การสอบซ่อมภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3011 กฎหมายลักษณะพยาน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน จำนวน 3 ข้อ
ข้อ 1 โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของโฉนดเลขที่ 1234 เป็นของโจทก์ ถูกฝ่ายจำเลยบุกรุกเข้าครอบครอง จำเลยปฏิเสธไม่ยอมรับว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ทั้งยังต่อสู้ว่าเป็นที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1342 อันเป็นที่ดินของฝ่ายจำเลย คดีนี้มีประเด็นข้อพิพาทอย่างไร และฝ่ายใดมีหน้าที่นำสืบ จงอธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ
ธงคำตอบ
มาตรา 84 วรรคแรก ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกล่าวอ้างข้อเท็จจริงอย่างใดๆ เพื่อสนับสนุนคำฟ้องหรือคำให้การของตนให้หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่กล่าวอ้าง
มาตรา 1373 ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
วินิจฉัย
ประเด็นข้อพิพาท หมายถึง ข้ออ้างข้อเถียงในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ฝ่ายหนึ่งยกขึ้นอ้างในคำคู่ความ และคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่รับ ดังนั้นปัญหาข้อใดที่ฝ่ายหนึ่งยกขึ้นอ้างและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งรับแล้ว ย่อมไม่เกิดเป็นประเด็นข้อพิพาท
คดีมีประเด็นข้อพิพาทอย่างไรนั้น เห็นว่า เมื่อพิจารณาจากคำฟ้องของโจทก์ที่ว่า ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของโฉนดเลขที่ 1234 เป็นของโจทก์ ถูกฝ่ายจำเลยบุกรุกเข้าครอบครอง และจากคำการของจำเลยที่ปฏิเสธไม่ยอมรับว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ทั้งยังต่อสู้ว่าเป็นที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1342 อันเป็นที่ดินของฝ่ายจำเลย ดังนี้ ประเด็นข้อพิพาทจึงมีเพียงว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด (ฎ . 1992/2511)
สำหรับหน้าที่นำสืบหรือภาระการพิสูจน์นั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 (ปัจจุบันคือมาตรา 84/1) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า ผู้ใดกล่าวอ้างข้อเท็จจริงใด ผู้นั้นมีหน้าที่นำสืบ เมื่อโจทก์เป็นผู้กล่าวอ้าง จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบตามหลัก ป.วิ.พ. มาตรา 84 (ปัจจุบันคือมาตรา 84/1) และในกรณีดังกล่าวนี้ ย่อมไม่อาจปรับเข้าข้อสันนิษฐานตาม ป.พ.พ. มาตรา 1373 ว่าผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครองได้ เพราะไม่ใช่เป็นการพิพาทกันว่า ใครมีสิทธิดีกว่ากันในที่ดินที่มีโฉนด แต่เป็นการพิพาทกันว่าที่พิพาทอยู่ในโฉนดของฝ่ายใด (ฎ. 2227/2533)
สรุป คดีมีประเด็นข้อพิพาท คือ ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด และหน้าที่นำสืบตามประเด็นข้อพิพาทตกแก่โจทก์