การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2564
ข้อสอบกระบวนวิชา POL2303 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในภาครัฐ
คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(1) ปริมาณงาน
(2) จำนวนบุคลากร
(3) ความรู้ในงาน
(4) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
(5) ประสบการณ์ในงาน
ตอบ 2 หน้า 254 – 255 ปัจจัยที่ใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีดังนี้
1 ปริมาณงาน
2 คุณภาพงาน
3 ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4 ความรู้ในงาน
5 การให้ความร่วมมือ
6 ประสบการณ์ในงาน
7 การทำนิติกรรมสัญญากับผู้อื่น
8 การตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล
9 ความมีอิสระในการทำงาน
10 ทัศนคติ ฯลฯ
2. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าครองชีพซึ่งต้องนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการกำหนดเงินเดือน
(1) ราคาเชื้อเพลิง
(2) ราคาสินค้า
(3) อัตราดอกเบี้ย
(4) อัตราแลกเปลี่ยน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 (คำบรรยาย) ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าครองชีพซึ่งต้องนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการกำหนดค่าจ้างเงินเดือน ได้แก่ ราคาสินค้า ราคาเชื้อเพลิง อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น
3. ข้อใดคือปัจจัยที่ลดความไม่พึงพอใจของพนักงาน (Hygiene Factors)
(1) การจ่ายค่าล่วงเวลา
(2) โบนัส
(3) คอมมิชชั่น
(4) เงื่อนไขในการทำงาน
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 156), (คำบรรยาย) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจในการทำงานตามทฤษฎีของ Frederick Herzberg ประกอบด้วย
1 ปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัยสุขภาวะ (Hygiene Factors) เป็นปัจจัยที่ลดความไม่พึงพอใจของพนักงานในการทำงาน เช่น เงินเดือน/ค่าจ้าง เงื่อนไขการทำงาน สภาพการทำงาน (เช่น แสงไฟ โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ) นโยบายและการบริหารงาน การควบคุมบังคับบัญชา เป็นต้น
2 ปัจจัยกระตุ้น (Motivation Factors) เป็นปัจจัยเพิ่มแรงจูงใจแก่พนักงานในการทำงาน เช่น การยอมรับนับถือ ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สวัสดิการหรือประโยชน์เกื้อกูลต่างๆ (เช่น โบนัส ประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล รถประจำตำแหน่ง ห้องทำงานส่วนตัว) เป็นต้น
4. เหตุผลของการจัดตั้งสหภาพแรงงาน คือ
(1) เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของลูกจ้าง
(2) เพื่อคุ้มครองประโยชน์ขององค์การ
(3) เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนผู้รับบริการ
(4) ข้อ 1 และ 2 ถูก
(5) ข้อ 1 และ 3 ถูก
ตอบ 1 หน้า 294 สหภาพแรงงาน เป็นองค์การระดับล่างสุดขององค์การลูกจ้าง ซึ่งการจัดตั้งสหภาพแรงงานนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของลูกจ้าง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตการทำงานที่เหมาะสม
5 ให้ข้าราชการต้องไปเพิ่มพูนความรู้ เข้าฝึกอบรมเป็นประจำตลอดช่วงระยะเวลาที่รับราชการ เป็นไปตามหลักการในข้อใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอำนาจ
ตอบ 1 (คำบรรยาย) หลักการเสริมประสิทธิภาพตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1กำหนดให้ข้าราชการไปศึกษาเพิ่มเติม ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัยในประเทศหรือต่างประเทศ
2 กำหนดให้มีแบบฟอร์มการทำรายงานหลัง/กลับจากการฝึกอบรมของหน่วยงานรัฐ
3 กำหนดให้มีการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกหลายองค์กร เช่น สตง., ป.ป.ช., กกต., จังหวัด และองค์กรวิชาชีพ ฯลฯ
6 เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยจัดลำดับความสำคัญหรือความยากง่าย
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 2 หน้า 169 – 170 การเรียงลำดับ (Job Ranking) เป็นวิธีดั้งเดิมหรือเก่าแก่ที่สุด ซึ่งไม่เหมาะกับองค์การขนาดใหญ่ที่มีงานจำนวนมากหรือองค์การที่มีโครงสร้างซับซ้อน
สาระสำคัญของวิธีนี้คือ การนำเอางานที่มีอยู่ทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญจากงานที่ง่ายที่สุดไปยังงานที่ยากที่สุด โดยใช้การเปรียบเทียบเป็นคู่ ๆ (Paired Comparison) แล้วตัดสินใจว่างานใดสำคัญหรือยากกว่า จึงเป็นวิธีที่มีข้อโต้แย้งในเรื่องมาตรฐานที่ใช้ตัดสินความสำคัญของงาน
7 ข้อใดไม่อยู่ในกระบวนการคัดเลือก
(1) การรับสมัคร
(2) การทดสอบ
(3) การตรวจร่างกาย
(4) การปฐมนิเทศ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 128 กระบวนการของการคัดเลือก ประกอบด้วย 9 ขั้นตอน ดังนี้
1 การรับสมัคร
2 การสัมภาษณ์เบื้องต้น
3 การให้กรอกใบสมัคร
4 การตรวจคุณสมบัติพื้นฐาน
5 การทดสอบ
6 การสัมภาษณ์
7 การคัดเลือกเพื่อบรรจุโดยฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของสายงานที่จะรับพนักงาน
8 การตัดสินใจโดยเจ้าหน้าที่
9 การตรวจร่างกาย
8 การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศใด
(1) ประเทศจีน
(2) ประเทศญี่ปุ่น
(3) ประเทศอังกฤษ
(4) ประเทศสหภาพโซเวียต
(5) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตอบ 3 หน้า 34 – 37 การปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิด
1 การนำเอาเครื่องจักรมาใช้ในการทำงาน
2 การผลิตในระบบโรงงาน
3 การใช้แรงงานในโรงงาน
4 การแบ่งงานกันทำตามความถนัด ฯลฯ
9. การกําหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อรับพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ร้องทุกข์เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง สอดคล้องกับหลักการในข้อใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอํานาจ
ตอบ 2 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คําบรรยาย) หลักพิทักษ์คุณธรรมตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1 กําหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งตุลาการ และเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ทําหน้าที่พิจารณาเรื่องการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ของ ข้าราชการเพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง เช่น ในกรณีที่ข้าราชการถูกสั่งลงโทษทางวินัยหรือ ได้รับการปฏิบัติจากผู้บังคับบัญชา (เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย) อย่างไม่เป็นธรรม
2 การจัดให้มีศาลปกครองรับเรื่องด้านการบริหารงานบุคคล
3 การให้พนักงาน/ข้าราชการที่ถูกกล่าวหาต้องยุติหน้าที่หรือย้ายไปประจําส่วนราชการเป็นการชั่วคราว ฯลฯ
10. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับค่าตอบแทน
(1) สิ่งที่ได้จากการทํางาน
(2) สิ่งที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
(3) ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 135 – 136 ค่าตอบแทน หมายถึง
1 สิ่งที่ได้จากการทํางาน
2 สิ่งที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
3 ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รวมถึงค่าจ้าง เงินเดือน และรางวัลตอบแทนอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าจ้างเงินเดือน
11. “วิเคราะห์และจัดทําแผนของหน่วยงาน…” ข้อความดังกล่าวพบได้จากที่ใด
(1) การวิเคราะห์งาน
(2) คําบรรยายลักษณะงาน
(3) คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน
(4) การประเมินค่างาน
(5) การกําหนดค่าตอบแทน
ตอบ 2 หน้า 89 คําบรรยายลักษณะงาน (Job Description) เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอํานาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ ขอบเขตของงาน ความสัมพันธ์ในสายงานและกระบวนการปฏิบัติงาน โดยทั่วไปจะประกอบด้วยข้อความสําคัญ ได้แก่ ตําแหน่งงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบ คุณลักษณะของงาน และเงื่อนไขสภาวะแวดล้อม
12. การกําหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูกตรวจสอบจากภายนอก เช่น สตง. ป.ป.ช. สอดคล้องกับหลักการในข้อใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอํานาจ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 5. ประกอบ
13. การกําหนดโครงสร้างแบบ Broadbanding พบได้ในข้อใด
(1) การวิเคราะห์งาน
(2) คําบรรยายลักษณะงาน
(3) คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน
(4) การประเมินค่างาน
(5) การกําหนดค่าตอบแทน
ตอบ 5 หน้า 213 – 214 การกำหนดโครงสร้างแบบ Broadbanding เป็นการกำหนดโครงสร้างของค่าตอบแทนหรือค่าจ้างเงินเดือน ซึ่งที่มาของการพัฒนาโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนเป็นแบบ Broadbanding มีดังนี้
