การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 1003
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 นายบัวขาวเป็นชายหนุ่มได้อยู่กินกับนางบัวบาน ซึ่งเป็นหม้ายอายุแก่กว่าประมาณ 20 กว่าปี ต่อมานายบัวขาวแนะนำนางบัวบานให้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงหนึ่งของตนให้แก่นายบัวขาวหลอกๆ เพื่อป้องกันมิให้บุตรของนางบัวบานที่เกิดจากสามีเดิมมาเอาที่ดินนั้นไป เมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกันแล้ว นางบัวบานจึงขายที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายบัวขาวในราคา 3 ล้านบาท
โดยในสัญญาระบุว่านางบัวบานได้รับเงินครบถ้วนแล้ว ทั้งที่ความจริงนายบัวขาวไม่ได้จ่ายเงินค่าที่ดินแปลงนั้นให้แก่นางบัวบานเลย ต่อมานายบัวขาวได้เล่าความจริงต่างๆที่เกิดขึ้นให้นายโมหะน้องชายของตนฟัง ทำให้นายโมหะอยากได้ที่ดินแปลงนั้นมาก นายโมหะก็เลยอ้อนวอนขอที่ดินแปลงนั้นจากนายบัวขาว
นายบัวขาวจึงจำใจยกที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายโมหะ ต่อมานายบัวขาวรู้สึกเสียดายที่ดินแปลงนั้น นายบัวขาวจึงไปทวงที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายโมหะ โดยอ้างว่าตนมิได้มีเจตนาจะให้ที่ดินแปลงนั้นแก่นายโมหะจริงๆ นายโมหะไม่ยอมคืน ดังนี้ นายบัวขาวหรือนางบัวบานจะสามารถฟ้องคดีเรียกที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายโมหะได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 155 วรรคแรก การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก ผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้
วินิจฉัย
ตามกฎหมาย การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งนั้น จะมีผลตามมาตรา 155 วรรคแรก คือ ตกเป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ระหว่างคู่กรณีแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กฎหมายมาตรา 155 วรรคแรก ได้บัญญัติคุ้มครองบุคคลภายนอก โดยห้ามมิให้บุคคลใดๆยกความเป็นโมฆะของการแสดงเจตนาลวงนั้นขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้
(1) กระทำการโดยสุจริต
(2) ต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้น
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายบัวขาวและนางบัวบานได้สมรู้กันแสดงเจตนาลวงว่านายบัวขาวซื้อที่ดินแปลงหนึ่งจากนางบัวบานนั้น การแสดงเจตนาลวงระหว่างนายบัวขาวและนางบัวบานย่อมตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 155 วรรคแรกตอนต้น จึงมีผลทำให้ที่ดินแปลงดังกล่าวยังคงเป็นของนางบัวบานตามเดิม
และการที่นายบัวขาวได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายโมหะนั้น แม้ว่านายโมหะจะเป็นบุคคลภายนอก แต่กรณีที่บุคคลภายนอกจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายนั้น บุคคลภายนอกจะต้องได้กระทำการโดยสุจริต และต้องได้รับความเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นด้วย ตามมาตรา 155 วรรคแรกตอนท้าย แต่กรณีตามอุทาหรณ์ นายโมหะกระทำการโดยไม่สุจริต คือ ได้รับมอบที่ดินแปลงนั้นจากนายบัวขาวโดยทราบถึงการแสดงเจตนาลวงระหว่างนายบัวขาวกับนางบัวบาน และนายโมหะก็ไม่ได้รับความเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้น เพราะนายโมหะรับมอบที่ดินจากนายบัวขาวโดยไม่ได้เสียค่าตอบแทนแต่อย่างใด นายโมหะจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ดังนั้น นางบัวบานเจ้าของที่ดินจึงสามารถฟ้องคดีเรียกที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายโมหะได้
ส่วนกรณีของนายบัวขาวนั้น เมื่อการแสดงเจตนาลวงระหว่างนายบัวขาวกับนางบัวบานตกเป็นโมฆะแล้ว นายบัวขาวย่อมไม่มีสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว และไม่มีสิทธิที่จะฟ้องคดีเรียกที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายโมหะ
สรุป นางบัวบานจะสามารถฟ้องคดีเรียกที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายโมหะได้