การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2546
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4006 กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 นาโอมิเกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2516 จากมารดาผู้มีสัญชาติไทย ส่วนบิดาเป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นซึ่งเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นครั้งคราว นาโอมิสมรสกับนายชาตรีคนสัญชาติไทย เมื่อปี พ.ศ.2537 นาโอมิมาปรึกษาท่านว่าจะขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสตามมาตรา 9 จะได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7 บุคคลดังต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(3) ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย
พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 9 หญิงซึ่งเป็นคนต่างด้าวและได้สมรสกับผู้มีสัญชาติไทยถ้าประสงค์จะได้สัญชาติไทย ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ได้สัญชาติไทยให้อยู่ในดุลพินิจของรัฐมนตรี
พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 7 บุคคลดังต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(1) ผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรไทย
มาตรา 10 บทบัญญัติมาตรา 7(1) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้มีผลใช้บังคับกับผู้เกิดก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับด้วย
ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337
ข้อ 1 ให้ถอนสัญชาติไทยของบรรดาบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยบิดาเป็นคนต่างด้าวหรือมารดาเป็นคนต่างด้าว แต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย และในขณะที่เกิดบิดาหรือมารดานั้นเป็น
(3) ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเพียงชั่วคราว
ข้อ 2 บุคคลตามข้อ 1 ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยเมื่อประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับแล้ว ไม่ได้สัญชาติไทย เว้นแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรและสั่งเฉพาะรายเป็นประการอื่น
วินิจฉัย
นาโอมิจะขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสตามมาตรา 9 ได้หรือไม่ เห็นว่า นาโอมิเกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2516 กรณีถือว่านาโอมิเป็นผู้เกิดในราชอาณาจักรภายหลังวันที่ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 มีผลใช้บังคับแล้ว (มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2515) นาโอมิจึงไม่ได้สัญชาติไทยตาม พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7(3) เนื่องจากเข้าข้อยกเว้นตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ข้อ 2 และข้อ 1(2) เพราะเป็นบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนต่างด้าว และในขณะที่นาโอมิเกิดบิดาของนาโอมิได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยในลักษณะเพียงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มีผลใช้บังคับ (มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535) นาโอมิกลับได้สัญชาติไทยโดยการเกิดตาม พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 7(1) ที่กำหนดให้บุคคลผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด ทั้งนี้โดยผลมาตรา 10 ของ พ.ร.บ. ดังกล่าว ได้กำหนดให้บทบัญญัติมาตรา 7(1) มาใช้บังคับกับผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 อันเป็นวันที่ พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ใช้บังคับด้วย นาโอมิจึงได้รับสัญชาติไทยโดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่เกิด เพราะมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย
และเมื่อกรณีนี้นาโอมิได้สัญชาติไทยตั้งแต่เกิดแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่นาโอมิจะขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสตามมาตรา 9 อีกแต่อย่างใด
สรุป นาโอมิได้สัญชาติไทยตั้งแต่เกิด จึงไม่ต้องขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสตามมาตรา 9 แต่อย่างใด