1 โครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนแบบเดิมขาดความยืดหยุ่น
2 โครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนแบบเดิมมีหลายระดับและมีความสัมพันธ์ของงานที่เหมือนกันในแต่ละระดับ จึงมีความจำเป็นต้องพิจารณางานที่มีความคล้ายคลึงกันเข้าด้วยกัน
3 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
4 แนวคิดการบริหารที่เน้นความคล่องตัวและให้อิสระกับผู้ปฏิบัติงานให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น ฯลฯ
14 ข้อใดเป็นวิธีการประเมินค่างานโดยตีค่าเป็นคะแนนตามแต่ละปัจจัยที่ใช้ในแต่ละงาน
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 4 หน้า 171, (คำบรรยาย) การให้คะแนน (Point Rating) เป็นวิธีการประเมินค่างาน โดยตีค่าเป็นคะแนนตามแต่ละปัจจัยที่ใช้ในแต่ละงาน เช่น งานธุรการ ให้คะแนนการศึกษา ร้อยละ 20 ประสบการณ์ร้อยละ 25 ความยุ่งยากในงานร้อยละ 35 ความรับผิดชอบร้อยละ 15 และสภาพการทำงานร้อยละ 5 เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีที่สำนักพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน สำนักงาน ก.พ. นำไปใช้ในการประเมินค่างานของข้าราชการพลเรือนในปัจจุบัน
15 ข้อใดเป็นการบริหารทรัพยากรมนุษย์ภายใต้ระบบอุปถัมภ์
(1) หลักความสามารถ
(2) หลักความมั่นคง
(3) หลักความเสมอภาค
(4) การไม่ยึดถือหลักเกณฑ์
(5) หลักความเป็นกลางทางการเมือง
ตอบ 4 หน้า 12 – 13 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ (Patronage System) เป็นการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ถือเอาความใกล้ชิดหรือความเป็นพรรคพวกเป็นสำคัญ ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน ซึ่งก่อให้เกิดผลดังนี้
1 การพิจารณาบรรจุแต่งตั้ง เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เป็นไปตามความพอใจส่วนบุคคลของหัวหน้าเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคลเป็นเกณฑ์ จึงส่งผลให้บุคคลไม่เน้นการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ
2 ผู้ปฏิบัติงานมุ่งทำงานเพื่อเอาใจผู้ครองอำนาจมากกว่าจะปฏิบัติงานตามหน้าที่
3 ผู้ปฏิบัติงานไม่มีความมั่นคงในหน้าที่ที่กำลังทำอยู่ เพราะอาจถูกปลดได้ถ้าผู้มีอำนาจไม่พอใจ ฯลฯ
16 ข้อใดมิใช่องค์ประกอบของ “ระบบไตรภาคี”
(1) นายจ้าง
(2) นักวิชาการด้านแรงงาน
(3) ลูกจ้าง
(4) รัฐบาล
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 279 ระบบไตรภาคี ประกอบด้วยตัวแทน 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง โดยระบบไตรภาคีจะเป็นกลไกให้ตัวแทนสามฝ่ายในการพิจารณาเกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกัน ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและกันในด้านต่าง ๆ เช่น การปรึกษาหารือ การเจรจาต่อรอง การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การตัดสินใจต่าง ๆ ร่วมกัน
17 ข้อใดคือความหมายของการสรรหา
(1) กระบวนการในการพิจารณาเลื่อนระดับ
(2) กระบวนการในการค้นหาบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่ง
(3) กระบวนการในการดึงดูดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ
(4) ข้อ 1 และ 2 ถูก
(5) ข้อ 2 และ 3 ถูก
ตอบ 5 หน้า 114 – 115 การสรรหา (Recruitment) หมายถึง กระบวนการในการค้นหา จูงใจ หรือดึงดูดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตําแหน่งงานให้สนใจยื่นใบสมัครงาน กับองค์การให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแหล่งที่ใช้ในการสรรหาบุคคล มี 2 แหล่ง คือ 1. การสรรหาบุคคลจากภายในองค์การ 2. การสรรหาบุคคลจากภายนอกองค์การ
18 ข้อใดไม่ใช่ที่มาของการพัฒนาโครงสร้างเงินเดือนแบบ Broadbanding
(1) โครงสร้างเงินเดือนแบบเดิมขาดความยืดหยุ่น
(2) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
(3) ความจําเป็นในการพิจารณางานที่มีความคล้ายคลึงกันเข้าด้วยกัน
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 13. ประกอบ
19 การคัดเลือกในขั้นตอนใดจะกระทําสําเร็จได้จะต้องใช้ศิลป์มากกว่าศาสตร์
(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น
(2) การให้กรอกใบสมัคร
(3) การทดสอบ
(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน
(5) การตรวจร่างกาย
ตอบ 1 หน้า 128 – 129, (คําบรรยาย) การสัมภาษณ์เบื้องต้น (Preliminary Interview) เป็นการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อดูความเหมาะสมของผู้สมัครงาน ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยม มากที่สุดในการคัดเลือกบุคคลเข้าทํางาน โดยวิธีการนี้จะช่วยให้เห็นว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติ ตรงตามความต้องการขององค์การหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการที่จะรับคนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเข้ามาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้การสัมภาษณ์จะกระทํา สําเร็จได้จะต้องใช้ศิลป์มากกว่าศาสตร์
20 ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนระดับ
(1) ผลงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา
(2) ศักยภาพที่จะรับผิดชอบในตําแหน่งที่สูงขึ้น
(3) ความมีวุฒิภาวะ
(4) วุฒิการศึกษา
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 หน้า 157, (คําบรรยาย) ปัจจัยที่ใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนระดับตําแหน่ง มีดังนี้ 1. วุฒิการศึกษา 2. ผลงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา 3. ศักยภาพที่จะรับผิดชอบงาน ในตําแหน่งที่สูงขึ้น 4. ความมีวุฒิภาวะ ฯลฯ
21 สิ่งใดคือข้อเสียของระบบ Broadbanding
(1) ไม่ส่งเสริมการทํางานเป็นทีม
(2) ขาดความยืดหยุ่น
(3) ยากต่อการเปรียบเทียบค่าจ้างเงินเดือนในตลาด
(4) ไม่ให้ความสําคัญกับกระบวนการสรรหา คัดเลือก และบรรจุ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 227 – 228 ข้อเสียของโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนแบบ Broadbanding มีดังนี้ 1. ใช้งบประมาณมากในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนจากแบบเดิมมาเป็น แบบ Broadbanding 2. ไม่เหมาะสมกับองค์การที่มีลักษณะงานที่แตกต่างกันจํานวนมาก 3. ยากต่อการเปรียบเทียบค่าจ้างเงินเดือนในตลาด 4. ไม่เหมาะสมกับสังคมการทํางานที่ พนักงานมีความสามารถแตกต่างกันมาก 5. ไม่เหมาะสมกับองค์การที่ไม่ชอบการเรียนรู้ พัฒนาด้วยตนเอง ฯลฯ
22 ข้อใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการศึกษาการบริหารค่าจ้างเงินเดือน
(1) ศึกษาหลักการและวิธีการประเมินค่าจ้างเพื่อความเป็นธรรม
(2) โครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนสามารถจูงใจให้บุคลากรปฏิบัติงานเต็มความสามารถ
(3) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น
(4) ข้อ 1 และ 2 ถูก
(5) ข้อ 1 และ 3 ถูก
ตอบ 3 หน้า 141 จุดมุ่งหมายของการศึกษาการบริหารค่าจ้างเงินเดือน มีดังนี้
1 ศึกษาหลักการและวิธีการประเมินค่าจ้างเพื่อความเป็นธรรมในการจ่ายค่าตอบแทน
2 หลักการออกแบบโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในองค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3 โครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนสามารถจูงใจให้บุคลากรปฏิบัติงานเต็มความสามารถ
23 สภาองค์การนายจ้าง หมายถึง
(1) องค์การที่เกิดจากการรวมตัวของสมาคมหรือสหพันธ์ลูกจ้างตั้งแต่ 5 แห่งขึ้นไป
(2) องค์การที่เกิดจากการรวมตัวของสมาคมหรือสหพันธ์นายจ้างตั้งแต่ 5 แห่งขึ้นไป
(3) องค์การที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างสมาคมนายจ้างที่มีกิจกรรมในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ 2 สมาคมขึ้นไป
(4) องค์การระดับแรกของนายจ้างที่มีกิจการในลักษณะเดียวกันรวมตัวกันจัดตั้งขึ้น
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 297 องค์การนายจ้าง แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 1. สมาคมนายจ้าง คือ องค์การระดับแรกของนายจ้างที่มีกิจการในลักษณะเดียวกันรวมตัวกันจัดตั้งขึ้น 2. สหพันธ์นายจ้าง คือ องค์การที่เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างสมาคมนายจ้างที่มีกิจการ ในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ 2 สมาคมขึ้นไป 3. สภาองค์การนายจ้าง คือ องค์การที่เกิดจาก การรวมตัวกันระหว่างสมาคมหรือสหพันธ์นายจ้างตั้งแต่ 5 แห่งขึ้นไป
24 ทำไมต้องรักษากําลังคนไว้กับองค์การ
(1) ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหา
(2) คงความต่อเนื่องในการทํางาน
(3) ลดความสิ้นเปลืองในการฝึกอบรม
