การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2551

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW2003 

Advertisement

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยละเมิด จัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี  4  ข้อ

ข้อ  1  บริษัทดวงดี  จำกัด  จ้างบริษัทดวงเฮง  จำกัด  ให้รักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าดวงดีพลาซ่าและรักษาความปลอดภัยในรถยนต์ของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในห้างด้วย  บริษัทดวงเฮงจำกัด

ได้จ้างนายหละหลวมเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย  และบริษัทดวงเฮง  จำกัด  กำหนดข้อปฏิบัติต่อลูกค้าที่นำรถยนต์เข้ามาจอดในบริเวณลานจอดต้องรับบัตรผ่านเข้าและคืนบัตรเมื่อนำรถออกโดยไม่ต้องเสียค่าบริการ  หากบัตรสูญหายจะต้องนำบัตรประจำตัวและหลักฐานความเป็นเจ้าของรถมาแสดงจึงจะนำรถออกไปได้

นายโชคร้ายได้นำรถยนต์เข้ามาจอดในลานจอดรถและรับบัตรผ่านเข้าออกแล้วเข้าไปซื้อสินค้าภายในห้าง  เมื่อกลับออกมาปรากฏว่ารถยนต์หายไป

เนื่องจากนายหละหลวมไม่ได้ตรวจสอบการแลกบัตรออกโดยเคร่งครัดจนเป็นเหตุให้คนร้ายเข้ามาลักรถยนต์ของนายโชคร้ายไปได้

ดังนี้ นายโชคร้ายจะเรียกให้ผู้ใดรับผิดได้บ้าง  เพราะเหตุใด  จงอธิบายพร้อมหลักกฎหมาย

ธงคำตอบ

มาตรา  420  ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ  ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี  แก่ร่างกายก็ดี  เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี  ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา  425  นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด  ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น

มาตรา  427  บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น  ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วยโดยอนุโลม

มาตรา  428  ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้างเว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ  หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง

วินิจฉัย

การที่นายหละหลวมไม่ระมัดระวังตรวจบัตรจอดรถผ่านเข้าออกไปจากห้างด้วยความประมาทอันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์  จึงเป็นการทำละเมิดซึ่งเป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์นายโชคร้ายสูญหาย  นายหละหลวมจึงต้องรับผิดต่อนายโชคร้ายตามมาตรา  420

นายหละหลวมทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย  จึงเป็นการกระทำละเมิดในทางการที่จ้าง  บริษัทดวงเฮง  จำกัด  ซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องร่วมกับนายหละหลวมพนักงานรักษาความปลอดภัยในการรับผิดต่อนายโชคร้ายตามมาตรา  425

บริษัทดวงดีจำกัด  จ้างบริษัทดวงเฮง  จำกัด  รักษาความปลอดภัยเป็นสัญญาจ้างทำของ  เมื่อเหตุละเมิดเกิดจากนายหละหลวมซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทดวงเฮงผู้รับจ้างทำของโดยมิใช่ความผิดของบริษัทดวงดี  จำกัด  บริษัทดวงดีจำกัดจึงไม่ต้องรับผิดในฐานะที่เป็นผู้ว่าจ้างทำของตามมาตรา  428

แต่โดยที่บริษัทดวงดี  จำกัดจ้างบริษัทดวงเฮง  จำกัด  รักษาความปลอดภัย  โดยมีนายหละหลวมเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทดวงเฮง  จำกัด  เมื่อนายหละหลวมทำละเมิดบริษัทดวงดี  จำกัดจึงต้องร่วมกับบริษัทดวงเฮงจำกัด  และนายหละหลวมรับผิดต่อนายโชคร้ายในฐานะที่เป็นตัวการตามมาตรา  427  ประกอบมาตรา  420  (ฎ. 4223/2542)

สรุป  นายโชคร้ายสามารถเรียกให้นายหละหลวมรับผิดตามมาตรา  420  บริษัทดวงดี  จำกัด  ตามมาตรา  427  และบริษัทดวงเฮง  จำกัด ตามมาตรา  425

 

 

