ข้อสอบชุดที่1

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2603 สื่อสารมวลชนเพื่อการโฆษณา

1.         ข้อใดไมใช่ลักษณะสำคัญของการโฆษณา

Advertisement

(1)       เป็นการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ

(2)       ต้องระบุผู้อุปถัมภ์

(3)       เป็นการสื่อสารผ่านสื่อบุคคล

(4)       เป็นการส่งเสริมสินค้า บริการ หรือความคิด

ตอบ 3 ลักษณะสำคัญของการโฆษณามีดังนี้

1.         เป็นการสื่อสารที่ไม่เป็นส่วนบุคคลไมเจาะจงเป็นรายบุคคล และไม่เป็นการสื่อสารแบบเผชิญหน้า ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารแต่จะเป็นการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนที่มุ่งตรงไปยังบุคคลจำนวนมากใน คราวเดียวกัน

2.         เป็นการส่งเสริมสินค้า บริการ หรือความคิด

3.         มีการระบุผู้อปถัมภ์หรือผู้ออกค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

4.         ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าเวลาและค่าเนื้อที่ในสื่อโฆษณา

5.         เป็นข่าวสารหรือเป็นการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ

2.         การโฆษณามีความสัมพันธ์กับกิจกรรมใดมากที่สุด

(1)       การพัฒนาผลิตภัณฑ์  

(2) การกำหนดราคาสินค้า

(3) การจัดจำหน่ายสินค้า        

(4) การส่งเสริมการตลาด

ตอบ 4 หน้า 7,14-16 การโฆษณาจะมีความสัมพันธ์หรือมีบทบาทโดยตรงในฐานะเป็นกิจกรรมหนึ่งของการ ส่งเสริมการตลาดหรือการสื่อสารการตลาด กล่าวคือ การโฆษณาจะเป็นกิจกรรมการสื่อสารเพื่อส่งข่าวสารที่ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเพื่อแจ้งให้ทราบและโน้มน้าวใจให้มีพฤติกรรมอย่างใดอย่าง หนึ่ง เช่น การซื้อสินค้า หรือใช้บริการ เป็นต้น ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคาสินค้า และการจด จำหน่าย ถือเป็น บทบาทอื่น ๆของการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการตลาด

3.         ข้อใดเป็นหน้าที่สำคัญของการโฆษณา

(1)       การแจ้งข่าวสาร           (2) การส่งเสริมการขาย

(3) การประชาสัมพันธ์สินค้า   (4) การสร้างความภักดีในตราสินค้า

ตอบ 4 หน้า 5-6 หน้าที่สำคัญของการโฆษณา มีดังนี้

1.         เพื่อสารข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

2.         เพื่อบอกถึงความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ที่โฆษณากับคู่แข่งขัน

3.         เพื่อกระตุ้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์

4.         เพื่อช่วยให้มีการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น

5.         เพื่อเพิ่มความชอบและสร้างความภักดีในตราสินค้า โดยบอกเหตุผลที่ผู้บริโภคควรเลือกใช้สินค้ายี่ห้อ ของเราตลอดไป

6.         เพื่อช่วยลดต้นทุนรวมต้านการขาย

4.         การส่งเสริมการตลาดประกอบด้วยกิจกรรมอะไรบ้าง

(1)       การประชาสัมพันธ์การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การใช้พนักงานขาย การขายตรง

(2)       การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การใช้พนักงานขาย การตลาดแบบเจาะจง การส่งเสริมรายการ

(3)       การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การใช้พนักงานขาย การตลาดแบบเจาะจง การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์

(4)       การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การตลาดแบบเจาะจง การใช้พนักงานขาย การประชาสัมพันธ์

ตอบ 4 หน้า 7 การส่งเสริมการตลาดหรือการสื่อสารการตลาด (Promotion or Marketing Communication) จะ ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 5 กิจกรรม ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การส่งเสริมการขายการขายโดยใช้ พนักงานขายและการตลาดแบบเจาะจง

5.         ข้อใดเป็นการตลาดแบบเจาะตรง

(1)       การโฆษณาส่งทางไปรษณีย์   (2) การขายตรง

(3) ป้ายโฆษณาริมทางเท้า      (4) การโฆษณาทางสมุดหน้าเหลือง

ตอบ 1,2 หน้า 8,132 การตลาดแบบเจาะจง (Direct Marketing or Direct-response Marketing) หมายถึง การ สื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการตอบสนองและหรือก่อให้เกิดการซื้อขาย แลกเปลี่ยนขึ้น โดยการตลาดแบบเจาะตรง จะได้แก่ การขายตรง (Direct Selling) การขายทางโทรศัพท์หรือ โทรสาร (Telemarketing) และการโฆษณาแบบตอบรับทันที (Direct Response Ads) เช่น การโฆษณาส่งตรงทาง ไปรษณีย์ เป็นต้น

6.         การโฆษณาเพื่อการประชาสัมพันธ์ จัดเป็นการโฆษณาประเภทใด

(1)       โฆษณาผลิตภัณฑ์      (2) โฆษณาแนวความคิด

(3) โฆษณาสถาบัน     (4) โฆษณาชวนเชื่อ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การโฆษณาสถาบัน (Institutional Advertising หรือ Corporate Advertising) หรือการโฆษณา เพื่อการประชาสัมพันธ์ Public Relation Advertising) จะหมายถึง การโฆษณาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างจินตภาพ หรือภาพลักษณ์ (Image) ที่ดีให้กับสถาบันหรือองค์การที่เป็นผู้โฆษณา

ข้อ 7-9 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การประชาสัมพันธ์      (2) การใช้พนักงานขาย

(3) การส่งเสริมการขาย           (4) การตลาดแบบเจาะจง

7.         การขายทางโทรศัพท์ เป็นกิจกรรมใด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

8.         การจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้า จัดเป็นกิจกรรมใด

ตอบ 1 (คำบรรยาย) การประชาสัมพันธ์ (Public Relation) คือ ความพยายามอันมีแผนงานล่วงหน้าที่จะสร้าง อิทธิพลเหนือจิตใจของสาธารณชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการประชาสัมพันธ์จะถูกนำมาใช้ในกรณีดังต่อไปนี้

1.         ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ หรือสร้างผลกระทบด้านภาพลักษณ์ที่ผู้บริโภคมีต่อบริษัท

2.         ต้องการให้ความรู้หรือวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เช่น การจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้า ฯลฯ และ

3.         เมื่อสินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว เราอาจใช้กิจกรรมประชาสัมพันธ์ เช่น งานชุมชนสัมพันธ์ งานสื่อมวลชนสัมพันธ์ มาสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบริษัทกับบุคคลฝ่ายต่างๆ หรือเพื่อสนับสมุน ร่วมมือในระยะยาวได้

9.         การจัดรายการชิงโชค ชิงรางวัล เป็นกิจกรรมใด

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) คือ การจูงใจให้เกิดการซื้สนค้าโดยฉับพลัน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ

1.         การส่งเสริมการขาย ต่อผู้ขายปลีก เช่น การให้ส่วนลดต่างๆ เป็นต้น

2.         การส่งเสริมการขายต่อพนักงานขาย เช่น การประชุมการขาย การฝึกอบรม หรือการแข่งขันทางการขาย เป็นต้น

3.         การส่งเสริมการขายต่อผู้บริโภค เช่น การจัดรายการชิงโชค ชิงรางวัล หรือการลด แลก แจก แถม เป็นต้น

10.       การโฆษณาสถาบัน จัดเป็นโฆษณาประเภทใด

(1)     การโฆษณาส่งเสริมการขาย   (2) การโฆษณาแนวความคิด

(3) การโฆษณาเพื่อการประชาสัมพันธ์           (4) การโฆษณาระดับนานาชาติ

ตอบ 3 คูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

11.       การโฆษณาระดับชาติส่วนใหญ่จะเป็นการโฆษณาประเภทใด

(1) การโฆษณาชื่อยี่ห้อ           

(2) การโฆษณาโดยผู้ค้าส่ง

(3) การโฆษณาโดยผู้ค้าปลีก  

(4) การโฆษณาโดยปัจเจกชน

ตอบ 1 การโฆษณาระดับชาติ (National Advertising) หรือบางครั้งอาจเรียกว่า การโฆษณาชื่อยี่ห้อ (Brand Advertising) โดยการโฆษณาทางสื่อมวลชนส่วนใหญ่จะเป็นการโฆษณาระดับชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมักเป็นการโฆษณาภายใต้ชื่อยี่ห้อหรือตราสินค้าโดยผู้อุปถัมภ์ที่เป็นผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวของ สินค้ายี่ห้อนั้น

12.       ในปัจจุบันสื่อมวลชนมองผู้รับสารในฐานะอะไร

(1)       มวลชน            

(2)       สาธารณชน

(3)       กลุ่มสังคม       

(4)       ตลาด

ตอบ 4 ในปัจจุบันสื่อมวลชนจะมองผู้รับสารในฐานะตลาด (Market) หรือกลุ่มเป้าหมาย (Target Group) ซึ่งจะมี ความสำคัญสำหรับผู้ส่งสาร 2 ประเภท คือ

1.         เป็นผู้บริโภคของผลผลิตที่จะขาย

2.         เป็นผู้รับสารจากโฆษณา ซึ่งเป็นรายได้หลักของสื่อมวลชน

13.       แบบจำลองลำดับขั้นของการตอบสนองสาร ข้อใดที่พัฒนามาจากแบบจำลองกระบวนการขายโดยใช้พนักงานขาย

(1) AIDA Model (2) Hierarchy of Effects Model

(3)       Innovation Adoption Model  (4)       Information-processing  Model

ตอบ 1

14.       ข้อใดคือกระบวนการตอบสนองตามแบบจำลอง Hierarchy of Effects Model

(1)       ความใส่ใจ ความสนใจ ความต้องการ การกระทำ

(2)       การรู้จัก ความรู้ ความชอบ ความพึงพอใจ ความมั่นใจ การซื้อ

(3)       ความใส่ใจ การรู้จัก ความรู้ ความชอบ ความมั่นใจ การซื้อ

(4)       การรู้จัก ความเข้าใจ การยอมรับ ความมั่นใจ การเกิดพฤติกรรม

ตอบ 2 แบบจำลองลำดับขั้นของผลกระทบ (Hierarchy of Effects Model) จะเสนอว่าการตัดสินใจซื้อ

15.       กระบวนการตอบสนองสารขั้นใดที่สำคัญที่สุดสำหรับการโฆษณา

(1)     การนำเสนอ     (2)       ความสนใจ

(3)       ความใส่ใจ       (4)       การจดทำ

ตอบ 4 ขั้นการจดจำ (Retention) เป็นขั้นตอนที่ผู้บริโภคสามารถจดจำข้อมูลข่าวสารที่เขาเข้าใจได้และเป็น ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับการโฆษณา เพราะแผนงานรณรงค์ทารงการโฆษณาส่วนใหญ่ไม่สามารถทำให้ผู้บริโภค มาซื้อสินค้าได้ในทันที แต่การโฆษณามุ่งหวังที่จะนำเสนอข่าวสารข้อมูลซึ่งผู้บริโภคจะนำมาใช้ประกอบการ ตัดสินใจได้ภายหลังหรือเมื่อใดก็ตามที่เขาจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการ

16.       ลีลาการสื่อสาร มีความสำคัญอย่างไร

(1)       เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกระบวนการสื่อสาร

(2)       เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกรับสาร

(3)       ใช้บอกความหมายของเนื้อหาเรื่องราวที่สื่อสาร

(4)       เป็นสิ่งที่มาเสริมให้ผู้รับสารรับสารได้สะดวกขึ้น

ตอบ 2 ลีลาในการสื่อสาร (Communication Style) ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลือกรับสาร ของมวลชน กล่าวคือ การเป็นผู้รับสารของเรานั้นส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลีลาในการสื่อสารของเรา คือ ความชอบ หรือไม่ชอบสื่อบางประเภท ดังนั้นบางคนจึงชอบฟังวิทยุบางคนชอบดูโทรทัศน์ บางคนชอบอ่านหนังสือพิมพ์ฯลฯ อย่างเช่น วัยรุ่นในกรุงเทพฯ ชอบที่จะฟังวิทยุมากกว่าการใช้สื่อมวลชนประเภทอื่น เป็นต้น

17.       การที่นักศึกษาเลือกที่จะฟังรายการวิทยุมากกว่าชมรายการโทรทัศน์ เป็นกระบวนการเลือกรับสารขั้นใด

(1)       การเลือกใส่ใจ (2) การเลือกรับรู้

(3) การเลือกเปิดรับ     (4) การเลือกที่จะจดจำ

ตอบ 3 การเลือกเปิดรับ (Selective Exposure) เป็นพฤติกรรมการเลือกรับสารของประชาชนที่อาจมีความพอใจ หรือไม่พอใจที่จะรับสารจากแต่ละสื่อแตกต่างคันไป เช่น การเลือกฟังรายการวิทยุมากกว่าชมรายการโทรทัศน์ โดยปกติแล้วเราจะเลือกเปิดรับและจดจำสารที่มีเนื้อหาสอดคล้องคับรสนิยม ทัศนคติ ความคิด ความชอบ ความเชื่อ ค่านิยมที่มีอยู่ตลอดจนประสบการณ์เดิมของตน และการมองตนเอง (Selfl-concept)

18.       ท่านคิดว่าข้อความใดถูกต้องที่สุด

(1)       เนื้อหาในสื่อมวลชนจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้โฆษณา

(2)       สื่อมวลชนปัจจุบันมีโฆษณามากจนกระทั่งผู้รับสารไม่สนใจ

(3)       การโฆษณาทำให้ประชาชนมีรสนิยมต่ำ

(4)       สื่อมวลชนในปัจจุบันมีโฆษณาน้อยเกินไป

ตอบ 2 ในปัจจุบันสื่อมวลชนจะมีข่าวสารการโฆษณาที่ปรากฏอยู่ในรูปของชิ้นงานโฆษณาหรือสิ่งโฆษณา (Advertisement) ที่ได้เห็น ได้ยิน (ฟัง) ได้อ่านจากสื่อมวลชนหรือสื่อโฆษณาต่างๆ เป็นจำนวนมากจนกระทั่งผู้รับ สารไม่ให้ความสนใจ โดยจะมีโฆษณาเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ที่ผู้รับสารจะรับและจดจำได้ หรือสิ่งโฆษณาที่ปรากฏทางสื่อมวลชนนั้นไม่ความน่าสนใจหรือไร้รสนิยม ก็จะยิ่งทำให้ผู้ชมหรือผู้ฟังมองว่าเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ และรู้สึก ไม่ดีต่อสินค้าที่โฆษณาได้

19.       การสร้างภาพลักษณ์ของสินค้า จะต้องทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้อย่างไร

(1)       รับรู้ตามความเป็นจริง

(2)       รับรู้ว่าสินค้ามีค่ากว่าที่เป็นจริง

(3)       รับรู้เกี่ยวกับราคาสินค้า

(4)       รับรู้อย่างไรก็ได้ขึ้นอยู่กับการตีความ

ตอบ 2 เนื่องจากการรับรู้ของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญมาก นักการตลาดจึงมักตั้งนิยามของสินค้าว่า สินค้าหรือสิ่งที่ ผู้บริโภคมองว่ามันเป็น” ดังนั้นการโฆษณาที่ดีต้องสามารถสร้างคุณค่าเพิ่ม (Added Value) ให้กับผลิตภัณฑ์ หรือ สร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ว่าสินค้านั้นมีค่ามากกว่าที่เป็นอยู่จริง (Consumer’s Surplus)และจะต้องไม่ให้ผู้บริโภคมองว่าสินค้านั้นมีค่าน้อยกว่าที่เป็นอยู่จริง (Consumer’s Deficit) ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดราคาสินค้านั่นเอง

20.       มนุษย์เลือกรับและจดจำสารที่มีเนื้อหาอย่างไร

(1)       ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก    (2) สอดคล้องกับความชอบและค่านิยมที่มีอยู่

(3) ซับซ้อน เข้าใจยาก (4) แปลกใหม่ ขัดแย้งกับค่านิยมที่มีอยู่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ

21.       การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพของสินค้า เป็นการศึกษาวิเคราะห์อะไรบ้าง

(1)       หน่วยการจำหน่าย ขนาดการจำหน่าย

(2)       ราคา การจัดจำหน่าย

(3)       ชื่อเสียง และประสบการณ์ของบริษัท

(4)       ส่วนผสม องค์ประกอบ สี ขนาด

ตอบ 4 หน้า 99 การศึกษาคุณลักษณะหรือคุณสมบัติทางกายภาพของสินค้า เป็นการศึกษาถึงลักษณะที่มีอยู่ใน ตัวสินค้าทั้งหมด เช่น คุณสมบัติของสินค้า ส่วนผสม องค์ประกอบ สี ขนาด คุณภาพ ราคา ชื่อยี่ห้อ ประโยชน์ใช้ สอย ฯลฯ ซึ่งการศึกษาถึงลักษณะของสินค้านี้ จะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถวิเคราะห์ถึงจุดเด่นและจุดด้อยของสินค้า ที่โฆษณาไค้ และทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดเพื่อเสริมลักษณะเด่นของสินค้าให้เห็นเด่นชัดยิ่งขึ้น

22.       Brand Advertising เป็นการโฆษณาโดยผู้โฆษณาประเภทใด

(1)       ผู้ผลิต  

(2)       ผู้จัดจำหน่าย

(3)       สถาบัน            

(4)       ปัจเจกชน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

23.       การที่นักศึกษาอ่านชีทสรุปและข้อสอบเก่าแทนการอ่านหนังสือ เนื่องจากปัจจัยใด

(1)       ความต้องการ  (2)       ทัศนคติและค่านิยม

(3)       ประสบการณ์และนิสัย            (4)       ความสามารถ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ความสามารถ (Capability) เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลือกรับ สารของคนเรา เพราะความสามารถของเราเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ความสามารถด้านการเรือนรู้ ด้านการรับรู้ และด้านภาษา ฯลฯ มีอิทธิพลต่อเราในการที่จะเลือกรับข่าวสาร เลือกดีความหมายของข่าวสาร และเลือกเก็บเนื้อหา ของข่าวสารนั้นไว้เช่น นักศึกษารามคำแหงจำนวนมากที่อ่านชีทสรุปและข้อสอบเก่าแทนการอ่านหนังสือเรียนที่มี เนื้อหาโดยละเอียดเป็นต้น

24.       4As” หมายถึงอะไร

(1) ตัวแทนการโฆษณา           (2) ตัวแทนโฆษณาอิสระ

(3) ตัวแทนโฆษณา      (4) สมาคมตัวแทนโฆษณาแห่งสหรัฐอเมริกา

ตอบ 4 สมาคมตัว.แทนโฆษราแห่งสหรัฐอเมริกา (American Association of Advertising Agencies หรือ AAAA หรือ 4As ได้ให้นิยามว่า ตัวแทนการโฆษณา หมายถึง ธุรกิจที่เป็นอิสระ ประกอบด้วย บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างสรรค์และทางด้านธุรกิจซึ่งทำหน้าที่พัฒนา ตระเตรียม และลงโฆษณาในสื่อโฆษณา โดยทำหน้าที่แทนผู้โฆษณาซึ่งต้องการโฆษณาไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสำหรับสินค้าและบริการของตน

25.       หน่วยงานใดในบริษัทตัวแทนโฆษณาที่ทำหน้าที่ประสานงานกับบริษัทผู้โฆษณา

(1)       ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์       (2) ฝ่ายบริหารงานลูกค้า

(3) ฝ่ายบริหารงานทั่วไป         (4) ฝ่ายการตลาด

ตอบ 2 หน้าที่ของฝ่ายบริหารงานลูกค้า (Account Service Department) บริษัท (ตัวแทน ) โฆษณา จะมี ดังต่อไปนี้

1.         ติดต่อ บริการ และประสานงานกับลูกค้าหรือบริษัทผู้โฆษณาอย่างใกล้ชิด

2.         กำหนดกลยุทธ์การโฆษณาเบื้องด้นสำหรับบริษัทโฆษณา

3.         นำเสนอแผนงานทั้งหมดให้ลูกค้าพิจารณาให้ความเห็นชอบ

4.         ติดตามดูแลการปฏิบัติงานของฝ่ายต่างๆ ว่าเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าหรือไม่ เป็นต้น