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การรักษาคนไว้ในองค์การ (Retain) คือ การสร้างแรงจูงใจให้คนทํางาน อยู่กับองค์การยาวนานหรือพยายามลดอัตราการลาออกของคนให้น้อยลง ทั้งนี้เพื่อ
1 คงความต่อเนื่องในการทํางาน
2 รักษาประสิทธิผลขององค์การ
3 ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหาคัดเลือกและฝึกอบรม
4 รักษาภาพลักษณ์ขององค์การ
5 สร้างความจงรักภักดี ฯลฯ
25 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับคําบรรยายลักษณะงาน (Job Description)
(1) เป็นการจัดวางโครงสร้างองค์การ
(2) เป็นแนวปฏิบัติเพื่อการธํารงวินัย
(3) เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอํานาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และขอบเขตของงานที่ต้องปฏิบัติ
(4) คือคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน
(5) คือการจัดสรรอัตรากําลังรองรับการบรรจุบุคลากรใหม่
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ
26 ข้อใดเป็นผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(1) การแบ่งงานกันทําตามความถนัด
(2) การเพิ่มค่าจ้างและสวัสดิการให้แก่แรงงาน
(3) การแปรรูปกิจการจากรัฐไปเป็นเอกชน
(4) การปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ
(5) การย้ายฐานการผลิตจากเมืองไปยังชนบท
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ
27 การรักษากําลังคนไว้กับองค์การมีความสําคัญเพราะเหตุใด
(1) รักษาความต่อเนื่องในการทํางาน
(2) รักษาประสิทธิผลขององค์การ
(3) ความสะดวกในการประเมินผลการทํางาน
(4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 24. ประกอบ
28 ข้อใดกล่าวได้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 360 องศา
(1) เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างรอบด้าน
(2) ผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถมีส่วนร่วมในการประเมิน
(3) เพื่อนร่วมงานสามารถมีส่วนร่วมในการประเมิน
(4) ทําให้เกิดการสื่อสารที่ดีขึ้นในองค์การ
(5) เป็นวิธีที่ล้าสมัยและไม่มีการใช้ในปัจจุบัน
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 360 องศา เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงาน อย่างรอบด้านโดยผู้ประเมินคือบุคคลรอบ ๆ ตัวเราทั้งหมด เช่น หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ตัวเรา ลูกค้า เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการประเมินที่ทันสมัยและนิยมใช้กันมาก ในปัจจุบัน โดยประโยชน์ของการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 360 มีดังนี้
1 ทําให้ได้ทัศนะที่หลากหลายในการประเมินบุคคลมากยิ่งขึ้น
2 เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานที่ร่วมกิจกรรมในการประเมิน และสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับผู้บังคับบัญชา ทําให้มีการสื่อสารที่ดี มีความเชื่อมั่น ระหว่างกัน และเกิดความร่วมแรงร่วมใจกัน
3 สร้างจิตสํานึกในการมองประโยชน์ส่วนรวมร่วมกันมากขึ้น
29 สิ่งใดเป็นปัจจัยจูงใจ (Motivation Factors)
(1) ค่าเดินทาง
(2) เงื่อนไขการทํางาน
(3) สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล
(4) ค่าตอบแทนพิเศษตามผลงาน
(5) ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการทํางานจากที่บ้าน (Work from Home)
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ
30 องค์การอาจเกิดปัญหาการปรับตัวและการขัดกันของวัฒนธรรมได้จากข้อใด
(1) การสรรหา
(2) การคัดเลือก
(3) การสรรหาจากภายใน
(4) การสรรหาจากภายนอก
(5) การบรรจุ
ตอบ 4 หน้า 119 ข้อเสียของการสรรหาบุคคลจากภายนอกองค์การ มีดังนี้
1 มีผลกระทบต่อขวัญกําลังใจและความผูกพันในการทํางานของบุคลากรภายในองค์การ
2 เป็นการปิดกั้นโอกาสความเจริญก้าวหน้าในสายงานอาชีพของบุคลากรภายในองค์การ
3 สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
4 อาจเกิดปัญหาการปรับตัวและการขัดกันของวัฒนธรรมในองค์การ ฯลฯ
31 ข้อใดไม่ใช่ภารกิจด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์
(1) งานหาทรัพยากรมนุษย์
(2) งานใช้ทรัพยากรมนุษย์
(3) งานดูแลรักษาทรัพยากรมนุษย์
(4) งานแลกเปลี่ยนทรัพยากรมนุษย์
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 7 ภารกิจด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1 งานหาทรัพยากรมนุษย์
2 งานใช้ทรัพยากรมนุษย์
3 งานดูแลรักษาทรัพยากรมนุษย์
32 วิธีการใดที่ทําให้องค์การอาจเสียโอกาสได้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่
(1) การสรรหา
(2) การคัดเลือก
(3) การสรรหาจากภายใน
(4) การสรรหาจากภายนอก
(5) การบรรจุ
ตอบ 3 หน้า 116 – 117 ข้อเสียของการสรรหาบุคคลจากภายในองค์การ มีดังนี้
1 ทําให้องค์การอาจเสียโอกาสได้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
2 หากองค์การไม่มีการกําหนดกฎเกณฑ์การคัดเลือกบุคลากรภายในองค์การที่ชัดเจน อาจทําให้การสรรหาบุคลากรภายในองค์การเป็นระบบอุปถัมภ์มากกว่าระบบคุณธรรม
3 ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรขึ้นภายในองค์การ เมื่อองค์การมีความต้องการ ในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ฯลฯ
33 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับเทคนิคเดลฟาย (Delphi)
(1) เป็นการพยากรณ์ความต้องการ
(2) เป็นการรวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
(3) คือการสร้างแบบจําลอง
(4) คือการสํารวจข้อมูลเชิงสถิติ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 77 – 78 เทคนิคเดลฟาย (Delphi) เป็นเทคนิคในการรวบรวมความคิดเห็นจาก ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยการตอบแบบสอบถาม ลักษณะสําคัญของเทคนิคนี้ก็คือ ผู้เชี่ยวชาญจะไม่มีโอกาสมาพบกันเพื่อพูดคุยในเรื่องที่ต้องแสดงความคิดเห็น และแต่ละคน
อาจไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทําให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
34 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับการบันทึกงาน (Diary Method)
(1) การจดบันทึกรายละเอียดของกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระทําในแต่ละวัน
(2) การบันทึกข้อมูลที่นักบินจะต้องบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ระหว่างทําการบิน
(3) ใช้เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงาน
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 107 การบันทึกงาน (Diary Method) เป็นวิธีการที่ใช้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงาน
เพื่อนําไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการวิเคราะห์งาน โดยนักวิเคราะห์งานจะให้ผู้ปฏิบัติงาน จดบันทึกรายละเอียดของกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตนกระทําในช่วงเวลาปฏิบัติงานในแต่ละวัน เช่น นักบินจะต้องบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ระหว่างทําการบิน เป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นประโยชน์มาก ถ้าผู้ปฏิบัติงานให้ความร่วมมือและจดบันทึกการทํางานตามความเป็นจริงอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ด้วยภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย
35. ข้อใดมิใช่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานสัมพันธ์
(1) พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
(2) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(3) พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
(4) พระราชบัญญัติประกันสังคม
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 293 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานสัมพันธ์ มีดังนี้
1 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 6 ว่าด้วยสัญญาจ้างแรงงาน
2 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
3 พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
4 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522
5 พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
6 พระราชบัญญัติกองทุนเงินทดแทน พ.ศ. 2537
7 พระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543
36. คำกล่าวใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงการบริหารทรัพยากรมนุษย์ได้ไม่ถูกต้อง
(1) เป็นกระบวนการที่ทำให้องค์การได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาปฏิบัติงาน
(2) คือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์การ
(3) ช่วยให้บุคลากรในหน่วยงานมีขวัญและกำลังใจ
(4) ทำให้องค์การใช้ทรัพยากรที่มีได้อย่างคุ้มค่า
(5) ช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัว
ตอบ 5 หน้า 4 – 5 (คำบรรยาย) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีลักษณะดังนี้
