การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW1002 หลักกฎหมายเอกชน

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  จงอธิบายหลักในการอุดช่องว่างแห่งกฎหมายมาโดยถูกต้องและครบถ้วน

ธงคำตอบ

“ช่องว่างของกฎหมาย”  เกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่จะนำมาปรับกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั่นเอง

ในกรณีที่มีช่องว่างของกฎหมายเกิดขึ้น  โดยหลักทั่วไปศาลจะปฏิเสธไม่พิจารณาพิพากษาคดีโดยอ้างว่าไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายที่จะใช้บังคับแก่คดีนั้นไม่ได้   

กล่าวคือ  ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดคดีนั้นเสมอโดยศาลจะต้องใช้กฎหมายโดวิธีอุดช่องว่างของกฎหมายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายได้กำหนดไว้  ซึ่งจะเห็นได้จากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  4  วรรคสอง  ซึ่งได้บัญญัติถึงการอุดช่องว่างของกฎหมายไว้ว่า

“เมื่อไม่มีบทบัญญัติกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น  ให้วินิจฉัยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง  และถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นไม่มีด้วย  ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป”

อนึ่ง…สำหรับกฎหมายอาญานั้น  แม้ว่าจะเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยความผิดและโทษ  ศาลก็ย่อมที่จะอุดช่องว่างแห่งกฎหมายได้  แต่จะอุดช่องว่างแห่งกฎหมายให้เป็นการลงโทษบุคคล  หรือจะอุดช่องว่างแห่งกฎหมายไปในทางที่จะลงโทษบุคลให้หนักขึ้นไม่ได้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  4  วรรคสอง  ได้บัญญัติถึงขั้นตอนในการอุดช่องว่างแห่งกฎหมายไว้เป็นลำดับดังต่อไปนี้  คือ

1.  ถ้าไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับแก่คดีได้  ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามตามคลองจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น

กรณีนี้หมายความว่า  ถ้าไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่จะนำมาตัดสินคดีที่มาสู่ศาล  ก็ให้ศาลนำเอาจารีตประเพณีมาใช้แทนกฎหมายลายลักษณ์อักษรเพื่อวินิจฉัยตัดสินคดี  แต่จารีตประเพณีที่จะนำมาใช้ได้และจะมีผลเช่นเดียวกับกฎหมายนั้น  ควรจะต้องมีลักษณะดังนี้คือ

1.       เป็นจารีตประเพณีที่บุคลในท้องถิ่นได้ถือปฏิบัติกันทั่วไป

2.       เป็นจารีตประเพณีที่ถือปฏิบัติต่อกันมาเป็นเวลานาน

3.       เป็นจารีตประเพณีที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย  หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย  หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

4.       เป็นจารีตประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างสม่ำเสมอและเป็นที่ทราบกันทั่วไป

5.       เป็นจารีตประเพณีที่มีเหตุผลสมควรและเป็นธรรม

2.  ถ้าไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นให้พิจารณาโดยอาศัยบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

กรณีนี้เป็นการอุดช่องว่างของกฎหมายอีกวิธีหนึ่ง  กล่าวคือ  เมื่อมีข้อเท็จจริงหรือคดีเกิดขึ้นแต่ไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษร  อีกทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นที่จะนำมาใช้ในการวินิจฉัยคดีนั้นได้  ศาลก็ยังคงต้องวินิจฉัยตัดสินชี้ขาดคดีโดยการอาศัยบทกฎหมาที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง  ซึ่งกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งนี้หมายถึงบทบัญญัติที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งในกฎหมายเดียวกัน  ซึ่งก็คือบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั่นเอง  มิใช่กฎหมายอย่างอื่นที่มีลักษณะต่างกัน

ขั้นตอนในการพิจารณาโดยอาศัย (เทียบ) บทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

1         พิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในคดีว่ามีความคล้ายคลึงกับข้อเท็จจริงที่มีกฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่

2         พิจารณาถึงเหตุผลของข้อเท็จจริงทั้งสองกรณีว่ามีเหตุผลเดียวกันหรือเหตุผลที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งหรือไม่  ถ้ามีเหตุผลเดียวกันหรือใกล้เคียงกันอย่างยิ่งก็อาจเทียบเคียงกันได้