26.       การศึกษากลุ่มเป้าหมายก่อนการทำโฆษณา ได้แก่การศึกษาในเรื่องใดบ้าง

(1)       องค์ประกอบของตลาด ส่วนแบ่งการตลาด

(2)       ลักษณะของสินค้า คุณภาพของสินค้า ราคา การจัดจำหน่าย การส่งเสริมการขาย

(3)       ค่านิยม ทัศนคติ แรงจูงใจ รูปแบบการดำเนินชีวิต

(4)       ผลการวิจัยทางด้านสื่อโฆษณา ผลการวิเคราะห์ค่าความนิยมของรายการ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การศึกษาวิจัย (Research) ก่อนการทำโฆษณา จะเป็นการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ดังนี้

1.         การศึกษาวิจัยทางการตลาด ได้แก่เรื่อง องค์ประกอบของตลาด ส่วนแบ่งการตลาด ฯลฯ

2.         การศึกษาวิจัยกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่เรื่อง ความสนใจทัศนคติ ค่านิยม แรงจูงใจ รูปแบบการดำเนินชีวิต ฯลฯ

3.         การศึกษาวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ได้แก่เรื่อง ลักษณะของสินค้า คุณภาพของสินค้า ราคา การจัดจำหน่าย การส่งเสริมการขาย ฯลฯ

4.         การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสื่อโฆษณา ได้แก่เรื่องผลการวิจัยด้านสื่อโฆษณา หรือผลการวิเคราะห์ค่าความ นิยมของรายการ ฯลฯ

27.       หากจะโฆษณาบริการเสริมความงามและลดความอ้วน ค่าบริการคอร์สละ 60,000 บาท ควรจะกำหนด กลุ่มเป้าหมายใด

(1)       A-B   (2) B-C

(3) C-D        (4) D-E

ตอบ 1 การแบ่งส่วนตลาดโดยการพิจารณาจากรายได้อาชีพ และการศึกษา หรือสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ (Socio-economic Status ะ SES) จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับดังนี้

1.         คือ กลุ่มคนที่มีรายได้สูง การศึกษาสูง และมีอาชีพเป็นที่ยกย่อง

2.         คือ กลุ่มคนที่มีรายสูง แค่อาจมีการศึกษาตา บางทีเรียกว่าพวกเศรษฐีใหม่

3.         คือ เจ้าของกิจการรายย่อย มีธุรกิจเป็นของตนเอง มีการศึกษาปานกลาง

4.         คือ กลุ่มคนที่มีรายได้ไมสูงนัก มีอาชีพไม่เป็นที่ยกย่อง เช่น ข้าราชการชั้นผู้น้อย

5.         คือ กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ไม่มีทักษะ มีรายได้ต่ำ ขาดการศึกษา

28.       ฝ่ายใดที่รับผิดชอบกำกับดูแลการทำงานของ Production House

(1)       ฝ่ายผลิตในบริษัทผู้โฆษณา

(2)       ฝ่ายโฆษณาในบริษัทผู้โฆษณา

(3)       ฝ่ายสร้างสรรค์งานโฆษณาในบริษัทตัวแทนโฆษณา

(4)       ฝ่ายสื่อโฆษณาในบริษัทตัวแทนโฆษณา

ตอบ 3 ฝ่ายสร้างสรรค์งานโฆษณา (Creative Department) จะมีหน้าที่รับผิดชอบที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์งาน โฆษณา กำหนดแนวความคิด สร้างและผลิตสิ่งโฆษณาทั้งหมดเพื่อให้ได้ผลงานที่สามารถสื่อความหมายเกี่ยวกับ สินค้าหรือบริการได้ดีที่สูด นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รับผิดชอบและกำหนดดูแลการทำงานของบริษัทหรือโปรดักชั่น เฮาส์ (Production House) ที่รับจ้างผลิตภาพยนตร์หรือสิ่งพิมพ์ที่เป็นสิ่งโฆษณา

29.       ข้อใดหมายถึงผังโฆษณาของภาพยนตร์โฆษณา

(1)     Layout      (2) Dummy

(3) Storyboard (4) Artwork

ตอบ 3 (คำบรรยาย) Storyboard หมายถึง ผังโฆษณาของชิ้นงานโฆษณาทางโทรทัศน์ โดยจะแสดงให้เห็นถึง ลำดับภาพของภาพยนตร์โฆษณา (ส่วน Layout หมายถึง ผังโฆษณาของสิ่งโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์เช่น หนังสือพิมพ์นิตยสาร ฯลฯ, Dummy หมายถึง การวางผังโฆษณาโดยตรงและการโฆษณา ณ จุดซื้อและ Artwork หมายถึง ต้นฉบับสำหรับชิ้นงานโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์)

30.       ข้อใดคือลักษณะสำคัญของผู้เขียนข้อความโฆษณา

(1)       มีมนุษยสัมพันธ์กับทุกฝ่าย

(2)       มีความสามารถในการเจรจาต่อรอง

(3)       มีความคิดสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

(4)       มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่สนใจความคิดของผู้อื่น

ตอบ 3 ผู้เขียนข้อความโฆษณา (Copy Writer) จะเป็นผู้ทำหน้าที่คิดและเขียนข้อความโฆษณาโดยเลือกใช้ถ้อยคำ ภาษาที่ดึงดูดความสนใจ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ รวมทั้งจะต้องพยายามสร้างความประทับใจให้ ผู้อ่านหรือได้ยินข้อความโฆษณานั้นสามารถจดจำได้ดังนั้นลักษณะที่สำคัญของผู้เขียนข้อความโฆษณา ก็คือ จะต้อง มีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษา มีความคิดสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ เป็นต้น

31.       ข่าวสารการโฆษณาปรากฏอยู่ในรูปใด

(1)       ข้อความ           

(2) สื่อโฆษณา

(3) ชิ้นงานโฆษณา      

(4) คำพูดและรูปภาพ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 18. ประกอบ

32.       เหตุใดการจ้างบริษัทโฆษณาอิสระ จึงเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า  

(1) สามารถควบคุมการโฆษณาได้ทุกชิ้นงาน

(2)       สามารถแน่ใจได้ว่าดำเนินงานภายใต้จุดมุ่งหมายขององค์การ

(3)       มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

(4)       ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ

ตอบ 4 เหตุผลหนึ่งที่ผู้โฆษณาส่วนใหญ่นิยมจ้างบริษัทโฆษณาอิสระ (Independent Agency) ก็คือ การลงทุนที่ ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทโฆษราอิสระจะประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นักวิจัย นักวางแผน นักคิด นักเขียน และฝ่ายสื่อโฆษณาที่มีความสัมพันธ์กับสื่อ นอกจากนี้ก็ยังจะได้ทีมงานที่มี ความเชี่ยวชาญสูงและเป็นมืออาชีพมาวางแผน ทำให้ผู้โฆษณาประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการวิจัยและหาข้อมูล เพราะบริษัทโฆษณาอิสระส่วนใหญ่จะมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว

33.       ฝ่ายใดที่รับผิดชอบควบคุมการซื้อสื่อให้ได้ผลคุ้มค่ามากที่สูด

(1) ฝ่ายโฆษณา          (2) ฝ่ายบริหารงานลูกค้า

(3) ฝ่ายสื่อโฆษณา      (4) ฝ่ายบริหารงานทั่วไป

ตอบ 3 หน้าที่และความรับผิดชอบของฝ่ายสื่อโฆษณา (Media Department) มีดังนี้

1.         เป็นผู้วางแผนเกี่ยวกับการใช้และการซื้อสื่อโฆษณา ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2.         วางกลยุทธ์ในการใช้สื่อโฆษณา

3.         ติดต่อจองเนื้อที่โฆษณา และซื้อเนื้อที่โฆษณาให้เป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้

4.         ควบคุมการซื้อสื่อโฆษณาให้ได้ผลคุ้มค่ามากที่สูด

5.         จัดสรรและควบคุมการใช้งบประมาณ รวมทั้งติดตามการใช้สื่อของคู่แข่งขัน ฯลฯ

34.       ข้อใดเป็นผู้เขียนหรือสร้างสรรค์ภาพโฆษณา

(1) Visualizer     (2) Copy Writer

(3) Managing Director       (4) Traffic Co-ordinater

ตอบ 1 Visualizer คือ ผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดความคิดเกี่ยวกับสิ่งโฆษณาให้ปรากฏออกมาเป็นภาพ โดยการวาดภาพ ลายเส้น การทำระบายสี หรือการทำภาพกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์จนได้ผลงานเป็นผังโฆษณา (Layout) ของสิ่ง โฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ และ Storyboard ที่แสดงให้เห็นการลำดับภาพของภาพยนตร์โฆษณา

35.       กระบวนการรับของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร

(1)       ปัจจัยภายใน เช่น เพศ อายุ การศึกษา รายได้

(2)       ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง

(3)       ปัจจัยภายใน เช่น ความเชื่อ ประสบการณ์ และปัจจัยภายนอก ได้แก่ ลักษณะของสิ่งเร้า

(4)       เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคนไม่เกี่ยวกับปัจจัยใด ๆ

ตอบ 3 “การรับรู” เป็นกระบวนการที่บุคคลรับ เลือก จัดการ และตีความข่าวสารเพื่อทำให้เกิดภาพที่มีความหมาย ขึ้น โดยกระบวนการรับรู้ของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของบุคคลคนนั้น เช่น ความเชื่อ ประสบการณ์ ความ ต้องการ อารมณ์และความคาดหวัง รวมทั้งปัจจัยภายนอก ได้แก่ คุณลักษณะของสิ่งเร้า เช่น ขนาด สี และความเข้ม ตลอดจนสิ่งแวดล้อมที่ข่าวสารนั้นถูกเห็นหรือได้ยินด้วย

36.       กรอบของการอ้างอิง (Frame of Reference) ประกอบด้วยอะไรบ้าง

(1)       กฎ ระเบียบ บรรทัดฐานทางสังคม

(2)       ความมีระเบียบวินัย

(3)       จิตสำนึกของแต่ละคน

(4)       การเรียนรู้ ประสบการณ์ ทัศนคติ บุคลิกภาพ และภาพลักษณ์ต่อตนเอง

ตอบ 4 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกรอบของการอ้างอิง (Frame of Reference) ประกอบด้วย การเรียนรู้ ประสบการณ์ ทัศนคติ บุคลิกภาพ และภาพลักษณ์ต่อตนเอง (Self-image)

37.       รูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย พิจารณาจากอะไร

(1)       การเป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง หรือชั้นต่ำ

