกต้องให้ระบาย 1 ถ้าเป็นข้อความที่ผิดระบาย 2)

The president of Haiti’s highest court has died, Haitian President Jovenel Moise confirmed in a tweet Wednesday.

Supreme Court Judge Rene Sylvestre, who had tested positive for COVID-19, died Wednesday at the University Hospital of Mirebalais.

“The news of the death deeply saddens me, all members of the judiciary,” Moise said.

‘He described Sylvestre, who also served as head of the Superior Council of Judicial Power, the administrative arm of the judiciary and its highest state institution, as “a statesman, a faithful servant of the Republic.”

Jacques Letang, president of the Haitian Bar Federation, said Sylvestre’s death presents

nal crisis,” for the 12-member Supreme Court, now reduced to six and already undergoing a crisis, as well as for the Superior Council of Judicial Power.

Sylvestre, who was 58, is the latest high-profile Haitian personality to succumb to the deadly coronavirus in Haiti, where the government has yet to issue a shot of any COVID-19 vaccine, and a deadly surge is leading to increased infections and deaths. It remains unclear when vaccines will arrive.

ประธานาธิบดีไฮติ โจเวแนล มัวเช่ ได้กล่าวยืนยันในทวิตเตอร์ เมื่อวันพุธว่า “ประธานศาลฎีกาของไฮติ เสียชีวิตลงแล้ว”

ผู้พิพากษาศาลสูงสุด เรเน่ ซิลเวสเตอร์ ได้ติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตลงเมื่อวันพุธ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย มิเรบัลเรียส

มัวเช่ กล่าวว่า “ข่าวการเสียชีวิตดังกล่าวสร้างความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อข้าพเจ้าและบรรดาคณะตุลาการ”

มัวเช่ บรรยายถึง ซิลเวสเตอร์ว่า ซิลเวสเตอร์นอกจากจะทําหน้าที่ในตําแหน่งหัวหน้าสภาตุลาการสูงสุด เป็น ตุลา การศาลปกครองแล้ว เขายังทำหน้าที่สถาบันสูงสุดคือ รัฐบุรุษ ผู้รับใช้ชาติสาธารณรัฐแห่งนี้ อันควรค่าแก่การเคารพ

ปอร์โต แปรงซ์ ประธานสมาพันธ์นักกฎหมายแห่งไฮติ กล่าวว่า “การเสียชีวิตของซิลเวสเตอร์ บ่งบอกถึง วิกฤต ทางสถาบันครั้งใหญ่ จํานวนสมาชิกศาลสูงสุด 12 คน ขณะนี้ลดลงเหลือ 6 คน และยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต เช่นเดียวกับ สภาสูงของตุลาการอีกด้วย

ซิลเวสเตอร์ในวัย 58 ปี บุคคลผู้เป็นแบบอย่างอันทรงเกียรติของไฮติ ต้องยอมจํานนต่อเชื้อโคโรน่าไวรัสที่รุนแรง ในไฮติ โดยที่รัฐบาลยังไม่ได้ออกวัคซีนป้องกันโควิด-19 ใด ๆ เลยและอัตราการตายที่เพิ่มขึ้น จนนําไปสู่ภาวะติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และก็ยังมีทีท่าไม่ชัดเจนว่าวัคซีนจะมาถึงอีกเมื่อไร

 

61 Sylvestre’s nationality is Haitian.

ถาม สัญชาติของซิลเวสเตอร์คือ ซาวไฮติ

ตอบ 1 จากบทความในย่อหน้าที่ 4 ซิลเวสเตอร์รับตําแหน่งเป็นรัฐบุรุษของประเทศไฮติ แสดงว่าเขาต้องมี

สัญชาติเป็นชาวไฮติ

62 Sylvestre was unable to overcome the disease.

ถาม ซิลเวสเตอร์ไม่สามารถเอาชนะโรคดังกล่าวได้

ตอบ 1 จากบทความย่อหน้าที่ 6 กล่าวว่า เขาต้องยอมจํานน (succumb) ต่อเชื้อโคโรน่าไวรัสที่รุนแรง

แสดงว่าเขาพ่ายแพ้ติดโรคโควิด – 19

63 Sylvestre is a high-profile Haitian personality.

ถาม ซิลเวสเตอร์เป็นบุคคลตัวอย่างที่ทรงคุณค่าของไฮติ

ตอบ ตามเนื้อเรื่องย่อหน้าที่ 6 บรรทัดที่ 1

64 Four persons are mentioned by name in this passage.

ถาม ในบทความเรื่องมีบุคคล 4 คนที่ถูกกล่าวถึง

ตอบ 2 บุคคลที่บทความกล่าวถึงได้แก่ 1 ประธานาธิบดี โจเวเนล 2 ผู้พิพากษาสูงสุด เรเน่ ซิลเวสเตอร์

3 ปอร์โต แปรงซ์ จึงกล่าวผิด

65 Sylvestre is a novelist, an activist, and also a politician.

ถาม ซิลเวสเตอร์เป็นนักเขียนนวนิยาย นักเรียกร้อง และยังเป็นนักการเมืองด้วย

ตอบ 2 จากเนื้อเรื่อง ซิลเวสเตอร์ ดํารงตําแหน่ง หัวหน้าสภาสูงสุดของตุลาการ , ตุลาการศาลปกครอง และ

รัฐบุรุษ จึงตอบผิด

66 Sylvestre died a few days after receiving a COVID-19 vaccine shot.

ถาม ซิลเวสเตอร์เสียชีวิตลง 2-3 วันหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

ตอบ 2 ในบทความไม่ได้อธิบายถึงการเริ่มป่วยได้แต่บอกเชื้อโควิดเป็นบวก ตามย่อหน้าที่ 2 และในบทความ

ไม่ได้กล่าวถึงการที่ซิลเวสเตอร์ได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือไม่

67 Moise is described as “a statesman, a faithful servant of the Republic.”

ถาม มั่วเช่ ถูกกล่าวถึงว่าเป็นรัฐบุรุษ เป็นผู้รับใช้สาธารณรับ น่าเคารพนับถือ

ตอบ 2 จากบทความย่อหน้าที่ 4 ผู้พิพากษาสูงสุด เรเน่ ซิลเวสเตอร์ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นรัฐบุรุษของไฮติ

ข้อนี้ไม่ถูก เพราะมัวเซ่ ประธานาธิบดีไฮติ เป็นผู้กล่าวสรรเสริญต่อเรเน่ ซิลเวสเตอร์

68 It can be assumed that Sylvestre had many years in the legal profession.

ถาม พอจะคาดเดาได้ว่า ซิลเวสเตอร์ประกอบอาชีพทางกฎหมายมานานหลายปี

ตอบ 1 จากบทความย่อหน้าที่ 5 ตามความเห็นของ ปอร์โต แปรงซ์ ประธานสมาพันธ์นักกฎหมาย ซิลเวส

เตอร์ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 12 ของศาลสูงสุดในประเทศและเขาอายุ 58 ปีตอนเสียชีวิต จึงถูกต้อง

เพราะเขาน่าจะยึดอาชีพด้านกฎหมายตั้งแต่วัยหนุ่มถึงได้รับเลือกให้เป็นตุลาการศาลสูงสุด

69 Haiti is already moving into a post-pandemic phase thanks to vaccination campaigns.

ถาม ประเทศไฮติเพิ่งจะเข้าสู่ระยะหลังจากโควิดแพร่ระบาด ซึ่งต้องขอบคุณการรณรงค์ฉีดวัคซีน

ตอบ 2 บทความย่อหน้าสุดท้าย “It remains unclear…” ยังไม่ชัดเจนว่าวัคซีนจะมาถึงเมื่อไร แสดงว่า

ชาวไฮติกําลังรอคอยวัคซีน และจากย่อหน้านี้ท่อน “ and a deadly surge is …” และการ เพิ่มขึ้นที่น่ากลัวนําไปสู่การติดเชื้อและเสียชีวิต แสดงว่า ที่ประเทศนี้ยังมีการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ ไม่ใช่ระยะเลิกระบาด

70 This article is most likely to be published on a news website.

ถาม บทความนี้น่าจะถูกพิมพ์เผยแพร่ในเว็บไซค์ข่าว

ตอบ 1 จากบทความมีการอ้างถึง 1 แหล่งข่าว (ผู้ให้ข่าว) 2 สถานที่ (ไฮติ) 3 นําเสนอข้อมูลว่าใคร เป็น

อย่างไร เมื่อไร ทั้งหมดเป็นลักษณะของข่าว (news) มากกว่าลักษณะอื่น

 

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer

for each question.

(คําสั่ง: อ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดสําหรับแต่ละคําถาม)

Passage 1

The more K-pop has become successful, the more the establishment has become interested.  “South Korean business leaders and political leaders were figuring out that they

needed to expand into other areas,” says Yung Lee, a professor of Sociology at the University of California, Berkeley, who has written about K-pop. “The only thing young people especially were talking about was either South Korean drama or South Korean popular music.”

The government started to back the music industry, giving it tax breaks. They gave money to academics to enhance the popularity of the genre, and foreign embassies were promoting the groups. It worked and brought in big business. But, as Lee points out, that wasn’t all.

“The impact, of course, it not in terms of money, but in terms of its popularity and expanding the South Korean influence or soft power abroad.

There’s even a word to describe this wave of Korean culture: Hallyu. And K-pop became central to lots of other profitable industries, like the beauty business.

“For example, cosmetics and plastic surgery and other elements of the beauty industry really rely on K-pop specially to promote this image that if you use these South Korean products and service that you will become attractive, cool, great looking just like these K-pop stars,” says Lee. “The vast majority, I think, of young South Koreans get some form of intervention either in their face or their body, So it’s something that’s really changing … South Korea, and not always for better, I’m afraid.”

It’s resulted, he believes, in a cultural amnesia to traditional Korean society. “It’s : really accelerated in the last couple of decades, and K-pop is part of the process of the massive change in South Korean society,” says Lee.

With that change and the emergence of some serious scandals, the worry is that it could tarnish brand Korea. And that could pose a dilemma for the government

“What can they do? They began to ride this horse, and so they’re almost stuck with it now, and they invested so much prestige about South Korean in K-pop,” says Lee. “So they had no choice at this point but to keep on investing, to keep on trying to flog this horse that they’ve ridden on.”

So, how did K-pop conquer the world? Clever design and brilliant marketing. But there’s more to a K-pop band. It’s an expression of Korean culture, and the government has been more than happy to capitalize on its success.

However, the constituent parts to the K-pop product are people, some as young as 10. They may have to endure so-called “slave contracts” and arduous daily regimes. At its darkest, K-pop culture stands accused of scandals. Not a side of South Korea the government wants to advertise. All this way not be affecting music sales. But it’s a heavy price for conquering the world.

 

ยิ่ง K-pop ประสบความสำเร็จมากเท่าไร การเริ่มต้นก็จะกลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น

คํากล่าวของ ยุง ลี ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย เบอร์คเลย์ได้กล่าวว่า “ผู้นํา ธุรกิจและผู้นําทางการเมืองเกาหลีใต้ กําลังค้นหาในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ศาสตราจารย์ผู้เขียน เกี่ยวกับ K-pop กล่าวอีกว่า “สิ่งเดียวเท่านั้นที่บรรดาวัยรุ่นกําลังพูดคุยกันคือ ละครและเพลง ป๊อบของเกาหลีใต้

รัฐบาลเริ่มต้นหันมามองอุตสาหกรรมดนตรี โดยรัฐบาลไม่คิดภาษี แลtให้เงินสนับสนุนแก่บรรดาสถาบันต่าง ๆ เพื่อให้ความนิยมชมชอบในบรรดากลุ่มวัยต่าง ๆ รวมทั้งสถานทูตในต่างแดนต่างก็ให้การสนับสนุนกลุ่มศิลปิน จนทําให้เกิดภาพธุรกิจขนาดใหญ่ ศาสตราจารย์ลี อธิบายว่า แต่ภาพที่เห็นไม่ได้เป็นไปตามนั้น

เนื่องจากว่า ผลกระทบที่เกิดไม่ใช่เรื่องของเงินทุน แต่เป็นเรื่องของความนิยมชมชอบและการขยายอิทธิพล ของเกาหลีใต้หรือเป็นการแสดงอิทธิพลข้ามชาติอย่างหนึ่ง

กระแสความนิยมต่อวัฒนธรรมเกาหลีจะเกิดขึ้นจริงจนมีคําเรียกชื่อว่า “ อัลยู” ทําให้ K-pop กลายมาเป็น ศูนย์กลางทางธุรกิจที่กําไรส่งผลต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น ธุรกิจความงาม

อาจารย์ลี กล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น เครื่องสําอางและศัลยกรรมพลาสติกรวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ในธุรกิจ อุตสาหกรรมความงาม ต่างพึ่งพาอาศัย K-pop โดยเฉพาะการส่งเสริมภาพลักษณ์ ซึ่งถ้าคุณได้ใช้ผลิตภัณฑ์และ บริการเหล่านี้ของเกาหลีใต้ คุณก็จะกลายเป็นคนมีเสน่ห์ (attractive) ดูสุขุม (cool) ดูรูปร่างที่เหมือนเหล่าบรรดา ดารา K-pop อาจารย์ลีกล่าวอีกว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่คนกลุ่มใหญ่พวกวัยรุ่นเกาหลีใต้รับมาคือการที่ลอกเลียนแบบทั้ง ใบหน้าและรูปร่างของพวกเขา” อาจารย์ลีอธิบายว่า ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเกาหลีใต้จริง ๆ และผมเกรงว่า จะไม่ได้ดีขึ้นเสมอไป

อาจารย์ลี เชื่อว่า “มันเป็นผลมาจาก การมอมเมาทางวัฒนธรรมที่มีผลต่อประเพณีดั้งเดิมของเกาหลีใต้ ซึ่ง เริ่มต้นเร็วขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และ K-pop ก็มีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารต่อสังคมเกาหลีใต้”

ด้วยการเปลี่ยนแปลงและการอื้อฉาว (scandals) ที่ร้ายแรงปรากฏขึ้นจนกลายมาเป็นความกังวลว่าจะเกิด การแปดเปื้อน (tarnish) ต่อวงการเกาหลีและอาจเกิดผลเสียหายต่อรัฐบาล

อาจารย์ลี กล่าวว่า “รัฐบาลจะทําอย่างไร เมื่อพวกเขาเริ่มควบม้า และตอนนี้พวกเขาถูกเหนี่ยวรั้งไว้จากสิ่งที่ พวกเขาได้เริ่ม” รวมทั้งพวกเขาได้ลงทุนอย่างมากมายต่อภาพลักษณ์ของ K-pop เกาหลีใช้ “ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มี ทางเลือก จึงต้องลงทุนต่อไป และพยายามควบคุมม้าตัวนี้เอาไว้ ม้าที่พวกเขาได้กุมบังเหียนไว้”

แล้ว K-pop ยังจะยึดครองโลกอย่างไร? ด้วยการออกแบบอันชาญฉลาดและการทําการตลาดที่ประสบ ความสําเร็จ จึงเกิดวงดนตรี K-pop มากมาย ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมเกาหลี และยังทําให้รัฐบาลมีความสุขที่จะลงทุน เพิ่มมากขึ้นในการหาความสําเร็จจาก K-pop

อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบสําคัญของผลผลิต K-pop ก็คือ ผู้คนที่เริ่มจากวัยรุ่นบางคนอายุเพียง 10 ปี พวก เขาอาจจะต้องทนอยู่กับสัญญาทาสและทนตรากตรํา กับข้อบังคับรายวัน ช่วงเวลาที่มีดมน K-pop ต้องทนต่อถูก ประณามจากเรื่องอื้อฉาว ผลกระทบไม่ได้เกิดต่อฝากฝั่งรัฐบาลที่ต้องการโฆษณา แต่ภาพรวมทั้งหมดนั้นยังไม่มี ผลกระทบต่อยอดขายเพลง ที่สําคัญคือ การทุ่มทุนอย่างหนักเพื่อยึดครองโลก

71 Which of the following titles would best express the main topic of the passage?

1 K-pop debut look back

2 Recruitment regime

3 Streaming culture in K-pop

4 Korean wave

ถาม ชื่อเรื่องใดดังต่อไปนี้น่าจะบอกถึงหัวข้อเรื่องได้ดีที่สุดสําหรับบทความนี้?

1 การเปิดตัวของ K-pop ย้อนหลัง

2 การแสวงหารัฐบาล

3 กระแสนิยมวัฒนธรรม K-pop

4 คลื่นเกาหลี

ตอบ 3 จากบทความช่วงต้น จะเห็นว่า เนื้อหาของบทความพูดถึงความนิยมในละครและเพลงของ K-pop

ในเกาหลี จนเกิดการเป็นวัฒนธรรม K-pop ไปแล้ว ดังนั้น หัวข้อเรื่องที่เหมาะสมของเรื่องนี้คือ กระแสนิยมวัฒนธรรม K-pop

72 Which is incorrect, according to the passage?

1 K-pop is part of the process of the enormous change in South Korean society.

2 The “Korean wave” phenomenon is commonly referred to as “hallyu.”

3 The South Korean government helped K-pop rise to global fame

4 All K-pop stars have to endure slave contracts.

ถาม ตามเนื้อหาของเรื่องแล้ว ข้อใดไม่ถูกต้อง

1 K-pop มีบทบาทต่อกระบวนการการเปลี่ยนแปลงมโหฬารในสังคมเกาหลีใต้

2 ปรากฏการณ์กระแสเกาหลีมักจะถูกเรียกว่า “อัลยู”

3 รัฐบาลเกาหลีใต้ช่วยให้ K-pop เติบโตเป็นกระแสระดับโลก

4 บรรดา ดารา K-pop ทั้งหมดต้องอดทนต่อสัญญาทาส

ตอบ 4 กรณีตัวเลือกในข้อ 1 และ 2 เป็นจริงตามเนื้อหาของเรื่องในย่อหน้าที่ 5 ถึงย่อหน้าที่ 7 ส่วนข้อ 3

เป็นจริงตามย่อหน้าที่9 ยกเว้นข้อ 4 ตามย่อหน้าสุดท้าย ที่ดารา K-pop บางคนต้องทนสัญญาทาส ตั้งแต่อายุ 10 ปี ดังนั้น ดารา K-pop บางคนไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องทนอยู่กับสัญญาทาส

73 Which of the following is mentioned in the article?

1 Government financial assistance

2 Fandom wars

3 K-pop trainee rules

4 Streaming platforms

ถาม ข้อใดต่อไปนี้ได้ถูกอธิบายไว้ในบทความ?

1 ความช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาล ข้อความนี้อยู่ในย่อหน้าที่9

2 สงครามกลุ่มแฟนคลับ ข้อความนี้ไม่พบในบทความ เนื้อเรื่องพูดถึงอิทธิพลของ K-pop ที่ส่งผล

ต่อวัยรุ่นในเรื่องการทํารูปร่างและหน้าตาเหมือน K-pop แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้

3 กฏเกณฑ์ผู้เข้ารับอบรม K-pop ข้อความนี้อยู่ในย่อหน้าสุดท้าย พูดถึง daily regime การมี

ข้อบังคับเป็นประจําต่อศิลปิน K-pop แต่ไม่ได้กล่าวถึงผู้เข้ารับอบรม

4 การสร้างฐานกระแสนิยม ข้อความนี้อยู่ในย่อหน้าสุดท้ายที่รัฐบาลทุ่มเงินเพื่อสร้างยอดขายให้แก่

K-pop แต่ผลนั้นไม่ได้เกิดจากการทุ่มเงินของรัฐบาล

ตอบ 1 เป็นเพียงข้อเดียวที่เนื้อหาอธิบายไว้ในบทความ

74 How many countries are mentioned by name in this article?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ในบทความนี้มีกี่ประเทศที่ได้เอ่ยถึงชื่อในบทความ

ตอบ 1 ในบทความนี้มีชื่อประเทศ South Korea และชื่อเมืองแคลิฟอร์เนีย แต่ไม่ระบุชื่อประเทศ

จึงตอบมีชื่อประเทศเดียวคือ เกาหลีใต้

75 Who is Mr. Lee?

1 A human rights activist

2 A music critic

3 A Journalist

  1. A teacher

ถาม มิสเตอร์สี เป็นใคร?

1 นักเรียกร้องสิทธิมนุษยชน 2 นักวิจารณ์เพลง 3 นักข่าว 4 ครู อาจารย์

ตอบ 4 จากบทความ ยุงลี เป็นศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบอร์คเลย์ นั่น

แสดงว่าเป็น อาจารย์ (teacher)

76 Which of the following is considered a type of soft power?

1 South Korean popular culture

2 South Korean popular music

3 South Koran drama

4 All are correct

ถาม ข้อใดดังต่อไปนี้ถูกมองว่าเป็นรูปแบบอิทธิพลข้ามชาติอย่างหนึ่ง?

1 วัฒนธรรมยอดนิยมเกาหลีใต้ 2 เพลงยอดนิยมเกาหลีใต้ 3 ละครเกาหลีใต้

4 ถูกหมดทุกข้อ

ตอบ 4 จากบทความช่วงย่อหน้าที่ 2-4 นั้น สิ่งที่กลายมาเป็นวัฒนธรรม K-pop คือ เพลงและละคร รวมถึงการขยายความนิยมชมชอบในวัฒนธรรมของเกาหลีด้วย จึงตอบถูกทุกข้อ

77 Which of the following is considered a profitable industry, according to the passage?

1 The wedding business,

2 The cosmetics business

3 The rental business

4 The rubber business

ถาม ตามเนื้อหาของเรื่องแล้ว ข้อใดดังต่อไปนี้ถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ทํากําไร?

1 ธุรกิจการแต่งงาน

2 ธุรกิจเครื่องสําอาง

3 ธุรกิจการเช่าซื้อ

4 ธุรกิจยางพารา

ตอบ 2 ในย่อหน้าที่ 5 – 6 นั้น อธิบายถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับอานิสงฆ์จากอุตสาหกรรม K-pop จนมีกําไร

อย่างเช่น ธุรกิจความงาม อันได้แก่ เครื่องสําอาง (cosmetic) และศัลยกรรมพลาสติก (plastic

surgery) จึงตอบธุรกิจเครื่องสําอางค์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมทํากําไรของเกาหลีใต้

78 Overall, what mood is portrayed in the article?

1 Panic-stricken

2 Picky

3 Curious

4 Concerned

ถาม โดยภาพรวมแล้ว ในบทความนี้ได้บรรยายลักษณะอารมณ์อย่างไร

1 ตื่นตระหนัก-โศกเศร้า

2 เรื่องมาก/จู้จี้

3 อยากรู้อยากเห็น

4 กังวล /ห่วงใย

ตอบ 4 กรณีคําถามข้อนี้ต้องไปดูประโยคแสดงความคิดเห็น (opinion statement) ซึ่งบทความนี้มี

ความเห็นมากกว่าข้อเท็จจริง (facts) แต่มีอยู่ท่อนหนึ่งที่แสดงความรู้สึกชัดเจนคือ ย่อหน้าที่ 10 “So they had no choice…” “ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก คงต้องลงทุนต่อไป เพื่อที่จะควบ ม้าตัวนี้” จากประโยคสะท้อนให้เห็นว่า ผู้เขียนรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจกับสิ่งที่เกิด จึงตอบ concerned = เป็นกังวล ห่วงใย

79 The word “tarnish” (in bold type) is closest in meaning to ______

1 downgrade

2 confine

3 defame

4 complicate

ถาม คําว่า “tarnish” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ______

1 ด้อยกว่า /ค่าน้อยลง 2 จํากัด/มีขอบเขต 3 ทําให้เสื่อมเสีย 4 ทําให้ลําบาก ซับซ้อน

ตอบ 3 “tarnish” = defame = ทําให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย

80 What does “they” (in bold type) refer to?

1 The commentators

2 The government

3 The K-pop fans

4 The K-pop stars

ถาม คําว่า “they” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง _____

1 นักวิจารณ์ 2 รัฐบาล 3 กลุ่มแฟน K-pop 4 เหล่าดารา K-pop

ตอบ 2 สรรพนามคําว่า “they” ในย่อหน้าที่ 9 เมื่อหาการเชื่อมโยงแล้วภายในย่อหน้าที่ 9 ไม่มีกลุ่มคําใดที่

กล่างอ้างถึงได้ จึงต้องอ่านถอยหลังกลับไปในย่อหน้าที่ 8 เพื่อคาดเดาว่า “พวกเขา” หมายถึงใคร? จนไปพบว่าสรรพนามคําว่า “they” ที่กล่าวซ้ํา ๆ ในย่อหน้าที่9 หมายถึง รัฐบาลในย่อหน้าที่ 8 เพราะผู้เขียนกําลังเปรียบเปรยว่า รัฐบาลลงทุนเหมือนขึ้นขี่ม้า

81 The word “arduous” (in bold type) is closest in meaning to _____

1 laborious

2 provoking

3 retiring

4 saturated

ถาม คําว่า “arduous” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 ลําบาก, ตรากตรํา 2 ยั่วยวน, เร้าใจ 3 เกษียณ, ออกจากงาน 4 อิ่มตัว

ตอบ 1 จากบริบทของบทความในย่อหน้าสุดท้าย จะมีคําเชื่อม …and…. ดังนั้น “arduous” จึงมี

ความหมายในทางเดียวกับคําคู่ขนายคือ slave contracts = สัญญาทาส ซึ่งหมายถึง การใช้ แรงงาน, ตรากตรํา จึงตรงกับ laborious ลําบาก, ตรากตรํา

Passage 2

(1) One rescuer was killed and more than 60 people injured in an overnight explosion and inferno at a chemical factory that continued to send back smoke into the sky over Bang Phli district of Samut Prakan late into Monday afternoon.

(2) Helicopters, some from the army, were called in to help firefighters spray flame retardant foam over the burning Ming Dih Chemical Co. factory complex. .

(3) They were battling to keep the advancing flames away from further stores of chemicals at the site, and prevent another explosion

(4) Authorities warned of toxic fumes being generated by the burning chemicals.

(5) Rescue foundations reported one of their firefighters was killed by the fire and 12 others were injured. Fifty other people were also hurt.:

(6) The initial explosion, which was felt nine kilometres away, damaged 73 houses and 15 cars in a nearby neighbourhood.

(7) Thai Rath identified the dead victim as Kornsith Laophan, 18, who was killed as he and other volunteers were fleeing flames surging from a store of chemicals. He stumbled and was overtaken by the fire.

(8) The Taiwanese-owned factory manufactures plastic foam and pellets.

(9) The Disaster Prevention and Mitigation Department said the inferno began with an explosion about 3:20 a.m. What set it off was not known.

(10) Homes, within a five-kilometre radius were evacuated amid fears of further explosions of the reported 50 tonnes of chemicals stored at the premises.

(11) Firefighters and helicopters were reportedly trying to defend one particular area that held 20,000 litres of chemicals.

(12) Pollution Control Department Director-General Attapol Charoenchansa warned people that styrene monomer fumes from the blaze were carcinogenic

(13) The fire was about 10 kilometres from Suvarnabhumi airport, and the black smoke rising above the fire was clearly visible from there. However, airport deputy managing director Krittiya Konthong said tights were not being attected.

 

(1) นักกู้ภัยคนหนึ่งเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ (injured) มากกว่า 60 คน จากเหตุการณ์การระเบิด (explosion) และเพลิงเผาไหม้ ในช่วงกลางดึกของโรงงานสารเคมีแห่งหนึ่ง การระเบิดยังได้ส่งกลุ่มควันพุ่งขึ้นสู่ ท้องฟ้าย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปรากการ จนบานปลายเข้าสู่ช่วงบ่ายของวันจันทร์

(2) เฮลิคอปเตอร์จากกองกําลังทหารถูกขอความช่วยเหลือนักผจญเพลิงเพื่อระดมพ่นครอบคลุมพื้นที่ด้วย โฟมเพื่อหยุดการไหม้โรงงานสารเคมี หมิงตี้ คอมเพล็กซ์

(3) พวกนักผจญเพลิง (They) กําลังต่อสู้กับเพลิงที่ลุกลามไปทั่วโกดังของโรงงานและป้องกันการระเบิดเพิ่ม อีก

(4) บรรดาเจ้าหน้าที่เตือน การฟังละอองพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้สารเคมี

(5) มูลนิธิกู้ภัยรายงานว่า หนึ่งในนักผจญเพลิงเสียชีวิตจากไฟไหม้ และอีก 12 คนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง บุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บอีก 50 ราย

(6) บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดนั้น กินพื้นที่ออกไป 9 กิโลเมตร ทําลายบ้านเรือน 73 หลัง และรถยนต์ 15 คัน ในระแวกเพื่อนบ้าน

(7) ไทยรัฐระบุว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตคือ กรสิทธิ์ เหล่าพันธ์ อายุ 18 ปี เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัคร (volunteer) พร้อมเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่พยายามหนีรอดออกจากเพลิงที่ประทุขึ้น (surging) จากโกดังสารเคมี กรสิทธิ์ถูกห้อมล้อมและปกคลุมจากไฟไหม้

(8) เจ้าของโรงงานผู้ผลิตโฟมและเมล็ดพลาสติกเป็นชาวไต้หวัน

 

(9) หน่วยบรรเทาและป้องกันสาธารณภัยได้กล่าวว่า เปลวไฟนรก (infernos) เริ่มระเบิดขึ้นประมาณ 3 นาฬิกา 20 นาที และยังไม่ทราบว่าอะไรทําให้เกิดขึ้น

(10) บ้านในรัศมี 5 กิโลเมตรต่างถูกอพยพด้วยเกรงว่าการระเบิดอาจจะเกิดอีก ซึ่งตามรายงานมีสารเคมีที่ เก็บไว้ในโรงงานตามข้อสมมติฐาน (premises) น่าจะ 50 ตัน

(11) นักผจญเพลิงและเฮลิคอปเตอร์ต่างพยายามที่จะป้องกันพื้นที่เจาะจงส่วนหนึ่ง ซึ่งตามรายงานน่าจะเก็บ สารเคมีไว้ 20,000 ลิตร

(12) ผู้อํานวยการทั่วไปศูนย์ควบคุมมลภาวะ นายอํานวย เจริญชันษา ได้เตือนผู้คนว่า ละอองฝุ่นมีขนาด เป็นอนูเล็กจากเปลวเพลิงนั้นเป็นสารก่อมะเร็ง

(13) ไฟไหม้กินพื้นที่ประมาณ 10 กิโลเมตรจากสนามบินสุวรรณภูมิ และกลุ่มควันดําที่ลอยขึ้น สามารถ มองเห็นได้ระยะไกลจากสนามบิน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้อํานวยการฝ่ายจัดการสนามบินแจ้งว่า เพลิงไหม้นั้นไม่ส่งผลต่อการบิน

82 The main idea of the passage is in paragraph ______

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ใจความสําคัญของบทความนี้อยู่ในย่อหน้าใด

ตอบ 1 บทความนี้เป็นการเล่าข่าว ดังนั้นการพาดหัวข่าว หรือการกําหนดประเด็นสําคัญจะอยู่ในช่วงต้นบทความเนื่องจากในย่อหน้าถัดไป ข่าวจะเล่าถึงรายละเอียดของหัวข้อรวมทั้งประเด็นไปเรื่อย ๆ จนจบข่าว ดังนั้น ใจความสําคัญ (main idea) จึงถูกกําหนดไว้ในย่อหน้าที่ 1

83 Which of the following is mentioned in the article?

1 50 tonnes of chemicals were reported to be stored in the factory compound.

2 Owners of houses damaged by the explosion and fire were advised to register a complaint with police.

3 The Taiwanese-owned factory can produce 30,000 tonnes of plastic foam and

pellets a year.

4 The factory is a hub for distributing the products to domestic markets and exporting

them to neighboring countries.

ถาม ในบทความนี้ ข้อใดดังต่อไปนี้ถูกอธิบายเอาไว้?

1 ตามรายงานแล้วมีสารเคมี 50 ตันที่เก็บไว้ในโรงงานประกยบแห่งนี้

ข้อนี้เป็นจริงตามเนื้อเรื่องของเรื่อง ย่อหน้าที่ 10

2 บ้านเจ้าของโรงงานผูกระเบิดทําลายและถูกไฟไหม้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ :

ข้อความนี้ไม่พบข้อมูลในเรื่องเลย

3 เจ้าของโรงงานชาวไต้หวันสามารถผลิตโฟมและเม็ดพลาสติกได้ปีละ 30,000 ตัน

จากบทความในย่อหน้าที่ 10-11 สารเคมีมีปริมาณ 50 ตัน และพื้นที่บางส่วนเก็บไว้ 20,000 ลิตร

4 โรงงานดังกล่าวเป็นศูนย์กลาง (hub) ในการอัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดภายในประเทศ

(domestic) และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ข้อมูลนี้ไม่ปรากฏในเนื้อหาของเรื่องเลย

ตอบ 1 เป็นข้อมูลที่เนื้อหาได้อธิบายไว้ในบทความ

84 Which is correct, according to the passage?

1 A huge explosion and fire caused extensive damago surrounding communities.

2 Some flights were delayed because of an overnight explosion and inferno.

3 The cause of the explosion was not known.

4 More than 60 people were confirmed injured.

ถาม ตามเนื้อหาของเรื่อง ข้อใดถูกต้อง

1 การระเบิดและไฟไหม้ขนาดใหญ่ขยายความเสียหายไปยังชุมชนโดยรวม

ข้อความนี้พบได้ในย่อหน้าที่ 6 จากจุดระเบิดกินพื้นที่ออกไป 9 กิโลเมตร บ้านเรือนเสียหาย

73 หลัง

2 เที่ยวบินบางเที่ยวถูกเลื่อนเพราะเกิดระเบิดและเปลวเพลิงยาวนานข้ามคืน

จากย่อหน้าสุดท้าย ผู้อํานวยการฝ่ายสนามบิน ยืนยันว่าไม่มีผลต่อเที่ยวบิน

3 สาเหตุของการระเบิดนั้น จะไม่ทราบสาเหตุ

จากย่อหน้าที่ 9 ที่ยังไม่ทราบคือ อะไรทําให้เกิดการระเบิดขึ้น

4 มีผู้บาดเจ็บยืนยันแล้วมากกว่า 60 ราย

จากย่อหน้าที่ 1 และย่อหน้าที่ 5 ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและคนทั่วไปได้รับบาดเจ็บรวมแล้ว 62 ราย

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก ถ้าถามว่าข้อใดไม่ถูกต้องก็ตอบข้อ 2 เพราะไม่ตรงกับข้อมูลในเรื่องแต่ถ้าถามว่าข้อใด

ถูกจะมีข้อถูกคือ 3 ข้อ คือ ข้อ 1, 3 และ 4

85 According to the passage, residents in Samut Prakan province who live within a five

kilometre radius of the factory were evacuated amid concerns over the possibility of additional _____

1 chemicals

2 detonations

3 fire fighters

4 firewalls

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรปราการภายในรัศมี 5 กิโลเมตร ถูกอพยพท่ามกลางความ

กังวลว่ามีแนวโน้มเรื่องใดที่จะเกิดเพิ่มอีก

1 สารเคมี 2 การระเบิด 3 นักผจญเพลิง 4 ด่านกักกัน

ตอบ 2 จากบทความย่อหน้าที่ 10 บ้านเรือนในรัศมี 5 กิโลเมตรถูกอพยพท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิด

การระเบิด (explosion) เพิ่มขึ้นอีก คําว่า detonations = explosion = การระเบิด

86 Who is Kornsith? .

1 A victim

2 A rescuer

3 A firefighter

4 All are correct

ถาม กรสิทธิ์ คือใคร?

1 เหยื่อ, ผู้เคราะห์ร้าย 2 นักกู้ภัย 3 นักผจญเพลิง 4 ถูกหมดทุกข้อ

ตอบ 4 จากบทความในย่อหน้าที่ 5 และ 7 นั้น กรสิทธิ์เป็นนักผจญเพลิง, เป็นอาสาสมัครกู้ภัย, และ

เสียชีวิตตกเป็นเหยื่อของไฟไหม จึงตอบถูกหมด

87 The industrial chemical name is mentioned in paragraph

1 2

2 3

3 7

4 12

ถาม ชื่อโรงงานสารเคมีที่ถูกอธิบายไว้อยู่ในย่อหน้าใด

ตอบ 1 ในย่อหน้าที่ 2 พบชื่อโรงงานที่เกิดการระเบิดขึ้น คือ “Ming Dih Chemical Cc. Factory

Complex” จึงตอบย่อหน้าที่ 2 เพราะปรากฏชื่อโรงงาน

88 Where is this article most likely to be published?

1 Journals

2 Bulletins

3 Billboards

4 Newspapers

ถาม บทความนี้น่าจะพิมพ์เผยแพร่ที่ใด?

1 วารสาร 2 ประกาศ 3 ป้ายโฆษณา 4 หนังสือพิมพ์

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 7 ปรากฏชื่อ Thai Rath ซึ่งเป็นชื่อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นไปได้ว่าปรากฏ

ในหนังสือพิมพ์

89 The writer’s purpose is to ____

1 encourage people to evacuate

2 make suggestions

3 report facts

4 compel readers to take action

ถาม จุดประสงค์ของผู้เขียน คือ เพื่อ _____

1 สนับสนุนให้ผู้คนอพยพ

2 ให้ข้อเสนอแนะ

3 รายงานข้อเท็จจริง

4 โน้มน้าวให้ผู้อ่านลงมือกระทํา

ตอบ 3 ลักษณะของบทความเป็นการนําเสนอข่าวโดยเล่าข่าวว่าเกิดอะไร ที่ไหน มีจํานวนผู้ตายและ

บาดเจ็บเท่าไร จึงเป็นการรายงานข้อเท็จจริง (facts)

90 The word “fleeing” (in bold type) is closest in meaning to _____

1 standing

2 leaving

3 taking on

4 soaking

ถาม คําว่า “fleeing” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 ยืน, ทนอยู่ 2 ละทิ้ง, ย้ายหนี 3 ดําเนินไป 4 แช่ไว้, ทําให้เปียกชุ่ม

ตอบ 2 จากบริบทในย่อหน้าที่ 7 “….Volunteers were feeling flames surging from…..”

อาสาสมัครคนอื่น ๆ กําลังหนีรอดจากเปลวเพลิงที่ประทุขึ้น ฉะนั้น feeling = eaving = ละทิ้ง หนี

91 The word “he” (in bold type) refers to _____

1 the Taiwanese

2 the dead victim

3 the volunteer

4 Attapol Charoenchansa

ถาม คําว่า “he” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง _____

1 ชาวไต้หวัน 2 เหยื่อผู้เสียชีวิต 3 อาสาสมัคร 4 อรรถพล เจริญชันษา

ตอบ 2 อ้างอิงถึง กรสิทธิ์ เหล่าพันธ์ คือ อาสาสมัครกู้ภัยผู้เป็นเหยื่อเสียชีวิตจากไฟล้อมตัวเขา

92 The word “premises ” (in bold type) is closest in meaning to _____

1 sites

2 carriages

3 shelves

4 camps

ถาม คําว่า “premises ” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 สถานที่ 2 รถม้า 3 ชั้นวาง 4 ค่าย

ตอบ 3 premises = sites = สถานที่ ทําเล ที่ตั้ง

 

Passage 3

To the surprise and disbelief of many surgeons and anesthesiologists, some anesthetized patients may comprehend enough of what is said during surgery to affect their recovery.

“The patient’s memories are of a special sort,” said Henry Bennett, a psychologist at the University of California at Davis. Language understanding may continue while a person is under anesthesia, even though explicit recall does not.

Perhaps the most telling research at St. Thomas’s Hospital in London has found that anesthetized patients recovered faster when given positive suggestions. One group was told, “You’ll want to get out of bed to help your body recover earlier.” Carlton Evans of the Department of Psychiatry at St. Thomas’s, reports that this group recovered earlier and had fewer complications than a comparison group.

Not all studies have yield the same results, and some doctors are skeptical. The effect is subtle, but Bennett and others warn that thoughtless remarks may have farreaching consequences. Ideally, the surgeon should make positive statement like “You’ll: be feeling well soon,” said Bennett.

ศัลยแพทย์และแพทย์ดมยา (anesthesiologist) ต้องแปลกใจและไม่เชื่อว่าผู้ป่วยที่ดมยาสลบ บางคนอาจจะเข้าใจในสิ่งที่มีการพูดคุยระหว่างการทําศัลยกรรม จนส่งผลต่อการฟื้นตัว (recovery) ของผู้ป่วย

เฮนรี่ เบนเน็ต นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ณ. เมืองเดวิส กล่าวว่า “ความทรงจําของผู้ป่วยถือเป็นสิ่งพิเศษ” ความเข้าใจภาษาอาจจะบังเกิดต่อเนื่อง แต่ในขณะที่คนไข้คนหนึ่งยังคงสลบจากยา ถึงแม้นว่า ความทรงจําความคิดจะไม่ได้เปิดเผยออกมา

ผู้วิจัยแห่งโรงพยาบาลเซ็นต์โทมัส ในกรุงลอนดอนส่วนใหญ่ที่กล่าวอ้างนั้น ให้ความเห็นว่า “คนไข้ที่ถูกดมยาสลบจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเมื่อได้รับคําแนะนําในเชิงบวก ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งได้รับการบอกกล่าวว่า “คุณจะต้องลุก จากเตียงเพื่อช่วยให้ร่างการของคุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น” คาร์ลตัน อีแวน แผนกจิตเวชของโรงพยาบาลโทมัส รายงานว่า คนไข้กลุ่มนี้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและไม่มีอาการแทรกซ้อน (complication) เมื่อเทียบกับกลุ่มเปรียบเทียบ

งายวิจัยบางงานให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน รวมทั้งแพทย์บางคนก็ยังสงสัย (skeptical) ผลที่ได้นั้นยังไม่ชัดเจน (subtle) แต่เบนเน็ทและคนอื่น ๆ ออกมาเตือนว่า “ประเด็นของการวิเคราะห์ที่น้อยอาจจะทําให้เข้าถึง ผลลัพธ์ได้น้อย” เพราะโดยความจริงแล้ว ศัลยแพทย์ควรจะใช้ข้อความด้านบวก เช่น “คุณจะรู้สึกดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้”

93 Which one of the following statements about some patients under anesthetics is

correct?