ข้อ  2  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  เดินสายไฟฟ้าเปลือยแรงสูงผ่านดาดฟ้าบ้านของนายบอย  วันหนึ่งนายบอยขึ้นไปเดินเล่นบนดาดฟ้าแล้วสะดุดก้อนหินที่วางไว้เสียหลัก  มือไปพาดถูกสายไฟฟ้าทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตถึงแก่ความตาย

ดังนี้  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องรับผิดต่อการตายของนายบอยหรือไม่  เพราะเหตุใด  จงอธิบายพร้อมหลักกฎหมาย

ธงคำตอบ

มาตรา  437  บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะ  อย่างใดๆอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลบุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง

ความข้อนี้ให้ใช้บังคับได้ตลอดถึงผู้มีไว้ในครอบครองของตน  ซึ่งทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพหรือโดยความมุ่งหมายที่จะใช้หรือโดยอาการกลไกของทรัพย์นั้นด้วย

วินิจฉัย

กระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์ที่เกิดอันตรายโดยสภาพ  ตามมาตรา  437  วรรคสอง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นผู้ครอบครองจึงต้องรับผิดต่อความเสียหายอันเกิดแต่กระแสไฟฟ้านั้น  (ฎ.  478/2523)

การที่นายบอยเดินเล่นเสียหลักมือไปถูกสายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าช็อตถึงแก่ความตาย  ยังฟังไม่ได้ว่าเหตุเพราะความผิดของนายบอยเอง

ความตายของนายบอยเกิดจากกระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความครอบครองของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  ซึ่งอาจป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้าได้  อันตรายที่เกิดแก่นายบอยจึงถือไม่ได้ว่าเกิดแต่เหตุสุดวิสัย  เพราะเหตุสุดวิสัยจะต้องเป็นเหตุที่ไม่อาจป้องกันได้  ดังนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงต้องรับผิดต่อการตายของนายบอย  (ฎ. 3354/2524)

 

 

ข้อ  3  นายหนึ่งจดทะเบียนรับเด็กชายอังคารเป็นบุตรบุญธรรมโดยถูกต้องตามกฎหมาย  ข้อเท็จจริงได้ความว่า  บิดามารดาที่แท้จริงของเด็กชายอังคารถึงแก่ความตายไปหมดแล้ว  นายหนึ่งได้อุปการะเลี้ยงดูเด็กชายอังคารตลอดมา  ตามปกติเด็กชายอังคารชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นประจำ  โดยนายหนึ่งไม่เคยห้ามปราม  ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือน

วันเกิดเหตุเด็กชายอังคารออกไปเที่ยวนอกบ้านและเกิดไม่พอใจนายขาว  เด็กชายอังคารใช้มีดแทงนายขาวได้รับบาดเจ็บ

ดังนี้  นายขาวจะฟ้องผู้ใดให้รับผิดในทางละเมิดได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  420  ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ  ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี  แก่ร่างกายก็ดี  เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี  ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา  429  บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด  บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น

วินิจฉัย

การที่บิดามารดาจะต้องร่วมรับผิดกับผู้เยาว์ตามมาตรา  429  นี้ในเบื้องต้นจะต้องพิจารณาเสียก่อนว่าผู้เยาว์ได้กระทำละเมิดหรือไม่  ซึ่งหลักเกณฑ์ทั่วไปของการกระทำอันเป็นละเมิดมีว่า

1       เป็นบุคคลที่มีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ

2       ทำต่อผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย

3       มีความเสียหาย  (ชีวิต  ร่างกาย  อนามัย  เสรีภาพ  ทรัพย์สิน  หรือสิทธิ)

4       ผลที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับการกระทำ

ดังนั้นการที่เด็กชายอังคารออกไปเที่ยวนอกบ้านและเกิดไม่พอใจนายขาว  ใช้มีดแทงนายขาวจนได้รับบาดเจ็บ  เป็นการกระทำโดยจงใจทำต่อนายขาวโดยผิดกฎหมาย  ทำให้นายขาวเสียหายต่อร่างกาย  ผลที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับการกระทำของเด็กชายอังคาร  เมื่อครบองค์ประกอบของหลักเกณฑ์การกระทำละเมิด  การกระทำของเด็กชายอังคารจึงเป็นละเมิดตามมาตรา  420