(2)       การเป็นคนชอบอยู่นอกบ้านหรือในบ้าน

(3)       การเป็นคนเปิดเผยหรือปิดบัง

(4)       ความภักดีต่อยี่ห้อสินค้า

ตอบ 2 รูปแบบการดำเนินชีวิต (Life Style) หมายถึง รูปแบบการใช้ชีวิตของบุคคลซึ่งแสดงออกผ่านกิจกรรม ต่างๆ ของเขา.เป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่บุคคลนั้น ๆ จัดการกับชีวิตของตนเอง เช่น การแบ่งเวลา การใช้ พลังงาน การใช้เงิน ฯลฯ รูปแบบการดำเนินชีวิต และค่านิยมจะอธิบายถึงความสนใจ ความคิดเห็น ความเชื่อ ตลอดจนพฤติกรรมของบุคคลได้

38.       การกำหนดลักษณะของกลุ่มเป้าหมายตามลักษณะทางทะเบียนภูมิหลังมีประโยชน์ต่อการโฆษณาอย่างไร

(1)       ช่วยให้การโฆษณาเป็นไปอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น

(2)       ช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

(3)       ช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

(4)       ช่วยให้วางแผนการรณรงค์ทางการโฆษณาได้อย่างสมบูรณ์

ตอบ 2 การแบ่งส่วนตลาดตามลักษณะทางทะเบียนภูมิหลัง เช่น อายุ เพศ สถานภาพ ครอบครัวการศึกษา อาชีพ และรายได้ จะมีประโยชน์ต่อการโฆษณา เพราะช่วยให้เข้าใจ กลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากนักโฆษณาทราบ ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นเพศใด จะทำให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งโฆษณาให้สอดคล้องกับการรับรู้และความสนใจของ ผู้บริโภคได้ ฯลฯ

39.       สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม (SES) พิจารณาจากอะไร

(1) เพศ การศึกษา ฐานะทางสังคม     (2) รายได้ศึกษา อาชีพ

(3) เพศอายุการศึกษา (4) สถานภาพสมรส ถิ่นที่อยู่อาชีพ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 27. ประกอบ

40.       การโฆษณาที่ดีควรทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ที่เกี่ยวกับสินค้าในลักษณะใด

(1) Consumer’s Plus  (2) Consumer’s Surplus

(3) Consumer’s Deficit       (4) Consumer’s Utility

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ

41.       Consumer’s Profile หมายถึงอะไร

(1)       พฤติกรรมของผู้บริโภค            

(2) กระบวนการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภค

(3) พฤติกรรมการชื้อและใช้สินค้า       

(4) ลักษณะร่วมของกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 4 Consumer’s Profile หมายถึง ลักษณะร่วมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราสามารถอธิบายลักษณะร่วมของกลุ่มเป้าหมายหรือลักษณะของกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเป็นผู้สนใจข่าวสารการโฆษณาของเราอย่างจริงจังได้โดยอาศัยลักษณะทางทะเบียนภูมิหลังและลักษณะทางจิตวิทยาประกอบกัน

42.       ธรรมชาติการรับรู้ของมนุษย์เป็นอย่างไร

(1)       จัดการสิ่งที่รับรู้ให้มีความซับซ้อนขึ้น

(2)       เพ่งความสนใจไปที่สิ่งเร้าทั้งหมดพร้อมกัน

(3)       แยกแยะสิ่งที่อยู่ใกล้กันออกจากกัน

(4)       มักจะเติมสิ่งที่ขาดหายไป

ตอบ 4 ธรรมชาติการรับรู้ของมนุษย์จะมีลักษณะตังต่อไปนี้

1.         คนเราจะจัดสิ่งที่เขารับรู้ให้อยู่ในรูปแบบที่ง่ายขึ้น

2.         คนเราจะเพ่งความสนใจไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของสิ่งเร้าทั้งหมด

3.         คนเรามักเชื่อมโยงความสมพันธ์ระหว่างสิ่งที่อยู่ใกล้กันเข้าด้วยกัน

4.         คนเรามักจะเติมสิ่งที่ขาดหายไปในสิ่งเร้า

43.       การเรียนรู้เป็นผลมาจากอะไร

. (1) บุคลิกภาพ           (2) แรงจูงใจ

(3) การรับรู้และตีความ           (4) ความต้องการ

ตอบ 3 การเรียนรู้ (Learning) เป็นผลมาจากการรับรู้และตีความเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งกระบวนการเรียนรู้จะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวนับตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตและดำเนินต่อเนื่องมาจนตลอดชีวิตของคนเรา ดังนั้นหากนัก โฆษณาได้ทำความเข้าใจว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างไร ก็จะสามารถออกแบบข่าวสารการโฆษณาหรือองค์ประกอบ สำคัญ ๆ ในสิ่งโฆษณา เช่น ชื่อยี่ห้อ หรือรูปลักษณ์ของสินค้า ฯลฯ ที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดการเรียนรู้ได้เช่นกัน

44.       ทฤษฎี Cognition Learning กล่าวถึงการเรียนรู้อย่างไร

(1)       การเรียนรู้เกิดขึ้นจากประสบการณ์

(2)       การเรียนรู้เป็นผลจากการทดลอง

(3)       การเรียนรู้เกิดขึ้นจากการลงมือทำ

(4)       การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการใช้ปัญญาคิด แม้ไม่เคยได้รับประสบการณ์ตรง

คอบ 4 ทฤษฎีการเรียนรู้ที่เกิดจากวิจารณญาณ (Cognition Learning) จะกล่าวถึงการเรียนรู้ว่าเกิดขึ้นได้จากการ ใช้ปัญญาหรือคิดอย่างมีเหตุผล แม้ยังไม่เคยได้รับเงื่อนไขโดยตรงหรือประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับสิ่งนั้น เช่น ผู้บริโภคไม่เคยทดลองใช้สินค้า มาก่อนแต่พอได้ชมภาพยนตร์โฆษณาของสินค้าตัวนั้นจากวิทยุโทรทัศน์ ก็จะสามารถใช้สติปัญญาและความคิดในการเชื่อมโยงหรือประมวลข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน และหาข้อสรุปเกี่ยวกันสินค้า นั้นได้

45.       “Self-concept” หมายถึงอะไร

(1)       การที่บุคคลมีใจโน้มเอียงหรือความรู้สึกต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

(2)       ผลรวมของอุปนิสัยที่ทำให้บุคคลหนึ่งแตกต่างจากบุคคลอื่น

(3)       อัตมโนทัศน์หรือการมองตนเอง .

(4)       รูปแบบการใช้ชีวิตซึ่งแสดงออกผ่านกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

ตอบ 3 อัตมโนทัศน์หรือการมองตนเอง (Self-concept) จะหมายถึง การที่เราสามารถมองเห็นภาพของความเป็น ตัวตนของเรา และสามารถประเมินตนเองได้ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไรซึ่งการทำความเข้าใจใน Self-Concept จะมี ประโยชน์ต่อการทำโฆษณาสินค้าที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของผู้ใช้ เช่น เสื้อผ้า รถยนต์ บ้าน เครื่องสำอาง สินค้า แฟชั่น ฯลฯ โดยนักโฆษณาจะสามารถพัฒนาภาพลักษณ์ของสินค้าให้สอคล้องกับภาพลักษณ์ของกลุ่มเป้าหมายได้

46.       ข้อใดเป็นลักษณะทางวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ

(1)       ค่านิยม            (2)       ความเชื่อ

(3)       ปทัสถานทางสังคม     (4)       แฟชั่น

ตอบ 1 วัฒนธรรม (Culture) คือ สิ่งที่คนเราปฏิบัติต่อเนื่องกันมาช้านาน โดยจะเป็นสิ่งที่แสดงถึงค่านิยม ปทัสถานทางวัฒนธรรม และประเพณีของคนในสังคม ที่จะเป็นตัวกำหนดความถูกผิดหรือเป็นสิ่งชี้นำให้ พฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น คนในสังคมบริโภคนิยม ก็จะมีพฤติกรรม การซื้อสินค้าตามความนิยม ตามแฟชั่น โดยมิได้คำนึงถึงเหตุผลหรือความจำเป็น เป็นต้น

47.       ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในอาชีพปานกลาง มีอาชีพเป็นหลักฐาน ได้แก่ คนในกลุ่มชนชั้นใด

(1)       Lower – upper Class (2)       Upper – middle Class

(3)       Lower — middle Class     (4)       Upper – lower Class

ตอบ 2 วอร์เนอร์ (Warner WLloyd) ได้แบ่งชนชั้นทางสังคมออกเป็น 6 ชนชั้น ดังนี้

1.         ชนชั้นสูงระดับสูง (Upper-upper Class) เป็นพวกปัญญาชนที่มีตระกูลเก่า มีความมั่งคั่ง เป็นผู้ดีเก่า

2.         ชนชั้นสูงระดับต่ำ (Lower-upper Class) เป็นพวกเศรษฐีใหม่ มีการศึกษาไม่สูงนัก

3.         ชันชั้นกลางระดับสูง (Upper-middle Class) เป็นครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในอาชีพปานกลาง มี อาชีพเป็นหลักฐาน

4.         ชนชั้นกลางระดับต่ำ (Lower-middle Class) เช่น พวกเสมียน พนักงานคนงานผีมือ

5.         ชนชั้นต่ำระดับสูง (Upper-lower Class) เช่น คนงานกรรมการที่ไมมีฝีมือ

6.         ชนชั้นต่ำระดับต่ำ (Lower-lower Class) เช่น คนงานกรรมการที่ไม่มีฝีมือ คนยากจนผู้มีรายได้น้อย

48.       กลุ่มอ้างอิง มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าอย่างไร

(1)       คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะซื้อสินค้าตามกลุ่มอ้างอิง

(2)       คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตนตามปทัสถานของกลุ่มอ้างอิง

(3)       คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นมองว่าเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มอ้างอิง

(4)       คนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามปทัสถานของกลุ่มอ้างอิงเชิงบวก

ตอบ 4 นักการตลาดจะมองว่ากลุ่มอ้างอิงมีความสำคัญมากและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้า เพราะคนส่วน ใหญ่จะปฏิบัติตามปทัสถาน (Norms) ของกลุ่มอ้างอิงเชิงบวกโดยจะซื้อหรือใช้สินค้าตามกลุ่มอ้างอิงนั้น และจะ หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตนตามปทัสถานของกลุ่มอ้างอิงเชิงลบ หรือกลุ่มที่เขาไม่อยากให้มองว่าเขาเป็นคนพวกนั้น

