การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2551

ข้อสอบกระบวนวิชา  MCS 2201 การเขียนข่าว

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบมีทั้งหมด  8  ข้อ  ให้นักศึกษาทำทุกข้อ

ข้อ  1  เหตุใดข่าวนักศึกษายกพวกตีกันจึงได้รับการนำเสนอเป็นข่าว  และมีการรายงานอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชนนานหลายวัน  จงอธิบายโดยใช้หลักการด้านคุณค่าเชิงข่าวประกอบการพิจารณา

แนวคำตอบ

เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการนำเสนอเป็นข่าวและมีการรายงานอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว  (News  Values)  

1  ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร  คือ เหตุการณ์ข้างต้นมีความเกี่ยวพันกับผู้รับสารในแง่เป็นอุทาหรณ์สอนใจ  ทำให้ผู้รับสารมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น   เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นลูกหลงเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

2       ความเปลี่ยนแปลง  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพราะถึงแม้ว่าการยกพวกตีกันของนักเรียน/นักศึกษาจะเกิดขึ้นมานานแล้ว  แต่ก็ไม่ได้ยกพวกตีกันทุกวันจนกลายเป็นเหตุการณ์ปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน

3       ความไม่คาดคิด  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น  เป็นเรื่องที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในวัน  เวลาใด  สถานที่ไหน

 ความมีเงื่อนงำ  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นยังไม่สามารถคลี่คลายได้ว่าจะจบลงอย่างไร  ตำรวจจะจับตัวนักศึกษาที่ยกพวกตีกันได้หรือไม่  และจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร

เร้าความสนใจของมนุษย์  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่างๆ  เช่น  รู้สึกสลดใจที่เห็นนักศึกษาทำตัวเป็นนักเลง  ยึดถือค่านิยมผิดๆ  เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการตีกัน  หรือเกิดความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ตกเป็นลูกหลงในเหตุการณ์ครั้งนี้  เป็นต้น 

 ความใกล้ชิด  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว  เพราะเกิดขึ้นในสังคมไทย  จึงทำให้ผู้อ่านให้ความสนใจมากกว่าเหตุการณ์ที่ไกลตัวและเกิดขึ้นไกลบ้าน

 ความโดดเด่น / ดัง / ชื่อเสียง  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา  ซึ่งนักศึกษาที่ยกพวกตีกันเรียนอยู่  เพราะเป็นสถานที่ที่ประชาชนรู้จักกันโดยทั่วไป

 ความขัดแย้ง /  การเผชิญหน้า  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์  ในลักษณะความขัดแย้งทั้งทางกายและทางความคิด  รวมทั้งมีการเผชิญหน้าหรือปะทะกันระหว่างนักศึกษาทั้ง  2  สถาบัน

 ความทันต่อเวลา  คือ  เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่  เพิ่งเกิดขึ้น  เพิ่งเปิดเผยหรือเพิ่งรับรู้  ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้อ่าน

ข้อ  2  ข่าวบันเทิงและข่าวอาชญากรรมมีคุณค่าเชิงข่าวด้านใดบ้าง  ยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย

แนวคำตอบ

ข่าวบันเทิงมีคุณค่าเชิงข่าว  (New  Values)  โดยรวม  ดังนี้

1  ความโดนเด่น / ดัง / มีชื่อเสียง  คือ ข่าวบันเทิงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับบุคคลที่เป็นที่รู้จักของประชาชน  เช่น  ดารา  นักร้อง  นักแสดง  หรือบุคคลที่เด่นๆในวงการ

 2       เร้าความสนใจของมนุษย์  คือ  ข่างบันเทิงเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในแวดวงบันเทิง  นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเพศ  เช่น  พฤติกรรมความสัมพันธ์ส่วนตัวของดารา –  นักร้องชาย/หญิง  การแต่งงาน  การหย่าร้าง  เรื่องพวกเกย์          และเลสเบี้ยน เป็นต้น

3       ความทันต่อเวลา  คือ  ข่าวบันเทิงเป็นเหตุการณ์สดใหม่  ทันต่อเหตุการณ์  หรือบางเรื่องก็เกิดขึ้นมานานแล้วแต่เพิ่งเปิดเผย  เพิ่งรับรู้  เช่น  ข่าวเรื่องคลิปหลุดดาราที่ถ่ายไว้นานแล้ว  แต่เพิ่งปล่อยออกมาเผยแพร่  เป็นต้น