3         พิจารณากฎหมายที่จะนำมาเทียบเคียงว่าเป็นบททั่วไปหรือเป็นบทยกเว้น  ถ้าเป็นบททั่วไปก็อาจนำมาเทียบเคียงกันได้  แต่ถ้าเป็นข้อยกเว้นก็ไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้

4         กฎหมายที่จะนำมาเทียบเคียงกันได้ต้องเป็นกฎหมายเรื่องเดียวกัน  มิใช่กฎหมายอื่นที่บัญญัติไว้เป็นพิเศษเพื่อใช้กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเฉพาะ

3.  ในกรณีที่ไม่มีบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง  ก็ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป

กรณีนี้เป็นวิธีอุดช่องว่างของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประการสุดท้าย  กล่าวคือในกรณีที่ไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษร  ไม่มีจารีตประเพณี  และไม่มีบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง  ศาลก็ต้องวินิจฉัยตัดสินคดีโดยให้นำเอาหลักกฎหมายทั่วไปมาใช้บังคับ  ซึ่งหลักกฎหมายทั่วไปนี้อาจจะเป็นหลักกฎหมายดั้งเดิมของกฎหมายโรมัน  หรือสุภาษิตกฎหมาย  หรืออาจจะเป็นหลักกฎหมายที่นานาอารยประเทศยอมรับและใช้ปฏิบัติกันทั่วไปก็ได้

 

ข้อ  2  นายไข่และนางไก่เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย  นายไก่มีงานอดิเรกคือขับเครื่องบินขนาดเล็กในวันที่  1  มกราคม  2550  นายไก่ได้ไปขับเครื่องบินจากโคราชจะกลับกรุงเทพฯ  ในวันนี้เองเครื่องบินที่นายไก่ขับหายไปจากจอเรดาร์ของศูนย์ควบคุมการบินในช่วงที่นายไก่ขับบินผ่านเขาใหญ่

ในวันที่  3  มกราคม  2550  นางไข่ซึ่งเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่งเดินทางกลับมาประเทศไทย  และได้รับข่าวเครื่องบินที่สามีขับสูญหายไปที่เขาใหญ่  นางไข่จึงได้ติดตามค้นหาสามีร่วมกับทางราชการซึ่งค้นหามาตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้วจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครพบเห็นนายไก่และเครื่องบิน  และไม่มีใครได้รับข่าวจากนายไก่เลย

1)       นางไข่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนสาบสูญได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

2)       ถ้าได้นางไข่จะไปศาลได้เมื่อใดจงอธิบาย

ธงคำตอบ

หลักกฎหมาย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา  61  ถ้าบุคคลใดไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่  และไม่มีใครรู้แน่ว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลา  5  ปี     เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอ  ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญก็ได้

ระยะเวลาตามวรรคหนึ่งให้ลดเหลือ  2  ปี

1  นับแต่วันที่การรบหรือสงครามสิ้นสุดลง   ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในการรบหรือสงคราม  และหายไปในการรบหรือสงครามดังกล่าว

2  นับแต่วันที่ยานพาหนะที่บุคคลนั้นเดินทาง  อับปาง  ถูกทำลาย  หรือสูญหายไป

3  นับแต่วันที่เหตุอันตรายแก่ชีวิตนอกจากที่ระบุไว้ใน  (1)  หรือ (2)  ได้ผ่านพ้นไป  ถ้าบุคคลนั้นตกอยู่ในอันตรายเช่นว่านั้น

กรณีตามอุทาหรณ์ในวันที่ 1  มกราคม  2550  ขณะที่นายไก่ขับเครื่องบินขนาดเล็กจากโคราชจะกลับกรุงเทพฯ  ปรากฏข้อเท็จจริงว่า  เครื่องบินที่นายไก่ขับหายไปจากจอเรดาร์ของศูนย์ควบคุมการบินในช่วงที่นายไก่ขับบินผ่านเขาใหญ่  จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเครื่องบินและไม่มีใครได้รับข่าวคราวจากนายไก่อีกเลย  เห็นว่าเป็นการสาบสูญกรณีพิเศษ

ศาลจะสั่งให้นายไก่เป็นคนสาบสูญกรณีพิเศษ  จะต้องประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์ดังนี้คือ

1         ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่  และไม่มีใครรู้แน่ว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