49.       ข้อใดเป็นตัวอย่างของสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ

(1) การจัดวางสินค้าให้สวยงามน่าซื้อ  (2) กลุ่มบุคคลรอบข้างที่อยู่ด้วยในขณะที่ซื้อ

(3)       ช่วงเวลาหรือฤดูกาลที่ทำให้จำเป็นต้องซื้อ

(4)       สภาวะเศรษฐกิจ

ตอบ 2 สถานการณ์แวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค จะประกอบไปด้วย

1.         สิ่งแวดค้อมทางกายภาพ เช่น การตกแต่งหรือการจัดวางสินค้าให้สวยงามน่าซื้อ ฯลฯ

2.         สิ่งแวดค้อมทางสังคม หมายถึง กลุ่มบุคคลรอบข้างที่อยู่ด้วยในขณะที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าหรือใช้ บริการ

3.         สิ่งแวดล้อมทางด้านเวลา หมายถึง ช่วงเวลาหรือฤดูกาลที่เหมาะสมที่ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องซื้อสินค้า

50.       วิธีการกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยอาศัยราคา/คุณภาพ เหมาะสำหรับใช้กับสินค้าประเภทใด

(1) สินค้าราคาถูก        (2) สินค้าที่ไม่มีคู่แข่งมาก

(3) สินค้าคุณภาพสูง ราคาสูง (4) สินค้าที่มีคุณภาพ

ตอบ 3 วิธีการกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยอาศัยราคาและคุณภาพ ถือเป็นวิธีหนึ่งที่นักการตลาดนิยมใช้โดย การเสนอข่าวสารการโฆษณาที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของตราสินค้า ว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูงเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับราคาเป็นอันดับรองลงไป ซึ่งสินค้าที่มีคุณภาพสูง ราคาสูง มักนิยมที่จะใช้การวางตำแหน่ง ผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีนี้

51.       ข้อใดเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของแผนงานโฆษณา

(1)       วัตถูประสงค์ สื่อโฆษณา ความคุ้มค่าด้านราคา

(2)       ข้อมูลเชิงปริมาณ การส่งเสริมการขาย การแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก

(3)       การกำหนดวัตถุประสงค์ การกระจายสินค้า การกำหนดตำแหน่งการโฆษณา

(4)       การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย กลยุทธ์ด้านข่าวสาร กลยุทธ์ด้านสื่อโฆษณา

ตอบ 4 องค์ประกอบพื้นฐานของแผนงานโฆษณา (An Advertising Plan) จะมี 3 ประการคือ

1.         การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

2.         กลยุทธ์เกี่ยวกับข่าวสาร

3.         กลยุทธ์ทางด้านสื่อโฆษณา

52.       การวิเคราะห์สถานการณ์ที่เป็นปัจจัยภายใน ได้แก่ การวิเคราะห์ในเรื่องใดบ้าง

(1)       ต้นทุนการผลิต ส่วนแบ่งการตลาด โครงการส่งเสริมการขาย

(2)       โครงการส่งเสริมการขาย การแบ่งส่วนตลาด สภาพการแข่งขัน

(3)       ต้นทุนการผลิต สภาพการแข่งขัน พฤติกรรมผู้ผลิต

(4)       สภาพการแข่งขัน พฤติกรรมผู้บริโภค กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ตอบ 1 การวิเคราะห์สถานการณ์ คือ การศึกษาหาข้อมูลทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นภาวการณ์ที่ บริษัทกำลังเผชิญอยู่ โดยจะประกอบด้วยการวิเคราะห์ใน 2 ปัจจัยคือ

1.         ปัจจัยภายใน ได้แก่ ต้นทุนการผลิต ส่วนแบ่งการตลาด โครงการส่งเสริมการขาย ลักษณะเด่นของ สินค้า แผนงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฯลฯ

2.         ปัจจัยภายนอกได้แก่ สภาพการแข่งขัน พฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่งขัน กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ฯลฯ

53.       วัตถุประสงค์การโฆษณาจะต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับอะไร

(1)       สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

(2)       วัตถุประสงค์ของกลุ่มเปาหมาย

(3)       วัตถุประสงค์ขององค์กรสื่อโฆษณา

(4)       วัตถุประสงค์การส่งเสริมการตลาด

ตอบ 4 สิ่งสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาประกอบการกำหนดวัตถุประสงค์การโฆษณา คือ

1.         วัตถุประสงค์การโฆษณาจะต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์การผู้โฆษณา หรือ บริษัทผู้โฆษณา วัตถุประสงค์ทางการตลาดและวัตถุประสงค์การส่งเสริมการตลาด

2.         เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้ภายในระยะเวลา งบประมาณ และทรัพยากรที่มีอยู่

3.         เป็นสิ่งที่สามารถวัดหรือประเมินผลได้

4.         ควรมีลักษณะชัดเจน เจาะจง

54.       การหาข้อได้เปรียบในการแข่งขันต้องมีความสัมพันธ์กับอะไร

(1) ขนาดของโฆษณา  (2) การเลือกใช้สื่อโฆษณา

(3) การวิเคราะห์ลักษณะเด่นของสินค้า          (4) สภาพการแข่งขันในตลาด

ตอบ 3 ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน หมายถึง จุดแข็งของสินค้าที่โฆษณา ซึ่งจะต้องมีความสัมพันธ์กับการ วิเคราะห์ลักษณะเด่นของสินค้า โดยจะเป็นการหาข้อได้เปรียบว่าสินค้าของเรามีลักษณะเด่นเป็นพิเศษกว่าสินค้ายี่ห้อ อื่นอย่างไร

55.       บุคลิกตราสินค้ามีความสัมพันธ์กับอะไร

(1) ขนาดของโฆษณา  (2) ภาพลักษณ์ของบริษัทผู้โฆษณา

(3) บุคลิกของสื่อโฆษณา        (4) การมองตนเองของผู้บริโภค

ตอบ 4 การสร้างบุคลิกของตราสินค้า จะเป็นการสร้างบุคลิกภาพที่เด่นชัดให้กับตรายี่ห้อของสินค้า โดยอาศัย คำพูด รูปภาพ อารมณ์ น้ำเสียง และลีลา ที่จะต้องสอดคล้องและกลมกลืนกัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความมั่นใจ และคาดหวังว่าจะได้อะไรจากสินค้า ซึ่งนักโฆษณาเชื่อว่าบุคลิกตราสินค้าควรจะมีความสัมพันธ์กับการมองตนเอง ของผู้บริโภค

56.       แผนการสื่อสารการตลาด มีความหมายตรงกับข้อใด

(1) แผนการส่งเสริมการขาย   (2) แผนการส่งเสริมการตลาด

(3) แผนงานสร้างสรรค์            (4) แผนการใช้สื่อโฆษณา

ตอบ 2 แผนการส่งเสริมการตลาด (The Promotion Plan) เป็นกระบวนการของการสื่อสารเพื่อส่งข่าวสารทางการ ตลาดไปยังผู้บริโภคกลุ่มเปาหมาย ซึ่งแผนการส่งเสริมการตลาดนี้ อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแผนการสื่อสารการตลาด (Marketing Communication Plan)

57.       การโฆษณาที่มีลักษณะของการให้ความรู้หรือเสนอข้อเท็จจริงในแบบการบรรยายเป็นการใช้น้ำเสียงการโฆษณา แบบใด

(1)       Soft Sell   (2) Emotional

(3) Drama (4) Lecture

ตอบ 4 เราสามารถกำหนดน้ำเสียง (Tone) ของการสร้างสรรค์งานโฆษณาได้หลายแนวทางดังนี้

1.         การขายตรงๆ (Hard sell) โดยการกล่าวถึงเหตุผลที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้าเป็นหลัก

2.         การขายอ้อม ๆ (Soft Sell) เป็นการนำเสนอข่าวสารโดยใช้อารมณ์ (Emotional) เป็นหลัก

3.         การบรรยาย (Lecture) เป็นการนำเสนอในลักษณะของการให้ความรู้หรือเสนอข้อเท็จจริงในแบบการ แนะนำหรือการสอน

4.         การละคร (Drama) เป็นการสร้างเรื่องราวหรือบทละครที่แสดงให้เห็นถึงการใช้สินค้าหรือบริการใน สถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง

58.       Appeal หมายถึงอะไร

(1)       ลีลาน้ำเสียงในการโฆษณา     (2) ข้อเสนอเพื่อการขายสินค้า

(3) สิ่งดึงดูดใจในชิ้นงานโฆษณา        (4) วิธีการนำเสนอข่าวสารการโฆษณา.

ตอบ 3 สิ่งดึงดูดใจในชิ้นงานโฆษณา (Appeal) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1.         สิ่งดึงดูดใจที่ใช้เหตุผล (Rational Appeal) เช่น ราคา คุณภาพ ประโยชน์ใช้สอย และคุณสมบัติของ สินค้า เป็นต้น

2.         สิ่งดึงดูดใจที่ใช้อารมณ์ (Emotional Appeal) เช่น งานโฆษณาที่กล่าวถึงความภูมิฐาน ความรัก ความห่วงใย ความลับ เป็นต้น

59.       การประเมินผลการโฆษณาแบบใด เป็นการประเมิลผลหลังจากเผยแพร่โฆษณาทางสื่อต่าง ๆ แล้ว

(1)     Focus Groups  (2) Persuasion Test

(3) Communication Test   (4) In-Market Test

ตอบ 1 การสัมภาษณ์แบบเจาะกลุ่ม (Focus Groups) เป็นวิธีการประเมินผลการโฆษณาโดยสอบถามจากกลุ่ม ตัวอย่าง(ประมาณ8-10คน)ว่าเขาตัดสินใจอย่างไรภายหลังที่ได้เห็นภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์และสิ่งโฆษณาสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว ซึ่งวิธีนี้เป็นที่นิยมมาก ในวงการโฆษณาเนื่องจากเป็นวิธีที่ทำให้ทราบถึงการสื่อสาร กลับ (Feedback) ของผู้รับสารได้ทันทีและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีอื่น

