การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2006 กฎหมายอาญา 1
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ
ข้อ 1 พลเดินผ่านรถยนต์ของนิกร เห็นดิเรกนั่งอยู่ในรถยนต์คันนั้น เข้าใจว่าเป็นสมนึกศัตรูของพล พลจึงใช้ปืนยิงไปที่ดิเรก กระสุนถูกกระจกรถยนต์ของนิกรแตกและทะลุถูกดิเรกตาย และกระสุนปืนทะลุประตูรถยนต์ออกไปถูกแห้ว และลูกสุนัขของจอยที่แห้วอุ้มอยู่ตายด้วย
ดังนี้ พลต้องรับผิดทางอาญาอย่างใด หรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 59 วรรคหนึ่ง บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิด แม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
มาตรา 59 วรรคสอง กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
มาตรา 60 ผู้ใดเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น แต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ลงโทษหนักขึ้น เพราะฐานะของบุคคลหรือเพราะความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำกับบุคคลที่ได้รับผลร้าย มิให้นำกฎหมายนั้นมาใช้บังคับเพื่อลงโทษผู้กระทำให้หนักขึ้น
มาตรา 61 ผู้ใดเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ได้กระทำต่ออีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิดผู้นั้นจะยกเอาความสำคัญผิดเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้กระทำโดยเจตนาหาได้ไม่
วินิจฉัย
พลเดินผ่านรถยนต์ของนิกรเห็นดิเรกนั่งอยู่ในรถยนต์คันนั้นเข้าใจว่า เป็นสมนึกศัตรูของพล พลใช้ปืนยิงไปที่ดิเรกลูกกระสุนปืนถูกกระจกรถยนต์แตกและทะลุถูกดิเรก พลกระทำโดยเจตนาประสงค์ต่อผล (ดิเรก) ตามมาตรา 59 วรรคสอง และเจตนาย่อมเล็งเห็นผล (กระจกรถยนต์ของนิกร) ตามมาตรา 59 วรรคสอง จึงต้องรับผิดตามมาตรา 59 วรรคหนึ่ง พลจะอ้างว่าไม่เจตนากระทำต่อดิเรกเพราะสำคัญผิดว่าดิเรกคือสมนึกศัตรูของพลที่พลต้องการฆ่าไม่ได้ตามมาตรา 61 ที่วางหลักว่าผู้ใดเจตนากระทำต่อบุคคลหนึ่งแต่ได้กระทำต่ออีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิด ผู้นั้นจะยกความสำคัญผิดเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้กระทำโดยเจตนาหาได้ไม่ และผลจากที่พลเจตนากระทำต่อดิเรกและทรัพย์ของนิกรไปเกิดกับแห้ว และทรัพย์ (สุนัข) ของจอยถือว่าพลเจตนากระทำต่อแห้วและทรัพย์ของจอยด้วยตามมาตรา 60 ผู้ใดเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น
สรุป พลต้องรับผิดทางอาญาเพราะได้กระทำโดยเจตนาต่อดิเรกและทรัพย์ของนิกร และพลได้กระทำโดยเจตนาต่อแห้วและทรัพย์ของจอยโดยพลาดไป