การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW3009 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายหนึ่งเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายแดงซึ่งเป็นเจ้ามรดก  นายแดงมีน้องสาวร่วมมารดาเดียวกันหนึ่งคนคือนางสาวดำ นอกจากนี้นายแดงยังได้จดทะเบียนรับนายสองมาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคนหนึ่ง  ต่อมานายหนึ่งได้นางสาวเขียวมาเป็นภริยาโดยมิชอบด้วยกฎหมายจนตั้งครรภ์ได้  4  เดือน  โดยที่ไม่มีใครทราบ  นายสองได้รับเด็กชายขาวมาเป็นบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย  วันหนึ่งนายแดงได้ให้นายหนึ่งและนายสองเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่จังหวัดภูเก็ต  เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินระเบิดทำให้ทั้งคู่เสียชีวิต  นายแดงทราบข่าวก็หัวใจวายตายทันที  นายแดงตายลงมีมรดก  10  ล้านบาท  ต่อมานางเขียวได้คลอดบุตรออกมาชื่อเด็กชายเหลือง  ภายใน  310  วันนับแต่วันที่นายหนึ่งถึงแก่ความตาย  จงแบ่งมรดกของนายแดง

ธงคำตอบ

มาตรา  1604  วรรคท้าย  เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ให้ถือว่าเด็กที่เกิดมารอดอยู่ภายในสามร้อยสิบวันนับแต่เวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายนั้นเป็นทารกในครรภ์มารดาอยู่ในเวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย

มาตรา  1627  บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น  ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้

มาตรา 1629  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น  และภายใต้บังคับแห่งมาตรา  1630  วรรคสอง  แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้  คือ

(1) ผู้สืบสันดาน

(4) พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน

มาตรา  1630  วรรคสองแต่ความในวรรคก่อนนี้มิให้ใช้บังคับในกรณีเฉพาะที่มีผู้สืบสันดานคนใดยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กันแล้วแต่กรณี  และมีบิดามารดายังมีชีวิตอยู่  ในกรณีเช่นนั้นให้บิดามารดาได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่าเป็นทายาทชั้นบุตร

มาตรา  1633  ทายาทโดยธรรมในลำดับเดียวกันในลำดับหนึ่งๆ  ที่ระบุไว้ในมาตรา  1629  นั้น  ชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน  ถ้าในลำดับหนึ่งมีทายาทโดยธรรมคนเดียว  ทายาทโดนธรรมคนนั้นมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งทั้งหมด

มาตรา  1639  ถ้าบุคคลใดซึ่งจะเป็นทายาทตามมาตรา  1629  (1)  (3)  (4)  หรือ  (6)  ถึงแก่ความตาย  หรือถูกจำกัดมิให้รับมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย  ถ้าบุคคลนั้นมีผู้สืบสันดานก็ให้ผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่  ถ้าผู้สืบสันดานคนใดของบุคคลนั้นถึงแก่ความตายหรือถูกกำจัดมิให้รับมรดกเช่นเดียวกัน  ก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานนั้นรับมรดกแทนที่  และให้มีการรับมรดกแทนที่กันเฉพาะส่วนแบ่งของบุคคลเป็นรายๆสืบต่อกันเช่นนี้ไปจนหมดสาย

มาตรา  1643  สิทธิที่จะรับมรดกแทนที่กันนั้นได้เฉพาะแก่ผู้สืบสันดานโดยตรง  ผู้บุพการีหามีสิทธิดังนั้นไม่

วินิจฉัย

นายแดงเจ้ามรดกมีนายหนึ่งเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย  และมีนายสองเป็นบุตรบุญธรรมซึ่งทั้ง  2  คน  เป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่  1 กล่าวคือเป็นผู้สืบสันดาน  ตามมาตรา  1627  ประกอบมาตรา  1629(1)  และได้ถึงแก่ความตายก่อนนายแดงเจ้ามรดก  โดยนายหนึ่งมีนางสาวเขียวเป็นภริยาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  แม้นางสาวเขียวจะคลอดเด็กชายเหลืองออกมาภายใน  310  วันนับแต่วันที่นายหนึ่งตายก็ตามก็ไม่สามารถทำให้เด็กชายเหลืองมีสิทธิรับมรดกแทนที่ของนายหนึ่งได้  ตามมาตรา  1639  เพราะในระหว่างที่นางสาวเขียวตั้งครรภ์นั้น  มิได้มีพฤติการณ์ในการรับรองทารกในครรภ์ของนางสาวเขียวว่าเป็นบุตรของนายหนึ่ง  ทั้งยังไม่มีใครทราบว่านางสาวเขียวตั้งครรภ์  ดังนั้น  เด็กชายเหลืองซึ่งเกิดมาโดยไม่มีสถานะเป็นผู้สืบสันดานที่จะรับมรดกแทนที่ของนายหนึ่งได้ตามมาตรา  1604  วรรคท้าย  ประกอบมาตรา  1627  และมาตรา  1639