60.       นิสัยการรับสื่อหมายถึงอะไร

(1)       นิสัยของคนเราที่แสดงออกด้วยการใช้ชีวิตในแต่ละวัน

(2)       ลักษณะภายนอกของกลุ่มเป้าหมาย

(3)       ทัศนคติของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อสื่อแต่ละประเภท

(4)       ความชอบที่จะดู ฟัง หรืออ่านสื่อประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นประจำ

ตอบ 4 นิสัยการรับสื่อของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้นักโฆษณารู้ว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของเราชอบที่จะ ดู ฟัง หรืออ่านสื่อประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นประจำ โดยคนต่างวัย ต่างอาชีพ ต่างการศึกษา มักมีนิสัยการรับสื่อที่แตกต่างกัน นอกจากนินิสัยการรับสื่อยังมีความสำคัญต่อการวางแผนสื่อโฆษณา โดยนักโฆษณาจะเลือกสื่อที่ กลุ่มเป้าหมายเปิดรับนั้น

61.       หากสินค้าที่โฆษณาอยู่ในช่วงอิ่มตัว ควรใช้กิจกรรมส่งเสริมการตลาดประเภทใดบ้าง

(1)       ใช้การประชาสัมพันธ์กับการโฆษณา

(2)       การส่งเสริมการขายกับการตลาดแบบเจาะจง

(3)       ใช้การตลาดแบบเจาะจงกับการโฆษณา

(4)       ใช้ทุกประเภท

ตอบ 1 สินค้าที่อยู่ในช่วงอิ่มตัว (Maturity) เป็นช่วงที่สินค้าได้รับการยอมรับพอสมควรแล้วและมีลูกค้าบางกลุ่มที่ สนใจสินค้าของเราเป็นพิเศษ ดังนั้นกิจกรรมส่งเสริมการขายจึงมีความจำเป็นน้อยลง แต่จะเน้นการโฆษณาและการ ประชาสัมพันธ์ เพื่อย่ำถึงภาพลักษณ์ของสินค้าและตราสินค้าเป็นหลัก

62.       กิจกรรมประชาสัมพันธ์ เช่น งานชุมชนสัมพันธ์ งานสื่อมวลชนสัมพันธ์ ควรใช้เมื่อสินค้าอยู่ในช่วงใด

(1)       สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักต้องแนะนำสินค้า

(2)       สินค้าเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว

(3)       สินค้ามีคู่แข่งมากและต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด

(4)       ช่วงที่ผู้บริโภคไม่สนใจสินค้ายี่ห้อนี้แล้วและหันไปใช้ยี่ห้ออื่น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 8 ประกอบ

63.       หากต้องการกระตุ้นการโฆษณาและความพยายามทางการตลาดอื่น ๆ ให้ได้ผลเร็วขึ้นควรใช้เครื่องมือการส่งเสริม การตลาดประเภทใด

(1) การประชาสัมพันธ์ (2) การโฆษณา

(3) การส่งเสริมการขาย           (4) การตลาดแบบเจาะตรง

ตอบ 3 การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) มักถูกนำมาใช้ในกรณีต่อไปนี้

1.         เมื่อต้องการเชิญชวนให้ผู้บริโภคทดลองซื้อสินค้าใหม่

2.         เพื่อจูงใจผู้บริโภคให้คงซื้อสินค้าของเราต่อไป

3.         เพื่อเพิ่มการซื้อและใช้สินค้า

4.         เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัทด้วย

5.         เพื่อกระตุ้นการโฆษณาและความพยายามทางการตลาดอื่น ๆ ให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น

64.       การแสดงให้เห็นวิธีใช้และลักษณะการทำงานของสินค้า เป็นแนวทางการนำเสนอแบบใด

(1)       Product Alone (2)       Demonstration

(3)       Slice of Life       (4)       Presenter

ตอบ 2 การสาธิต (Demonstration) เป็นการนำเสนอข่าวสารการโฆษณาที่เกี่ยวกับการทำงานของสินค้า โดยการ แสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าเขาจะใช้สินค้าได้อย่างไร สินค้าทำงานอย่างไร และสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง โดย อาจเป็นการสาธิตก่อนและหลังการใช้สินค้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ

65.       การสร้างสรรค์งานโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์เน้นสินค้าเป็นหลัก มักมีแนวทางการนำเสนอแบบใด

(1)       Lifestyle   (2)       Presenter

(3)       Slice of Life       (4)       Torture Test

ตอบ 4 กลยุทธ์การใช้สินค้าเป็นหลัก (Product-centered Strategies) เป็นการโฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติหรือ ลักษณะเด่นของสินค้า หรือการใช้งานของสินค้าเช่น การทดสอบสินค้าอย่างรุนแรง (Torture Test) การพิสูจน์โดยเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่ง (Competitive Test) หรือการสาธิตก่อนและหลังการใช้สินค้า (Before-after Demonstration) เป็นต้น

66.       ข้อได้เปรียบสำคัญของการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์คืออะไร

(1)       เข้าถึงคนทุกกลุ่ม         (2)       เสนอเนื้อหาที่มีรายละเอียดมากๆ ได้

(3)       เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้         (4)       ราคาถูก

ตอบ 2 ข้อได้เปรียบสำคัญของการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ คือ มีเนื้อที่มากพอที่จะเสนอเนื้อหาการโฆษณาที่มี รายละเอียดมาก ๆ ได้ โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้วิธีจูงใจให้ซื้อด้วยการชี้แจงแสดงเหตุผล อีกทั้งยังสามารถเลือกหน้า หรือเนื้อหาที่โฆษณาให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

67.       หากข่าวสารการโฆษณาเป็นลักษณะสารคดี และมีรายละเอียด หลักฐานอ้างอิงน่าเชื่อถือ ควรที่จะเลือกใช้สื่อ ประเภทใด

(1)       วิทยุกระจายเสียง        (2)       โปสเตอร์

(3)       วิทยุโทรทัศน์    (4)       นิตยสาร

ตอบ 4 ข้อได้เปรียบของการโฆษณาทางนิตยสาร มีดังนี้

1.         สามารถเลือกกลุ่มเปาหมายได้

2.         สร้างสรรค์งานโฆษณาได้หลายรูปแบบ

3.         มีอายุการใช้งานนาน

4.         ผู้อ่านให้ความสนใจ เพราะการโฆษณาทางนิตยสารให้ลายละเอียดได้มาก ดึงดูดใจ และใช้เป็นข้อมูล ประกอบการตัดสินใจซื้อได้ดี

5.         ไม่ทำให้ผู้อ่านสับสน

6.         น่าเชื่อถือ เพราะสามารถนำเสนอในรูปของบทความหรือสารคดีได้

68.       ในกรณีของวิทยุโทรทัศน์การเลือกสื่อโฆษณาที่เจาะจงหมายถึงอะไร

(1) การเจาะจงเลือกสื่อใดสื่อหนึ่ง       (2) การเจาะจงเลือกประเภทของสื่อโฆษณา

(3)       การเลือกสื่อโฆษณาหลัก        (4)       การเลือกสถานีรายการและเวลา

ตอบ 4 ข้อพิจารณาในการเลือกใช้สื่อโฆษณาที่เจาะจง มีดังต่อไปนี้

1.         หากเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ (หนังสือพิมพ์นิตยสาร ฯลฯ) อาจพิจารณาจากจำนวนพิมพ์คุณภาพการพิมพ์/เนื้อหา ความคุ้มค่าด้านราคาหรือภาพลักษณ์ของสื่อนั้น ๆ ฯลฯ

2.         หากเป็นสื่อกระจายเสียงและแพร่ภาพ (วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์) อาจพิจารณาจากการเลือก ช่องสถานี ความนิยม/เนื้อหาของรายการ เวลา ความครอบคลุมของสื่อ ฯลฯ

3.         ข้อมูลจากการวิจัย และการคำนวณทางคณิตศาสตร์

69.       ต้นฉบับสำหรับการโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ เรียกว่าอะไร

(1)       Dummy    (2)       Storyboard

(3)       Layout      (4)       Artwork

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

70.       ข้อใดคือตัวอย่างของ Transit Advertising

(l) Billboard      (2) Non-standardized Sign

(3) Banner (4) Bus Side

ตอบ 4 การโฆษณาโดยสื่อยานพาหนะ (Transit Advertising) เป็นการเสนอข่าวสารการโฆษณารายในหรือ ภายนอกยวดยานที่ใช้เพื่อการโดยสาธารณะ เช่น รถไฟ รถประจำทาง รสสามล้อ รถแท็กซี่ ฯลฯ โดยการการ โฆษณาจะมีหลายลักษณะ ได้แก่ ป้ายโฆษณาในห้องโดยสาร (Inside Cards) การโฆษณาข้างรถประจำทาง (Bus Side) การโฆษณาหลังรถประจำทาง (Bus Back) และการโฆษณาทั้งคันรถประจำทาง (Transit Spectacular) เป็นต้น

71.       ข้อใดเป็นข้อเสียเปรียบของการโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์

(1) ไม่มีความคุ้มค่าด้านราคา  

(2) ประสิทธิภาพการสื่อสารต่ำ

(3) ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ      

(4) เป็นสื่อติดอยู่กับที่

ตอบ 4 ข้อเสียเปรียบของการโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ได้แก่

1.         ค่าใช้จ่ายสูง

2.         มีโฆษณาปรากฏอยู่มากเกินไป

3.         เป็นสื่อที่ติดอยู่กับที่ เคลื่อนย้ายลำบาก

4.         ขาดความยืดหยุ่นในการกำหนดตารางสื่อโฆษณา

72.       สุดยอดยาง สุดยอดสมรรถนะเพื่อคุณ” เป็นการเขียนข้อความโฆษณาแบบใด

(1) เน้นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ   

(2) ชวนให้อยากรู้อยากเห็น

(3) เป็นคำสั่ง   

(4) เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 1 การกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ (Benefit) เป็นกลยุทธ์ที่ผู้โฆษณาจะนำเสนอสินค้าที่โฆษณา ภายใต้หลักการว่า สินค้าจะตอบสนองประโยชน์ของผู้บริโภคได้อย่างไรบ้างสิ่งสำคัญก็คือ ผลประโยชน์เหล่านั้น จะต้องเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคตัวอย่างข้อความโฆษณาที่นำเสนอแบบนี้ เช่น Pond’s Institute ย้อนวันเวลา สู่ผิวหน้าขาว เนียนใส ไรริ้วรอย หรือ จะขาคู่ไหน ก็เนียนสวยพริบตา เป็นต้น

