การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2551
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (ข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ1. รัฐ A และรัฐ B ทำสนธิสัญญากำหนดเขตแดนระหว่างกันโดยกำหนดให้เส้นกึ่งกลางของแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างสองรัฐนี้เป็นเส้นเขตแดนระหว่างกันและสนธิสัญญานี้มีผลบังคับอย่างสมบูรณ์แล้ว ต่อมาปรากฏว่าแม่น้ำนี้เปลี่ยนเส้นทางเดินโดยผลจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ทำให้ลำน้ำล้ำเข้ามา ในดินแดนของรัฐ B ส่วนแนวแม่น้ำเดิมตื้นเขินจนกลายเป็นพื้นดิน จากผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ รัฐ A เห็นว่ารัฐตนหากขอยกเลิกสนธิสัญญาโดยอ้างหลักการเปลี่ยนแปลงปัจจัยแวดล้อมผิดไปจาก ขณะทำสนธิสัญญาจะได้รับประโยชน์จากการกำหนดเขตแดนกับรัฐ B ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่าตาม หลักการของกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญา ข้ออ้างของรัฐ A ที่จะขอให้สนธิสัญญา กำหนดเขตแตนระหว่างตนกับรัฐ B สิ้นสุดการบังคับใช้ฟังขึ้นหรือไม่
ธงคำตอบ
หลักการอ้างถึงการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดส้อมที่สำคัญซึ่งผิดไปจากขณะทำสนธิสัญญา หรือเรียก “Rebus sic stantibus” นั้น นักนิติศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้สนธิสัญญาสิ้นสุดลงนั้น จะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ซึ่งเป็นอยู่ในขณะทำสนธิสัญญา จนทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามพันธะที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาได้ และการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องชัดแจ้งที่ทุกฝ่ายยอมรับ ได้ด้วย
ตามปกติหลัก Rebus sic stantibus มักจะนำมาใช้แก่สนธิสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลานาน หรือไม่มีกำหนดระยะเวลา และการอ้างหลักการดังกล่าว คู่สัญญาจะบอกเลิกสนธิสัญญาโดยพลการฝ่ายเดียวไม่ได้ จะต้องทำความตกลงกับคู่สนธิสัญญาอีกฝ่ายหนึ่งให้ยอมรับเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969 ในมาตรา 62 ได้บัญญัติไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสิ่งแวดล้อมนี้ ไม่อาจอ้างเป็นมูลเหตุเพื่อบอกเลิกสนธิสัญญาหรือ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาได้ ในกรณีที่
1. สนธิสัญญานั้นเป็นสนธิสัญญากำหนดเขตแดน
2. การเปลี่ยนแปลงเป็นผลจากการที่ภาคีไม่ปฏิบัติตามหนี้แห่งสนธิสัญญา ซึ่งจะต้องกระทำต่อภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง
กรณีตามอุทาหรณ์ สนธิสัญญากำหนดเขตแดนระหว่างรัฐ A กับรัฐ B ที่กำหนดให้เส้นกึ่งกลาง ของแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างสองรัฐนี้เป็นเส้นเขตแตนระหว่างกัน แม้ต่อมาจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ สิ่งแวดล้อมผิดไปจากขณะที่ทำความตกลงกันอย่างมากมายก็ตาม รัฐ A ก็ไม่อาจอ้างมูลเหตุดังกล่าวเพี่อบอกเลิก สนธิสัญญากำหนดเขตแดนกับรัฐ B ได้ เพราะเป็นสนธิสัญญาที่เกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน จึงเข้าข้อยกเว้น ไม่อาจบอกเลิกสนธิสัญญาได้ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว ดังนั้นข้ออ้างของรัฐ A ที่จะขอให้ สนธิสัญญากำหนดเขตแดนระหว่างตนกับรัฐ B สิ้นสุดการบังคับใช้จึงฟังไม่ขึ้น
สรุป ข้ออ้างของรัฐ A ที่จะขอให้สนธิสัญญากำหนดเขตแดนระหว่างตนกับรัฐ B สิ้นสุดการบังคับใช้ ฟังไม่ขึ้น