การสอบซ่อมภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 2011 

Advertisement

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  เมื่อวันที่  10  สิงหาคม  2549  นายจันทร์ได้ยืมรถจักรยานยนต์ของนายอาทิตย์  1  คัน  เพื่อใช้ขับขี่ไปทำธุระโดยตกลงว่าจะนำไปคืนในวันที่  18  สิหาคม  2549  ต่อมาวันที่  15  สิงหาคม  2549  นายอาทิตย์ได้มอบให้นายจันทร์เป็นตัวแทนไปซื้อตู้เย็นให้แก่ตน  1 เครื่อง  ราคา  20,000  บาท  ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  โดยตกลงให้นายจันทร์ออกเงินทดรองไปก่อน  นายจันทร์ซื้อตู้เย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้นำตู้เย็นไปส่งมอบให้แก่นายอาทิตย์  และได้ขอให้นายอาทิตย์ชำระเงินค่าตู้เย็นจำนวน  20,000  บาท  ให้แก่ตนด้วย  

นายอาทิตย์ได้รับมอบตู้เย็นเรียบร้อยแล้วจึงขอผัดผ่อนว่าจะชำระเงินให้ในวันที่  31  สิงหาคม  2549  แต่นายจันทร์ไม่ยินยอม  ดังนี้อยากทราบว่า

(ก)  นายจันทร์จะยึดตู้เย็นคืนจากนายอาทิตย์จนกว่าจะได้รับเงินทดรองที่ค้างจ่ายได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

(ข)  นายจันทร์จะยึดหน่วงรถจักรยานยนต์ของนายอาทิตย์แทนเงินทดรองจ่ายที่ค้างชำระได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  819  ตัวแทนชอบที่จะยึดหน่วงทรัพย์สินอย่างใดๆ  ของตัวการอันตกอยู่ในความครอบครองของตน  เพราะเป็นตัวแทนนั้นเอาไว้ได้จนกว่าจะได้รับเงินบรรดาค้างชำระแก่ตนเพราะการเป็นตัวแทน

วินิจฉัย

(ก)  การที่นายอาทิตย์มอบให้นายจันทร์เป็นตัวแทนไปซื้อตู้เย็นโดยให้ออกเงินทดรองไปก่อนเมื่อซื้อตู้เย็นเสร็จเรียบร้อย  นายจันทร์จึงนำตู้เย็นไปส่งมอบให้แก่นายอาทิตย์  แต่นายอาทิตย์ไม่ยอมชำระเงินให้โดยขอผัดผ่อนไปชำระให้ในภายหลัง  กรณีนี้นายจันทร์จะยึดตู้เย็นคืนจากนายอาทิตย์ไม่ได้  เพราะการที่ตัวแทนจะยึดหน่วงทรัพย์สินอย่างใดๆ  ของตัวการทรัพย์นั้นจะต้องตกอยู่ในความครอบครองของตน  แต่ตามอุทาหรณ์  นายจันทร์ได้ส่งมอบตู้เย็นให้แก่นายอาทิตย์แล้ว  นายจันทร์ไม่ได้ครอบครองตู้เย็นที่ตนซื้อมาแล้ว  จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะยึดหน่วงได้ตามมาตรา  819

(ข)  นายจันทร์จะยึดหน่วงรถจักรยานยนต์ของนายอาทิตย์แทนเงินทดรองที่ค้างชำระไม่ได้  เพราะการที่ตัวแทนจะยึดหน่วงทรัพย์สินของตัวการได้จะต้องเป็นทรัพย์สินที่ตกอยู่ในความครอบครองของตัวแทนเพราะการเป็นตัวแทนนั้น  คือจะต้องเป็นทรัพย์ที่ตัวการมอบหมายให้ตัวแทนไปกระทำแทน  แต่กรณีรถจักรยานยนต์ที่นายจันทร์ครอบครองมิใช่ทรัพย์ที่เกิดจากการเป็นตัวแทน  แต่เกิดจากการที่นายจันทร์ไปยืมนายอาทิตย์มาใช้  จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา  819

