การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2565

ข้อสอบกระบวนวิชา POL 2303 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในภาครัฐ

Advertisement

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

ตั้งแต่ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น

(2) การให้กรอกใบสมัคร

(3) การทดสอบ

(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน

(5) การตรวจร่างกาย

1 การคัดเลือกในข้อใดเน้นการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อดูความเหมาะสม

ตอบ 1 หน้า 128 – 129, (คำบรรยาย) การสัมภาษณ์เบื้องต้น (Preliminary Interview) เป็นการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อดูความเหมาะสมของผู้สมัครงาน ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยม มากที่สุดในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน โดยวิธีการนี้จะช่วยให้เห็นว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติ ตรงตามความต้องการขององค์การหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการที่จะรับ คนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเข้ามาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้การสัมภาษณ์จะกระทำ สำเร็จได้ต้องใช้ความเป็นศิลปะมากกว่าความเป็นศาสตร์

2 Application Blank หมายถึงข้อใด

ตอบ 2 หน้า 128 – 129 การให้กรอกใบสมัคร (Application Blank) เป็นการให้ผู้สมัครงาน กรอกข้อมูลส่วนตัวลงในแบบฟอร์มใบสมัคร เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เป็นต้น

3 การคัดเลือกในข้อใดเป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมมากที่สุด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

4 ข้อใดจัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการคัดเลือก

ตอบ 5 หน้า 128, 131, (คำบรรยาย) การตรวจร่างกาย (Physical Check/Examination) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการคัดเลือกและสมควรทำเมื่อทราบชัดเจนว่าจะมีการจ้าง อย่างแน่นอน ทั้งนี้ก็เพื่อปฏิเสธบุคคลที่มีร่างกายไม่เหมาะสมกับงาน และเพื่อป้องกันการรับ บุคคลที่มีโรคติดต่อต้องห้ามเข้ามาทำงานด้วย

5 ข้อใดเป็นขั้นตอนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิเสธบุคคลที่มีร่างกายไม่เหมาะสมกับงาน

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

6 ข้อใดเป็นขั้นตอนที่ตรวจสอบประวัติของผู้สมัครที่กรอกไว้ในใบสมัคร

ตอบ 4 หน้า 128 – 129 การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน (Background Investigation) เป็น ขั้นตอนตรวจสอบประวัติของผู้สมัครที่กรอกไว้ในใบสมัคร ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าการทำงาน ต่าง ๆ ที่แล้วมา หรือข้อมูลต่าง ๆ ของผู้สมัครที่ได้กรอกไว้ในใบสมัคร ตลอดจนสิ่งที่ได้รับฟัง จากการสัมภาษณ์ถูกต้องหรือไม่

7 ข้อใดเป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบความสามารถของพนักงานว่าตรงกับลักษะงานหรือไม่
ตอบ 3 หน้า 128 – 130, (คำบรรยาย) การทดสอบ (Employment Test) เป็นเครื่องมือในการประเมินเพื่อตรวจสอบความรู้ความสามารถและพฤติกรรมของพนักงานว่าตรงกับลักษณะงานหรือไม่ โดยทั่วไปรูปแบบของการทดสอบอาจจำแนกได้ดังนี้
1 การทดสอบความสามารถ
2 การทดสอบบุคลิกภาพและความสนใจ
3 การทดสอบความสำเร็จ

8 Employment Test หมายถึงข้อใด
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

9 การคัดเลือกในขั้นตอนใดจะกระทำสำเร็จต้องใช้ความเป็นศิลปะมากกว่าศาสตร์
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

ตั้งแต่ข้อ 10. – 13. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) หลักการจ่ายค่าตอบแทนแบบรายชิ้น

(2) หลักการจ้างงานตลอดชีพ

(3) หลักการตอบสนองความต้องการ 5 ขั้น

(4) หลักการบริหารภายใต้ปทัสถานกลุ่ม

(5) หลักการบริหารของผู้บริหาร 14 ประการ

10 ข้อใดจัดเป็นข้อเสนอในการบริหารงานบุคคลของ Henri Fayol
ตอบ 5 (คำบรรยาย) Henri Fayol เสนอหลักการบริหารของผู้บริหาร 14 ประการ ประกอบด้วย
1 การแบ่งงานกันทำ
2 อำนาจและความรับผิดชอบ
3 ความมีวินัย
4 เอกภาพของการบังคับบัญชา
5 เอกภาพของการอำนวยการ
6 การให้รางวัลตอบแทนแก่บุคลากร
7 ความมั่นคงของคนทำงาน
8 ความรัก/ความสามัคคีของหมู่คณะ ฯลฯ

11 ข้อใดจัดเป็นข้อเสนอในการบริหารงานบุคคลของ George Elton Mayo
ตอบ 4 (คำบรรยาย) George Elton Mayo ได้เสนอหลักการบริหารภายใต้ปทัสถานกลุ่ม โดยเห็นว่า กลุ่มนั้นเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดปริมาณผลผลิตของคนงานในองค์การ ไม่ใช่ปัจจัยด้านกายภาพและพฤติกรรมของคนงาน

12 ข้อใดจัดเป็นข้อเสนอในการบริหารงานบุคคลของ A.H. Maslow
ตอบ 3 หน้า 46 – 47 (คำบรรยาย) A.H. Maslow ได้เสนอหลักการตอบสนองความต้องการ 5 ขั้น โดยเห็นว่า ความต้องการของบุคคลจะเรียงเป็นลำดับขั้นตอนตามความสำคัญ เมื่อความต้องการระดับต่ำได้รับการตอบสนองแล้ว บุคคลจะให้ความสนใจกับความต้องการระดับสูงต่อไป ซึ่งความต้องการของบุคคลมี 5 ขั้น ดังนี้
1 ความต้องการทางกายภาพ
2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
3 ความต้องการความรัก
4 ความต้องการยกย่อง
5 ความต้องการความสำเร็จด้วยตนเอง

13 ข้อใดคือหลักการในการจูงใจคนงานของ Frederick Winslow Taylor
ตอบ 1 หน้า 39 – 40 Frederick Winslow Taylor ได้เสนอหลักการจ่ายค่าตอบแทนแบบรายชิ้น เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีจูงใจคนทำงานได้ดีที่สุด เพราะคนงานชอบเงินที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน นายจ้างก็ได้ผลผลิตมากขึ้นไปด้วย

ตั้งแต่ข้อ 14. – 17. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม

(1) ความต้องการทางกายภาพ

(2) ความต้องการความรัก

(3) ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย

(4) ความต้องการยกย่อง

(5) ความต้องการความสําเร็จด้วยตนเอง

14 การที่แดงขยันมาทํางานเช้าทุกวัน ส่งผลให้แดงได้รับการขึ้นเงินเดือน
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 150) ความต้องการทางกายภาพ เป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน เพื่อความมีชีวิตอยู่รอด เช่น ความต้องการอาหาร น้ํา อากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม การพักผ่อน ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เงิน เป็นต้น

15 ดําได้รับการสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าห้องจากเพื่อน ๆ
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 150) ความต้องการยกย่อง เป็นความต้องการให้คนอื่น ยกย่อง ให้เกียรติ และเห็นความสําคัญ เช่น ได้รับการสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าห้อง จากเพื่อน ๆ เป็นต้น

16 แม้จะไม่ได้รับโบนัสในปีนี้แต่พนักงานทุกคนก็ดีใจที่ไม่มีการปลดใครออก
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 150), (คําบรรยาย) ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย เป็นความต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีความมั่นคงในการดํารงอยู่ เช่น การไม่ถูกไล่ออกจากงาน เป็นต้น

17 รุ่งรู้สึกดีใจที่ความพยายามตั้งใจเรียนส่งผลให้สําเร็จการศึกษาตามที่วางไว้
ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 150), (คําบรรยาย) ความต้องการความสําเร็จด้วยตนเอง เป็นความต้องการทําในสิ่งที่ตนสามารถจะทําได้ เป็นการสนองต่อความพอใจของตนเอง ความต้องการนี้เพื่อกระทําในสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองของมนุษย์แต่ละคนและเป็นความต้องการ เพื่อการบรรลุสมความปรารถนาของตนเอง ให้ตนเองได้กระทําในสิ่งที่ตนเองมีศักยภาพพอที่จะทําได้ เช่น รุ่งรู้สึกดีใจที่ความพยายามตั้งใจเรียนส่งผลให้สําเร็จการศึกษาตามที่วางไว้ เป็นต้น

18 การฝึกอบรม หมายถึงข้อใด
(1) กรรมวิธีในการเพิ่มสมรรถภาพในการทํางาน

(2) กรรมวิธีการลดขั้นตอนการทํางาน

(3) กรรมวิธีในการส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการทํางาน

(4) กรรมวิธีการรักษาบุคลากร

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 120) การฝึกอบรม คือ กรรมวิธีในการเพิ่มสมรรถภาพ ในการทํางานทั้งในด้านความคิด การกระทํา ความสามารถ ความรู้ ความชํานาญ และ การแสดงออก

ตั้งแต่ข้อ 19 – 27. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม

(1) การฝึกอบรมแบบฝึกปฏิบัติงานจริง

(2) การฝึกอบรมแบบปฐมนิเทศ

(3) การฝึกอบรมแบบช่างฝึกหัด

(4) การฝึกอบรมแบบจําลอง

(5) การฝึกอบรมแบบกรณีศึกษา

19 “On-the-Job Training” หมายถึงข้อใด
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 126 – 127), (คําบรรยาย) การฝึกอบรมแบบฝึกปฏิบัติงานจริง (On-the-Job Training) เป็นการฝึกอบรมที่ให้พนักงานได้สัมผัสกับสิ่งที่ใช้ในการทํางานจริง ซึ่ง
เป็นวิธีที่นิยมใช้แพร่หลายในทุกวงการธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นวิธีการฝึกอบรมที่ก่อให้เกิดความ คุ้นเคยกับอุปกรณ์เครื่องมือ สถานที่ บรรยากาศ รวมทั้งสภาพสิ่งแวดล้อมในการประกอบอาชีพ โดยตรง ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้สําหรับดําเนินการให้ลูกจ้างใหม่มีประสบการณ์การทํางานเหมือนกับ ลูกจ้างเก่า หรือฝึกอบรมซูเปอร์ไวเซอร์ให้มีประสบการณ์ไปทําหน้าที่นิเทศพนักงานได้เป็นอย่างดี

20 “Apprenticeship Training” หมายถึงข้อใด

ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 139 – 140), (คําบรรยาย) การฝึกอบรมแบบช่างฝึกหัด (Apprenticeship Training) เป็นวิธีการที่มุ่งให้ผู้เข้าฝึกอบรมได้รับความรู้และทักษะทางด้าน ช่างฝีมือในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ จนกระทั่งมีฝีมือสามารถออกไปประกอบอาชีพได้อย่างแท้จริง ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือ
1 สมัครเป็นลูกมือช่างที่ตนสนใจ
2 สมัครเป็นช่างฝึกหัดโครงการช่างฝึกหัดทวิภาคีระหว่างสถาบันการศึกษากับสถานประกอบการ

21 “Orientation Training” หมายถึงข้อใด

ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 127 – 128) การฝึกอบรมแบบปฐมนิเทศ (Orientation Training) เป็นวิธีการที่มีความเหมาะสมและนิยมใช้กับพนักงานที่เข้าทํางานใหม่ โดยเป็นกิจกรรม ที่จัดขึ้นเพื่อแนะนําให้พนักงานใหม่ได้รับความรู้ ข้อมูลและสารสนเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับองค์การ หรือสถานที่ทํางาน เช่น ประวัติขององค์การ ผู้บริหารและระบบการบริหารงาน ความก้าวหน้า ในงาน เงื่อนไขการจ้างงาน ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการขจัดข้อสงสัยและความกังวลใจของพนักงานใหม่ ให้หมดไป ตลอดจนช่วยให้พนักงานใหม่สามารถปรับตัวเข้ากับองค์การได้ง่ายและเร็วขึ้น

22 “Case Study Training” หมายถึงข้อใด

ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 142) การฝึกอบรมแบบกรณีศึกษา (Case Study Training) เป็นวิธีการที่มีการกําหนดรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในองค์การ และให้ผู้เข้าฝึกอบรม ทําการศึกษารายละเอียดของข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้งหมดในกรณีศึกษา พร้อมกับกําหนดปัญหาและ นําเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ถือเป็นวิธีการที่มุ่งเน้นให้เกิดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเหมาะ สําหรับการฝึกอบรมผู้บริหาร

23 การฝึกอบรมในข้อใดเน้นการฝึกอบรมความรู้ ทักษะในด้านฝีมือ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 20. ประกอบ

24 การฝึกอบรมในข้อใดใช้กับพนักงานที่เข้าทํางานใหม่

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 21. ประกอบ

25 การฝึกอบรมในข้อใดเป็นที่นิยมแพร่หลายมากที่สุด

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 19. ประกอบ

26 การฝึกอบรมในข้อใดให้พนักงานได้สัมผัสกับสิ่งที่ใช้ในการทํางานจริง

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 19. ประกอบ

27 การฝึกอบรมในข้อใดมุ่งเน้นให้เกิดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ

ตั้งแต่ข้อ 28 – 37. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม

(1) คําบรรยายลักษณะงาน (Job Description)

(2) การออกแบบงาน (Job Design)

(3) การประเมินค่างาน (Job Evaluation)

(4) การกําหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงาน (Job Specification)

(5) การวิเคราะห์งาน (Job Analysis)

28. จ่ายเท่ากันสําหรับงานที่เท่ากัน (Equal Work for Equal Pay)

ตอบ 3 หน้า 96, 142, (คําบรรยาย) การประเมินค่างาน (Job Evaluation) คือ กระบวนการที่ทําขึ้น เพื่อเปรียบเทียบค่าของงานต่าง ๆ ในองค์การ เพื่อนํามาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการกําหนด เงินเดือนหรือค่าตอบแทนที่ยุติธรรมกับงานตามหลักการที่ว่า “จ่ายเท่ากันสําหรับงานที่เท่ากัน” (Equal Work for Equal Pay) ซึ่งวิธีนี้จะทําให้เกิดความยุติธรรมภายใน (Internal Equity) ในการกําหนดเงินเดือนหรือค่าตอบแทนให้แก่บุคลากรทุกคนที่อยู่ภายในองค์การเดียวกัน

29. สามารถลดความเมื่อยล้า และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในการทํางาน

ตอบ 2 หน้า 96 การออกแบบงาน (Job Design) ที่ดีนั้น จะทําให้บุคคลทํางานได้อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งสามารถลดความเมื่อยล้า และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในการทํางานให้น้อยลงได้อีกด้วย

30. เอาไปใช้ออกแบบงาน (Job Design)

ตอบ 5 หน้า 95 – 97 ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์งาน (Job Analysis) สามารถนําไปใช้ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ ได้หลายลักษณะ เช่น การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ การสรรหาและคัดเลือกบุคคล การฝึกอบรมและพัฒนาบุคคล การประเมินผลการทํางาน การประเมินค่างาน การกําหนด ค่าตอบแทน การส่งเสริมความปลอดภัยในการทํางาน การออกแบบงาน (Job Design) เป็นต้น

31. ข้อมูลที่ต้องใช้ทําคือ กิจกรรมของงาน พฤติกรรมของบุคคล เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ มาตรฐาน การปฏิบัติงาน และเนื้อหาของงาน

ตอบ 5 หน้า 88 ข้อมูลที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์งาน (Job Analysis) มีดังนี้
1 กิจกรรมของงาน
2 พฤติกรรมของบุคคล
3 เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี และเครื่องช่วยสนับสนุนการทํางาน
4 มาตรฐานการปฏิบัติงาน
5 เนื้อหาของงาน
6 ความต้องการบุคลากร
7 สภาพแวดล้อม

32. ความยุติธรรมภายใน (Internal Equity) เกิดจาก

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 28. ประกอบ

33. ได้ข้อมูลมาจากความรู้ ทักษะ และความสามารถ

ตอบ 4 หน้า 87, 90, (คําบรรยาย) การกําหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงาน (Job Specification) เป็นการกําหนดรายละเอียดของคุณสมบัติเฉพาะของพนักงานซึ่งใช้ในการทํางานเฉพาะอย่าง เพื่อให้งานประสบความสําเร็จ เช่น วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ความชํานาญ เพศ อายุ ส่วนสูง น้ําหนัก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่นํามาใช้ในการกําหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงานนี้จะพิจารณา จากความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และความสามารถ (Abilities)

34. การอธิบายรายละเอียดของงานว่ามีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง หน้าที่งานหลัก หน้าที่งานรอง

ตอบ 1 หน้า 87, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 12 – 13) คำบรรยายลักษณะงาน (Job Description) เป็นการอธิบายรายละเอียดของงานว่ามีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง โดยระบุชื่อตำแหน่งงาน คำสรุปเกี่ยวกับงาน หน้าที่งานหลัก หน้าที่งานรอง และความสัมพันธ์กับงานอื่น ๆ ซึ่งข้อมูล ในคำบรรยายลักษณะงานนี้จะพิจารณาจากงาน (Task) ความรับผิดชอบ (Responsibilities) และหน้าที่ (Duties)

35. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลในข้อใดที่ใช้ในการกำหนดฐานเงินเดือน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 28. ประกอบ

36. การระบุในส่วนของอายุ ส่วนสูง และน้ำหนัก แสดงถึงข้อใด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ

37. การระบุถึงรายละเอียดของเนื้องาน และภารกิจที่ต้องรับผิดชอบ แสดงถึงคุณสมบัติใด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

ตั้งแต่ข้อ 38. – 47. เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักคิดเรื่องใด

ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551

(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ

(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม

(3) หลักระบบค่าตอบแทน

(4) หลักจริยธรรมและวินัย

(5) การกระจายอำนาจ

38. กองทัพบกมีนโยบายตรวจสอบโครงการบ้านสวัสดิการของทหาร

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ค่าตอบแทน คือ สิ่งที่ภาครัฐจ่ายตอบแทนให้แก่บุคลากรเพื่อเป็นการตอบแทน การปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งโดยทั่วไปมักจะหมายถึงเงินเดือนหรือ ค่าจ้าง รวมถึงสวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร บ้านพักสวัสดิการ รถประจำตำแหน่ง บำเหน็จบำนาญ เป็นต้น

39. การประชุมพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณของรัฐสภาเพื่อเป็นไปตามหลักการใด

ตอบ 5 (คำบรรยาย) กรณีดังกล่าวเป็นการกระจายอำนาจให้รัฐสภามีอำนาจในการพิจารณา อนุมัติงบประมาณซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการงบประมาณในระบอบประชาธิปไตย ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลไม่มีอำนาจในการนำเงินสาธารณะไปใช้จ่าย หากไม่ได้รับความยินยอมเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภาในฐานะผู้แทนของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของเงินที่แท้จริง

40. การตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส. ที่มีการเสียบบัตรแทนกันสะท้อนปัญหาใด

ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักจริยธรรมและวินัยตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้

1. กำหนดสิ่งที่ข้าราชการต้องปฏิบัติและข้อห้ามการปฏิบัติออกจากกันเป็นคนละส่วนอย่างชัดเจน

2. กำหนดให้ส่วนราชการแต่ละแห่งเป็นผู้กำหนดข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการเพื่อใช้บังคับเฉพาะข้าราชการในสังกัดส่วนราชการนั้นเท่านั้น

3. กำหนดให้ข้าราชการบางตำแหน่งต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง ฯลฯ

41. การโยกย้ายนายทหารในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อตรวจสอบปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนในหน่วยงานราชการเป็นไปตามหลักการใด

ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักพิทักษ์คุณธรรมตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้ 1. กำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งตุลาการ และเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่พิจารณาเรื่องการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ของข้าราชการเพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง เช่น ในกรณีที่ข้าราชการถูกสั่งลงโทษทางวินัยหรือได้รับการปฏิบัติจากผู้บังคับบัญชา (เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย) อย่างไม่เป็นธรรม 2. การจัดให้มีศาลปกครองรับเรื่องด้านการบริหารงานบุคคล 3. การให้พนักงาน/ข้าราชการที่ถูกกล่าวหาต้องยุติหน้าที่หรือย้ายไปประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว ฯลฯ

42. มีนโยบายให้นักการเมืองทุกคนต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินทั้งก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 40. ประกอบ

43. กำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมบรรจุแต่งตั้งข้าราชการได้
ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักการกระจายอำนาจตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1. กำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ระดับกรม หรือระดับจังหวัด เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการ เช่น อธิบดีมีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งที่ปรึกษาหรือปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ช่วยงานในท้องถิ่น เป็นต้น
2. กำหนดให้หน่วยงานระดับกระทรวง ระดับกรม หรือระดับจังหวัด ดำเนินการจัดสอบแข่งขันเพื่อเลือกสรรบุคคลบรรจุเข้ารับราชการได้เอง
3. การให้อำนาจในการแต่งตั้งหรือโอนย้ายบุคลากรทั้งจากภายในและภายนอกกระทรวงได้ เช่น การแต่งตั้งโฆษก คสช. ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

44. การกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูกตรวจสอบจากองค์กรภายนอก เช่น สตง. ป.ป.ช.
ตอบ 1 (คำบรรยาย) หลักการเสริมประสิทธิภาพตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้ 1. กำหนดให้ข้าราชการไปศึกษาเพิ่มเติม ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย ในประเทศหรือต่างประเทศ 2. กำหนดให้มีแบบฟอร์มการทำรายงานหลังกลับจากการฝึกอบรมของหน่วยงานรัฐ 3. กำหนดให้มีการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกหลายองค์กร เช่น สตง., ป.ป.ช., กกต., จังหวัด และองค์กรวิชาชีพ ฯลฯ

45. ให้ข้าราชการต้องไปเพิ่มพูนความรู้ เข้าฝึกอบรมเป็นประจำตลอดช่วงระยะเวลาที่รับราชการ
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 44. ประกอบ

46. มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักระบบค่าตอบแทนตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1 การจำแนกกลุ่มข้าราชการเป็น 4 กลุ่มใหญ่ (Cluster) และกำหนดบัญชีเงินเดือนเป็น 4 บัญชี ซึ่งแต่ละบัญชีใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่งแต่ละประเภท
2 กำหนดให้มีเงินเพิ่มใหม่อีก 2 ประเภท คือ ตามพื้นที่และตามสายงาน
3 กำหนดให้เพิ่มค่าตอบแทนบุคคลที่มีใบรับรองการมีวุฒิการศึกษาเพิ่มที่ตรงตามหน้าที่
4 กำหนดให้ข้าราชการทุกระดับต้องถูกประเมินผลการปฏิบัติราชการแบบ 360 องศา เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน
5 การเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการมีการกำหนดให้ต้องเบิกยานอกบัญชีหลัก
6 มีการประเมินขั้นเงินเดือนข้าราชการปีละ 2 ครั้ง
7 มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ ฯลฯ

47 การจำแนกกลุ่มข้าราชการเป็น 4 กลุ่ม (Cluster)

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

ตั้งแต่ข้อ 48. – 52. เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายถึงแนวคิดทฤษฎีประชาธิปไตยประเด็นใดซึ่งมีผลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

(1) Liberty

(2) Majority Rule

(3) Transparency

(4) Participation

(5) Accountability

48 รัฐบาลขอความร่วมมือจากประชาชนในการเป็นหูเป็นตากรณีเหตุระเบิดป่วนกรุง

ตอบ 4 (คำบรรยาย) การมีส่วนร่วม (Participation) เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนจากทุกกลุ่มอาชีพ และทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการนโยบายและการบริหาร เพื่อที่จะร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชุมชนหรือของประเทศ ตลอดจนมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเลือกตั้งผู้แทนราษฎร การทำประชาพิจารณ์ การทำประชามติ การถอดถอนผู้ใช้อำนาจรัฐ การเสนอร่างกฎหมาย หรืออื่น ตัวอย่างปรากฏการณ์ที่อธิบายถึงแนวคิดทฤษฎีประชาธิปไตยในประเด็นนี้ เช่น รัฐบาลขอความร่วมมือจากประชาชนในการเป็นหูเป็นตากรณีเหตุระเบิดป่วนกรุง ชาวบ้านคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทำให้ภาครัฐต้องชะลอโครงการไว้ก่อน เป็นต้น

49 ชาวบ้านคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทำให้ภาครัฐต้องชะลอโครงการไว้ก่อน

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 48. ประกอบ

50 ในการดำเนินการนโยบายใด ๆ ต้องมีหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน

ตอบ 5 (คำบรรยาย) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Accountability) คือ ในการดำเนินการใด ๆ บุคคล หน่วยงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่และผลการกระทำของตนเองที่มีต่อสาธารณชน รวมทั้งมีการกำหนดผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน

51 ศาลมีคำสั่งให้ลงโทษข้าราชการที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับนโยบายรับจำนำข้าว

ตอบ 2 (คำบรรยาย) การปกครองโดยเสียงข้างมาก (Majority Rule) คือ การปกครองโดยใช้จำนวนเป็นเกณฑ์ตัดสินการออกกฎหมาย การวินิจฉัยปัญหา หรือการตัดสินใจในนโยบายต่าง ๆ ซึ่งต้องเป็นไปตามความเห็นชอบของเสียงข้างมาก ตัวอย่างปรากฏการณ์ที่อธิบายถึงแนวคิดทฤษฎีประชาธิปไตยในประเด็นนี้ เช่น ศาลมีคำสั่งให้ลงโทษข้าราชการที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับนโยบายรับจำนำข้าว เป็นต้น

52 โครงการสร้างเขื่อนต้องจัดทํารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ตอบ 1 (คำบรรยาย) เสรีภาพ (Liberty) คือ ความมีอิสระในการกระทําการใด ๆ สามารถดําเนินชีวิต ได้ตามความปรารถนา แต่มีขอบเขตจํากัดว่าการกระทํานั้น ๆ จะต้องไม่ละเมิดกฎหมายหรือ ไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น
ตัวอย่างปรากฏการณ์ที่อธิบายถึงแนวคิดประชาธิปไตยในประเด็นนี้ เช่น โครงการสร้างเขื่อนต้องทํารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นต้น

ตั้งแต่ข้อ 53 – 57. อธิบายถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมในเรื่องใดที่มีผลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

(1) ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์

(2) โครงสร้างประชากร

(3) ปัจจัยระหว่างประเทศ

(4) ทรัพยากรธรรมชาติ

(5) นวัตกรรมเทคโนโลยี

53 ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีการค้ามนุษย์ในระดับ Tier 2
ตอบ 3 (คำบรรยาย) ปัจจัยระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยภายนอกประเทศที่มีผลกระทบต่อการกําหนด นโยบายต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงนโยบายภายในประเทศ ตัวอย่างที่อธิบายถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้ เช่น ประเทศไทยถูกจัดอันดับ ให้เป็นประเทศที่มีการค้ามนุษย์ในระดับ Tier 2 จากการจัดอันดับขององค์การแรงงานระหว่าง ประเทศ (ILO) นโยบายการท่องเที่ยวในยุค New Normal เป็นต้น

54 ในอนาคตต้องมีการเตรียมพร้อมรองรับการดูแลผู้สูงอายุ
ตอบ 2 (คำบรรยาย) โครงสร้างประชากร เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับข้อมูลทางด้านจํานวนประชากร โครงสร้างทางอายุ (เช่น วัยเด็ก วัยรุ่น วัยกําลังศึกษา วัยทํางาน วัยเกษียณอายุ วัยชรา) นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสัดส่วนของเพศ (ชาย : หญิง) สัดส่วนของอายุ (เด็ก : วัยทํางาน : คนโสด : ผู้สูงอายุ) จํานวนผู้อยู่ในวัยแรงงาน อัตราการเจริญพันธุ์ การเกิด การตาย การอพยพย้ายถิ่น ตลอดจนจํานวนบุคคลในครอบครัวหนึ่ง ๆ ตัวอย่างที่อธิบายถึงปัจจัย สิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้ เช่น ในอนาคตต้องมีการเตรียมพร้อมรองรับการดูแลผู้สูงอายุ ประเทศไทยเตรียมพร้อมระบบสาธารณูปโภคสําหรับการลงทุน เป็นต้น

55 การออกกฎหมายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องคํานึงถึงความเป็นอยู่ของชาวมุสลิม
ตอบ 1 (คำบรรยาย) ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับภูมิประเทศ (ได้แก่ สถานที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ อาณาเขตติดต่อ ที่ราบลุ่มแม่น้ํา ฯลฯ) ภูมิอากาศ และองค์ประกอบเชิงธรณีวิทยา รวมถึงภูมิหลังความเป็นมา หรือพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ ความศรัทธา การยอมรับนับถือ ความสัมพันธ์ ความร่วมมือ ความขัดแย้ง หรือทักษะความชํานาญของแต่ละกลุ่มบุคคล เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ หรือแต่ละประเทศสืบเนื่องมา จนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างที่อธิบายถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้ เช่น การออกกฎหมายในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องคํานึงถึงความเป็นอยู่ของชาวมุสลิม ประเทศไทยเหมาะแก่การ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคเอเชีย เป็นต้น

56 แนวโน้มจะใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดแทนเงินสด
ตอบ 5 (คำบรรยาย) นวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นการนําเอาความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดํารงชีวิตของมนุษย์ เพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกหรือตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ ตัวอย่างที่อธิบายถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้ เช่น การที่หน่วยราชการใช้ระบบการจัดการข้อมูลที่สแกนผ่านคอมพิวเตอร์แทนการใช้กระดาษ การใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดแทนเงินสด เป็นต้น

57 นโยบายการท่องเที่ยวในยุค New Normal เป็นไปตามเหตุผลในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 53. ประกอบ

58 ข้อใดคือขอบเขตของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

(1) 4P

(2) 3P

(3) 3R

(4) 4M

(5) BSC

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ขอบเขต/กระบวนการของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ประกอบด้วย 3 R คือ
1. Recruit คือ การสรรหาคัดเลือกบุคคล
2. Retain คือ การรักษาคนไว้ในองค์การ
3. Retire คือ การเลิกจ้าง

59 กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์สิ้นสุดที่เรื่องใด

(1) Reject

(2) Recruit

(3) Reused

(4) Retire

(5) Return

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 58. ประกอบ

60 กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์เริ่มต้นที่เรื่องใด

(1) Retain

(2) Recruit

(3) Reused

(4) Retire

(5) Return

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 58. ประกอบ

61 “อัตราการลาออกลดลง” เป็นเป้าหมายของเรื่องใด

(1) การจูงใจ

(2) การประเมินค่างาน

(3) การรักษาคนไว้ในองค์การ

(4) การสรรหา

(5) การเลื่อนตำแหน่ง

ตอบ 3 (คำบรรยาย) การรักษาคนไว้ในองค์การ (Retain) คือ การสร้างแรงจูงใจให้คนทำงาน อยู่กับองค์การยาวนานหรือพยายามลดอัตราการลาออกของคนให้น้อยลง ทั้งนี้เพื่อ 1. คงความต่อเนื่องในการทำงาน 2. รักษาประสิทธิผลขององค์การ 3. ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหาคัดเลือกและฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน 4. รักษาภาพลักษณ์ขององค์การ 5. สร้างความจงรักภักดี ฯลฯ

62 “พอเริ่มจะรู้งานก็ไปเสียแล้ว” ข้อความดังกล่าวสะท้อนเรื่องใด

(1) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

(2) การฝึกอบรม

(3) การจูงใจ

(4) การรักษาคนไว้ในองค์การ

(5) การวางแผนทรัพยากรมนุษย์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63 ข้อใดไม่ใช่เหตุผลของการรักษากำลังคน

(1) ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหา

(2) คงความต่อเนื่องในการทำงาน

(3) รักษาชื่อเสียงองค์การ

(4) รักษาภาพลักษณ์องค์การ

(5) สร้างความจงรักภักดี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

64 ทำไมต้องรักษากำลังคนไว้กับองค์การ

(1) ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหา

(2) คงความต่อเนื่องในการทำงาน

(3) ลดความสิ้นเปลืองในการฝึกอบรม

(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 61 ประกอบ

65. การรักษากำลังคนไว้กับองค์การมีความสำคัญเพราะเหตุใด

(1) รักษาความต่อเนื่องในการทำงาน

(2) รักษาประสิทธิผลขององค์การ

(3) ความสะดวกในการประเมินผลการทำงาน

(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 61 ประกอบ

66 ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุที่คนเลือกอยู่กับองค์การ

(1) ชื่อเสียงขององค์การ

(2) ค่าตอบแทน

(3) วัฒนธรรมองค์การ

(4) ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน

(5) เป็นไปได้ทุกข้อ

ตอบ 5 (คำบรรยาย) ค่าตอบแทนเป็นเพียงปัจจัยพื้นฐานที่สามารถจูงใจและรักษาคนให้อยู่กับองค์การ ดังนั้นการที่คนจะอยู่กับองค์การยาวนาน ไม่ลาออกไปหางานใหม่ทำจึงไม่ใช่เพราะเรื่องค่าตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความมั่นคงของงาน โอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูล ชื่อเสียงขององค์การ วัฒนธรรมองค์การ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

67 ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาคนไว้กับองค์การ

(1) ค่าตอบแทนเป็นเพียงปัจจัยพื้นฐาน

(2) ค่าตอบแทนที่สูงสามารถจูงใจและรักษาคน

(3) คนอยู่กับองค์การไม่ใช่เฉพาะเรื่องค่าตอบแทน

(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 3

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 66 ประกอบ

68 ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินค่างาน

(1) การตีค่างาน ประสิทธิภาพในงาน กับค่าตอบแทนที่ควรจะจ่าย

(2) การประเมินคุณค่าของงานเทียบกับค่าตอบแทนที่ควรจะจ่าย

(3) การประเมินคุณค่าว่างานใดควรได้ค่าตอบแทนเท่าใด

(4) ถูกเฉพาะข้อ 2 และ 3

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 75), (คำบรรยาย) การประเมินค่างาน หมายถึง กระบวนการวิเคราะห์เพื่อตีค่าความยากง่ายของงาน หรือเป็นกระบวนการวิเคราะห์ ตีค่างาน ประเมินหรือเปรียบเทียบคุณค่าของงานต่าง ๆ ในองค์การ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างงานหรือประสิทธิภาพในงานกับค่าตอบแทนที่ควรจะจ่าย หรือเป็นการประเมินคุณค่าว่างานใดควรได้ค่าตอบแทนเท่าใด ซึ่งแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมินค่างาน ได้แก่ การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) ใบพรรณนาหน้าที่งาน (Job Description) คุณสมบัติตำแหน่ง (Job Specification) และประเภทของตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์การ

69. ข้อใดคือลักษณะของการประเมินค่างาน
(1) งานแบบเดียวกันมีค่าเท่ากันในทุก ๆ องค์การ
(2) ปัจจัยในการทํางานแบบเดียวกันมีค่าเท่ากันในทุก ๆ องค์การ
(3) การตีค่างานขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงานในแต่ละองค์การ
(4) ความรับผิดชอบแบบเดียวกัน การตีค่างานเหมือนกันในทุกองค์การ
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 3 (คำบรรยาย) การตีค่างานนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงานในแต่ละองค์การ ดังนั้นในองค์การ ต่าง ๆ ที่มีงานแบบเดียวกัน หรือมีปัจจัยในการทํางาน เช่น ทักษะ ความชํานาญ ความพยายาม ความรับผิดชอบ หรือสภาพการทํางานแบบเดียวกัน การตีค่างานอาจไม่เหมือนกันก็ได้

70. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินค่างาน
(1) งานแบบเดียวกันมีค่าเท่ากันทุก ๆ องค์การ
(2) ปัจจัยในการทํางานแบบเดียวกันมีค่าเท่ากัน
(3) ทักษะแบบเดียวกัน มีค่าเท่ากัน
(4) การตีค่างานขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงานในแต่ละองค์การ
(5) ความรับผิดชอบแบบเดียวกัน การตีค่างานเหมือนกัน
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 69. ประกอบ

71. ในการประเมินค่างานต้องใช้ข้อมูลจากที่ใด
(1) ใบพรรณนาหน้าที่งาน (Job Description)
(2) คุณสมบัติตําแหน่ง (Job Specification)
(3) ประเภทของตําแหน่งต่าง ๆ ในองค์การ ๆ
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 68. ประกอบ

72. ข้อใดคือแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมินค่างาน
(1) ใบพรรณนาหน้าที่งาน (Job Description)
(2) คุณสมบัติตําแหน่ง (Job Specification)
(3) คุณสมบัติตําแหน่ง (Job Specification)
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 68. ประกอบ

ตั้งแต่ข้อ 73 – 82. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Job Analysis (การวิเคราะห์งาน)
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison

73. เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยจัดลําดับความสําคัญหรือความยากง่าย

ตอบ 2 หน้า 169 – 170 การเรียงลําดับ (Job Ranking) เป็นวิธีดั้งเดิมหรือเก่าแก่ที่สุด ซึ่งไม่เหมาะกับ องค์การขนาดใหญ่ที่มีงานจํานวนมากหรือองค์การที่มีโครงสร้างซับซ้อน สาระสําคัญของวิธีนี้ คือ การน่าเอางานที่มีอยู่ทั้งหมดมาจัดลําดับความสําคัญจากงานที่ง่ายที่สุดไปยังงานที่ยากที่สุด โดยใช้การเปรียบเทียบเป็นคู่ ๆ (Paired-Comparison) แล้วตัดสินใจว่างานใดสําคัญหรือ ยากกว่า จึงเป็นวิธีที่มีข้อโต้แย้งในเรื่องมาตรฐานที่ใช้ตัดสินความสําคัญของงาน

74. เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยจัดกลุ่มตามลักษณะ/ปัจจัยของงาน

ตอบ 3 หน้า 170 การจัดระดับงาน (Job Classification or Grading Method) เป็นวิธีการประเมิน ค่างานโดยจัดกลุ่มตามลักษณะ/ปัจจัยของงาน กล่าวคือ งานที่มีลักษณะของความยากง่าย เหมือนกันจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งปัจจัยที่กําหนดความยากง่ายของงาน ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ความชํานาญ ความรับผิดชอบ และสภาพการทํางาน

75 เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยตีค่าเป็นคะแนนตามแต่ละปัจจัยที่ใช้ในแต่ละงาน
ตอบ 4 หน้า 171, (คำบรรยาย) การให้คะแนน (Point Rating) เป็นวิธีการประเมินค่างาน โดยตีค่าเป็นคะแนนตามแต่ละปัจจัยที่ใช้ในแต่ละงาน เช่น งานธุรการ ให้คะแนนการศึกษา ร้อยละ 20 ประสบการณ์ร้อยละ 25 ความยุ่งยากในงานร้อยละ 35 ความรับผิดชอบร้อยละ 15 และสภาพการทำงานร้อยละ 5 เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีที่สำนักพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและ ค่าตอบแทน สำนักงาน ก.พ. นำไปใช้ในการประเมินค่างานของข้าราชการพลเรือนในปัจจุบัน

76 เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยใช้วิธีเชิงปริมาณเทียบปัจจัยในงาน
ตอบ 5 หน้า 172 – 173 การเปรียบเทียบปัจจัย (Factor Comparison) เป็นวิธีการประเมินค่างาน โดยใช้วิธีเชิงปริมาณเทียบปัจจัยในงาน ซึ่งเป็นวิธีที่ซับซ้อน ต้นทุนสูง แต่มีความน่าเชื่อถือกว่า วิธีการอื่น ๆ ข้อดีของวิธีนี้ คือ เหมาะสำหรับ การกำหนดมาตรฐานเฉพาะงานของแต่ละองค์การ และสามารถเปรียบเทียบค่างานของแต่ละงานได้แน่นอน

77 เป็นวิธีที่ใช้ในการประเมินค่างานของข้าราชการพลเรือนในปัจจุบัน
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 75. ประกอบ

78 ใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินค่างาน
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 68. ประกอบ

79 เป็นวิธีการประเมินค่างานที่ไม่เหมาะกับองค์การขนาดใหญ่ที่มีงานจำนวนมาก
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

80 เป็นวิธีการประเมินค่างานที่ซับซ้อน ต้นทุนสูง แต่มีความน่าเชื่อถือและมีความแน่นอนในการเปรียบเทียบ
ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 76. ประกอบ

81 เป็นวิธีการประเมินค่างานดั้งเดิม ที่ง่าย แต่มีข้อโต้แย้งเรื่องมาตรฐาน
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

82 สำนักพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน สำนักงาน ก.พ. นำไปใช้
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 75. ประกอบ

83 ข้อใดไม่ใช่ประเภทของสิ่งจูงใจในองค์การ
(1) Intrinsic Rewards

(2) Extrinsic Rewards

(3) Non-Financial Rewards

(4) Official Rewards

(5) Accomplishment

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ประเภทของสิ่งจูงใจในองค์การ มีดังนี้
1 รางวัลที่เป็นตัวเงิน (Financial Rewards) หรือรางวัลภายนอก (Extrinsic Rewards) เช่น เงินเดือน/ค่าจ้าง ค่าคอมมิชชั่น โบนัส หุ้นปันผล เป็นต้น
2 รางวัลที่ไม่เป็นตัวเงิน (Non-Financial Rewards) หรือรางวัลภายใน (Intrinsic Rewards) เช่น ประกันชีวิต สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล วันหยุดพักผ่อนประจำปี ความก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน ความสำเร็จในงาน (Accomplishment) เป็นต้น

84 ข้อใดไม่ใช่ Financial Rewards

(1) เงินเดือน

(2) ค่าคอมมิชชั่น

(3) โบนัส

(4) หุ้นปันผล

(5) สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล

ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 83. ประกอบ

85 ข้อใดคือความยุติธรรมภายนอกของการบริหารเงินเดือนและค่าจ้าง

(1) การปรับตามค่าแรงขั้นต่ํา

(2) การปรับตามค่าครองชีพ

(3) การปรับตามอัตราเงินเฟ้อ

(4) การสํารวจเงินเดือน/ค่าจ้าง

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 หน้า 142, (คําบรรยาย) ความยุติธรรมภายนอก (External Equity) ของการบริหารเงินเดือน และค่าจ้าง หมายถึง การกําหนดเงินเดือนและค่าจ้างจะต้องสอดคล้องกับการจ้างงานใน ตลาดแรงงาน ซึ่งพิจารณาจากค่าแรงขั้นต่ํา ค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ การสํารวจเงินเดือน/ ค่าจ้างในตลาดแรงงาน เป็นต้น

86 ข้อใดคือปัจจัยที่ลดความไม่พึงพอใจของพนักงาน (Hygiene Factors)

(1) เงินเดือน/ค่าจ้าง

(2) โบนัส

(3) ประกันชีวิต

(4) รถประจําตําแหน่ง

(5) ห้องทํางานส่วนตัว

ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 156), (คําบรรยาย) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจ ในการทํางานตามทฤษฎีของ Frederick Herzberg ประกอบด้วย
1 ปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัยสุขภาวะ (Hygiene Factors) เป็นปัจจัยที่ลดความไม่พึงพอใจ ของพนักงานในการทํางาน เช่น เงินเดือน/ค่าจ้าง เงื่อนไขการทํางาน สภาพการทํางาน (เช่น แสงไฟ โต๊ะทํางาน คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ) นโยบายและการบริหารงาน การควบคุมบังคับบัญชา เป็นต้น
2 ปัจจัยกระตุ้น (Motivation Factors) เป็นปัจจัยเพิ่มแรงจูงใจแก่พนักงานในการทํางาน เช่น การยอมรับนับถือ ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สวัสดิการหรือประโยชน์ เกื้อกูลต่าง ๆ (เช่น โบนัส ประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล รถประจําตําแหน่ง ห้องทํางาน ส่วนตัว) เป็นต้น

87 ข้อใดคือปัจจัยเพิ่มแรงจูงใจแก่พนักงาน (Motivation Factors)

(1) โต๊ะทํางาน

(2) ห้องทํางานส่วนตัว

(3) เครื่องปรับอากาศ

(4) คอมพิวเตอร์

(5) เงินเดือน/ค่าจ้าง

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 86. ประกอบ

88 ข้อใดต่อไปนี้คือความหมายของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

(1) การบริหารและการจัดการที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในองค์การ

(2) การสรรหาคัดเลือกบุคคล

(3) การบริหารและการบรรจุแต่งตั้งบุคคลในองค์การ

(4) การพัฒนาและการประเมินผลการปฏิบัติงาน

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 1) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management) หมายถึง การบริหารและการจัดการที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในองค์การ นับตั้งแต่การสรรหาคัดเลือกบุคคลมาปฏิบัติงาน การบรรจุแต่งตั้ง การให้ค่าตอบแทน การพัฒนา การประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดถึงการให้พ้นจากงาน

ตั้งแต่ข้อ 89 – 95. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม

(1) หลักความเสมอภาค

(2) หลักความสามารถ

(3) หลักความมั่นคง

(4) หลักความเป็นกลางทางการเมือง

(5) หลักการกระจายอํานาจ

89 การเปิดโอกาสให้มีการสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการสะท้อนถึงหลักการใด
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3) หลักความเสมอภาค (Equality) หมายถึง การเปิดโอกาส ให้ผู้มีคุณสมบัติและมีพื้นฐานความรู้ตามที่กําหนดไว้มีสิทธิที่จะสมัครเข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ เข้ารับราชการได้ทุกคน โดยไม่คํานึงถึงความแตกต่างในเรื่องชาติตระกูล ศาสนา เป็นการให้โอกาส แก่ผู้มีสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน และในการกําหนดเงินเดือนหรือค่าตอบแทนของข้าราชการก็ควร ยึดหลักความเสมอภาคเช่นกัน กล่าวคือ งานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเหมือนกันหรือ ระดับเดียวกันควรได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนเท่ากัน

90 งานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเหมือนกันควรได้รับค่าตอบแทนเท่ากันสอดคล้องกับหลักการในข้อใด
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 89. ประกอบ

91 การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการควรยึดหลักการในข้อใด
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4) หลักความสามารถ (Competence) หมายถึง การบรรจุ บุคคลเข้ารับราชการ หรือการแต่งตั้งบุคคลเข้าดํารงตําแหน่งใด ๆ จะต้องยึดหลักความรู้ ความสามารถของบุคคลเป็นสําคัญ โดยต้องพยายามหาทางคัดเลือกเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมกับตําแหน่ง (put the right man on the right job)

92 “put the right man on the right job” สะท้อนให้เห็นถึงหลักการในข้อใด
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93 หลักประกันแก่ผู้จะมาทํางานราชการสามารถยึดเป็นอาชีพได้สะท้อนถึงหลักการในข้อใด
ตอบ 3 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4) หลักความมั่นคง (Security) หมายถึง การให้หลักประกันแก่ ผู้ที่จะมาทํางานราชการว่าจะมีความมั่นคงในชีวิต สามารถยึดราชการเป็นอาชีพได้ตราบเท่าที่ ยังมีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติราชการ มีความประพฤติดี มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ ราชการ โดยให้มีเงินเดือนเพียงพอกับการครองชีพ และให้สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการประกันมิให้ข้าราชการถูกกลั่นแกล้งหรือถูกออกจากราชการโดยไม่มีความผิด ทั้งนี้เพื่อให้ข้าราชการได้มีกําลังใจที่จะปฏิบัติราชการให้บังเกิดผลดีที่สุด ไม่ต้องกังวลในการ หาเลี้ยงชีพหรือถูกกลั่นแกล้งในทางที่ไม่เป็นธรรม

94 การให้สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลส่งเสริมให้เกิดหลักการในข้อใด
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 93. ประกอบ

95. ข้าราชการต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าตนจะชอบหรือไม่ก็ตามสะท้อนถึงหลักการข้อใด

ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4 – 5) หลักความเป็นกลางทางการเมือง (Political Neutrality) หมายถึง ข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าตนจะชอบหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะว่าตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้นถือว่านโยบายของรัฐบาลเป็นการแสดงออกโดยปริยายถึงความต้องการหรือเจตนารมณ์ของประชาชน
ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลชุดใดเข้ามาบริหารประเทศ ข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามนโยบายนั้น ๆ อย่างเต็มความสามารถ จะละเลยเพิกเฉยมิได้

96. การพัฒนาการของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยเริ่มต้นมาจากเรื่องราวในช่วงใด

(1) การต้องการแก้ไขปัญหาของมนุษย์โบราณ

(2) ความต้องการแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรมนุษย์จากเจโทร

(3) ความต้องการแก้ไขปัญหาของมนุษย์ยุคอารยธรรมตะวันตก

(4) ถูกทุกข้อ

(5) ผิดทุกข้อ

ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 5 – 6) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยเริ่มต้นเกิดจาก โมเสส (Mosses) พบปัญหาการใช้ทรัพยากรมนุษย์ และได้รับคำแนะนำการแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรมนุษย์จากเจโทร (Jetro) ซึ่งเป็นพ่อตา ดังนี้ “ต้องสอนให้คนงานรู้จักเชื่อฟังคำสั่ง เคารพและปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด จะต้องสาธิตให้ดูว่าเส้นทางที่จะต้องเดินไปจะไปทางไหน และภารกิจของงานที่จะต้องปฏิบัติมีอะไรบ้าง นอกเหนือจากนั้นจะต้อง คัดเลือกเอาแต่บุคคลที่มีความเก่งทุกคน ตลอดจนนักปกครองที่เก่งด้วย”

97. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมมีวัตถุประสงค์ตามข้อใด

(1) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ

(2) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางสังคม

(3) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางการเมือง

(4) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางการลงทุน

(5) เพื่อการบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์

ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 6 – 7) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ โดยในสมัยนี้ได้มีการรวบรวมคนจำนวนมาก มาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่เนื่องจากการขาดการเอาใจใส่ดูแล จากนายจ้างทำให้คนงานไม่พอใจในสภาพการทำงานที่เป็นอยู่

98. ข้อใดคือความหมายของการสรรหา

(1) กระบวนการในการพิจารณาเลื่อนระดับ

(2) กระบวนการในการค้นหาบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่ง

(3) กระบวนการในการดึงดูดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ

(4) ข้อ 1 และ 2 ถูก

(5) ข้อ 2 และ 3 ถูก

ตอบ 5 หน้า 114 – 115, (คำบรรยาย) การสรรหา (Recruitment) หมายถึง กระบวนการในการค้นหา จูงใจหรือดึงดูดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงานให้สนใจยื่นใบสมัครงาน กับองค์การให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งการสรรหานี้เป็นวิธีการที่ทำให้องค์การสามารถ มีตัวเลือกสำหรับการพิจารณาเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกต่อไป
โดยแหล่งที่ใช้ในการสรรหาบุคคลมี 2 แหล่ง คือ
1 การสรรหาบุคคลจากภายในองค์การ
2 การสรรหาบุคคลจากภายนอกองค์การ

99 แหล่งที่ใช้ในการสรรหาประกอบไปด้วยแหล่ง
(1) 1
(2) 2
(3) 3
(4) 4
(5) 5
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 98. ประกอบ

100 ข้อเสียของการสรรหาบุคคลภายในคือข้อใด
(1) ประหยัดค่าใช้จ่าย
(2) ลดขวัญและกําลังใจ
(3) ขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ผิดทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 116 – 117, (เอกสารประกอบการสอน หน้า 57 – 58) ข้อเสียของการสรรหาบุคคลจากภายในองค์การ มีดังนี้
1. ทําให้องค์การอาจเสียโอกาสได้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
2. ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์ในการประเมินโอกาส การแก้ปัญหา และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางธุรกิจ
3. หากองค์การไม่มีการกําหนดกฎเกณฑ์การคัดเลือกบุคลากรภายในองค์การที่ชัดเจน อาจทําให้การสรรหาบุคลากรภายในองค์การเป็นระบบอุปถัมภ์มากกว่าระบบคุณธรรม
4. ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรขึ้นภายในองค์การ เมื่อองค์การมีความต้องการ ในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ฯลฯ

 

Advertisement