2         ติดต่อกันเป็นเวลา  2  ปี  นับแต่วันที่ยานพาหนะที่บุคลนั้นเดินทาง  อับปาง  ถูกทำลาย  หรือสูญหายไป  โดยไม่มีใครพบเห็นตัว หรือไม่มีใครได้รับข่าวคราว

3         ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาล

4         ศาลมีคำสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญ

1)       นางไข่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนสาบสูญได้หรือไม่  เห็นว่า  ผู้มีสิทธิที่ร้องขอต่อศาลให้สั่งบุคคลใดเป็นคนสาบสูญได้นั้น  จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงายอัยการ  เมื่อนางไข่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย  ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย  จึงมีสิทธิร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนสาบสูญได้

2)       นางไข่จะร้องขอต่อศาลได้เมื่อใด  เห็นว่า  กรณีของนายไก่นั้น เป็นกรณีสาบสูญพิเศษอันมีผลทำให้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอต่อศาลได้เมื่อครบ  2  ปี นับแต่นายไก่สูญหายไปกับยานพาหนะที่โดยสารไปมิใช่วันที่ผู้มีส่วนได้เสียได้ทราบข่าวการสูญหาย  ดังนั้นนางไข่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนสาบสูญได้ในวันที่  2  มกราคม  2552  ตามมาตรา  61 วรรคสอง(2)

สรุป  1) นางไข่ร้องขอต่อศาลได้เพราะนางไข่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย

2)       นางไข่จะร้องขอต่อศาลได้ในวันที่  2  มกราคม  2552  ตามมาตรา  61 วรรคสอง(2)



ข้อ  3
  มดจิ๋วอายุย่างเข้า  15  ปี  ต้องการทำนิติกรรมดังต่อไปนี้ให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย  จึงมาปรึกษาท่านว่าต้องทำอย่างไร  จงอธิบาย
1)       ถอนเงินส่วนตัวจากธนาคารซื้อรถยนต์ราคา  2  ล้านบาท

2)       ทำพินัยกรรมยกเงินสดจำนวน  1  ล้านบาทให้มูลนิธิสุนัขจรจัด

3)       สมัครเรียนคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยรามคำแหง โครงการ  พรีดีกรี

4)       คุณตามดจิ๋วจะให้เงินมดจิ๋วเป็นทุนการศึกษา  10  ล้านบาท

ธงคำตอบ

หลักกฎหมาย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา  21  ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน  การใดๆที่ผู้เยาว์ได้ทำลงปราศจากความยินยอมเช่นว่านั้นเป็นโมฆียะเว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา  22  ผู้เยาว์อาจทำการใดๆได้ทั้งสิ้น  หากเป็นเพียงเพื่อจะได้ไปซึ่งสิทธิอันใดอันหนึ่ง  หรือเป็นการเพื่อให้หลุดพ้นจากหน้าที่อันใดอันหนึ่ง

มาตรา  24  ผู้เยาว์อาจทำการใดๆได้ทั้งสิ้น  ซึ่งเป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนแล้เป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพตามควร

มาตรา  25  ผู้เยาว์อาจทำพินัยกรรมได้เมื่อมีอายุสิบห้าปีบริบูรณ์

มาตรา  1703  พินัยกรรมซึ่งบุคคลที่มีอายุยังไม่ครบสิบห้าปีบริบูรณ์ทำขึ้นนั้นเป็นโมฆะ

วินิจฉัย

1)       มดจิ๋วต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน  จึงจะซื้อรถยนต์ได้โดยสมบูรณ์ตามมาตรา  21

2)       มดจิ๋วต้องรอให้อายุครบ  15 ปีบริบูรณ์เสียก่อนจึงจะทำพินัยกรรมได้  ถ้าทำขณะนี้อายุยังไม่ครบผลก็จะเป็นโมฆะ  ตามมาตรา  25  ประกอบมาตรา  1703

3)       มดจิ๋วสามารถสมัครเรียนได้เลยเพราะเป็นการทำสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพตามควรแก่ฐานานุรูป  ตามมาตรา  24

4)       มดจิ๋วสามารถรับเงินที่คุณตาให้เป็นทุนการศึกษา  10  ล้านบาท  ได้โดยลำพังและสมบูรณ์เพราะเป็นการได้มาซึ่งสิทธิโดยไม่มีเงื่อนไขแต่อย่างใด  ตามมาตรา  22

Advertisement