สรุป  นายจันทร์ไม่สามารถยึดตู้เย็นคืนและไม่สามารถยึดหน่วงรถจักรยานยนต์ของนายอาทิตย์ได้

 

ข้อ  2  นายเอก  เป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง  ปรากฏว่านายเอกได้มอบกิจการให้นายโทเป็นผู้จัดการดูแลกิจการปั๊มน้ำมันแทน ปรากฏว่าในระหว่างที่นายโทดูแลกิจการปั๊มน้ำมันนั้น  นายโทได้นำน้ำยาหล่อเย็นและที่ปัดน้ำฝนที่โรงงานของลุงมาขายที่ปั๊มน้ำมันของนายเอก  ปรากฏว่านายโทนำน้ำยาหล่อเย็นไปขายให้นางสาวสวย  โดยนางสาวสวยเข้าใจว่าปั๊มน้ำมันนายเอกจำหน่ายพวกน้ำยาเคมีเกี่ยวกับรถยนต์ด้วย  เช่นนี้ถ้าปรากฏว่าน้ำยาหล่อเย็นที่นายโทเติมให้รถยนต์นางสาวสวยทำให้รถยนต์ของนางสาวสวยเสียหาย  เพราะน้ำยาดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับรถของนางสาวสวย  เช่นนี้  นางสาวสวยจะเรียกร้องให้นายเอก  และนายโท  ร่วมกันรับผิดตามสัญญาซื้อขายได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  801  ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไป  ท่านว่าจะทำกิจใดๆในทางจัดการแทนตัวการก็ย่อมทำได้ทุกอย่าง

แต่การเช่นอย่างจะกล่าวต่อไปนี้  ท่านว่าหาอาจจะทำได้ไม่  คือ

1       ขายหรือจำนองอสังหาริมทรัพย์

2       ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่าสามปีขึ้นไป

3       ให้

4       ประนีประนอมยอมความ

5       ยื่นฟ้องต่อศาล

6       มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา

มาตรา  820  ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน

มาตรา  823  ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี  หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี  ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น

ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน  ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ  หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ

วินิจฉัย

การที่นายเอก  ได้มอบกิจการให้นายโทเป็นผู้จัดการดูแลกิจการปั๊มน้ำมันแทน  ถือว่าเป็นการตั้งตัวแทนทั่วไป  ตามมาตรา  801  ซึ่งนายโทตัวแทนผู้รับมอบอำนาจทั่วไป  มีอำนาจที่จะกระทำกิจการได้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกิจการปั๊มน้ำมันตามมาตรา  801  วรรคแรก  เว้นแต่กิจการตามวรรคท้าย  (1)  (6) ที่นายโทตัวแทนไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้

ปรากฏว่าในระหว่างที่นายโทดูแลกิจการปั๊มน้ำมัน  นายโทได้นำน้ำยาหล่อเย็นและที่ปัดน้ำฝนที่โรงงานของลุงมาขายที่ปั๊มน้ำมันของนายเอก  ปรากฏว่านายโทนำน้ำยาหล่อเย็นไปขายให้นางสาวสวย  ถือว่านายโทตัวแทนกระทำการนอกขอบอำนาจของการเป็นตัวแทน  เพราะปั๊มน้ำมันของนายเอกตัวการไม่ได้จำหน่ายพวกน้ำยาเคมีรถยนต์ด้วย  เช่นนี้นายเอกตัวการไม่ต้องร่วมรับผิด  เมื่อปรากฏว่าน้ำยาหล่อเย็นที่นายโทเติมให้รถยนต์นางสาวสวย  ทำให้รถยนต์ของนางสาวสวยเสียหาย  ตามมาตรา  823  วรรคแรก  เช่นนี้นางสาวสวยจะเรียกร้องให้นายเอกตัวการรับผิดไม่ได้  แม้ว่านางสาวสวยเข้าใจว่าปั๊มน้ำมันนายเอกจำหน่ายพวกน้ำยาเคมีเกี่ยวกับรถยนต์ด้วย  แต่ไม่ปรากฏว่านายเอกตัวการได้ทำให้นางสาวสวยบุคคลภายนอกเชื่อว่านายโทตัวแทน  กระทำการภายในขอบอำนาจแต่อย่างใด