กรณีที่นายสองรับเด็กชายขาวมาเป็นบุตรบุญธรรม  แม้จะโดยชอบด้วยกฎหมาย  และเป็นผู้สืบสันดานของนายสอง  ตามมาตรา  1627  แต่ก็ไม่ทำให้เด็กชายขาวรับมรดกแทนที่ของนายสองได้  เพราะมิใช่ผู้สืบสันดานสืบสายโลหิตโดยตรง  ตามมาตรา  1643  ประกอบมาตรา  1639

ส่วนกรณีที่นายแดงมีนางสาวดำเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกันนั้นถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่  4  ตามมาตรา  1629(4)  จึงมีสิทธิรับมรดกของนายแดงทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว  ตามมาตรา  1629(4)  ประกอบมาตรา  1630  วรรคท้าย  และมาตรา  1633

สรุป  นางสาวดำมีสิทธิรับมรดกของนายแดง  10  ล้านบาทแต่เพียงผู้เดียว

 

ข้อ  2  นายโตมีบุตรบุญธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย  ชื่อนายเอก  ต่อมานายเอกได้จดทะเบียนสมรสกับนางแต๋วแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน  นายเอกและนางแต๋วจึงได้ไปจดทะเบียนรับนายดำเป็นบุตรบุญธรรม  ปรากฏว่านายเอกได้ถูกรถยนต์ชนตายในขณะเดินทางไปพบนายโต  หลังจากนั้นนายโตก็ป่วยด้วยโรคมะเร็งและถึงแก่ความตาย  นายโตมีมรดกจำนวน  4  ล้านบาท  จงแบ่งมรดกของนายโต

ธงคำตอบ

มาตรา  1627  บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น  ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้

มาตรา 1629  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น  และภายใต้บังคับแห่งมาตรา  1630  วรรคสอง  แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้  คือ

(1) ผู้สืบสันดาน

มาตรา  1639  ถ้าบุคคลใดซึ่งจะเป็นทายาทตามมาตรา  1629  (1)  (3)  (4)  หรือ  (6)  ถึงแก่ความตาย  หรือถูกจำกัดมิให้รับมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย  ถ้าบุคคลนั้นมีผู้สืบสันดานก็ให้ผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่  ถ้าผู้สืบสันดานคนใดของบุคคลนั้นถึงแก่ความตายหรือถูกกำจัดมิให้รับมรดกเช่นเดียวกัน  ก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานนั้นรับมรดกแทนที่  และให้มีการรับมรดกแทนที่กันเฉพาะส่วนแบ่งของบุคคลเป็นรายๆสืบต่อกันเช่นนี้ไปจนหมดสาย

มาตรา  1642  การรับมรดกแทนที่กันนั้นให้ใช้บังคับแต่ในระหว่างทายาทโดยธรรม

มาตรา  1643  สิทธิที่จะรับมรดกแทนที่กันนั้นได้เฉพาะแก่ผู้สืบสันดานโดยตรง  ผู้บุพการีหามีสิทธิดังนั้นไม่

มาตรา  1753  ภายใต้บังคับแห่งสิทธิของเจ้าหนี้กองมรดก  เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายโดยไม่มีทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม  หรือการตั้งมูลนิธิตามพินัยกรรม  มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่แผ่นดิน

วินิจฉัย

นายเอกเป็นบุตรบุญธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย  จึงเป็นผู้สืบสันดานของนายโตโดยเป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่  1  ตามมาตรา  1627  ประกอบมาตรา  1629(1)  เมื่อนายเอกตาย  ต่อมานายโตตายมีมรดกจำนวน  4  ล้านบาท  นายดำบุตรบุญธรรมของนายเอกซึ่งไม่ถือว่านายดำเป็นผู้สืบสันดานโดยตรงที่สืบสายดลหิตของนายเอก  ดังนั้นนายดำจึงเข้ารับมรดกแทนที่นายเอกในส่วนของนายโตไม่ได้  ตามมาตรา  1639  ประกอบมาตรา  1642  และมาตรา  1643