73.       วิธีใดเป็นการกำหนดงบประมาณการส่งเสริมการตลาดแบบก้าวหน้า

(1)       การจัดสรรงบประมาณเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายในอดีต

(2)       การจัดสรรงบประมาณโดยดูจากส่วนแบ่งการขาย

(3)       การกำหนดงบประมาณโดยดูจากคู่แข่ง

(4)       การกำหนดงบประมาณโดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์

ตอบ 4 วิธีการกำหนดงบประมาณโดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์และงานที่จะทำ เป็นวิธีการกำหนดงบประมาณ แบบก้าวหน้า กล่าวคือ กำหนดแผนการส่งเสริมการตลาดโดยพิจารณาจากสถานการณ์แวดล้อมและสภาพการ แข่งขันในตลาด จากนั้นก็กำหนดงบประมาณตามกิจกรรมที่จะทำความแผนการส่งเสริมการตลาดนั้น

74.       หากต้องการสื่อสารการตลาด เพื่อการวางตำแหน่งตราสินค้า ควรใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดข้อใด

(1) การประชาสัมพันธ์ (2) การส่งเสริมการขาย

(3) การโฆษณา           (4) การตลาดแบบเจาะตรง

ตอบ 3 การโฆษณา (Advertising) จะถูกนำมาใช้ในกรณีดังต่อไปนี้

1.         ต้องการสร้างความแตกต่างในสินค้าให้เป็นที่ตระหนักอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง . 2. ต้องการวางตำแหน่งของตราสินค้าให้อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภค

3.         ต้องการสร้างผลกระทบทางต้านภาพลักษณ์ที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้า

4.         เพื่อต้องการสร้างการรู้จัก แสดงถึงข้อเสนอขายที่เด่นชัด และตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน

75.       หากต้องการสร้างผลกระทบด้านภาพลักษณ์ที่ผู้บริโภคมีต่อบริษัท ควรใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดข้อใด

(1) การประชาสัมพันธ์ (2) การส่งเสริมการขาย

(3) การโฆษณา           (4) การตลาดแบบเจาะจง

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 8. ประกอบ

76.       การโฆษณาที่เน้นคุณสมาบัติของสินค้าเป็นโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์ใด

(1) Product-centered Strategies       (2) Prospect-centered strategies

(3) Consumer-centered Strategies   (4) Consumer’s Benefit Strategies

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 65. ประกอบ

77.       การโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์ผู้บริโภคเป็นหลัก มักมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

(1) การสาธิตสินค้า     (2) การเปรียบเทียบกับสินค้าของคู่แข่ง

(3) การทดลองทางวิทยาศาสตร์          (4) การกล่าวถึงเหตุผลว่าเหตุใดควรใช้สินค้า

ตอบ 4 กลยุทธ์การเน้นผู้บริโภคเป็นหลัก (Prospect-centered Strategies) จะเป็นการโฆษณาที่กล่าวถึงความต้องการ รูปแบบการดำเนินชีวิต บุคลิกภาพ ความพึงพอใจของผู้บริโภค มากกว่าที่จะกล่าวถึงคุณสมบัติของสินค้าโดยอาจทำได้หลายลักษณะเช่น การกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ (Benefits) การให้คำมั่นสัญญา (Promises) การบอกถึงเหตุผลว่าทำไมจึงควรใช้สินค้า (Reason Why) และการกล่าวถึงข้อเสนอขายที่เด่นชัด(Unique Selling Propositions หรือ USPs)

78.       ข้อใดเป็นข้อเสียเปรียบของการโฆษณาส่งตรงทางไปรษณีย์

(1) ค่าใช้จ่ายต่อหัวสูง (2) การกำหนดตารางสื่อโฆษณาทำได้ยาก

(3) ขาดความยืดหยุ่น  (4) ผู้รับไม่สนใจอ่าน

ตอบ 1 ข้อเสียเปรียบของการโฆษณาส่งตรงทางไปรษณีย์ ได้แก่

1.         ผู้รับมักไม่ค่อยสนใจที่จะเปิดอ่าน

2.         ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวสูงหรือค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหนึ่งพันคน จะสูงกว่าการ โฆษณาทางสื่อมวลชน

3.         หากบัญชีรายชื่อล้าสมัยหรือผิดพลาดอาจส่งไม่ถึงผู้รับ และทำให้เกิดความสูญเปล่าได้

79.       ป้าย Billboard เป็นสื่อประเภทใด

(1) Printed Media      (2) Broadcast Media

(3) Position Media    (4) Point-of- purchase Media

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การโฆษณากลางแจ้ง (Out door Advertising) เป็นการโฆษณาที่เข้าถึงประชาชนซึ่งอยู่นอกบ้าน จัดเป็นสื่อประเภทติดตั้งอยู่กับที่ (Position Media) และป้าย Tri-Vision ตามสี่แยก เป็นต้น

80.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของวิทยุกระจายเสียง

(1)       สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก   (2) การกำหนดตารางสื่อทำได้ง่าย

(3) .วัดผลการโฆษณาได้ง่าย  (4) เข้าถึงผู้รับสารได้จำนวนมาก

ตอบ 4 ข้อได้เปรียบของวิทยุกระจายเสียง มีดังนี้

1.         เป็นสื่อที่เข้าถึงหรือครอบคลุมถึงผู้รับสารได้จำนวนมาก ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุด

2.         มีความรวดเร็วและยืดหยุ่นสูง

3.         เสียค่าใช้จ่ายต่ำ

4.         ประชาชนที่อ่านหนังสือไม่ออกหรือมองไม่เห็นก็ฟังวิทยุได้

5.         สร้างภาพลักษณ์และจินตนาการของผู้ฟังได้ดี

6.         สร้างการอยมรับได้สูง

7.         สามารถเลือกโฆษณาเจาะจงพื้นที่ได้

81.       Rating แสดงค่าของอะไร

(1)       การเข้าถึง        

(2)       ความครอบครอง

(3)       ความนิยม        

(4)       จำนวนพิมพ์

ตอบ 3 ความนิยมของรายการ (Rating) เป็นค่าร้อยละที่แสดงถึงจำนวนผู้ชมที่รายการใดรายการหนึ่ง หรือแสดงถึงความสามารถในการนำข่าวสารการโฆษณาเข้าถึงผู้ชมรายการนั้น ๆ ด้วย

82 – 84. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Coverage (2)       Reach

(3)       Frequency        (4)       Gross Rating Point

82.       หากการโฆษณามีวัตถุประสงค์ต้องการให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าไว้ วัตถุประสงค์ของการใช้สื่อควรเน้นอะไร

ตอบ 3 การกำหนดวัตถุประสงค์ของการใช้สื่อโฆษณา โดยเน้นความถี่ (Frequency) คือ การกำหนดว่าเราต้องการ ใช้สื่อเพื่อให้ข่าวสารการโฆษณานั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบ่อยครั้งเพียงใด เช่น หากสินค้าอยู่ในช่วงแนะนำหรือเริ่มรณรงค์ใหม่ หรือสิ่งโฆษณานั้นมีการนำเสนอข่าวสารที่ซับซ้อนหรือมีเนื้อหารายละเอียดมาก จำเป็นต้องใช้ความถี่ในการโฆษณามาก ทั้งนี้เพราะการเห็นโฆษณาที่บ่อยครั้งจะมีผลดีต่อการรู้จัก ทำความเข้าใจ และสร้างการจดจำ ในข่าวสารการโฆษณา

83.       หากการโฆษณามีวัตถุประสงค์ต้องการให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า วัตถุประสงค์ของการวางแผนสื่อโฆษณาควรเน้นอะไร

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 82. ประกอบ

84.       หากต้องการหาความสัมพันธ์ระหว่างการเข้าถึงและความถี่ของการโฆษณา ต้องพิจารณาจากค่าใด

ตอบ 4 หน้า 198 (คำบรรยาย) คะแนนความนิยมโดยรวม (Gross Rating Point : GRP) เป็นสิ่งที่นักโฆษณาใช้ พิจารณาเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการเข้าถึง (Reach) และความถี่ (Frequency) ของการโฆษณา โดยจะแสดงค่า ของแผนการโฆษณาในรูปของคะแนนความนิยมโดยรวมที่ได้จากแผนงานโฆษณานั้น

85.       การโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ หากลงโฆษณาชิ้นเดียวเต็มหน้าเป็นการโฆษณาแบบใด

(1) Display Advertising      (2) Classified Advertising

(3). Handbill       (4) Supplement

ตอบ 1 การโฆษณาขนาดใหญ่ (Display Advertising) หมายถึง การโฆษณาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่หรือการลง โฆษณาชิ้นเดียวแบบเต็มหน้า อาจจะปรากฏอยู่ที่หน้าใดก็ได้ไนหนังสือพิมพ์ ยกเว้นหน้าแรก โดยการโฆษณาแบบ นี้จะมีทั้งที่เป็นโฆษณาสี่สีและขาว-ดำ สามารถนำเสนอได้ทั้งแบบที่มีภาพเป็นองค์ประกอบหลักหรือแบบที่เน้นข้อความ

86.       ข้อเสียเปรียบประการสำคัญของการโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงคืออะไร

(1)       มีสถานีมาก

(2)       คนส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจฟัง

(3)       มีลักษณะเป็นส่วนตัว

(4)       ผู้ฟังส่วนใหญ่มีสถานีที่รับฟังประจำอยู่แล้ว

ตอบ 2 ข้อเสียเปรียบประการสำคัญของวิทยุกระจายเสียง คือ เป็นสื่อที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจฟัง เพราะ ผู้ฟังจำนวนมากจะฟังวิทยุกระจายเสียงเพียงเพื่อความบันเทิงในขณะที่ประกอบกิจกรรมอื่น ๆ เช่น อาจฟังวิทยุไป ด้วยขณะที่ทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือทำงานอื่นอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจฟังวิทยุเท่าที่ควร ทำให้โฆษณาทางวิทยุเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านหูไปโดยผู้ฟังไม่ได้ใส่ใจและจดจำ

87.       ข้อเสียเปรียบของการโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ ได้แก่

(1) มีโฆษณาปรากฏอยู่มาก   (2) เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่ำ

(3) เข้าถึงคนเฉพาะกลุ่ม         (4) ไม่คุ้มค่า

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 71. ประกอบ

88.       หลักการวางแผนสื่อโฆษณาที่ดี ควรเจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มใด