4       ความใกล้ชิด  คือ  ข่าวบันเทิงเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวเพราะเกิดขึ้นในสังคมไทย  และยังเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป  ซึ่งต้องการความบันเทิงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด  เช่น  ละคร  ภาพยนตร์  ดนตรี  แฟชั่น  วรรณกรรม  งานศิลปะ  เป็นต้น

ข่าวอาชญากรรมมีคุณค่าเชิงข่าว  (News  Value)  โดยรวม  ดังนี้

1       ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร  คือ  ข่าวอาชญากรรมเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน  เช่น  การนำเสนอข่าวชิงทรัพย์อาจทำให้ผู้อ่านระมัดระวังไม่นำของมีค่าติดตัว  หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่เปลี่ยวๆ  เป็นต้น

2       ความเปลี่ยนแปลง  คือ  ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  เช่น  ข่าวภัยพิบัติ  ข่าวประท้วง  จลาจล ฯลฯ  เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆทุกวัน  เป็นต้น

3       ความไม่คาดคิด  คือ  ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น  เช่น  ข่าวฆ่าตัวตายบางข่าวก็ใช้วิธีการที่ไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน  เป็นต้น

4       ความมีเงื่อนงำ  คือ  ข่าวอาชญากรรมบางข่าวยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร  เช่น  ข่าวข่มขืน  ข่าวฆาตกรรม  ซึ่งตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้  เป็นต้น

5       เร้าความสนใจของมนุษย์  คือ  ข่าวอาชญากรรมทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่างๆ  เช่น  กลัว  ตื่นเต้น  โกรธ  หดหู่  ฯลฯ

6       ความใกล้ชิด  คือ  เป็นเรื่องใกล้ตัว  เกิดขึ้นในสังคมไทย  เช่น  ข่าวปล้น  ฆ่า  อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้  จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

7       ความขัดแย้ง / การเผชิญหน้า  คือ  ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งทั้งทางกายและความคิด  มีการเผชิญหน้าปะทะกัน  เช่น  ข่าวฆาตกรรม  ข่าวประท้วง  การจลาจล ฯลฯ

8       ความทันต่อเวลา  คือ  ข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวที่สดใหม่  ทันเหตุการณ์  หรือบางข่าวก็เพิ่งเปิดเผย  เช่น  ข่าวข่มขืนที่มีการกระทำต่อเนื่องมานาน  แต่เพิ่งนำเสนอเป็นข่าว  เป็นต้น

ข้อ  3  ปัจจัยด้านบุคคล  ปัจจัยด้านองค์กร  ได้แก่  ความเป็นเจ้าของสื่อ  นโยบายด้านข่าว  วัฒนธรรมองค์กร  และจรรยาบรรณ  ปัจจัยด้านการเมืองการปกครอง  มีผลอย่างไรบ้างต่อการเสนอข่าวของสื่อมวลชน

แนวคำตอบ

สื่อมวลชนจะให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละชิ้นแต่ละประเทศแตกต่างกัน  โดยมีมุมมองและประเด็นที่เน้นในการนำเสนอไม่เหมือนกัน  เช่น  หนังสือพิมพ์บางฉบับจะให้ความสำคัญกับข่าวอื้อฉาวของคนดัง  บางฉบับเน้นข่าวการเมือง  บางฉบับเน้นข่าวชาวบ้าน  ฯลฯ  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ  ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินคุณค่าข่าว  

1       ปัจจัยด้านบุคคล  (ผู้สื่อข่าว  หัวหน้าข่าว  บรรณาธิการที่เกี่ยวข้อง)  ได้แก่

–          เชื้อชาติ  ศาสนา  คือ  อคติเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและศาสนา  เพราะบุคคลที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่ต่างกัน  ก็ย่อมเกิดความลำเอียงในการเลือกแง่มุมของข่าวที่จะนำมาเสนอ

–          ค่านิยม  สำนึก  และมุมมอง  ซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางการศึกษา

–          ความเป็นวิชาชีพ  คือ  หนังสือพิมพ์จะต้องมีอุดมการณ์และวิญญาณแห่งวิชาชีพโดยต้องรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ  ควรหรือไม่ควรลงข่าว