1 เป็นการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์การ หรือทำให้องค์การใช้ทรัพยากร (คน) ที่มีได้อย่างคุ้มค่า
2 เป็นกระบวนการที่ทำให้องค์การได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาปฏิบัติงาน
3 ช่วยทำให้บุคลากรในหน่วยงานมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ฯลฯ
37. ข้อใดไม่จำเป็นสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(1) การทำความเข้าใจกับผู้ประเมินถึงนโยบายและวัตถุประสงค์ในการประเมิน
(2) ผู้รับการประเมินต้องร่วมออกแบบวิธีการประเมิน
(3) ต้องมีการแจ้งผลการประเมินให้ผู้รับการประเมินทราบ
(4) การประเมินจะต้องกระทำโดยทางลับ
(5) ผู้บังคับบัญชาควรมีส่วนร่วมในการประเมิน
ตอบ 2 หน้า 242, (คำบรรยาย) การออกแบบวิธีการประเมินเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ดังนั้นหน่วยงานจะต้องเลือกวิธีให้เหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะงานและความมุ่งหมายที่ตั้งไว้
38. เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยจัดกลุ่มตามลักษณะ/ปัจจัยของงาน
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 3 การจัดระดับงาน (Job Classification or Grading Method) เป็นวิธีการประเมินค่างานโดยจัดกลุ่มตามลักษณะ/ปัจจัยของงาน ซึ่งปัจจัยที่กําหนดความยากง่ายของงาน ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ความชํานาญ ความรับผิดชอบ และสภาพการทํางาน
39 การวิเคราะห์เพื่อตีค่าความยากง่ายของงานคือข้อใด
(1) การวิเคราะห์งาน
(2) ใบพรรณนาหน้าที่งาน
(3) คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน
(4) การประเมินค่างาน
(5) การกําหนดค่าตอบแทน
ตอบ 4 (คำบรรยาย) การประเมินค่างาน หมายถึง กระบวนการวิเคราะห์เพื่อตีค่าความยากง่ายของงาน หรือเป็นกระบวนการวิเคราะห์ ตีค่างาน ประเมินหรือเปรียบเทียบคุณค่าของงานต่าง ๆ ในองค์การ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างงานหรือประสิทธิภาพในงานกับค่าตอบแทนที่ควรจะจ่าย หรือเป็นการประเมินคุณค่าว่างานใดควรได้ค่าตอบแทนเท่าใด ซึ่งแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมินค่างาน ได้แก่ การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) ใบพรรณนาหน้าที่งาน (Job Description) คุณสมบัติตําแหน่ง (Job Specification) และประเภทของ ตําแหน่งต่าง ๆ ในองค์การ
40 สิ่งใดต่อไปนี้ที่สะท้อนถึงการตระหนักถึงการให้คุณค่ากับแรงงาน
(1) การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
(2) การตรากฎหมายคุ้มครองแรงงาน
(3) การขอรับความช่วยเหลือจาก IMF
(4) การนําเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศมาใช้แทนแรงงาน
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 (คำบรรยาย) สิ่งที่สะท้อนถึงการตระหนักถึงการให้คุณค่ากับแรงงาน ก็คือ การตรากฎหมายคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงสิทธิและหน้าที่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดยกําหนดมาตรฐานขั้นต่ําในการใช้แรงงาน การจ่ายค่าตอบแทนการทํางาน การจัดสถานที่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการทํางาน เพื่อให้ลูกจ้างทํางานด้วยความปลอดภัย มีสุขภาพอนามัยที่ดี ได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสม
41 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับ “การบริหารแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์”
(1) เป็นการบริหารงานที่เน้นคุณลักษณะของบุคคล
(2) เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบเดิมที่ให้ความสําคัญกับพฤติกรรม
(3) สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะนําไปสู่การเสริมสร้างระบบคุณธรรมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์
(4) เป็นการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ที่ล้าสมัย
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 (หน้า 249, คำบรรยาย) การบริหารแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ (Result Based Management) เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานเป็นหลัก โดยมีการวัดผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งถือเป็นการบริหารแนวใหม่และถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะนําไปสู่การเสริมสร้างระบบคุณธรรมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์
42 นโยบายการประเมินขั้นเงินเดือนข้าราชการปีละ 2 ครั้ง สะท้อนหลักการในข้อใด
(1) หลักการกระจายอํานาจ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักจริยธรรมและวินัย
(4) หลักระบบค่าตอบแทน
(5) หลักประสิทธิภาพ
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักระบบค่าตอบแทนตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1 การจำแนกกลุ่มข้าราชการเป็น 4 กลุ่มใหญ่ (Cluster) และกำหนดบัญชีเงินเดือน เป็น 4 บัญชี ซึ่งแต่ละบัญชีใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่งแต่ละประเภท
2 กำหนดให้มีเงินเพิ่มใหม่อีก 2 ประเภท คือ ตามพื้นที่และตามสายงาน
3 กำหนดให้เพิ่มค่าตอบแทนบุคคลที่มีใบรับรองการมีวุฒิการศึกษาเพิ่มที่ตรงตามหน้าที่
4 กำหนดให้ข้าราชการทุกระดับต้องถูกประเมินผลการปฏิบัติราชการแบบ 360 องศา เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน
5 การเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการมีการกำหนดให้ต้องเบิกยานอกบัญชีหลัก
6 มีการประเมินขั้นเงินเดือนข้าราชการปีละ 2 ครั้ง
7 มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ ฯลฯ
43. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารแรงงานที่สอดคล้องกับทฤษฎี Y ของ McGregor
(1) การสั่งการตามสายการบังคับบัญชา
(2) การเน้นการควบคุม
(3) การเน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
(4) การกระจายอำนาจการตัดสินใจ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 (หน้า 287 แนวคิดแรงงานสัมพันธ์เชิงรุก (Proactive Labor Relations) เป็นแนวคิดการบริหารจัดการแรงงานที่สอดคล้องกับทฤษฎี Y ของ McGregor ซึ่งเป็นแนวคิดที่เน้นการกระจายอำนาจ การบริหารและการตัดสินใจแก่บุคลากรระดับต่างๆ มีการกำหนดนโยบายหรือวิธีการบริหารจัดการโดยรับฟังความคิดเห็นของบุคลากร ให้ความสำคัญกับความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของบุคลากร มีการสำรวจความคิดเห็นเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน รวมทั้งมีแนวคิดการให้สิทธิประโยชน์ในลักษณะเป็น “การให้ก่อนที่จะร้องขอ”)
44. สิ่งใดเป็นผลจากการศึกษา Hawthorn Study ของ Elton Mayo และคณะที่โรงงาน Western Electric
(1) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนงานส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
(2) แสงสว่างมีผลต่อการทำงาน
(3) ค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมมีผลต่อการขาดงาน
(4) ความต้องการของมนุษย์มี 5 วัน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 (หน้า 43 – 44 Elton Mayo และคณะได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการทำงานของคนงานในโรงงาน Western Electric Hawthorne ซึ่งต่อมาเรียกว่า กรณีศึกษาฮอว์ธอร์น (Hawthorn Study) โดยพบว่า การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนงานส่งผลต่อขวัญกำลังใจและแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อผลผลิตของการปฏิบัติงานด้วย ผลผลิตส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม และความร่วมมือร่วมใจของคนงาน ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับความเอาใจใส่ของหัวหน้าที่มีผลกระทบต่อคนงาน)
45. ข้อใดกล่าวได้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับแรงงานสัมพันธ์
(1) ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
(2) กระบวนการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
(3) กระบวนการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
(4) รูปแบบของกิจกรรมที่จัดขึ้นร่วมกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 273 แรงงานสัมพันธ์ มีความหมายดังนี้
1 ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง หัวหน้าผู้ควบคุมงานหรือระหว่างพนักงานด้วยกัน ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีนี้จะทําให้เกิดความร่วมมือ ความสามัคคี และการที่จะสร้างความสัมพันธ์ ที่ดีจะต้องมีกิจกรรมหรือการสื่อสารที่ดี
มีกระบวนการหรือกลไกคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง หรือความต้องการที่ไม่ตรงกัน รับรู้ความต้องการและปัญหาของอีกฝ่ายโดยมีระบบการพูดคุย เจรจา และสร้างข้อตกลงร่วมกัน
