การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553
ข้อสอบกระบวนวิชา HIS1001 อารยธรรมตะวันตก
คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)
1. ศิลปะของอารยธรรมใดในยุคโบราณถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสนองการพระศาสนา
1. อียิปต์
2. เมโสโปเตเมีย
3. โรมัน
4. กรีก
ตอบ 1 หน้า 61, 63, 21 (H) ศิลปะของอารยธรรมอียิปต์โบราณมักถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสนองการพระศาสนา ทำให้งานศิลปะต่าง ๆ ล้วนแสดงออกซึ้งสัญลักษณ์ทางศาสนาทั้งสิ้น นอกจากนี้ศิลปะของอียิปต์โบราณนั้นก็ไม่ใช่ศิลปะเพื่อศิลปะ แต่เป็นศิลปะที่เปลี่ยนแปลงไปตามอุดมคติ วิถีทางการเมืองและสังคม เช่น ในสมัยอาณาจักรเก่าจะนิยมสร้างพีระมิดเพื่อหวังผลในโลกหน้า แต่ในสมัยจักรวรรดินิยมจะสร้างวิหารเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่และอานุภาพของฟาโรห์
2. ผลงานศิลปกรรมใดแสดงว่าชาวอียิปต์เชื่อเรื่องวิญญาณเป็นอมตะ
1. พีระมิด
2. สฟิงซ์
3. ซิกกูแรต
4. โอเบลิส์
ตอบ 1 หน้า 64 – 65 ชาวอียิปต์มีความเชื่อเรื่องวิญญาณเป็นอมตะและโลกหน้า ด้วยเหตุนี้ชาวอียิปต์ จึงมีวิธีเก็บรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อยด้วยการทำเป็นมัมมี่ และสร้างพีระมิดไว้เก็บพระศพของฟาโรห์รวมทั้งยังเขียนเรื่องราวแสดงความบริสุทธิ์และความประพฤติที่ดีของตนเอาไว้เพื่อนำไปแสดงต่อเทพเจ้าโอสิริสเมื่อตนตายไปแล้ว ซึ่งถ้าเขียนเป็นหนังสือจะเรียกว่า “Book of the Dead” แต่ถ้าเขียนไว้ตามหีบศพจะเรียกว่า “Coffin Texts” และถ้าเขียนไว้บนกำแพงพีระมิดจะเรียกว่า“Pyramid Texts”
3. การก่อสร้างสุสาน วัด และวังของชาวอียิปต์ เป็นตัวอย่างของความเจริญทางด้านใด
1. วิทยาศาสตร์
2. อักษรศาสตร์
3. เทคโนโลยี
4. ถูกข้อ 1 และ 3
ตอบ 4 หน้า 61 – 62 การสร้างสุสานหรือพีระมิด วัด วิหาร และวังของอียิปต์นั้น ได้แสดงถึงความเจริญทางด้านสถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์(โดยเฉพาะดาราศาสตร์) คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและลักษณะทางวิศวกรรมอย่างสูง นั่นคือ สถาปนิกชาวอียิปต์มีความสามารถประดิษฐ์เครื่องมือกลสำหรับเคลื่อนย้ายหินขนาดใหญ่และสิ่งของหนักอื่น ๆ อีกทั้งยังรู้หลักการคำนวณหาปริมาตรของพีระมิดเพื่อรองรับกับแรงกดของหินขนาดใหญ่จำนวนมาก ๆ ได้อย่างสมดุลอีกด้วย
4. สังคมของอารยธรรมใดในยุคโบราณที่มีลักษณะเป็นสังคมเมืองตั้งแต่แรกเริ่มมาก่อน
1. อารยธรรมอียิปต์
2. โรมัน
3. อารยธรรมกรีก
4. เมโสโปเตเมีย
ตอบ 4 หน้า 67 – 69 อารยธรรมเมโสโปเตเมียเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 4,000 B.C. โดยชนชาติแรกที่เริ่มสร้างอารยธรรมไว้ในเมโสโปเตเมีย คือ พวกสุเมเรียน ซึ่งพัฒนาการทางวัฒนธรรมของสุเมเรียน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 1. ระยะวัฒนธรรมอูเบด (Ubaid) ประมาณ 4250 – 3750 B.C. เป็นสมัยเริ่มอารยธรรม คนเมือง หรือสมัยสังคมเมือง (Urban Civilization) 2. ระยะวัฒนธรรมอูรุค (Uruk) ประมาณ 3750-3000 B.C. เป็นสมัยของการสร้างความเจริญในด้านต่าง ๆ
5. ผู้ปกครองเมโสโปเตเมียพิทักษ์ความยุติธรรมด้วยวิธีใด
1. แสดงอำนาจบาตรใหญ่ 2. เชือดไก่ให้ลิงดู 3. ออกกฎหมาย 4. ตั้งศาลพิเศษ
ตอบ 3 หน้า 72 – 74, 24 (H) ผู้ปกครองเมโสโปเตเมียจะพิทักษ์ความยุติธรรมด้วยการออกกฎหมายโดยเฉพาะในสมัยของกษัตริย์ฮัมมูราบี ซึ่งเป็นผู้นำที่ปกครองพวกอะมอไรท์หรือพวก บาบิโลนเก่าได้มีการร่างประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (The code of Hammurabi) ขึ้นมาใช้ โดยได้รับอิทธิพลมาจากกฎหมายชองพวกสุเมเรียนที่อาศัยหลัก Lex Talionis (ลัทธิสนองตอบ) คือ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งประมวลกฎหมายฮัมมูราบีนี้ได้ใช้ต่อมาจนถึงสมัยของกฎหมายโรมัน
