การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW4008 กฎหมายที่ดิน

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ  (คะแนนเต็มข้อละ  25  คะแนน)

ข้อ  1  นายอาทิตย์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2537  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น  นายอาทิตย์ได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินแต่ไม่ได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดินจึงไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ใน  พ.ศ. 2545  นายอาทิตย์ถึงแก่ความตายโดยมีนางเดือนภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา  ใน  พ.ศ. 2549  นางเดือนก็ได้รับโฉนดที่ดินจากทางราชการ  ขณะนี้นางเดือนต้องการจะโอนที่ดินแปลงนี้ให้แก่นายตะวันบุตรชายซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว  ให้วินิจฉัยว่านางเดือนจะโอนที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  27  ตรี  เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา  58  วรรคสอง  ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. 2497  หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา  27 ทวิ  แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน  ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น  ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน  ณ  ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ  ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว  แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด  ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง  ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา  59  ทวิ  ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ.  2497  แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27  ตรี  ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่  ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด  ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

วินิจฉัย

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้

1)    จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  และมิได้แจ้งการครอบครองตาม  พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ  มาตรา  5  และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย

2)    ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  กล่าวคือ  ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรี  จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  ไม่ได้

3)    มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน  และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร  และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน  50  ไร่  ถ้าเกิน  50  ไร่  จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

นางเดือนจะขอออกโฉนดที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่  เห็นว่า  นายอาทิตย์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่  พ.ศ. 2496 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  กรณีเช่นนี้ถือว่านายอาทิตย์เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ  (ก่อนวันที่  1  ธันวาคม  พ.ศ. 2497)  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ต่อมาได้ความว่า  ในปี  พ.ศ. 2535  ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้นข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  นายอาทิตย์ได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดิน  แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  กรณีเช่นนี้ต้องถือว่า  นายอาทิตย์เป็นผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา  27  ตรีแล้ว  แม้นายอาทิตย์จะไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดินอันทำให้ไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  ตามมาตรา  58  วรรคสามก็ตาม  ทั้งนี้เพราะเหตุว่า  ตามมาตรา  27  ตรี  ใช้คำว่า  หรือ  แสดงว่าปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ ระหว่างให้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินหรือมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดิน  ดังนั้น  นายอาทิตย์จึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะราย  ตามมาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก

และเมื่อใน  พ.ศ. 2543  นายอาทิตย์ถึงแก่ความตายโดยมีนางเดือนภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายครอบครองและทำประโยชน์ตลอดมา  ในกรณีดังกล่าวนี้  ถือว่านางเดือนเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิในมรดกของนายอาทิตย์และเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายอาทิตย์  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคสอง 

จึงมีสิทธิขอออกโฉนดที่ดิน  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  59  ทวิ  วรรคแรก

สรุป  นางเดือนสามารถโอนที่ดินให้แก่นายตะวันได้


ข้อ  2  ผู้ซึ่งมีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองที่ดิน  จะโอนที่ดินนั้นให้แก่กันได้หรือไม่ตามกฎหมายที่ดิน

ธงคำตอบ

อธิบาย

ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครอง  หรือ  ผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดินแต่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์  หมายถึง  ผู้เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้  คือ  หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  หนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)  ใบจอง  (น.ส.2)  ใบไต่สวน  (น.ส.5)  เป็นต้น

การจะพิจารณาว่าผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินต่อไปได้หรือไม่  มีหลักคือ  ให้พิจารณาว่าที่ดินนั้นได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วหรือไม่  ถ้ามีก็สามารถโอนได้ตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  9  ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วให้โอนกันได้

ดังนั้น  ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินได้หรือไม่  สามารถแยกพิจารณาดังนี้

1       ที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  (น.ส.3)

หนังสือรับรองการทำประโยชน์  คือ  หนังสือคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  1  ดังนั้น  เมื่อที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงสามารถโอนให้แก่กันได้ตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  เว้นแต่ในบางกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติห้ามโอนไว้  เช่น  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  31 และมาตรา  58  ทวิ  วรรคห้า  เป็นต้น

