การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2555
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2006 กฎหมายอาญา 1
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 นายชัยและนางสมศรีเป็นสามีภริยามีบุตรด้วยกัน 3 คน นายชัยได้ไปราชการที่ชายแดน
เมื่อกลับบ้านนางสมศรีภริยาได้เล่าให้นายชัยฟังว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนายโก๋ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้บุกรุกขึ้นมาบนบ้านและข่มขืนกระทำชำเราตน นายชัยได้ฟังดังนั้นก็โกรธมาก จึงพกปืนออกจากบ้านเพื่อจะไปฆ่านายโก๋ เมื่อนายชัยพบนายโก๋จึงยกปืนขึ้นเล็งเพื่อจะยิงนายโก๋ แต่นายโก๋เหลือบเห็นเข้าพอดี จึงชักปืนยิงถูกนายชัยได้รับบาดเจ็บ และกระสุนปืนยังเลยไปถูกนางสมศรีซึ่งตามนายชัยมาด้วยความเป็นห่วงถึงแก่ความตายอีกด้วย
ดังนี้ นายชัยและนายโก๋จะต้องรับผิดทางอาญาอย่างไรหรือไม่
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 วรรคแรก วรรคสอง บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิด แม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
มาตรา 60 ผู้ใดเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น แต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ลงโทษหนักขึ้น เพราะฐานะของบุคคลหรือเพราะความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำกับบุคคลที่ได้รับผลร้าย มิให้นำกฎหมายนั้นมาใช้บังคับเพื่อลงโทษผู้กระทำให้หนักขึ้น
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การกระทำของนายชัยและนายโก๋จะต้องรับผิดทางอาญาอย่างไร หรือไม่ แยกพิจารณาได้ดังนี้
กรณีของนายชัย
การที่นายชัยได้ยกปืนขึ้นเล็งเพื่อจะยิงนายโก๋ ถือว่านายชัยได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว และการกระทำของนายชัยต่อนายโก๋ ถือว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา เพราะเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกัน ผู้กระทำประสงค์ต่อผลของการกระทำนั้น ตามมาตรา 59 วรรคสอง แต่เมื่อการกระทำของนายชัยเป็นการลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด เนื่องจากนายชัยได้ถูกนายโก๋ยิงได้รับบาดเจ็บ จึงเป็นการพยายามกระทำความผิดตามมาตรา 80 วรรคแรก
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนายชัยได้กระทำความผิดในขณะบันดาลโทสะ เนื่องจากถูกนายโก๋ข่มขืนกระทำชำเรานางสมศรีซึ่งเป็นภริยาของนายชัย ซึ่งถือว่าเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และได้กระทำความผิดต่อนายโก๋ผู้ข่มเหงในขณะนั้น (ขณะที่ได้ทราบว่านายโก๋ข่มขืนกระทำชำเราภริยาของตน) ดังนั้นนายชัยจะได้รับโทษน้อยลงตามมาตรา 72
กรณีของนายโก๋
การที่นายโก๋ยิงนายชัยได้รับบาดเจ็บ ถือว่านายโก๋ได้กระทำความผิดต่อนายชัยโดยเจตนา เพราะเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผลของการกระทำนั้น ตามมาตรา 59 วรรคสอง แต่เมื่อการกระทำของนายโก๋ได้ลงมือกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล นายโก๋จึงต้องรับผิดฐานพยายามฆ่านายชัย ตามมาตรา 80 วรรคแรก และการที่นายโก๋ยิงนายชัยและกระสุนปืนเลยไปถูกนางสมศรีถึงแก่ความตายนั้น เป็นกรณีที่นายโก๋ได้กระทำโดยเจตนาต่อนายชัย แต่ผลของการกระทำเกิดแก่นางสมศรีโดยพลาดไป ให้ถือว่านายโก๋ได้กระทำโดยเจตนาแก่นางสมศรีบุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำด้วยตามมาตรา 60 ดังนั้นนายโก๋จึงต้องรับผิดฐานฆ่านางสมศรีตายโดยเจตนา ตามมาตรา 59 วรรคแรก ประกอบมาตรา 60 โดยนายโก๋จะอ้างว่าการกระทำของตนเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ เพราะนายโก๋เป็นผู้ก่อภัยขึ้นเอง
สรุป นายชัยต้องรับผิดทางอาญาฐานพยายามฆ่านายโก๋ แต่จะได้รับโทษน้อยลงตามมาตรา 59 วรรคแรก ประกอบมาตรา 80 และมาตรา 72
นายโก๋จะต้องรับผิดทางอาญาฐานพยายามฆ่านายชัย ตามมาตรา 59 วรรคแรก ประกอบมาตรา 80 และต้องรับผิดฐานฆ่านางสมศรีตายโดยเจตนาโดยพลาด ตามมาตรา 59 วรรคสอง ประกอบมาตรา 60