2 กระบวนการเพื่อสร้างความร่วมมือความเข้าใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดยมีการ แสดงออกซึ่งการเรียกร้อง การเจรจา ทําความเข้าใจตกลงกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อเป็นข้อตกลงสภาพการจ้าง
46. ข้อใดคือปรัชญาในการประเมินผลการปฏิบัติงานในปัจจุบัน
(1) เน้นการประเมินคุณลักษณะเฉพาะตัวของบุคคลซึ่งไม่มีความสัมพันธ์กับตัวงาน
(2) ให้ความสําคัญกับวุฒิการศึกษา
(3) เน้นบุคลิกลักษณะภายนอกเป็นหลัก
(4) เน้นผลการทํางานที่เกิดขึ้นจริง
(5) ต้องไม่มีความบกพร่องทางกาย
ตอบ 4 หน้า 248 ปรัชญาในการประเมินผลการปฏิบัติงานในปัจจุบันนั้นจะเน้นผลการทํางาน ที่เกิดขึ้นจริง และยึดเป้าหมายของงานเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากปรัชญาในการประเมินผล การปฏิบัติงานในอดีตที่เน้นการประเมินเฉพาะตัวพนักงาน คือจะประเมินผลในเรื่องคุณลักษณะ ความบกพร่อง และความสามารถเฉพาะตัวของพนักงานซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ กับตัวงาน
47. ข้อใดคือความยุติธรรมภายนอกของการบริหารเงินเดือนและค่าจ้าง
(1) การปรับตามค่าแรงขั้นต่ํา
(2) การปรับตามค่าครองชีพ
(3) การปรับตามอัตราเงินเฟ้อ
(4) การสํารวจเงินเดือน/ค่าจ้าง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 142, (คําบรรยาย) ความยุติธรรมภายนอกของการบริหารเงินเดือนและค่าจ้าง หมายถึง
กําหนดเงินเดือนและค่าจ้างจะต้องสอดคล้องกับการจ้างงานในตลาดแรงงานซึ่งพิจารณาจาก
ค่าแรงขั้นต่ํา ค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ การสํารวจเงินเดือน/ค่าจ้างในตลาดแรงงาน เป็นต้น
48. คํากล่าวที่ว่า “โตไปไม่โกง” สะท้อนถึงหลักการในข้อใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอํานาจ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) คํากล่าวที่ว่า “โตไปไม่โกง” สะท้อนถึงหลักการด้านจริยธรรมและวินัย
ซึ่งถูกนํามาใช้เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ทําลายสังคมอย่างรุนแรงและฝังรากลึก โดยคนในสังคมนั้นจะต้องมีค่านิยมในการรักความดีและไม่ยอมรับพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชัน
และการโกงทุกรูปแบบโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งการสร้างค่านิยมที่ถูกต้องนี้ จะเป็นรากฐานสําคัญที่ทําให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ได้ผลที่สุด
49 คํากล่าวใดเป็นไปตามหลักความเป็นกลางทางการเมือง
(1) ข้าราชการต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าตนเองจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
(2) ข้าราชการไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง
(3) ข้าราชการต้องไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ
(4) ข้าราชการไม่ควรลงสมัครรับเลือกตั้ง
(5) ข้าราชการต้องให้การสนับสนุนกับพรรคการเมืองทุกพรรคในการหาเสียงเลือกตั้ง
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 4 – 5) หลักความเป็นกลางทางการเมือง (Political Neutrality) หมายถึง ข้าราชการประจําต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าตนเอง จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะว่าตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้น ถือว่านโยบายของรัฐบาลเป็นการแสดงออกโดยปริยายถึงความต้องการหรือเจตนารมณ์ ของประชาชน ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลชุดใดเข้ามาบริหารประเทศ ข้าราชการประจําต้องปฏิบัติ ตามนโยบายนั้น ๆ อย่างเต็มความสามารถ จะละเลยเพิกเฉยมิได้
50 เป็นวิธีการประเมินค่างานที่ซับซ้อน ต้นทุนสูง แต่มีความน่าเชื่อถือและมีความแน่นอนในการเปรียบเทียบ
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 5
หน้า 172 – 173 การเปรียบเทียบปัจจัย (Factor Comparison) เป็นวิธีการประเมินค่างาน โดยใช้วิธีเชิงปริมาณเทียบปัจจัยในงาน ซึ่งเป็นวิธีที่ซับซ้อน ต้นทุนสูง แต่มีความน่าเชื่อถือกว่า วิธีการอื่น ๆ ข้อดีของวิธีนี้ คือ เหมาะสําหรับการกําหนดมาตรฐานเฉพาะงานของแต่ละองค์การ และสามารถเปรียบเทียบค่างานของแต่ละงานได้แน่นอน
51 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมมีวัตถุประสงค์ตามข้อใด
(1) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ
(2) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางสังคม
(3) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
(4) เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางการลงทุน
(5) เพื่อการบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 6 – 7) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ โดยในสมัยนี้ได้มีการรวบรวมคนจํานวนมาก มาทํางานในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่เนื่องจากการขาดการเอาใจใส่ดูแล จากนายจ้างทําให้คนงานไม่พอใจในสภาพการทํางานที่เป็นอยู่
52 สิ่งใดไม่ได้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อองค์การ
(1) กระแสโลกาภิวัตน์
(2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
(3) สิ่งท้าทายด้านคุณภาพ
(4) ความคาดหวังของผู้รับบริการ
(5) วัฒนธรรมองค์การ
ตอบ 5 หน้า 24 – 28, 65 – 67 ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อองค์การ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกองค์การ ได้แก่ กระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมการจัดการ สิ่งท้าทายด้านคุณภาพ โครงสร้างประชากร และกําลังแรงงาน สภาวะทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน ความคาดหวังของผู้รับบริการ เป็นต้น 2. ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในองค์การ ได้แก่ โครงสร้างองค์การ วัฒนธรรมองค์การ กลยุทธ์ ขององค์การ ค่านิยมร่วมในการปฏิบัติงาน บุคลากรในองค์การ ความสามารถหรือทักษะของ บุคลากร เป็นต้น
53. ข้อใดไม่ใช่เหตุผลของการรักษากำลังคน
(1) ลดความสิ้นเปลืองในการสรรหา
(2) คงความต่อเนื่องในการทำงาน
(3) เพื่อเปิดให้มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
(4) รักษาภาพลักษณ์องค์การ
(5) สร้างความจงรักภักดี
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ
54. “สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขารัฐศาสตร์…” ข้อความดังกล่าวพบได้จากที่ใด
(1) การวิเคราะห์งาน
(2) คำบรรยายลักษณะงาน
(3) คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน (Job Specification)
(4) การประเมินค่างาน
(5) การกำหนดค่าตอบแทน
ตอบ 3 หน้า 87, 90, (คำบรรยาย) การกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงาน (Job Specification) เป็นการกำหนดรายละเอียดของคุณสมบัติเฉพาะของพนักงานซึ่งใช้ในการทำงานเฉพาะอย่าง เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ เช่น วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ความชำนาญ เพศ อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่นำมาใช้ในการกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงานนี้จะพิจารณา จากความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และความสามารถ (Abilities)
55. ข้อใดเป็นวิธีที่ใช้ในการประเมินค่างานของข้าราชการพลเรือนในปัจจุบัน
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ
56. “อัตราการลาออกลดลง” เป็นเป้าหมายของเรื่องใด
(1) การจูงใจ
(2) การประเมินค่างาน
(3) การสรรหา
(4) การรักษาคนไว้ในองค์การ
(5) การเลื่อนตำแหน่ง
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ
57. ข้อใดเป็นปัจจัยเพิ่มแรงจูงใจแก่พนักงาน (Motivation Factors)
(1) แสงไฟในที่ทำงาน
(2) ห้องทำงานส่วนตัว
(3) เครื่องปรับอากาศ
(4) คอมพิวเตอร์
(5) โต๊ะทำงาน
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ
58. สิ่งใดคือความต้องการขั้นแรกตามทฤษฎีความต้องการตามลำดับขั้นของ Abraham H. Maslow
(1) ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
(2) ความต้องการทางกายภาพ
(3) ความต้องการทางสังคม
(4) ความต้องการทางจิตใจ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 46 – 47, (คำบรรยาย) Abraham H. Maslow ได้เสนอหลักการตอบสนอง ความต้องการ 5 ขั้น โดยเห็นว่า ความต้องการของบุคคลจะเรียงเป็นลำดับขั้นตอนตาม ความสำคัญ เมื่อความต้องการระดับต่ำได้รับการตอบสนองแล้ว บุคคลจะให้ความสนใจ กับความต้องการระดับสูงต่อไป ซึ่งความต้องการของบุคคลมี 5 ขั้น ดังนี้
1 ความต้องการทางกายภาพ
2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
3 ความต้องการความรัก
4 ความต้องการยกย่อง
5 ความต้องการความสำเร็จด้วยตนเอง
59 ข้อใดคือวิธีการที่ใช้ทดแทนการสรรหา
(1) การทำงานล่วงเวลา