–          การรับรู้และความสนใจของผู้รับสาร  คือ  การประเมินเรื่องที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด

2       ปัจจัยด้านองค์กร  แบ่งออกเป็น

นโยบายของสื่อ  ได้แก่

–          ความเป็นเจ้าของสื่อ  คือ  หนังสือพิมพ์มีใครเป็นเจ้าของสื่อ  หรือมีใครเป็นผู้โฆษณารายใหญ่  หนังสือพิมพ์นั้นก็อาจเน้นเสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของสื่อ  หรือผู้โฆษณารายนั้นๆ

–          นโยบายการบริหาร  คือ  หนังสือพิมพ์มีนโยบายเน้นทำกำไร  เอาตัวรอดหรือเน้นชิงส่วนแบ่งตลาด  ซึ่งมีผลให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามนโยบายการบริหาร

–          นโยบายด้านข่าว / เนื้อหา  คือ  หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะเน้นประเภทของข่าวที่จะนำเสนอ  ความลึก  ลีลาการเขียน ฯลฯ  ที่แตกต่างกัน

วัฒนธรรมองค์กร  คือ  แบบปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ  ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร  ได้แก่

–          จรรยาบรรณ  คือ  ข้อควรปฏิบัติของแต่ละองค์กร  ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้

–          การเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ด้อยโอกาส  หรือรากหญ้า

–          การให้ความหมายกับข่าวบางประเภท  เช่น  ข่าวสังคม  ข่าววัฒนธรรม  ข่าวสิ่งแวดล้อม  ข่าวท้องถิ่น ฯลฯ  ว่าจะเน้นนำเสนอหรือไม่

3       ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง  การปกครอง  และสังคม  ซึ่งมีผลทำให้บางเรื่องรายงานได้  แต่บางเรื่องรายงานไม่ได้  ได้แก่

–          ความมั่นคง  ผลประโยชน์ของชาติ

–          ผลประโยชน์ทางการเมืองระดับประเทศ  และนานาชาติ

 

ข้อ  4  การสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าวมีหลักการอะไรบ้าง  และผู้สื่อข่าวควรเตรียมการอย่างไรบ้างก่อนการสัมภาษณ์

แนวคำตอบ

หลักการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าว  มีดังนี้

1       ผู้สื่อข่าวควรสัมภาษณ์บุคคลที่มีความเด่นและเป็นผู้รู้ในเรื่องนั้นจริงๆ  สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับความเข้าใจในเรื่องราวที่กำลังเป็นข่าว  ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์อาจเป็นผู้เห็นเหตุการณ์  พยานรู้เห็น  หรือเจ้าของกรณีก็ได้

2       ผู้สื่อข่าวต้องพยายามศึกษาหาเทคนิคสร้างความคุ้นเคย  หรือรู้จักใช่จิตวิทยาการสื่อสารเพราะข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์จะถูกถ่ายทอดไปยังผู้อื่น  จึงไม่ควรถูกบิดเบือนจากผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์  ดังนั้น  ทั้ง  2  ฝ่ายจึงต้องระมัดระวังความรู้สึกที่เป็นอคติต่อเรื่องใดๆที่อาจเกิดขึ้น

3       ผู้สื่อข่าวพึงระมัดระวังเรื่องของความเป็นกลางเป็นพิเศษ  ได้แก่  ข้อผิดพลาดอันเกิดจากการถูกชักจูงโดยแหล่งข่าว  ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังสัมภาษณ์  และสูญเสียความเป็นกลางในการตั้งคำถาม  ตลอดจนการเลือกเสนอข้อเท็จจริงในข่าว ดังนั้นในบางกรณีผู้สื่อข่าวอาจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวอื่นๆรอบด้าน

4       ผู้สื่อข่าวควรเตรียมคำถามให้ตรงกับเป้าหมาย  สามารถดึงคำตอบจากผู้ถูกสัมภาษณ์ได้มากที่สุด  โดยคำถามต้องรัดกุม  เหมาะสม  สั้น  ชัดเจน  เปิดโอกาสให้ผู้ถูกถามตอบคำถามได้ยาวๆ  มีใจความและแนวทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ  แต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำถามปิดที่ส่งผลให้ผู้ตอบตอบรับหรือปฏิเสธเท่านั้น