2       ที่ดินที่มีใบจอง  (น.ส.2

ใบจอง  เป็นเพียงหนังสือที่แสดงว่า  บุคคลผู้เป็นเจ้าของที่ดินได้รับอนุญาตให้เข้าครอบครองที่ดินของรัฐชั่วคราว  แต่ที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วจนกว่าจะได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ดังนั้น  สำหรับที่ดินที่มีใบจองหรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจองนั้น  ถ้ายังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  ผู้ได้รับอนุญาตจะโอนไม่ได้  เว้นแต่  จะตกทอดทางมรดกตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  8  วรรคสอง

3       ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  (ส.ค.1)

ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น  จะทำการโอนทางทะเบียนไม่ได้  เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  แต่อย่างไรก็ดี  ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน  แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1378

ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น  จะทำการโอนทางทะเบียนไม่ได้  เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม  พ.ร.บ.  ให้ใช้ฯ  มาตรา  9  แต่อย่างไรก็ดี  ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน  แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กัน  ตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1378

ดังนั้น  ผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีเพียงสิทธิครอบครองจะโอนที่ดินให้แก่กันได้เฉพาะที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ส่วนที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง  หรือใบจอง  เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว  จึงไม่สามารถโอนให้แก่กันได้


ข้อ  3  นายศุกร์ได้ขายที่ดินซึ่งมีโฉนดแปลงหนึ่งให้แก่นางจันทร์  โดยทำสัญญาซื้อขายกันเองที่บ้านของนายศุกร์  หลังจากนั้น  6  เดือนนายศุกร์ได้หลอกเอาโฉนดที่ดินคืนเพื่อจะนำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันเงินกู้กับนายอังคาร  ต่อมาก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจำนองนางจันทร์ได้นำหนังสือสัญญาซื้อขายไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินและขออายัดที่ดินแปลงนั้นไว้  เจ้าพนักงานที่ดินก็ได้สั่งรับอายัดตามคำขอ  หลังจากอายัดได้  15  วัน  นายศุกร์ทราบว่าที่ดินถูกอายัดจึงทำหนังสือคัดค้านขอให้เลิกอายัด  ดังนี้  ให้วินิจฉัยว่าเจ้าพนักงานที่ดินจะต้องสั่งยกเลิกการอายัดดังกล่าวหรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  83  ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินใดอันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียน  หรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้  มีความประสงค์จะขออายัดที่ดิน  ให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  71

เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนเอกสารหลักฐานที่ผู้ขอได้นำมาแสดงแล้ว  ถ้าเห็นสมควรเชื่อถือก็ให้รับอายัดไว้มีกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่สั่งรับอายัด  เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว  ให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  และผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

ถ้าผู้มีส่วนได้เสียคัดค้านว่า  การอายัดนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสอบสวนพยานหลักฐานเท่าที่จำเป็น  เมื่อเป็นที่เชื่อได้ว่าได้รับอายัดไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ยกเลิกการอายัดนั้น  และแจ้งให้ผู้ขออายัดทราบ

วินิจฉัย

การอายัด  หมายถึง  การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อไปดำเนินการทางศาล  ดังนั้น  ถ้าที่ดินแปลงใดถูกอายัดจะมีการจดทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินนั้นไม่ได้  เว้นแต่จะเป็นการจดทะเบียนที่เป็นการปลดเปลื้องภาระผูกพัน  เช่น  ที่ดินถูกอายัด  แต่จะมีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง  ไถ่ถอนขายฝาก  กรณีเช่นนี้  ยอมให้จดทะเบียนได้  เพราะเป็นการทำให้ที่ดินปลอดจากภาระผูกพัน

ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการอายัดไว้ดังนี้ 

1       ผู้ขออายัดจะต้องมีส่วนได้เสียในที่ดินโดยตรงอันอาจฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินได้

2       พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งรับอายัดไว้ได้มีกำหนด  30  วัน  นับแต่วันที่สั่งรับอายัด

3       เมื่อครบกำหนด  30  วันแล้วผู้ขออายัดยังไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งอายัดที่ดินให้ถือว่าการอายัดสิ้นสุดลง  ผู้นั้นจะขออายัดซ้ำในกรณีเดียวกันอีกไม่ได้