1 They recover quickly from a brief loss of consciousness.

2 They comprehend and remember some things said.

3 They reply to the anesthesiologist’s questions.

4 All are correct .

ถาม : ข้อความใดต่อไปนี้เกี่ยวกับคนไข้ที่ดมยาสลบอยู่ อธิบายได้ถูกต้อง?

1 คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการสูญเสียสติในช่วงสั้น ๆ

2 คนไข้เข้าใจและจดจําเรื่องบางเรื่องที่พูดได้

3 คนไข้ตอบกลับาคําถามของแพทย์ดมยาได้

4 ถูกหมดทุกข้อ

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าที่ 1 และ 2 ตามความเห็นของเบนเน็ท จิตแพทย์ได้อธิบายว่าคนไข้เข้าใจ

ภาษาและจดจําได้ ภายใต้การดมยาสลบ จากตัวเลือกข้อ 1 – 3 เป็นข้อมูลที่ตรงกับเนื้อหาในเรื่อง

94 Who is Mr. Bennett?

1 An anesthesiologist

2 A doctor

3 A surgeon

4 A psychologist

ถาม มิสเตอร์เบนเน็ท เป็นใคร?

1 แพทย์ดมยา 2 แพทย์ 3 ศัลยแพทย์ 4 นักจิตวิทยา

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 2 Henry, Bennett, a psychologist at University of California

at Davis, จึงตอบเป็นนักจิตวิทยา

95 Which of the following medical fields does this story seem to describe?

1 Nutritional medicine

2 Forensic medicine

3 Modern medicine

4 Chiropractic medicine

ถาม แพทย์สาขาใดดังต่อไปนี้ในเนื้อเรื่องน่าจะอธิบายถึง

1 แพทย์ด้านโภชนาการ 2 แพทย์ด้านนิติเวช 3 แพทย์สมัยใหม่

4 แพทย์ด้านจัดกระดูก

ตอบ 3 จากบทความย่อหน้าที่ 1 จะพบแพทย์ 2 สาขาคือ ศัลยแพทย์ (surgeon) และแพทย์ดมยา

(anesthesiologist) จะเห็นว่าไม่มีตัวเลือกใดตรงกับข้อมูลในเรื่อง แต่แพทย์ทั้ง 2 สาขานั้น เป็นแพทย์สมัยใหม่ น่าจะเป็นตัวเลือกข้อ 3 ดีที่สุด

96 Overall, which mood is portrayed in this passage?

1 Hopeless

2 Skeptical.

3 Informative

4 Dismissive

ถาม โดยภาพรวมแล้ว ในบทความนี้ถ่ายทอดอารมณ์แบบใด?

1 สิ้นหวัง

2 สงสัย

3 เชิงแสดงสาระ/ข้อมูล

4 โต้แย้ง / ไม่เห็นด้วย

ตอบ 4 จากความเห็นในย่อหน้าสุดท้าย เป็นความเห็นกระทบกระทั่ง ว่าไม่เห็นด้วยกับบรรดาศัลยแพทย์

ที่ไม่ใคร่ครวญหรือตระหนักถึงตัวคนไข้ ดังนั้นอารมณ์น่าจะไม่เห็นด้วย กับความเห็นของคนอื่น ๆ

(dismissive)

97 How many healthcare occupations are mentioned in this passage?

1 2

2 3

3 4

4 5

ถาม ในบทความเรื่องนี้มีอาชีพที่ดูแลด้านสุขภาพที่ถูกกล่าวถึงไว้จํานวนเท่าไร

ตอบ 3 ในบทความปรากฏอาชีพที่ดูแลสุขภาพ 4 อาชีพคือ

1 surgeon = ศัลยแพทย์

2 anesthesiologist = แพทย์ดมยา

3 psychologist = นักจิตวิทยา

4 Psychiatrist = นักจิตแพทย์

98 How many encouraging words for patients are mentioned in this passage?

1 2

2 3

3 4

4 5

ถาม ในบทความนี้ ได้อธิบายถึงคําพูดให้กําลังใจคนไข้จํานวนกี่ข้อความ?

ตอบ 1 ในย่อหน้าที่ 3 มีหนึ่งคําพูดคือ “You’ll want to …” คุณจะต้องลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะช่วย

ให้คุณฟื้นตัวเร็วขึ้น และในย่อหน้าสุดท้าย คําพูดที่ว่า “You’ll be feeling …” คุณจะรู้สึก ดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ จึงพบ 2 ข้อความ

99 Where is this article most likely to be published?

1 Billboards

2 Newspapers

3 Memoirs

4 Novels

ถาม บทความนี้น่าจะถูกพบเผยแพร่ในที่ใด

1 ป้ายโฆษณา 2 หนังสือพิมพ์ 3 บันทึก 4 นิยาย

ตอบ 2 ลักษณะการอธิบายเป็นการให้ข้อมูล (information) เกี่ยวกับคนไข้ที่ดมยาสลบ

แต่ยังจดจําและเข้าใจสิ่งที่พูดคุยกันได้ในระหว่างผ่าตัด ข้อที่ใกล้เคียงและเป็นไปได้มากที่สุด คือ หนังสือพิมพ์เพระข้ออื่นๆ เป็นไปไม่ได้และไม่เหมาะสมกับบทความ

100 The word “results” in bold type is closest in meaning to

1 affections

2 reactions

3 strategies

4 disorders

ถาม คําว่า “results” ในตัวพิมพ์หนา มีความหมายใกล้เคียงกับ

1 ความเสน่หา, ความรัก

2 การตอบสนอง ผลสะท้อนกลับ

3 กลยุทธ์

4 ความผิดปกติ

ตอบ 2 จากบทวามในย่อหน้าสุดท้ายคําว่า “results” มีความหมายเหมือนกับ “consequences”

ผลลัพธ์, ผลที่เกิด คํา reactions เป็นข้อที่ใกล้เคียงที่สุดกับคําว่า “results” ผลลัพธ์ การตอบสนอง

 

ENG2002 การอ่านตีความ เตรียมสอบ 2/2563

ข้อสอบสําหรับเตรียมสอบภาค 2 ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 2002 การอ่านตีความ

Part I: Seen Passages ส่วนที่ 1 : เนื้อเรื่องในตํารา

A: Directions: Read the following statements. Then blacken 1 for a true

statement, and blacken (2) for a false statement. (1=True; 2=False)

(คําสั่ง : ให้อ่านข้อความต่อไปนี้ ถ้าถูกให้ตอบข้อ 1 ถ้าผิดให้ตอบข้อ 2)

1 Skimming is a reading technique that helps you get a general idea of a passage by reading every word.

ถาม การอ่านแบบสแกนนิ่งเป็นเทคนิคการอ่านช่วยให้คุณได้รับใจความสําคัญโดยทั่วไปของเนื้อเรื่อง

โดยการอ่านทุกคํา

ตอบ 2 ผิด เพราะการอ่านแบบสํารวจ (Skimming) เป็นเทคนิคการอ่านข้อความอย่างเร็ว โดยไม่อ่าน

ทุกตัว แต่จะอ่านข้ามเป็นประโยคหรือเป็นบรรทัด ๆ ไป จุดประสงค์เพื่อหาภาพรวม หาประเด็น หรือใจความสําคัญโดยทั่วไป (main idea, general idea) ตรงส่วนหน้าประโยคถูก แต่ไปผิดตรงส่วนหลังว่าโดยการอ่านทุกคํา

2 Scanning is used when you are looking for specific information needed from the text.

ถาม การอ่านแบบสแกน จะใช้เมื่อคุณกําลังมองหาข้อมูลเฉพาะที่จําเป็นจากข้อความ

ตอบ 1 การอ่านแบบจําเพาะ (Scanning) เป็นเทคนิคการอ่านข้อความอย่างเร็ว เพื่อที่จะต้องการหาข้อมูล

บางอย่างหรือคําตอบเฉพาะ (specific information) โดยกวาดสายตายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ มองหานั้น เช่นหาชื่อคน สิ่งที่เรากวาดสายตาก็ให้มีแต่ชื่อคนเท่านั้น

3 Specific information can be obtained quickly by reading the first and the last sentences of the paragraph

ถาม สามารถรับข้อมูลเฉพาะได้อย่างรวดเร็วโดยการอ่านประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้า

ตอบ 2 ผิด เพราะการอ่านแบบหาข้อมูลเฉพาะ ก็คือ scanning เป็นการกวาดสายตา ค้นหาข้อมูลที่เรา

ต้องการเท่านั้น จะกําหนดให้อ่านเจาะจงแต่ประโยคแรกหรือสุดท้ายของย่อหน้า ก็ไม่ถูกต้อง

4 A reference refers to a single word or a group of words mentioned earlier or later in a sentence or paragraph.

ถาม การอ้างอิงหมายถึงคําเดียวหรือกลุ่มคําที่กล่าวถึงก่อนหน้าหรือหลังในประโยคหรือย่อหน้า

ตอบ 1 การอ้างอิง (Reference) คือ การที่ผู้เขียนเชื่อมโยงความคิดของเนื้อหาของเรื่องโดยการใช้คําหรือ

วลีแทนคําหรือข้อความที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยไม่ต้องกล่าวคําหรือข้อความนั้น ๆซ้ำอีก การอ้างอิง แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ การอ้างอิงย้อนกลับ คือการอ้างอิงอ้างถึงสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว เราต้องย้อนกลับไปยังส่วนที่อยู่ก่อนตัวอ้างอิง (earlier) และการอ้างไปข้างหนา คือ การอ้างอิงที่อ้างถึงสิ่งที่ จะกล่าวต่อไป (later)

5 Context refers to the surrounding words in a sentence that give a particular word its meaning. ถาม บริบทหมายถึงคําที่อยู่รอบ ๆ ในประโยคที่ให้ความหมายของคํานั้น ๆ

ตอบ 1 บริบท (Context) คือ คํา ข้อความ หรือสถานการณ์แวดล้อมเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของ

ภาษาหรือของถ้อยคํา ที่เราไม่รู้ความหมาย เราสามารถใช้บริบทข้างเคียงเพื่อเดาความหมายของคํา

6 A sentence that expresses the general idea of a paragraph is called a topic sentence.

ถาม ประโยคที่แสดงความคิดทั่วไปของย่อหน้าเรียกว่าประโยคหัวข้อ

ตอบ 1 Topic Sentence ก็คือประโยคหลัก (main idea, general idea) หรือประโยคสําคัญที่สุดใน

แต่ละย่อหน้าซึ่งบรรจุหัวเรื่องและใจความสําคัญไว้ เมื่อเราอ่านแล้วจะทราบได้ทันทีว่าย่อหน้านี้บอกเรื่องอะไรจากบทอ่านส่วนใหญ่มักวางไว้ที่ประโยคแรกๆหรือประโยคสุดท้ายของข้อความมีเพียงส่วนน้อยที่อยู่ตอนกลางของเรื่อง Topic Sentence ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1 Topic คือ หัวข้อ หัวเรื่อง ชื่อเรื่อง ประเด็นสําคัญ

2 Controlling Idea คือ ขอบข่ายเนื้อหาที่ผู้เขียนต้องการเขียน

7 Many words have different possible meaning depending how they were used in the context. ถาม หลายคํามีความหมายที่เป็นไปได้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าใช้ในบริบทอย่างไร

ตอบ 1 ถูกต้อง คําหลายคํามีความหมายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคํา ๆ นั้นถูกใช้ในบริบทอย่างไรนั่นคือ ขึ้นอยู่

กับบริบทนั้น ๆ

8 It is necessary to read every word of a foreign-language text and translate it into your

own language in order to understand the text.

ถาม จําเป็นต้องอ่านข้อความภาษาต่างประเทศทุกคําและแปลเป็นภาษาของคุณเองเพื่อให้เข้าใจข้อความ ตอบ 2 ผิดตรงว่าต้องอ่านข้อความทุกคําและแปลเป็นภาษาของตัวเองเพื่อเข้าใจบทความนั้น โดยหลักแล้ว

การอ่านที่ถูกต้อง ไม่จําเป็นต้องอ่านทุกคําหรือแปลได้ทุกคําในการอ่านบทความ

9 In order to get the main idea of the paragraph, one has to know what the writer wants to tell the reader about the topic.

ถาม เพื่อให้ได้แนวคิดหลักของย่อหน้า เราต้องรู้ว่าผู้เขียนต้องการอะไรเพื่อบอกผู้อ่านเกี่ยวกับหัวข้อ

ตอบ 1 ถูกต้อง ในการอ่าน ผู้อ่านก็ต้องจับใจความให้ได้ว่าผู้เขียนต้องการบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเขียน

เกี่ยวกับหัวเรื่องที่เขาเขียน เพื่อจะได้จับใจความสําคัญของผู้เขียนให้ได้

10 The answer of an inferring questions is mentioned clearly in the text.

ถาม คําตอบของคําถามที่อนุมานระบุไว้อย่างชัดเจนในบทความ

ตอบ 2 ผิด ถ้าบทความที่ให้เรา infer ซึ่งหมายถึง ให้เราสรุป วิเคราะห์ออกมา แสดงว่าเป็นการสรุปที่ต้อง

ตีความ ซึ่งมักจะกล่าวเป็นนัย ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนหรือตรง ๆ

 

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer for each question. (คําสั่ง: อ่านเนื้อหาต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดในแต่ละคําถาม)

Passage 1

INTELSAT satellites COMSAT (Communications Satellite Corporation) of the United States, the Overseas Telecommunications Commission (Australia) and nine other world communications agencies met in Washington, D.C., in 1964, to sign a document that made them founder members of the International Telecommunications Satellite Consortium (i.e., . INTELSAT). When INTELSAT 1, better known as Early Bird, was launched over the Atlantic in 1965, there were just five earth stations to make use of the 66 telephone circuits it offered. Today, there are over one dozen INTELSAT IV, IV-A, V and VA satellites in the Atlantic, India and Pacific Ocean regions, offering capacities up to 12,500 two-way telephone circuits and two-way TV channels per satellite. The INTELSAT VI satellites, expected to be launched in the late 1980s, will be capable of providing up to 20,000 telephone circuits each. Over 500 earth stations in nearly 150 countries make use of the INTELSAT satellites in the three ocean regions to provide over 25,000 circuits and TV services for international and domestic use.

ดาวเทียมระบบ INTELSAT บริษัท COMSAT (บริษัทดาวเทียมสื่อสาร) ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง คณะกรรมาธิการโทรคมนาคมต่างประเทศ (ออสเตรเลีย) และองค์กรตัวแทนการสื่อสารโลกอื่น ๆ อีก 9 บริษัท ได้ ประชุมกันที่กรุงวอชิงตันดีซีเมื่อปี 1964 เพื่อลงนามในเอกสารซึ่งทําให้พวกเขาเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของกลุ่มสมาคม ดาวเทียมโทรคมนาคมระหว่างประเทศขึ้น (คือ INTELSAT) เมื่อ INTELSAT 1 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่ง คือ เออร์ลี เบิร์ด (Early Bird) ซึ่งถูกปล่อยขึ้นเหนือมหาสมุทรที่แอตแลนติกในปี 1965 มีสถานีภาคพื้นดินเพียง 5 แห่งเท่านั้น เพื่อใช้ประโยชน์วงจรโทรศัพท์ 66 วงจรที่มันเสนอให้ ทุกวันนี้มีดาวเทียม INTELSAT 4, 4 – เอ, 5 และดาวเทียม 5 เอ มากกว่า 12 ดวงในภูมิภาคมหาสมุทรแอตแลนติก ภูมิภาคในมหาสมุทรอินเดียและ มหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเสนอขีดความสามารถวงจรโทรศัพท์แบบการติดต่อ 2 ทาง มากถึง 12,500 วงจรและช่อง รับสัญญาณโทรทัศน์แบบการติดต่อ 2 ทางต่อดาวเทียม 1 ดวง ดาวเทียม INTELSAT 6 คาดว่าจะปล่อยขึ้นสู่ ท้องฟ้าในปลายทศวรรษที่ 1980 จะสามารถให้วงจรโทรศัพท์มากถึง 20,000 วงจรในแต่ละดวงมากกว่า 500 สถานีภาคพื้นดิน ในเกือบ 150 ประเทศใช้ประโยชน์จากดาวเทียม INTELSAT ในภูมิภาคมหาสมุทร 3 ภูมิภาค เพื่อให้วงจรมากกว่า 25,000 วงจร และให้บริการทางโทรทัศน์สําหรับการใช้ภายในประเทศและระหว่างประเทศ

11 Which of the following should be title of this paragraph?

1 American Satellites

2 The Benefits of Satellites

3 The Overseas Telecommunications Commission

4 A Short History of the INTELSAT Satellites

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ควรเป็นชื่อเรื่องของย่อหน้านี้

1 ดาวเทียมของอเมริกา

2 ข้อดีของดาวเทียม

3 คณะกรรมาธิการโทรคมนาคมต่างประเทศ

4 ประวัติศาสตร์โดยย่อของดาวเทียม INTELSAT

ตอบ 4 เดาจากเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ INTELSAT ซึ่งเป็น key word (คําหลัก) ในเรื่องนี้

12 According to the paragraph, there are ____ countries and agencies that made the founder members of the International Telecommunications Satellite Consortium.

1 2

2 4

3 7

4 11

ถาม ตามเนื้อเรื่อง มี _____ ประเทศและตัวแทนที่เป็นผู้ก่อตั้งสมาชิกกลุ่มสมาคมดาวเทียมโทรคมนาคม

ระหว่างประเทศ

ตอบ 4 จากบรรทัดที่ 1 ว่า INTELSAT satellites COMSAT (Communications Satellite

Corporation) of the United States, the Overseas Telecommunications Commission (Australia) and nine other world communications agencies รวม 11 ประเทศและตัวแทน

13 How many INTELSAT satellites are mentioned in the paragraph?

1 4

2 5

3 6

4 7

ถาม มีดาวเทียม INTELSAT เท่าไรที่ถูกกล่าวในย่อหน้านี้

ตอบ 3 มี INTELSAT 1, INTELSAT IV, tV-A, Vand VA satellites และมีกล่าว INTELSAT

VI satelites อีก รวม 6

14 “Early Bird” refers to

1 INTELSAT VI

2 INTELSAT V

3 INTELSAT 1.

  1. INTELSAT IV-A

ถาม เออร์ลี เบิร์ด คือ _____.

ตอบ 3 เออร์ลี เบิร์ด (Early Bird) ก็คือ iNTELSAT 1 อยู่ใกล้กันหรือใช้คําว่า known as

15 According to the paragraph, which region is not the one that the INTELSAT satellites

provide their services?

1 The Indian Ocean

2 The Atlantic Ocean

3 The Arctic Ocean

4 The Pacific Ocean

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ภูมิภาคใดที่ดาวเทียม INTELSAT ไม่ได้ให้บริการ

ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 5 มี มหาสมุทรแอตแลนติก อินเดีย แปซิฟิก ฉะนั้นที่ไม่ใช่คือ อาร์กติก (Arctic)

 

Passage 2

We seem to jump from fad to fad convinced that there is an elixir of life which will guarantee perpetual youth, sexual vigor, and freedom from obesity. Millions are spent each year in this futile effort. It should be noted that man nas shown his adaptability and ability to live healthfully in any part of the world and to thrive on the diet available to him, including a wide variety of diets. Because no single food provides all of the known nutrients, it is advisable that we select a variety of foods, and that doesn’t mean fifty-seven varieties of snack crackers. Many in this country do not necessarily eat intelligently, but, among the countries of the world, we do have a unique opportunity to eat healthfully.

 

ดูเหมือนพวกเราจะข้ามผ่านความนิยมครั้งแล้วครั้งเล่า ความเชื่ออย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า มียาอายุวัฒนะ ซึ่งรับประกันความเป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดกาล, ทําให้เกิดความคึกทางเพศ และทําให้ไม่อ้วนได้ ในแต่ละปีจะมีการใช้ จ่ายเงินไปหลายล้านในความพยายามที่ไร้ประโยชน์นี้ มันควรจะถูกตั้งข้อสังเกตว่า มนุษย์ได้แสดงให้เห็นความสามารถ ในการปรับตัวให้เหมาะสมและมีความสามารถที่จะดํารงชีวิตอย่างเป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าในส่วนใดของโลกและ เพื่อที่จะให้สารอาหารครบทุกอย่าง ไม่มีอาหารชนิดเดียวที่ให้สารอาหารที่รู้จักทั้งหมด จึงแนะนําให้เราเลือกทานอาหารหลากหลายชนิดต่าง ๆ และนั่นไม่ได้หมายถึง 57 ชนิด ของอาหารว่างที่เป็นขนมปังกรอบ ผู้คนจํานวนมากใน ประเทศนี้ไม่ได้ทานอาหารเท่าที่จําเป็นต่อสุขภาพอย่างใช้สติปัญญา แต่ในบรรดาประเทศต่าง ๆ ของโลก เรามีโอกาสไม่เหมือนใครที่จะกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

 

16 The main idea of this paragraph is _____.

1 people seem to jump from fad to fad

2 no single food provides all of the known nutrients

3 people believe that there is an elixir of life

4 an elixir of life will guarantee perpetual youth

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้คือ _____.

1 ผู้คนดูเหมือนข้ามผ่านจากความนิยมหนึ่งไปสู่ความนิยมหนึ่ง

2 ไม่มีอาหารชนิดเดียวที่ให้สารอาหารที่รู้จักทั้งหมด

3 ผู้คนเชื่อว่ามียาอายุวัฒนะ

4 ยาอายุวัฒนะรับประกันความเป็นหนุ่มสาวตลอดกาล

ตอบ 3 ใจความสําคัญมาจากประโยคแรกก็คือ ผู้คนเชื่อว่ามียาอายุวัฒนะ (an elixir of life)

17 What is NOT mentioned as one of the properties of an elixir of life?

1 Providing freedom from obesity

2 Boosting body health

3 Guaranteeing perpetual youth

4 Improving sexual vigor

ถาม ข้อไหนไม่ได้กล่าวถึงเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของยาอายุวัฒนะ

ตอบ 2 จากประโยคแรก there is an elixir of life which will guarantee perpetual youth,

sexual vigor, and freedom from obesity ที่ไม่ได้กล่าวถึงคือตัวเลือกที่ 2

18 According to the author, ______.

1 we can live healthfully in any part of the world

2 we can thrive on the diet available

3 there is no single food that provides all of the known nutrients

4 All are correct

ถาม ตามความคิดของผู้เขียน _____.

1 เราสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีสุขภาพได้ในทุกส่วนของโลก

2 เราสามารถเจริญได้ด้วยอาหารที่มีอยู่

3 ไม่มีอาหารชนิดเดียวที่ให้สารอาหารที่รู้จักทั้งหมด

ตอบ 4 ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

19 According to the paragraph, why do people spend a lot of money each year?

1 They want to try new variety of diet.

2 They want to eat as many as varieties of snack crackers that are available.

3 They want to eat intelligently.

4 They believe that there is an elixir of life to help them live longer and healthier.

ถาม  ตามเนื้อเรื่อง ทําไมผู้คนจึงใช้จ่ายเงินจํานวนมากในแต่ละปี

1 พวกเขาต้องการลองอาหารหลากหลายรูปแบบใหม่

2 พวกเขาต้องการกินแครกเกอร์ขนมหลากหลายชนิดที่มีอยู่

3 พวกเขาต้องการกินอย่างชาญฉลาด

4 พวกเขาเชื่อว่ามียาอายุวัฒนะที่ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น

ตอบ 4 จุดประสงค์ของเรื่องก็คือ เชื่อว่ามียาอายุวัฒนะ ก็ใช้จ่ายไปกับความเชื่อนี้

2O We can infer from the paragraph that _____.

1 there is an elixir of life, but it is very expensive

2 eating a variety of the same kind of food can be replace for an elixir of life

3 there really is the thing called an elixir of life in a certain country that people have

to find out themselves.

4 there is not such a thing called an elixir of life

ถาม เราสามารถสรุปจากเนื้อเรื่องว่า

1 มียาอายุวัฒนะอยู่ แต่มันแพงมาก

2 การกินอาหารประเภทเดียวกันที่หลากหลายสามารถทดแทนยาอายุวัฒนะ

3 มีสิ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะจริง ๆ ที่ผู้คนต้องค้นหาด้วยตัวเอง

4 ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ

ตอบ 4 ผู้เขียนต้องการโน้มน้าวว่า ไม่มีอายุอายุวัฒนะหรอก

 

Passage 3

In short, using various methods of communication, different chimpanzees and an occasional gorilla have managed to communicate at about the level of a somewhat slow four-year-old child. This may not be the limit of the chimps abilities-perhaps more intensive or more ingenious training will carry them further-but it is certainly a substantial step beyond what has been done before. If nothing else, it demonstrates the enormous importance of learning in the acquisition of language, and opens up the possibility that someday we will be able to communicate at least on a minimal level with other species.

 

กล่าวโดยสรุป การใช้วิธีของการสื่อสารที่หลากหลายกับลิงชิมแปนซีที่แตกต่างกันและลิงกอริลล่าที่ใช้ทดลองใน บางโอกาสมีความสามารถที่จะสื่อสารได้ในระดับเด็กอายุ 4 ขวบ ที่ค่อนข้างจะเรียนรู้ช้า สิ่งนี้อาจจะไม่ได้ เป็น ข้อจํากัดความสามารถของลิงชิมแปมซี บางทีการฝึกฝนที่เข้มข้นหรือชาญฉลาดกวานั้นอาจช่วยพาพวกเขาไปได้ไกล มากขึ้น แต่แน่นอนว่ามันเป็นขั้นตอนที่สําคัญเหนือกว่าสิ่งที่ได้ทํากันมาก่อนหน้านี้ ถ้า ไม่มีการฝึกฝนเลยมันก็จะ พิสูจน์ให้เห็นความสําคัญอย่างมากของการเรียนรู้ภาษาและเปิดรับความเป็นไปได้ว่า สักวันหนึ่งเราจะสามารถสื่อสาร กับสัตว์ชนิดอื่นได้อย่างน้อยในระดับที่น้อยที่สุด

21 The paragraph should be the ____ part of an essay

1 introduction

2 body

3 conclusion

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้ควรจะเป็นส่วน _____ ของความเรียง

1 บทนํา

2 เนื้อหา

3 บทสรุป

4 ถูกหมด

ตอบ 3 เราเดาได้จากคําว่า In short = in conclusion = กล่าวโดยสรุป

22 Which is correct, according to the passage?

1 More comprehensive language training might carry chimpanzees further.

2 The chimp and human are about the same in intellectual capacity.

3 Chimpanzees’ cognitive abilities and complex thought processes are identical to

those of a 3-year-old human child.

4 Chimpanzees shows the greatest accomplished.

ถาม ข้อไหนถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 การฝึกอบรมภาษาที่ครอบคลุมมากขึ้นอาจทําให้ชิมแปนซีไปได้ไกลกว่านี้

2 ชิมแปนซีและมนุษย์มีความเท่าเทียมกันในความสามารถทางปัญญา

3 ความสามารถทางปัญญาของลิงชิมแปนซีและกระบวนการคิดที่ซับซ้อนนั้นเหมือนกันกับ

ของลูกมนุษย์วัย 3 ขวบ

4 ชิมแปนซีแสดงความสําเร็จสูงสุด

ตอบ 1

1 เนื้อเรื่องกล่าวถึงว่าถ้าได้ฝึกอย่างเข้มข้นจริงจังอาจทําให้พวกเขาไปได้ไกลกว่าเดิม

2 มีความเท่าเทียมกัน ไม่ได้กล่าวถึง

3 ผิดตรงลูกมนุษย์วัย 3 ขวบ

4 ไม่ได้กล่าวว่าสําเร็จสูงสุด

23 How many animals are mentioned by name in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีสัตว์กี่ชนิดที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่องนี้

ตอบ 2 จากเนื้อเรื่องได้กล่าวถึง ชิมแปนซีและกอริลล่า

24 Which of the following topics does this story seem to touch on?

1 Linguistics

2 Demography

3 Dialectics

4 Anthology

ถาม เรื่องราวนี้ดูเหมือนจะกล่าวถึงหัวข้อใดต่อไปนี้

1 ภาษาศาสตร์

2 ประชากรศาสตร์

3 ภาษาถิ่น

4 กวีนิพนธ์

ตอบ 1 เนื้อเรื่องกล่าวถึง สัตว์กับภาษา

25 Overall, what mood is portrayed in this passage?

1 Fearful

2 Hopeful

3 Mysterious

4 Melancholy

ถาม โดยรวมแล้ว ข้อความนี้แสดงถึงอารมณ์ใด

1 น่ากลัว 2 มีความหวัง 3 ลึกลับ 4 ความเศร้าโศก

ตอบ 2 จากบรรทัดสุดท้าย กล่าวถึงความเป็นไปได้ แสดงว่า ยังมีความหวัง

26 The phrase “in short” (in bold type) can be replaced with ____.

1 on the contrary

2 in fact

3 in brief

4 on the other hand

ถาม วลีคําว่า “in short” (ในตัวหนา) สามารถแทนที่ด้วย ____.

1 ในทางตรงกันข้าม 2 อันที่จริงแล้ว 3 กล่าวโดยสรุป 4 ในทางตรงกันข้าม

ตอบ 3 “in short” เป็นการกล่าวสรุป ตรงกับ in brief = in conclusion

 

Passage 4

Since the early 1970s, feminist art historians have produced a literature of enormous value, on which I have heavily relied, that has begun to redress the marginal role ascribed. to women in the history of art. Although the serious study of women artists is still in its infancy, this literature has helped to reevaluate and, in many cases, rediscover the achievements of women artists of the past. At the same time these authors have examined other gender-related issues that permeate the entire discipline of art history. For it is not simple men and women artists but the entire art apparatus – audiences, institutions, patrons, critics – that has helped to shape attitudes toward women in the visual arts.

ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1970 นักประวัติศาสตร์ศิลปะที่เรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของสตรีได้ผลิตวรรณกรรมที่มี คุณค่ามหาศาล ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อถืออย่างมากว่าได้เริ่มแก้ไขบทบาทที่เกือบจะมีอยู่น้อย บทบาทที่ได้ถูกลงความเห็นต่อผู้หญิงในประวัติศาสตร์ของศิลปะ ถึงแม้ว่าการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับศิลปินหญิงยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่วรรณกรรมได้ช่วยให้เกิดการประเมินค่าใหม่อีก และในหลาย ๆ กรณี ได้ช่วยค้นพบความสําเร็จเรื่องของจิตรกรหญิง ในอดีตอีกครั้งหนึ่ง และในเวลาเดียวกัน ผู้ประพันธ์เหล่านี้ได้ตรวจสอบปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศซึ่งจะแทรกซึมเข้าไป ในกฎเกณฑ์ข้อบังคับทั้งหลายของประวัติศาสตร์ศิลปะโดยสิ้นเชิง เพราะมันไม่ใช่เฉพาะจิตรกรชายหรือจิตรกรหญิง

แต่เป็นเครื่องมือศิลปะทั้งหมดอันได้แก่ผู้ชม สถาบัน ผู้อุปถัมภ์ นักวิจารณ์ ที่ได้ช่วยเหลือ ทําให้เกิดทัศนคติในเรื่อง ผู้หญิงต่อศิลปะที่เกี่ยวกับทัศนศิลป์

27 This paragraph should be the part of an essay.

1 introduction

2 body.

3 conclusion.

4 All are correct

ถาม ย่อหน้านี้น่าจะเป็นส่วน ของบทความ

1 บทนํา 2 เนื้อหา 3 บทสรุป 4 ทุกทุกข้อ

ตอบ 3 ย่อหน้านี้เป็นบทสรุปในการลงความเห็นต่อผู้หญิงในประวัติศาสตร์ศิลปะ

28 Who has helped to shape attitudes toward women in the visual arts?

1 institutions

2 commentators

3 sponsors

4 All are correct

ถาม ใครบ้างที่ช่วยก่อให้เกิดทัศนคติต่อสตรีในทัศนศิลป์? ”

1 สถาบัน

2 นักวิจารณ์

3 ผู้สนับสนุน

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 จากเนื้อเรื่องบรรทัดล่าง ๆ สุดท้ายมี audiences, institutions, patrons, critics มีความหมาย

เดียวกับตัวเลือกทั้ง 3 จึงตอบถูกทุกข้อ

29 A/An ____is a person who written about an expresses opinion about things such as books, films, music, or art.

1 critic

2 institution

3 patron

4 audience

ถาม _____ คือ คนที่เขียนเกี่ยวกับการแสดงออกถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่นหนังสือ ภาพยนตร์ ดนตรี หรือศิลปะ

1 นักวิจารณ์ 2 สถาบัน 3 ผู้อุปถัมภ์ 4 ผู้ชม

ตอบ 1 คําที่เติมในช่องว่างคือ critic หมายถึง นักวิจารณ์

30 This paragraph is most likely to have been published on/in _____.

1 Performing arts

2 Martial arts

3 Culinary arts

4 Visual arts

ถาม ย่อหน้านี้น่าจะมีการตีแผ่ใน _____.

1 ศิลปะการแสดง 2 ศิลปะการต่อสู้ 3 ศิลปะการปรุงอาหาร 4 ทัศนศิลป์

ตอบ 4 จากเนื้อเรื่องคําสุดท้ายกล่าวถึง visual arts ก็ตอบได้เลย

31 This paragraph is most likely to have been published on/in ____.

1 Primary school textbook

2 History of Art textbook

3 Bulletin

4 News website

ถาม ย่อหน้านี้น่าจะได้รับการเผยแพร่ใน _____.

1 หนังสือเรียนระดับประถมศึกษา

2 ตําราประวัติศาสตร์ศิลปะ

3 กระดานข่าว

4 เว็บไซต์ข่าว

ตอบ 2 เนื้อเรื่องกล่าวถึงประวัติศาสตร์ศิลปะในอดีตของผู้หญิง ก็คือน่าจะอยู่ในประวัติศาสตร์ศิลปะ

32 What does “l” (in bold type) refer to?

1 The writer of art history

2 The woman artist

3 The feminist art historian

4 The writer of the article

ถาม “I” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง

1 นักเขียนประวัติศาสตร์ศิลปะ

2 ศิลปินผู้หญิง

3 นักประวัติศาสตร์ศิลปะที่เรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิง

4 ผู้เขียนบทความ

ตอบ 4 “l” ก็คือ ผู้เขียนเรื่องนี้

33 The word “ achievements” (in bold type) can be replaced with _____.

1 engagements

2 accomplishments

3 developments

4 tournaments

ถาม คําว่า “achievements” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 การนัดหมาย 2 ความสําเร็จ 3 การพัฒนา 4 การแข่งขัน

ตอบ 2 achievements = accomplishments = ความสําเร็จ

 

Passage 5

Why do people want to save the whales? 2 There are two important reasons. 3 reason is that whales help to keep a balance between plants and animals. 4 People have disturbed

this balance. 5 People get rid of their wastes by throwing them into the oceans and seas. 6 People’s sewage and garbage increase the amount of salt in ocean and sea water. 7 The increased sait helps some plants and some very small animal to grow. 8 These plants and animals can be harmful to fish, 9 Whales eat enormous amounts of plankton, the plants and

salty water. 10 Therefore, whales are very important because they keep the ocean environment clean enough for fish. 11 In addition, because fish provide necessary food for many people, people need whales, and many people want to save them.

 

1 ทําไมผู้คนจึงต้องการช่วยปกป้องปลาวาฬ 2 มีเหตุผลที่สําคัญอยู่ 2 ประการ 3 เหตุผลประการที่หนึ่งคือ ปลาวาฬช่วยรักษาสมดุลระหว่างพืชและสัตว์ 4 ผู้คนได้ทําลายความสมดุลนี้ไป 5 ผู้คนมักจะกําจัดของเสียของพวกเขา ด้วยการโยนมันลงไปในมหาสมุทรและท้องทะเล 6 สิ่งปฏิกูลและขยะจะไปเพิ่มปริมาณของความเค็มในน้ำมหาสมุทร และน้ำทะเล 7 ความเค็มที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้พืชและสัตว์ขนาดเล็กบางชนิดเจริญเติบโต 8 พืชและสัตว์เหล่านี้สามารถเป็นอันตรายต่อปลาได้ 9 ปลาวาฬจะกินแพลงตอน, ซึ่งเป็นพืชและสัตว์ที่เจริญเติบโตในน้ําที่เค็มมาก ๆ ในปริมาณ มากมายมหาศาล 10 ดังนั้น ปลาวาฬจึงมีความสําคัญมากเพราะว่ามันจะคอยรักษาสภาพแวดล้อมของมหาสมุทรให้ สะอาดเพียงพอสําหรับปลา 11 นอกจากนี้แล้วเพราะว่าปลาเป็นอาหารที่จําเป็นสําหรับผู้คนเป็นจํานวนมาก พวกเขาจึงต้องการปลาวาฬและต้องการที่จะช่วยรักษาชีวิตพวกมันเอาไว้

34 The main idea of the paragraph is in sentence ____.

1 1

2 2

3 3

4 5

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้อยู่ในประโยคที่ ____.

ตอบ 1 ประโยคแรกเป็นคําถาม และเป็นประโยคในความสําคัญ

35 Which is correct, according to the passage?

1 Plankton is the most important organism in the sea.

2 Sewage disposal barely impacts aquatic ecosystems.

3 Whales keep a balance between plants and animal, and people need them for food.

4 Whales are maintaining a healthy ocean.

ถามข้อไหนถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 แพลงก์ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สําคัญที่สุดในทะเล

2 การกําจัดสิ่งปฏิกูลแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ

3 ปลาวาฬรักษาสมดุลระหว่างพืชและสัตว์ และผู้คนต้องการพวกมันเป็นอาหาร

หาร

4 ปลาวาฬกําลังรักษามหาสมุทรให้สะอาด

ตอบ 3 จากประโยคที่ 10 ที่ว่า whales are very important because they keep the ocean

1 environment clean enough for fish

36 Which of the following words mean “rubbish, especially waste from a kitchen”?

1 Garbage

2 Brine

3 Plankton

4 Sewage

ถาม คําไหนต่อไปนี้หมายถึง “ขยะ โดยเฉพาะของเสียจากครัว”

1 ขยะ 2 ความกังวล 3 แพลงก์ตอน 4 สิ่งสกปรก

ตอบ 1 garbage หมายถึง ขยะมูลฝอย

37 How many names of mammals are mentioned in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ข้อนี้กล่าวถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ํานมที่ตัวในเนื้อเรื่องนี้

ตอบ 1 ย่อหน้านี้กล่าวถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดเดียวคือปลาวาฬ

38 Overall, what mood is portrayed in this passage?

1 Informative

2 Skeptical

3 Dismissive

  1. Hopeful

ถาม โดยรวมแล้ว อารมณ์ที่แสดงในข้อนี้เป็นอย่างไร

1 ให้ข้อมูล 2 สงสัย 3 ปฏิเสธ  4 เต็มไปด้วยความหวัง

ตอบ 1 ย่อหน้านี้เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สาเหตุที่ต้องปกป้องปลาวาฬ

39 The word “get rid of” (in bold type) is the closest in meaning to _____.

1 drop off

2 peel off

3 deposit

4 eliminate

ถาม  คําว่า “get rid of” (ในตัวพิมพ์หนา มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 ทิ้งลงไป 2 ลอกออก 3 ฝาก 4 กําจัด

ตอบ 4 get rid of = eliminate = กําจัด

40 What does “them” (in bold type) refer to?

1 Sea

2 Wastes

3 Animals

4 Plants

ถาม “them” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง

1 ทะเล 2 ของเสีย 3 สัตว์ 4 พืช

ตอบ 1 อ้างอิงถึง wastes = ของเสีย เดาจากคํานามที่อยู่ส่วนหน้า

 

Passage 6

Descent refers to the system by which members of a society trace kinship over generations. In simple terms, descent is the system of defining relatives. Industrial societies like our own recognize a pattern of bilateral descent (“two-sided descent”), a system tracing kinship through both females and males. In a bilateral society, children are linked by kinship to the families of both parents.

 

Most industrial societies, however, trace kinship only through one parent or the other. Patrilineal descent, a system tracing kinship through males, predominates in these societies. This means that the father’s side of the family — but not the mother’s – is defined as kin; practically speaking,

 

In patrilineal schemes only males can inherit property. Less common is matrilineal descent, a system tracing kinship through females. Here, only the mother’s side of the family is considered kin, and property passes from mothers to daughters. Patrilineal descent is common among pastoral and agrarian societies, in which men produce the most valued resources. Matrilineal descent characterizes most horticultural societies, in which women are the primary breadwinners (Haviland, 1985).