ส่วนกรณีของนางแต๋ว  ภริยาของนายเอกนั้น  ถือเป็นบุตรสะใภ้ของนายโต  จึงไม่ถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมของนายโต  ฉะนั้นเมื่อนายโตไม่มีทายาทโดยธรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้  มรดกของนายโตจำนวน  4  ล้านบาทจึงตกทอดแก่แผ่นดิน  ตามมาตรา  1753

สรุป  มรดกของนายโตจำนวน  4  ล้านบาท  จึงตกทอดแก่แผ่นดิน

 

ข้อ  3  นายอำนวยเป็นบุตรที่เกิดจากการอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสระหว่างนายอมรและนางสาวนงค์  โดยนายอมรให้นายอำนวยใช้นามสกุลของนายอมร  ต่อมานางอัมพรมารดาของนายอมรบังคับให้นายอมรจดทะเบียนสมรสกับนางอรพรรณ  เมื่อนายอมรแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนางอรพรรณได้  2  เดือน  จึงทราบว่านางสาวนงค์ตั้งครรภ์ได้  5  เดือนแล้ว  ซึ่งต่อมาคลอดและชื่อเด็กหญิงนุช  แต่นายอมรก็ไม่สามารถกลับไปอุปการะเลี้ยงดูนางสาวนงค์และลูกๆได้อีกเพราะถูกนางอัมพรกีดกันเมื่ออยู่กันมาได้  5  ปี  นายอมรและนางอรพรรณไม่มีบุตรด้วยกัน  นงอรพรรณจึงจดทะเบียนรับนางสาวอ่อนมาเป็นบุตรบุญธรรม  โดยได้รับความยินยอมจากนายอมร  วันที่  16  กันยายน  2550  นางอัมพรและนายอมรเดินทางไปเยี่ยมนายศุกร์ซึ่งเป็นอดีตสามีของนางอัมพรและเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอมรที่จังหวัดภูเก็ต  โดยสายการบิน  หนึ่ง  สอง  สาม  ปรากฏว่าเครื่องบินลำดังกล่าวประสบอุบัติเหตุ  เป็นเหตุให้นายอมรถึงแก่ความตาย  ณ  ที่เกิดเหตุ  และนางอัมพรได้รับบาดเจ็บสาหัส  ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล  และนางอัมพรก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล  ให้นักศึกษาแบ่งทรัพย์สินและสิทธิหน้าที่ต่างๆ  ของนางอัมพรเหล่านี้ว่าตกทอดเป็นมรดกแก่ใครบ้างหรือไม่  เพราะเหตุใด

1)    สิทธิในการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ใบหน้าเสียโฉม  เนื่องจากเครื่องบินตกในครั้งนี้

2)    สิทธิในเงินฝากในบัญชีเงินฝากที่มีต่อธนาคารกรุงเทพ  จำนวน  5  ล้านบาท

ธงคำตอบ

มาตรา  1600  ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้  กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย  ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ  เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้

มาตรา  1627  บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น  ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้

มาตรา 1629  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น  และภายใต้บังคับแห่งมาตรา  1630  วรรคสอง  แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้  คือ

(1) ผู้สืบสันดาน

คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม  ภายใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมาตรา  1635

มาตรา  1639  ถ้าบุคคลใดซึ่งจะเป็นทายาทตามมาตรา  1629  (1)  (3)  (4)  หรือ  (6)  ถึงแก่ความตาย  หรือถูกจำกัดมิให้รับมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย  ถ้าบุคคลนั้นมีผู้สืบสันดานก็ให้ผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่  ถ้าผู้สืบสันดานคนใดของบุคคลนั้นถึงแก่ความตายหรือถูกกำจัดมิให้รับมรดกเช่นเดียวกัน  ก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานนั้นรับมรดกแทนที่  และให้มีการรับมรดกแทนที่กันเฉพาะส่วนแบ่งของบุคคลเป็นรายๆสืบต่อกันเช่นนี้ไปจนหมดสาย

มาตรา  1753  ภายใต้บังคับแห่งสิทธิของเจ้าหนี้กองมรดก  เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายโดยไม่มีทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม  หรือการตั้งมูลนิธิตามพินัยกรรม  มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่แผ่นดิน

วินิจฉัย

มาตรา  1600  ทรัพย์มรดก  ได้แก่  ทรัพย์สิน  สิทธิ  หน้าที่และความรับผิดของเจ้ามรดกเว้นแต่โดยสภาพ  หรือตามกฎหมาย  เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้  ดังนั้น  สิทธิในการเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ใบหน้าเสียโฉม  เป็นค่าเสียหายที่ไม่อาจคำนวณเป็นเงิน  ซึ่งตามมาตรา  446  บัญญัติให้เป็นการเฉพาะตัวของผู้ถูกกระทำละเมิดโดยแท้  สิทธิดังกล่าวนี้จึงไม่เป็นมรดกได้แก่ทายาทโดยธรรมของนางอัมพรเจ้ามรดก  ตามมาตรา  1600

ส่วนเงินฝากในธนาคาร  5  ล้านบาท  ตกได้แก่  ทายาทโดยธรรมของนางอัมพร  ดังนี้

นางอัมพรตายโดยมีนายอมรเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย  นายอมรจึงมีฐานะเป็นผู้สืบสันดาน  ของนางอัมพรตามมาตรา  1629(1)  แต่ปรากฏว่า  นายอมรทายาทตามมาตรา  1629(1)  ถึงแก่ความตายก่อนนางอัมพรเจ้ามรดก  โดยมีนายอำนวยเป็นบุตรนอกกฎหมายที่เกิดจากการอยู่กินกับ  น.ส.นงค์  โดยนายอมรให้ใช้นามสกุล  นายอำนวยจึงเป็นผู้สืบสันดานโดยตรงของนายอมร  มีสิทธิรับมรดกของนางอัมพรแทนที่นายอมรได้ ตามมาตรา  1627 ,  1639  และ  1643  ส่วนเด็กหญิงนุช  แม้เป็นยุตรนอกกฎหมายของนายอมร  แต่นายอมรไม่ได้ให้การรับรองโดยพฤติการณ์  ด.ญ.นุชจึงไม่มีฐานะเป็นผู้สืบสันดานของนายอมร  จึงไม่อาจรับมรดกแทนที่นายอมรได้  ดังนั้นมรดกทั้งหมด  5  ล้านบาท  จึงตกได้แก่นายอำนวยโดยการรับมรดกแทนที่นายอมร  ตามมาตรา  1639  ประกอบมาตรา  1643

กรณีนางอรพรรณ  ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอมร  ไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่  เพราะนางอรพรรณไม่มีฐานะเป็นผู้สืบสันดานของนายอมร  ตามมาตรา  1639  ส่วนนางสาวอ่อน  เป็นบุตรบุญธรรมของนางอรพรรณ  เป็นผู้สืบสันดานของนางอรพรรณ  ตามมาตรา  1627 แต่นางสาวอ่อนไม่ใช่ผู้สืบสันดานของนายอมรและมิใช่ผู้สืบสันดานโดยตรงของนายอมร  ดังนั้นนางสาวอ่อนจึงไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่นายอมรได้

ส่วนนายศุกร์  อดีตสามีของนางอัมพร  มิใช่เป็นคู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะที่นางอัมพรถึงแก่ความตาย  ดังนั้น  นายศุกร์จึงมิใช่ทายาทโดยธรรมในฐานะที่เป็นคู่สมรสของนางอัมพร  ตามมาตรา  1629  วรรคท้าย

สรุป 

1)    สิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายที่ใบหน้าเสียโฉม  ไม่ใช่มรดกของนางอัมพร  ตามมาตรา  446  ประกอบมาตรา  1600

2)    เงินฝากในธนาคาร  5 ล้านบาท  ตกได้แก่  นายอำนวย  โดยการรับมรดกแทนที่ตามมาตรา  1639  ประกอบมาตรา  1643

 

ข้อ  4  นายเพชรและนางพลอยเป็นสามีภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย  นายเพชรมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน  2  คน  คือนายเงินและนายทอง  นายเงินจดทะเบียนสมรสกับนางทับทิมแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน  ทั้งคู่จึงไปขอ  ด.ญ.ไพลิน  จากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ามาเป็นบุตรบุญธรรมโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย  ต่อมานายเพชรทำพินัยกรรมยกรถยนต์  1  คัน  ราคา  300,000  บาท  ให้กับนายทอง  หลังจากนั้นนายเพชรประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกถึงแก่ความตาย  มีมรดกคือรถยนต์  1  คัน  ตามที่ได้ระบุในพินัยกรรม  และเงินสด 1,200,000  บาท  นายทองได้เอาเงินมรดกจำนวน  400,000  บาท  ไปเป็นของตนโดยฉ้อฉล  ต่อมานายเงินสละมรดกของนายเพชรโดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ  ดังนี้  จงแบ่งมรดกของนายเพชร 

ธงคำตอบ

มาตรา  1605  ทายาทคนใดยักย้าย  หรือปิดบังทรัพย์มรดกเท่าส่วนที่ตนจะได้หรือมากกว่านั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่าตนทำให้เสื่อมประโยชน์ของทายาทคนอื่น  ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเลย  แต่ถ้าได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกน้อยกว่าส่วนที่ตนจะได้ ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ได้ยักย้ายหรือปิดบังไว้นั้น

มาตรานี้มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับพินัยกรรม  ซึ่งผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้เฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง  ในอันที่จะได้รับทรัพย์สินนั้น

มาตรา  1612  การสละมรดกนั้น  ต้องแสดงเจตนาชัดแจ้งเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ

มาตรา  1615  การที่ทายาทสละมรดกนั้น  มีผลย้อนหลังไปถึงเวลาที่เจ้ามรดกตาย

เมื่อทายาทโดยธรรมคนใดสละมรดก  ผู้สืบสันดานของทายาทคนนั้นสืบมรดกได้ตามสิทธิของตนและชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากับส่วนแบ่งที่ผู้สละมรดกนั้นจะได้รับ  แต่ผู้สืบสันดานนั้นต้องไม่ใช่ผู้ที่บิดามารดาผู้ปกครอง  หรือผู้อนุบาลแล้วแต่กรณี  ได้บอกสละมรดกโดยสมบูรณ์ในนามของผู้สืบสันดานนั้น

มาตรา  1627  บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น  ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้

มาตรา 1629  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น  และภายใต้บังคับแห่งมาตรา  1630  วรรคสอง  แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้  คือ

(1) ผู้สืบสันดาน

(3) พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน

คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม  ภายใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมาตรา  1635

มาตรา  1635  ลำดับและส่วนแบ่งของคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ในการรับมรดกของผู้ตายนั้น  ให้เป็นไปดังต่อไปนี้

(2) ถ้ามีทายาทตามมาตรา  1629 (3)  และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่  หรือมีผู้รับมรดกแทนที่หรือถ้าไม่มีทายาทตามมาตรา  1629 (1)  แต่มีทายาทตามมาตรา  1629 (2)  แล้วแต่กรณี  คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับมรดกกึ่งหนึ่ง

วินิจฉัย

การที่นายเพชรทำพินัยกรรมยกรถยนต์  1  คัน  ราคา  300,000  บาท  ให้กับนายทองนั้น  รถยนต์เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งอย่างที่นายเพชรเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกให้แก่นายทองผู้รับพินัยกรรม  รถยนต์จึงตกแก่นายทองโดยผลของกฎหมาย  โดยเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา  1605  วรรคสอง

ส่วนเงินมรดก  1,200,000  บาท  ที่นายเพชรไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรมย่อมตกได้แก่ทายาทโดยธรรม  ซึ่งทายาทโดยธรรมที่มีสิทธิได้รับมรดก  คือนายเงินและนายทองในฐานะพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันตามมาตรา  1629(3)  และนางพลอยในฐานะคู่สมรสตามมาตรา 1629  วรรคท้าย  โดยนายเงินและนายทองได้รับมรดกกึ่งหนึ่งคือได้คนละ  300,000  บาท  และนางพลอยได้กึ่งหนึ่ง  คือ  600,000  บาท  ตามมาตรา  1635(2)  แต่นายทองได้เอาเงินมรดกจำนวน  400,000  บาท  ไปเป็นของตนโดยฉ้อฉล  ถือเป็นการยักย้ายทรัพย์มรดกมากกว่าส่วนที่ตนจะได้  นายทองจึงต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกของนายเพชรในฐานะทายาทโดยธรรมเลยตามมาตรา  1605  วรรคแรก  ดังนั้น  เงินสด  300,000  บาท  จึงต้องนำไปแบ่งแก่นายเงินและนางพลอยโดยได้อีกคนละ  150,000  บาท  ตามมาตรา  1635(2)

เมื่อนายเงินสละมรดกของนายเพชรโดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ  เป็นการสละมรดกที่ทำถูกต้องตามกฎหมายตามมาตรา  1612  มีผลทำให้  ด.ญ.ไพลินบุตรบุญธรรมซึ่งถือว่าเป็นผู้สืบสันดานตามมาตรา  1627  ประกอบมาตรา  1629(1)  มีสิทธิสืบมรดกตามมาตรา  1615  วรรคสองได้

สรุป  นายทองได้รับรถยนต์  1  คัน  ราคา  300,000  บาท  ตามพินัยกรรม  ด.ญ.ไพลินได้รับเงินสด  450,000  บาท  และนางพลอยได้รับเงินสด  750,000  บาท

Advertisement