(2) การจ้างงานชั่วคราว
(3) การขอเช่าพนักงาน
(4) การใช้ผู้รับเหมาช่วง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 123 – 125 วิธีการที่ใช้ทดแทนการสรรหา มีดังนี้
1 การทำงานล่วงเวลา (Overtime)
2 การจ้างงานชั่วคราว (Temporary Employment)
3 การขอเช่าพนักงาน (Employee Leasing)
4 การใช้ผู้รับเหมาช่วง (Subcontracting)
5 การใช้ผู้รับเหมาอิสระ (Independent Contractors)
60 Employment Test หมายถึงข้อใด
(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น
(2) การให้กรอกใบสมัคร
(3) การทดสอบเพื่อให้บุคคลแสดงความสามารถและพฤติกรรม
(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน
(5) การตรวจร่างกาย
ตอบ 3
หน้า 128 – 130, (คำบรรยาย) การทดสอบ (Employment Test) เป็นเครื่องมือในการประเมินเพื่อตรวจสอบความรู้ความสามารถและพฤติกรรมของพนักงานว่าตรงกับลักษณะงานหรือไม่ โดยทั่วไปรูปแบบของการทดสอบอาจจำแนกได้ดังนี้
1 การทดสอบความสามารถ
2 การทดสอบบุคลิกภาพและความสนใจ
3 การทดสอบความสำเร็จ
61 ข้อใดคือความสำคัญของการวางแผนทรัพยากรมนุษย์
(1) เป็นกระบวนการกำหนดตำแหน่งที่กิจการมีความต้องการ
(2) คาดการณ์ความต้องการด้านทรัพยากรมนุษย์
(3) กำหนดแผนปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
(4) เพื่อความมั่นใจว่าองค์การจะมีบุคลากรที่มีทักษะและความรู้ความสามารถเพียงพอ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 60, 72 การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ เป็นกระบวนการกำหนดตำแหน่งที่กิจการมีความต้องการและมีวิธีการค้นหาบุคคลเพื่อบรรจุในตำแหน่งดังกล่าว หรือเป็นกระบวนการคาดการณ์ความต้องการด้านทรัพยากรมนุษย์ขององค์การอันจะส่งผลถึงการกำหนดวิธีการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและการตอบสนองต่อปัจจัยแวดล้อม ตั้งแต่ก่อนบุคคลเข้าร่วมงานกับองค์การ ขณะปฏิบัติงานอยู่ในองค์การ จนกระทั่งพ้นออกจากองค์การ เพื่อให้องค์การใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและเป็นหลักประกันว่าองค์การจะมีบุคลากรที่มีทักษะและความรู้ความสามารถเพียงพออยู่เสมอ ตลอดจนเพื่อให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์การ
62 ข้อใดเป็นองค์ประกอบของการประเมินผลการปฏิบัติงานสมัยใหม่
(1) เน้นการมีส่วนร่วม
(2) ยึดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของงาน
(3) เน้นผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 248 – 249 องค์ประกอบของการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแนวคิดสมัยใหม่ มี 3 ประการ คือ
1 เน้นผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
2 ยึดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของงานและองค์การ
3 เน้นการมีส่วนร่วมกับผู้บังคับบัญชาในการกำหนดเป้าหมายงาน
63 สิ่งใดที่ไม่จำเป็นต้องมีในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
1) ข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง
(2) การแจ้งข้อมูลกลับไปยังผู้ถูกประเมิน
(3) การประเมินโดยอดีตผู้บังคับบัญชา
(4) การเปิดเผยผลการประเมินให้ทุกคนร่วมรับทราบ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3, 4 หน้า 242, 264, (คำบรรยาย) การประเมินผลการปฏิบัติงานโดยปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาปัจจุบันซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ที่จะถูกประเมิน เพราะเป็นผู้รับผิดชอบต่องานที่สั่งให้ผู้ถูกประเมินปฏิบัติ ส่วนผลการประเมินการปฏิบัติงานนั้นไม่ควรเปิดเผยให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องรับทราบ ผู้ประเมินควรแจ้งผลการประเมินให้เฉพาะผู้ถูกประเมินรับทราบเท่านั้น เพราะการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นเรื่องผลงานเฉพาะตัวของพนักงานผู้ถูกประเมิน
64 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ภายใต้แนวคิดใดที่ไม่ได้ส่งเสริมให้บุคลากรพัฒนาตนเอง
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) การพัฒนาแนวคิดด้านนวัตกรรม
(4) ระบบอุปถัมภ์
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 15. ประกอบ
65 ความยุติธรรมภายนอก (External Equity) คือ
(1) การกำหนดเงินเดือนหรือค่าจ้างเพื่อป้องกันปัญหาความไม่เข้าใจกันในหน่วยงาน
(2) การกำหนดค่าจ้างที่สอดคล้องกับการจ้างงานในตลาดแรงงาน
(3) การกำหนดค่าจ้างโดยพิจารณาจากความรู้และประสบการณ์
(4) การกำหนดค่าจ้างให้เหมาะสมกับรายได้ขององค์การ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ
66 หลักการในข้อใดที่คำนึงถึงผลลัพธ์ของการดำเนินการควบคู่กับการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอำนาจ
ตอบ 1 (คำบรรยาย) หลักการเสริมประสิทธิภาพ เป็นหลักการที่คำนึงถึงผลลัพธ์ของการดำเนินการควบคู่กับการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า
67 คำกล่าวใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(1) เป็นการประเมินค่าของบุคคลผู้ปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ
(2) เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลากร
(3) มีเป้าหมายเพื่อใช้จัดโครงสร้างองค์การ
(4) ทำให้ทราบว่าผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนมีความสามารถเพียงใด
(5) สามารถใช้เครื่องมือในการประเมินได้หลายแบบ
ตอบ 3 หน้า 239 – 240 การประเมินผลการปฏิบัติงาน เป็นการประเมินค่าของบุคคลผู้ปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบในแง่ของผลการปฏิบัติงาน ซึ่งจะทำให้ทราบว่าผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนมีความสามารถในการปฏิบัติงานเพียงใด โดยผลของการประเมินจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือประกอบการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลเข้าปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่ง การพัฒนาบุคคล การจัดสวัสดิการ การพิจารณาความดีความชอบประจำปี เป็นต้น
68. สิ่งใดที่เกิดขึ้นภายหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(1) การใช้แรงงานทาส
(2) ช่างฝีมือ
(3) แรงงานในโรงงาน
(4) การฝึกงานให้กับช่างฝึกหัด
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 8. ประกอบ
69. ข้อใดเป็นวิธีการคาดการณ์ความต้องการด้านทรัพยากรมนุษย์
(1) Balance Scorecard
(2) การวิเคราะห์ SWOT
(3) การใช้เทคนิคเดลฟาย (Delphi)
(4) การวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุน ผลตอบแทน (Cost-Benefit Analysis)
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 77 – 81 เทคนิคหรือวิธีการคาดการณ์ความต้องการด้านทรัพยากรมนุษย์ มีดังนี้
1 เทคนิคเดลฟาย
2 เทคนิคนอมินอลกรุ๊ป
3 เทคนิคการพยากรณ์แนวโน้ม
4 เทคนิคเชิงปริมาณ
5 การใช้เครื่องมือเชิงคุณภาพ
6 เทคนิคการสร้างภาพจำลองกำลังแรงงาน
7 เทคนิคการคาดคะเนโดยการวิเคราะห์ปริมาณงาน
8 เทคนิคการสอบถามและตรวจสอบ
70. ข้อใดไม่ใช่วิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงาน
(1) การสังเกต
(2) การสัมภาษณ์
(3) การใช้แบบสอบถาม
(4) การสอบถามโดยใช้ Google Form
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 หน้า 101 – 107, (คำบรรยาย) วิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงาน มีดังนี้
1 การสังเกต
2 การใช้แบบสอบถาม เช่น การสอบถามโดยใช้ Google Form
3 การสัมภาษณ์
4 การประชุม
5 การบันทึกงาน
6 การทดลองปฏิบัติงาน
71. ข้อใดคือผลเสียของการจัดทำโครงสร้างเงินเดือนที่ไม่เหมาะสม
(1) พนักงานลาออก
(2) พนักงานขาดขวัญกำลังใจ
(3) ไม่สามารถดึงดูดบุคคลให้เข้าสู่องค์การ
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 178, (คำบรรยาย) ผลเสียของการจัดทำโครงสร้างเงินเดือนที่ไม่เหมาะสม มีดังนี้
1 พนักงานขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
2 พนักงานอาจลาออก ไม่เอาใจใส่งาน ขาดงานหรือมาสายเป็นประจำ
3 ไม่สามารถดึงดูดบุคคลให้เข้าสู่องค์การได้ ฯลฯ
72. ข้อใดเป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบความสามารถของพนักงานว่าตรงกับลักษะงานหรือไม่
(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น
(2) การให้กรอกใบสมัคร
(3) การทดสอบเพื่อให้บุคคลแสดงความสามารถและพฤติกรรม
(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน
(5) การตรวจร่างกาย
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 60. ประกอบ
73 ข้อใดสอดคล้องกับแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) ของ Frederick W. Taylor
(1) วิธีการทํางานที่ดีที่สุด (One Best Way)
(2) การศึกษาเวลากับการเคลื่อนไหว (Time and Motion Study)
(3) ทฤษฎี X และทฤษฎี Y