 

วงศ์ตระกูล หมายถึง ระบบที่สมาชิกของสังคมสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติกันมาหลายชั่วอายุคน คํา นิยามง่าย ๆ วงศ์ตระกูล คือ ระบบการกําหนดเครือญาติ สังคมอุตสาหกรรมเหมือนกับสังคมของเราที่ยอมรับรูปแบบ ของวงศ์ตระกูลทั้ง 2 ฝ่าย (วงศ์ตระกูลทั้ง 2 ฝ่าย) คือ ระบบที่สืบเชื้อสายเครือญาติโดยผ่านทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ในสังคมที่นับวงศ์ตระกูลทั้ง 2 ฝ่ายนี้ เด็ก ๆ จะถูกเชื่อมสายสัมพันธ์ความเป็นเครือญาติกับครอบครัวของทั้งฝ่ายพ่อ และฝ่ายแม่

 

แต่อย่างไรก็ตาม สังคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ฝ่าย ใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายจากฝ่ายพ่อเป็นระบบที่สืบเชื้อสายเครือญาติ โดยผ่านฝ่ายชายจะมีมากกว่าในสังคมเหล่านี้ สิ่งนี้หมายความว่าฝ่ายครอบครัวของพ่อ – แต่ไม่ใช่ฝ่ายแม่ – ถูกกําหนดเป็นญาติ ถ้าพูดใน เชิงปฏิบัติแล้ว

 

รูปแบบวงศ์ตระกูลที่สืบทอดจากฝ่ายชายเท่านั้นที่สามารถได้รับทรัพย์สมบัติ ลักษณะที่มีทั่วไปน้อยมากก็คือ วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากแม่ ซึ่งเป็นระบบที่สืบเชื้อสายเครือญาติในทางฝ่ายหญิง, ในที่นี้มีแต่ครอบครัวฝ่ายแม่ เท่านั้นที่ถูกนับเป็นญาติและทรัพย์สินจะตกทอดจากแม่มาสู่ลูกสาว การสืบวงศ์ตระกูลที่เชื้อสายมาจากผู้เป็นพ่อเป็นรูปแบบทั่วไปในหมู่สังคมชนบทและสังคมไร่นา ซึ่งผู้ชายจะผลิตทรัพยากรที่มีมูลค่าสูงสุด ส่วนที่วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อ สายจากฝ่ายแม่จะมีลักษณะสังคมพืชสวนซึ่งผู้หญิงจะเป็นกําลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว (ฮาวิแลนด์, 1985)

 

41 The author mentioned that descent is _____

1 the system tracing kinship through males

2 the pastoral and agrarian societies

3 the system of acknowledged social parentage

4 the industrial societies

ถาม ผู้เขียนกล่าวว่าวงศ์ตระกูลเป็น ____

1 ระบบสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านฝ่ายชาย

2 สังคมชนบทและไร่นา

3 ระบบวงศ์ตระกูลที่สังคมยอมรับ

4 สังคมอุตสาหกรรม

ตอบ 3 ระบบ descent ก็คือ การนับเครือญาติ ก็คือตัวเลือกที่ 3 parentage

42 According to the passage, what is the two-sided descent?

1 The system tracing kinship through males

2 The system tracing kinship through the father’s and mother’s line.

3 The system tracing kinship through females

4 The system tracing kinship over generations

ถาม ตามเนื้อเรื่อง วงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่ายคืออะไร

1 ระบบสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านฝ่ายชาย

2 ระบบสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่

3 ระบบสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านฝ่ายหญิง

4 ระบบสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติโดยผ่านหลายรุ่น

ตอบ 2 ทั้งสองฝ่ายก็คือทั้งฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่

 

43 According to the passage, how do people in industrial societies trace their kinship?

1 The kin relationship is traced through only one parent.

2 Only the mother’s side of the family is considered kin.

3 Only the father’s side of the family is considered kin.

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้คนในสังคมอุตสาหกรรมมีการสืบเชื้อสายความเป็นเครือญาติอย่างไร

1 ความสัมพันธ์ทางเครือญาติสืบเชื้อสายโดยผ่ายพ่อแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

2 ครอบครัวฝ่ายแม่เท่านั้นที่นับเป็นญาติ

3 ครอบครัวฝ่ายพ่อเท่านั้นที่นับเป็นญาติ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 2 ว่า Most industrial societies, however, trace kinship only through one parent or the other.

44 Patrilineal descent refers to ____.

1 a kinship system in which family membership derives from father’s side

2 a kinship system in which family membership derives from mother’s side

3 horticultural societies

4 a pattern of bilateral descent

ถาม วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายฝ่ายพ่อ หมายถึง ____.

1 ระบบเครือญาติซึ่งสมาชิกครอบครัวมาจากฝายพ่อ

2 ระบบเครือญาติซึ่งสมาชิกครอบครัวมาจากฝ่ายแม่

3 สังคมทําสวนผลไม้

4 รูปแบบวงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่าย

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 2 Patrilineal descent, a system tracing kinship through males

45 Matrilineal descent refers to ____.

1 horticultural societies

2 a pattern of bilateral descent

3 a kinship system in which family membership derives from father’s side

4 a kinship system in which family membership derives from mother’s side

ถาม วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายฝ่ายแม่ หมายถึง ____

1 สังคมทําสวนผลไม้

2 รูปแบบวงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่าย

3 ระบบเครือญาติซึ่งสมาชิกครอบครัวมาจากฝ่ายพ่อ

4 ระบบเครือญาติซึ่งสมาชิกครอบครัวมาจากฝ่ายแม่

ตอบ 4  จากย่อหน้าที่ 3 matrilineal descent, a system tracing kinship through females

46 Which of the following statements is NOT true?

1 Most pastoral and agrarian societies trace their kinship through males.

2 Only the mother’s side of the family is considered kin in industrial societies.

3 Matrilineal descent is less common than patrilineal descent.

4 In patrilineal societies, male kin generally involves the inheritance of properly.

ถาม ข้อความไหนต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1 สังคมชนบทและไร่นานับเครือญาติโดยผ่ายฝ่ายชาย

2 ครอบครัวฝ่ายแม่เท่านั้นที่ถูกคิดเป็นญาติในสังคมอุตสาหกรรม

3 วงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายฝ่ายแม่เป็นที่มีอยู่ทั่วไปน้อยกว่าวงศ์ตระกูลที่สืบเชื้อสายฝ่ายพ่อ

4 ในสังคมวงศ์ตระกูลที่สืบทอดจากฝ่ายพ่อ ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถได้รับทรัพย์สินมรดก

ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 2 นับวงศ์ตระกูลของพ่อแม่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสังคมอุตสาหกรรม

47 Which of the following statements is true about pastoral society?

1 The kin relationship is traced through both females and males

2 The property passes from mothers to daughters

3 The kin relationship is traced through males

4 Women are the primary breadwinners.

ถาม ข้อความไหนต่อไปนี้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสังคมชนบท

1 ความสัมพันธ์เครือญาติสืบเชื้อสายโดยผ่านทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

2 ทรัพย์สมบัติจะผ่านจากแม่สู่ลูกสาว

3 ความสัมพันธ์เครือญาติสืบเชื้อสายโดยผ่ายฝ่ายชาย

4 ผู้หญิงเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวเป็นหลัก

ตอบ 3 จากย่อหน้าล่างที่ว่า Patrilineal descent is common among pastoral and

agrarian societies, in which men produce the most valued resources

48 According to the passage, who is primarily responsible for family in horticultural

society?

1 Son

2 Father

3 Women

4 Men

ถาม ใครเป็นผู้รับผิดชอบหลักต่อครอบครัวในสังคมพืชสวน

ตอบ 3 จากบรรทัดสุดท้ายคือ ผู้หญิง

49 The word “property” (in bold type) is closest in meaning to _____.

1 quality

2 trait

3 characteristic

4 possession

ถาม คําว่า “property” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงที่สุดกับ _____

1 คุณภาพ

2 ลักษณะนิสัย

3 ลักษณะคุณสมบัติ

4 ทรัพย์สมบัติ

ตอบ 4 property = possession = ทรัพย์สมบัติ สิ่งที่ครอบครอง

50 The word “breadwinner” (in bold type) is closest to the meaning of ____.

1 commander

2 supervisor

3 reporter

4 provider

ถาม คําว่า “breadwinner” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____.

1 ผู้บังคับบัญชา

2 หัวหน้างาน

3 ผู้สื่อข่าว

4 ผู้จัดหา

ตอบ 4 breadwinner = provide = ผู้หาเลี้ยงครอบครัว ผู้จัดหามาให้

 

Passage 7

The major contribution of the humanistic approach is to focus attention on allowing the individual’s inner nature to express itself. It is not necessary to accept the view that our inner nature is formed at birth – our potential can be seen as a product of innate factors plus experience. But humanistic psychologists make the valid point that society often frustrates out needs and creative impulses. A girl may have decided by the age of six to be a lawyer. Her decision was based on identification with a parent plus events involving conditioning, and her own innate intelligence and other abilities. However, this desire may be continually frustrated by a society that says that most women do not become lawyers, that puts various obstacles in her path, and that may try to convince her to become a housewife or nurse instead. Similarly, a boy may learn early in life to be easygoing, not to have strong achievement motivation, and not to strive hard to for financial success. Perhaps he would like to be an artist or just take any job that does not require too much hard work. As an adolescent, he finds enormous pressures from his family, friends, and school to be “successful,” to achieve good grades, to get a “good” job. His artistic nature is frustrated rather than encouraged. Whether these interests and inclinations are present at birth or develop in childhood, there is little question that during adolescence many people find that their environment does not encourage them to express their own, personal feelings. Yet most people would be happier, more productive, and more fulfilled if they were not only

allowed but encouraged to “do what they want” rather than what society decrees is right for them.

การสนับสนุนที่สําคัญของทฤษฎีมนุษยนิยมก็คือ การมุ่งความสนใจไปที่การยอมให้ธรรมชาติภายในของแต่ละบุคคลได้แสดงตัวมันเองออกมา ไม่ใช่เรื่องจําเป็นที่จะยอมรับความคิดที่ว่า ธรรมชาติภายในของเราจะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เกิด-ศักยภาพของเราสามารถมองเห็นได้ในฐานะที่เป็นผลผลิตอย่างหนึ่งของปัจจัยกับประสบการณ์ที่มีมา ตั้งแต่เกิด แต่นักจิตวิทยามนุษยนิยมได้อธิบายอย่างแจ่มชัดไว้ว่า สังคมมักจะขัดขวางความต้องการและแรงกระตุ้น ในทางสร้างสรรค์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอาจจะได้ตัดสินใจตอนอายุ 6 ขวบ ว่าเธอจะเป็นทนายความ การตัดสินใจของเธอ มีพื้นฐานอยู่บนการกําหนดร่วมกันกับพ่อแม่ของเธอ บวกกับความสามารถอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามความปรารถนานี้ อาจจะถูกขัดขวางอย่างต่อเนื่อง จากสังคมที่มักจะบอกว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เป็นทนายความ จากสังคมที่มักจะหยิบ ยื่นอุปสรรคไว้ตามวิถีทางเดินของเธอ และจากสังคมที่อาจพยายามจะทําให้เธอเชื่อมั่นที่จะเป็นแม่บ้านหรือเป็นนาง พยาบาลแทน ในทํานองเดียวกัน เด็กผู้ชายคนหนึ่งอาจจะเรียนรู้ในช่วงแรกของชีวิตแบบเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่มี แรงจูงใจในการบรรลุผลสําเร็จที่รุนแรง และไม่ต้องพากเพียรอย่างหนักเพื่อความสําเร็จทางด้านการเงิน บางทีเขาอา จะอยากจะเป็นศิลปิน หรือแค่เพียงอยากจะทํางานอะไรก็ได้ที่ไม่เรียกร้องงานที่หนักเกินไป ในฐานะที่เป็นหนุ่มสาว เขาจะพบแรงกดดันอย่างมากมายจากครอบครัว จากเพื่อน จากโรงเรียน เพื่อที่จะ “ประสบความสําเร็จ” ให้ได้ผลการ เรียนที่ดี และได้งาน “ที่ดี” ทําธรรมชาติในทางศิลปะของเขาจะถูกขัดขวางมากกว่าถูกส่งเสริม ไม่ว่าความสนใจและ ความโน้มเอียงเหล่านี้จะมีอยู่ตั้งแต่เกิด หรือพัฒนาขึ้นใหม่ช่วงวัยเด็กก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีความสงสัยว่าในช่วงวัยหนุ่ม สาว หลาย ๆ คนพบว่า สภาพแวดล้อมไม่ได้ส่งเสริมให้พวกเขาได้แสดงความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวของเขาเองออกมาเลย แต่คนส่วนใหญ่จะมีความสุขเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานเพิ่มขึ้น และบรรลุผลสําเร็จมากขึ้น ถ้าพวก เขาไม่เพียงได้รับโอกาสแต่ยังได้รับการส่งเสริมให้ “ทําในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทํา” มากกว่าในกฎที่สังคมกําหนดให้ พวกเขาต้องทํา

 

51 What is the main focus of the humanistic approach?

1 To concentrate on the inner nature of people

2 To control individual personality

3 To change individual personality

4 To create individual personality

ถาม อะไรคือจุดสนใจหลักของทฤษฎีมนุษยนิยม

1 มุ่งสู่ธรรมชาติภายในของแต่ละคน

2 เพื่อควบคุมบุคลิกภาพของแต่ละคน

3 เพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของแต่ละคน

4 เพื่อสร้างสรรค์บุคลิกภาพของแต่ละคน

ตอบ 1 จากประโยคแรกที่เป็น main idea นั่นคือ to focus attention on allowing the

individual’s inner nature to express itself

52 According to the passage, where does an individual’s inner nature come from?

1 Childhood experience

2 Education

3 Society

4 Innate factors and experience

ถาม จากเนื้อเรื่อง ธรรมชาติภายในของแต่ละคนมาจากไหน

1 ประสบการณ์ตั้งแต่วัยเด็ก

2 การศึกษา

3 สังคม

4 ปัจจัยและประสบการณ์ที่มีมาตั้งแต่เกิด

ตอบ 4 จากบรรทัดที่ 3 our potential can be seen as a product of innate factors plus

experience

53 Which of the following can be inferred from the passage?

1 People should be in the environment that allows them to develop their interests.

2 Society often frustrates out needs and creative impulses.

3 People should be encouraged to do what they want.

4 All are correct

ถาม ข้อไหนต่อไปสามารถสรุปได้จากเนื้อเรื่อง

1 ผู้คนควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสนใจได้

2 สังคมมักจะขัดขวางต้องการและแรงกระตุ้นในทางสร้างสรรค์

3 ผู้คนควรได้รับการส่งเสริมให้ทําในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทํา

  1. ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ถูกหมด ล้วนกล่าวในเนื้อเรื่อง

54 According to the passage, innate intelligence can be discouraged by _____.

1 parents

2 society

3 friends

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ความเฉลียวฉลาดที่มีมาตั้งแต่เกิดสามารถถูกขัดขวางโดย ___

1 พ่อแม่

2 สังคม

3 เพื่อน

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 จากบรรทัดที่ 13 pressures from his family, friends, and school

55 According to the passage, society decrees frustrate _____

1 personal feelings

2 good grades in school

3 identification

4 the individual’s inner nature

ถาม ตามเนื้อเรื่อง สังคมทําให้ _____ ผิดหวัง

1 ความรู้สึกส่วนตัว

2 การได้เกรดที่ดีในโรงเรียน

3 การแสดงตัว

4 ธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่เกิดของแต่ละคน

ตอบ 4 จากข้อความที่ว่า But humanistic psychologists make the valid point that society

often frustrates out needs and creative impulses สังคมมักจะขัดขวางความต้องการ และก่อให้แรงกระตุ้น มีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ

56 The author mentions that people will be more productive by ____.

1 being encouraged to express themselves the way they are

2 doing what they want

3 being in controlled environment

4 1 and 2 are correct

ถาม ผู้เขียนกล่าวว่าผู้คนจะมีประสิทธิผลมากขึ้นโดย _____.

1 ได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกในแบบที่ตนเป็น

2 ทําสิ่งที่พวกเขาต้องการ

3 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม

4 ถูก 1 และ 2

ตอบ 4 ถูกทั้ง 1 และ 2

57 The word “impulses” (in bold type) is the closest in meaning to ____.

1 journey

2 threats

3 drives

4 requests

คําว่า “ impulses” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 การเดินทาง

2 การคุกคาม

3 แรงกระตุ้น

4 ขอร้อง

ตอบ 3  impulses = drives = แรงกระตุ้น แรงผลักดัน

58 What does “this” (in bold type) refer to?

1 Being a housewife

2 Being a nurse

3 Being a lawyer

4 All are correct

ถาม คําว่า “this” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง _____.

1 การเป็นแม่บ้าน

2 การเป็นนางพยาบาล

3 การเป็นทนายความ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 7 “this” อ้างอิงถึง บรรทัดที่ 5 ที่เด็กผู้หญิงปรารถนาที่จะเป็นทนายความ

59 The word “strive” (in bold type) is the closest in meaning to ____.

1 borrow

2 attempt

3 battle

4 wander

ถาม คำว่า “strive” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 ขอยืม

2 พยายาม

3 ดิ้นรนต่อสู้

4 ท่องเที่ยวไป

ตอบ 3 strive = battle = ต่อสู้ ดิ้นรนต่อสู้

60 The word “decrees” (in bold type) is the closest in meaning to _____.

1 contests

2 development

3 flights

4 rules

ถาม คำว่า “decrees” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____.

1 การแข่งขัน 2 การพัฒนา 3 เที่ยวบิน 4 กฎระเบียบ

ตอบ 2 decrees = rules = กฎ ข้อบังคับ

 

Part II : Unseen Passages

A Directions: Read the following passage.

Then blacken 1 for a true statement, and blacken 2 for a false statement 1=True; 2 = False)

 

Passage 1

A story by children’s author Beatrix Potter, written more than a century ago, is to be published for the first time after the rediscovery of the tala which features some of her bes-known characters such as Peter Rabbit.

The tale of Kitty-in-Boots, penned by Peter in 1914, was found by publisher Jo Hanks after she came across an out-of-print biography of the author from the 1970s which referred to the story in a letter Potter had sent to her then-publisher and an unedited manuscript.

Hanks then discovered three handwritten manuscripts in children’s school notebooks, which were in the archive of London’s Victoria and Albert Museum along with a rough color sketch of Kitty-in-Boots. “The tale is really the best of Beatrix Potter. It has double identities, colorful villains and a number of favorite characters from other tales (including Mr. Tod, Mrs. Tiggy-Winkle, Ribby and Tabitha Twitchit). Most excitingly, our treasured, mischievous Peter Rabbit makes an appearance, albeit older, slower, and portlier.

Penguin Random House is to publish the new story in September with drawings provided by Quentin Blake, one of Britain’s most renowned illustrators. “Once upon a time, there was a serious, well-behaved young black cat,” the book starts according to an extract on the Penguin website. “It belonged to a kind old lady who assured me that no other cat could compare with Kitty. She lived in constant fear that Kitty might be stolen.”

Hanks said Potter intended to publish the tale but marriage, the outbreak of World War Tand her concentration on her farming business got in the way. Potter, born 150 years ago, remains one of the world’s most popular children’s authors. Two million copies of her “little

books” are sold globally every year and more than 45 million copies of The Tale of Peter Rabbit have been sold since it was first published in 1902.

“She was a wonderful storyteller. There’s nothing like it, tell a good story, tell it clearly, tell it well and you’ve got an audience,” said the publisher: “She was very scientific about her approach to animals. She was a bunny-boiler. She and her brother boiled a bunny to find out what the structure was like.”

 

เรื่องราวโดยบีทริกซ์ พอตเตอร์ นักเขียนหนังสือเด็กซึ่งเขียนขึ้นเมื่อกว่าศตวรรษก่อน จะได้รับการตีพิมพ์เป็น ครั้งแรกหลังจากการค้นพบเรื่องราวใหม่ ซึ่งประกอบด้วยตัวละครที่โด่งดังที่สุดของเธอ เช่น ปีเตอร์ แรบบิท

เรื่องราวของ Kitty-in-Boots ซึ่งเขียนโดย พอตเตอร์ ในปี 1914 ถูกค้นพบโดยผู้พิมพ์ โจ แฮงค์ หลังจากที่ เธอพบเห็นชีวประวัติของผู้แต่งที่เลิกตีพิมพ์จากปี 1970 ซึ่งอ้างถึงเรื่องราวในจดหมายที่ พอตเตอร์ ส่งถึง สํานักพิมพ์ ของเธอในขณะนั้นและต้นฉบับที่ไม่ได้ตัดต่อ

จากนั้นแฮงค์ก็ค้นพบต้นฉบับที่เขียนด้วยลายมือสามฉบับในสมุดจดโรงเรียนสําหรับเด็ก ซึ่งอยู่ในที่เก็บถาวร ของพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียและอัลเบิร์ตในลอนดอน พร้อมกับภาพสเก็ตซ์สีคร่าวๆ ของ Kitty-in-Boots “เรื่องนี้เป็น เรื่องที่ดีที่สุดของบีทริกซ์ พอตเตอร์ มีอัตลักษณ์สองแบบ วายร้ายสีสันสดใส และตัวละครโปรดจากนิทานอื่นๆ (รวมถึง คุณท็อด นางทิกกี้-วิงเคิล ริบบี้ และทาบิธา ทวิชิต) ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ปีเตอร์ แรบบิท ที่น่ารักและซุกซนของเรา ปรากฏตัวขึ้น แม้ว่าจะแก่กว่า ช้ากว่าและเจ้าเนื้อมากขึ้น

Penguin Random House จะตีพิมพ์เรื่องใหม่ในเดือนกันยายนด้วยภาพวาดโดย Quentin Blake หนึ่ง ในนักวาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหราชอาณาจักร “กาลครั้งหนึ่ง มีแมวดําตัวเล็กตัวหนึ่งที่จริงจังและมี มารยาทดี” หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นตามเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเพนกวิน “มันเป็นของหญิงชราผู้ใจดีที่รับรองกับฉันว่าไม่มี แมวตัวอื่นเทียบได้กับคิตตี้ เธออาศัยอยู่ด้วยความกลัวอยู่เสมอว่าคิตตี้อาจถูกขโมย”

แฮงค์กล่าวว่าพอตเตอร์ตั้งใจจะตีพิมพ์เรื่องนี้ แต่การแต่งงาน การเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 และการจดจ่ออยู่กับธุรกิจเกษตรกรรมได้ขวางทางเธอ พอตเตอร์ ซึ่งเกิดเมื่อ 150 ปีที่แล้ว ยังคงเป็นหนึ่งในนักเขียนหนังสือเด็กที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก “หนังสือเล่มเล็กๆ” ของเธอขายได้ 2 ล้านเล่มทั่วโลกทุกปี และมีการขาย This Tale of Peter Rabbit มากกว่า 45 ล้านเล่มนับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1902

“เธอเป็นนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม ไม่มีอะไรจะเหมือน บอกเล่าเรื่องราวที่ดี บอกอย่างชัดเจน บอกได้ดี เท่านี้คุณ มีผู้อ่านแล้ว” ผู้จัดพิมพ์กล่าว “เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์มากเกี่ยวกับแนวทางของเธอกับสัตว์ เธอเป็นผู้ต้มกระต่าย เธอกับพี่ชายต้มกระต่ายเพื่อดูว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร”

61 The title of Potter’s rediscovered work is “The Tale of Peter Rabbit.”

ถาม ผลงานที่ค้นพบใหม่ของพอตเตอร์ คือ “The Tale of Peter Rabbit”

ตอบ 2 ชื่อเรื่องคือ “The Tale of Kitty-in-Boots” จากย่อหน้าที่ 2 ส่วน “The Tales of Peter

Rabbit” เป็นเพียงการยกตัวอย่างผลงานที่ประสบความสําเร็จของเธอในย่อหน้าที่ 5 เท่านั้น

62 Jo Hanks was Potter’s then-publisher back in 1914.

ถาม โจ แฮงค์ เป็นผู้จัดพิมพ์ของ Potter ในปี 1914.

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 2 then-publisher โดยที่ then หมายความว่าเคยเป็นในอดีต

63 The publisher found three manuscripts in the Victoria and Albert Museum.

ถาม ผู้จัดพิมพ์พบต้นฉบับสามฉบับในพิพิธภัณฑ์วิกเตอเรียและอัลเบิร์ต

ตอบ 1 ถูกต้อง จากประโยคแรกย่อหน้าที่ 3 Hanks then discovered three handwritten

manuscripts

64 Many characters from Potter’s work feature in this new tale, except for Ribby.

ถาม มีตัวละครมากมายจากผลงานของพอตเตอร์ในเรื่องใหม่นี้ ยกเว้น Ribby

ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 3 (including Mr. Tod, Mrs. Tiggy, Winkle, Ribby and Tabitha Twitchif) ตัวละครโปรดจากนิทานอื่นๆ (รวมถึงคุณท็อด นางทิกกี้-วิ่งเคิล ริบบี้ และทาบิธา ทวิชิต) ฉะนั้นที่ว่ายกเว้น Ribby จึงผิด

65 Potter’s newest book is published by Penguin Random House

ถาม หนังสือเล่มล่าสุดของพอตเตอร์จัดพิมพ์โดย Penguin Random House

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 4

66 Quentin Blake is one of Britain’s most famous illustrators.

ถาม Quentin Blake เป็นหนึ่งในนักวาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหราชอาณาจักร

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 4 Quentin Blake, one of Britain’s most renowned illustrator

67 Potter’s illness pulled her back from working on Kitty’s tale.

ถาม อาการป่วยของพอตเตอร์ทําให้เธอไม่ได้ทํานิทานคิตตี้ต่อ

ตอบ 2 pull back แปลตรงๆ แปลว่าดึงกลับแต่มีอีกความหมายซึ่งก็คือการตัดสินใจไม่ทําหรือไม่มีส่วน

ร่วมกับสิ่งๆหนึ่ง สาเหตุที่พอตเตอร์ไม่ได้ทํานิทานต่อมีสามอย่าง การแต่งงาน สงครามโลกครั้งที่ 1 และธุรกิจเกษตรกรรม จากย่อหน้าที่ 5 ไม่มีการเอ่ยถึงอาการป่วย

68 “Little books” are considered children’s literature.

ถาม “Litle books” ถือเป็นวรรณกรรมของเด็ก

ตอบ 1 ถูกต้องจากย่อหน้าที่ 5 ซึ่งได้ถูกขายทั่วโลกทุกปี

69 The Tale of Peter Rabbit will celebrate its 150th anniversary in 2018.

ถาม The Tale of Peter Rabbit จะครบรอบ 150 ปีในปี 2018

ตอบ 2 150 ปีในย่อหน้าที่ 5 อ้างถึงวันเกิดของพอตเตอร์ ไม่ใช่นิทานของเธอ

70 Three types of animals are mentioned in this passage.

ถาม เนื้อเรื่องเอ่ยถึงสัตว์สามชนิด

ตอบ 2 เนื้อเรื่องเอ่ยถึง cat และ kitty ซึ่งก็คือแมว และ rabbit และ bunny ซึ่งก็คือกระต่าย ส่วน

penguin ไม่นับเพราะเป็นชื่อสํานักพิมพ์ จึงมีแค่สอง

 

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer for each

question. (คําสั่ง: อ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดสําหรับแต่ละคําถาม)

 

Passage 1

(1) Saving energy means saving money. Homeowners and renters know this basic fact, but they often don’t know what kinds of adjustments they can make in their homes and apartments that will result in savings.

(2). For those willing to spend some time and money to reap long-term energy savings, an energy audit is the way to go. An energy auditor will come into your homes and assess its energy efficiency. The auditor will pinpoint areas of your home that use the most energy

and offer solutions to lower your energy use and costs. Trained energy auditors know what to look for and can locate a variety of flaws that may be resulting in energy inefficiency, including inadequate insulation, construction flaws, and uneven heat distribution.

(3)  There are quicker and less costly measures that can be taken as well. One way to save money is to replace incandescent lights with fluorescents. This can result in a savings of more than 50% on your monthly lighting costs.

(4) When it’s time to replace old appliances, it’s wise to spend a bit more for an energy

and be sure that you are taking advantage of energy-saving settings already on your current refrigerator, dishwasher, washing machine, or dryer.

(5) Windows provide another opportunity to cut your energy costs. Caulk old windows that might be leaky to prevent drafts, and choose double-paned windows if you’re building an addition or replacing old windows.

(6) Most areas of your home or apartment offer opportunities to save energy and money. The results are significant and are well worth the effort.

 

(1) การประหยัดพลังงานหมายถึงการประหยัดเงิน เจ้าของบ้านและผู้เช่าทราบข้อเท็จจริงพื้นฐานนี้ แต่พวกเขา มักไม่ทราบว่าการปรับเปลี่ยนประเภทใดในบ้านและอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาถึงจะส่งผลให้เกิดการประหยัดได้

(2) สําหรับผู้ที่ยินดีเสียเวลาและเงินบางส่วนเพื่อเก็บเกี่ยวการประหยัดพลังงานในระยะยาว การทําการตรวจสอบ พลังงานเป็นวิธีที่ควรทํา ผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานจะเข้ามาในบ้านของคุณและประเมินประสิทธิภาพการใช้ พลังงาน ผู้ตรวจสอบจะระบุพื้นที่ในบ้านของคุณที่ใช้พลังงานมากที่สุดและเสนอวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดการใช้พลังงาน และค่าใช้จ่ายของคุณ ผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานที่ผ่านการฝึกอบรมรู้ว่าควรมองหาสิ่งใดและสามารถระบุ ข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้พลังงานไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ฉนวนที่ไม่เพียงพอ ข้อบกพร่องในการ ก่อสร้าง และการกระจายความร้อนที่ไม่สม่ําเสมอ

(3) มีวิธีที่รวดเร็วและแพงน้อยกว่า(ถูกกว่า)ที่สามารถทําได้เช่นกัน วิธีหนึ่งในการประหยัดเงินคือการเปลี่ยน หลอดไส้ด้วยหลอดฟลูออเรสเซนต์ วิธีนี้อาจส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้ารายเดือนของคุณได้มากกว่า 50%

(4) เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าก็ควรที่จะใช้จ่ายเพิ่มอีกนิดสําหรับรุ่นประหยัดพลังงาน และตรวจดู ให้แน่ใจว่าคุณกําลังใช้ประโยชน์จากการตั้งค่าการประหยัดพลังงานที่มีอยู่แล้วในตู้เย็น เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า หรือ เครื่องเป่าผมของคุณ

(5) กระจกยังให้โอกาสในการลดต้นทุนด้านพลังงานของคุณ อุดหน้าต่างเก่าที่อาจรั่วเพื่อป้องกันกระแสลม และ เลือกหน้าต่างบานคู่หากคุณกําลังสร้างส่วนต่อเติมหรือเปลี่ยนหน้าต่างเก่า

(6) พื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ของคุณให้โอกาสประหยัดพลังงานและเงิน โดยผลลัพธ์เห็นได้ชัดและ มีความคุ้มค่ากับความพยายามที่ใส่ไป

 

71 Which of the following should be the best topic of this passage?

1 Home and Apartment Renovation

2 Energy and Money Savings

3 Homeowners and Renters.

4 What Energy Auditors Do

ข้อใดต่อไปนี้เหมาะเป็นหัวเรื่องของบทความนี้ที่สุด

1 การปรับปรุงบ้านและอพาร์ตเมนต์

2 พลังงานและการประหยัดเงิน

3 เจ้าของบ้านและผู้เช่า

4 หน้าที่ของผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงาน

ตอบ 2 ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเอ่ยถึงทุกข้อ แต่เนื้อหาเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและการประหยัดเงิน

เป็นประเด็นหลักจึงตอบข้อ 2

72 Which of the following best expresses the main ideas of the passage?

1 There are many things a homeowner or renter can do to save

2 Replacing windows and light bulbs are worth the effort and costs.

3 Hiring an energy auditor will help homeowners and renters save energy and money.

4 Homeowners and renter don’t know what they can do to save energy and money.

ถาม ข้อใดต่อไปนี้อธิบายประเด็นหลักของบทความนี้ที่สุด

1 มีหลายสิ่งที่เจ้าของบ้านหรือผู้เช่าสามารถทําได้เพื่อประหยัดพลังงานและเงิน

2 การเปลี่ยนหน้าต่างและหลอดไฟนั้นคุ้มค่ากับความพยายามและค่าใช้จ่าย

3 การจ้างผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานจะช่วยให้เจ้าของบ้านและผู้เช่าประหยัดพลังงานและเงิน

4 เจ้าของบ้านและผู้เช่าไม่รู้ว่าพวกเขาจะทําอะไรได้บ้างเพื่อประหยัดพลังงานและเงิน

ตอบ 1 จากย่อหน้าแรก กล่าวถึง Homeowners and renter และ ประเด็นหลักของบทความเกี่ยวกับสิ่ง

ต่าง ๆ ที่สามารถทําได้เพื่อประหยัดทั้งพลังงานและเงิน จะเห็นได้จากทุกย่อหน้าที่ระบุวิธีที่ไม่เหมือนกัน

73 in order to have long-term energy savings, the author suggests _____

1 replacing all the electric appliances.

2 hiring an electrician

3 changing entirely the electrical system

4 hiring an energy auditor

ถาม เพื่อประหยัดพลังงานในระยะยาว ผู้เขียนแนะนําให้ ______

1 เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

2 จ้างช่างไฟฟ้า

3 เปลี่ยนระบบไฟฟ้าทั้งระบบ

4 การจ้างผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงาน

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 2 For those willing to spend some time and money to reap long

term energy savings, an energy audit is the way to go.

74 According to the passage, which of the following would an energy auditor NOT do?

1 Locate a variety of flaws that may result in energy inefficiency and fix them.

2 Look for problems with heat distribution.

3 Check the construction flaws.

4 Offer solutions to lower the energy costs.

ถาม อ้างอิงจากบทความ ผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานจะไม่ทําข้อใดต่อไปนี้

1 ค้นหาจุดบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้การใช้พลังงานไม่มีประสิทธิภาพและแก้ไขมัน

2 หาปัญหาที่เกี่ยวกับการกระจายความร้อน

3 ตรวจสอบข้อบกพร่องในการก่อสร้าง

4 เสนอวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน

ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 1 offer solutions to lower your energy use and costs และจากย่อ

หน้าที่ 2 auditors know what to look for and can locate a variety of flaws that may be resulting in energy inefficiency, including iradequate insulation, construction flaws, and uneven heat distribution จะเห็นได้ว่ามีครบทั้งข้อ 2 ถึง 4 ส่วน ข้อ 1 เนื้อหาระบุว่าสามารถหาจุดบกพร่องได้ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะช่วยแก้ได้ จึงตอบข้อ 1

75 Which electric appliance is NOT mentioned in the passage?

1 iron.

2 dishwasher

3 washing machine

4 incandescent light

ถาม เครื่องใช้ไฟฟ้าใดที่ไม่ได้กล่าวถึงในเนื้อเรื่อง

1 เตารีด

2 เครื่องล้างจาน

3 เครื่องซักผ้า

4 หลอดไส้

ตอบ 1 dishwasher และ washing machine (ข้อ 2 และ 3) ระบุในย่อหน้าที่ 4 และหลอดไส้

(ข้อ 4) ระบุในย่อหน้าที่ 3 จึงตอบข้อ 1

76 Which of the following is NOT included in this passage?

1 Trained energy auditors know what to look for and can locate a variety of flaws that

may be resulting in energy inefficiency.

2 You can reduce your $130 monthly lighting costs to $65 by using fluorescent bulbs

instead of incandescent bulbs.

3 Your local energy company will send an energy auditor at your request.

4 Some electric appliances have energy-saving settings.

ถาม ข้อใดต่อไปนี้ไม่มีในเนื้อเรื่อง

1 ผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานที่ได้รับการฝึกอบรมรู้ว่าควรมองหาอะไร และสามารถระบุ

ข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้การใช้พลังงานไม่มีประสิทธิภาพ

2 คุณสามารถลดค่าไฟรายเดือนจํานวน $130 ให้เหลือ $65 ได้โดยใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์แทน

หลอดไส้

3 บริษัทพลังงานในพื้นที่ของคุณจะส่งผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานตามคําขอของคุณ

4 เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมีการตั้งค่าการประหยัดพลังงาน

ตอบ 3 ข้อ 1 ระบุในย่อหน้าที่ 1 Trained energy auditors know what to look for and can

locate a variety of flaws that may be resulting in energy ineficiency ข้อที่ 2 ระบุ ในย่อหน้าที่ 3 This can result in a savings of more than 50% on your monthly lighting costs. (50% ของ $130 คือ $65) ข้อที่ 4 ระบุในย่อหน้าที่ 4 be sure that you are taking advantage of energy-saving setings ส่วนข้อที่ 3 ไม่มีในเนื้อหา เนื้อหา เพียงแต่ระบุว่าผู้ตรวจสอบการจัดการพลังงานจะเข้ามาในบ้านและทําการประเมิน จึงตอบข้อที่ 3

77 According to the passage, it can be inferred that double-paned windows _____

1 should only be used in new additions to homes

2 should only be used as replacement windows

3 will lower your heating costs by 50%

4 are energy efficient

ถาม เราสามารถสรุปจากเนื้อเรื่องว่าหน้าต่างบานคู่ _____

1 ควรใช้เฉพาะส่วนต่อเติมใหม่ในบ้านเท่านั้น

2 ควรใช้เป็นหน้าต่างที่ใช้เปลี่ยนเท่านั้น

3 จะลดต้นทุนการทําความร้อนของคุณลง 50%

4 ประหยัดพลังงาน

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 5 choose double-paned windows if you’re building an addition

or replacing old windows สามารถตัดข้อ 1 และ 2 ได้ เพราะตัวเลือกคืออย่างใดอย่างหนึ่ง เท่านั้น แต่ในเนื้อเรื่องระบุว่าหน้าต่างบานคู่ใช้ได้เมื่อสร้างส่วนต่อเติมหรือเปลี่ยนหน้าต่างเก่า ส่วน ข้อ 3 เป็นข้อหลอก เพราะเนื้อเรื่องในย่อหน้าที่ 3 มีการเอ่ยถึงการลดค่าไฟถึง 50% แต่ด้วยการใช้ หลอดไฟไม่ใช่หน้าต่าง จึงตอบข้อที่ 4

78 The word “costly” (paragraph 3) means

1 effective

2 reasonable

3 expensive

4 cheap

ถาม คําว่า “costly” (จากย่อหน้าที่ 3) มีความหมายว่า

1 มีประสิทธิภาพ 2 สมเหตุสมผล 3 แพง 4 ถูก

ตอบ 3 costly = ราคาแพง จึงตอบข้อ 3

79 The word “they” (paragraph 1) refers to _____

1 homes

2 savings

3 apartments

4 homeowners and renters

ถาม คําว่า “they” (จากย่อหน้าที่ 1) อ้างอิงถึง _____

1 บ้าน

2 เงินที่ออม

3 อพาร์ตเมนต์

4 เจ้าของบ้านและผู้เช่า

ตอบ 4 คําสรรพนามอ้างอิงเจ้าของบ้านและผู้เช่าที่อยู่ต้นประโยค

80 The word “this” (paragraph 3) refers to ______

1 uneven heat distribution

2 to replace incandescent lights with fluorescents

3 there are quicker and less costly measures

4 one way to save money

ถาม คําว่า “this” (จากย่อหน้าที่ 3) อ้างอิงถึง _____

1 การกระจายความร้อนที่ไม่สม่ําเสมอ

2 การเปลี่ยนหลอดไส้ด้วยหลอดฟลูออเรสเซนต์

3 มีวิธีที่รวดเร็วและถูกกว่า

4 วิธีหนึ่งในการประหยัดเงิน

ตอบ 2 ประโยคเป็นประโยคต่อจากก่อนหน้า One way to save money is to replace

incandescent lights with fluorescents.

 

Passage 2

(1) Acid attacks are a form of violence, in which acid or another corrosive substance is thrown at a person – usually a woman or a girl – with the intention of maiming, torturing or killing them.

(2) Acid attacks perpetrated against women and girls are used as a means to permanently scar the survivor – they are an extreme form of violence against women and ..:: girls. They are used, because so much bearing is placed on the physical appearance of

women and girls.

(3) Women in countries around the world live with the threat of acid attacks, Globally,

there are approximately 1,500 acid attacks a year, but it ic crime that often goes unreported for fear of reprisal. The greatest prevalence is the South Asian countries including India, Pakistan and Bangladesh, where acid remains inexpensive and freely available.

(4) Most survivors of acid attacks are women and girls. The most common reasons for attacks on women and girls are the refusal of marria re, the denial of sex, and the sexual rejection of men and boys. It is an expression of control over women’s and girls’ bodies.

(5) in Bangladesh, there have been thousands of acid attacks over the last few years. . 3 These include young girls trying to escape force marriage. In most cases people purposely

aim for the face – destroying the eyelids so the eyes remain open -as a women’s face is seen as sacred. Her disfigurement then becomes a public mark of shame, making it hard for her to get married or gain employment.

(6) By harming the face of the survivor, the perpet ator limits their ability to engage in public life and damages their chance of marriage and having children. Acid attacks against

re have a multiplied impact because of the reaction of society to the survivor – something that is surely known by the perpetrator prior to the attack.

(1) การโจมตีด้วยกรดเป็นรูปแบบหนึ่งของความรุนแรง โดยกรดหรือสารกัดกร่อนอื่น ๆ จะถูกโยนใส่บุคคล ๆ หนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิง ด้วยเจตนาตั้งใจทําให้พิการ ทรมาน หรือฆ่าพวกเขา

(2) การโจมตีด้วยกรดที่กระทําผิดต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงถูกใช้เป็นวิธีการที่จะทําให้ผู้รอดชีวิตบาดเจ็บอย่าง ถาวร เป็นรูปแบบที่รุนแรงมากต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง การกระทํานี้ถูกใช้เพราะรูปลักษณ์ภายนอกมีความสําคัญ อย่างมากสําหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง

(3) ผู้หญิงในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอาศัยอยู่กับการคุกคามของการโจมตีด้วยกรด ทั่วโลกมีการโจมตีด้วยกรด ประมาณ 1,500 ครั้งต่อปี แต่เป็นอาชญากรรมที่มักไม่ได้รับการรายงานเพราะกลัวว่าจะเกิดการแก้แค้น การกระทํา นี้พบได้บ่อยที่สุดในประเทศในเอเชียใต้ ซึ่งรวมถึงอินเดีย ปากีสถาน และบังคลาเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ กรดยังคงมี ราคาไม่แพงและหาได้อย่างเสรี

(4) ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีด้วยกรดส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กผู้หญิง สาเหตุเบื้องหลังที่พบบ่อยที่สุดของการ โจมตีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงคือการปฏิเสธการแต่งงาน การปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ และการปฏิเสธทางเพศของผู้ชายและเด็กชาย เป็นการแสดงออกถึงการควบคุมร่างกายของผู้หญิงและเด็กผู้หญิง

(5) ในบังคลาเทศมีการโจมตีด้วยกรดหลายพันครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเด็กสาวที่พยายามหนีการ บังคับแต่งงาน ในกรณีส่วนใหญ่ผู้คนมุ่งเป้าไปที่ใบหน้า ซึ่งจะทําลายเปลือกตาเพื่อให้ดวงตายังคงเปิดอยู่เนื่องจาก ใบหน้าของผู้หญิงถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การทําให้เสียโฉมของเธอจึงกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความอับอายต่อสาธารณะ ทําให้เธอแต่งงานหรือหางานทําได้ยาก

(6) ผู้กระทําความผิดจํากัดความสามารถของผู้รอดชีวิตในการมีส่วนร่วมในชีวิตสาธารณะ และทําลายโอกาสของ การแต่งงานและการมีบุตรผ่านการทําร้ายใบหน้า การโจมตีด้วยกรดต่อผู้หญิงและเด็กหญิงจึงส่งผลกระทบทวีคูณจาก ปฏิกิริยาของสังคมต่อผู้รอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ทราบกันดีอยู่แล้วโดยผู้กระทําความผิดก่อนการโจมตี

 

81 Which of the following titles would best express the main topic of the passage?

1 Campaigning to change the law around acid attacks

2 Tackling acid attacks and supporting survivors

3 Acid attacks on women and girls

4 Violence perpetrated against women and girls by men and boys

ถาม  หัวข้อใดต่อไปนี้อธิบายประเด็นหลักของเนื้อเรื่องได้ดีที่สุด

1 การรณรงค์เปลี่ยนกฎหมายป้องกันการโจมตีกรด

2 การรับมือการโจมตีด้วยกรดและสนับสนุนผู้รอดชีวิต

3 การโจมตีด้วยกรดที่กระทําต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง

4 ความรุนแรงที่กระทําต่อสตรีและเด็กหญิงโดยบุรุษและเด็กชาย

ตอบ 3 ไม่มีการเอ่ยถึงการรณรงค์และการรับมือการโจมตีด้วยกรด จึงสามารถตัดข้อที่ 1 และ 2 ออก ส่วนข้อที่ 4 ที่เกี่ยวกับความรุนแรงยังไม่ละเอียดพอ จึงตอบข้อที่ 3

82 Which is incorrect, according to the passage?

1 Although acid attacks occur globally, this type of violence is most common in South

and Southeast Asia.

