การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2557
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 1003 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1. ขณะที่นายเอกและนายโททำสัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามนายเอกผู้ทรงสิทธิในที่ดินจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินให้ผู้อื่น ต่อมาหลังจากที่ทำสัญญากันแล้ว ทางราชการได้ออกกฎหมายห้ามไม่ให้โอนที่ดินแปลงดังกล่าว
ให้ท่านวินิจฉัยว่า สัญญาซื้อขายที่ดินที่นายเอกและนายโททำขึ้น มีวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 150 “การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ”
วินิจฉัย
การทำนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย และมีผลทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 150 นั้น จะต้องเป็นการทำนิติกรรมในขณะที่มีกฎหมายห้ามไม่ให้กระทำการดังกล่าวด้วย ถ้าในขณะที่ทำนิติกรรมไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้แต่อย่างใด แม้ในภายหลังจะมีกฎหมายบัญญัติห้ามไม่ให้กระทำก็ไม่ทำให้การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายตอนแรกกลับเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในภายหลังแต่อย่างใด
ตามอุทาหรณ์ ในขณะที่นายเอกและนายโทได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 นั้น ไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามนายเอกผู้ทรงสิทธิในที่ดินจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินให้แก่ผู้อื่น ย่อมถือว่าสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างนายเอกและนายโทนั้น มีวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ต่อมาหลังจากที่ทำสัญญากันแล้วทางราชการจะได้ออกกฎหมายห้ามมิให้โอนที่ดินแปลงดังกล่าว ก็ไม่ทำให้สัญญาซื้อขายที่ดินนั้นเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ไม่ชอบด้วยกฎหมายและตกเป็นโมฆะแต่อย่างใด
สรุป
สัญญาซื้อขายที่ดินที่นายเอกและนายโททำขึ้นนั้น มีวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย