การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2006 กฎหมายอาญา 1
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 โมหะกลับบ้านตอนดึก ได้ทราบจากโมรีภริยาว่า มอคค่าสุนัขที่เลี้ยงไว้กัด ด.ญ.โมจิ ลูกสาวได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา โมหะโกรธมากจึงตั้งใจว่าจะไม่อยู่ร่วมโลกกับมอคค่าอีกต่อไป จึงยืนดักรอให้มอคค่ากลับบ้าน
หลังจากที่มอคค่าหนีออกจากบ้านไปหลังกัดโมจิ สักครู่ใหญ่โมหะเห็นน้องหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้าบ้านมาคุ้ยขยะหน้าบ้านกินด้วยความหิวโหย โมหะเข้าใจว่าเป็นมอคค่า จึงจะทุบให้ตาย เมื่อน้องหมาก้มลงกินด้วยความอร่อย โมหะใช้ไม้กอล์ฟทุบน้องหมาตายคากองอาหารด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ความจริงแล้วน้องหมาที่ตายนั้นคือ ช็อกโกแลตลาวา น้องหมาของโทโสเพื่อนบ้านที่มีรูปร่างคล้ายกัน โมหะทุบน้องหมาตัวนั้นด้วยความรีบร้อน ไม่ทันดูให้ดี จึงทำให้ช็อกโกแลตลาวาตาย
จงวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายโมหะ
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 วรรคแรก วรรคสอง วรรคสามและวรรคสี่ บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิด แม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้
กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
มาตรา 62 วรรคสอง ถ้าความไม่รู้ข้อเท็จจริงตามความในวรรคสามแห่งมาตรา 59 หรือความสำคัญผิดว่ามีอยู่จริงตามความในวรรคแรก ได้เกิดขึ้นด้วยความประมาทของผู้กระทำความผิด ให้ผู้กระทำรับผิดฐานกระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะว่า การกระทำนั้นผู้กระทำจะต้องรับโทษแม้กระทำโดยประมาท
วินิจฉัย
โดยหลักแล้ว บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือในกรณีที่กฎหมายได้บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
การกระทำโดยเจตนา ได้แก่การกระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น แต่อย่างไรก็ตามถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ คือจะถือว่าผู้กระทำได้กระทำโดยเจตนาไม่ได้นั่นเอง
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่โมหะได้ใช้ไม้กอล์ฟทุบน้องหมา คือ ช็อกโกแลตลาวาตายนั้น เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายโดยรู้สำนึก จึงถือว่าเป็นการกระทำทางอาญาแล้ว แต่การกระทำดังกล่าวของโมหะจะถือว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาหาได้ไม่ เพราะโมหะได้กระทำโดยมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด ตามมาตรา 59 วรรคสาม คือไม่รู้ว่าน้องหมาที่ตนใช้ไม้กอล์ฟทุบจนตายนั้นเป็นทรัพย์ของผู้อื่นไม่ใช่มอคค่าสุนัขของตนเอง ดังนั้นโมหะจึงไม่มีความรับผิดทางอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ (องค์ประกอบของความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตาม ป.อาญา มาตรา 358 คือ 1 ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ 2 ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย 3 โดยเจตนา)
และแม้ว่าการไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดนั้น ได้เกิดขึ้นด้วยความประมาทของโมหะ เนื่องจากโมหะได้ทุบช็อกโกแลตลาวาซึ่งเป็นสุนัขของโทโสตายนั้น ได้กระทำด้วยความรีบร้อนไม่ทันดูให้ดีว่าไม่ใช่มอคค่าสุนัขของตน แต่โมหะก็ไม่ต้องรับผิดฐานประมาททำให้เสียทรัพย์ ทั้งนี้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้การกระทำโดยประมาททำให้เสียทรัพย์นั้นเป็นความผิดแต่อย่างใด ตามมาตรา 59 วรรคสี่ ประกอบกับมาตรา 62 วรรคสอง ดังนั้นโมหะจึงไม่ต้องรับผิดทางอาญา
สรุป โมหะไม่มีความรับผิดทางอาญา