2 Some acid attack victims are afraid to come forward to report attacks.

3 Reasons behind acid attacks stem from troubled interpersonal relationships.

4 Acid attacks are a form of violence primarily targeted at women.

ถาม อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1 แม้ว่าการโจมตีด้วยกรดจะเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ความรุนแรงประเภทนี้พบได้บ่อยที่สุดในเอเชียใต้

และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2 เหยื่อการโจมตีด้วยกรดบางคนกลัวที่จะออกมารายงานการโจมตี

3 เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยกรดเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีปัญหา

4 การโจมตีด้วยกรดเป็นรูปแบบหนึ่งของความรุนแรงที่มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก

ตอบ 4 ย่อหน้าที่ 2 ระบุว่า Acid attacks perpetrated against women and girls ดังนั้นข้อที่

4 ยังไม่ถูกต้องเพราะทั้งบทความพูดถึงผู้หญิงและเด็กหญิงไม่ใช่แค่ผู้หญิง

83 Which is incorrect, according to the passage?

1 Cases of acid attacks are ubiquitous in India, Pakistan and Bangladesh

2 Acid is quite costly, but freely available in South Asian countries.

3 Some perpetrators purposely throw corrosive liquids at their victims’ faces.

4 Some victims are fearful to report acid attacks to the police for fear of reprisal.

ถาม  อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1 เหตุการณ์โจมตีด้วยกรดเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในอินเดีย ปากีสถาน และบังคลาเทศ

2 กรดมีราคาค่อนข้างแพง แต่สามารถหาซื้อได้อย่างเสรีในประเทศแถบเอเชียใต้

3 ผู้กระทําผิดบางคนจงใจโยนของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนใส่ใบหน้าของเหยื่อ

4 เหยื่อบางคนกลัวที่จะรายงานการโจมตีด้วยกรดต่อตํารวจเพราะกลัวว่าจะถูกแก้แค้น

ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 3 india, Pakistan and Bangladesh, where acid remains inexpensive

and freely available เนื้อความระบุว่ากรตยังคงมีราคาไม่แพงและหาได้อย่างเสรี ข้อที่ 2 จึงไม่ ถูกต้อง ข้อนี้ต้องค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดของเนื้อความเพราะจะเห็นได้ว่าส่วนหลังของข้อที่ 2 ระบุ ว่า available in South Asian countries ซึ่งถ้าดูจากเนื้อความ เนื้อความจะระบุประเทศ India, Pakistan and Bangladesh แทนการเขียนว่า South Asian countries แต่ถ้าดูจาก ย่อหน้าที่ 2 The greatest prevalence is the South Asian countries including India, Pakistan and Bangladesh จะเห็นว่าวลี South Asian countries ใช้อ้างถึง india, Pakistan and Bangladesh จึงตอบข้อนี้ได้

84 Which is correct, according to the passage?

1 The common motives for acid attacks are rejected marriage proposals, blackmail,

and jealousy

2 There are more than 5,000 acid attack cases recorded around the world every year.

3 The prevalence of acid attacks in South Asia can be explained by the easy availability of acids.

4 The country’s supreme court criticized the Indian government for failing to act on the problems of acid attack.

ถาม อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

1 แรงจูงใจทั่วไปสําหรับการโจมตีด้วยกรดคือการปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงาน แบล็กเมล์ และความ

หึงหวง

2 มีกรณีการโจมตีด้วยกรดมากกว่า 5,000 ครั้งทั่วโลกทุกปี

3 การพบได้บ่อยของการโจมตีด้วยกรดในเอเชียใต้มีเหตุมาจากการที่กรดหาได้ง่าย

4 ศาลสูงของประเทศวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอินเดียที่ล้มเหลวด้านการดําเนินการแก้ไขปัญหาการ

โจมตีด้วยกรด

ตอบ 3 ข้อนี้ต้องใช้การค่อย ๆ ตัดข้อออก เนื้อความไม่ได้ระบุเรื่องการแบล็กเมล์ และความหึงหวงจึง

สามารถตัดข้อ 1 ได้ เนื้อความระบุว่ามีการโจมตีด้วยกรดประมาณ 1 500 ครั้งต่อปีไม่ใช่ 5,000 ครั้ง จึงตัดข้อ 2 ได้ และไม่มีการกล่าวถึงศาลจึงตัดข้อที่ 4 ได้ และจากย่อหน้าที่ 3 The greatest prevalence is the South Asian countries including India, Pakistan and Bangladesh, where acid remains inexpensive and freely available ซึ่งตรงกับข้อที่ 3 จึงตอบข้อนี้

85 How many countries are mentioned by name in this article?

1 1

2 2

3 3

4 44

ถาม เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงชื่อประเทศที่ประเทศ

ตอบ 3 มีทั้งหมด 3 ประเทศ India, Pakistan and Bangladesh ในย่อหน้าที่ 3

86 Consequences of acid attack on women are mentioned in paragraph _____.

1 1

2 3

3 4

4 6

ถาม ผลที่ตามมาของการโจมตีด้วยกรดต่อผู้หญิงถูกกล่าวถึงในย่อหน้า _____.

ตอบ 4 เนื้อเรื่องสรุปผลในย่อหน้าที่ 6 ว่า limits their ability to engage in public life and

damages their chance of marriage and having children และพูดถึงผลโดยรวม Acid attacks against women and girls therefore have a multiplied impact

87 It can be inferred from the passage that the long-term consequences of acid attack may include enormous ____ difficulties.

1 social

2 economic

3 psychological

4 All are correct

ถาม สามารถอนุมานได้จากเนื้อความว่าผลระยะยาวของการโจมตีด้วยกรดอาจรวมถึงความ

ยากลําบากมหาศาลด้าน _____.

1 สังคม

2 เศรษฐกิจ

3 จิตวิทยา

4 ทั้งหมดถูกต้อง

ตอบ 1 ไม่มีการเอ่ยถึงผลทาง เศรษฐกิจหรือ จิตวิทยาของผู้รอดชีวิตจึงสามารถตัดข้อ 2.3 และ 4 ได้ อีก

ทั้งโดยรวมพูดถึงสังคม และพูดถึง reaction of society ในย่อหน้าที่ 6 จึงตอบข้อที่ 1

88 Which of the following topics does this story seem NOT to touch on?

1 Victims of human trafficking

2 Personal conflict regarding intimate relationships

3 Domestic intolerance

4 Violent assault

ถาม หัวข้อใดต่อไปนี้ที่เนื้อความนี้ดูเหมือนจะไม่พูดถึง

1 เหยื่อการค้ามนุษย์

2 ความขัดแย้งส่วนตัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใกล้ชิด

3 การไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่างภายในครัวเรือน

4 การทําร้ายร่างกาย

ตอบ 1 คําถามนี้ค่อนข้างยากเพราะต้องรู้ความหมายของศัพท์ในข้อที่ 3 domestic ส่วนใหญ่จะใช้

ความหมายในบริบทภายในประเทศ (เช่น domestic flight = เที่ยวบินภายในประเทศ) แต่ สามารถหมายถึงเกี่ยวกับบ้านและครอบครัว ส่วน intolerance ส่วนใหญ่จะใช้ความหมายในบริบท ของการแพ้ (เช่น food intolerance = อาการแพ้อาหารแฝง และ lactose intolerance = อาการแพ้น้ําตาลแลคโตส) แต่สามารถหมายถึงการไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง แต่หากไม่รู้ศัพท์ดู จากเนื้อความไม่มีการเอ่ยถึงการค้ามนุษย์จึงสามารถตอบข้อที่ 1 ได้เลย

89 The word “perpetrated” (in bold type) is the closest in meaning to _____

1 configured

2 prepared

3 committed

4 permitted

ถาม คําว่า “perpetrated” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 กําหนด 2 เตรียม 3 การกระทํา 4 อนุญาต

ตอบ 3 perpetrated = การกระทําผิด

90 The word “shame” (in bold type) is the closest in meaning to _____.

1 disappointment

2 disfigurement

3 encouragement

4 embarrassment

ถาม  คําว่า “shame” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 ความผิดหวัง

2 การเสียโฉม

3 การให้กําลังใจ

4 ความอับอาย ตอบ 4 shame = ความอับอาย

 

Passage 3

The influence of social media is being used in ways that shape politics, business, world culture, careers, innovation, and more.

A new study from Pew Research claims that about one in five U.S. adults gets their political news primarily through social media. The study also finds that those who do get their political news primarily through social media tend to be less well-informed and more likely to be exposed to unproven claims than people who get their news from traditional sources.

Almost a quarter of the world’s population is now on Facebook. In the U.S., nearly 80% of all internet users are on this platform. Because social networks feed off interactions among people, they become more powerful as they grow. Without social media, social, ethical, environmental, and political ills would have minimal visibility. Increased visibility of issues has shifted the balance of power from the hands of a few to the masses.

Businesses have realized they can use social media to generate insights, stimulate demand, and create targeted product offerings. These functions are important in traditional brick-and-motar businesses and, obviously, in the world of e-commerce.

Social media has had a profound effect on recruitment and hiring. Professional social networks such as LinkedIn are important social media platforms for anyone looking to stand out in their profession. They allow people to create and market a personal brand.

 

อิทธิพลของโซเชียลมีเดียถูกใช้ในรูปแบบที่มีผลต่อการเมือง การประกอบธุรกิจ วัฒนธรรมโลก อาชีพ นวัตกรรม และอื่น ๆ

การศึกษาใหม่จาก Pew Research อ้างว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันประมาณหนึ่งในห้าได้รับข่าวการเมืองผ่าน โซเชียลมีเดียเป็นหลัก ผลการศึกษายังพบว่าผู้ที่ได้รับข่าวการเมืองโดยหลักผ่านโซเชียลมีเดียมักจะมีความรู้น้อยและมีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลจากคํากล่าวอ้างที่ไม่ได้รับการพิสูจน์มากว่าผู้ที่ได้รับข่าวจากแหล่งข่าวดั้งเดิม ๆ

เกือบหนึ่งในสี่ของประชากรโลกใช้ Facebook ในสหรัฐอเมริกา ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบ 80% อยู่บน แพลตฟอร์มนี้ เนื่องจากเครือข่ายโซเชียลขึ้นอยู่กับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน มันจึงมีบทบาทมากขึ้นเมื่อสิ่งๆ นั้น (การปฏิสัมพันธ์)เติบโต หากปราศจากโซเชียลมีเดีย สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ทางสังคม จริยธรรม สิ่งแวดล้อม และการเมือง จะทําให้มองเห็นได้เพียงเล็กน้อย การมองเห็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นได้เปลี่ยนความสมดุลของอํานาจจากมือของคนไม่กี่คนไปสู่ มวลชน

ธุรกิจต่าง ๆ ตระหนักดีว่าพวกเขาสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึก กระตุ้นความต้องการ และ สร้างการนําเสนอผลิตภัณฑ์แบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ฟังก์ชันเหล่านี้มีความสําคัญในการทําธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม และแน่นอนว่าในโลกของอีคอมเมิร์ซอีกด้วย

โซเชียลมีเดียมีผลอย่างมากต่อการสรรหาและการจ้างงาน เครือข่ายโซเชียลระดับมืออาชีพเช่น LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สําคัญสําหรับทุกคนที่ต้องการโดดเด่นในอาชีพของตน พวกมันทําให้ผู้คนสามารถสร้าง และทําการตลาดแบรนด์ส่วนบุคคลได้

91 The main idea of the passage is ______

1 the effect of social media on recruitment and hiring

2 the political news on social media

3 the functions of social media on business

4 the impact of social media on society

ถาม ประเด็นหลักของเนื้อความคือ ______

1 ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อการสรรหาและการจ้างงาน

2 ข่าวการเมืองบนโซเชียลมีเดีย

3 หน้าที่ของโซเชียลมีเดียกับธุรกิจ

4 ผลกระทบของโซเซียลมีเดียต่อสังคม

ตอบ 4 เนื้อเรื่องพูดถึง politics, business, world culture, careers, innovation, and more

ไม่ได้เจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลัก จึงตอบข้อที่ 4

92 Which is correct according to the passage?

1 We can’t use social media to hire employee.

2 Social media becomes less important nowadays.

3 People who get their news from traditional sources tend to be well-informed

4 All are correct

ถาม อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

1 เราไม่สามารถใช้โซเชียลมีเดียจ้างพนักงานได้

2 โซเชียลมีเดียมีความสําคัญน้อยลงในปัจจุบัน

3 ผู้ที่ได้รับข่าวสารจากแหล่งข่าวดั้งเดิมมักจะเป็นผู้รอบรู้

4 ทั้งหมดถูกต้อง

ตอบ 3 จากย่อหน้าที่ 2 those who do get their political news primarily through social

media tend to be less well-informed and more likely to be exposed to unproven claims than people who get their news from traditional sources จึงตอบข้อที่ 3 ย่อ หน้าที่ 5 เอ่ยถึงการที่โซเชียลมีเดียมีผลอย่างมากต่อการสรรหาและการจ้างงาน ข้อที่ 1 จึงผิด และเนื้อความมีเนื้อหาเกี่ยวกับอิทธิพลต่าง ๆ ของโซเชียลมีเดียต่อสังคม ข้อที่ 2 จึงผิด

93 What is the share of U.S. adults who get their political news through social media?

1 5/1

2 1/4

3 3/5

4 1/5

ถาม สัดส่วนของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับข่าวการเมืองผ่านโซเชียลมีเดียคือเท่าไหร่

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 2 about one in five U.S. adults gets their political news primarily

through social media โดย one in five = หนึ่งในห้า

94 Based on the passage, how many people in the world are on Facebook nowadays?

1 2/5

2 nearly 1/4

3 nearly 1/5

4 2/4

ถาม อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง ทุกวันนี้มีคนบน Facebook กี่คนในโลก?

ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 3 Almost a quarter of the world’s population is now on Facebook

โดย almost = nearly = ประมาณ และ a quarter = หนึ่งในสี่

95 Which of the following is NOT true about the social media?

1 Social media has increased visibility of environmental issues.

2 Political news from social media tends to be unproven.

3 Social media plays an important role in business and politics.

4 Social media can negatively impact e-commerce

ถาม ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย

1 โซเชียลมีเดียทําให้มองเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

2 ข่าวการเมืองจากโซเชียลมักไม่ได้รับการพิสูจน์

3 โซเชียลมีเดียมีบทบาทสําคัญในธุรกิจและการเมือง

4 โซเชียลมีเดียสามารถส่งผลเสียต่ออีคอมเมิร์ซได้

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 4 These functions are important in traditional brick-and-motar

businesses and, obviously, in the world of e-Commerce เนื้อเรื่องระบุว่าโซเชียลมีเดีย

มีความสําคัญกับโลกของอีคอมเมิร์ซ แต่ไม่ได้พูดถึงผลเสีย

96 Based on the passage, which of the following is the advantage of using social media

in business?

1 Generating insights

2 Stimulating demand

3 Creating targeted product offerings

4 All are correct

ถาม จากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อดีของการใช้โซเชียลมีเดียในธุรกิจ

1 การสร้างข้อมูลเชิงลึก

2 การกระตุ้นความต้องการ

3 การสร้างการนําเสนอผลิตภัณฑ์แบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

4 ทั้งหมดถูกต้อง

ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 4 Businesses have realized they can use social mxdia to generate

insights, stimulate demand, and create targeted product offerings.

97 What is “Linkedin” according to the passage?

1 Profession

2 Social media platform

3 Personal brand

4 Recruitment and hiring

ถาม อ้างอิงจากเนื้อเรื่อง อะไรคือ “LinkedIn”

1 อาชีพ

2 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

3 แบรนด์ส่วนบุคคล

4 การรับสมัครและการว่าจ้าง

ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 5 Professional social networtc such as LinkedIn โดย social

network มีความหมายใกล้เคียงกับ social media platform ที่สุด

98 The word “exposed” (in bold type) is the closest in meaning to ____.

1 governed

2 isolated

3 informed

4 transferred

ถาม คําว่า “exposed” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 การปกครอง

2 การแยกหรือความโดดเดี่ยว

3 การรับรู้

4 การย้ายหรือโอน

ตอบ 3 exposed = เผยออกมา หรือ การรับรู้

99 The word “traditional” (in bold type) is the closest in meaning to ____

1 original

2 true

3 common

4 ideal

ถาม คําว่า “traditional” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____

1 ดั้งเดิม

2 เป็นความจริง

3 ธรรมดาหรือพบได้ทั่วไป

4 อุดมคติ

ตอบ 1 traditional = ดั้งเดิม โบราณ เก่าแก่

100 The word “profound” (in bold type) is the closest in meaning to ____

1 edible

2 keen

3 simple

4 confusing

ถาม คําว่า “profound” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____

1 กินได้ 2 กระตือรือร้น 3 เรียบง่าย 4 ทําให้สับสน

ตอบ 2 profound = ลึกซึ้ง เต็มที่ อย่างมาก ข้อที่ 2 มีความหมายใกล้เคียงมากที่สุด

 

ENG2002 การอ่านตีความ เตรียมสอบภาค 1 ปีการศึกษา 2563 

ข้อสอบสําหรับเตรียมสอบภาค 1 ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 2002 การอ่านตีความ

Part I: Seen Passages

ส่วนที่ 1 เนื้อหาในตำรา

A: Directions: Read the following statements.

Then blacken 1 for a true; statement, and blacken

2 for a false statement. (T=True; 2=False)

(คําสั่ง : ให้อ่านข้อความต่อไปนี้ ถ้าถูกให้ตอบข้อ 1 ถ้าผิดให้ตอบข้อ 2)

1 In scanning reading, the reader must understand the whole passage or article.

ถาม ในการอ่านแบบสแกนนิ่งนั้น ผู้อ่านต้องเข้าใจเนื้อเรื่องหรือบทความทั้งหมด

ตอบ 2 ผิด เพราะ การอ่านแบบจําเพาะ (Scanning) เป็นเทคนิคการอ่านข้อความอย่างเร็ว ๆ เพื่อที่จะ

ต้องการหาข้อมูลบางอย่างหรือคําตอบเฉพาะ โดยไม่สนใจใจความอื่น ๆ เลย นั่นแสดงว่า ผู้อ่านไม่ จําเป็นต้องเข้าใจทั้งหมด หรืออ่านทั้งหมด อ่านเฉพาะที่เราต้องการเท่านั้น

2 Referring items used in a text can come in many forms; for example, in a word or phrases.

ถาม คําอ้างอิงที่ใช้ในเนื้อหาสามารถอยู่ในหลายรูปแบบ เช่น อยู่ในรูปของคํา ๆ หนึ่งหรือวลีก็ได้

ตอบ 1 ถูกต้อง การอ้างอิง (reference) คือ การที่ผู้เขียนเชื่อมโยงความคิดของเนื้อหาของเรื่องโดยการ

ใช้คําหรือวลีแทนคําหรือข้อความที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยไม่ต้องกล่าวคําหรือข้อความนั้น ๆ ซ้ำอีก ในการกล่าวถึงในครั้งต่อ ๆ ไป คําหรือวลีที่ผู้เขียนใช้แทนนี้เรียกว่า ตัวอ้างอิง (referring item) ซึ่งจะเป็นคํา ๆ เดียวหรือวลี ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่อยู่ก่อนหน้าหรือหลังตัวอ้างอิงนั้น

3 All personal pronouns can be used as a referring item.

ถาม บุรุษสรรพนามทั้งหมดสามารถใช้เป็นตัวอ้างอิงได้

ตอบ 1 personal pronoun บุรุษสรรพนามทุกตัวใช้เป็นตัวอ้างอิงได้ ซึ่งสรรพนามสามารถแบ่ง

ออกเป็นกลุ่มได้ 4 กลุ่ม ดังนี้

1 subject pronoun ได้แก่ I, we, you, he, she, it, และ they

2 object pronoun ได้แก่ me, us, you, him, her, it, และ them

3 possessive adjective ได้แก่ my, our, your, his, her its, และ their

4 possessive pronoun ได้แก่ mine, ours, yours, his, hers และ theirs

4 The stated main idea can be found at the beginning, middle or the bottom of a paragraph.

ถาม ใจความสําคัญที่ระบุไว้ในย่อหน้าสามารถพบได้ตอนต้น กลาง หรือ ท้ายของย่อหน้าได้

ตอบ 1 ใจความสําคัญที่ระบุในย่อหน้า (Stated Main idea) คือ ใจความสําคัญที่ผู้เขียนเขียนไว้อย่าง

ชัดเจนในย่อหน้านั้น ๆ ซึ่งอาจจะใช้หลักการหาใจความสําคัญโดยอาศัยคําหรือกลุ่มคําชี้แนะก็ได้ โดยทั่วไปแล้วใจความสําคัญมักจะปรากฏในประโยคแรกของย่อหน้า แต่บางครั้งก็อาจจะอยู่ใน ตําแหน่งอื่น ๆ ของย่อหน้าก็ได้ จะอยู่ ต้น กลาง ท้ายของย่อหน้าก็ได้

5 Inference in reading requires readers to understand the article comprehensively.

ถาม การวิเคราะห์สรุปความในการอ่านต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจบทความอย่างครอบคลุม

ตอบ 1 การอ่านแบบวิเคราะห์สรุปความ (Inference) การอ่านเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ผู้อ่าน

ไม่เพียงแต่ต้องทราบว่าผู้เขียนเขียนเกี่ยวกับอะไร มีใจความสําคัญอย่างไร และรายละเอียด สนับสนุนมีอะไรบ้าง ผู้อ่านยังต้องคิดให้ลึกซึ้งกว่าข้อความที่ปรากฏในเรื่อง และตีความสิ่งที่ผู้เขียนชี้แนะหรือแสดงนัยไว้ (implied meaning) เพื่อวิเคราะห์และสรุปความหาข้อมูลที่ซ่อนเร้น หรือแฝงอยู่ในรายละเอียด นั่นแสดงว่าผู้อ่านต้องอ่านอย่างถี่ถ้วน ครอบคลุมให้ละเอียดเพราะบทความไม่ได้กล่าวตรง ๆ ต้องวิเคราะห์สรุปเอา

6 Those who can read fast are considered as effective readers.

ถาม ผู้ที่อ่านได้เร็วถือเป็นผู้อ่านที่มีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 ผู้อ่านได้เร็ว ไม่จําเป็นว่าจะต้องเป็นผู้อ่านที่มีประสิทธิภาพเสมอไป

7 Background knowledge helps readers to understand the text.

ถาม  ความรู้ภูมิหลังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหา

ตอบ 1 ถูกต้อง ผู้อ่านที่ขาดความรู้พื้นฐาน (Background knowledge) ในเรื่องที่อ่าน มีความรู้เดิม

ไม่เพียงพอ เช่น โครงสร้างของประโยค ศัพท์ สํานวน ก็อาจทําให้อ่านไม่เข้าใจ เพราะการอ่าน ไปได้อย่างราบรื่นรวดเร็วก็ต้องอาศัยความรู้เดิม (Prior knowledge) ด้วย ฉะนั้นถ้าผู้อ่านนั้นมีความรู้ภูมิหลังก็จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหานั้นได้ดีกว่าผู้อ่านที่ไม่มีความรู้ภูมิหลัง

8 A good paragraph consists of two elements; a topic, and a main idea.

ถาม ย่อหน้าที่ดี ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ หัวเรื่องและใจความสําคัญ

ตอบ 2 ผิด เพราะอนุเฉทหรือย่อหน้า (Paragraph) คือ กลุ่มประโยคที่กล่าวถึงหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

เนื้อหาในแต่ละประโยคจะเกี่ยวข้อง อธิบาย ขยายความคิดหัวเรื่องเดียวกันแต่ละอนุเฉท ประกอบด้วย 3 อย่าง คือ

1 หัวเรื่อง (topic) หรือ ชื่อเรื่อง (title)

2 ใจความสําคัญ (main idea) เกี่ยวกับหัวเรื่องนั้น

3 ข้อความสนับสนุนหรือรายละเอียดที่อธิบายใจความสําคัญ (Supporting details)

9 A topic sentence has to be written with a complete sentence.

ถาม ประโยคหัวเรื่องต้องเขียนอยู่ในรูปของประโยคที่สมบูรณ์

ตอบ 1 ถูกต้อง ประโยคที่เป็น topic sentence หรือ main idea จะต้องเขียนเป็นประโยคที่สมบูรณ์

10 In skimming, it is important for readers to read every word in the passage.

ถาม การอ่านแบบสกิมมิ่ง เป็นสิ่งสําคัญสําหรับผู้อ่านจะต้องอ่านทุกคําในเนื้อเรื่อง

ตอบ 2 ผิด เพราะการอ่านแบบสกิมมิง (Skimming) เป็นเทคนิคการอ่านข้อความอย่างเร็ว ๆ โดยไม่อ่าน

ทุกตัว แต่จะอ่านข้ามเป็นประโยคหรือเป็นบรรทัด ๆ ไป จุดประสงค์เพื่อหาภาพรวม หาประเด็น หรือใจความสําคัญโดยทั่วไป (main idea, general idea) หรือเพื่อเก็บรายละเอียดสําคัญ บางอย่างเท่านั้น

 

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer : for each question. (คําสั่ง: อ่านเนื้อหาต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดในแต่ละคําถาม)

Passage 1

Part of the explanation of women’s exclusion from artistic endeavors, as well as many others, such as politics and business, is to be sought in their virtually complete lack of economic autonomy and the tolls exacted by childbirth and domestic responsibilities. A case in point is Marietta Robusti, daughter of the famous Venetian Mannerist painter known as Tintoretto. After years as an apprentice in her father’s studio, she gained international recognition as a portraitist and was called to the Spanish royal court of Phillip… 11. Her father forbade her to go and found her a husband instead. She died four years later in childbirth. Her father, on the other hand, lived to the age of seventy-six. The extreme brevity of the careers of many brilliant women artists has meant that few of their works remain. Such is the case of the talented and highly original sculptor Properzia de’Rossi, who died of illness at an early age, or the French painter Marie Guillemine Benoist, who was forced to abandon her art because her husband’s official appointment made it impossible for her to continue to participate in the state sponsored exhibitions that had been opened to women under the revolutionary government. A notable exception to these truncated careers is that of a sixteenth century painter from Bologna, Lavinia Fontana, who painted for several decades in spite of familial duties (with which her husband helped) received papal commissions, and was elected to the Roman Academy.

ส่วนของการอธิบายถึงการกีดกันผู้หญิงจากความพยายามในการสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมถึงความพยายาม ด้านอื่น ๆ เช่น การเมืองและธุรกิจ, เป็นการแสวงหาการขาดความเป็นตัวของตัวเองทางเศรษฐกิจ และ ปัญหาที่ถูกกําหนดจากการคลอดบุตร และความรับผิดชอบภายในครอบครัว ตัวอย่างที่ตรงจุดนี้คือ มาร์เร็ตตา โรบัสติ, บุตรสาวของจิตรกรและนักศิลปนิยมชาวเวนิสรู้จักกันในชื่อ ตินโตเร็ทโต หลังจากหลายปีที่เธอได้เป็นเด็กฝึกงาน ในสตูดิโอของพ่อเป็นเวลาหลายปี เธอได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในฐานะที่เป็นนักวาดภาพเหมือน และได้รับเชิญไปยังราชสํานักของพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปน แต่พ่อของเธอห้ามไม่ให้เธอไปและหาสามีให้เธอ แทน เธอเสียชีวิตใน 4 ปีต่อมาจากการคลอดบุตร ซึ่งตรงกันข้ามกับพ่อของเธอมีอายุจนถึง 76 ปี ในระยะเวลาอันสั้นอย่างมากของการประกอบอาชีพของจิตรกรหญิงที่ชาญฉลาดหลายคน หมายความว่าแทบจะไม่มีผลงานทางศิลปะของพวกเธอหลงเหลืออยู่เลย กรณีที่เป็นตัวอย่างกรณีของนักประติมากรที่มีพรสวรรค์และมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวสูง เธอ คือ โพรเพอเซีย เดอ รอสซี เธอเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่อายุยังน้อย หรือจิตรกรชาว ฝรั่งเศสที่ชื่อ Marie Guillermine เธอถูกบังคับให้ทิ้งงานศิลปะของเธอเพราะว่าการแต่งตั้งตําแหน่งที่เป็นทางการ ของสามีเธอ ทําให้เป็นไปไม่ได้สําหรับเธอที่จะเข้ามีส่วนร่วมในนิทรรศการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งเป็น นิทรรศการที่ได้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงภายใต้รัฐบาลที่มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลง ข้อยกเว้นที่โดดเด่นในการตัด โอกาสอาชีพนี้ก็คือ จิตรกรในศตวรรษที่ 16 จาก Bologna ที่ชื่อลาวิเนีย ฟอนตานา เธอวาดภาพมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ทั้ง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัว (ซึ่งสามีของเธอคอยให้ความช่วยเหลือเธอด้วย) เธอได้รับ แต่งตั้งจากพระสันตะปาปาและได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งในสมาคมส่งเสริมศิลปะแห่งโรมัน

11 Which is incorrect according to the passage?

1 Women are responsible for the household work.

2 The roles of men have barely affected women’s lives.

3 Marietts Robusti died while giving birth.

4 Marietts Robusti painted for several decades in spite of familial duties.

ถาม ข้อไหนไม่ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 ผู้หญิงรับผิดชอบงานบ้าน 2 บทบาทของผู้ชายแทบจะไม่มีผลต่อความเป็นอยู่ของผู้หญิง 3 มาร์เร็ตตา โรบัสตี เสียชีวิตในขณะที่คลอดลูก 4 มาร์เร็ตตา โรบัสตีวาคภาพเป็นเวลาหลายสิบปีถึงแม้จะมีภาระรับผิดชอบต่อครอบครัว

ตอบ 4 ที่ไม่ถูกคือตัวเลือกที่ 4 มาจากข้อความท้ายของเรื่อง ซึ่งเป็นของ Lavinia Fontana, who

painted for several decades in spite of familial duties ซึ่งเป็นของสวิเนีย ฟอนตา นา ไม่ใช่ของมาร์เร็ตตา โรบัสตี

12 Which of the following does not explain women’s exclusion from art?

1 Lack of adequate talent

2 Lack of economic freedom

3 Politics and business

4 Tolls exacted by childbirth

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้อธิบายการกีดกันผู้หญิงออกจากงานศิลปะ

1 การขาคพรสวรรค์ที่เพียงพอ 2 การขาคอิสรภาพทางด้านเศรษฐกิจ 3 การเมืองและธุรกิจ

4 อุปสรรคที่ถูกกําหนดจากการคลอดบุตร

ตอบ 1 ที่ไม่ได้กล่าวคือ ตัวเลือกที่ 1 ว่าไม่มีพรสวรรค์

13 How many names of women artists are mentioned in this passage?

1 3

2 4

3 5

4 6

ถาม มีชื่อศิลปินผู้หญิงกี่คนที่กล่าวถึงในเรื่องนี้

ตอบ 2 มี 4 คนคือ 1 Marietta Robusti 2 Properzia deRossi 3 Marie Guillermine

Benoist และคนที่ 4 ที่ได้ไม่ได้โดนกีดกัน คือ Lavinia Fontana

14 Which of the following topics does this story seem not to touch on?

1 Social exclusion

2 Social inclusion

3 Women artists

4 Female artists

ถาม หัวเรื่องไหนต่อไปนี้ที่เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ได้กล่าวถึง

1 การกีดกันทางสังคม 2 การรวมทางสังคม 3 ศิลปินหญิง 4 ศิลปินผู้หญิง

ตอบ 2 เนื้อเรื่องกล่าวถึง ศิลปินหญิงหรือเพศหญิง และการกีดกัน แต่ไม่ได้กล่าวถึงการรวมกัน

15 The word “truncated” in bold type is the closest in meaning to _____.

1 stretched

2 curtailed

3 relegated

4 recorded

ถาม คําว่า “truncated” ในตัวพิมพ์หนา มีความหมายใกล้เคียงที่สุดกับ _____.

1 ยืด ออก แผ่ 2 กําจัด ลิตรอน 3 ผลักไส 4 บันทึก

ตอบ2 truncated = curtailed = ถูกตัด ทําให้สั้นลง กําจัด ลิดรอน

 

Passage 2

Other concerned people are working to save whales from extinction in another way, These people believe that the best means to save the whales is by making whale products expensive. They think that if whale products become less economical than similar products, whalers will kill fewer whales. The supply of whale products will decrease because of the lower demand for whale products. For example, one of the most valuable whale products is whale oil. Whale oil, which is processed from the fat, meat, and bones of whales, has many uses. For example, it is used in the manufacture of margarine, soap, and certain cosmetics. One large whale may yield 150 barrels of whale oil. Scientists have found a plant oil that is similar to the valuable whale oil; it is the oil of a desert plant, jojoba (pronounced ho-Ho-ba) oil. People hope that jojoba oil can be produced more economically than whale oil and that, in this way, they can help to save the whales.

คนอื่น ๆ ที่รู้สึกห่วงใยกําลังทํางานกันเพื่อช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬให้รอดพ้นจากการสูญพันธ์เป็นอีกวิธีการ หนึ่ง ผู้คนเหล่านี้เชื่อว่า วิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬคือ โดยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬมีราคาแพง พวกเขาคิดว่า ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬมีราคาประหยัดน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน ผู้ล่าปลาวาฬจะฆ่าปลาวาฬน้อยลง การจัดป้อนสินค้าสู่ท้องตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬจะลดลง เนื่องจากความต้องการสินค้าของตลาดสําหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬลดต่ำลง ยกตัวอย่างเช่น ในบรรดาผลิตภัณฑ์จากปลาวาฬที่มีมูลค่ามากที่สุดตัวหนึ่งคือ น้ำมันปลาวาฬ น้ำมันปลาวาฬซึ่งถูกผ่านกรรมวิธีมาจากไขมัน เนื้อ และกระดูกของปลาวาฬ มีประโยชน์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น มันจะถูกใช้ในการผลิตเนยเทียม สบู่ และเครื่องสําอาง บางชนิด ปลาวาฬขนาดใหญ่หนึ่งตัวอาจจะให้น้ำมันปลาวาฬที่มีค่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบน้ำมันจากพืชที่มีคุณค่าเหมือนหรือคล้ายกับน้ำมันจากปลาวาฬ ซึ่งมันเป็นน้ำมันจากพืชในทะเลทรายชนิดหนึ่ง นั่นคือ น้ำมันโจโจ บา (ออกเสียงว่า โฮ-โฮ-บา) ผู้คนต่างหวังว่า น้ำมันโจโจบา จะสามารถถูกผลิตขึ้นมาได้อย่างประหยัดมาเกาะ น้ำมันปลาวาฬ และนั่นก็หมายความว่า ด้วยวิธีการนี้พวกเขาจะสามารถช่วยรักษาชีวิตปลาวาฬให้รอดพ้นจากการ สูญพันธุ์ได้

16 The main idea of this paragraph is in sentence ______.

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้อยู่ในประโยคที่ _____.

ตอบ 2 ประโยคแรก กล่าวต่อเนื่องมาจากย่อหน้าก่อนหน้านี้ ว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่จะปกป้องปลาวาฬ และเผย

วิธีปกป้องในย่อหน้านี้คือประโยคที่ 2 จึงเป็นประโยคใจความสําคัญของย่อหน้านี้

17 It can be inferred from the passage that the strategy used to save the whales is _____.

1 by making whale products famous

2 by making whale products more popular

3 by making whale products unique

4 by making whale products costly

ถาม สามารถสรุปจากเนื้อเรื่องนี้ว่ากลยุทธ์ที่ใช้ปกป้องปลาวาฬคือ _____.

1 ด้วยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาหมีชื่อเสียง

2 ด้วยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น

3 ด้วยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬเป็นเอกลักษณ์

4 ด้วยการทําให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปลาวาฬมีราคาแพง (costly = expensive)

ตอบ 4 มาจากประโยคที่ 2 คือ the best means to save the whales is by making whale

products expensive

18 It can be assumed that jojoba does not thrive in ____ weather climate.

1 dry

2 hot

3 frosty

4 acid

ถาม สามารถสันนิษฐานว่าน้ำมันโจโจบา ไม่เติบโตในสภาพอากาศที่ ____.

1 แห้งแล้ง

2 ร้อน

3 หนาวจัด

4 แห้งแล้ง

ตอบ 3 ในเนื้อเรื่องกล่าวว่าน้ำมันโจโจบาเป็นน้ำมันจากพืชในทะเลทรายชนิดหนึ่งแสดงว่าขึ้นในอากาศที่

ร้อนและแห้งแล้ง แต่ไม่ขึ้นในอากาศหนาวจัด

19 Which of the following is not considered one of the “whale products”?

1 Margarine

2 Soap

3 Shortening

4 Jojoba oil

ถาม ต่อไปนี้ไม่ใช่เป็นหนึ่งใน “เลิตภัณฑ์ปลาวาฬ”

1 เนยเทียม

2 สบู่

3 เนยขาว

4 น้ำมันโจโจบา

ตอบ 4 Jojoba oil มาจากน้ำมันจากพืชในทะเลทราย ไม่ใช้มาจากปลาวาฬ

20 Overall, what mood is portrayed by the end of this passage?

1 Skeptical

2 Hopeful

3 Dismissive

4 Informative

ถาม ทั้งกล่าวมา พรรณนาในตอนท้ายของเรื่องนี้ให้ความรู้สึกอย่างไร

1 กังขา ไม่น่าเชื่อ 2 มีความหวัง 3 เพิกเฉย ไม่สนใจ 4 ให้ความรู้

ตอบ 2 ตอนท้ายยกตัวอย่างน้ำมันโจโจบาสามารถมาแทนที่น้ำมันจากปลาวาฬ ทําให้มีความหวัง

21 The word “expensive” in bold type is the closest in meaning to _____.

1 pricey

2 slight

3 economical

4 enchanting

ถาม คําว่า “expensive” ในตัวพิมพ์หนามีความหมายใกล้เคียงกับ

1 แพง 2 เล็กน้อย 3 ประหยัด 4 มีเสน่ห์

ตอบ 1 expensive = costly = pricey = แพง

 

Passage 3

In general, therefore, an unconscious secret is more harmful than one that is conscious. I have seen many patients in difficult situations of life which might have driven weaker natures to suicide. These patients had at times a tendency towards suicide, but, on account of their inherent reasonableness, would not allow the suicide urge to come into consciousness. But it remained active in the unconscious, and brought about all kinds of dangerous accidents-as for instance an attack of faintness or hesitation in front of an advancing motorcar, the swallowing of corrosive sublimate in the belief that it was a cough mixture, a sudden zest for dangerous acrobatics, and so forth. When it was possible to make the suicide leaning conscious, common-sense could helpfully intervene; the patients could then recognize and avoid those situations that tempted them to self-destruction.

ดังนั้น โดยทั่วไปความลับที่ไม่รู้ตัวเป็นอันตรายมากกว่าความลับที่รู้ตัว ผมเคยเห็นคนไข้จํานวนมาก ประสบปัญหาร้ายแรงในชีวิต ซึ่งอาจจะผลักดันธรรมชาติที่อ่อนแอของเขาให้ฆ่าตัวตาย ผู้ป่วยเหล่านี้ในบางครั้งมี แนวโน้มต่อการฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความคิดถึงมีเหตุผลที่อยู่ในตัวของเขาจึงไม่ยอมให้แรงกระตุ้นการฆ่าตัวตายเข้ามาสู่สติสัมปชัญญะ แต่มันคงกระตือรือร้น (ทํางานอยู่) ภายใต้ความไม่รู้สึกตัวและก่อให้เกิดอันตรายได้ทุกประเภท ตัวอย่างเช่น การเป็นลมหน้ามืดหรือความลังเลอยู่ข้างหน้ารถที่กําลังวิ่งมา หรือการกลืนสารพิษโดยคิดว่ามันเป็นยาแก้ไอ หรือความสนุกสนานตื่นเต้นความอยากเล่นกีฬาโลดโผนอย่างทันทีทันใด และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นไปได้ที่แนวโน้มในการฆ่าตัวตายอาจจะโน้มเอียงไปเป็นความรู้สึกตัว สติสัมปชัญญะสามารถช่วยขัดขวาง และคนป่วยรู้ตัวและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ล่อหลอกให้พวกเขาฆ่าตัวตาย

22 According to the passage, what is the most dangerous kind of secret?

1 Any kind of secret

2 Conscious secret

3 Unconscious secret

4 Both conscious and unconscious secrets

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ความลับแบบไหนที่อันตรายมากที่สุด

1 ความลับแบบไหนก็ได้ 2 ความลับที่รู้ตัว 3 ความลับที่ไม่รู้ตัว 4 ทั้งความลับที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

ตอบ 3 จากประโยคแรกที่กล่าวว่าความลับไม่รู้ตักอันตรายมากกว่าความลับที่รู้ตัว

23 The author mentions the difficult situations of life because

1 they can lead to committing suicide

2 they can affect the quality of life

3 they urge to come into consciousness

4 we can find the inner strength to get through them

ถาม ผู้เขียนกล่าวถึงสถานการณ์ที่เป็นปัญหาของชีวิตเพราะ _____.