เมื่อเด็กชายอังคารได้กระทำละเมิดต่อนายขาว  นายหนึ่งซึ่งเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมของเด็กชายอังคารจะต้องร่วมรับผิดกับเด็กชายอังคารด้วยหรือไม่  เห็นว่า  เพราะเหตุที่บิดามารดามีหน้าที่ควบคุมเลี้ยงดูผู้เยาว์  อีกทั้งกฎหมายยังให้อำนาจบิดามารดาในการใช้อำนาจปกครอง ซึ่งทำให้ผู้เยาว์ต้องอยู่ในความเชื่อฟังคำสั่งด้วย  ดังนั้นบิดามารดาต้องร่วมรับผิดกับผู้เยาว์ด้วย  อนึ่งคำว่า  บิดามารดา  ตามมาตรา  429  นี้หมายถึง  บิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น  ซึ่งผู้รับบุตรบุญธรรมเฉพาะที่ได้จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมก็ถือว่าเป็นบิดามารดาตามความหมายของมาตรานี้ด้วย 

เมื่อนายหนึ่งเป็นบิดา  ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กชายอังคารผู้เยาว์ในขณะทำละเมิด  แต่การที่นายหนึ่งไม่เคยห้ามปราม  ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเด็กชายอังคารออกไปเที่ยวนอกบ้าน  ถือได้ว่านายหนึ่งบกพร่องในการดูแลผู้เยาว์  เมื่อเด็กชายอังคารทำละเมิด  นายหนึ่งซึ่งเป็นบิดาบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย  จึงต้องร่วมรับผิดด้วยตามมาตรา  429  (ฎ. 941/2498)

สรุป 

(1) นายขาวฟ้องเด็กชายแดงได้ตามมาตรา  420

(2) นายขาวฟ้องนายหนึ่งให้ร่วมรับผิดได้ตามมาตรา  429 

 

 

ข้อ  4  นาย  ก.  และนาง  ข.  อยู่กินด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนมีบุตรคือเด็กชายแดง  เมื่อนาง  ข.  คลอดเด็กชายแดงแล้วต่อมาถึงแก่ความตาย  นาย  ก.  ได้อุปการะเลี้ยงดูเด็กชายแดงตลอดมา  นาย  ก.  ยินยอมให้เด็กชายแดงใช้นามสกุล  ต่อมานายสิงห์ขับรถโดยประมาทชนนาย  ก.  ถึงแก่ความตาย  ให้ตอบคำถามดังต่อไปนี้

1)    เด็กชายแดงจะฟ้องเรียกค่าปลงศพได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

2)    เด็กชายแดงจะฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  443  ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้น  ค่าสินไหมทดแทนได้แก่  ค่าปลงศพ  รวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆอีกด้วย

ถ้ามิได้ตายในทันที  ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาล  รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย

ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไปด้วยไซร้  ท่านว่า  บุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์  การที่นาย  ก.  และนาง  ข.  อยู่กินด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนมีบุตรคือ  เด็กชายแดง  เด็กชายแดงจึงเป็นบุตรนอกกฎหมาย  เมื่อนาย  ก.  ได้อุปการะเลี้ยงดูเด็กชายแดง  และนาย  ก.  ยินยอมให้เด็กชายแดงใช้นามสกุล  ถือได้ว่าบิดาได้รับรองโดยพฤติการณ์ตามมาตรา 1627  ส่งผลให้เด็กชายแดงเป็นผู้สืบสันดานที่กฎหมายรับรองและคุ้มครอง  จึงเป็นทายาทตามมาตรา  1629(1) เด็กชายแดงจึงฟ้องเรียกค่าปลงศพจากนายสิงห์ได้  ตามมาตรา  443  วรรคแรก

กรณีค่าขาดไร้อุปการะนั้น  เด็กชายแดงจะฟ้องเรียกจากนายสิงห์ไม่ได้  เพราะเด็กชายแดงเป็นบุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ตามมาตรา 443  วรรคท้าย  ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เรียกได้

สรุป

(1) เด็กชายแดงจะฟ้องเรียกค่าปลงศพได้

(2) เด็กชายแดงจะฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะไม่ได้

Advertisement