5       ในการจบการสัมภาษณ์  ผู้สื่อข่าวควรสร้างเยื่อใยความสัมพันธ์ที่ดีไว้สำหรับการติดต่อกับแหล่งข่าวในคราวต่อๆไป  ควรมีมารยาท  และสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ประทับใจผู้ถูกสัมภาษณ์ไว้ด้วยคุณลักษณะการอ่อนน้อมถ่อมตน  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีระหว่างกัน

การเตรียมการก่อนการสัมภาษณ์

1       ศึกษาภูมิหลังของบุคคลที่ผู้สื่อข่าวจะไปสัมภาษณ์ล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  รวมทั้งศึกษาภูมิหลังรายละเอียดของเรื่องราวที่ผู้สื่อข่าวตั้งใจจะไปสัมภาษณ์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน

2       เตรียมคำถามซึ่งผู้สื่อข่าวคาดว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นข้อเท็จจริงเผื่อไว้สัก  1  ชุด  เพื่อให้เป็นเสมือนกรอบสำหรับการดำเนินการสัมภาษณ์

3       ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ  ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องใช้ในการสัมภาษณ์ให้อยู่ในสภาพที่จะใช้การได้ทันทีและอย่างมีประสิทธิภาพ  เช่น ตรวจสอบดูว่าเครื่องบันทึกเสียงที่จะใช้นั้นมีแบตเตอรี่เต็ม  มีตลับแถบบันทึกเสียงพร้อม  สามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจน  ตรวจสอบกล้องถ่ายรูปว่าได้ใส่ฟิล์มและมีแฟลชพร้อมที่จะใช้งานแล้ว  เป็นต้น

4       ไปถึงที่นัดหมายกับบุคลผู้ให้สัมภาษณ์ให้ตรงเวลาหรือก่อนเวลา  หากผู้สื่อข่าวไปถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนดนัด  แหล่งข่าวมักจะแสดงท่าทีไม่ใคร่พอใจ  แม้ว่าระหว่างที่รอคอยผู้สื่อข่าวอยู่  แหล่งข่าวจะมิได้มีกิจธุระต้องทำเลยก็ตาม

ข้อ  5  ในการรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่ง

5.1            ควรจะต้องรายงานประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง  และ/หรือสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว

แนวคำตอบ

การรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่งควรนำเสนอประเด็นเนื้อหา  

1       ประเด็นสำคัญในความนำ  ควรเริ่มต้นด้วยการสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดของผู้เสียชีวิต  คือ  ชื่อ  นามสกุล  อาชีพ  หรือตำแหน่งสูงสุด  อายุ  สาเหตุการเสียชีวิต  วันที่  เวลา  และสถานที่ที่เสียชีวิต

2       ประเด็นในเนื้อเรื่อง 

–          ย่อหน้าแรก  สรุปลำดับเหตุการณ์ก่อนการเสียชีวิตอย่างสั้นๆ  ถ้าป่วยเป็นโรคเริ่มป่วยมาตั้งแต่เมื่อไร  มีอาการเป็นอย่างไร  รักษาโรงพยาบาลไหน  จากนั้นจึงระบุเหตุการณ์ตื่นเต้นขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต  หรือเหตุผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ตายก่อนจะเสียชีวิต  โดยอาจเล่าเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาทีหรืออาจอ้างคำพูดของแพทย์  หรือผู้ใกล้ชิดที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้

–          ย่อหน้าต่อไป  จะเป็นรายละเอียดของพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่ใด  ใช้เวลากี่วัน  ผู้ใดเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม  กำหนดการบรรจุศพ  และกำหนดดารฌาปนกิจ

–          ย่อหน้าสุดท้าย  เป็นส่วนของภูมิหลังหรือประวัติของผู้ตายว่าเป็นชาวจังหวัดใด  จบการศึกษาจากที่ใดบ้าง  มีชื่อเสียงในฐานะอะไร  ซึ่งอาจเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพการงาน  ตำแหน่งในสังคมที่ได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง  มีผลงานดีเด่นอะไรที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป  รวมทั้งผู้เสียชีวิตมีภรรยาและบุตรธิดากี่คน  ชื่ออะไรบ้าง  มีบุพการีและญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียงเป็นใครบ้าง

แหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าวควรไปสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว  มีดังนี้

–          บุตรธิดา  สามี/ภรรยาของผู้ตาย

–          ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต

–          แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้  (ในกรณีที่เสียชีวิตเพราะเจ็บป่วย)

–          เพื่อนร่วมงาน  และผู้ใกล้ชิดคนอื่นๆ  ที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง

5.2            ควรมีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อหาของข่าวดังกล่าว

แนวคำตอบ

คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนื้อหาข่าวดังกล่าว  มีดังนี้

1       คุณลักษณะของบุคคล  ได้แก่  ชื่อ- นามสกุล  อายุ  ยศหรือตำแหน่ง  เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง (เช่น  เป็นอดีตรัฐมนตรี)  และยังต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย

2       คุณลักษณะของสถานที่  ได้แก่  สถานที่ที่เสียชีวิต  ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง  เลขที่  ซอย  ถนน  ตำบล  อำเภอ  จังหวัด  หลัก  กม.  ที่  บนถนนสาย…(กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ)  และอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด  หรือเป็นที่ที่รู้จักกันดี  เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้างๆ  ว่าสถานที่ที่เป็นข่าวนั้นอยู่ที่ใด  และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด

3       คุณลักษณะของเหตุการณ์  ได้แก่  ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ  เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร  จบลงอย่างไร  และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว

ข้อ  6  การรายงานข่าวการเมืองและข่าวเศรษฐกิจควรนำเสนอประเด็นข่าวใดบ้าง

แนวคำตอบ

การายงานข่าวการเมืองควรนำเสนอประเด็นข่าว  ดังนี้

–          กิจกรรมและความเคลื่อนไหวของรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน

–          การปฏิบัติงานของกระทรวง  ทบวง  กรมต่างๆ

–          การพิจารณาการเสนอและแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย  นโยบายใหม่  และการยื่นกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

–          ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังต่างๆ  ที่มีอิทธิพลต่อสภาวการณ์ทางการเมือง

–          ปฏิกิริยาของประชาชนที่มีต่อนโยบายที่รัฐบาลประกาศใช้

–          ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรี  นักวิชาการทางการเมือง  ฯลฯ  เกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆ

–          การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง  ข้อราชการประจำ  องค์กรอิสระต่างๆ

การรายงานข่าวเศรษฐกิจควรนำเสนอประเด็นข่าว  ดังนี้

–          ความเคลื่อนไหวทางการเงินและการคลังของรัฐ

–          ความเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินต่างๆ  เช่น  การปรับอัตราดอกเบี้ย  อัตราแลกเปลี่ยน  เงินตราต่างประเทศ  ฯลฯ

–          มาตรการต่างๆของรัฐที่นำมาใช้ควบคุมและการแก้ปัญหาทางการเงินของประเทศ

–          ราคาหุ้น  ราคาน้ำมัน  ราคาทอง

–          การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษี

–          สภาวะตลาดพืชผลทางการเกษตร  ราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า

–          วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกที่ส่งผลกระทบต่อภาวการณ์ส่งออกของไทย

–          อัตราการว่างงาน  การเรียกร้องค่าจ้างแรงงาน  และการประท้วงของแรงงาน

ข้อ  7  ในการเขียนข่าวกีฬา  ควรใช้ลีลา (Style)  แบบใด

แนวคำตอบ

ในการเขียนข่าวกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนข่าวได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน  เพราะหากข้อมูลข่าวนั้นได้มาจากการให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าว  ก็ต้องมีการอ้างอิงคำพูดของบุคคลที่ให้สัมภาษณ์  หรือบุคคลที่แถลงทั้งทางตรงและทางอ้อม  ถ้าข้อมูลข่าวที่ได้มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงและมีความคืบหน้าตลอดเวลา  ก็ควรรายงานตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิด  แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป  ก็อาจเขียนในลักษณะเรียบง่าย

ลีลาการเขียนข่าว  (Style)  มีอยู่  3  แบบ  

1       การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป  (Fact  Story)  มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่ายๆ  ไม่สลับซับซ้อน  อาจมีตัวเลข  สถิติ  หรือเป็นข่าวสั้น  ข่าวประกอบภาพก็ได้