1 พวกเขาสามารถนําไปสู่การฆ่าตัวตายได้

2 พวกเขาสามารถส่งผลต่อคุณภาพของชีวิต

3 พวกเขากระต้นให้มีสติ

4 เราสามารถค้นหาความแข็งแกร่งภายในเพื่อผ่านพ้นไปให้ได้

ตอบ 1 จากข้อความว่า difficult situations of life which might have driven weaker natures

to suicide. These patients had at times a tendency towards suicide นั่นคือ

สามารถนําไปสู่การฆ่าตัวตายได้

24 Which of the following statements is NOT TRUE?

1 A conscious secret is harmful

2 Faintness is one of the effects of having secrets which are active in the

unconscious

3 There is nothing we can do to help people when they are trying to kill themselves

4 People normally have reasonableness

ถาม ข้อความไหนต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1 ความลับที่รู้ตัวเป็นอันตราย

2 การเป็นลมเป็นผลกระทบอย่างหนึ่งของการมีความลับซึ่งออกฤทธิ์โดยไม่รู้ตัว

3 ไม่มีอะไรที่เราสามารถทําได้เพื่อช่วยเหลือผู้คนเมื่อพวกเขาพยายามฆ่าตัวตาย

4 ผู้คนโดยปกติมีความสมเหตุสมผล

ตอบ 3 ตัวเลือกบอกว่าเมื่อคนพยายามฆ่าตัวตาย เราไม่สามารถทําอะไรได้ในการช่วยเหลือ ไม่ถูกต้อง

25 According to the passage, what will happen when committing suicide is active in the

consciousness of patients?

1 They could try hard to kill themselves

2 They could try not to kill themselves

3 The faintness and hesitation in front of an advancing motorcar keeps on increasing

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อการกระทําฆ่าตัวตายยังมีผลในจิตสํานึกของผู้ป่วย

1 พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะฆ่าตัวตาย

2 พวกเขาพยายามที่จะไม่ฆ่าตัวตาย

3 การเป็นลมหน้ามือและความลังเลต่อหน้ารถที่กําลังวิ่งมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 จากประโยคท้ายย่อหน้าว่า VWhen it was possible to make the suicide leaning

conscious, common-sense could helpfully intervene; the patients could then recognize and avoid those situations that tempted them to self-destruction ถ้าผู้ป่วยมีจิตสํานึกคือ รู้ตัว พวกเขาพยายามที่จะไม่ฆ่าตัวตาย

26 According to the passage, the word “self-destruction” (in bold type) is closest in

meaning to _____.

1 suicide

2 unconsciousness

3 difficult situations

4 secret

ถาม ตามเนื้อเรื่อง คําว่า “self-destruction” (ในตัวพิมพ์หนา)มีความหมายใกล้เคียงกับ ____.

1 การฆ่าตัวตาย 2 ความไม่รู้สึกตัว 3 สถานการณ์ที่เป็นปัญหา 4 ความลับ

ตอบ 1 “self-destruction” คือ การทําลายตัวเองก็คือการ ฆ่าตัวตาย (suicide)

27 The word “zest” (in bold type) is closest in meaning to _____.

1 disappointment

2 mystery

3 advancement

4 enjoyment

ถาม คําว่า “zest” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 ความผิดหวัง 2 ความลึกลับ 3 ความก้าวหน้า 4 ความสนุกสนานเพลิดเพลิน

ตอบ 4 “zest” = enjoyment = ความสนุกสนาน

Passage 4

Industrial societies recognize the nuclear family, a social unit composed of one or, more commonly, two parents and children. Typically based on marriage, the nuclear

family is also often called the conjugal family. In preindustrial societies, however, the extended family, a social unit including parents, children and other kin, predominates. This is also called the consanguine family: meaning that it is based on blood ties. Extended families frequently include grandparents, aunts, uncles, and other kin. In the United States, extended families are not typical, but they are common among some ethnic categories, especially – Americans of Hispanic ancestry, In addition, about one in seven elderly people lives with a relative other than a spouse, thereby forming an extended

family.

สังคมอุตสาหกรรมจะยอมรับครอบครัวเดียว ซึ่งเป็นหน่วยสังคมที่ประกอบด้วยพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง หรือโดยทั่วไปแล้วมีพ่อและแม่ทั้งสองพร้อมกับลูก ๆ โดยปกติแล้วอยู่บนพื้นฐานการแต่งงาน ครอบครัวเดี๋ยวจึง มักจะถูกเรียกว่าเป็นครอบครัวสมรส แต่อย่างไรก็ตาม ในสังคมก่อนยุคอุตสาหกรรมครอบครัวขยาย ซึ่งเป็นหน่วยสังคม ที่ประกอบด้วย พ่อแม่ลูก และญาติพี่น้องอื่น ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เด่นกว่าและรูปแบบนี้ก็ยังคงถูกเรียกว่าเป็น ครอบครัวร่วมสายเลือดเดียวกัน นั่นหมายความว่า อยู่บนรากฐานของการผูกพันทางสายเลือด ครอบครัวขยาย มักจะรวมถึง ปู่ ย่า ตา ยาย ป้า น้า อา ลุง และญาติคนอื่น ๆ ด้วย ในประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบครัวขยายไม่ใช่ เป็นครอบครัวแบบฉบับทั่วไป แต่เป็นครอบครัวที่มีอยู่ทั่วไปในกลุ่มเชื้อชาติที่มีขนบธรรมเนียมเดียวกัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งชาวอเมริกันที่สืบเชื้อสายมาจาก ลาตินอเมริกา นอกจากนี้แล้วคนชราประมาณ 1 ใน 7 จะอาศัยอยู่กับญาติ มากกว่าที่จะอยู่กับคู่สมรสของตน ด้วยเหตุนี้จึงทําให้เกิดครอบครัวขยายขึ้น

 

28 According to the passage, what is most likely to be a common type of family in societies nowadays?

1 The conjugal family

2 The consanguine family

3 The extended family

4 1 and 2 are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อไหนเป็นไปได้มากที่สุดที่เป็นรูปแบบครอบครัวทั่วไปในสังคมปัจจุบัน

1 ครอบครัวสมรส 2 ครอบครัวร่วมสายเลือด 3 ครอบครัวขยาย 4 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 1 จากเรื่องนี้ รูปแบบครอบครัวทั่วไปจะเป็นครอบครัวเดี่ยว nuclear family ก็คือ conjugat

family ครอบครัวสมรส จากประโยค Typically based on marriage, the nuclear

family is also often called the conjugal family.

29 Which of the following is NOT TRUE about the extended family?

1 The extended family predominates in preindustrial societies

2 The extended family is based on blood ties

3 The extended family composes of parents and children

4 Consanguine family is another name of extended family

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับครอบครัวขยาย

1 ครอบครัวขยายมีอํานาจเหนือกว่าในสังคมยุคก่อนอุตสาหกรรม

2 ครอบครัวขยายขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทางสายเลือด

3 ครอบครัวขยายประกอบด้วยพ่อแม่และลูก

4 ครอบครัวร่วมสายเลือดเป็นอีกชื่อหนึ่งของครอบครัวขยาย

ตอบ 3 ครอบครัวขยาย จะประกอบด้วย พ่อแม่ ลูก และญาติ (kins) ด้วยจากประโยค the extended

family, a social unit including parents, children and other kin, predominates.

30 According to the passage, what kind of family type are the Hispanic Americans?

1 The extended family

2 The nuclear family

3 The conjugal family

4 The typical family

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกเป็นครอบครัวประเภทใด

1 ครอบครัวขยาย 2 ครอบครัวเดี่ยว 3 ครอบครัวสมรส 4 ครอบครัวแบบฉบับ

ตอบ 1 อยู่ท้าย ๆ ย่อหน้าที่ยกตัวอย่างครอบครัวฮิสแปนิก (ลาตินอเมริกา) จะเป็นแบบครอบครัวขยาย ใน

บางเชื้อชาติ

31 The word “ancestry” (in bold type) is closest in meaning to _____.

1 aged

2 origin

3 ancient

4 experienced

ถาม คําว่า “ancestry” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 มีอายุ แก่ 2 วงศ์ตระกูล 3 เก่าแก่ โบราณ 4 ประสบ รับรู้

ตอบ 2 “ancestry” = origin, descent = วงศ์ตระกูล เทือกเถาเหล่ากอ บรรพบุรุษ

 

Passage 5

The idea that all people are unique and have within themselves their full potential is an appealing one. The direct implication is that the role of society is to encourage and support individual growth, giving maximum freedom to express one’s inner tendencies. Unlike Freud, who emphasized the necessity of socialization and control, humanistic psychologists feel that an authoritarian parent or a strict environment will interfere with the person’s development. Even loving parents can do harm if they make decisions for their children or try to encourage them along preconceived lines of development. The mother who gives her son piano lessons because she wants him to be a great musician may think she is going the best for her child, but may not be if the child’s natural inclinations are not musical. The enlightened father who wants his daughter to be a doctor may be working against this particular girl’s innate talent for physics or dancing. In other words, the ideal environment is one that allows and encourages children to express their own feelings and to develop unique interests and abilities.

ความคิดที่ว่า ผู้คนทั้งหลายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีศักยภาพที่เต็มเปี่ยมอยู่ภายในตัวของพวกเขานั้น เป็นความคิดที่น่าสนใจ สิ่งที่เกี่ยวข้องพัวพันโดยตรงก็คือว่า บทบาทหน้าที่ของสังคมคือช่วยส่งเสริมและ สนับสนุนความเจริญเติบโตของแต่ละบุคคล ให้อิสรภาพสูงสุดเพื่อแสดงแนวโน้มภายในตัวของบุคคลนั้นออกมา ไม่เหมือนความคิดของ ฟรอยด์ ผู้ซึ่งเน้นความจําเป็นของการทําให้เหมาะสมสําหรับที่จะอยู่รวมกันเป็นสังคมและการบังคับควบคุม แต่นักจิตวิทยามนุษยนิยมมีความรู้สึกว่าพ่อแม่ที่วางอํานาจเป็นจอมบงการ หรือสภาพแวดล้อมที่ เข้มงวดกวดขัน จะไปแทรกแซงพัฒนาการของบุคคล แม้แต่พ่อแม่ที่ให้ความรักก็ยังสามารถทําให้เกิดอันตรายได้ ถ้าพวกเขาตัดสินใจแทนลูก ๆ หรือพยายามที่จะส่งเสริมลูก ๆ ให้เป็นไปตามแนวทางพัฒนาการที่คิดไว้ในใจมาก่อนแล้ว แม่ผู้ซึ่งให้ลูกชายเรียนเปียโน เพราะว่าเธอต้องการให้เขาเป็นนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ อาจจะคิดว่าเธอกําลังทําในสิ่งที่ดีที่สุดแล้วสําหรับลูกของเธอ แต่อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ถ้าแนวโน้มตามธรรมชาติของลูกไม่ได้ชอบทางดนตรีเลย พ่อผู้รู้แจ้งซึ่งต้องการให้ลูกสาวเป็นหมอ อาจจะกําลังฝืนพรสวรรค์ทางด้านฟิสิกส์หรือการเต้นรําที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของเด็กผู้หญิงที่พิเศษคนนี้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง สภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมก็คือ สภาพแวดล้อมที่อนุญาตและส่งเสริมลูก ๆ ให้แสดงความรู้สึกของพวกเขาเองออกมา และให้พวกเขาได้พัฒนาความสนใจและ ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกเขา

32 According to the passage, what is the role of society towards individual personality?

1 To encourage individual personality

2 To change individual personality

3 To do harm to individual personality

4 To control individual personality

ถาม ตามเนื้อเรื่อง อะไรคือบทบาทของสังคมต่อบุคลิกภาพของแต่ละคน

1 เพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพของแต่ละคน

2 เพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของแต่ละคน

3 เพื่อทําอันตรายต่อบุคลิกภาพของแต่ละคน

4 เพื่อควบคุมบุคลิกภาพของแต่ละคน

ตอบ 1 จาก the role of society is to encourage and support individual growth, giving

maximum freedom to express one’s inner tendencies จึงตอบ 1

33 According to the passage, what can meddle with a person’s development?

1 Strict environment

2 Individual growth

3 Unique interests

4 Feelings

ถาม ตามเนื้อเรื่อง อะไรที่สามารถแทรกแซงการพัฒนาของบุคคลได้

1 สภาพแวดล้อมที่เข้มงวด

2 การเติบโตของแต่ละบุคคล

3 ความสนใจที่ไม่เหมือนใคร

4 ความรู้สึก

ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 4 an authoritarian parent or a strict environment will interfere with

the person’s development

34 According to the passage, what is the best thing for developing children’s unique

abilities?

1 They should be in the control environment

2 Parents should make children study lessons without asking their opinion

3 They should be in the environment that allows them to develop their interests

4 All are correct

ถาม 4 ตามเนื้อเรื่อง อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาความสามารถเฉพาะตัวของเด็ก ๆ

1 พวกเขาควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุม

2 ผู้ปกครองควรให้เด็กศึกษาบทเรียน โดยไม่ถามความคิดเห็นของพวกเขา

3 พวกเขาควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พวกเขาพัฒนาความสนใจ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 จากประโยคสุดท้ายที่ว่า In other words, the ideal environment is one that allows

and encourages children to express their own feelings and to develop unique

interests and abilities.

35 Why does making decisions for children from the parents can be harm?

1 It may work against children’s innate talent

2 It may interfere with children’s innate interests and abilities

3 It may be contrary to what children really want

4 All are correct

ถาม ทําไมการที่พ่อแม่ทําการตัดสินใจให้กับเด็กสามารถทําให้เกิดอันตรายได้

1 อาจขัดกับพรสวรรค์ที่มีมาแต่กําเนิดของเด็ก

2 อาจแทรกแซงความสนใจและความสามารถโดยกําเนิดของเด็ก

3 มันอาจจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการจริงๆ

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ถูกทุกข้อตามที่กล่าวไว้ในเนื้อเรื่อง

36 The word “unique” (in bold type) is closest in meaning to ____.

1 aggressive

2 expressive

3 active

4 distinctive

ถาม คําว่า “unique” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____.

1 ความก้าวร้าว 2 การแสดงออก 3 กระตือรือร้น 4 โดดเด่น

ตอบ 4 unique = distinctive = โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Passage 6

A communications satellite receives the energy beamed up at it by an earth station and amplifies and returns it to earth at a frequency of about 2 gigahertz away; this prevents interference between the uplink and the downlink. Communications satellites appear to hover over given spot above the equator. This does not make them stationary, but rather geostationary. That is to say, they have the same angular velocity as the Earth (i.e. one complete cycle per 24 hours), and so they appear to be stationed over one spot on the globe.

การสื่อสารผ่านดาวเทียมได้รับพลังงานที่เป็นคลื่นแสงจากสถานีที่อยู่ภาคพื้นดินและดาวเทียมสื่อสารจะ ขยายออกไปและส่งกลับมายังโลกด้วยคลื่นความถี่ประมาณ 2 กิกาเฮิร์ท พลังงานนี้จะป้องกันการรบกวนระหว่าง คลื่นสัญญาณบนกับคลื่นสัญญาณภาคพื้นดิน การสื่อสารผ่านดาวเทียมจะปรากฏลอยอยู่เหนือจุคที่กําหนดไว้ที่อยู่ เหนือเส้นศูนย์สูตรของโลก ด้วยเหตุนี้ทําให้ดาวเทียมไม่หยุดนิ่ง, แต่ค่อนข้างจะนิ่งเมื่อดูจากภาคพื้นดิน ที่เป็นเช่นนี้เพราะดาวเทียมจะมีอัตราความเร็วที่ทํามุมเท่ากันกับโลก (นั่นคือ การหมุนอย่างเต็มที่ 1 รอบต่อ 24 ชั่วโมง ) และดังนั้น ดาวเทียมจึงดูเหมือนว่าหยุดอยู่กับที่เหนือจุดจุดเดียวบนโลกเรา

37 The best title for this paragraph should be _____

1 Celestial mechanics

2 Satellite’ Circular Orbit

3 Satellite Communications

4 Circular and an Elliptical Orbits

ถาม ชื่อเรื่องที่ดีที่สุดในย่อหน้าที่คือ ____

1 กลศาสตร์บนท้องฟ้า

2 วงโคจรวงกลมของดาวเทียม

3 การสื่อสารผ่านดาวเทียม

4 การโคจรวงกลมและวงรี

ตอบ 3 ย่อหน้านี้ บอกถึงการทํางานของการสื่อสารผ่านดาวเทียม หรือเคาจากคําศัพท์ประโยคแรก

38 How does a communications satellite work?

1 It is equipped with huge solar cells to collect solar energy to produce electricity

2 It obtains the energy beamed up at it by an earth station and amplifies and returns it to earth.

3 A very high quality and durable electric generator has been installed in it.

4 It draws in the energies from the other planets in the solar system to be stored in a battery collector in it.

ถาม การสื่อสารผ่านดาวเทียมทํางานอย่างไร

1 ติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดใหญ่เพื่อรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า

2 ดาวเทียมได้รับพลังงานที่ส่องขึ้นมาจากสถานีโลกและขยายและส่งกลับมายังโลก

3 มีการติดตั้งเครื่องกําเนิดไฟฟ้าคุณภาพสูงและทนทาน

4 มันดึงพลังงานจากดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะมาเก็บไว้ในตัวสะสมแบตเตอรี่ในนั้น

ตอบ 2 ไม่แปลก็ได้นะ ช้อย 2 มีในเนื้อเรื่อง นอกนั้นไม่มี

39 The good point of the use of the frequency of about 2 gigahertz away is that it ____.

1 makes the communications satellite move faster.

2 slows down the movement of the communications satellite.

3 helps save the energy of the communications satellite.

4 prevents interference between the unlink and the downlink.

ถาม ข้อดีของการใช้ความถีประมาณ 2 กิกาเฮริท์ คือว่ามัน _____.

1 ทําให้การสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนได้เร็วขึ้น

2 ทําให้การเคลื่อนที่ของดาวเทียมสื่อสารช้าลง

3 ช่วยประหยัดพลังงานของดาวเทียมสื่อสาร

4 ป้องกันการรบกวนระหว่างคลื่นสัญญาณบนกับคลื่นสัญญาณภาคพื้นดิน

ตอบ 4 จากบรรทัดที่ 2-3 มีในเนื้อเรื่อง

40 How many kinds of orbit mentioned in the paragraph?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีการโคจรกี่ชนิดที่กล่าวถึงในย่อหน้า

ตอบ 1 ชนิดเดียว

41 The spots where communications satellite usually float are above _____.

1 the North Pole

2 the South Pole

3 the base where they were launched

4 the equator

ถาม จุดที่ดาวเทียมสื่อสารมักจะลอยอยู่เหนือ _____.

1 ขั้วโลกเหนือ 2 ขั้วโลกใต้ 3 ฐานที่มันถูกปล่อย 4 เส้นศูนย์สูตร

ตอบ 4 มาจาก Communications satellites appear to haver over given spot above

the equator นั่นคือ อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร

42 According to the paragraph, a communication satellite ____.

1 stays at the same position all the time

2 moves according to the directions ordered from the base on the Earth

3 moves with the same angular velocity as the Earth

4 has no specific direction of moving

ถาม ตามย่อหน้านี้ ดาวเทียมสื่อสาร _____.

1 จะอยู่ที่ตําแหน่งเดิมตลอดเวลา

2 เคลื่อนที่ตามทิศทางที่สั่งจากฐานบนโลก

3 เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ทํามุมเดียวกันกับโลก

4 ไม่มีทิศทางการเคลื่อนที่ที่เฉพาะเจาะจง

ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 5

Passage 7

There is a dangerous myth widely held in this country that natural is good and synthetic is bad. Many people equate what is natural with good health and what is synthetic with bad health. These individuals do not know that most foods contain poisonous substances and, if these foods were to be synthesized today, they would be promptly banned as being too poisonous.

มีความเชื่อแบบผิด ๆ ที่อันตรายอย่างหนึ่ง ซึ่งยึดถืออย่างกว้างขวางในประเทศนี้ว่า อาหารที่มาจาก ธรรมชาติเป็นอาหารมีประโยชน์ ส่วนที่ได้จากการสังเคราะห์ถือว่าไม่ดี หลายคนต่างเชื่อเหมือนกันว่าอะไรที่มาจากธรรมชาติ ย่อมทําให้สุขภาพดี อะไรที่สังเคราะห์ขึ้นย่อมทําให้สุขภาพไม่ดี แต่คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าอาหารส่วนใหญ่แล้วมีสารที่เป็นพิษปนอยู่ และถ้าอาหารเหล่านี้ถูกสังเคราะห์ ณ วันนี้มันจะถูกสั่งห้ามทันทีในฐานะที่เป็นพิษมากเกินไป

43 The main idea of this paragraph is in sentence _____.

1 1

2 2

3 3

4 There is not statement main idea in this paragraph

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้อยู่ในประโยค _____.

1 1

2 2

3 3

4 ไม่มีข้อความที่เป็นใจความสําคัญในย่อหน้านี้

ตอบ 1 ใจความสําคัญอยู่ที่ประโยคที่ 1 โดยกล่าวว่าเป็นความเชื่อที่ผิด (myth) ว่าอาหารที่มาจาก

ธรรมชาติดี และอาหารที่สังเคราะห์มาแล้วไม่ดี

44 According to the paragraph, people believe that _____.

1 being natural is good

2 being synthetic is bad

3 most foods contain poisonous substances

4 1 and 2 are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้คนเชื่อว่า ____.

1 ความเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี

2 การสังเคราะห์เป็นสิ่งที่ไม่ดี

3 อาหารส่วนใหญ่มีสารที่เป็นพิษปนอยู่

4 1 และ 2 ถูก

ตอบ 4 จากที่อธิบายในข้อ 43

45 According to the paragraph, it is inferred that most foods _____.

1 are bad for people’s health

2 are bad for our health

3 are too poisonous

4 should be banned

ถาม ตามย่อหน้านี้ สรุปวิเคราะห์ว่าอาหารส่วนใหญ่ _____.

  1. ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้คน 2. ไม่ดีต่อสุขภาพของเรา 3. เป็นพิษมากเกินไป
  2. ควรจะห้าม ตอบ 1 ในเนื้อเรื่องกล่าวว่าอาหารส่วนใหญ่มีสารที่เป็นพิษปนอยู่ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นพิษมากเกินไป

แต่สามารถสรุปว่า ก็จะไม่ดีต่อสุขภาพของผู้คน (ด้วยรวม)

.

1

  1. The word “myth” (in bold type) here is closest to the meaning of _ 1. a legend

. 2. a belief which is not true 3. astory about gods and goddesses 4. a made-up story . ถาม คําว่า “myth” ในตัวหนามีความหมายใกล้เคียงกับ . 1. ตํานาน

  1. ความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง 3. เรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้าและเทพธิดา 4. เรื่องแต่งขึ้น ตอบ 2 “myth” = false idea = a belief which is not true = ความเชื่อผิด ๆ หรือไม่ถูกต้อง

Passage 8 To the health food faddists, white refined sugar is a dirty word. They much prefer raw sugar, brown sugar, or honey. The facts are that raw sugar cannot be obtained in this country because it is too filthy to be sold in interstate commerce, and brown sugar has no significant advantage from a nutritional standpoint when compared to refined sugar. It is ironic that honey often is referred to as being organic – meaning, to the health food faddists, a substance that is grown without the use of agricultural chemicals such as pesticides and inorganic fertilizer. When one considers that bees have a range of several miles, wouldn’t it be incredible if they would only be attracted to flowers never treated with pesticides or artificial fertilizer?

สําหรับผู้ที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ ถือว่าน้ำตาลทรายขัดขาวเป็นคําที่น่ารังเกียจ พวกเขามักชอบบริโภค น้ำตาลดิบ น้ำตาลสีน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ข้อเท็จจริงก็คือว่า น้ำตาลดิบไม่สามารถหาได้ในประเทศนี้ทั้งนี้ก็เพราะว่า มันสกปรกเกินไปที่จะถูกขายในการค้าระหว่างประเทศ และน้ำตาลทรายสีน้ำตาลจะไม่มีข้อได้เปรียบที่สําคัญจาก จุดยืนในด้านโภชนาการ เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำตาลทรายขัดขาว มันเป็นคํากล่าวที่ประชดเยาะเย้ยที่ว่าน้ำผึ้งมักจะ

ถูกอ้างว่าเป็นสิ่งที่มาของอินทรีย์สาร ซึ่งสําหรับผู้ที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพจะหมายถึง สารตัวหนึ่งที่เจริญเติบโต โดยไม่ได้ใช้สารเคมีทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยอนินทรีย์ แต่เมื่อเราพิจารณาแล้วจะเห็นว่า ตลอดระยะทางที่ผึ้งบินหาอาหารหลายไมล์ จะเชื่อได้อย่างไรว่าผึ้งจะดูดน้ำหวานจากดอกไม้ที่ไม่มียาฆ่าแมลงหรือปุ๋ย สังเคราะห์ปะปนอยู่เลย ?

47 The main idea of this paragraph is _____.

1 white sugar is a dirty word

2 the health food faddists prefer raw sugar, brown sugar, or honey.

3 raw sugar is very filthy

4 bees are attracted to only the flowers that have never treated with pesticides

ถาม ใจความสําคัญของย่อหน้านี้คือ

1 น้ำตาลทรายขัดขาวเป็นคําที่น่ารังเกียจ

2 คนที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพชอบน้ำตาลดิบ น้ำตาลสีน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง

3 น้ำตาลดิบเป็นคําที่สกปรก

4 ผึ้งดูดดอกไม้ที่ไม่เคยโดนยาฆ่าแมลงเท่านั้น

ตอบ 1 ใจความสําคัญจากประโยคแรกว่าคนที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ น้ําตาลทรายขัดขาวไม่ดี

48 Raw sugar cannot be obtained in the country mentioned because it is _____.

1 too dirty to be sold in interstate commerce

2 inferior to brown sugar in terms of nutritional property

3 too refined to be put in as part of our diet

4 difficult to find in the country

ถาม น้ำตาลดิบไม่สามารถหาได้ในประเทศถูกกล่าวถึงเพราะมัน

1 สกปรกเกินที่จะนํามาขายในการค้าระหว่างประเทศ

2 ด้อยกว่าน้ําตาลสีน้ําตาลในแง่ของคุณสมบัติตามคุณค่าโภชนาการ

3 ถูกขัดขาวมากเกินไปที่จะนํามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของเรา

4 ยากที่จะหาได้ในประเทศ

ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 3

49 Which of the following statements is correct according to the passage?

1 Fined sugar is better than honey

2 The health food faddists have the misconception that honey is organic.

3 It is very incredible that bees know which flowers are treated with pesticides or artificial fertilizers

4 Bees have a very short range of flying if your farm is grown organically, it is certain that the honey you get from these bees is absolutely organic product.

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

1 น้ำตาลทรายขัดขาวดีกว่าน้ำผึ้ง

2 ผู้ที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพมีความเข้าใจผิดว่าน้ำผึ้งเป็นสารอินทรีย์

3 เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ฝั่งรู้ว่าดอกไม้ชนิดใดได้รับการบําบัดด้วยยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเทียม

4 ผึ้งมีระยะการบินสั้นมากหากฟาร์มของคุณปลูกแบบออร์แกนิกเป็นที่แน่นอนว่าน้ำผึ้งที่คุณ

ได้รับจากผึ้งเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอย่างแน่นอน

ตอบ 2 ผู้เขียนต้องการชี้แจงให้รู้ว่า เป็นความเข้าใจผิดที่ว่าน้ำผึ้งเป็นสารอินทรีย์

 

50 The word “standpoint” (in bold type) is closest to the meaning of _____.

1 position

2 attitude

3 standard

4 opinion

ถาม คําว่า “standpoint” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 จุดยืน หลัก 2 ทัศนคติ ความคิดเห็น 3 มาตรฐาน 4 ความคิดเห็น

ตอบ 1 “standpoint” = position = จุดยืน หลัก แง่คิด

51 The word “they” (in bold type) refers to _____.

1 bees

2 flowers

3 fertilizers

4 the health food faddists

ถาม คําว่า “they” (ในตัวหนา) อ้างอิงถึง _____.

1 ผึ้ง 2 ดอกไม้ 3 ปุ๋ย 4 คนที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ

ตอบ 1 อ้างอิง ผึ้ง

 

Passage 9

Noam Chomsky and other psycholinguists have argued that only humans can learn a language, while most behaviorists feel that with sufficient patience it should be possible to teach an animal some sort of language. Although the two schools of thought clearly differ on this point, it is not really a crucial test of the two theories. If a chimpanzee can master a simple language all it would mean is that the chimp’s intellectual capacity and brain structure are more similar to ours than we thought. It would not necessarily imply that our intellectual structure is unimportant in our own mastery teaching an animal language is an impressive demonstration of the power of learning technique, but it is not evidence that language is developed entirely through learning.

นอร์ม ฌอมสกี้และนักจิตวิเคราะห์คนอื่น ๆ ได้โต้แย้งว่า มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้ ในขณะที่เหล่านักพฤติกรรมศาสตร์ (behaviorists) บอกว่าถ้ามีความอดทนที่เพียงพอ ก็จะมีความเป็นไปได้ที่ จะสอนภาษาบางชนิดให้กับสัตว์ได้ ถึงแม้ว่าความคิดเห็นของคนทั้งสองกลุ่มจะแตกต่างกันอย่างชัดเจนใน ประเด็นนี้ แต่จริง ๆ แล้วก็ยังไม่มีการทดสอบที่ตัดสินชี้ขาดทั้งสองทฤษฎี ถ้าหากว่าลิงชิมแปนซีสามารถ เรียนรู้ภาษาอย่างง่าย ๆ ได้ทั้งหมด นั่นจะหมายความว่า ความสามารถทางสติปัญญาและโครงสร้างสมองของลิง ชิมแปนซี มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์เรามากกว่าที่เราคิด แต่ไม่ได้หมายความอย่างแน่นอนว่าโครงสร้างทาง สติปัญญาของคนเราเป็นสิ่งที่ไม่มีความสําคัญในการเอาชนะภาษาของเรา (หมายถึง โครงสร้างทางสติปัญญาของ คนเราเป็นสิ่งสําคัญนะ) ด้วยเหตุนี้การสอนภาษาให้กับสัตว์จึงเป็นการพิสูจน์ ถึงพลังของการเรียนรู้ ที่น่าประทับใจ แต่ไม่ได้พิสูจน์ว่าภาษาจะได้รับการพัฒนาโดยการเรียนรู้ทั้งหมด

52 Who believes that there is a chance that animals can study human languages?

1 The linguists

2 The behaviorists

3 The psycholinguists

4 Noam Chomsky

ถาม ใครเชื่อว่ามีโอกาสที่สัตว์สามารถเรียนรู้ภาษาของมนุษย์ได้

1 นักภาษาศาสตร์ 2 นักพฤติกรรมศาสตร์ 3 นักจิตวิทยาภาษาศาสตร์ 4 นอร์ม ฌอมสกี้

ตอบ 2 จากบรรทัดที่ 2 นัก behaviorists

53 The word “sufficient” (in bold type) can be replaced with ____.

1 conceivable

2 considerable

3 enough

4 eager

ถาม คําว่า “sufficient” (ในตัวหนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 เป็นไปได้ 2 มาก 3 เพียงพอ 4 กระตือรือร้น

ตอบ 3 sufficient = adquate = enough = เพียงพอ

54 What are “the two schools of thought” (in bold type) ?

1 Humans and Animals

2 Psycholinguistics and Behaviorism

3 Language teaching and Chimpanzees

4 Language learning techniques and Language learning development

ถาม คําว่า “the two schools of thought” (ในตัวหนา) คืออะไร

1 มนุษย์และสัตว์

2 นักจิตวิเคราะห์และกลุ่มพฤติกรรมนิยม

3 การสอนภาษาและลิงชิมแปนซี

4 เทคนิคการเรียนรู้ภาษาและการพัฒนาการเรียนรู้ภาษา

ตอบ 2 สองกลุ่ม หมายถึง กลุ่มนักจิตวิเคราะห์และนักพฤติกรรมศาสตร์

55 The word “master” (in bold type) is the closest in meaning to _____.

1 undermine.

2 understand

3 mentor

4 multiply

ถาม คําว่า “master” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ

1 บ่อนทําลาย 2 เข้าใจ 3 พี่เลี้ยง ผู้ชี้แนะ 4

ตอบ 2 “master” = understand, earn = รอบรู้ เข้าใจ เรียนรู้

 

Part II : Unseen Passages

A: Directions: Read the following passage.

Then blacken 1 for a true statement, and blacken 2 for a false statement. (1=True; 2=False)

(คําสั่ง: อ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้ ถ้าเป็นข้อความที่ถูกต้องให้ระบาย 1 ถ้าเป็นข้อความที่ผิดระบาย 2)

 

Passage 1

Some of the common plant-based meats are made from pea or soy proteins; however, plant-based meat can also be made from jackfruit. Jackfruit is a huge spiky fruit that has many small bulbs with yellow flesh inside the shell.

When jackfruit is ripe, it tastes sweet; however, when it is unripe, it has no particular flavor. Its texture is quite similar to the consistency of real meat, and this makes jackfruit perfect for plant-based meat dishes like barbecue pulled pork.

In October, Thailand celebrated the 9-day vegetarian festival when many people give up eating animal products, and more people are going meatless for longer and more frequently. There has been a big increase in interest for vegetarian and vegan food over recent years, and Thai food producers are expecting future expansion of plant-based meat products

เนื้อสัตว์จากพืชทั่วไปบางชนิดทําจากโปรตีนถั่วหรือถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม เนื้อสัตว์จากพืชก็ยังสามารถทําจากขนุนได้เช่นกัน ขนุนเป็นผลไม้แหลมขนาดใหญ่ที่มีหัวขนาดเล็กจํานวนมากที่มีเนื้อสีเหลืองภายใน เปลือก

เมื่อขนุนสุก จะมีรสชาติหวาน อย่างไรก็ตาม เมื่อมันยังไม่สุก มันไม่มีรสชาติใดเป็นพิเศษ เนื้อของมัน ค่อนข้างคล้ายกับความสม่ำเสมอของเนื้อสัตว์และทําให้ขนุนเหมาะสําหรับอาหารประเภทที่ใช้เนื้อทําจากพืชเช่น หมูย่างบาร์บีคิว

ในเดือนตุลาคมประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจเป็นเวลา 9 วันเมื่อผู้คนจํานวนมากเลิกกิน ผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผู้คนจํานวนมากจะงดเว้นเนื้อสัตว์เป็นเวลานานและบ่อยขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีความสนใจอาหารมังสวิรัติและอาหารมังสวิรัติเพิ่มขึ้นอย่างมากและผู้ผลิตอาหารไทยคาดว่าจะมีการขยายตัวของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชในอนาคต

56 in Thailand, the vegetarian festival lasts for more than a week.

ถาม ในประเทศไทย เทศกาลกินเจกินเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์

ตอบ 1 ถูกต้องจากย่อหน้าที่ 3 ประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจเป็นเวลา 9 วัน

57 Jackfruit is known to be a popular side dish barbeque pulled pork.

ถาม ขนุนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเครื่องเคียงที่เป็นที่นิยมของหมูย่างบาร์บีคิว

ตอบ 2 จากเนื้อเรื่องกล่าวว่าขนุนได้ใช้เป็นเครื่องเคียงของหมูย่างบาร์บีคิว แต่ไม่ได้กล่าวว่าเป็นที่นิยม

58 Thai people are going meatless because of the healthy food trends.

ถาม คนไทยไม่กินเนื้อสัตว์เพราะกระแสอาหารเพื่อสุขภาพ

ตอบ 1 ผู้คนจํานวนมากงดเว้นกินเนื้อสัตว์ สนใจอาหารมังสวิรัติและอาหารมังสวิรัติเพิ่มขึ้นอย่างมาก

59 Plant-based meat can be made from pea or soy proteins, and jackfruit

ถาม เนื้อจากพืชสามารถทําจากโปรตีนถั่วหรือถั่วเหลืองและขนุน

ตอบ 1 ถูกต้อง มีกล่าวไว้ในเนื้อเรื่อง

60 Jackfruit gives special flavor when unripe.

ถาม ขนุนให้รสชาติพิเศษเมื่อยังไม่สุก

ตอบ 2 ผิดเพราะเมื่อมันยังไม่สุก มันไม่มีรสชาติใดเป็นพิเศษ

B: Directions: Read the following passages and choose the best answer

for each question.

(คําสั่ง: อ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้แล้วเลือกคําตอบที่ดีที่สุดสําหรับแต่ละคําถาม)

Passage 2

Flowers have always been admired for their color and beauty and were often included in ancient myths. The tradition of gifting flowers can be traced back all the way to the Ancient Greeks. They associated flowers with gods and would bring floral offerings to temples. Over time, this tradition extended into giving flowers to pretty women or earthly goddesses. From there, the tradition began to change into a way of expressing sentiment.

The ancient Egyptians also included flowers in their beliefs and traditions. They gave flowers as gifts to lovers and gods to show their love and adoration. According to Egyptian myths, they used to sing for the Lotus flower at parties and hold a feast to celebrate the Lotus. Because the Lotus flower opens in the morning and closes at night, the Egyptians saw this as an image of rebirth and regeneration

After the Ancient Egyptians and Ancient Greeks, flowers became a way for individuals to express any type of emotion. This was helpful during the Victorian Era when showing your emotions weren’t allowed. Instead of speaking their emotions, the Victorians would give flowers to express their feelings. They developed unique meanings for each flower depending on the flower’s characteristics. People began to build bouquets based on what they wanted to express. They also wrote books and guides on the meanings on flowers and floral arrangements. You can still read them today!

ดอกไม้ได้รับการชื่นชมในเรื่องสีสันและความสวยงามมาโดยตลอดและมักถูกรวมอยู่ในตํานานโบราณ ประเพณีการให้ของขวัญดอกไม้สามารถสืบย้อนกลับไปได้จนถึงชาวกรีกโบราณ พวกเขาเชื่อว่าดอกไม้มี

ความสัมพันธ์ที่เชื่อมกับเทพเจ้าและจะนําดอกไม้ไปถวายวัด เมื่อเวลาผ่านไปประเพณีนี้ได้ขยายไปสู่การมอบดอกไม้ให้กับผู้หญิงที่น่ารักหรือเทพธิดาบนโลก จากนั้นประเพณีก็เริ่มเปลี่ยนไปในรูปแบบของการแสดง ความรู้สึก

ชาวอียิปต์โบราณยังรวมดอกไม้ไว้ในความเชื่อและประเพณีของพวกเขา พวกเขามอบดอกไม้เป็นของขวัญให้กับคนรักและเทพเจ้าเพื่อแสดงความรักและความเคารพ ตามตํานานของอียิปต์พวกเขาเคยร้องเพลงให้ ดอกบัวในงานปาร์ตี้และจัดงานเลี้ยงฉลองดอกบัว เนื่องจากดอกบัวเปิดในตอนเช้าและปิดในเวลากลางคืนชาว อียิปต์จึงมองว่านี่เป็นภาพของการเกิดใหม่และการวกกลับมาใหม่

หลังจากชาวอียิปต์โบราณและชาวกรีกโบราณ ดอกไม้กลายเป็นช่องทางหนึ่งสําหรับบุคคลในการแสดง อารมณ์ประเภทใดก็ได้ สิ่งนี้มีประโยชน์ในช่วงยุควิกตอเรียเมื่อไม่อนุญาตให้แสดงอารมณ์ของคุณ แทนที่จะพูดถึงอารมณ์ของพวกเขา ชาววิคตอเรียจะมอบดอกไม้เพื่อแสดงความรู้สึกของพวกเขา พวกเขาพัฒนาความหมายที่ไม่ ซ้ำกันสําหรับดอกไม้แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับลักษณะของดอกไม้ ผู้คนเริ่มสร้างช่อดอกไม้ตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ แสดงออก พวกเขายังเขียนหนังสือและคู่มือเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้และการจัดดอกไม้ วันนี้คุณยังสามารถหาอ่านได้

61 According to the passage, people love flowers because of their ____.

1 myths

2 beauty

3 characteristics

4 meanings

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้คนรักดอกไม้เพราะ ____ ของพวกมัน

1 ความเชื่อ 2 ความงาม 3 ลักษณะเฉพาะ 4 ความหมาย

ตอบ 2 จากบรรทัดแรกที่ว่า Flowers have always been admired for their color and

beauty

62 How many civilizations were mentioned in this article?

1 3

2 4

3 5

4 6

ถาม มีกี่อารยธรรมที่กล่าวถึงในบทความนี้

ตอบ 1 จากย่อหน้าสุดท้ายจะบอกถึง the Ancient Egyptians and Ancient Greeks คือ ชาวอียิปต์

โบราณและชาวกรีกโบราณ และ ยังมี the Victorian Era ยุควิกตอเรียด้วย รวม 3 อารยธรรม

63 Which of the following is NOT TRUE?

1 Ancient Egyptians, worshiped lotuses.

2 Ancient Greeks wrote books about the meaning of flowers.

3 In the Victorian Era, people were prohibited to express their emotions.

4 Bouquets can express people’s feelings.

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1 ชาวอียิปต์โบราณบูชาดอกบัว

2 ชาวกรีกโบราณเขียนหนังสือเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้

3 ในยุควิกตอเรีย ผู้คนถูกห้ามแสดงออกอารมณ์ของพวกเขา

4 ช่อดอกไม้สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกของผู้คนได้

ตอบ 2 ช้อย 2 ไม่ถูกเพราะต้องเป็นชาววิคตอเรียเขียนหนังสือเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้จากย่อหน้า

สุดท้าย

64 According to the passage, what did the lotus represent?

1 Earthly goddesses

2 Emotions

3 Rebirth

4 Feelings

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ดอกบัวเป็นตัวแทนของอะไร

1 เทพธิดาแห่งโลก 2 อารมณ์ 3 การเกิดใหม่ 4 ความรู้สึก

ตอบ 3 จากตอนท้ายของย่อหน้าที่ 2 ว่า Because the Lotus flower opens in the morning and

closes at night, the Egyptians saw this as an image of rebirth and regeneration (การเกิดใหม่และการวกกลับมาใหม่)

65 According to the passage, in what period did flowers become a way for people to

express their emotions?