6. ระบบการปกครองใดของเมโสโปเตเมียที่ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของเทพ
1. ระบบคณาธิปไตย 2. ระบบราชาธิปไตย 3. ระบบประชาธิปไตย 4. ระบบทรราช
ตอบ 2 หน้า 70, 80, 25 (H) (คำบรรยาย) การปกครองของเมโสโปเตเมียมักจะเป็นการปกครองในระบอบเทวาธิปไตย หรือเทวราชาธิปไตย ซึ่งอาจเรียกได้ว่าการปกครองแบบกษัตริย์เอกาธิปไตยหรือระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นั้นคือ กษัตริย์ทรงเป็นสมมุติเทพซึ่งเป็นตัวแทนของเทพเจ้าที่ถูกส่งลงมาปกครองพวกมนุษย์ ดังนั้นจึงทรงมีฐานะเป็นเทวกษัตริย์และถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของเทพหรือของกษัตริย์นั้นเอง เช่น การปกครองของ สุเมเรียนและอัสสิเรีย ฯลฯ
7. การมีระบบชั่งตวงวัด เป็นเครื่องแสดงความก้าวหน้าของชาวเมโสโปเตเมียในด้านใด
1. การปกครอง 2. การคลัง 3. การค้า 4. การขนส่ง
ตอบ 3 หน้า 69 – 70, 23 – 24 (H), (H1 102 เลขพิมพ์ 42115 หน้า 85) ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของชาวสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ซึ่งยังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือการนับหน่วย 60, 10 และ 6 เช่น 1 ชั่วโมงมี 60 นาที(10 x 6 = 60)วงกลมมี 360 องศา(60 x 6 = 360) ฯลฯ นอกจากนี้ ชาวสุเมเรียนยังนำเอาหลักการนับหน่วย 60 ไปใช้กำหนดมาตราชั่งตวงวัด ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าด้านการค้าแบบเมโสโปเตเมีย เช่น 60 Shekels = 1 Mina, 6O Minas = 1 Talent เป็นต้น
8. ในยุคโบราณชาวอียิปต์และชาวสุเมเรียนใช้เทคโนโลยีอะไรเพื่อพัฒนาการเกษตร
1. การเคมี 2. การขนส่งทางทะเล 3. การชลประทาน 4. ระบบนาสาม
ตอบ 3 หน้า 59, 63, 71 ในยุคโบราณนั้นทั้งชาวอียิปต์และชาวสุเมเรียนต่างก็ใช้เทคโนโลยีด้านการ ชลประทานเพื่อพัฒนาการเกษตรให้ก้าวหน้ามากขึ้น กล่าวคือ ชาวอียิปต์ได้ขุดคูส่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรมทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเหลือกินเหลือใช้จนส่งเป็นสินค้าออกไปขายได้ในขณะที่ชาวสุเมเรียนก็สร้างเขื่อนและขุดคลองคูทดน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภครวมทั้งเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและอุทกภัย
9. การจัดตั้งทหารม้าของเมโสโปเตเมีย เป็นการเริ่มต้นการปฏิวัติอะไร
1. ยุทธศาสตร์ 2. จรยุทธ์ 3. กลยุทธ์ 4. ยุทธการ
ตอบ 3 หน้า 76, 24 (H), (คำบรรยาย) กลยุทธ์ด้านการทหารของเมโสโปเตเมียจะเริ่มต้นด้วยการใช้ทหารราบในการรบ แต่เมื่ออนารยชนแคสไซท์เข้ายึดกรุงบาบิโลนโดยนำม้าและรถศึกขนาดเบาเข้ามาใช้ในบาบิโลเนียเมื่อปี 1750 B.C. ก็ทำให้อาณาจักรต่าง ๆ ในเมโสโปเตเมียหันมาใช้ม้าเทียมเข้ากับรถศึกขนาดเบาในการรบ และต่อมาจึงได้มีการจัดตั้งทหารม้าขึ้นโดยมีการยุทธ์ที่สำคัญ คือ การทหารแบบรวมเหล่า (ทหารราบ ทหารม้า รถศึก) ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการปฏิวัติกลยุทธ์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
10. การเขียนตัวอักษรของอียิปต์บนกระดาษแสดงนวัตกรรมที่พัฒนาก้าวหน้ากว่าวิธีการเขียนตัวอักษรของอารยธรรมใดในยุคโบราณ
1. ของ Crete 2. ของฟินิเชียน 3. ของโรมัน 4. ของเมโสโปเตเมีย
ตอบ 4 หน้า 47 – 48, 69, 22 – 23 (H) เมื่อประมาณ 3,000 B.C. ชาวอียิปต์ได้ประดิษฐ์ตัวอักษรเฮียโรกลิฟิกขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีการบันทึกตัวอักษรลงบนกระดาษปาไปรัส (Papyrus) ซึ่งนวัตกรรมเช่นนี้ถือว่าพัฒนาก้าวหน้ากว่าวิธีเขียนตัวอักษรคูนิฟอร์มหรือตัวอักษรรูปลิ่มของชาวสุเมเรียนในเมโสโปเตเมียเป็นอย่างมาก เพราะชาวสุเมเรียนไม่มีกระดาษปาไปรัสเหมือนชาวอียิปต์จึงต้องใช้เหล็กแหลมกดลงบนแผ่นดินเหนียว แล้วนำไปผึ่งแดดหรือเผาไฟให้แห้งแข็งแทน