(4) มีคําตอบที่ถูกมากกว่า 1 ข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 38 – 40 Frederick W. Taylor ได้เสนอแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) โดยเน้นการนําหลักการ วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในกระบวนการทํางาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ เช่น การพัฒนาวิธีการทํางานที่ดีที่สุด (One Best Way) การคัดเลือกและฝึกอบรมคนงานเพื่อให้ได้คนที่มีความเหมาะสมกับงาน เป็นต้น
74 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับแบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง (Structured Questionnaire)
(1) จํากัดอิสระในการตอบ
(2) มีตัวเลือกให้ตอบ
(3) สามารถประมวลผลโดยใช้คอมพิวเตอร์
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 105 แบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง (Structured Questionnaire) เป็นแบบสอบถาม ที่จํากัดอิสระในการตอบแบบสอบถามของผู้ตอบ เพราะมีการกําหนดคําตอบให้ผู้ตอบเลือก โดยแบบสอบถามแบบมีโครงสร้างนี้จะช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลและ ทําการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วตรงตามที่ต้องการโดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่มีชุดคําสั่งทางสถิติสําหรับคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการประมวลผลข้อมูล
75 ข้อใดเอาไปใช้ออกแบบงาน (Job Design)
(1) คําบรรยายลักษณะงาน (Job Description)
(2) การออกแบบงาน (Job Design)
(3) การประเมินค่างาน (Job Evaluation)
(4) การกําหนดคุณสมบัติเฉพาะ (Job Specification)
(5) การวิเคราะห์งาน (Job Analysis)
ตอบ 5 หน้า 95 – 97 ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์งาน (Job Analysis) สามารถนําไปใช้ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ ได้หลายลักษณะ เช่น การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ การสรรหาและคัดเลือกบุคคล การฝึกอบรมและพัฒนาบุคคล การประเมินผลการทํางาน การประเมินค่างาน การกําหนด ค่าตอบแทน การส่งเสริมความปลอดภัยในการทํางาน การออกแบบงาน (Job Design) เป็นต้น
76 ข้อใดเป็นวิธีการประเมินค่างานโดยใช้วิธีเชิงปริมาณเทียบปัจจัยในงาน
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 50. ประกอบ
77 ข้อดีของการสรรหาบุคคลจากภายใน คือ
(1) ประหยัดค่าใช้จ่าย
(2) สร้างขวัญและกําลังใจ
(3) เปิดมุมมองใหม่ ๆ
(4) ข้อ 2 และ 3 ถูก
(5) ข้อ 1 และ 2 ถูก
ตอบ 5 หน้า 116 – 117 ข้อดีของการสรรหาบุคคลจากภายในองค์การ มีดังนี้
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. สร้างขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากร
3. สามารถสรรหาบุคลากรได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากองค์การมีข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับ ทักษะ ความสามารถของผู้สมัครภายในดีกว่าผู้สมัครภายนอก
4. เป็นการให้หลักประกันในการทํางานโดยให้โอกาสความก้าวหน้าในการทํางานแก่บุคลากร ที่มีความตั้งใจทํางาน ผลงานอยู่ในระดับดีได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนตําแหน่ง ฯลฯ
78.Robert Owen เป็นนายจ้างคนแรกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องใด
(1) การพัฒนาเครื่องจักรให้ทันสมัย
(2) การนำเข้าแรงงานต่างด้าว
(3) การลดจำนวนเครื่องจักรและใช้คนแทน
(4) การพัฒนาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม
(5) การเปลี่ยนแปลงระบบการจ่ายค่าแรงมาเป็นระบบการจ่ายค่าแรงตามจำนวนชิ้นงาน (Piece-Rate Pay System)
ตอบ 4 หน้า 277 โรเบิร์ต โอเวน (Robert Owen) เป็นนายจ้างคนแรกที่ให้ความสำคัญต่อผู้ใช้แรงงาน โดยการเสนอแนวคิดว่า ในขณะที่นายจ้างใช้เงินทุนเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อ รักษาเครื่องจักร และโรงงานก็ควรจะให้ความสนใจต่อการพัฒนาปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานของ เครื่องจักรที่มีชีวิต (ผู้ใช้แรงงาน) ให้เหมาะสม ซึ่งแนวคิดนี้ได้นำไปสู่การผลักดันให้มีการออก กฎหมายมาคุ้มครองผู้ใช้แรงงาน
79.“ให้ไปรายงานตัวกับหัวหน้างาน” เป็นขั้นตอนในข้อใด
(1) การสรรหา
(2) การคัดเลือก
(3) การสรรหาจากภายใน
(4) การสรรหาจากภายนอก
(5) การบรรจุ
ตอบ 5 หน้า 131 การบรรจุ (Placement) เป็นการให้ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกแล้วไปทำงานในแผนก ที่ต้องการบุคลากร ในขั้นตอนนี้จะมีการส่งมอบผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปรายงานตัวกับ หัวหน้างานในแผนกที่รับคน ซึ่งจะมีวิธีการให้รายงานอย่างถูกต้อง และมีการส่งรายละเอียด ประวัติ ข้อมูล ตลอดจนผลการคัดเลือกตามวิธีการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การสอนงานในระยะเริ่มแรก โดยหัวหน้างานสามารถกระทำได้สะดวกและง่ายขึ้น
80.การจูงใจให้คนหันมาสนใจยื่นใบสมัครให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้คือข้อใด
(1) การสรรหา
(2) การคัดเลือก
(3) การสรรหาจากภายใน
(4) การสรรหาจากภายนอก
(5) การบรรจุ
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ
81.ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของแรงงานสัมพันธ์
(1) การระงับข้อพิพาท
(2) การรักษาความเป็นธรรมในด้านสังคมและเศรษฐกิจ
(3) การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
(4) การให้ความคุ้มครองแก่นายจ้างและลูกจ้าง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 283 284 วัตถุประสงค์ของแรงงานสัมพันธ์ มีดังนี้ 1. การระงับข้อพิพาท 2. การรักษาความเป็นธรรมในด้านสังคมและเศรษฐกิจ 3. การส่งเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง 4. การให้ความคุ้มครองแก่นายจ้างและลูกจ้าง
82. ข้อใดเป็นขั้นตอนที่ตรวจสอบประวัติของผู้สมัครที่กรอกไว้ในใบสมัคร
(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น
(2) การให้กรอกใบสมัคร
(3) การทดสอบ
(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน
(5) การตรวจร่างกาย
ตอบ 4 หน้า 128 – 129 การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน (Background Investigation) เป็นขั้นตอนตรวจสอบประวัติของผู้สมัครที่กรอกไว้ในใบสมัคร ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าการทำงานต่าง ๆ ที่แล้วมา หรือข้อมูลต่าง ๆ ของผู้สมัครที่ได้กรอกไว้ในใบสมัคร ตลอดจนสิ่งที่ได้รับฟังจากการสัมภาษณ์ถูกต้องหรือไม่
83. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุที่คนเลือกอยู่กับองค์การ
(1) ชื่อเสียงขององค์การ
(2) ค่าตอบแทน
(3) วัฒนธรรมองค์การ
(4) ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
(5) เป็นไปได้ทุกข้อ
ตอบ 5 (คำบรรยาย) ค่าตอบแทนเป็นเพียงปัจจัยพื้นฐานที่สามารถจูงใจและรักษาคนให้อยู่กับองค์การ ดังนั้นการที่คนจะอยู่กับองค์การยาวนาน ไม่ลาออกไปหางานใหม่ทำจึงไม่ใช่เพราะเรื่องค่าตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความมั่นคงของงาน โอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูล ชื่อเสียงขององค์การ วัฒนธรรมองค์การ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
84. ข้อใดไม่ใช่สภาพแวดล้อมภายในองค์การ
(1) โครงสร้างองค์การ
(2) ค่านิยมร่วม
(3) ทักษะของบุคลากร
(4) กลยุทธ์ของหน่วยงาน
(5) สภาวะทางเศรษฐกิจ
ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 52. ประกอบ
85. ข้อใดใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินค่างาน
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 39. และ 75. ประกอบ
86. เป็นวิธีการประเมินค่างานที่มักใช้การเปรียบเทียบเป็นคู่ ๆ (Paired-Comparison)
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ
87. สิ่งใดต่อไปนี้ที่สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาอัตราเข้าออกงาน (Turnover Rate)
(1) ปัจจัยจูงใจ
(2) ปัจจัยสุขภาวะ
(3) ทั้งปัจจัยจูงใจและปัจจัยสุขภาวะ
(4) การเพิ่มอัตรากำลัง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 (คำบรรยาย) การแก้ไขปัญหาอัตราเข้าออกงาน (Turnover Rate) ของพนักงานสูงนั้น จะต้องใช้ทั้งปัจจัยจูงใจและปัจจัยสุขภาวะเพื่อจูงใจและรักษาคนดีมีความสามารถให้ทำงานอยู่กับองค์การต่อไป เช่น เงินเดือน สวัสดิการ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สภาพการทำงานที่เหมาะสม เป็นต้น
88. กระบวนการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติและลักษณะของงานคือข้อใด
(1) การวิเคราะห์งาน
(2) คำบรรยายลักษณะงาน (Job Description)
(3) คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน
(4) การประเมินค่างาน
(5) การกำหนดค่าตอบแทน
