การสอบซ่อมภาค  2  และภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2551

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW3035 การสืบสวนและสอบสวน 

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  4  ข้อ

ข้อ  1  ผู้เสียหายในคดีอาญามีความหมายว่าอย่างไร  มีกี่ประเภท  อะไรบ้าง  ให้อธิบายมาโดยละเอียด  พร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ

ธงคำตอบ

มาตรา  2(4)  ผู้เสียหาย  หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่ง  รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้  ดังบัญญัติไว้ในมาตรา  4  5  และ  6

จากนิยามความหมายดังกล่าว  สามารถแยกอธิบายได้ดังนี้

1       ผู้เสียหายโดยตรง  คือ  ผู้เสียหายที่แท้จริง  ซึ่งการจะพิจารณาว่าบุคคลใดจะเป็นผู้เสียหายโดยตรงหรือเป็นผู้เสียหายโดยแท้จริงนั้น  มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี้  คือ

 ต้องมีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้น

บุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดนั้น

เป็นความเสียหายต่อสิทธิ

บุคคลนั้นต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย

2       ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย  คือ  แม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหายแท้จริงแต่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในความหมายของคำว่า  ผู้เสียหาย  ด้วย

ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย

มาตรา  4  ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นหญิงมีสามีและเป็นผู้เสียหายโดยตรง  หญิงมีสามีนั้นสามารถฟ้องคดีอาญาได้เองโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากสามีก่อน  ตามกฎหมายถือว่าหญิงมีสามีมีอำนาจเต็มทุกประการ  ทั้งนี้ตาม  ป.วิอาญา  มาตรา  4  วรรคแรก

มาตรา  4  วรรคสอง  มามีมีอำนาจจัดการ  (ฟ้องคดีอาญา)  แทนภริยาได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจากภริยา  แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา  5(2)  ด้วย

ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย

มาตรา  5  บุคคลที่มีอำนาจจัดการแทนตามมาตรา  5  นั้นได้แก่

(1) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาล  เฉพาะแต่ในความผิดซึ่งได้กระทำต่อผู้เยาว์หรือผู้ไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความดูแล

(2) ผู้บุพการี  ผู้สืบสันดาน  สามีหรือภริยา  เฉพาะแต่ในความผิดอาญาซึ่งผู้เสียหายถูกทำร้ายถึงตายหรือบาดเจ็บจนไม่สามารถจะจัดการเองได้

(3) ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่นๆของนิติบุคคล  เฉพาะความผิดซึ่งกระทำลงแก่นิติบุคคลนั้น

ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย  ตามมาตรา  6

กรณีที่จะมีการร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลนั้นตั้งผู้แทนเฉพาะคดีตามมาตรา  6  นั้น  มีอยู่  2  ประการ  คือ

(1) ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์  ไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม  หรือผู้แทนโดยชอบธรรมไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่โดยเหตุหนึ่งเหตุใด  หรือผู้แทนโดยชอบธรรมมีผลประโยชน์ขัดกันกับผู้เยาว์

(2) ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถ  ไม่มีผู้อนุบาล  หรือผู้อนุบาลไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่โดยเหตุหนึ่งเหตุใด  หรือผู้อนุบาลมีผลประโยชน์ขัดกันกับคนไร้ความสามารถ

 

ข้อ  2  คำร้องทุกข์กับคำกล่าวโทษแตกต่างกันอย่างไร  ให้อธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ

ธงคำตอบ

คำร้องทุกข์กับคำกล่าวโทษเป็นกระบวนการในการดำเนินคดีอาญาภายใต้ระบบกล่าวหา  โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้

คำร้องทุกข์  หมายถึง  การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น  จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย  และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ  (ป. วิอาญา  มาตรา  2(7))

คำกล่าวโทษ  หมายถึง  การที่บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลรู้ตัวหรือไม่ก็ดี  ได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น  (ป. วิอาญา  มาตรา  2(8))

ข้อ  3  นางสาวน้ำ  อายุ  17  ปี  ถูกนายเสือกระทำอนาจาร  ให้วินิจฉัยว่า  นางสาวน้ำซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่จะไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนด้วยตนเองเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายเสือได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  2  (4)  ผู้เสียหาย  หมายถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง  รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้  ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา  4  , 5    และ  6

มาตรา  2  (7)  คำร้องทุกข์  หมายถึง  การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น  จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย  และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ

วินิจฉัย

นางสาวน้ำซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่สามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนด้วยตนเองเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายเสือได้  ตามมาตรา  2(4) , (7)  เนื่องจากศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่า  การร้องทุกข์ไม่ใช่การทำนิติกรรม  เมื่อมีอายุพอสมควรย่อมร้องทุกข์เองได้  เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติตัดสิทธิแต่อย่างใด

ข้อ  4  นายเมฆเป็นทนายความของนายหมอก  (ตัวความ)  ต่อมาปรากฏว่านายเมฆรับชำระเงินจำนวนห้าหมื่นบาทจากฝ่ายตรงข้าม  โดยที่นายหมอกไม่ได้มอบหมายให้นายเมฆมีอำนาจรับเงินจากฝ่ายตรงข้าม  และนายเมฆได้เบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไว้เป็นของตนโดยทุจริต  นายหมอกจึงไปแจ้งข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายเมฆ  ดังนี้  ให้วินิจฉัยว่า  พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  121  วรรคสอง  แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว  ห้ามมิให้ทำการสอบสวนเว้นแต่จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ

วินิจฉัย

คดีนี้ผู้เสียหายคือคู่ความฝ่ายตรงข้ามที่เป็นเจ้าของเงินในความผิดฐานยักยอกทรัพย์  ดังนั้น  เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน  เนื่องจากในคดีความผิดต่อส่วนตัว  ถ้าสอบสวนโดยไม่มีคำร้องทุกข์หรือมีคำร้องทุกข์แต่เป็นคำร้องทุกข์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ถือว่าไม่มีการสอบสวนคดีนั้น  ตาม  ป. วิ. อาญา  มาตรา  121  วรรคสอง

Advertisement