การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2544
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW1002 หลักกฎหมายเอกชน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1 ก. การตีความกฎหมายแพ่งมีความแตกต่างกับการตีความกฎหมายอาญาอย่างไร จงอธิบาย
ข จงอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลสิทธิ์และทรัพย์สิทธิ์
ธงคำตอบ
ก. การตีความกฎหมายแพ่งมีหลักเช่นเดียวกับการใช้กฎหมายแพ่งคือ ต้องตีความตามตัวอักษรประกอบกับเจตนารมณ์ของกฎหมายพร้อมกันไป โดยมีหลักในการตีความดังนี้
1 การตีความตามตัวอักษร ต้องพิจารณาความหมายของตัวอักษรว่ามีความหมายอย่างไร ถ้อยคำหรือคำศัพท์ของตัวอักษรนั้นเป็นศัพท์ธรรมดาหรือศัพท์ทางวิชาการ เมื่อได้ความหมายของตัวอักษรแล้วจึงพิจารณาตีความตามเจตนารมณ์ประกอบต่อไป
2 การตีความตามเจตนา พิจารณาจาก
1 ที่มา หรือประวัติความเป็นมาของกฎหมาย
2 ตำแหน่งหรือหมวดหมู่ของกฎหมาย
3 ถ้อยคำของกฎหมาย
4 สถานการณ์ในขณะที่บัญญัติกฎหมายนั้น รวมทั้งรายงานการประชุมของฝ่ายนิติบัญญัติ
ส่วนการตีความกฎหมายอาญานั้น จะต้องตีความอย่างเคร่งครัด คือจะต้องพิจารณาตามตัวอักษร โดยไม่ต้องพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 บัญญัติว่า “บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญา ต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้น บัญญัติว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้” ดังนั้น การใช้กฎหมายอาญาจึงต้องพิจารณาจากตัวอักษรโดยไม่ต้องพิจารณาเจตนารมณ์ของกฎหมายแต่อย่างใด ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด ก็จะเอาโทษทางอาญาและลงโทษบุคคลนั้นไม่ได้
ข จงอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลสิทธิ์และทรัพย์สิทธิ์
ธงคำตอบ
ข้อแตกต่างระหว่างบุคคลสิทธิ์และทรัพย์สิทธิ์
1 ทรัพย์สิทธิ์มีวัตถุแห่งสิทธิเป็นทรัพย์สิน ส่วนบุคคลสิทธิ์มีวัตถุแห่งสิทธิเป็นการกระทำการงดเว้นกระทำการหรือส่งมอบทรัพย์สินให้แก่เจ้าหนี้
2 ทรัพย์สิทธิ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยบทบัญญัติของกฎหมาย ส่วนบุคคลสิทธิ์เกิดขึ้นโดยนิติกรรมและนิติเหตุ
3 ทรัพย์สิทธิ์ก่อให้เกิดหน้าที่ต่อบุคคลทั่วไป ส่วนบุคคลสิทธิ์ก่อให้เกิดหน้าที่ในการชำระหนี้เฉพาะลูกหนี้เท่านั้น
4 ทรัพย์สิทธิ์เกิดขึ้นและมีอยู่อย่างถาวรไม่สิ้นสุดเพราะการไม่ใช้สิทธินั้น ส่วนบุคคลสิทธิ์สิ้นไปเพราะไม่ใช้สิทธิภายในกำหนดเวลาหรืออายุความ