เจ้าพนักงานที่ดินจะต้องสั่งยกเลิกการอายัดดังกล่าวหรือไม่  เห็นว่า  การที่นายศุกร์ได้ขายที่ดินที่มีโฉนดแปลงหนึ่งให้แก่นางจันทร์  โดยทำสัญญาซื้อขายกันเองนั้น  การซื้อขายดังกล่าวถือว่าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  กล่าวคือ  ตาม  ป.พ.พ.   มาตรา  456  กำหนดว่า  การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้เป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ท่านว่าเป็นโมฆะ  ดังนั้น  เมื่อการซื้อขายระหว่างนายศุกร์และนางจันทร์ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  จึงตกเป็นโมฆะ  กรรมสิทธิ์ในที่ดินจึงยังคงเป็นของนายศุกร์อยู่

เมื่อการซื้อขายตกเป็นโมฆะ  นางจันทร์จึงไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดิน  อันอาจจะฟ้องบังคับให้มีการจดทะเบียนหรือให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนที่เกี่ยวกับที่ดินนั้นได้  ดังนั้น  การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดตามคำขอของนางจันทร์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

และเมื่อการอายัดไม่ชอบด้วยกฎหมาย  นายศุกร์เจ้าของที่ดินซึ่งถือว่าผู้มีส่วนได้เสีย  ได้ทำหนังสือคัดค้านการอายัดและขอให้ยกเลิกการอายัด  กรณีเช่นนี้  เจ้าพนักงานที่ดินจึงต้องสั่งยกเลิกการอายัดที่ดินและแจ้งให้นางจันทร์ทราบ  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  83  วรรคท้าย

สรุป  เจ้าพนักงานที่ดินต้องสั่งยกเลิกการอายัด


ข้อ  4  นายสมพรได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินบนเกาะแห่งหนึ่งตั้งแต่   พ.ศ. 2489  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน ใน พ.ศ. 2498  นายสมพรได้ไปแจ้งการครอบครองจึงได้หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  ขณะนี้นายสมพรได้ติดต่อขอกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อจะนำเงินไปลงทุนสร้างบ้านพักตากอากาศในที่ดินนั้น  นายสมพรจึงได้ไปขอออกโฉนดที่ดินเพื่อจะนำไปจำนองเป็นประกันเงินกู้ดังกล่าว  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่านายสมพรจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

 ธงคำตอบ

มาตรา  59  ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะรายไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา  58  แล้วหรือไม่ก็ตาม  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร  ให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  แล้วแต่กรณี  ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้  ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองด้วย

วินิจฉัย

โดยหลักแล้ว  ที่เกาะเป็นที่ดินที่ต้องห้ามมิให้นำมาออกโฉนดที่ดิน  เว้นแต่เป็นที่ดินที่ประชาชนมิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว  เช่น  มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  ใบจอง  ใบเหยียบย่ำ  เป็นต้น

นายสมพรจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่  เห็นว่า  เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า  นายสมพรได้ครอบครองและทำประโยชน์  ในที่ดินบนเกาะแห่งนี้ตั้งแต่  พ.ศ. 2489  โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  ต่อมาในปี  พ.ศ. 2498  นายสมพรได้ไปแจ้งการครอบครอง  จึงได้รับหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน  (ส.ค.1)  กรณีเช่นนี้  ถือว่านายสมพรเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิครอบครองในที่ดิน  โดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองอันถือว่ามีสิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว  นายสมพรจึงสามารถนำที่ดินที่เป็นเกาะมาขอออกโฉนดที่ดินได้

และเมื่อได้ความว่า  ในขณะนี้นายสมพรประสงค์จะนำที่ดินไปขอออกโฉนด  แต่ไม่มีประกาศของทางราชการเพื่อออกโฉนดที่ดินแบบทั้งตำบล  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา  58  นายสมพรจึงขอออกโฉนดที่ดินได้เป็นการเฉพาะราย  ตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มาตรา 59

สรุป  นายสมพรขอออกโฉนดที่ดินได้

Advertisement