2       การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว  (Action  Story)  เป็นการรายงานเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน  เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ  ความคืบหน้า  และความเคลื่อนไหว  ซึ่งผู้เขียนข่าวต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน  เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง  ได้รับความตื่นเต้น  ดีใจ  สลดใจไปกับบุคคลในข่าว  ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง  เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหว  พัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว

3       การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย  (Quote  Story)  เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริงที่ได้มาจากคำพูด  การแสดงความคิดเห็น  การแถลง  การให้สัมภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ  รวมทั้งประกาศ  หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน  โดยคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น  แบ่งออกเป็น  2  ลักษณะ  

            การยกคำพูดมาโดยตรง  (Direct  Quote)  โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือเลขในกำกับ  ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อผู้อ่านทราบว่าเป็นคำพูดของใคร

            การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง  และมีเครื่องหมายคำพูดกำกับ  (Indirect  Quote)  แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้  โดยไม่มีการแต่งเติมใดๆทั้งสิ้น  และระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน

ข้อ  8  จงกล่าวถึงหลักการเขียนความนำและเนื้อข่าว

แนวคำตอบ

หลักการเขียนความนำ  มีดังนี้

1       ก่อนเขียนความนำ  ต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าตัวข่าวเป็นเรื่องอะไร  จากนั้นก็เน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ  หรือสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ไม่ต้องตอบทุกคำถามว่า  ใคร  ทำอะไร  ที่ไหน  เมื่อไร  ทำไม  และอย่างไร

2       เมื่อลงมือเขียนความนำ  ควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆ  ดังนี้

–          ประเด็นหลักหรือหัวใจของเรื่องคืออะไร

–          ข้อเท็จจริงใดสำคัญที่สุด

–          เกิดอะไรขึ้น  มีการกระทำหรือมีคำพูดใดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักของเรื่อง

–          อะไรคือความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องดังกล่าว

–          ข้อเท็จจริงที่มีผลกระทบต่อผู้อ่าน  หรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่าน

–          ข้อเท็จจริงใดที่ผิดปกติธรรมดา  หาทางสร้างสีสันให้ข่าว

–          เขียนแบบตรงไปตรงมา  กระชับ  กะทัดรัด

–          เขียนรวมเป็น  1  ย่อหน้า  เป็นประโยคเดียว  (หรือไม่เกิน  2  ประโยค)

–          เขียนประโยคสั้นและเข้าใจง่าย  ไม่ต้องเน้นหลักไวยากรณ์มากนัก

–          ถ้าต้องเขียนเกี่ยวกับคำพูดของบุคคล  ควรระบุตัวและความสำคัญของผู้พูด

หลักการเขียนเนื้อข่าว  มีดังนี้

1       ควรระบุคุณลักษณะ  (Indentification)  ของแหล่งข่าว  คือ  ตัวตน  รูปพรรณสัณฐานและคุณสมบัติของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล  สถานที่  และเหตุการณ์

2       ต้องมีการอ้างแหล่งข่าวหรือที่มาของข่าวเพื่อความน่าเชื่อถือของข้อมูล  ได้แก่

–          บุคคลที่ให้ข้อมูลเป็นใคร  ชื่อ  สกุล  ยศตำแหน่ง  ฯลฯ

–          เป็นองค์กร / นิติบุคคล / หน่วยราชการใด

–          ใช้คำกริยาประกอบการอ้างอิง  เช่น  กล่าวว่า  แถลงว่า  ให้สัมภาษณ์ว่า ฯลฯ

–          อ้างถึงแหล่งข่าวทุกครั้งทุกย่อหน้า  อาจอ้างในตอนต้นหรือท้ายย่อหน้าก็ได้

3       ใช้คำเชื่อม  คือ  ถ้อยคำ  สำนวน  ที่เชื่อมต่อหรือโยงข้อมูลข่าวแต่ละเรื่องให้ต่อกัน  โดยควรใช้ให้ถูกเพื่อให้ภาษาที่ใช้ราบรื่น  สละสลวย  ได้แก่

–          ขณะเดียวกัน  ต่อมา  ในเวลาเดียวกัน

–          หลังจากนั้น  ก่อนหน้านี้

–          แต่  และ  รวมทั้ง  อย่างไรก็ตาม  ดังนั้น  นอกจากนั้น  ตรงกันข้าม

 

Advertisement