การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกระบวบวิชา ENG 1002 ประโยคภาษาอังกฤษและศัพท์ทั่วไป
Choose the best answer.
Part Structure
1. My boss for forty years when he decided to retire.
(1) worked (2) is working (3) has worked (4) had been working
ตอบ 4 หน้า 90 ใช้ Past Perfect Continuous Tense (S. + had + been + v.ing) แสดงถึง ช่วงเวลาที่เหตุการณ์หรือการกระทำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีตก่อนที่จะมีเหตุการณ์อื่น เกิดขึ้นตามมา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมานี้ใช้ Past Simple Tense (S. + V.2)
หมายเหตุ decide (V.1) —> decided (v.2) –» decided (v.3)
2. ________is your office ?
(1) Why (2) Where (3) When (4) What
ตอบ 2 หน้า 172 – 173 ใช้ Where ขึ้นต้นประโยคคำถามประเภท Wh-question ทำหน้าที่ ขยายกริยาของประโยค แปลว่า ที่ไหน
3. If my friend_______go for a holiday, she would surely tell me.
(1) has to (2) must (3) were to (4) is going to
ตอบ 3 หน้า 132 ในประโยคแสดงเงื่อนไขแบบที่ 3 V. to be จะใช้รูป were กับประธานทุกตัว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ were to ซึ่งมีความหมายว่า “จำเป็นต้อง” ได้ด้วย โดยมีรูปแบบ โครงสร้างประโยคตังนี้
If + s. + were to + V.1 (ไม่ผับ), s. + would /should /could /might + v.1 (ไม่ผัน)
4. It’s important that you________the safety rules.
(1) followed (2) have followed (3) follow (4) following
ตอบ 3 หน้า 149 ถ้าประโยคหลักมี adj. พิเศษ (necessary, essential, important, urgent, imperative, crucial, advisable) V. ในประโยคย่อยจะต้องอยู่ในรูปของ “v.1 (ไม่ผัน)”
It + is / was + adi. พิเศษ + (that) + s. + V.1 (ไม่ผัน)
5. My neighbor _______his car________.
(1) had; clean (2) had; cleaned
(3) has; clean (4) has; cleaned
ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) โครงสร้างต่อไปนี้เป็นรูปแบบหนึ่งที่ถูกจดอยู่ในประเภท Passive ซึ่งเน้นสิ่งของที่ถูกกระทำ โดยจะใช้รูปประโยคดังนี้
s. + have/has + something {สิงที่ถูกกระทำ) + V.3 (ซึ่งกระทำต่อสิ่งนั้น)
เช่น My neighbor has his car cleaned.
(เพื่อนบ้านของฉันให้ผู้อื่นทำความสะอาดรถยนต์ของเขา)
6. Tourists will visit the palace,________?
(1) shouldn’t they (2) won’t they (3) will they (4) will them
ตอบ 2 หน้า 175, (คำบรรยาย) ในประโยคคำถามเสริม (Question-tags) ถ้าข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ส่วนต่อท้ายต้องเป็นกริยาช่วยปฏิเสธแบบรูปย่อ (Negative Tag) ซึ่งคั่บด้วยเครื่องหมาย comma (,) แต่ถ้าข้างหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ส่วนต่อท้ายต้องเป็นบอกเล่า (Positive Tag) และใช้สรรพนามรูปประธานเท่านั้น หมายเหตุ won’t เป็นรูปย่อของ will not
7.My parents told me I ______ more careful.
(1) must be (2) had to be (3) had been (4) has to be
ตอบ 2 หน้า 186 – 187, 193 – 194, (คำบรรยาย) ใช้ “said/told/thought/asked” ในประโยคหลัก
คู่กับประโยคย่อยที่เป็น Past Simple Tense (s. + V.2) แสดงถึงการบอกกล่าว (หรือถาม)ว่าเหตุการณ์หนึ่ง (ในประโยคย่อย) เกิดขึ้นจริงหรือเป็นข้อเท็จจริงในอดีตขณะที่พูดหรือรายงาน
8 Many birds from other continents usually_______Thailand every summer.
(1) visits (2) visit (3) have visited (4) visiting
ตอบ 2 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense (s. + v.l ผันตาม s.) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำ ที่เป็นปกติวิสัยหรือการกระทำสม่ำเสมอ ซึ่งมักมีคำกริยาวิเศษณ์ (adv.) ต่อไปนี้อยู่ใบประโยค เช่น usually, often, always, frequently, normally, sometimes, every/on + วัน/เวลา, twice/once + a + เวลา
หน้า 2 – 3 : การใช้ v.1 ผันตาม s.
– เมื่อ s. คือ he, she, it, n, เอกพจน์ V.1 ต้องเติม “s/es”
– เมื่อ s. คือ I, they, you, we, n. พหูพจน์ v.1 ไม่ต้องเติม “s/es”
หมายเหตุ “Many birds” เป็นประธานพหูพจน์ V.1 จึงไม่ต้องเติม “s’’
9. Every shopping mall__________ very crowded during summer.
(1) is (2) are (3) has been (4) had been
ตอบ 1 หน้า 6-7 ใช้ Present Simple Tense (s. + v. ผับตาม s.) กับข้อความที่เป็นจริง ตามธรรมชาติโดยทั่ว ๆ ไป แสดงความเป็นจริงหรือข้อเท็จจริง สิ่งที่เป็นขนบธรรมเนียม แสะประเพณี รวมทั้งเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ซึ่งมักจะมี คำบอกเวลาปัจจุบัน เช่น today, now, nowadays (ปัจจุบันนี้ /ทุกวันนี้)
หน้า 3 การใช้ V.1 ที่เป็น V. to be (ผันตาม s.)
– ถ้า s. เป็น he, she, it และ n. เอกพจน์ –» V. to beใช้ “is”
– ถ้า s เป็น I -» V. to be ใช้ “am”
– ถ้า s. เป็น you, we, they และ n. พหูพจน์ –» V. to be ใช้ “are”
หมายเหตุ “Every shopping mall” เป็นประธานเอกพจน์ V. to be จึงใช้ “is”
10. That elephant _______ as if it were in danger.
(1) runs (2) run (3) ran (4) running
ตอบ 1 หน้า 147 – 148 การใช้กริยาในประโยคที่มีโครงสร้าง “as if / as though (ราวกันว่า)”
ความหมาย ประโยคหลัก ประโยคย่อย
ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน s. + v.1 (ผันตาม,s.) as if / + s. + V.2(*)
ไม่เป็นจริงในอดีต s. + v2. (*) as though + s. + had + v.3
(* = ถ้า V.2 เป็น V. to be จะใช้ were กับประธานทุกตัว)
หมายเหตุ “That elephant” เป็นประธานเอกพจน์ V.1 จึงต้องเติม “s”.