การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LW 203 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ
ข้อ 1 (ก) เมื่อผู้แสดงเจตนาได้ส่งการแสดงเจตนาไปแล้ว ผู้แสดงเจตนาตายหรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ตามหลักทั่วไปแล้ว การแสดงเจตนานั้นมีผลในกฎหมายประการใด ให้อธิบาย
ธงคำตอบ
มาตรา 169 วรรคสอง การแสดงเจตนาที่ได้ส่งออกไปแล้วย่อมไม่เสื่อเสียไป แม้ภายหลังการแสดงเจตนานั้นผู้แสดงเจตนาจะถึงแก่ความตายหรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
จากหลักการข้างต้นจะเห็นได้ว่า ในกรณีที่ผู้แสดงเจตนาได้ส่งการแสดงเจตนาออกไปแล้ว หลังจากนั้นผู้แสดงเจตนาถึงแก่ความตายหรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ตามหลักทั่วไปในมาตรา 169 วรรคสอง การแสดงเจตนานั้นไม่เสื่อมเสียไปตามตัวบุคคลผู้แสดงเจตนา เมื่อการแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนาแล้ว การแสดงเจตนานั้นก็มีผลในทางกฎหมายได้
(ข) มาตรา 360 บทบัญญัติแห่งมาตรา 169 วรรคสองนั้น ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าหากว่าขัดกับเจตนาอันผู้เสนอได้แสดงหรือหากว่าก่อนจะสนองรับนั้น คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้อยู่แล้วว่า ผู้เสนอตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถวินิจฉัย กรณีตามอุทาหรณ์ ไม่ปรากฏว่านายแดงผู้เสนอขายบ้านได้แสดงเจตนาไว้ขัดกับบทบัญญัติแห่งมาตรา 169 วรรคสอง และเมื่อนายเขียวเขียนจดหมายสนองตอบตกลงซื้อบ้าน นายเขียวก็ไม่รู้ว่านายแดงถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ กรณีไม่ต้องตามาตรา 360 จึงต้องบังคับตามหลักทั่วไปใน มาตรา 169 วรรคสอง ซึ่งได้อ้างไว้แล้วในข้อ (ก) ดังนั้นการแสดงเจตนาเป็นคำเสนอขายบ้านของนายแดงจึงไม่เสื่อมเสียไปยังคงมีผลสมบูรณ์ เมื่อนายเขียวตอบตกลงซื้อ สัญญาซื้อขายบ้านระหว่างนายแดงและนายเขียวจึงเกิดขึ้น
สรุป คำเสนอขายบ้านของนายแดงมีผลสมบูรณ์ ไม่เสื่อมเสียไป