1 The ancient Greece

2 The ancient Egypt

3 The Victorian Era

4 1 and 2 are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ดอกไม้กลายมาเป็นช่องทางแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ของผู้คนในสมัยใด

1 ยุคกรีกโบราณ 2 อียิปต์โบราณ 3 ยุควิกตอเรีย 4 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 3 จากย่อหน้าที่ 3 หลังจากชาวอียิปต์โบราณและชาวกรีกโบราณ คอกไม้กลายเป็นช่องทางหนึ่ง

สําหรับบุคคลในการแสดงอารมณ์ประเภทใดก็ได้ นั่นคือยุควิกตอเรีย

66 How did the Victorians do instead of speaking their feelings?

1 They gave flowers.

2 They sent a lot of gifts.

3 They wrote books.

4 They read books.

ถาม ชาววิกตอเรียทําอย่างไรแทนการพูดแสดงออกถึงความรู้สึกต่าง ๆ ของพวกเขา

1 พวกเขาให้ดอกไม้

2 พวกเขาส่งของขวัญจํานวนมาก

3 พวกเขาเขียนหนังสือ

4 พวกเขาอ่านหนังสือ

ตอบ 1 จากย่อหน้าสุดท้าย บรรทัดที่ 34 Instead of speaking their emotions, the Victorians

would give flowers to express their feelings.

67 The word “adoration” (in bold type) is closest in meaning to ____.

1 beauty

2 affection

3 complement

4 happiness

ถาม คําว่า “adoration” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ

1 ความงาม 2 ความรัก 3 การเติมเต็ม 4 ความสุข

ตอบ 2 adoration = affection = ความรัก ความเคารพ การบูชา

68 The word “express” (in bold type) cannot be replaced with _____.

1 convey

2 deceive

3 indicate

4 show

ถาม คําว่า “express” (ในตัวพิมพ์หนา) ไม่สามารถแทนด้วยคําว่า ____.

1 ถ่ายทอด สื่อสาร 2 หลอกลวง 3 แสดงให้เห็น 4 แสดงให้เห็น

ตอบ 2 express = convey = indicate = show = แสดงออกมาให้เห็น ถ่ายทอด ทําให้รู้

Passage 3

The board of the Museum of Contemporary Art Detroit has terminated director Elysia Borowy Reeder over allegations of racism, sexism, and exploitative labor practices leveled by former employees. Borowy-Reeder, who had led the museum since 2103, was placed on administrative leave earlier this month after a group calling themselves MOCAD Resistance addressed an open letter to the board of directors signed by thirty-nine former staffers and thirty-six members of the institution’s youth council. “We experienced and witnessed various racist microaggressions, misgendering, violent verbal outbursts,

misrepresentation of community partnerships, and the tokenization of marginalized artists, teen council members, and staff,” they wrote, describing an atmosphere of financial retaliation for employees who complained and a high turnover rate due to the stress and “mental anguish” caused by Borowy-Reeder.

The letter was sparked by the resignation of Tizziana Baldenebro, a curatorial Ford Foundation Fellow at the Institution, who charged Borowy-Reeder with “outright racist behavior.” The past eight months have also seen the departures of three Black curators from the museum Larry Ossei-Mensah, Maceo Keeling, and Jova Lynne, who left after reportedly being pressured to work while laid off and amid a family emergency.

“The board’s vote to remove our executive director is a painful but first step of a course correct for MOCAD, said board chair Elyse Foityn, “We have tried to deliver on diversity, equity, and inclusion since our inception. However, it is clear we need to do more, better and faster.” The board made its decision after hiring a special committee composed of Charles Boyd, Laura Hughes, and Keith Pomeroy to investigate the allegations.

Aside from replacing Borowy-Reeder as director, concrete demands in MOCAD Resistance’s open letter include reorganizing the board to reflect more racial and economic pandemic related shutdown, and extending parental leave policies.

คณะกรรมการของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยดีทรอยต์ได้ยุติการเป็นผู้อํานวยการของ Elysia Borowy Reeder เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดสีผิว การกีดกันทางเพศและการใช้แรงงานที่แสวงหาประโยชน์จากอดีตพนักงาน Borowy-Reeder ซึ่งเป็นผู้นําพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี 2013 ถูกลาพักการบริหารเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า MOCAD ฝ่ายต่อต้านได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการซึ่งลงนามโดยอดีต พนักงานสามสิบเก้าคนและสมาชิกสภาเยาวชนของสถาบันอีกสามสิบหกคน “เราได้รับประสบการณ์และพบเห็น การละเมิดทางเชื้อชาติต่างๆ การกระทําที่ไม่ถูกต้อง การระเบิดทางวาจาอย่างรุนแรง การบิดเบือนความจริง เกี่ยวกับชุมชนที่เป็นหุ้นส่วน และการไม่ให้ความสําคัญต่อศิลปิน สมาชิกสภาวัยรุ่นและเจ้าหน้าที่” พวกเขาเขียน และบรรยายถึงบรรยากาศของการตอบโต้ทางการเงินสําหรับพนักงานที่ร้องเรียนและอัตราการหมุนเวียนพนักงาน สูงเนื่องจากความเครียดและ “ความปวดร้าวทางจิตใจ” ที่เกิดจาก Borowy-Reeder

จดหมายดังกล่าวได้รับการจุดประกายจากการลาออกของ Tizziana Baldenebro ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ของ Ford Foundation Fellow ที่สถาบันซึ่งตั้งข้อหา Borowy-Reeder ด้วย “พฤติกรรมเหยียดผิวโดยสิ้นเชิง” แปดเดือนที่ผ่านมาได้เห็นการจากไปของภัณฑารักษ์ผิวดําสามคนจากพิพิธภัณฑ์ Larry Ossei-Mensah, Maceo Keeling และ Jova Lynne ซึ่งจากไปหลังจากมีรายงานว่าถูกกดดันให้ทํางานในขณะที่ถูกปลดออก และท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉินของครอบครัว

“การลงคะแนนของคณะกรรมการเพื่อถอดถอนกรรมการบริหารของเราถือเป็นก้าวแรกที่เจ็บปวด แต่เป็นขั้นตอนแรกของวิธีที่ถูกต้องสําหรับ MOCAD ประธานกรรมการ Elyse Foityn กล่าว “เราพยายามที่จะส่งมอบ ความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมกันตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนว่าเราต้องทํามาก ขึ้นดีขึ้นและเร็วขึ้น” คณะกรรมการได้ตัดสินใจหลังจากว่าจ้างคณะกรรมการพิเศษซึ่งประกอบด้วย Charles Boyd, Laura Hughes และ Keith Pomeroy เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหา

นอกเหนือจากการเปลี่ยนตัว Borowy-Reeder ในฐานะผู้อํานวยการแล้ว ข้อเรียกร้องที่เป็นรูปธรรมใน จดหมายเปิดผนึกของ MOCAD Resistance ยังรวมถึงการปรับโครงสร้างคณะกรรมการเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการกีดกันที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติและเศรษฐกิจมากขึ้นและการขยายนโยบายการลาของผู้ปกครอง

 

69 Which of the following is correct?

1 Most workers got fired because of the COVID-19 pandemic.

2 Borowy-Reeder resigned due to her dissatisfaction with some employees.

3 Borowy-Reeder was removed because of her racism, sexism, and inappropriate behaviors towards other workers.

4 Borowy-Reeder will be promoted to be a member of the council and served as a delegate at the international Contemporary Art Conference in Detroit.

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ถูกต้อง

1 คนงานส่วนใหญ่ถูกไล่ออกเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19

2 Borowy-Reeder ลาออกเนื่องจากความไม่พอใจของเธอกับลูกจ้างบางคน

3 Borowy-Reeder ถูกถอดออกจากตําแหน่งเพราะการเหยียดเชื้อชาติ การกีดกันเพศ และ

พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อคนงานอื่น ๆ

4 Borowy-Reeder จะได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นสมาชิกของสภาและทําหน้าที่เป็น

ตัวแทนในการประชุมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติที่เมืองดีทรอยต์

ตอบ 3 จากประโยคแรก

70 What happened after MOCAD Resistance sent the open letter?

1 Tuziana Baldenebro left the company.

2 Larry Ossei-Mensah, Maceo Keeling, and Jove Lynne were being laid off.

3 Borowy-Reeder was put on administrative leave.

4 All are correct.

ถาม อะไรเกิดขึ้นหลังจากฝ่ายต่อต้านที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม MOCAD ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก

1 Tuziana Baldenebro ออกจากบริษัท

2 Larry Ossei-Mensah, Maceo Keeling, and dove Lynne ถูกปลดออกจากงาน

3 Borowy-Reeder ถูกให้ออกจากงาน

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 จากข้อความ Borowy-Reeder, who had led the museum since 2103, was placed

on administrative leave earlier this month after a group calling themselves MOCAD Resistance addressed an open letter to the board of directors

71 Which is not correct, according to the passage?

1 Borowy-Reeder was accused of outright staff abuse.

2 The employees were in a toxic work environment created by Borowy-Reeder.

3 Some employees were laid off during the museum’s pandemic related shutdown.

4 The allegations against Borowy-Reeder focus on cultural insensitivity and her

governing style

ถาม ข้อไหนไม่ถูกต้อง ตามเนื้อเรื่อง

1 Borowy-Reeder ถูกกล่าวหาว่าละเมิดเจ้าหน้าที่อย่างสิ้นเชิง

2 พนักงานอยู่ในสภาพแวดล้อมการทํางานที่เป็นพิษซึ่งสร้างขึ้นโดย Borowy-Reeder

3 พนักงานบางคนถูกปลดออกในระหว่างการปิดตัวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดของพิพิธภัณฑ์

4 ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ Borowy-Reeder มุ่งเน้นไปที่ความไม่รู้สึกอ่อนไหวทางวัฒนธรรม

และรูปแบบการปกครองของเธอ

ตอบ 4 ช้อย 4 ไม่ถูกต้อง เพราะข้อกล่าวหาของ Borowy-Reeder มุ่งเน้นไปเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ

การกีดกันเพศ และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อคนงานอื่น ๆ

72 Who is Tizziana Baldenebro?

1 A special committee

2 A curator at the Institution

3 A board member of the Museum

4 A member of MOCAD Resistance

ถาม Tizziana Baldenebro เป็นใคร

1 คณะกรรมการพิเศษท่านหนึ่ง

2 ภัณฑรักษ์ของสถาบัน

3 สมาชิกคณะกรรมการของพิพิธภัณฑ์

4 สมาชิกของ MOCAD Resistance

ตอบ 2 Tizziana Baldenebro, a curatorial Ford Foundation Fellow at the Institutions

73 Apart from Borowy-Reeder issue, what is/are the requisite from MOCAD

Resistance?

1 Restructuring the board of the directors

2 Adjusting some leave policies

3 Rehiring employees who got laid off

4 All are correct

ถาม นอกเหนือจากปัญหา Borowy-Reeder แล้วสิ่ง MOCAD Resistance ต้องการคืออะไร?

1 การปรับโครงสร้างคณะกรรมการ

2 การปรับนโยบายการลาบางส่วน

3 การจ้างพนักงานที่ถูกปลดออกจากงาน

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 จากประโยคสุดท้าย reorganizing the board to reflect more racial and economic pandemic related shutdown, and extending parental leave policies nin MOCAD ต้องการปรับโครงสร้างคณะกรรมการจึงตอบข้อ 1 ข้อที่ 2 ไม่ถูกต้องเพราะพูดถึงหลายนโยบาย (policies เป็นพหูพจน์) แต่ในเนื้อเรื่องต้องการเปลี่ยนนโยบายการลาของ ผู้ปกครองเท่านั้น ส่วนข้อ 3 ไม่มีการพูดถึงการว่าจ้างพนักงาน

74 How many people have left the company, according to the passage?

1 4

2 5

3 6

4 7

ถาม มีกี่คนที่ได้ลาออกจากบริษัท ตามเนื้อเรื่อง

ตอบ 1 มี Tizziana Baldenebro และอีกสามคนคือ Larry Ossei-Mensah, Maceo Keeling,

and Jova Lynne รวม 4 คน

75 This article is most likely to be published on/in _____.

1 a bulletin

2 a journal

3 an open letter

4 a news website

ถาม บทความนี้น่าจะไปได้ว่าถูกเผยแพร่ใน _____.

1 ประกาศ 2 วารสาร 3 จดหมายเปิดผนึก 4 เว็บไซค์ข่าว

ตอบ 4 น่าจะเผยแพร่ในเว็บไซค์ข่าว

76 The writer’s purpose is to _____.

1 make suggestions

2 report facts

3 compel readers to take action

4 encourage people to visit the museum

ถาม จุดประสงค์ของผู้เขียนคือ _____.

1 ให้คําแนะนํา 2 รายงานข้อเท็จจริง 3 กระตุ้นให้ผู้อ่านมีปฏิกิริยา 4 กระตุ้นให้ผู้คนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ตอบ 2 จุดประสงค์ผู้เขียนต้องการที่จะรายงานข้อเท็จจริง

77 The word “terminated” (in bold type) is the closest in meaning to ____.

1 discontinued

2 engaged

3 collaborated

4 reserved

ถาม คําว่า “terminated” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 ไม่ดําเนินต่อ 2 พัวพัน 3 ร่วมมือกัน 4 จับจอง สงวน

ตอบ 1 terminated = discontinued = สิ้นสุด

78 According to the passage, the word “anguish” (in bold type) means ____

1 an expression of sympathy to a person who has been bereaved

2 severe physical or mental pain, difficulty, or unhappiness

3 an illness that causes a part of the body to stop functioning correctly

4 the state of not having, or not having enough of, something that is essential

ถาม ตามเนื้อเรื่อง คำว่า “anguish” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึง ____

1 การแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อคนที่ได้ถูกทําให้สูญเสีย

2 ความเจ็บปวดทางร่างกายหรือจิตใจอย่างรุนแรงความยากลําบากหรือไม่มีความสุข

3 ความเจ็บป่วยที่ทําให้ส่วนหนึ่งของร่างกายหยุดทํางานอย่างถูกต้อง

4 สถานะของการไม่มีหรือมีบางสิ่งที่จําเป็นไม่เพียงพอ

ตอบ 2 anguish = ความเจ็บปวดรวดร้าว

79 The word “sparked” (in bold type) can be replaced with _____.

1 issued

2 authorized

3 triggered

4 approved

ถาม คำว่า “sparked” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย  ______.

1 ประเด็น ปัญหา 2 ได้รับอนุญาต 3 ก่อให้เกิด 4 เห็นชอบ

ตอบ3 sparked = triggered = จุดประกาย กระตุ้น ก่อให้เกิด

80 The word “we” in bold type refers to _____.

1 the board

2 the executive director

3 MOCAD

4 the board chair

ถาม “we” ในตัวพิมพ์หนา อ้างอิงถึง ____.

1 คณะกรรมการ 2 ผู้อำนวยการบริหาร 3 MOCAD 4 ประธสนคณะกรรมการ

ตอบ 1 อ้างอิงจากคำนามข้างหน้าคือ the board คณะกรรมการ

 

Passage 4

The lives of the ancient Greeks revolved around eris, a concept by which they defined the universe. They believed that the world existed in a condition of opposites. If there was good, then there was evil, if there was love, then there was hatred; joy, then sorrow; war then peace; and so on. The Greeks believed that good eris occurred when one held a balanced outlook on life and coped with problems as they arose. It was a kind of ease of living that came from trying to bring together the great opposing forces in nature. Bad eris was evident in the violent conditions that ruled men’s lives. Ah hough these things were found in nature and sometimes could not be controlled. It was believed that bad eris occurred when one ignored a problem, letting it grow larger until it destroyed not only that person, but his family as well. The ancient Greeks saw eris as a goddess. Eris, the Goddess of Discord, better known as Trouble.

 

One myth that express this concept of bad eris deals with the marriage of King Peleus and the river goddess Thetis. Zeus, the supreme ruler, learns that Thetis would bear a child strong enough to destroy its father. Not wanting to father his own ruin, Zeus convinces Thetis to marry a human, a mortal whose child could never challenge the gods. He promises her, among other things, the greatest wedding in all of Heaven and Earth and allows the couple to invite whomever they please. This is one of the first mixed marriages of Greek Mythology and the lesson learned from it still applies today. They do invite everyone except Eris, the Goddess of Discord. In other words, instead of facing the problems brought on by a mixed marriage, they turn their backs on them. They refuse to deal directly with their problems and the result is tragic. In her fury, Eris arrives, ruins the wedding, causes a jealous feud between the three major goddesses over a golden apple, and sets in place the conditions that lead to the Trojan War. The war would take place 20 years in the future, but it would result in the death of the only child of the bride and groom, Achilles. Eris would destroy the parents’ hopes for their future, leaving the couple with no legitimate heirs to the throne.

Hence, when we are told, “If you don’t invite trouble, trouble comes,” it means that if we don’t deal with our problems, our problems will deal with a vengeance! It is easy to see why the Greeks considered many of their myths learning myths, for this one teaches us the best way to defeat that which can destroy us.

 

ชีวิตของชาวกรีกโบราณวนเวียนอยู่กับเอริสซึ่งเป็นแนวคิดที่พวกเขากําหนดสําหรับจักรวาล พวกเขาเชื่อว่า โลกนี้ดํารงอยู่ในสภาพตรงกันข้าม ถ้ามีดีก็มีความชั่วร้าย ถ้ามีความรักที่มีความเกลียดชัง ความสุขแล้วความเศร้า โศก, สงครามแล้วสันติภาพ) และอื่นๆ ชาวกรีกเชื่อว่าเอริสที่ดีเกิดขึ้นเมื่อคนๆ หนึ่งมีมุมมองที่สมดุลในชีวิตและจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นขณะที่มันมีเข้ามา มันเป็นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่เกิดจากการพยายามรวบรวม พลังต่อต้านที่ยิ่งใหญ่ในธรรมชาติ เอริสที่ไม่ดีเห็นได้ชัดในสภาพความรุนแรงที่ควบคุมชีวิตของผู้ชาย แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะพบในธรรมชาติและบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมได้ เชื่อกันว่าเอริสที่ไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อคนหนึ่งเพิกเฉยต่อปัญหาปล่อยให้มันขยายใหญ่ขึ้นจนทําลายไม่เพียงแต่คนๆนั้น แต่ครอบครัวของเขาด้วย ชาวกรีกโบราณมองว่าเอริสเป็นเทพธิดา Eris เทพธิดาแห่ง Discord หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Trouble

ตํานานเรื่องหนึ่งที่แสดงแนวคิดเรื่องอีริสที่ไม่ดีนี้เกี่ยวข้องกับการแต่งงานของกษัตริย์ Peleus และเทพีแห่ง แม่น้ำเธทิส ซุสผู้ปกครองสูงสุดได้เรียนรู้ว่าธีทิสจะมีลูกที่แข็งแกร่งพอที่จะทําลายพ่อของเขาได้ ซุสไม่ต้องการเป็นจุดกําเนิดของความพินาศของตัวเอง ซุสจึงเกลี้ยกล่อมให้ธีทิสแต่งงานกับมนุษย์ มนุษย์ที่ลูกไม่สามารถท้าทายเทพเจ้าได้ เขาสัญญากับเธอเหนือสิ่งอื่นใดว่าจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์และโลก และอนุญาตให้ทั้งคู่เชิญใครก็ได้ที่พวกเขาต้องการ นี่เป็นหนึ่งในการแต่งงานแบบผสมครั้งแรกในเทพนิยายกรีกและบทเรียนที่ได้ เรียนรู้จากเรื่องนี้ยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน พวกเขาเชิญทุกคนยกเว้น Eris เทพธิดาแห่ง Discord กล่าวอีกนัย หนึ่งแทนที่จะเผชิญปัญหาที่เกิดจากการแต่งงานแบบผสมผสานพวกเขากลับหันหลังและเพิกเฉยต่อปัญหา พวกเขาปฏิเสธที่จะจัดการกับปัญหาโดยตรงและผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าเศร้า ด้วยความโกรธแค้น Eris มาถึงทําลายงานแต่งงาน ทําให้เกิดความบาดหมางระหว่างเทพองค์ใหญ่ทั้งสามที่มีต่อแอปเปิ้ลทองคํา และกําหนดเงื่อนไขที่นําไปสู่สงครามโทรจัน สงครามจะเกิดขึ้น 20 ปีในอนาคต แต่จะส่งผลให้การตายของลูกคนเดียวของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวก็คืออคิล ลิส เอริสจะทําลายความหวังของพ่อแม่ในอนาคตของพวกเขา ทําให้ทั้งคู่ไม่มีทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายของ บัลลังก์

ดังนั้นเมื่อมีใครพูดกับเราว่า “ถ้าคุณไม่เผชิญกับปัญหา ปัญหานั้นก็จะมา” หมายความว่าหากเราไม่จัดการกับ ปัญหาของเรา ปัญหาของเราจะจัดการเราด้วยการแก้แค้น! เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าเหตุใดชาวกรีกจึงถือว่าตํานาน การเรียนรู้มาจากตํานานของพวกเขาหลายเรื่องเพราะสิ่งนี้สอนเราถึงวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะสิ่งที่สามารถทําลายเราได้

81 According to the passage, the ancient Greeks believed that the concept of eris

defined the universe as a ____.

1 hostile; violent place

2 condition opposites

3 series of problems

4 mixture of gods and men

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าความคิดของเอริสกําหนดจักรวาลเป็น

1 สถานที่ที่ไม่เป็นมิตรและรุนแรง

2 สภาพที่ตรงกันข้าม

3 เป็นชุด ๆ ของปัญหา

4 การผสมผสานระหว่างเทพเจ้ากับมนุษย์

ตอบ 2 จากบรรทัดที่ 2

82 Most specifically, bad eris is defined in the passage as the _____.

1 violent condition of life

2 problems man encounters

3 evil goddess who has a golden apple

4 murderer of generations

ถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอริสที่ไม่ดีถูกกําหนดไว้ในเนื้อเรื่องว่าเป็น _____.

1 สภาพความรุนแรงของชีวิต

2 ปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญ

3 เทพธิดาแห่งความชั่วร้ายที่มีแอปเปิ้ลทองคํา

4 ฆาตกรรุ่นต่อรุ่น

ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 7 ว่า Bad eris was evident in the violent conditions that ruled

men’s lives.

83 According to the passage, if someone ignore s a problem, _____.

1 he/she does not have to deal with it

2 it will disappear

3 it will grow bigger

4 it will destroy only that person

ถาม จากเนื้อเรื่อง ถ้าหากมีคนเพิกเฉยต่อปัญหา _____.

1 เขา/เธอไม่จําเป็นต้องจัดการกับมัน

2 มันจะหายไป

3 ปัญหาจะยิ่งใหญ่ขึ้น

4 มันจะทําลายคนๆ นั้นเท่านั้น

ตอบ 3 จากตอนท้ายของย่อหน้าที่ 1 ว่า when one ignored a problem, letting it grow

larger until it destroyed not only that person, but his family as well.

84 It can be inferred that Zeus married Thetis off because he _____.

1 was in a good term with King Peleus, a great king of mankind

2 feared that the gods would create bad eris by competing over her

3 feared that she could be the cause of the Trojan War

4 feared of having an affair with her and, subsequently, having a child by her who

would cause him problems

ถาม สามารถอนุมานได้ว่า Zeus ส่งตัว Thetis ไปแต่งงานเพราะเขา _____.

1 มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกษัตริย์ Peleus ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ

2 กลัวว่าเทพเจ้าจะสร้างเอริสที่ไม่ดีด้วยการแย่งชิงตัวเธอ

3 กลัวว่าเธอจะเป็นสาเหตุของสงครามโทรจัน

4 กลัวว่าจะมีความสัมพันธ์กับเธอและต่อมาเธอมีลูกซึ่งจะก่อปัญหาให้กับเขา

ตอบ 4 ซุส (Zeus) ให้เอธิสแต่งงานกับมนุษย์ เพราะมีคําทํานายว่าถ้าเธอมีลูกกับเทพเจ้า ลูกจะมาฆ่า

พ่อ ไม่มีข้อไหนถูกต้อง

85 At the wedding of Thetis and King Peleus, who was not invited to the wedding?

1 Eris

2 The Goddess of Discord

3 Trouble

4 All are correct

ถาม ในงานแต่งงานของธีทสกับกษัตริย์ Peleus ใคร ไม่ได้ถูกเชิญในงานแต่งงาน

ตอบ 4 จากตอนท้ายของย่อหน้าแรก เอริส (Eris) ก็คือ เทพธิดาแห่ง Discord และรู้จักกันในชื่อ

Trouble จึงตอบถูกทุกข้อ

86 According to the passage, Achilles was _____.

1 one of the gods

2 one of guests who came to Thetis and King Peleus’ wedding party

3 Thetis and King Peleus’s son

4 the original cause of the Trojan War

ถาม ตามเนื้อเรื่อง อคิลลิส เป็น _____.

1 หนึ่งในเทพเจ้า 2 หนึ่งในแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของ Thetis และ King Paleus 3 ลูกชายของ Thetis และ King Peleus 4 สาเหตุดั้งเดิมของสงครามโทรจัน

ตอบ 3 ตามย่อหน้าที่ 2 อคิลลิส เป็นลูกของ เอริส กับกษัตริย์ Peleus

87 Achilles died ____.

1 a few days after his birth

2 in the Trojan War

3 in his parents’ house peacefully

4 by being killed by Eris

ถาม อคิลลิส เสียชีวิต ____.

1 ไม่กี่วันหลังคลอด

2 ในสงครามโทรจัน

3 ในบ้านพ่อแม่ของเขาอย่างสงบสุข

4 ด้วยการถูกฆ่าโดย Eris

ตอบ 2 อคิลลิส เสียชีวิตในสงครามโทรจัน

88 The main idea of this passage is ____.

1 one should not ignore a problem because it can grow bigger and destroy oneself and one’s family

2 If you have mixed marriage, problems will arise

3 one must be very careful when inviting guests to his/her wedding

4 one should not underestimate what a person can do when he/she gets angry

ถาม ใจความสําคัญของเรื่องนี้คือ

1 เราไม่ควรเพิกเฉยต่อปัญหาเพราะมันสามารถขยายใหญ่ขึ้นและทําลายตัวเองและครอบครัวได้

2 หากคุณแต่งงานแบบผสมผสานปัญหาจะเกิดขึ้น

3 เราต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อเชิญแขกมางานแต่งงานของเขา/เธอ

4 เราไม่ควรประมาทว่าคน ๆ หนึ่งจะทําอะไรได้บ้างเมื่อเขา / เธอโกรธ

ตอบ 1 เรื่องนี้เป็นตํานาน ที่สอนให้เราว่าถ้าเราไม่จัดการต่อปัญหา ปัญหานั้นก็จะมาหาเราทําลายเรา

  1. The word “his” (paragraph 2) refers to ____.

1 King Peleus’s

2 Achilles’

3 Zeus’

4 a human’s

ถาม คําว่า “his” (ย่อหน้าที่ 2) อ้างอิงถึง ____.

1 ของ กษัตริย์ Peleus 2 ของอคิลลิส 3 ของซุส 4 ของมนุษย์

ตอบ 3 his ของเขา อ้างอิงถึง ของซุส

90 The word “heirs” (paragraph 2) means _____.

1 ancestors

2 protectors

3 followers

4 successors

ถาม คําว่า “heirs” (ย่อหน้าที่ 2) หมายถึง _____.

1 บรรพบุรุษ 2 ผู้ปกป้อง 3 ผู้ติดตาม 4 ทายาท ผู้สืบทอด

ตอบ 4 heirs = successors = ทายาท ผู้สืบทอด

 

Passage 5

Thomas the Tank Engine is a small fictional steam locomotive in The Railway Seres

books by the Reverend Wilbert Awdry and his son, Christopher. He became the most popular character in the series, and is the title character in the accompanying television spin-off series, Thomas & Friends. Thomas is a steam engine and has a number 1 painted on his side. All of the locomotives in The Railway Series were based on prototypical engines. Thomas has origin in the E2 Class designed by Lawson Billinton in 1913. Thomas first appeared in 1946 in the second book in the series. Thomas the Tank Engine, and was the focus of the four short stories contained within, Thomas’ best friends are Percy and Toby. In 1979, the British writer/producer Britt Allcroft came across the books, and arranged a deal to bring the stories to life as the TV series Thomas the Tank Engine and Friends (later simplified to Thomas & Friends). The program became an award-winning hit around the world, with a vast range of spin-off commercial products

 

Thomas the Tank Engine เป็นรถจักรไอน้ำขนาดเล็กในหนังสือ The Railway Series โดย นายวิลเบิร์ตอว์ดรายและลูกชายของเขาชื่อ คริสโตเฟอร์ เขากลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซีรีส์ และเป็นตัวละครชื่อเรื่องในซีรีส์สปินออฟจากหนังสือที่ฉายทางโทรทัศน์ Thomas & Friends โทมัสเป็นเครื่องจักรไอน้ำและทาสีหมายเลข 1 อยู่ข้างตัว ตู้รถไฟทั้งหมดใน The Railway Series มีพื้นฐานมาจาก เครื่องยนต์ต้นแบบ Thomas มีต้นกําเนิดใน E2 Class ที่ออกแบบโดย Lawson Billinton ในปี 1913 Thomas ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1946 ในหนังสือเล่มที่สองในชุด Thomas the Tank Engine และเป็นตัว ละครสําคัญของเรื่องสั้นสี่เรื่องภายในหนังสือ เพื่อนที่สนิทที่สุดของโทมัสคือเพอร์ซีย์และโทบี้ ในปี 1979 Brit Allcroft นักเขียน / ผู้อํานวยการสร้างชาวอังกฤษได้พบกับหนังสือเล่มนี้และจัดทําข้อตกลงเพื่อทําให้ เรื่องราวมีชีวิตขึ้นในรูปแบบซีรีส์โทรทัศน์ที่ใช้ชื่อว่า Thomas the Tank Engine and Friends (ต่อมาทํา เข้าใจง่ายเป็น Thomas & Friends) รายการนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศดังไปทั่วโลกโดยมีผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่ หลากหลายมากมาย

91 According to the passage, _____.

1 Thomas the Tank Engine is one character in the books by Awdry and his son.

2 All the locomotives in Thomas & Friends series were based on real engines.

3 Lawson Billton built E2 class trains like the train of the novels in 1913.

4 Britt Allcroft brings the stories to life by making a movie called Thomas & Friends.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง _____.

1 Thomas the Tank Engine เป็นตัวละครหนึ่งในหนังสือของ Awdry และลูกชายของเขา

2 ตู้รถไฟทั้งหมดในซีรีส์ Thomas & Friends ใช้เครื่องยนต์จริง

3 Lawson Bilton สร้างรถไฟ E2 class เหมือนในหนังสือตีพิมพ์เมื่อปี 1913

4 Britt Allcroft ทําให้เรื่องราวมีชีวิตด้วยการสร้างภาพยนตร์ชื่อ Thomas & Friends

ตอบ 1 จากประโยคแรก Thomas the Tank Engine is a small fictional steam locomotive in The Railway Series books by the Reverend Wilbert Awdry and his son, Christopher. จึงตอบข้อ 1 ข้อ 2 ผิดเพราะเนื้อเรื่องพูดถึงผู้รถไฟทั้งหมด ใน The Railway Series ไม่ใช่ Thomas & Friends ใช้เครื่องยนต์เป็นต้นแบบ ส่วน ข้อ 3 ผิดเพราะไม่มีในเนื้อเรื่อง และข้อ 4 ผิดเพราะ Brit Allcroft นําหนังสือมาทําเป็นซีรีส์ โทรทัศน์ไม่ใช่ภาพยนตร์

92 Which sentence is correct?

1 Thomas has numbers printed on his body.

2 Thomas won many awards in 1979.

3 Thomas is a train.

4 The Thomas series is inspired by the British producer Britt Alicroft.

ถาม ข้อความไหนถูกต้อง

1 โทมัสมีตัวเลขหลายตัวพิมพ์อยู่บนตัวของเขา

2 โทมัสได้รับรางวัลมากมายในปี 1979

3 โทมัสเป็นรถไฟ

4 ซีรีส์ Thomas ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้อํานวยการสร้างชาวอังกฤษ Britt Allcroth

ตอบ 3 ข้อ 1 ผิดเพราะโทมัสมีตัวเลือก 1 ตัวเลขเดียวบนตัว (numbers เป็นพหูพจน์แสดงว่ามีหลายเลข) ข้อ 2 ผิดเพราะปี 1979 คือปีที่ Britt Allcroft เจอหนังสือ The Railway Series มีการพูดถึงโทมัสได้รับรางวัล และข้อ 4 ผิดเพราะ Britt Alcroft เป็นคนนําหนังสือมาพัฒนาเป็นซีรีส์โทรทัศน์ และไม่ได้เป็นแหล่งกําเนิดแรงบันดาลใจของซีรีส์

93 When did Thomas the Tank Engine become globally famous?

1 in 1913

2 Around 1946

3 After 1979

4 Not enough information given.

ถาม Thomas the Tank Engine เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกเมื่อไร

ตอบ 3 หลังจากปี 1979

94 The tank engine is a kind of _____.

1 cartoon

2 vehicle

3 book

4 weapon

ถาม เครื่องจักรไอนี้เป็นประเภทของ _____.

1 การ์ตูน 2 ยานพาหนะ 3 หนังสือ 4 อาวุธ

ตอบ 2 เป็นเครื่องจักรไอน้ำ เป็นยานพาหนะ

95 Who was Lawson Billnton?

1 The author of Thomas’ books.

2 Thomas’ friend.

3 An actor in Thomas’ series.

4 A train designer.

ถาม Lawson Bilinton คือใคร

1 เป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับโทมัส

2 เป็นเพื่อนของโทมัส

3 เป็นนักแสดงในซีรีส์ของโทมัส

4 เป็นผู้ออกแบบรถไฟ

ตอบ 4 จาก Thomas has origin in the E2 Class designed by Lawson Billinton in

1913 แสดงเป็นนักออกแบบ

96 Are Percy and Toby human beings in the stories?

1 Percy is a human, but Toby is a train.

2 Percy is a train, but Toby is a human.

3 Both are humans

4 There is not enough information given.

ถาม เพอร์ซีย์และโทบี้เป็นมนุษย์ในเรื่องหรือไม่?

1 เพอร์ซีย์ เป็นมนุษย์ แต่โทบี้เป็นรถไฟ

2 เพอร์ซีย์เป็นรถไฟแต่โทบี้เป็นมนุษย์

3 ทั้งคู่เป็นมนุษย์

4 ข้อมูลที่ให้ไม่เพียงพอ

ตอบ 4 ในเนื้อเรื่องบอกแต่ว่า Percy and Toby เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของโทมัสเท่านั้น ถ้าใครได้ดูใน

เรื่องของโทมัส ทั้งคู่เป็นรถไฟ แต่ตัวเลือกไม่มี ก็ตอบ 4 ข้อมูลให้มาไม่เพียงพอ

97 When did people know Thomas publicly?

1 1913

2 1946

3 1979

4 All are correct

ถาม ผู้คนรู้จัก โทมัสอย่างกว้างขวางเมื่อไร

ตอบ 2 ปี 1979

98 Who is Thomas’ pal?

1 Christopher

2 Lawson

3 Toby

4 Britt

ถาม เพื่อนของโทมันคือใคร

ตอบ 3 ในเนื้อเรื่องมี Percy และ Toby

99 The phrase “came across” (in bold type) is the closest meaning to ____.

1 developed

2 discovered

3 created

4 inspired

ถาม วลีที่ว่า “came across” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ _____.

1 พัฒนา

2 ค้นพบ

3 ก่อ เกิด สร้าง

4 แรงบันดาลใจ

ตอบ 2 came across = discovered = ค้นพบ (โดยบังเอิญ)

100 The word “locomotive” (in bold type) is the closest in meaning to _____.

1 the tank engine

2 the train

3 a fictional character

4 the railway

ถาม คําว่า “locomotive” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ____.

1 เครื่องยนต์รถถัง 2 รถไฟ 3 ตัวละครในนิยาย 4 รางรถไฟ

ตอบ 2 locomotive = the train = รถจักรไอน้ำ ก็คือรถไฟ

 

ENG2001 การอ่านเอาความ s/2563

แนวข้อสอบภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563

ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 2001 การอ่านเอาความ

Part 1 : Reading Theory (20 points)

Similar meaning (ความหมายใกล้เคียง)

1 What could possibly be more important to us than saving lives?

1 Saving us is more important than saving others.

2 There are other things that are as important as saving lives.

3 Saving lives is the most important thing to us.

4 It is important to save our lives.

ถาม มีอะไรที่น่าจะสําคัญกว่าการรักษาชีวิตให้รอดไหม?

1 การรักษาชีวิตของเราสําคัญกว่าการช่วยคนอื่น

2 ยังมีสิ่งอื่นที่สําคัญเท่ากับการรักษาวิต

3 การรักษาชีวิตเป็นสิ่งสําคัญที่สุดต่อเรา

4 การรักษาชีวิตเราเป็นสิ่งสําคัญ

ตอบ 3 จากประโยคแสดงว่า การรักษาชีวิตรอดเป็นสิ่งสําคัญที่สุดต่อเรา

2 They were born in Europe; therefore, they cannot adapt very easily to hot countries.

1 They cannot adapt very easily to hot countries. As a result, they were born in

Europe.

2 Although they were born in Europe, they feel comfortable living in hot countries.

3 They like hot weather because they were born in Europe.

4 It is difficult for them to live in hot country since they were born in a cold one.

ถาม พวกเขาเกิดในยุโรป ดังนั้นแล้วการปรับตัวเข้ากับประเทศที่อากาศร้อนจึงไม่ง่าย

1 พวกเขาไม่สามารถปรับตัวกับประเทศร้อนได้ง่าย ผลคือพวกเขาเกิดในยุโรป

2 ถึงแม้ว่าพวกเขาเกิดในยุโรป แต่พวกเขารู้สึกสบายใจที่จะอยู่ในประเทศร้อน

3 พวกเขาชอบอากาศร้อนเพราะพวกเขาเกิดในยุโรป

4 เป็นเรื่องยากสําหรับพวกเขาที่จะอาศัยอยู่ในประเทศอากาศร้อน เพราะพวกเขาเกิดในประเทศ

หนาวเย็น

ตอบ 4 ข้อความนี้แสดงว่า การปรับตัวให้เข้ากับประเทศอากาศร้อนไม่ง่ายสําหรับคนที่เกิดในยุโรป

3 Which way to the restroom, please?

1 The way to the restroom is over there.

2 Is there a rest room near here?

3 How do I get to the restroom?

4 There are many ways to rest.

ถาม ช่วยบอกทางไปห้องน้ำหน่อย?

1 ทางไปห้องน้ำอยู่ตรงนั้นค่ะ

2 มีห้องน้ำอยู่ใกล้ที่นี่ไหมค่ะ

3 ฉันจะไปห้องน้ำได้อย่างไร

4 มีหลายวิธีที่จะพักผ่อน

ตอบ 3 คําถามนี้เป็นถามทาง ดังนั้นสํานวนที่เหมือนกัน ใช้ถามทาง เราขึ้นต้นถาม Which way หรือ

How do I get to … เหมือนกัน

4 Some musicians are internationally recognized.

1 Certain musicians are universally well-known.

2 None of the musicians are recognized worldwide.

3 Almost all musicians are locally recognized

4 Not all of the musicians are locally well-known.

ถาม นักดนตรีบางคนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

1 นักดนตรีบางคนเป็นที่รู้จักในระดับสากล

2 ไม่มีนักดนตรีคนใดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

3 นักดนตรีเกือบทั้งหมดเป็นที่รู้จักในท้องถิ่น

4 ไม่ใช่นักดนตรีทุกคนเป็นที่รู้จักกันในพื้นที่

ตอบ 1 ประเด็นสําคัญคือ การระบุจํานวน some หมายถึง บางคนไม่ใช่ทุกคน และกริยาวิเศษณ์คําว่า

“internationaly” หมายถึง ระดับสากล ฉะนั้นคําว่า certain หมายถึง some กล่าวถึงบางคน เป็นที่ยอมรับ internationally = universally และ well-known = recognized = เป็นที่ ยอมรับ

5 If I went to Lisa’s birthday party, I wouldn’t buy her a kitten.

1 Buying a cat is a good idea for Lisa’s birthday.

2 If tomorrow is Lisa’s birthday, I’ll not take her cat home.

3 I didn’t go to Lisa

4 I know that Lisa likes kittens.

ถาม ถ้าฉันไปงานวันเกิดของลิซ่า ฉันจะไม่ซื้อแมวมาให้เธอ

1 การซื้อแมวเป็นความคิดที่ดีสําหรับวันเกิดของลิซ่า

2 ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของลิซ่า ฉันจะไม่พาแมวของเธอกลับบ้าน

3 ฉันไม่ได้ไปงานวันเกิดของลิซ่า

4 ฉันรู้ว่าลิซ่าชอบลูกแมว

ตอบ 3 ข้อนี้เป็นประโยคเงื่อนโดย ใช้ if (ถ้าหากว่า) เป็นการสมมติ ซึ่งกรณี if + S +V1 เป็นเงื่อนไขที่

ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เช่น ถ้าฉันไปงานวันเกิดลิซ่า แสดงว่าจริง ๆ ฉันไม่ได้ไปงานวันเกิดของลิซ่า จึงตรงกับตัวเลือกที่ 3

 

B: Prefix, Suffix, Roots (อุปสรรค ปัจจัยและรากศัพท์)

6 Which of the following does NOT share the same root with the other three?

1 omnivore.

