การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 2011 

Advertisement

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า

 คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นาย  ก  มอบนาย  ข  ให้เป็นนายหน้าขายที่ดิน  นาย  ข  ได้นำเสนอขายให้กับนาย  ค  นาย  ค  ตกลงซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว  แต่เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมีคนต้องการซื้อหลายรายด้วยกัน  ด้วยความกลัวจะไม่ได้ที่ดินแปลงนั้น  นาย  ค  จึงมอบเงินค่าที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับนาย  ข  มาทั้งหมดเลยเป็นจำนวนเงิน  1  ล้านบาท  อยากทราบว่า  นาย  ข  มีอำนาจที่จะรับเงินจำนวนดังกล่าวหรือไม่  อย่างไร  ให้ท่านวินิจฉัยพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบในการวินิจฉัย

ธงคำตอบ

มาตรา 845  วรรคแรก  บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า  เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี  จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี  ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ  เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น  ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้  ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว

มาตรา  849  การรับเงินหรือรับชำระหนี้อันจะพึงชำระตามสัญญานั้น  ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่านายหน้าย่อมไม่มีอำนาจที่จะรับแทนผู้เป็นคู่สัญญา

วินิจฉัย

นาย  ก  มอบหมายนาย  ข  ให้เป็นนายหน้าขายที่ดิน  นาย  ข  ในฐานะนายหน้ามีอำนาจจะจัดการได้ตามมาตรา  845  ดังต่อไปนี้คือ

1       ตกลง

2       ชี้ช่อง

3       จัดให้ทั้ง  2   ฝ่าย  เข้าทำสัญญากัน

ดังนั้น  การที่นาย  ค  ผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวได้มอบเงินค่าที่ดินให้กับนาย  ข  เป็นจำนวนเงิน  1  ล้านบาท  นาย  ข  ไม่มีอำนาจรับเงินจากนาย  ค  ผู้ซื้อที่ดิน  เพราะไม่ได้รับมอบหมายอำนาจจากนาย  ก  ตัวการตามมาตรา  849

สรุป  นาย  ข  ไม่มีอำนาจรับเงินจำนวน  1  ล้านบาท  ดังกล่าวเอาไว้

 

ข้อ  2  บริษัท  Silk  India  จำกัด  เป็นบริษัทที่ตั้งทำการอยู่ที่ประเทศอินเดีย  ประกอบกิจการขายผ้าไหมอินเดีย  ได้แต่งตั้งให้นางฝ้ายคำเป็นตัวแทนทำสัญญาขายผ้าให้แก่นางแพรวาแม่ค้าที่ตลาดพาหุรัด  เมื่อนางฝ้ายคำและนางแพรวาตกลงทำสัญญาซื้อขายผ้าไหมเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ต่อมาถึงกำหนดเวลาส่งมอบผ้าไหมอินเดีย  บริษัท  Silk  India  จำกัด  ไม่นำผ้าไหมมาส่งมอบเป็นเหตุให้นางแพรวาได้รับความเสียหายเช่นนี้  นางแพรวาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท  Silk  India  จำกัด  และหรือนางฝ้ายคำได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  820  ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน

มาตรา  824  ตัวแทนคนใดทำสัญญาแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ  ท่านว่าตัวแทนคนนั้นจะต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง  แม้ทั้งชื่อของตัวการจะได้เปิดเผยแล้ว  เว้นแต่ข้อความแห่งสัญญาจะแย้งกันกับความรับผิดของตัวแทน

วินิจฉัย

บริษัท  Silk  India  จำกัด  ตกลงมอบอำนาจให้นางฝ้ายคำเป็นตัวแทนทำสัญญาซื้อขายผ้ากับนางแพรว  โดยขณะทำสัญญาซื้อขายบริษัท  Silk  India  จำกัด  ตัวการได้อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ  ดังนั้นเมื่อปรากกว่ามีการผิดสัญญาซื้อขายผ้า  นางฝ้ายคำตัวแทนจึงต้องรับผิดต่อนางแพรวาบุคคลภายนอกตามมาตรา  824

