การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2553
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหนี้
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ ข้อละ 25 คะแนน
ข้อ 1 นายหนึ่ง นายสอง และนายสามทำสัญญาเช่าอาคารตึกแถวสามชั้น เนื้อที่สามร้อยตารางเมตรจากนายสิบโดยมิได้แบ่งแยกว่าคนใดเช่าส่วนใดของอาคาร ต่อมา นายหนึ่งนำอาคารพิพาทบางส่วนไปให้นายเก้าเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากนายสิบ ซึ่งเป็นการผิดสัญญาเช่า นายสิบจึงบอกเลิกสัญญาเช่าต่อนายหนึ่ง นายสอง และนายสาม และฟ้องขับไล่ทั้งสามคนออกจากอาคารที่เช่า
นายหนึ่งให้การยอมรับว่าให้เช่าช่วงไปจริง ส่วนนายสองและนายสามต่อสู้ว่า นายสิบไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่ เพราะนายสองกับนายสามไม่ได้มีส่วนทำผิดสัญญาอันเป็นการกระทำของนายหนึ่งคนเดียว ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า ข้อต่อสู้ของนายสองกับนายสามฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 291 ถ้าบุคคลหลายคนจะต้องทำการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิงไซร้ แม้ถึงว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงได้แต่เพียงครั้งเดียว (กล่าวคือลูกหนี้ร่วมกัน) ก็ดี เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้แต่คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระเสร็จสิ้นเชิง
มาตรา 295 ข้อความจริงอื่นใด นอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 292 ถึง 294 นั้น เมื่อเป็นเรื่องท้าวถึงตัวลูกหนี้ร่วมกันคนใดก็ย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษแต่เฉพาะแก่ลูกหนี้คนนั้น เว้นแต่จะปรากฏว่าขัดกับสภาพแห่งหนี้นั้นเอง
ความที่ว่ามานี้ เมื่อจะกล่าวโดยเฉพาะก็คือว่าให้ใช้แก่การให้คำบอกกล่าว การผิดนัด การที่หยิบยกอ้างความผิด การชำระหนี้อันเป็นพ้นวิสัยแก่ฝ่ายลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่ง กำหนดอายุความหรือการที่อายุความสะดุดหยุดลง และการที่สิทธิเรียกร้องเกลื่อนกลืนกันไปกับหนี้สิน
วินิจฉัย
ตามบทบัญญัติมาตรา 295 วรรคแรกนั้น ได้บัญญัติเอาไว้ว่า การอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ลูกหนี้ร่วมคนใด ย่อมถือว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของลูกหนี้ร่วมคนนั้น ไม่มีผลถึงลูกหนี้ร่วมคนอื่นด้วย เว้นแต่ที่ระบุไว้ในมาตรา 292 ถึง 294 หรือปรากฏว่าขัดกับสภาพแห่งหนี้นั้นเอง
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายหนึ่ง นายสอง และนายสาม ทำสัญญาเช่าอาคารพิพาทจากนายสิบโดยที่ไม่สามารถแบ่งแบกได้ว่าใครเช่าส่วนใดของพื้นที่อาคารพิพาทนั้น ถือได้ว่านายหนึ่ง นายสอง และนายสามเป็นผู้เช่าร่วมกัน และเป็นลูกหนี้ร่วมตามมาตรา 291
ตามข้อเท็จจริง แม้นายหนึ่งคนเดียวเป็นผู้ให้นายเก้าเช่าช่วงอาคารพิพาทบางส่วนไปโดยมิชอบซึ่งตามมาตรา 295 นั้น ถือว่าเป็นข้อความจริงอื่นใด นอกเหนือจากข้อความจริงที่ระบุไว้ในมาตรา 292 293 และ 294 ที่ท้าวถึงแล้วเป็นโทษแก่เฉพาะนายหนึ่ง อันเป็นความผิดของนายหนึ่งผู้เดียวตามมาตรา 295 วรรคสองก็ตาม แต่เมื่อการเช่ารายนี้มีสภาพแห่งหนี้ที่มีลักษณะไม่อาจแบ่งแยกได้ว่าใครเช่าพื้นที่ส่วนใดของอาคารพิพาท จึงเป็นกรณีที่ข้อความจริงดังกล่าวขัดกับสภาพแห่งหนี้นั้นเอง จึงย่อมถือได้ว่านายสองและนายสามเป็นผู้ผิดสัญญาเช่าด้วยตามมาตรา 295 วรรคแรกตอนท้าย นายสิบจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่ทั้งนายหนึ่งนายสองและนายสามได้ (ฎ. 9544/2539)
ดังนั้น ข้อต่อสู้ของนายสองและนายสามที่ว่านายสิบไม่มีสิทธิเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่ เพราะนายสองกับนายสามไม่ได้มีส่วนทำผิดสัญญาจึงรับฟังไม่ได้
สรุป ข้อต่อสู้ของนายสองและนายสามรับฟังไม่ได้