การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2553
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหนี้
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ ข้อละ 25 คะแนน
ข้อ 1 นายเอกซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นเจ้าหนี้เงินกู้นายโทซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 100,000 บาท ต่อมานายเอกได้สั่งซื้อสินค้าจากนายตรีซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในราคา 100,000 บาท เมื่อหนี้ทั้งสองจำนวนถึงกำหนดชำระแล้ว นายเอกกับนายตรีได้พบกันและตกลงกันว่านายเอกจะโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ที่นายเอกเป็นเจ้าหนี้นายโทจำนวน 100,000 บาท ให้แก่นายตรี เพื่อชำระค่าสินค้าจำนวน 100,000 บาท ที่นายเอกเป็นหนี้นายตรีอยู่ ทั้งสองฝ่ายได้ทำสัญญาการโอนสิทธิเรียกร้องเป็นหนังสือ
โดยนายเอกคนเดียวลงชื่อในสัญญาดังกล่าว จากนั้นนายเอกได้มีจดหมายบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องไปให้นายโททราบแล้ว ต่อมานายโทไม่ยอมชำระเงินจำนวน 100,000 บาท แก่นายตรี นายตรีจึงฟ้องคดีต่อศาลเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าว นายโทต่อสู้ว่าการโอนสิทธิเรียกร้องเป็นโมฆะ เพราะไม่ได้ลงลายมือชื่อนายตรีผู้รับโอนด้วย ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่าการโอนสิทธิเรียกร้องรายนี้ใช้บังคับได้หรือไม่ อย่างไร
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 306 วรรคแรก การโอนหนี้อันจะพึงต้องชำระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าไม่สมบูรณ์ อนึ่งการโอนหนี้นั้น ท่านว่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้ หรือบุคคลภายนอกได้แต่เมื่อได้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะได้ยินยอมด้วยในการโอนนั้น คำบอกกล่าวหรือความยินยอมเช่นว่านี้ ท่านว่าต้องทำเป็นหนังสือ
วินิจฉัย
การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้อันจะพึงต้องชำระแก่เจ้าหนี้โดยเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 306 วรรคแรกนั้น กฎหมายได้บัญญัติแต่เพียงว่าจะต้องทำเป็นหนังสือ การโอนนั้นจึงจะสมบูรณ์ หาได้บัญญัติว่าการโอนนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือ และลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอนด้วยไม่ ดังนั้นการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวเมื่อได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้โอนแต่ฝ่ายเดียว ก็มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย (ฎ. 6816/2537) และการโอนหนี้หรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าวนั้นจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้ หรือบุคคลภายนอกได้ ก็ต่อเมื่อได้ทำเป็นหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี้แล้ว หรือลูกหนี้ได้มีหนังสือให้ความยินยอมด้วยกับการโอนนั้น
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายเอกได้โอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ที่นายเอกเป็นเจ้าหนี้นายโทให้แก่นายตรี เมื่อนายเอกและนายตรีได้ทำสัญญาการโอนสิทธิเรียกร้องเป็นหนังสือ โดยนายเอกเพียงคนเดียวลงชื่อในสัญญาดังกล่าว การโอนสิทธิเรียกร้องระหว่างนายเอกและนายตรีก็มีผลสมบูรณ์ใช้บังคับได้ และเมื่อนายเอกได้มีหนังสือ (จดหมาย) บอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องนั้นไปให้นายโททราบแล้ว นายโทจึงต้องชำระหนี้ให้แก่นายตรีเจ้าหนี้ที่รับโอนสิทธิเรียกร้องจากนายเอก และถ้านายโทไม่ยอมชำระหนี้แก่นายตรี นายตรีย่อมสามารถฟ้องนายโทให้ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมเงินได้ นายโทจะต่อสู้ว่าการโอนสิทธิเรียกร้องเป็นโมฆะหาได้ไม่
สรุป การโอนสิทธิเรียกร้องรายนี้สมบูรณ์ใช้บังคับได้ นายโทต้องชำระหนี้ให้แก่นายตรีจะต่อสู้ว่าการโอนสิทธิเรียกร้องเป็นโมฆะไม่ได้