นอกจากนี้  นางแพรวาบุคคลภายนอกยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท  Silk  Ibdia  จำกัด  ตัวการได้อีก  ตามมาตรา  820  เพราะเมื่อทางฝ้ายคำตัวแทนทำการภายในของอำนาจแล้ว  บริษัท  Silk  India  จำกัด  ตัวการต้องผูกพันกับทางแพรวาบุคคลภายนอกด้วย  ทั้งนี้เพราะมาตรา  824  บัญญัติไว้เพื่อความสะดวกแก่บุคคลในประเทศไทยที่จะฟ้องร้องตัวแทนในประเทศไทยของตัวการที่อยู่ในต่างประเทศต่อศาลไทย  แทนที่จะไปฟ้องในศาลต่างประเทศเท่านั้น  มิได้หมายความว่าตัวการที่อยู่ในต่างประเทศจะไม่มีความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่ทำสัญญากับตัวแทนของตนในประเทศ (ฎ. 50/2501)

สรุป  นางแพรวามีสิทธิฟ้องให้นางฝ้ายคำรับผิดได้ตามมาตรา  824  หรือจะฟ้องให้บริษัท  Silk  India  จำกัด  รับผิดตามมาตรา  820  ก็ได้

 

ข้อ  3  นายเอกเปิดร้านขายเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ย่านบางกะปิ  ได้ตกลงให้นายโทเป็นนายหน้าขายเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่ตนในราคาเครื่องละ  46,000  บาท  และตกลงจะให้ค่าบำเหน็จนายหน้าในราคาเครื่องละ  2,000  บาท  วันที่  15  ธันวาคม  2548  นายโทได้ไปเสนอขายเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่นายตรีซึ่งกำลังจะเปิดร้านให้เช่าอินเตอร์เน็ตเพื่อเล่นเกม  นายตรีสนใจ  นายโทจึงได้พานายตรีไปพบนายเอกและได้ตกลงต่อรองราคากันเหลือเครื่องละ  45,000  บาท  นายตรีต้องการจะซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน  20  เครื่อง  เป็นเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน  900,000  บาท  แต่เนื่องจากนายตรียังมีเงินไม่เพียงพอจึงขอชะลอการซื้อไว้ก่อน  ต่อมาวันที่  1  มีนาคม 2549  นายเอกไปพบนายตรีและได้ชักชวนให้นายตรีซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์  นายตรีจึงได้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน  10  เครื่อง  เป็นจำนวนเงิน  450,000  บาท  นายโททราบเรื่องการซื้อคอมพิวเตอร์จึงไปขอค่าบำเหน็จนายหน้าจากนายเอกจำนวน  20,000  บาท  นายเอกไม่ยอมจ่ายโดยอ้างว่าการซื้อขายเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดจากการชักชวนของตน  ไม่ได้เกิดจากการกระทำของนายโท  ดังนี้อยากทราบว่าข้ออ้างของนายเอกฟังขึ้นหรือไม่  เพราะเหตุใด  และนายเอกจะต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้แก่นายโทหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา 845  วรรคแรก  บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า  เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี  จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ  เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น  ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้  ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว

วินิจฉัย

นายเอกตกลงให้นายโทเป็นนายหน้าขายเครื่องคอมพิวเตอร์  โดยตกลงจะให้ค่าบำเหน็จเครื่องละ  2,000  บาท  นายโทได้ไปเสนอขายเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่นายตรีในวันที่  15  ธันวาคม  2548  แต่นายตรียังมีเงินไม่เพียงพอจึงขอชะลอการซื้อไว้ก่อน  ต่อมาวันที่  1  มีนาคม  2549  นายเอกได้ไปพบนายตรี  และได้ชักชวนให้นายตรีซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์  นายตรีจึงได้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จากนายเอกจำนวน  10  เครื่อง  การซื้อขายเครื่องคอมพิวเตอร์  แม้จะเกิดจากการชักชวนของนายเอก  แต่การที่นายเอกรู้จักนายตรีก็เพราะนายโทเป็นคนพานายตรีไปพบนายเอก  การที่นายเอกไปชักชวนนายตรีให้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์  จึงถือว่าการซื้อขายเครื่องคอมพิวเตอร์สำเร็จย่อมเกิดจากการชี้ช่องของนายโท  ข้ออ้างของนายเอกที่ว่าการซื้อขายเกิดจากการชักชวนของตนไม่ได้เกิดจากการกระทำของนายโทจึงฟังไม่ขึ้น  นายเอกจึงต้องจ่ายค่าบำเหน็จให้แก่นายโทตามมาตรา  845

สรุป  ข้ออ้างของนายเอกฟังไม่ขึ้น  นายเอกต้องจ่ายค่านายหน้าแก่นายโท

Advertisement