2 herbivore

3 VOILEX

4 voracious

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้มีรากศัพท์เหมือนกับคําอื่น ๆ?

ตอบ 3

ข้อ 1 omnivore = omni + vor รากศัพท์คือ “vor” กินทุกอย่าง

ข้อ 2 herbivore = herb + vor รากศัพท์คือ “vor” กินพืช

ข้อ 3 Vortex เป็นคําที่แยกไม่ได้ คือมีความหมายทั้งคํา = น้ำวน

ข้อ 4 voracious = vor + ious รากศัพท์ คือ “vor” ตะกละ

7 In the word “grouchy,” the _____ “-y” makes a noun become a/an ____.

1 prefix; adjective

2 suffix; verb

3 prefix; verb

4 suffix; adjective

ถาม คําว่า “grouchy ” มี –y เป็น ____ ทําให้คํานามกลายมาเป็นคํา _____.

ตอบ 4 grouch เป็นคํานาม หมายถึง บูดบึง อารมณ์เสีย เมื่อใส่ suffix -y ลงท้าย ทําให้กลาย

มาเป็นคําคุณศัพท์ (adj.)

8 The word “unprofitable” consists of ____.

1 one root and two prefixes

2 one prefix, one root, and one suffix

3 one prefix, one root and two suffixes

4 one root and two suffixes

ถาม คําว่า “unprofitable” ประกอบด้วย ____.

ตอบ 2 ประกอบด้วย un + profit + able คือ one prefix, one root และ one suffix

ดังนั้นคําว่าประกอบครบทั้ง 3 ส่วน คือ un(prefix) + profit (root)+ able (suffix)

9 The words “translation, transport, and transparent” have the same ____ meaning ____.

1 suffix; forward

2 prefix; across

3 suffix; between

4 prefix; fast

ถาม คําว่า “translation, transport, transparent” มี ____ เหมือนกันหมายถึง _____

ตอบ 2 ทั้ง 3 คํามี prefix คือ trans หมายถึง across (ข้าม หรือผ่านไป) ถ้า pro จะหมายถึง forward

เช่น process ส่วน inter = between เช่น international เป็นต้น

 

B: Dictionary Entry

 

10 How many different pronunciations does the word “grasp” have?

1 one

2 two

3 three

4 four

ถาม มีการออกเสียงที่แตกต่างกันเท่าไร ในคําว่า “grasp:

ตอบ 2 ดูในพจนานุกรมบรรทัดแรก จะแยกออกเสียงได้ 2 คํา ของ UK (อังกฤษ) และของ Us

(สหรัฐฯ) ออกเสียงต่างกันจะเห็นในเครื่องหมาย / /

11 The word “grasp” can be the following parts of speech EXCEPT _____.

1 intransitive verb

2 noun

3 adjective

4 transitive verb

ถาม คําว่า “grasp” สามารถมีชนิดของคํา ยกเว้น ____.

ตอบ 3 ดูในพจนานุกรมเห็น vt (transitive verb = กริยามีกรรม) และ vi (intransitive verb) = กริยาไม่มีกรรม และคํานาม (n.) ส่วน adjective (adj.) ที่อยู่บรรทัดสุดท้าย grasping มี – ing ลงท้ายเป็นการสร้างคําใหม่เราเรียกว่า derivative ไม่ได้นับเป็น parts of speech หรือดู ว่าโจทย์ถาม “grasp” จากหัวศัพท์ ก็มี vt, vi, n. เท่านั้น ยกเว้น adj.

12 Peter has a good grasp of the multiverse theory. The word “grasp” in this sentence means _____.

1 n1

2 n2

3 n3

4 vt1

ถาม ปีเตอร์เข้าใจทฤษฎีลิขสิทธิ์เป็นอย่างดี คําว่า “grasp” ในประโยคนี้หมายถึง ตอบ 3 จากประโยคที่ให้มา grasp ทําหน้าที่เป็นคํานาม หมายถึง เข้าใจ = understanding

13 The word “grasping” is a ____ term.

1 colloquial

2 obsolete

3 dialect

4 derivative

ถาม คําว่า “grasping” เป็น ____.

ตอบ 4 หัวศัพท์ให้มา grasp บรรทัดสุดท้ายเป็น grasping ด้วยการใส่ sufix -ing ลงท้าย เป็นการสร้างคําใหม่ เราเรียกว่า derivative ส่วนคําอื่น coloquial ใช้ในการภาษาพูด obsolete คําที่ ล้าสมัย dialect ภาษาถิ่น

D: Contextual clues (Items 14-15)

Made up of seven themed lands filled with 37 rides, Universal Studios Beijing Resort ..will be the world’s fifth Universal Studios theme park. It has many of the popular

attractions found at its counterparts in Singapore, Osaka, Los Angeles and Orlando. But there are some Universal firsts as well, including the Kung Fu Panda Land of Awesomeness.

สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ปักกิ่งรีสอร์ท ซึ่งสร้างขึ้นจากดินแดนที่มีธีมทั้งหมด 7 แห่ง และเครื่องเล่น 37 รายการ จะเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอแห่งที่ 5 ของโลก ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจยอดนิยมที่ คล้ายกันหลายแห่งในสิงคโปร์ โอซาก้า ลอสแองเจลิส แต่ก็มีบางยูนิเวอร์แซลที่มาเป็นอันดับหนึ่งด้วย รวมถึง ความมหัศจรรย์ของกังฟูแพนด้า

14 The word “counterparts” (in bold type) means ____.

1 enemies in business

2 other places that have the same function

3 opponents

4 other places that have different functions

ถาม คําว่า “counterparts” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึง ___.

1 ศัตรูในธุรกิจ

2 สถานที่อื่นที่ทําธุรกิจเหมือนกัน

3 คู่แข่ง

4 สถานที่อื่นที่ทําธุรกิจแตกต่างกัน

ตอบ 2 counterparts = คู่หู สิ่งที่คล้ายกัน

15 According to the passage, how many Universal Studio theme parks are there?

1 4

2 5

3 7

4 3

ถาม ตามเนื้อเรื่อง มีสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอกี่แห่ง

ตอบ 2 จากเนื้อเรื่องมี 5 แห่ง

A:Paragraph Structure (Items 16 – 20)

Read the following passage and answer the questions.

จงอ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้และตอบคําถามด้านล่าง

1Ever wonder why zebras have never been used by humans in the way that horses and donkeys have? 2Well, it’s not for lack of trying. 3According to the Dutch Boers, among others, tried and failed to tame zebras to be used in transportation. 4The personality and character of the zebra is to blame: the animals frequently escaped their enclosures, and thwarted the training of their masters. 5This untrainable’ behavior may be the result of evolution: since zebras naturally live in large! . groups in an environment full of predators, their strong survival instinct makes them considerably less friendly to humans than their horse and donkey cousins.

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทําไมมนุษย์ถึงไม่เคยใช้ม้าลายในแบบที่ม้าและลามี? “มันไม่ใช่เพราะขาดความพยายาม “ตามนักเขียนฟรานซิส กาลตัน ชาวดัตช์โบเวอร์ บรรดาสัตว์ต่างๆ เขาได้พยายามและล้มเหลวในการทําให้ม้าลาย เรื่องเพื่อใช้ในการขนส่ง “บุคลิกภาพและลักษณะของม้าลายเป็นโทษ มันมักจะหนีจากกรงและขัดขวางการฝึกของเจ้านาย “พฤติกรรมที่ “ฝึกไม่ได้” นี้อาจะเป็นผลมาจากวิวัฒนาการ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วม้าลายจะอาศัยอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้ล่า สัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่แข็งแกร่งจึงทําให้พวกมันเป็นมิตร กับมนุษย์น้อยกว่าม้าและลูกพี่ลูกน้องลา

16 What is the topic of this passage?

1 The personality and character of zebras

2 Differences between zebras and horses

3 A reason why we haven’t trained zebras

4 The untrainable behavior

ถาม หัวเรื่องของใจความนี้คืออะไร

1 บุคลิกภาพและลักษณะของม้าลาย

2 ความแตกต่างระหว่างม้าลายและม้า

3 เหตุผลว่าทําไมเราไม่สามารถฝึกม้าลาย

4 พฤติกรรมที่ฝึกไม่ได้

ตอบ 3 มาจากประโยคแรก กล่าวถึงคําหลักที่สําคัญคือเกี่ยวกับม้าลายว่าทําไมฝึกไม่ได้

17 The topic sentence of this passage is the ____.

1 1st sentence

2 2nd sentence

3 3rd sentence

4 4th sentence

ถาม ประโยคหัวเรื่องของใจความนี้คือ ____.

ตอบ ประโยคที่เป็นใจความสําคัญของเรื่องนี้คือ ประโยคที่ 1

18 There are _____ major supporting detail(s) in this passage.

1 1

2 2

3 3

4 no

ถาม มี _____ ประโยคสนับสนุนหลักในเรื่องนี้

ตอบ 3 major supporting detail คือประโยคที่มาสนับสนุน main idea (ประโยคที่ 1) คียประโยคที่

2, 3 และ4 รวมกันมี 3 ประโยค

19 There is/are _____ minor supporting detail(s) in this passage.

1 1

2 2

3 3

4 no

ถาม มี ____ ประโยคสนับสนุนย่อยในเรื่องนี้

ตอบ 1 minor supporting detail คือ ประโยคที่มาสนับสนุน major อีกทีหนึ่งก็คือ ประโยคที่ 5

ดูจากการใช้สรรพนาม This แสดงถึงการอ้างอิงในประโยคที่ 4 นั่นคือ ประโยค 5 สนับสนุน ประโยคที่ 4

20 According to the passage, which statement is NOT true?

1 Zebras are less friendly than donkeys because of their survival instinct.

2 Zebras live with several hunter animals.

3 Zebras cannot be trained.

4 Only Francis Galton tried to tame zebras.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนไม่ถูกต้อง

1 ม้าลายเป็นมิตรน้อยกว่าลาเพราะสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของพวกมัน

2 ม้าลายอาศัยอยู่กับสัตว์ที่เป็นนักล่าจํานวนมาก

3 ม้าลายไม่สามารถฝึกได้

4 มีแต่ฟรานซิส กาลตันเท่านั้นที่พยายามฝึกม้าลาย

ตอบ 4 ที่ไม่ถูกต้องคือ ตัวเลือกที่ 4 ว่ามีแต่ฟรานซิส กาลตันเท่านั้น ไม่ได้ระบุคําว่า only เท่านั้น

 

Part II : Reading Passages

A: Seen Passages (เนื้อเรื่องในตํารา)

Passage 1 

There are four kinds of meat: red meat, organ meat, fish, and poultry. Red meat includes meat from cows, pigs, and lambs. The most common kinds of red meat are beef (meat from adult cows), veal (meat from very young cows; that is, less than three months old), and pork (meat from pigs). The most popular kinds of pork include bacon, sausages, and ham. Lamb (meat from young sheep) is popular, but mutton (meat from adult sheep) is not popular in the U.S. Organ meat such as livers, heart, kidneys, and brain, give a lot of minerals. There are three types of fish salt water fish, fresh water fish and shellfish, like lobster and clam. Poultry (birds) includes chicken, turkey, and duck.

เนื้อ (meat) มี 4 ประเภท คือ เนื้อแดง, เครื่องในสัตว์, ปลาและสัตว์ปีก (poultry) เนื้อแดงจะรวมถึง เนื้อจากวัว, หมูและแกะ ประเภทเนื้อแดงที่มีทั่วไปมากที่สุดคือเนื้อวัว (เนื้อที่มาจากเนื้อวัวที่โตแล้ว), เนื้อลูกวัว อ่อน (เนื้อจากลูกวัวอ่อน ซึ่งจะมีอายุต่ำกว่า 3 เดือน) และเนื้อหมู (เนื้อจากหมู) ประเภทเนื้อหมูที่นิยมมากที่สุด รวมถึง เบคอน, ไส้กรอก, และแฮม เนื้อลูกแกะ (เนื้อจากลูกแกะ) เป็นที่นิยม, แต่เนื้อแกะ (เนื้อที่มาจากแกะที่โย แล้ว) ไม่เป็นที่นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื้อที่มาจากเครื่องใน (organ meats) เช่น ตับ, หัวใจ, ไตและ สมอง ให้แร่ธาตุมากมาย มีปลา 3 ชนิด คือ ปลาน้ำเค็ม, ปลาน้ำจืด, และสัตว์ทะเลมีเปลือก เช่น กุ้งมังกร และหอย กาบ พวกสัตว์ปีก (นกต่าง ๆ) รวมถึงไก่, ไก่งวง และเป็ด

21 What is the topic of this passage?

1 Benefits of meat

2 Different types of meat

3 How to choose meat

4 Popular meat in America

ถาม หัวเรื่องของบทความนี้คืออะไร?

1 ข้อดีของเนื้อ

2 ชนิดต่าง ๆ ของเนื้อ

3 จะเลือกเนื้ออย่างไร

4 เนื้อที่นิยมในสหรัฐอเมริกา

ตอบ 2 เนื้อเรื่องนี้กล่าวชนิดของเนื้อมี 4 ชนิด จึงตอบตัวเลือกที่ 2 คําว่า kinds = types = ชนิด

22 What kind of meat is not popular in America?

1 ham

2 lamb

3 mutton

4 shellfish

ถาม เนื้อชนิดไหนที่ไม่นิยมในอเมริกา

1 แฮม 2 เนื้อแกะอ่อน 3 เนื้อแกะโตเต็มวัย 4 หอย

ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 6 mutton ไม่เป็นที่นิยมในอเมริกา

23 The word “poultry” (in bold type) means or is related to ___.

1 turkeys

2 chickens

3 birds

4 All are correct

ถาม คําว่า “poultry” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึงหรือเกี่ยวข้องกับ  _____.

1 ไก่งวงป่า 2 ไก่ 3 นก 4 ถูกหมด

ตอบ 4 จากบรรทัดสุดท้าย Poultry (birds) includes chicken, turkey, and duck,

poultry หมายถึง สัตว์ปีก ซึ่งรวมถึง นก ไก่ ไก่งวงป่า และเป็ด

24 Which of the following is NOT organ meat?

1 veal

2 liver

3 kidney

4 brain

ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ใช่เนื้อเครื่องใน

1 เนื้อลูกวัว 2 ตับ 3 ไต 4 สมอง

ตอบ 1 จากบรรทัดที่6 Organ meat such as livers, heart, kidneys, and brain:

25 How many kinds of meat from sheep are mentioned in this passage?

1 1

2 2

3 3

4 4

ถาม มีเนื้อที่มาจากแกะกี่ชนิดที่กล่าวในเนื้อเรื่องนี้

ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 5 Lamb (meat from young sheep) is popular, but muttorn (meat from adult sheep) is not popular in the U.S.มี 2 ชนิดคือ lamp และ muitton

26 According to the passage, which statement is NOT true?

1 Heart provides a lot of minerals.

2 Veal is meat from 2-month-old cows.

3 Bacon is one of the most popular kinds of pork.

4 Lobster is a kind of red meat.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนไม่ถูกต้อง

1 หัวใจให้แร่ธาตุจํานวนมาก

2 veal คือ เนื้อจากวัวอายุ 2 เดือน

3 เบคอนเป็นหมูที่ได้รับความนิยมชนิดหนึ่ง

4 กุ้งมังกรเป็นเนื้อแดงชนิดหนึ่ง

ตอบ 4 กุ้งมังกร เป็นเนื้อแดงชนิดหนึ่งไม่ถูกต้องเพราะในบทความกุ้งมังกร (lobster) เป็นเนื้อสัตว์

ที่มีเปลือกแข็ง (shelfish)

 

Passage 2

Pasta is the Italian name of noodles made from flour. Macaroni and spaghetti are the best-known kinds, but there are many others in many different shapes.

A famous Italian traveler, Marco Polo, probably brought noodles made of flour from China about 600 years ago. They were an immediate success with the Italians, and became a national specialty.

Italian pasta has always been popular in the United States, England and France, but in recent years, more and more people around the world are enjoying it with different sauces and flavorings.

The Japanese, Russians and East Europeans have become enthusiastic pasta eaters. And even the Italians themselves seem to be eating more than ever.

 

พาสต้าเป็นชื่อเรียกก๋วยเตี๋ยวที่ทํามาจากแป้งของชาวอิตาเลียน มะกะโรนีและสปาเก็ตตี้ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวอีก อย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก แต่มะกะโรนีและสปาเก็ตตี้ (others) ที่มีรูปทรงที่หลากหลาย

นักเดินทางชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ มาร์โค โปโล อาจจะเป็นผู้นําก๋วยเตี๋ยวที่ทําจากแป้งนี้มา จากประเทศจีนเมื่อประมาณ 600 ปีมาแล้ว และในทันทีที่มาถึงชาวอิตาเลียนต่างก็นิยมชมชอบ ก๋วยเตี๋ยวที่ทําจาก แป้งจนกลายเป็นอาหารพิเศษประจําชาติไปเลย

พาสต้าของอิตาลีเป็นที่นิยมเสมอมาโดยตลอดในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส แต่ในช่วง ไม่กี่ปีมานี้ ผู้คนทั่วโลกจํานวนมากชื่นชอบกับการกินพาสต้ากับน้ําซอสปรุงรสและเครื่องปรุงรสที่แตกต่างกันมาก ขึ้น ๆ ทั่วโลก

ชาวญี่ปุ่น รัสเซีย และยุโรปตะวันออก กลายเป็นผู้บริโภคที่ชอบกินพาสต้ามาก และแม้แต่ชาวอิตาลีเองก็ ดูเหมือนว่าจะกินพาสต้ามากขึ้นกว่าในอดีต

 

27 What does this passage mainly mention about?

1 Pasta lovers

2 A famous Italian traveler

3 Italian noodles

4 History of pasta

ถาม เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงอะไรเป็นสําคัญ

1 คนรักพาสต้า

2 นักเดินทางชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง

3 ก๋วยเตี๋ยวอิตาลี

4 ประวัติของพาสต้า

ตอบ 4 เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงประวัติของพาสต้า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ทําจากอะไร

28 According to the passage, what is the most popular kind of Italian noodles?

1 Pasta

2 Macaroni

3 Spaghetti

4 Macaroni and spaghetti

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวอิตาลีประเภทที่นิยมมากที่สุดคือประเภทไหน

1 พาสต้า 2 มักกะโรนี 3 สปาเก็ตตี้ 4 มักกะโรนีและสปาเก็ตตี้

ตอบ 1 จากเนื้อเรื่องนี้ เน้นคําว่า pasta พาสต้า

29 According to the passage, which statement is NOT true about Marco Polo?

1 Thanks to him, pasta is famous in Italy.

2 He was born in China about 600 years ago.

3 He introduced Italians to noodles.

4 He is a well-known person…

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ มาร์โก โปโล

1 ต้องขอบคุณเขาที่ทําให้พาสต้ามีชื่อเสียงในอิตาลี

2 เขาเกิดที่ประเทศจีนเมื่อประมาณ 600 ปีที่แล้ว

3 เขาแนะนําชาวอิตาเลียนให้รู้จักก๋วยเตี๋ยว

4 เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง

ตอบ 1 เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดที่ประเทศจีน แต่เป็นคนนําก๋วยเตี๋ยวมาจากประเทศจีน

30 According to the passage, which countries have known pasta for a long time?

1 United Kingdom and Eastern Europe.

2 Russia and England

3 Italy and Japan

4 France and America

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ประเทศไหนที่รู้จักพาสต้ามานานแล้ว

1 สหราชอาณาจักรและยุโรปตะวันออก

2 รัสเซียและอังกฤษ

3 อิตาลีและญี่ปุ่น

4 ฝรั่งเศสและอเมริกา

ตอบ 4 พาสต้าเป็นที่แพร่หลายเสมอในประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส

31 The word “others” (in bold type) refers to ____.

1 macaroni and spaghetti

2 kinds of pasta

3 best-known kinds

4 noodle flour

ถาม คําว่า “others” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

1 มักกะโรนีและสปาเก็ตตี้

2 พาสต้าประเภทต่าง ๆ

3 ประเภทที่รู้จักกันดี

4 แป้งก๋วยเตี๋ยว

ตอบ 1 สรรพนามอ้างอิง (Pronoun References) จะเชื่อมโยงไปยังคํานามโดยอาศัยตัวส่งผ่าน(transitional words) เช่น and, or, but…..หรือคําอื่น ๆ ในข้อนี้มีข้อสังเกตของตัวเชื่อม หรือคําส่งผ่านคือ “but” ทําให้เรารู้ว่า สรรพนาม others เชื่อมไปยังประโยคท่อนแรก “Macaroni and spaghetti..” ดังนั้น others อ้างอิงถึง มะกะโรนีและสปาเก็ตตี้

32 The word “they” (in bold type) refers to ____.

1 Italians

2 Marco Polo

3 Chinese noodles

4 the United States

ถาม คําว่า “they” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

1 ชาวอิตาเลียน 2 มาร์โก โปโล 3 ก๋วยเตี๋ยวจากจีน 4 สหรัฐอเมริกา

ตอบ 3 อ้างอิงถึง ก๋วยเตี๋ยวที่มาจากจีน

33 Which can best replace the word “specialty” (in bold type)?

1 a well-known product

2 instance

3 an unusual place

4 success

ถาม คําไหนที่สามารถแทนที่คํา “specialty” ได้ดีที่สุด (ในตัวพิมพ์หนา)

1 ผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดี 2 ตัวอย่าง 3 สถานที่ไม่ธรรมดา 4 ประสบความสําเร็จ

ตอบ specialty ในที่นี้คือ ความนิยมชมชอบจนกลายมาเป็นอัตลักษณ์หรือเรียกว่า ความพิเศษ

เฉพาะตัว ดังตัวเลือกที่ใกล้เคียงที่สุด คือ ตัวเลือกที่ 1 ผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดี

 

Passage 3 (Items 34-40) 

At one time, people thought that the figures appearing in dreams were messengers from the gods. it was generally believed that dreams came from something outside the dreamer and could be understood only by persons with special skills.

Today it is believed that dreams are created by the dreamer himself. And because dreams are something a person creates; they may have special meaning for the person who dreams them.

Just why you have a particular dream when you do may depend on many things. Your health may affect your dreams. A person who is ill or uncomfortable will have different kinds of dreams than a person who is well and happy. . If a person is hungry or cold, or very tired, his dreams may include this feeling, so that many dreams seem to be made up of disguised feelings. Also, the events of the day before may have a lot to do with what you dream.

Often the persons or situations in a dream are those that you met during the day, Or your emotions may make you have the kind of dream you have. Needing or waiting something may be expressed in a dream, and being frightened may become part of a dream.

ในอดีตนั้นผู้คนคิดว่า ภาพที่ปรากฏขึ้นในความฝัน คือ ผู้นําสารมาจากพระเจ้า ดังนั้นจึงเกิดความเชื่อที่ว่า ความฝันคือสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากตัวผู้ฝันที่จะเข้าถึงได้ และต้องให้ผู้ที่มีทักษะพิเศษเท่านั้นจึงจะเข้าใจความฝันได้

ปัจจุบันความเชื่อ ได้เปลี่ยนไป เชื่อกันว่า ความฝันคือสิ่งที่ผู้ฝันสร้างขึ้นเองและเมื่อความฝันเป็นสิ่งที่คน สร้างขึ้น ดังนั้น ความฝัน (they) อาจจะมีความหมายเฉพาะเจาะจงต่อคนที่ฝันเท่านั้น

เหตุผลทําไมคุณจึงมีความฝันบางอย่างเฉพาะขึ้นมาเมื่อคุณฝันอาจจะขึ้นอยู่กับหลาย ๆ สิ่ง สุขภาพของคุณ อาจจะมีผลต่อความฝันของคุณ คนที่ป่วยหรือรู้สึกไม่สบายใจจะมีความฝันที่แตกต่างกันไปมากกว่าคนที่สบายดี และมีความสุข

ถ้าบุคคลนั้นรู้สึกหิวหรือรู้สึกหนาว, หรือรู้สึกเหนื่อยมาก, ความฝันของเขาอาจจะรวมถึงความรู้สึกนี้ ดังนั้น ความฝันจํานวนมากดูเหมือนจะประกอบไปด้วยความรู้สึกที่น่าขยะแขยงต่าง ๆ เช่นกัน เหตุการณ์ต่าง ๆ ของวัน ก่อน ๆ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณฝันด้วย

บ่อยครั้งผู้คนหรือสถานการณ์ที่อยู่ในความฝันคือสิ่งที่คุณได้พบในระหว่างวัน หรืออารมณ์ของคุณอาจจะทําให้คุณมีความฝันแบบนั้น ความต้องการหรือการรอคอยอาจจะถูกแสดงออกในความฝันและรู้สึกตื่นตกใจอาจจะกลายมาเป็นส่วนของความฝัน

34 Which of these topics is mainly discussed in the passage?

1 How dreams are created

2 What people think about dreams

3 Dream and its meaning

4 The relationship between health and dreams

ถาม ในบทความนี้ ข้อใดคือหัวเรื่อง (topics) ที่ถูกอธิบายเป็นประเด็นหลัก?

1 ความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร

2 สิ่งที่ผู้คนคิดเกี่ยวกับความฝัน

3 ความฝันและความหมายของมัน

4 ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพและความฝัน

ตอบ 2 เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึง สิ่งที่ผู้คนคิดเกี่ยวกับความฝัน

35 According to the passage, which statement is true about what people in the past

believed?

1 Anyone could interpret people’s dreams.

2 Dreams were messengers from gods, and they were created by their dreamers.

3 Dreams were created by their dreamers.

4 Dreams were messages from gods.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนเชื่อในอดีต

1 ใคร ๆ ก็ตีความฝันของคนได้

2 ความฝันเป็นผู้ส่งสารจากเหล่าทวยเทพ และความฝันถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ฝันเอง

3 ความฝันถูกสร้างขึ้นโดยผู้ฝันเอง

4 ความฝันเป็นข่าวสารจากเหล่าทวยเทพ

ตอบ 4 จากประโยคแรกเลย ว่าในอดีตเชื่อว่ามาจากเหล่าทวยเทพและมาจากสิ่งที่อยู่นอกตัวผู้ฝัน

ถ้าว่าความฝันถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ฝันเอง เป็นความเชื่อในปัจจุบัน

36  According to the passage, what are dreams made up of?

1 what we want

2 people we met

3 emotions

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ความฝันประกอบด้วยอะไร

1 สิ่งที่เราต้องการ 2 ผู้คนที่เราเจอ 3 อารมณ์ 4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ถูกทุกข้อ ความฝันประกอบกันขึ้นมาจากผู้ฝัน ความต้องการ การรอคอย คนที่เราไปเจอมา หรือ

อารมณ์ความรู้สึก และรวมถึงสุขภาพด้วย

37  Which statement is NOT true about dreams?

1 Dreams are the way to express our desire.

2 Everyone has similar kinds of dreams no matter how healthy they are.

3 A dream comes from its dreamer.

4 What we did in real life may be part of our dream.

ถาม ข้อความไหนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความฝัน

1 ความฝันเป็นวิธีที่แสดงออกถึงความต้องการของเรา

2 ทุกคนมีความฝันที่คล้ายคลึงกันไม่ว่าจะสุขภาพดีแค่ไหนก็ตาม

3 ความฝันมาจากผู้ฝัน

4 สิ่งที่เราทําในชีวิตจริงอาจเป็นส่วนหนึ่งของความฝันของเรา

ตอบ 2 ไม่ถูกต้องคือ 2 ว่ามีความคล้ายกัน เพราะผู้มีความฝันแตกต่างกัน

38 The word “affect” (in bold type) means ____.

1 to destroy.

2 to activate

3 to influence.

4 to support

ถาม คําว่า “affect” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึง

1 ทําลาย 2 กระตุ้น 3 มีอิทธิพล 4 ส่งเสริม สนับสนุน

ตอบ 3 affect = influence = มีผลต่อ มีอิทธิพล

39 The word “disguised” (in bold type) means or is related to ____.

1 tired

2 scared

3 sadder

4 hidden

ถาม คําว่า “disguised” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึงหรือสัมพันธ์กับ

1 เหน็ดเหนื่อย 2 น่ากลัว 3 ที่โศกเศร้า 4 ที่ซ่อนอยู่

ตอบ 4 disguised = hidden = แอบแฝง ซุกซ่อน

40 The word “those” (in bold type) refers to ____.

1 situations

2 dreams

3 people

4 situations and people

ถาม คําว่า “those” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง _____.

1 สถานการณ์ 2 ความฝัน 3 ผู้คน 4 สถานการณ์และผู้คน

ตอบ 4 จากย่อหน้าสุดท้ายว่า the persons or situations in a dream are those ฉะนั้น those

อ้างอิงถึง the persons or situations ตรงกับตัวเลือกที่ 4

 

Passage 4

Now comes the most terrific harm a television can do to children. The arrival of TV in a house marks the decline of family life. “Vanishing is the feeling of wholeness among members of a family. The more time they spend watching television means less time they spend in talking with each other. They do not have a chance to tell what they have done during the day.” said Professor Payom.

If the human relationship of family life which is the fundamental institution of society is destroyed, it is hard therefore to expect warm relationships or co-operation in higher and more complicated stratum of society. :

For the time being, programs intended for young viewers are normally shown between 5 -6.30 p.m. on weekdays. It is true that some are really good. However, “The timing is a hindrance itself.” said Prasai “At that time, most or all children are still stuck in traffic jams or are too tired from their day at school.”

Another program seemingly intended for children is the traditional drama series aired in the evening.

“I agree with the attempt to introduce such folklore or legends to audiences, but what about choosing more appropriate stories and refining them? Existing ones are so tawdry and valueless in every aspect,” complained Prasai, who also suggested that literature and classical dance are long absent from the screen.

ในปัจจุบันอันตรายที่ร้ายแรงมากที่สุดที่โทรทัศน์นี้นํามาสู่เด็ก ๆ การมีโทรทัศน์อยู่ในบ้านเป็น สิ่งบ่งบอกให้เห็นถึงการเลื่อมลงของชีวิตครอบครัว ศาสตราจารย์พะยอมกล่าวว่า “ความรู้สึกห่างเหินจะเกิดกับบรรดาสมาชิกในครอบครัว ยิ่งพวกเขาใช้เวลาดูโทรทัศน์มากขึ้นเท่าใด ก็หมายความว่าพวกเขาจะใช้เวลาพูดคุยกัน น้อยลงเท่านั้น พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้เล่าสิ่งที่พวกเขาได้ทํามาในระหว่างวันนั้น ๆ ”

ถ้าความสัมพันธ์ของชีวิตครอบครัวของมนุษย์ ซึ่งเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคมถูกทําลายไป ดังนั้น มันถึง ยากที่จะคาดหวังถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นหรือความร่วมมือในระดับที่สูงขึ้นและในลําดับชั้นของสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้น

สําหรับเรื่องของเวลา รายการที่ตั้งใจสําหรับผู้ชมที่เป็นเด็กหนุ่มสาวดู โดยปกติแล้วมักจะออกอากาศ ระหว่างเวลา 17.00 – 18.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เป็นความจริงที่ว่าบางรายการดีจริงๆ แต่กระนั้นก็ตาม “เวลาก็เป็นอุปสรรคโดยตัวของมันเอง” คุณปราศรัยกล่าว “ในช่วงเวลานั้น เด็กส่วนใหญ่หรือทั้งหมดยังคงติดอยู่ บนท้องถนน เนื่องจากสภาพการจราจรที่ติดขัดหรือเหน็ดเหนื่อยจากการเรียนมาตลอดทั้งวันจากโรงเรียน”

รายการอีกรายการหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะตั้งใจสําหรับเด็ก ๆ คือ ละครที่เล่นเป็นตอน ๆ ซึ่งออกอากาศใน ตอนเย็น

คุณปราศรัย กล่าวว่า “ผมเห็นด้วยกับความพยายามที่จะแนะนําละครพื้นฐานหรือตํานานในลักษณะเช่นนั้น ให้กับผู้ชมดู แต่ควรเลือกละครที่เหมาะสมมากกว่านี้ และขัดเกลามันเสียใหม่จะดีไหม หลายเรื่องที่มีอยู่ในขณะนี้ จะเป็นแบบเรียบ ๆ พื้น ๆ เกินไป และไม่มีคุณค่าเลยในทุก ๆ ด้าน” และแนะนําอีกว่าวรรณกรรมและการรําไทยได้ ห่างหายไปจากจอโทรทัศน์มานานแล้ว

 

41 According to the passage, how does TV harm family life?

1 Due to TV, children spend more time arguing with their parents.

2 Adults cannot catch up with their younger members because of TV.

3 Tv makes the numbers of family members decline, and children spend more time arguing with their parents due to it.

4 It makes the numbers of family members decline.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ทีวีเป็นอันตรายต่อชีวิตครอบครัวอย่างไร

1 เนื่องจากทีวี เด็ก ๆ สามารถใช้เวลาโต้เถียงกับพ่อแม่มากขึ้น

2 ผู้ใหญ่ไม่สามารถติดต่อกับสมาชิกที่มีอายุน้อยกว่าได้เนื่องจากทีวี

3 ทีวีทําให้จํานวนสมาชิกครอบครัวลดลง และเด็ก ๆ ใช้เวลาโต้เถียงกับพ่อแม่มากขึ้นด้วยเหตุนี้

4 ทําให้จํานวนสมาชิกในครอบครัวลดลง

ตอบ 2 การนําทีวีเข้ามาทําให้ความผูกพันระหว่างสมาชิกในครอบครัวลดลง ทําให้ปฏิสัมพันธ์หรือการ

ติดต่อลดลง

42 According to the passage, why does relationships of a family affect the society?

1 Family is the root of the society.

2 Complicated family plays an important role in co-operation.

3 Warm relationships in a family result from the society.

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ทําไมความสัมพันธ์ของครอบครัวจึงมีผลต่อสังคม

1 ครอบครัวคือรากฐานของสังคม

2 ครอบครัวที่ซับซ้อนมีบทบาทสําคัญในความร่วมมือ

3 ความสัมพันธ์อันอบอุ่นเป็นผลมาจากสังคม

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ถูกทุกข้อ ล้วนมีผลต่อสังคม

43 According to the passage, when can we watch programs for young viewers?

1 5.00p.m. on Sundays

2 7.00 p.m. on Tuesdays

3 6.30 p.m. on Saturdays

4 6.00 p.m. on Mondays

ถาม ตามเนื้อเรื่อง เราสามารถชมรายการสําหรับผู้ชมวัยรุ่นเมื่อไร

1 5 โมงเย็นวันอาทิตย์

2 1 ทุ่มตรงวันอังคาร

3 6 โมงเย็นวันเสาร์

4 6 โมงเย็นวันจันทร์

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าที่ 3 ช่วงเวลาที่รายการดึงดูดผู้ชมวัยรุ่นคือ ช่วง 5 – 6 โมงเย็นวันจันทร์-ศุกร์

ดังนั้น ตัวเลือกที่ 4 จึงถูกที่สุด

44 According to the passage, which statement is true about Mr. Prasai?

1 He believed that traffic jam made students tired.

2 He pointed out that literature has not been seen on TV for a while.

3 He thought that all folklores should be introduced to audiences.

4 He complained that classical dance is too long.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนถูกต้องเกี่ยวกับคุณปราศรัย

1 เขาเชื่อว่าการจราจรติดขัดทําให้นักเรียนรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

2 เขาชี้ให้เห็นว่ารายการวรรณกรรมไม่ได้นํามาแสดงในทีวีเป็นเวลาช่วงหนึ่งแล้ว

3 เขาคิดว่านิทานพื้นบ้านทั้งหมดควรนําเสนอให้กับผู้ชม

4 เขาบ่นว่ารายการนาฏศิลป์ยาวเกินไป

ตอบ 3 จากย่อหน้าสุดท้ายคุณปราศรัยกล่าวควรนําเสนอนิทานพื้นบ้านหรือตํานาน

45 According to the passage, it could be implied that the management of TV programs

for children is _____.

1 effective

2 valuable

3 traditional

4 problematic

ถาม ตามเนื้อเรื่อง พอจะสรุปความได้ว่า การจัดการรายการทีวีสําหรับเด็กๆ เป็น _____.

1 มีประสิทธิภาพ 2 มีคุณค่า 3 เป็นตามธรรมเนียม 4 เป็นปัญหา

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าสุดท้าย ตามความเห็นของคุณปราศรัย เห็นว่ารายการทีวีที่เป็นอยู่เป็นสิ่งที่ไม่

มีค่า (valueless) และควรจะต้องปรับปรุง ดังนั้นสรุปความหรือความหมายทางนัย (implied)

คือข้อ 4 มีปัญหา

46 The word “terrific” (in bold type) is equivalent in meaning to _____.

1 frightening

2 exciting

3 very good

4 very bad

ถาม คําว่า “terrific” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายเหมือนกับ _____.

1 น่ากลัว 2 น่าตื่นเต้น 3 ดีมาก 4 แย่มาก

ตอบ 4 terrific = frightening = น่าหวาดกลัว

47 The word “hindrance” (in bold type) is equivalent in meaning to ____.

1 tiredness

2 strength

3 intention

4 obstacle

ถาม คําว่า “hindrance” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายเหมือนกับ

1 ความเหน็ดเหนื่อย 2 ความแข็งแรง 3 ความตั้งใจ 4 อุปสรรค

ตอบ 4 “hindrance” = obstacle = อุปสรรค

48 The word “tawdry” (in bold type) is equivalent in meaning to ____.

1 absent

2 elegant

3 cheap

4 boring

ถาม คําว่า “tawdry” (ในตัวพิมพ์หนา) มีความหมายเหมือนกับ ____.

1 ขาด ไม่มี 2 หรูหรา 3 ราคาถูก 4 น่าเบื่อ

ตอบ 4 tawdry = พื้น ๆ เรียบ ๆ = boring = น่าเบื่อ

49 The pronoun “they” (in bold type) refers to ____.

1 family members

2 feelings

3 Professor Payom

4 TV programs

ถาม คําสรรพนาม “they” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

1 สมาชิกครอบครัว 2 ความรู้สึก 3 ศาสตราจารย์พะยอม 4 รายการทีวี

ตอบ 1 “they” อ้างอิงถึงสมาชิกครอบครัว

50 The pronoun “ones” (in bold type) refers to _____.

1 legends

2 folklore

3 stories

4 All are correct

ถาม คําสรรพนาม “ones” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

1 ตํานาน 2 นิทานพื้นบ้าน 3 เรื่องราว 4 ถูกหมด

ตอบ 4 ถูกหมด ones อ้างอิงถึง ตํานาน นิทานพื้นบ้านหรือเรื่องราว

 

Part 3  Unseen Passages (เนื้อหานอกตํารา)

 

Passage 1 (Items 51-60)

Dogs seem almost biologically incapable of hiding their inner moods-shuffling, snuffling, tail-wagging clues to contentment, nervousness or sheer, unadorned joy. . Despite what the famous painting might want to tell you, dogs would be terrible poker ” players. We pick up their cues all too easily.

Cats also have sophisticated body language – their moods are signaled through twitching tails, ruffled fur, and the position of ears and whiskers. A purr usually (but not always) signals friendliness or contentment. They’re a usually reliable method of working out if the cat is in friendly mode or best left alone.

While we can reasonably be sure of a dog’s bond with us, despite the thousands of years domesticated cats have kept us company, they still suffer something of a bad PR image. The independence that many see as a bonus is really by others as aloofness or selfishness. Their detractors claim they only really show affection when a food bowl is

empty.

ดูเหมือนว่าสุนัขแทบจะไม่สามารถซ่อนอารมณ์ภายในทางด้านชีววิทยาของมันได้ เช่น การสับเปลี่ยน การ สูดจมูก การกระดิกหางเพื่อความพึงพอใจ ความกังวลใจหรือการหลบหลีก หรือความสุขที่แท้จริง ถึงแม้ว่าภาพวาดที่มีชื่อเสียงต้องการบอกคุณ แต่สุนัขจะเป็นผู้เล่นที่เป็นผู้แหย่ที่น่ากลัว พวกเราจับสิ่งที่เป็นนัยทั้งหมดของพวกมัน ได้อย่างง่าย

แมวเช่นกันมีภาษากายที่ซับซ้อน – อารมณ์ของพวกมันส่งสัญญาณผ่านการกระตุกหาง ขนจะฟูไม่เรียบ และ ตําแหน่งของหูและหนวด เสียงฟี่ของแมวมักจะ (แต่ไม่เสมอไป) บ่งบอกถึงความเป็นมิตรหรือความพึงพอใจ พวก มันโดยปกติมีวิธีเตรียมการที่เชื่อถือได้ถ้าหากแมวอยู่ในโหมดเป็นมิตรหรือปล่อยให้มันอยู่ตามลําพังดีที่สุด

แม้ว่าเราจะสามารถมั่นใจได้อย่างสมเหตุสมผลว่าสุนัขมีความผูกพันกับเรา แม้ว่าแมวบ้านนับพันปีจะคอย เป็นเพื่อนกับเรา แต่พวกมันก็ยังประสบกับภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในการประชาสัมพันธ์ ความเป็นอิสระที่หลายคนมอง ว่าเป็นโบนัสนั้นแท้จริงแล้วเป็นความโดดเดี่ยวหรือความเห็นแก่ตัว นักวิจารณ์อ้างว่าพวกเขาแสดงสนิทสนม เมื่อชามอาหารว่างเปล่าเท่านั้น

51 According to the passage, dogs express how they feel by using their _____.

1 noses

2 legs

3 tails

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อเรื่อง สุนัขแสควงออกถึงความรู้สึกด้วยการใช้ _____ ของพวกมัน.

1 จมูก

2 ขา

3 หาง

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 สุนัขแสดงออกความรู้สึกด้วยการใช้จมูก ขา หาง จึงตอบถูกทุกข้อ

52 If you hear a purr from your cat, it often means _____.

1 you are not permitted to be around it

2 you are anxious

3 you are not trustable

4 you are allowed to be with it

ถาม ถ้าคุณได้ยินเสียงฟี่จากแมวของคุณ มันมักจะหมายถึง

1 คุณไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่รอบ ๆ มัน 2 คุณรู้สึกกระวนกระวายใจ 3 คุณ ไม่สามารถไว้ใจได้ 4 คุณได้รับอนุญาตให้อยู่กับมัน

ตอบ 4 เสียงฟี่ของแมว แสดงถึงความเป็นมิตรและความพึงพอใจ ที่ให้เราอยู่กับมัน

53 According to the passage, when cats express their feelings, their fur might looks

1 flat

2 not smooth

3 not curly

4 straight

ถาม ตามเนื้อเรื่อง เมื่อแมวแสดงถึงความรู้สึกของพวกมัน ขนของมันอาจจะดู

1 แบนราบ 2 ไม่เรียบ 3 ไม่หยิก 4 ตรง

ตอบ 1 ขนของมันจะฟูขรุขระ ไม่เรียบ

54 According to the passage, what is true about cats?

1 Some people believe that they only think of themselves.

2 They have been with humans longer than dogs.

3 Everyone thinks that they are not friendly.

4 All are correct.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อไหนถูกต้องเกี่ยวกับแมว

1 บางคนเชื่อว่าพวกมันคิดถึงแต่พวกมันเท่านั้น

2 มันอยู่กับมนุษย์นานกว่าสุนัข

3 ทุกคนคิดว่าพวกมันไม่เป็นมิตร

4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 แมวอยู่กับมนุษย์มานานมากกว่าสุนัข

55 Some people believe that cats will be with their owners only when they are ____.

1 happy

2 reliable

3 hungry

  1. lonely

ถาม บางคนเชื่อว่าแมวจะอยู่กับเจ้าของเท่านั้นเมื่อพวกมัน ____.

1 มีความสุข 2 เชื่อถือได้ 3 หิว  4 โดดเดี่ยว

ตอบ 3 จากบทความในย่อหน้าสุดท้าย บรรทัดสุดท้ายอธิบายว่า “นักวิจารณ์ด้านแมวอ้างว่า พวกแมว

จะแสดงความสนิทสนม (affection) เมื่อชาวมข้าวว่างเปล่า” แสดงว่า พวกมันรู้สึกหิว

(hungry)

56 The word “they” (in bold type) refers to _____.

1 cats

2 dogs

3 detractors

4 humans

ถาม คําว่า “they” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

1 แมว 2 สุนัข 3 ผู้ว่า 4 มนุษย์

ตอบ 1 คําว่า “they” อ้างอิงถึงคําว่า “แมว”

57 The word “contentment” (in bold type) can be replaced by ____.

1 satisfaction

2 curiosity

3 anxiety

4 sophisticated

ถาม คําว่า “contentment” ในตัวพิมพ์หนา สามารถแทนที่ด้วย ____.

1 ความพึงพอใจ 2 ความอยากรู้อยากเห็น 3 ความวิตกกังวล 4 ความซับซ้อน

ตอบ 1 contentment = satisfaction = ความพึงพอใจ

58 The phase “terrible poker players” (in bold type) means being _____.

1 not good at playing games

2 good liars

3 weak in hiding feelings

4 nervous to make decisions

ถาม วลีว่า “terrible poker players” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึง การเป็น ____.

1 ไม่เก่งการเล่นเกม

2 คนโกหกที่ดี

3 อ่อนแอในการซ่อนความรู้สึกต่าง ๆ

4 กระวนกระวายในการตัดสินใจ

ตอบ 1 การเป็นผู้เล่นที่ไม่ดี หรือแหย่ ๆ ไม่กล้าเล่น

59 The word “aloofness” (in bold type) can be replaced by _____.

1 signal

2 distance

3 capability

4 dependence

ถาม คําว่า “aloofness” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 สัญญาณ 2 ระยะห่าง 3 ความสามารถ 4 การพึ่งพา

 

ตอบ 2 จากบริบท (context clues) หรือข้อความแวดล้อมที่ใช้เดาความหมายของคําศัพท์ “…or

selfishness” = “…หรือเห็นแก่ตัว” แสดงว่าคําศัพท์คําว่า aloofness ต้องมีความหมายในทาง ลบ (ความหมายไม่ดี) ซึ่งตรงกับคําว่า distance = ระยะห่าง อยู่ห่าง ซอบโดดเดี่ยว ส่วนคําอื่น ไม่มีความหมายเชิงลบเลย

60 The word “detractors” (in bold type) means someone who ____.

1 is not fond of something

2 is selfish

3 judges fairly

4 criticizes something

ถาม คําว่า “detractors” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึงคนที่ ____.

1 ไม่ชอบกับบางสิ่งบางอย่าง 2 เห็นแก่ตัว 3 ตัดสินอย่างเป็นกลาง 4 วิพากษ์วิจารณ์บางสิ่ง

ตอบ 4 คนที่วิจารณ์หรือกล่าวร้ายบางสิ่ง

 

Passage 2 (Item 61 – 69)

Take a passing glance at Dubai, and you may think life is back to normal. In recent weeks, the bustling city has been a sparkling attraction for tourists, especially from Europe, trying to escape the brutal winter and strict coronavirus lockdowns.

But as tens of thousands of visitors flocked there during its peak year end season, the virus inevitably caught up with the city despite precautions aimed at limiting its spread. Cases began to rise, nearly quadrupling since November.

Even as Covid-19 gained a stronger foothold, the images out of Dubai – particularly from the Instagram feeds of influences or celebrities – painted an image of a wide-open winter sun paradise.

For those back home in countries such as the UK, where most people are being told they cannot travel abroad because of the risk to health, these pictures caused consternation, drawing criticism of the risk to health, these pictures caused consternation, drawing criticism of those enjoying themselves.

For Danish tourist Emma Mathilde, who has frequently visited Dubai over the past few months, the backlash wasn’t surprising.

 

“In Europe, everyone is locked at home, it’s cold and it’s gray,” she says. “Dubai is the only place you can travel to, so everyone is going there. It’s sunny, you can go out to eat, and that’s why people get furious over why they have to stay home when other people are enjoying their lives.”

 

แวบเดียวที่ดูไบ คุณอาจคิดว่าชีวิตกลับมาเป็นปกติแล้ว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองที่คึกคักแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ส่องประกายระยิบระยับสําหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยุโรป ที่พยายามหลบหนีจากฤดูหนาวที่โหดร้ายและการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของไวรัสโคโรน่า

แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนแห่กันไปที่นั่นในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วง ปลายปี ไวรัสจึงตามทันเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะมีมาตรการป้องกันที่มุ่งจํากัดการแพร่กระจายของโรคก็ตาม เคสเริ่มเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

แม้ว่า โควิด-19 จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ภาพถ่ายจากดูไบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฟีดที่มีอิทธิพลหรือคนดังใน อินสตาแกรม วาดภาพของสวรรค์ควงอาทิตย์ฤดูหนาวที่เปิดกว้างสําหรับผู้ที่กลับบ้านเกิดในประเทศต่าง ๆ เช่น

สหราชอาณาจักร ที่คนส่วนใหญ่ถูกบอกว่าไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้เพราะเสี่ยงต่อสุขภาพ ภาพเหล่านี้ สร้างความตกตะลึง วิจารณ์ถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพ ภาพเหล่านี้สร้างความตกตะลึง ชวนวิพากษ์วิจารณ์ถึงผู้คนที่สนุกกับตัวเอง

สําหรับ Emma Mathide นักท่องเที่ยวชาวเดนมาร์ก ซึ่งเคยไปดูไบบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การสะท้อนกลับนั้นไม่น่าแปลกใจเลย

“ในยุโรป ทุกคนถูกขังอยู่ที่บ้าน อากาศหนาวและเป็นสีเทา” เธอกล่าว “ดูไบเป็นสถานที่แห่งเดียวที่คุณ สามารถเดินทางไปได้ ทุกคนต่างก็ไปที่นั่น แดดจัด คุณสามารถออกไปทานอาหารได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไม ผู้คนถึงโกรธเคืองว่าทําไมพวกเขาถึงต้องอยู่บ้าน ในขณะที่คนอื่นมีความสุขกับชีวิตของพวกเขา”

61 What does this passage mainly mention?

1 Celebrities in Dubai.

2 COVID-19 situation in Europe

3 Tourism in Dubai during pandemic

4 Rise of Coronavirus

ถาม เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงอะไรเป็นสําคัญ

1 คนดังในดูไบ

2 สถานการณ์โควิค-19 ในยุโรป

3 เที่ยวดูไบช่วงโรคระบาด

4 การเพิ่มขึ้นของไวรัสโคโรน่า

ตอบ 3 เนื้อเรื่องกล่าวถึงการท่องเที่ยวในดูไบ ช่วงโรคระบาด

62 According to the passage, people from __ came to Dubai because of cold weather?

1 Denmark

2 Russia

3 the United States

4 Russia and Denmark

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้คนจาก _____ มาที่ดูไบเพราะอากาศหนาว

1 เดนมาร์ก 2 รัสเซีย 3 สหรัฐอเมริกา 4 รัสเซียและเดนมาร์ก

ตอบ 1 จากเนื้อเรื่องกล่าวว่าผู้คนจากยุโรปมาดูไบในช่วงฤดูหนาว ฉะนั้นประเทศในทวีปยุโรปมี 27

ประเทศ (ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน สวีเดน สหราชอาณาจักร ไซปรัส เช็ก เอสโตเนีย ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลตา โปแลนด์ สโลวีเนีย สโลวะเกีย โรมาเนียและบัลแกเรีย)

63 According to the passage, why did Coronavirus cases begin to rise again?

1 There were a lot of tourists.

2 The virus become stronger.

3 Influencers spread the virus.

4 People didn’t follow the precautions.

ถาม จากเนื้อเรื่อง ทําไมเคสไวรัสโคโรน่าเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีก

1 มีนักท่องเที่ยวจํานวนมาก 2 ไวรัสแรงขึ้น 3 ผู้มีอิทธิพลแพร่กระจายไวรัส 4 ผู้คนไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวัง ตอบ 1 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจํานวนมาก

64 Which statement is NOT true about Emma Mathilde?

1 She understands the feeling of people in the UK.

2 She has stayed in Dubai for more than one month.

3 She’s been to Dubai before.

4 She’s from Denmark.

ถาม ข้อความไหนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ Emma Mathilde

1 เธอเข้าใจความรู้สึกของผู้คนในสหราชอาณาจักร

2 เธอพักอยู่ในดูไบเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

3 เธอเคยไปที่ดูไบมาก่อน

4 เธอมาจากเดนมาร์ก

ตอบ 1 ที่ไม่ถูกต้องคือตัวเลือกที่ 1 ว่าเข้าใจความรู้สึกผู้คนในสหราชอาณาจักร ไม่ได้กล่าวถึง

65 Which statement is NOT true about Europe?

1 It is winter during that time.

2 Its lockdown rules are still strict.

3 Although the weather is cold, it’s sunny.

4 European people don’t have any choices to travel but Dubai.

ถาม ข้อความไหนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับยุโรป

1 เป็นช่วงฤดูหนาวในช่วงเวลานั้น 2 กฎการล็อกคาวน์ยังคงเข้มงวด

3 ถึงแม้อากาศหนาวแต่ก็ยังมีแดดจัด 4 คนยุโรปไม่มีทางเลือกในการเดินทางนอกจากดูไบ

ตอบ 3 จากบทความในบรรทัดที่ 1 ของย่อหน้าสุดท้าย “Its cold and its gray” ที่ยุโรปอากาศหนาว

เย็น และฟ้าสลัวๆ แสดงว่า ที่ยุโรปไม่มีแสงแดด ข้อ 3 จึงเป็นข้อที่ไม่จริงเพราะกล่าวว่ามีแดด สว่าง (sunny)

66 The word “flocked” (in bold type) can be replaced by ____.

1 come together

2 move in

3 go along

4 fly away

ถาม คําว่า “flocked” ในตัวพิมพ์หนา สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 มาด้วยกัน 2 ย้ายเข้าไป 3 ไปด้วยกัน 4 บินออกไป

ตอบ 3 flocked = go along = รวมตัวกัน แห่กันไป

67 The word “consternation” (in bold type) is a feeling of _____.

1 anger

2 joy

3 envy

4 worry

ถาม คําว่า “consternation” ในตัวพิมพ์หนาคือความรู้สึกของ _____.

1 ความโกรธ 2 ความสนุกสนาน 3 ความอิจฉา หึง 4 ความกังวล

ตอบ 4 ความตกตะลึงในที่นี้หมายถึง ความวิตกกังวล เกี่ยวกับการแพร่กระจายโรคโควิด-19

68 The word “quadrupling” (in bold type) means to become _____ times bigger.

1 three

2 four

3 five

4 six

ถาม คําว่า “quadrupling” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึงกลายมาเป็นใหญ่ขึ้น ____ เท่า

ตอบ 2 เตาจาก quaน่าจะจาก quarter หนึ่งในสี่ แสดงว่าน่าจะหมายถึงใหญ่เป็น 4 เท่า

69 The phrase “these pictures” (in bold type) refers to pictures of ____.

1 celebrities

2 those enjoying themselves

3 influences

4 All are correct

ถาม วลีที่ว่า “these pictures” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึงภาพของ _____.

1 คนดัง 2 คนที่สนุกกับตัวเอง 3 อิทธิพล 4 ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ภาพเหล่านี้ อ้างอิงถึงภาพของผู้คนที่สนุกกับตัวเอง

 

Passage 3

Kimchi is a collective term for more than 100 types of fermented vegetables in Korea, but it most commonly refers to fermented napa cabbage with seasonings, including red  chili pepper, garlic, ginger and salted seafood.

Fermented vegetables made with ted vegetables made with different ingredients like chonggak kimchi (fermented radish kimchi) also fall under the kimchi umbrella

Pao cai, on the other hand, literally means “soaked vegetables” in Chinese. That’s because pickled vegetables are often made by soaking different types of greens, from cabbages to carrots, in a saline solution, with or without seasonings. The jars of vegetables are then fermented at room temperature.

Because they bear some similarities, kimchi is often referred to as “hanguo pao cai,” which means “Korean fermented vegetables,” in China.

 

กิมจิเป็นศัพท์เรียกรวมของผักหมักกว่า 100 ชนิดในประเทศเกาหลี แต่โดยทั่วไปหมายถึงกะหล่ำปลีหมัก พร้อมเครื่องปรุง เช่น พริกแดง กระเทียม ขิง และอาหารทะเลเค็ม

บรรดาผักหมักดองทั้งหลายที่ทําจากส่วนผสมต่าง ๆ เช่น ชองกักกิมจิ (กิมจิหัวไชเท้าหมัก) หรือกิมจิที่ลด เครื่องเทศลง อย่างเช่น แพค กิมจิ (กิมจิกะหล่ำปลีแบบไม่เผ็ด) นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ร่วง (fall) ก็จะมีผักหมักดอง กิมจิเต็มไปหมด

ในทางตรงกันข้าม เปาฉ่าย (Pao cai) หมายถึง “ผักแช่” ในภาษาจีน นั่นเป็นเพราะผักดองมักจะทําโดยการ แช่ผักประเภทต่างๆ ตั้งแต่กะหล่ำปลีไปจนถึงแครอท ในน้ำเกลือที่มีหรือไม่มีเครื่องปรุงก็ได้ จากนั้นนําผักมาหมัก ที่อุณหภูมิห้อง

เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกัน กิมจิจึงมักถูกเรียกว่า “hanguo pai cai” ซึ่งหมายถึง “ผักหมักของเกาหลี” ในประเทศจีน

70 Which of these topics is mainly discussed in the passage?

1 Kimchi in Korea and other countries

2 The difference between kimchi and pao cai

3 How to make fermented vegetables

4 The meaning of kimchi

ถาม เนื้อเรื่องนี้อธิบายถึงเรื่องอะไรเป็นสําคัญ

1 กิมจิในประเทศเกาหลีและประเทศอื่น ๆ 2 ความแตกต่างระหว่างกิมจิและเปาฉ่าย 3 วิธีการทําผักดอง

4 ความหมายของกิมจิ

ตอบ 2 เนื้อเรื่องกล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง กิมจิและเปาจ่าย

71 What kind of kimchi is spicy?

1 Chonggak kimchi

2 Baek kimchi

3 Neither of them is correct

4 All are correct

ถาม กิมจิประเภทไหนที่มีรสเผ็ด

ตอบ 3 ที่กล่าวมาไม่ได้กล่าวถึงว่าชนิดไหนที่มีรสเผ็ด

72 Which ingredient is NOT found in Kimchi?

1 Salted shrimp

2 Ginger

3 Chili

4 Garlic

ถาม ส่วนผสมไหนที่ไม่พบในกิมจิ

1 กุ้งเค็ม

2 ขิง

3 พริก

4 กระเทียม

ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 1- 3 มีคําว่า salted seafood แต่ไม่มี salted shrimp

73 Which statement is true about pao cai?

1 Vegetables can be fermented in the freezer.

2 It is a kind of kimchi.

3 It is created in China.

4 Seasonings are not always used

ถาม ข้อความไหนถูกต้องเกี่ยวกับเปาจ่าย

1 ผักสามารถหมักในช่องแช่แข็งได้ 2 เป็นกิมจิชนิดหนึ่ง 3 เกิดขึ้นในประเทศจีน

4 เครื่องปรุงมักจะไม่ได้ใช้

ตอบ 3 pao cai ของประเทศจีน ส่วน kimchi ของประเทศเกาหลี

74 The word “hanguo” (in bold type) possibly means ____.

1 China

2 fermented

3 Korean

4 soaked

ถาม คําว่า “hanguo” (ในตัวพิมพ์หนา) น่าจะหมายถึง ____.

1 ประเทศจีน

2 หมัก

3 เกาหลี

4 จุ่ม

ตอบ 3 จาก hanguo bao cai,” which means “Korean fermented vegetables,

ฉะนั้น hanguo น่าจะหมายถึง เกาหลี

75 The word “seasonings” (in bold type) can be replaced by ____.

1 vegetables

2 ingredients

3 spices

4 periods

ถาม คําว่า “seasonings” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 ผัก 2 ส่วนผสม 3 เครื่องเทศ 4 ช่วงเวลา

ตอบ 3 seasonings เครื่องปรุงรส ตรงกับคําว่า spices เครื่องเทศ ก็เป็นเครื่องปรุงรส

76 The word “umbrella” (in bold type) can be replaced by _____.

1 ferment.

2 degree

3 difference

4 category

ถาม คําว่า “umbrella” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 หมัก  2 ระดับ องศา 3 ความแตกต่าง 4 หมวด

ตอบ 1 จากบริบทแวดล้อมของบทความพูดถึง 1 ผักหมักกิมจิ และ 2 ฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้น umbrella ซึ่ง ปกติหมายถึง ร่ม น่าจะหมายถึง การหมักผักแบบเกาหลี

77 The word “greens” (in bold type) can be replaced by ____.

1 pickles

2 water

3 colors

4 vegetables

ถาม คําว่า “greens” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย ____.

1 ผักดอง 2 น้ำ 3 สี 4 ผักต่าง ๆ

ตอบ 4 สีเขียวในที่นี้คือ ผักต่าง ๆ

 

Passage 4

China’s ban on cryptocurrency mining has forced bitcoin entrepreneurs to flee overseas. Many are heading to Texas, which is quickly becoming the next global. cryptocurrency capital.

When China announced a crackdown on bitcoin mining and trading in May, Kevin Pan, CEO of Chinese cryptocurrency mining company Poolin, got on a flight the next day to leave the country.

“We decided to move out, once [and] for all. [We’ll never come back again,” Mr. Pan told the BBC.

Headquartered in Hong Kong, Poolin is the second largest bitcoin mining network in the world, with most of its operations in mainland China. The country was home to around 70% of global bitcoin mining power, until the clampdown sent the price of bitcoin into a tailspin and caught miners off guard.

Now China’s “bitcoin refugees” are urgently scrambling to find a new home, whether in neighboring Kazakhstan, Russia or North America, because for bitcoin miners, time is literally money.

“We had to find a new location for the bitcoin mining machines,” Poolin’s vice president Alejandro De La Torres said. “Because every minute that the machine is not on, it’s not making money.”

In what some call the “Great Mining Migration,” the Poolin executives are among the many bitcoin miners who have recently landed in a place reputed as part of America’s wild wild west: Austin, Texas.

การห้ามการขุด cryptocurrency (สินทรัพย์ดิจิตัลประเภทหนึ่งที่มีการเข้ารหัส) ของจีนทําให้ ผู้ประกอบการบิทคอยน์ต้องหนีไปต่างประเทศ หลายคนกําลังมุ่งหน้าไปยังเท็กซัส ซึ่งกําลังกายเป็นเมืองหลวงของ

สกุลเงินดิจิทัลระดับโลกแห่งต่อไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อจีนประกาศปราบปรามการขุดและซื้อขายบิทคอยน์ ในเดือนพฤษภาคม Kevin Pan ซีอีโอของ บริษัทขุด cryptocurrency ของจีน Poolin ขึ้นเครื่องบินในวันรุ่งขึ้นเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ

“เราตัดสินใจย้ายออกครั้งเดียว [และ] เพื่อทุกคน [เราจะ] ไม่กลับมาอีก” นายแพนบอกกับ บีบีซี

สํานักงานใหญ่ในฮ่องกง Poolin เป็นเครือข่ายการขุดบิทคอยน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยส่วน ใหญ่ดําเนินการในจีนแผ่นดินใหญ่ ประเทศนี้เป็นที่ตั้งของพลังการขุดบิทคอยน์ทั่วโลกประมาณ 70% จนกระทั่ง การปราบปรามทําให้ราคาของบิทคอยน์นั้นควบคุมไม่ได้และจับนักขุดโดยไม่ทันได้ระวังตัว

ตอนนี้ “ผู้ลี้ภัยบิทคอยน์” ของจีนกําลังเร่งรีบในการหาบ้านใหม่ ไม่ว่าในคาซัคสถาน ประเทศเพื่อนบ้าน รัสเซีย หรืออเมริกาเหนือ เพราะสําหรับผู้ขุดบิทคอยน์ เวลาคือ เงินอย่างแท้จริง

“เราต้องหาที่ตั้งใหม่สําหรับเครื่องจักร [การขุดบิทคอยน์]” Alejandro De La Torres รองประธาน ของ Poolin กล่าว “เพราะทุกนาทีที่ไม่ได้เปิดเครื่อง มันไม่ทําเงิน”

ในสิ่งที่บางคนเรียกว่า “Great Mining Migration” ผู้บริหารของ Poolin เป็นหนึ่งในนักขุดบิทคอยน์จํานวนมากที่เพิ่งลงจอดในสถานที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของป่าตะวันตกของอเมริกา เมืองออสติน รัฐเท็ก

ซัส

78 According to the passage, Poolin _____.

1 is the largest bitcoin mining company and has most of their employees in China

2 needs machines to operate

3 has most of their employees in China

4 is the largest bitcoin mining company

ถาม ตามเนื้อเรื่อง Poolin _____.

1 เป็นบริษัทขุดบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดและมีพนักงานส่วนใหญ่ในประเทศจีน

2 ต้องการเครื่องจักรในการดําเนินงาน

3 มีลูกจ้างส่วนใหญ่ในประเทศจีน

4 เป็นบริษัทขุดบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุด

ตอบ 3 สํานักงานใหญ่ในฮ่องกง Poolin เป็นเครือข่ายการขุดบิทคอยน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

โดยส่วนใหญ่ดําเนินการ ในจีนแผ่นดินใหญ่ แสดงว่าพนักงานลูกจ้างส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน

79 Where is the main office of Poolin?

1 Hong Kong

2 Texas

3 Kazakhstan

4 China

ถาม สํานักงานใหญ่ของ Poolin อยู่ที่ไหน

ตอบ 1 อยู่ในฮ่องกง

80 Alejandro De La Torres is ____.

1 Kevin Pan’s boss

2 one of Poolin’s executives

3 a vice-president and one of Poolin’s executives

4 a vice-president

ถาม Alejandro De La Torres เป็น ____.

1 เจ้านายของ Kevin Pan

2 หนึ่งในผู้บริหารของ Poolin

3 รองประธานและหนึ่งในผู้บริหารของ Poolin

4 รองประธาน

ตอบ 3 เป็นรองประธานและหนึ่งในผู้บริหารของ Poolin

81 Many cryptocurrency miners have decided to start their businesses again in ____.

1 Kazakhstan

2 Russia

3 Texas

4 All are correct

ถาม นักขุด cryptocurrency จํานวนมากได้ตัดสินใจเริ่มธุรกิจของพวกเขาอีกครั้งใน ____.

ตอบ 3 รัฐเท็กซัส

82 The word “the country” (in bold type) refers to ____.

1 China

2 Hong Kong

3 Russia

4 Kazakhstan

ถาม คําว่า “the country” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึง ____.

ตอบ 1 อ้างอิงถึง ประเทศจีน

83 The word “entrepreneurs” (in bold type) can be replaced by ____.

1 programmers

2 businessmen

3 computer users

4 foreigners

ถาม คําว่า “entrepreneurs” ในตัวพิมพ์หนา สามารถแทนที่ด้วย ____.

ตอบ 2 entrepreneurs = businessman = “ผู้ประกอบการ” หรือเจ้าของธุจกิจ

84 The word “flee” (in bold type) can be replaced by ____.

1 move out

2 move in

3 settle down

4 buckle up

ถาม คําา “flee” (ในตัวพิมพ์หนา) สามารถแทนที่ด้วย _____.

1 ย้ายออก 2 ย้ายเข้า 3 ตั้งรกราก 4 บิด คด

ตอบ 1 flee = move out = เผ่นหนี โกย ย้ายออก

85 The word “tailspin” (in bold type) refers to a situation where things are _____.

1 under control

2 on demand

3 in demand

4 out of control

ถาม คําว่า “tailspin” (ในตัวพิมพ์หนา) อ้างอิงถึงสถานการณ์ที่สิ่งต่าง ๆ เป็น ____.

1 อยู่ภายใต้ควบคุม 2 ตามคําเรียกร้อง 3 ในความต้องการ 4 เหนือการควบคุม

ตอบ 4 “tailspin” = out of control = เหนือการควบคุม / ควบคุมไม่ได้

86 The phrase “caught miners off guard” (in bold type) means to make someone ____.

1 embarrassed

2 surprised

3 scared

4 relaxed

ถาม วลีที่ว่า “caught miners off guard” (ในตัวหนา) หมายถึงทําให้ใครบางคน _____.

1 รู้สึกละอาย 2 รู้สึกแปลกใจ 3 รู้สึกตกใจ ผวา 4 รู้สึกผ่อนคลาย

ตอบ 3 บทความหมายถึงถูกจับโดยไม่ทันระวังตัว แสดงถึงความรู้สึกตกใจ ผวา

87 The statement time is literally money” (in bold type) means _____.

1 People can use money to buy time.

2 It is important to prioritize money before time.

3 It takes some time to make a lot of money.

4 People have to act fast in order to make money.

ถาม ข้อความว่า “time is literally money” (ในตัวพิมพ์หนา) หมายถึง _____.

1 ผู้คนสามารถใช้เงินเพื่อซื้อเวลา

2 สิ่งสําคัญคือต้องจัดลําดับความสําคัญของเงินก่อนเวลา

3 กว่าจะได้เงินเยอะต้องใช้เวลา

4 ผู้คนต้องรีบทําเงิน

ตอบ  2 time is literally money

Passage 5

 

It turns out that people around the world have vastly different techniques for : keeping track of numbers on their hands.

For example, if you’re from the UK or many parts of Europe, you probably start counting with the thumb, and finish with the pinky. While in the US, they start counting with the index finger, ending with the thumb. In parts of the Middle East like Iran, they begin with the pinky, whereas in Japan they start with the fingers extended in an open palm, drawing them in to make a closed fist.

However, this cultural diversity in finger counting hasn’t always been appreciated. “What struck me was that most researchers treated it as if there was just one way of counting with your fingers,” says Andrea Bender, a professor of cognition, culture and language at the University of Bergen, Norway.

“In the past, researchers have believed that finger counting, and especially the way that we do it in the West, is essential for children when they start to learn casting doubt on that is that there is so much cultural diversity in how fingers or body parts are used for counting.”

In India, for example, they use the lines between the segments of the fingers to count. This means each digit can represent four numbers and the whole hand can represent 20. While in parts of Eastern Africa like Tanzania, among speakers of some Bantu languages, they use both hands in a symmetric way as much as possible. The number six, for example, is shown with the index, middle and ring finger of both hands. There’s also the indigenous Northern Pame people of Mexico, who count on their knuckles, and the (now extinct) Yuki language in California, which used the spaces in between the fingers.

However, some cultures don’t use quantities of fingers to represent numbers at all – they use symbols. in China, they count from one to five in the same way as the US, but six to 10 are represented symbolically. Six is shown by extending the thumb and pinky, while 10’is either a closed fist or crossing the index and middle fingers. And the ancient Romans also used a clever (but difficult to master) symbolic system that allowed them to count into the thousands.

ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้วกับการที่ผู้คนทั่วโลกซึ่งมีวิธีการนับจํานวนด้วยนิ้วมือของตัวเองที่หลากหลาย ไม่ซ้ำกัน

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมาจากเกาะอังกฤษหรือประเทศต่าง ๆ ในยุโรป คุณอาจจะเริ่มนับด้วยนิ้วหัวแม่มือ และไปสิ้นสุดที่นิ้วก้อย ขณะที่คนในอเมริกาจะเริ่มนับด้วยนิ้วชี้แล้วไปจบที่นิ้วหัวแม่มือ ในฝากฝั่งตะวันออกกลาง อย่างเช่น อิหร่าน พวกเขาจะเริ่มนับจากนิ้วก้อย แต่ขณะที่คนญี่ปุ่นจะเริ่มจากการกางนิ้วออกแล้วแบเป็นฝ่ามือ แล้ว ลากนิ้วนับไปจนสุดจึงทําการกําหมัด

แต่อย่างไรก็ตาม การใช้นิ้วนับเลขที่เป็นวัฒนธรรมหลากหลายนั้น ไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างสม่ำเสมอ ตลอดเวลา ตามความเห็นของ อังเดร เบนเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านทฤษฎีการรับรู้ทางวัฒนธรรมและภาษาแห่ง มหาวิทยาลัยเบอร์เก้น ประเทศนอร์เวย์ ได้ให้ความเห็นว่า “สิ่งที่ทําให้ผมฉุกคิด คือ นักวิจัยส่วนใหญ่เฝ้ารักษา วัฒนธรรมการใช้นิ้วนับเลขเสมือนว่ามันวิธีเดียวที่จะใช้นับจํานวนได้”

เขายังให้ความเห็นอีกว่า “ในอดีตนักวิจัยเชื่อว่า การใช้นิ้วนับจํานวนโดยเฉพาะสิ่งที่เราใช้ในโลก ตะวันตกนั่นคือ สิ่งจําเป็นสําหรับพวกเด็ก ๆ เมื่อพวกเริ่มเรียนรู้ที่จะคาดเดาจํานวนการใช้นิ้วมือนับจํานวนนั่น

แหละคือ วิธีการและวัฒนธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จนกลายมาเป็นการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายและนิ้วมือเพื่อทําการ นับจํานวนคน

ตัวอย่างเช่น ในอินเดียพวกเขาใช้เส้นที่แบ่งส่วนของนิ้วมือเพื่อนับจํานวน หมายความว่า ตัวเลขแต่ละตัว จะแทนค่าจํานวนได้และมือทั้ง 5 นิ้วอาจจะแทนค่าจํานวนถึง 20 ในขณะที่ซีกโลกแอฟริกาตะวันออกอย่าง แทนซาเนีย ในกลุ่มคนที่ใช้ภาษาพูดแบบบันตู พวกเขาใช้มือทั้ง 2 ข้างอย่างมีระบบในการนับจํานวน ตัวอย่างเช่น เลข 6 จะแสดงด้วยนิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางของมือทั้ง 2 ข้าง นอกจากนี้คนเผ่าปามีตอนเหนือในเม็กซิโก มีวิธีอัน ชาญฉลาด พวกเขานับจํานวนด้วยการเคาะ (Knuckles) และคนที่ใช้ภาษายูกิ ในแคลิฟอร์เนีย (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ต่างก็ใช้พื้นที่ว่างระหว่างมานับจํานวน

แต่อย่างไรก็ตาม บางวัฒนธรรมไม่ได้ใช้จํานวนของนิ้วมือมาแทนจํานวนตัวเลขอีกต่อไป พวกเขาใช้ สัญลักษณ์แทน ในประเทศจีน พวกเขานับตัวเลข 1 ถึง 5 ในแบบเดียวกันกับคนในอเมริกา แต่เลข 6 ถึง 10 คนจีนใช้การแทนค่าอย่างมีระบบ เลข 6 จะแสดงออกโดยกางนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อย แต่ขณะที่เลข 10 อาจจะใช้กําปั้นหรือ ใช้นิ้วชี้ไขว้กับนิ้วกลางก็ได้ และแม้แต่ในสมัยโบราณ ชาวโรมันยังใช้ระบบสัญลักษณ์อย่างชาญฉลาด (แต่ยากที่จะเข้าใจ) เพื่อทําให้พวกเขานับจํานวนได้ถึงหลักพัน

 

88 What does this passage mainly mention?

1 How researchers study culture and how people around the world count numbers

2 How people around the world count numbers

3 How researchers study culture

4 How children learn to count

ถาม บทความเรื่องนี้อธิบายถึงเรื่องอะไรเป็นสําคัญ?

1 นักวิจัยศึกษาวัฒนธรรมอย่างไร และผู้คนทั่วโลกนับจํานวนอย่างไร

2 ผู้คนทั่วโลกนับจํานวนอย่างไร

3 นักวิจัยศึกษาวัฒนธรรมอย่างไร

4 พวกเด็ก ๆ เรียนการนับอย่างไร

ตอบ 2 บทความกล่าวถึง การนับจํานวนอย่างไร

89 According to the passage, which country finishes counting with little finger?

1 Iran

2 The United Kingdom

3 The United States

4 Japan

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ประเทศใดสิ้นสุดการนับด้วยนิ้วก้อย?

1 อิหร่าน 2 สหราชอาณาจักร 3 สหรัฐอเมริกา 4 ญี่ปุ่น

ตอบ 2 จากบทความย่อหน้าที่ 2 ในสหราชอาณาจักรอังกฤษและในประเทศแถบยุโรปเริ่มนับนิ้วหัวแม่มือ

และสิ้นสุดที่นิ้วก้อย (pinky)

90 According to the passage, which country finishes counting by making a fist?

1 Japan

2 The United Kingdom

3 Iran

4 The United States

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ประเทศใดสิ้นสุดการนับด้วยการกําปั้น/กําหมัด?

ตอบ 1 ในย่อหน้าที่ 2 ญี่ปุ่นเริ่มนับจากการกางนิ้วออก แล้วสิ้นสุดการนับด้วยการกําหมัด (fist)

91 According to the passage, Andrea Bender ____.

1 believes that there is only one way of counting with fingers

2 lives in Norway

3 is the author of this passage

4 All are correct

ถาม ตามเนื้อหาของเรื่อง อังเดร เบนเดอร์ _____.

1 เชื่อว่ามีวิธีเดียวเท่านั้นที่นับจํานวนคือ ใช้นิ้ว

2 อาศัยอยู่ในนอร์เวย์

3 เป็นผู้เขียนบทความนี้

4 ถูกหมดทุกข้อ

ตอบ 2 จากบทความนี้ ข้อ 1. เป็นการแสดงความเห็นเชิงประชด ข้อ 3 ยังสรุปไม่ได้ว่าเขาเป็นคนเขียน

ดังนั้นข้อ 2 ตรงกับข้อมูลมากที่สุดเพราะเป็นผู้สอนที่มหาวิทยาลัยในนอร์เวย์ก็น่าจะอาศัยอยู่ใน นอร์เวย์

92 Which paragraph talks about people using other body parts for counting?

1 3rd paragraph

2 4th paragraph

3 5th paragraph

4 6th paragraph

ถาม ย่อหน้าใดพูดถึง ผู้คนใช้ร่างกายส่วนอื่นเพื่อนับจํานวน?

ตอบ 1 ในย่อหน้าที่ 3 ยกตัวอย่างกรณีแทนซาเนียใช้มือทั้ง 2 ข้างอย่างเป็นระบบในการนับจํานวน

93 Which paragraph mentions child development?

1 3rd paragraph

2 4th paragraph

3 5th paragraph

4 6th paragraph

ถาม ย่อหน้าใดอธิบายถึงพัฒนาการของเด็ก ๆ

ตอบ 2 ในย่อหน้าที่ 4 อธิบายถึง การเริ่มเรียนรู้ของเด็กที่จะคาดเดาจํานวนโดยใช้นิ้วนับจํานวนจน

กลายเป็นวัฒนธรรม

94 In the past, researchers have believed that counting finger is important for children to _____.

1 study math

2 learn their culture

3 understand numbers

4 All are correct

ถาม ในอดีต นักวิจัยมีความเชื่อว่า การใช้นิ้วนับจํานวนสําคัญต่อพวกเด็ก ๆที่จะ ____.

1 เรียนคณิตศาสตร์

2 เรียนรู้วัฒนธรรม

3 เข้าใจจํานวนตัวเลข

4 ถูกหมดทุกข้อ

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าที่ 4 การใช้นิ้วนับจํานวนเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้การคาดเดาจํานวนจนเป็น

วัฒนธรรมที่สืบทอดมาตลอด

95 At most, how many numbers can Indian people count with their 2 hands?

1 10

2 20

3 30

4 40

ถาม จํานวนใดที่คนอินเดียสามารถนับด้วยมือทั้ง 2 ข้าง ข้อใดเป็นไปได้มากที่สุด

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าที่ 5 ตามตัวอย่างของคนอินเดียสามารถนับด้วยมือทั้ง 2 ข้างอย่างเป็นระบบ

และนับได้จํานวนมากที่สุดคือ 20 ด้วยมือ 1 ข้าง ดังนั้นถ้ารวมจํานวนทั้ง 2 ข้างมากที่สุดคือ 40

96 In Tanzania, how many fingers are needed to count number six?

1 3

2 4

3 5

4 6

ถาม ในแทนซาเนีย จําเป็นต้องใช้นิ้วมือนิ้วเพื่อนับจํานวนเลข 6 ?

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าที่ 5 ชาวแทนซาเนียพูดภาษา Bantu ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง คือ 3 นิ้ว

แต่ใช้นิ้ว 3 ของ 2 มือ ดังนั้นรวมแล้วคือ 6 นิ้ว ข้อ 4 จึงถูกที่สุด

97 According to the passage, which statement is true?

1 Americans and Chinese people have the same way unt number 4

2 Romans also use their fingers to count number 6

3 In the US, a symbol is used to count number 7

4 In China, symbols are used to count numbers which are higher than 10.

ถาม ตามเนื้อเรื่อง ข้อความไหนถูกต้อง

1 คนอเมริกันและคนจีนใช้วิธีที่เหมือนกันในการนับจํานวนเลข 4

2 ชาวโรมันเองก็ใช้นิ้วของพวกเขานับเลข 6

3 ในประเทศอเมริกา สัญลักษณ์ที่ถูกนับคือ เลข 7

4 ในประเทศจีน สัญลักษณ์ต่าง ๆ ถูกนํามาใช้นับจํานวนที่มากกว่า 10 ขึ้นไป

ตอบ 4 จากบทความย่อหน้าสุดท้าย ตัวอย่างของจีนและอเมริกานับจํานวน 1 ถึง 5 ด้วยวิธีที่เหมือนกัน

แต่จํานวน 6 ถึง 10 ถูกแสดงด้วยสัญลักษณ์อย่างมีระบบ ส่วนโรมันนั้นในระบบสัญลักษณ์นับได้ ถึงหลักพัน ดังนั้นข้อความที่ถูกต้องคือ ข้อ 4

98 The word “them” in bold type refers to ____.

1 Romans

2 Chinese

3 Americans

4 Americans and Romans

ถาม คําว่า “them” ในตัวพิมพ์หนา อ้างอิงถึง _____.

ตอบ 1 จากบทความย่อหน้าสุดท้ายสรรพนามคําว่า “them” ในอนุประโยคใน that clause that

allow them…) ซึ่งไปเชื่อมโยงกับประโยคหลัก (Main clause) ในส่วนข้างหน้า (and the ancient Romans…) ดังนั้นสรรพนามคําว่า them ซึ่งหมายถึง พวกเขา จึงกล่าวอ้างอิงถึง ชาว โรมันในสมัยโบราณ

99 The word “symmetric” in bold type _____.

1 equal

2 effective

3 random

4 routine

ถาม คําว่า “symmetric” ในตัวพิมพ์หนา _____.

1 เท่า ๆ กัน 2 อย่างมีประสิทธิภาพ 3 สุ่มจํานวน 4 เป็นปกติ ประจํา

ตอบ 1 ความหมายโดยปกติของคําว่า “symmetric” คือ สมมาตร หรือสมดุลกัน … ถ้าคาดเดาความหมาย

ด้วยบริบท ข้อความด้านข้างจากท่อน .. as much as possible. จะสังเกตว่า as…as คือคําเชื่อม แสดงการเปรียบเทียบเท่ากัน ฉะนั้น symmetric – equal = เท่า ๆ กัน หรือ สมดุลกัน

100 The word “extinct” in bold type _____.

1 advanced

2 traditional

3 competitive

4 vanished

ถาม คําว่า “extinct” ในตัวพิมพ์หนา _____.

1 ก้าวหน้า, ล่วงหน้า 2 ดั้งเดิม, แบบเดิม 3 เชิงแข่งขันกัน เชิงได้เปรียบ 4 สูญหาย ไม่มีแล้ว

ตอบ 4 extinct = vanish = สูญหาย ไม่มีแล้ว ปัจจุบันภาษายูกิในแคลิฟอร์เนียไม่ได้ใช้แล้ว

 

WordPress Ads
error: Content is protected !!