การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2555
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 1003
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน) ข้อ 1
(ก) ในกรณีมีการแสดงเจตนาทำนิติกรรม หลังจากผู้แสดงเจตนาได้ส่งการแสดงเจตนาไปแล้ว ผู้แสดงเจตนาตายหรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ตามหลักทั่วไป การแสดงเจตนานั้นมีผลในกฎหมายประการใด ให้อธิบายโดยสังเขป
(ข) นายอาทิตย์ซึ่งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ส่งจดหมายทางไปรษณีย์เสนอขายที่ดินแปลงหนึ่งพร้อมบ้านหนึ่งหลังของตน ที่จังหวัดสระบุรีให้แก่นางจันทร์ซึ่งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานีในราคาสองล้าน บาท หลังจากส่งจดหมายไปแล้ว 3 วัน นายอาทิตย์ถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ นางจันทร์ได้ทราบข่าวว่านายอาทิตย์ถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว
แต่อยากได้ที่ดินและบ้านที่นายอาทิตย์เสนอขาย นางจันทร์จึงเขียนจดหมายส่งทางไปรษณีย์ตอบตกลงซื้อที่ดินและบ้านส่งไปให้นายอาทิตย์ ณ ที่อยู่ของนายอาทิตย์ กรณีปรากฏว่านายอังคารบุตรของนายอาทิตย์ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านของนายอาทิตย์ได้รับจดหมายดังกล่าวไว้ ดังนี้ สัญญาซื้อขายที่ดินและบ้าน ระหว่างนายอาทิตย์กับนางจันทร์เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 169 วรรคสอง การแสดงเจตนาที่ได้ส่งออกไปแล้วย่อมไม่เสื่อมเสียไป แม้ภายหลังการแสดงเจตนานั้นผู้แสดงเจตนาจะถึงแก่ความตาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
อธิบาย จากหลักการข้างต้นจะเห็นได้ว่า ในกรณีที่มีการแสดงเจตนาทำนิติกรรม ผู้แสดงเจตนาได้ส่งการแสดงเจตนาออกไปแล้ว หลังจากนั้นผู้แสดงเจตนาถึงแก่ความตาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถตามหลักทั่วไปในมาตรา 169 วรรคสอง การแสดงเจตนานั้นไม่เสื่อมเสียไปตามตัวบุคคลผู้แสดงเจตนา เมื่อการแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนาแล้ว การแสดงเจตนานั้นย่อมมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 169 วรรคแรก
(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 169 วรรคสอง การแสดงเจตนาที่ได้ส่งออกไปแล้วย่อมไม่เสื่อมเสียไป แม้ภายหลังการแสดงเจตนานั้นผู้แสดงเจตนาจะถึงแก่ความตาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
มาตรา 360 บทบัญญัติแห่งมาตรา 169 วรรคสองนั้น ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าหากว่าขัดกับเจตนาอันผู้เสนอได้แสดงหรือหากว่าก่อนจะสนองรับนั้น คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้อยู่แล้วว่า ผู้เสนอตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ
วินิจฉัย
จากบทบัญญัติของ ป.พ.พ. มาตรา 360 นั้น ข้อความที่ว่า “ผู้เสนอ … ตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ” จะต้องตีความในความหมายอย่างกว้าง กล่าวคือ ให้หมายความทั้งกรณีที่ผู้เสนอถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ และกรณีที่ผู้เสนอถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถด้วย
ดังนั้น กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายอาทิตย์ซึ่งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ได้ส่งจดหมายทางไปรษณีย์เสนอขายที่ดินแปลงหนึ่งพร้อมบ้านหนึ่งหลังของตนให้แก่นางจันทร์ ซึ่งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และปรากฏว่าก่อนที่นางจันทร์จะทำคำสนองตอบตกลงซื้อที่ดินและขายบ้านของนายอาทิตย์นั้น นางจันทร์ได้รู้อยู่แล้วว่านายอาทิตย์ถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 360 ซึ่งมิให้นำมาตรา 169 วรรคสอง มาใช้บังคับ จึงมีผลให้การแสดงเจตนาเสนอขายที่ดินและบ้านของนายอาทิตย์เป็นอันเสื่อมเสียไป คือถือว่าไม่มีการแสดงเจตนาเสนอขายที่ดินและบ้านของนายอาทิตย์นั่นเอง
และเมื่อถือว่ากรณีดังกล่าวไม่มีคำเสนอของนายอาทิตย์ มีแต่เพียงคำสนองของนางจันทร์ ดังนั้นสัญญาซื้อขายที่ดินและบ้านระหว่างนายอาทิตย์กับนางจันทร์จึงไม่เกิดขึ้น
สรุป สัญญาซื้อขายที่ดินและบ้านระหว่างนายอาทิตย์กับนางจันทร์ ไม่เกิดขึ้นตามเหตุผลและหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น