(1)       คนที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราในอนาคต

(2)       คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคู่แข่ง

(3)       คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของเรา

(4)       ประชาชนทั่วๆ ไป

ตอบ 3 หลักการวางแผนสื่อโฆษณาที่ดี ควรจะเป็นการวางแผนเพื่อให้ข่าวสารของเราเข้าถึงผู้รับสารที่เป็น กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และไม่ควรให้คนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายได้เห็นโฆษณานั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็คงไม่ซื้อ สินค้าหรือใช้บริการที่เราโฆษณา

89.       หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง เป็นหนังสือพิมพ์ขนาดใด

(1) Half Side       (2) Broadsheet

(3) Tabloid         (4) Pocket

ตอบ 3 หนังสือพิมพ์ขนาดเล็กหรือขนาดแท็บลอยด์ (Tabloid) หมายถึง หนังสือพิมพ์ที่มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ตัวอย่างของหนังสือพิมพ์ขนาดนี้ ได้แก่ สยามกีฬา สตาร์ ซ็อคเกอร์ และข่าวรามคำแหง เป็นต้น

90.       แผนงานสื่อโฆษณาที่เหมาะสมต้องเริ่มต้นจากอะไร

(1) สินค้าที่โฆษณามีคุณภาพ  (2) การกำหนดลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย

(3)       การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์

(4)       การกระจายสินค้าอย่างเหมาะสม

ตอบ 2 แผนงานสื่อโฆษณาที่เหมาะสม ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดวัตถุประสงค์การโฆษณา การกำหนดลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ที่เป็นขอบเขตการวางจำหน่ายสินค้า วัตถุประสงค์การสร้างสรรค์สิ่งโฆษณา และ งบประมาณการโฆษณาที่กำหนดไว้

91.       Cost Per Thousand หมายถึง อะไร

(1) ค่าแสดงความนิยมของผู้ชมโฆษณา         

(2) ค่าแสดงประสิทธิภาพการซื้อสื่อ

(3) ค่าแสดงถึงการเข้าถึงสิ่งโฆษณา  

(4) ยอดพิมพ์จำหน่ายที่ตรวจสอบได้

ตอบ 2 ค่าใช้จ่ายต่อพัน (Cost Per Thousand : CPM) เป็นค่าใช้จ่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มฟ้าหมายหนึ่งพันคนของการ โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ โดยการคำนวณหาค่า CPM นี้จะแสดงถึงประสิทธิภาพของการซื้อสื่อหรือแสดงถึง ประสิทธิภาพด้านราคา (Cost Efficiency) ของการใช้สื่อโฆษณาได้ เช่น สื่อโฆษณาที่มีค่า CPM ต่ำ แสดงว่ามีประสิทธิภาพด้านราคาสูง หรือมีความคุ้มค่าด้านราคาสูง เป็นต้น

92.       ข้อใดเป็นจุดประสงค์ของการวางแผนสื่อโฆษณา

(1) ให้คนรู้จักสินค้า ให้คนใช้สินค้า ให้ซื้อสินค้า

.(2) การเข้าถึง ความถี่ ความต่อเนื่อง ผลกระทบ

(3) การเข้าถึง บุคลิกของสินค้า การวางตำแหน่งสินค้า

(4) การทำให้รู้จักสินค้า การโน้มน้าวใจให้ซื้อสินค้า การวางตำแหน่งสินค้า

ตอบ 2 จุดประสงค์ของการวางแผนสื่อโฆษณา (Media Planning) จะมีดังต่อไปนี้

1.         การเข้าถึง (Reach)

2.         ความถี่ (Frequency)

3.         ความต่อเนื่อง (Continuity)

4.         ผลกระทบ (Impact)

93.       นักโฆษณามีวิธีการอย่างไร จึงทำให้ผู้รับสารจดจำข่าวสารการโฆษณาได้นานขึ้น

(1)       ผลิตภาพยนตร์โฆษณาที่มีความยาวมากๆ

(2)       ทำให้เรื่องราวในภาพยนตร์โฆษณาซับซ้อน เพื่อดึงดูดความสนใจ

(3)       นำเสนอข่าวสารการโฆษณาซ้ำ ๆ กันบ่อยครั้ง

(4)       นำเสนอข่าวสารการโฆษณาในสื่อหลายๆ สื่อไม่ซ้ำกัน

ตอบ 3 วิธีการที่จะทำให้ผู้รับสารจดจำสารนั้นได้นานขึ้น ก็คือ การให้เขาได้เห็นสารนั้นซ้ำๆ กันบ่อยครั้ง ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะทำให้ผู้รับสารจดจำข่าวสารการโฆษณาได้นานขึ้นแล้วยังทำให้การโฆษณามีผลกระทบสูง

94.       สื่อมวลชนมีบทบาทอย่างไรต่อการโฆษณา

(1) ดึงดูดใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า         (2) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า

(3) นำข่าวสารการโฆษณาไปยังผู้บริโภค        (4) ทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบโฆษณา

ตอบ 3 การที่สื่อมวลชนได้รับการยอมรับว่าเป็นสื่อหลักของการโฆษณา หรือมีบทบาทต่อการโฆษณาเนื่องมาจากเหตุผลต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.         เป็นสื่อที่นำเสนอข่าวสารการตลาดหรือการโฆษณาไปยังผู้รับสารหรือผู้บริโภคจำนวนมากพร้อมๆ กัน

2.         มีความครอบคลุมสูงเข้าถึงประชาชนได้เกือบทุกพื้นที่

3.         ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวต่ำมาก

4.         ประชาชนมีความภักดีต่อสื่อ

5.         เป็นสื่อที่น่าเชื่อถือ

95.       ปัจจัยที่เป็นข้อกำหนดช่วงเวลาการโฆษณา ได้แก่

(1)       การเข้าถึง ความถี่ ผลกระทบ ความต่อเนื่อง

(2)       ประเภทของสินค้า ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย การแบ่งส่วนตลาด

(3)       ฤดูการขาย วงจรอายุสินค้า ปัจจัยทางทะเบียนภูมิหลังของกลุ่มเป้าหมาย

(4)       งบประมาณ ฤดูการขาย วงจรอายุสินค้า ความหลากหลายของสื่อ

ตอบ 2 ปัจจัยที่เป็นข้อกำหนดช่วงเวลาการโฆษณา ได้แก่

1.         ประเภทของสินค้า เช่น เครื่องปรับอากาศจะเป็นที่ต้องการในฤดูร้อน และเครื่องทำน้ำอุ่นจะเป็นที่ ต้องการในฤดูหนาว เป็นต้น

2.         ลักษณะของกลุ่มเป้าหมายเช่น พวกแม่บ้าน ช่วงเวลาการโฆษณา คือช่วงเวลากลางวัน (8.00-16.00 น.) ของวันธรรมคาเนื่องจากเป็นช่วงที่แม่บ้านเหล่านั้นกำลังชมโทรทัศน์ ฯลฯ

3.         การแบ่งส่วนตลาด เช่น ตลาดเด็กหรือวัยรุ่น ช่วงเวลาการโฆษณา คือช่วงเวลาบ่ายจนถึงเย็น (16.00- 18.30 น.) หรือตลาดของกลุ่มเป้าหมายที่มีครอบครัวแล้ว ช่วงเวลา Prime Time (19.30 – 22.30 น.) คือช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาดูโทรทัศน์ร่วมกัน ฯลฯ

96.       ค่า GRP เป็นประโยชน์ต่อการประเมินผลสื่อโฆษณาอย่างไร

(1) เป็นหน่วยวัดจำนวนของชิ้นงานโฆษณา    (2) แสดงถึงผลกระทบของแผนงาน

(3) ช่วยให้ทราบระยะเวลาของการโฆษณา    (4) แสดงค่าของแผนการโฆษณา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

97.       ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกสื่อโฆษณา

(1) ลักษณะเนื้อหา     (2) ความคุ้มค่าด้านราคา

(3) อัตราค่าโฆษณา    (4) จำนวนพิมพ์

ตอบ 1 ปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกสื่อโฆษณา ได้แก่

1.         ลักษณะของกลุ่มเป้าหมายการโฆษณา ซึ่งต้องมีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกับลักษณะผู้รับสารของสื่อ

2.         ลักษณะเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในสื่อ ซึ่งต้องมีความสอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

3.         การใช้สื่อของคู่แข่ง

98.       ข้อใดคือสภาพแวดล้อมของสื่อที่นักโฆษณาต้องพิจารณาประกอบการเลือกสื่อ

(1)       สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

(2)       สื่อต่างๆ ทั้งหมดที่มีในตลาด

(3)       สิ่งที่อยู่รอบตัวผู้รับสารในขณะที่รับสื่อนั้น

(4)       เนื้อหาของสื่อ

ตอบ 4 สภาพแวดล้อมของสื่อ หมายถึงบริบทหรือภาวะแวดล้อม (Context) นขณะที่ข่าวสารการโฆษณานั้น กำลังถูกรับ เช่น สภาพแวดล้อมของหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร คือ การโฆษณาหน้าอื่น เนื้อหาที่อยู่ข้างเคียง รูปเล่ม และคุณภาพการพิมพ์ เป็นต้น

99.       สื่อโฆษณาที่มี่ค่า CPM ต่ำ หมายความว่าอย่างไร

(1) ความคุ้มค่าด้านราคาต่ำ    (2) ประสิทธิภาพในการสื่อสารต่ำ

(3) ความคุ้มค่าด้านราคาสูง    (4) ประสิทธิภาพในการสื่อสารสูง

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

100.    ข้อเด่นของการโฆษณาทางโรงภาพยนตร์ คืออะไร

(1) การเข้าถึงสูง          (2) เป็นสื่อโฆษณาที่สมบูรณ์แบบที่สุด

(3) คุ้มค่ามากที่สุด      (4) วัดผลการโฆษณาได้ง่าย

ตอบ 2 การโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เป็นการโฆษณาที่มีผลกระทบสูงมากและสมบูรณ์แบบที่สุด เนื่องจากสามารถนำเสนอได้ทั้งภาพ สี เสียง และการเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน รวมทั้งมีภาพขนาดใหญ่กว่าภาพโฆษณาทางโทรทัศน์มาก และระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ก็ชวนให้ตื่นเต้น เร้าใจและน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

Advertisement