แต่นางสาวสวยมีสิทธิเรียกให้นายโทตัวแทนรับผิดตามสัญญาซื้อขายได้  เพราะเมื่อนายโทตัวแทนกระทำการนอกขอบอำนาจต้องรับผิดต่อนางสาวสวยบุคคลภายนอกโดยลำพัง  ตามมาตรา  823  วรรคแรก

 สรุป  นางสาวสวยมีสิทธิเรียกให้นายโทตัวแทนรับผิดตามสัญญาซื้อขาย  เพราะเมื่อนายโทตัวแทนกระทำการนอกขอบเขตอำนาจต้องรับผิดต่อนางสาวสวยบุคคลภายนอกโดยลำพัง  ตามมาตรา  823  วรรคแรก

 

ข้อ  3  นาย  ก  ต้องการจะซื้อที่ดินเพื่อนำมาสร้างโรงงาน  นาย  ก  จึงติดต่อกับนาย  ข  ได้จัดหาที่ดินมาให้นาย  ข  นำผู้แทนของนาย  ก ไปดูที่ดินของนาย  ค  ปรากฏว่านาย  ก  พอใจในที่ดินแปลงดังกล่าวจึงตกลงซื้อ  และนาย  ค  ตกลงขาย  ในที่สุดก็ได้ข้าทำสัญญาซื้อขายกัน  นาย  ข  มาขอค่าบำเหน็จนายหน้ากับนาย  ค  แต่นาย  ค  ไม่ให้โดยอ้างว่านาย  ข  ไม่ได้ตกลงกันเรื่องค่านายหน้า  และนาย  ค  คิดว่านาย  ข  เป็นฝ่ายผู้ซื้อ  อีกทั้งนาย  ค  ก็ไม่ได้มอบหมายให้นาย  ข  เป็นนายหน้าฝ่ายผู้ขาย  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบด้วยว่า  นาย  ค  จะต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้นาย  ข  หรือไม่  อย่างไร 

ธงคำตอบ

มาตรา 845  วรรคแรก  บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า  เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี  จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ  เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น  ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้  ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว

นายหน้ามีสิทธิจะได้รับชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้เช่นนั้น  ความข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ

มาตรา  846  วรรคแรก  ถ้ากิจการอันได้มอบหมายแก่นายหน้านั้น  โดยพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่าย่อมทำให้แต่เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จไซร้  ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันโดยปริยายว่ามีค่าบำเหน็จนายหน้า

ค่าบำเหน็จนั้นถ้ามิได้กำหนดจำนวนกันไว้  ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม

วินิจฉัย

นาย  ก  ติดต่อกับนาย  ข  ให้จัดหาที่ดินมาให้  นาย  ข  นำผู้แทนของนาย  ก  ไปดูที่ดินของนาย  ค  และนาย  ก  ก็ได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าว  ดังนี้  การเป็นนายหน้าของนาย  ข  นั้น  เป็นนายหน้าแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่มีการมอบหมายตกลงแต่อย่างใด  ไม่ว่าจะโดยทางตรงตามมาตรา  845  หรือจะโดยทางอ้อมตามมาตรา  846  แม้จะอ้างมาตรา  846  ก็จะต้องมีการมอบหมายแก่กัน  ดังนั้นจึงวินิจฉัยได้ว่า  นาย  ค  จึงไม่ต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้กับนาย  ข  (ฎ. 705/2505)

สรุป  นาย  ค  ไม่ต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้นาย  ข

Advertisement