ตอบ 1 หน้า 86 การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) หมายถึง กระบวนการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติและลักษณะของงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการศึกษาหน้าที่ในงาน ความรับผิดชอบ สภาพการทำงาน รวมทั้งคุณลักษณะประจำของบุคคลที่เหมาะสมกับงานนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานนั้น ๆ สำเร็จลงได้ และเพื่อให้ได้สารสนเทศของงานนั้นเพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรมอื่นในอนาคต
89. ข้อใดไม่ใช่การประเมินค่างาน
(1) วิธีการจัดลำดับงาน
(2) วิธีการวางแผนงาน
(3) วิธีการเปรียบเทียบปัจจัย
(4) วิธีการให้แต้มหรือคะแนน
(5) วิธีการจัดชั้นงาน
ตอบ 2 หน้า 169 – 172 วิธีการประเมินค่างาน มี 4 วิธี ได้แก่
1 วิธีการเรียงลำดับหรือจัดลำดับงาน (Job Ranking)
2 วิธีการจัดระดับงานหรือการจัดชั้นงาน (Job Classification or Grading Method)
3 วิธีการให้แต้มหรือคะแนน (Point Rating)
4 วิธีการเปรียบเทียบปัจจัย (Factor Comparison)
90. สิ่งใดคือข้อจำกัดที่ทำให้เกิดปัญหาในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(1) ความลำเอียง
(2) มาตรฐานของผู้บังคับบัญชา (ผู้ประเมิน) ที่แตกต่างกัน
(3) ความซับซ้อนของระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(4) การเมืองภายในองค์การ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 262 – 263 ข้อจำกัดที่ทำให้เกิดปัญหาในการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีดังนี้
1 ความลำเอียงหรืออคติของผู้บังคับบัญชาหรือผู้ประเมิน
2 มาตรฐานของผู้บังคับบัญชาหรือผู้ประเมินที่แตกต่างกัน
3 ความซับซ้อนของระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน
4 การใช้ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อกลั่นแกล้ง กีดกัน หรือเกมการเมืองภายในองค์การ
5 การที่ผู้ประเมินมีบทสรุปของการประเมินผลการปฏิบัติงานไว้ล่วงหน้า ฯลฯ
91. การให้นักการเมืองทุกคนแสดงบัญชีทรัพย์สินทั้งก่อนและหลังการดำรงตำแหน่ง สอดคล้องกับหลักการใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอำนาจ
ตอบ 4 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 207), (คำบรรยาย) หลักจริยธรรมและวินัยตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีดังนี้
1 กำหนดสิ่งที่ข้าราชการต้องปฏิบัติและข้อห้ามการปฏิบัติออกจากกันเป็นคนละส่วนอย่างชัดเจน
2 กำหนดให้ส่วนราชการแต่ละแห่งเป็นผู้กำหนดข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการเพื่อใช้บังคับเฉพาะข้าราชการในสังกัดส่วนราชการนั้นเท่านั้น
3 กำหนดให้ข้าราชการบางตำแหน่งต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง ฯลฯ
92 ข้อใดเป็นขั้นตอนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิเสธบุคคลที่มีร่างกายไม่เหมาะสมกับงาน
(1) การสัมภาษณ์เบื้องต้น
(2) การให้กรอกใบสมัคร
(3) การทดสอบ
(4) การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐาน
(5) การตรวจร่างกาย
ตอบ 5 หน้า 128, 131, (คําบรรยาย) การตรวจร่างกาย (Physical Check/Examination) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการคัดเลือกและสมควรทําเมื่อทราบชัดเจนว่าจะมีการจ้าง อย่างแน่นอน ทั้งนี้ก็เพื่อปฏิเสธบุคคลที่มีร่างกายไม่เหมาะสมกับงาน และเพื่อป้องกันการรับบุคคลที่มีโรคติดต่อต้องห้ามเข้ามาทํางานด้วย
93 เป็นวิธีการประเมินค่างานที่ไม่เหมาะกับองค์การขนาดใหญ่ที่มีงานจํานวนมาก
(1) Job Analysis
(2) Job Ranking
(3) Job Classification
(4) Point Rating
(5) Factor Comparison
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ
94 การจําแนกกลุ่มข้าราชการเป็น 4 กลุ่ม (Cluster) เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด
(1) เพื่อกระจายอํานาจให้ข้าราชการ
(2) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและปรับปรุงระบบงาน
(3) เพื่อขยายขอบข่ายการควบคุม
(4) เพื่อจัดสวัสดิการให้เหมาะสม
(5) เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตย
ตอบ 2 (คําบรรยาย) การจําแนกกลุ่มข้าราชการเป็น 4 กลุ่ม (Cluster) นั้นเป็นไปเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และปรับปรุงระบบงาน รวมทั้งนําไปใช้ในการกําหนดอัตราเงินเดือนของข้าราชการให้เหมาะสม เป็นธรรม และสอดคล้องกับอัตราตลาด
95 ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับบริหาร
(1) ปริมาณงาน
(2) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
(3) ความยุติธรรม
(4) วุฒิภาวะ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1
หน้า 259 – 260 ปัจจัยที่ใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับบริหาร มีดังนี้
1 ความมีเหตุผล
2 ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
3 การจูงใจ
4 ความยุติธรรม
5 ภาวะผู้นํา
6 ความสามารถในการจัดการ
7 มนุษยสัมพันธ์
8 วุฒิภาวะ
9 ความเพียรพยายาม
10 ความเอาใจใส่ในงาน
11 การมอบหมายงาน ฯลฯ
96 เพราะเหตุใดจึงต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(1) เพื่อประโยชน์ในการจัดสรรทรัพยากรขององค์การ
(2) เพื่อการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
(3) เพื่อให้การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์การเป็นไปตามหลักคุณธรรม
(4) เพื่อให้บุคลากรทุกคนอยู่ในระเบียบ กติกา เดียวกัน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 247 – 248, (คําบรรยาย) เหตุผลที่ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีดังนี้
1 เพื่อเป็นการจัดสรรทรัพยากรขององค์การให้พนักงานอย่างเป็นธรรม
2 เพื่อการสร้างแรงจูงใจและให้รางวัลแก่พนักงาน
3 เพื่อให้การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์การเป็นไปตามหลักคุณธรรม
4 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือผลักดันหรือจูงใจให้มีการสอนเพื่อพัฒนาพนักงาน
5 เพื่อเป็นเครื่องมือบังคับทางอ้อมให้พนักงานทุกคนอยู่ในระเบียบ กติกา ข้อบังคับเดียวกัน
6 เพื่อให้พนักงานได้ทราบถึงความรู้ความสามารถของตนเองในสายตาของผู้บังคับบัญชา
7 เพื่อเป็นการทดสอบความยุติธรรมของผู้บังคับบัญชา
97 มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ สอดคล้องกับหลักการใด
(1) หลักการเสริมประสิทธิภาพ
(2) หลักพิทักษ์คุณธรรม
(3) หลักระบบค่าตอบแทน
(4) หลักจริยธรรมและวินัย
(5) การกระจายอำนาจ
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ
98 ปัจจัยใดที่ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อค่าจ้าง
(1) ต้นทุนค่าครองชีพ
(2) อัตราเงินเฟ้อ
(3) อัตราค่าจ้างทั่วไป
(4) ค่าแรงขั้นต่ำ
(5) ราคาน้ำมันในตลาดโลก
ตอบ 5 หน้า 143 – 147, (คำบรรยาย) ปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อค่าจ้างเงินเดือน ได้แก่ สภาพตลาดแรงงาน อัตราค่าจ้างทั่วไป ค่าแรงขั้นต่ำ ต้นทุนค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ ความสามารถของการจ่าย อำนาจการต่อรอง และค่าของงานเปรียบเทียบ
99 ข้อความนี้สอดคล้องกับหลักการใด “งานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเหมือนกันควรได้รับค่าตอบแทนเท่ากัน”
(1) หลักความเสมอภาค
(2) หลักความเป็นกลางทางการเมือง
(3) หลักความมั่นคง
(4) หลักความสามารถ
(5) หลักการแบ่งงานกันทำตามความถนัด
ตอบ 1 (เอกสารประกอบการสอน หน้า 3) หลักความเสมอภาค (Equality) หมายถึง การเปิดโอกาสให้ผู้มีคุณสมบัติและมีพื้นฐานความรู้ตามที่กำหนดไว้มีสิทธิที่จะสมัครเข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการได้ทุกคน โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างในเรื่องชาติตระกูล ศาสนา เป็นการให้โอกาสแก่ผู้มีสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน และในการกำหนดเงินเดือนหรือค่าตอบแทนของข้าราชการก็ควรยึดหลักความเสมอภาคเช่นกัน กล่าวคือ งานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเหมือนกันหรือระดับเดียวกันควรได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนเท่ากัน
100 การตัดสินใจโดยพิจารณาความสอดคล้องระหว่างเกณฑ์ขององค์การและคุณสมบัติของคนคือข้อใด
(1) การสรรหา
(2) การคัดเลือก
(3) การสรรหาจากภายใน
(4) การสรรหาจากภายนอก
(5) การบรรจุ
ตอบ 2 หน้า 126, (คำบรรยาย) การคัดเลือก (Selection) เป็นกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครงาน เพื่อให้ได้บุคลากรที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติเหมาะสม ถูกต้องตรงกับคุณลักษณะเฉพาะของพนักงานที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ขององค์การ ดังนั้นการคัดเลือกจึงเป็นการตัดสินใจโดยพิจารณาความสอดคล้องระหว่างเกณฑ์ขององค์การและคุณสมบัติของคน