การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW2001 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี  4  ข้อ

ข้อ  1  ชิงชัยกับสันติตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน  โดยให้ชิงชัยทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของสันติ  หากชิงชัยชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว  สันติยินยอมให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของชิงชัยทันที  โดยสันติจะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ชิงชัย  หรือให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว  หลังจากที่ชิงชัยชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว  แต่ยังไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้องให้สันติจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท  หรือไม่ใช้สิทธิในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดที่ดินเป็นของตน  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงต่อไปนี้

ก)     ถ้าในเวลาต่อมาสันติถึงแก่ความตาย  เสกสรรค์บุตรของสันติจดทะเบียนรับมรดกที่ดินพิพาทในฐานะทายาทโดยธรรม  และเข้าไปสร้างบ้านอยู่อาศัยได้เพียง  1  ปี  ชิงชัยจะฟ้องขับไล่เสกสรรให้ออกไปจากที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่  และผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้ดีกว่ากัน

ข)     ถ้าสันติทำสัญญาและจดทะเบียนขายที่ดินพิพาทให้แก่องอาจ  โดยองอาจไม่รู้เรื่องข้อพิพาทระหว่างชิงชัยกับสันติมาก่อน  ดังนี้ระหว่างชิงชัยกับองอาจผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้ดีกว่ากัน

ธงคำตอบ

มาตรา  1299  ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น  ท่านว่า  การได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่บริบูรณ์  เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่

วินิจฉัย

ชิงชัยเป็นผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดของสันติ  โดยสัญญาประนีประนอมยอมความตามคำพิพากษาของศาล  อันเป็นการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางนิติกรรมตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  1299  วรรคหนึ่ง  ผลแห่งนิติกรรมฉบับนี้แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ก็หาทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด  เพียงแต่ทำให้นิติกรรมไม่บริบูรณ์ถึงขั้นเป็นทรัพย์สิทธิเท่านั้น  แต่ระหว่างคู่สัญญาย่อมมีผลผูกพันต่อกันในฐานะบุคคลสิทธิ  ดังนั้นจึงวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ดังต่อไปนี้

ก)     กรณีที่เสกสรรค์บุตรของสันติจดทะเบียนรับมรดกที่ดินพิพาทในฐานะทายาทโดยธรรมและเข้าไปสร้างบ้านอยู่อาศัยได้เพียง  1  ปี ชิงชัยสามารถฟ้องขับไล่เสกสรรให้ออกไปจากที่ดินดังกล่าวได้  เพราะผู้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม  ย่อมรับไปทั้งสิทธิหน้าที่ของเจ้ามรดก  และไม่ถือเป็นบุคคลภายนอก  ชิงชัยจึงเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทดีกว่าเสกสรรค์

ข)  กรณีสันติทำสัญญาและจดทะเบียนขายที่ดินพิพาทให้แก่องอาจ  โดยองอาจไม่รู้เรื่องข้อพิพาทระหว่างชิงชัยกับสันติมาก่อนนั้น  การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางนิติกรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่  จึงไม่บริบูรณ์ในฐานะทรัพยสิทธิที่จะยกขึ้นต่อสู้กับองอาจซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแต่อย่างใด  ดังนั้น  องอาจมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทดีกว่าชิงชัย

 

ข้อ  2  ห้างหุ้นส่วนจำกัดรวมคอมพิวเตอร์  เป็นห้างที่ขายคอมพิวเตอร์และอึปกรณ์คอมพิวเตอร์ตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่มีร้านขายคอมพิวเตอร์อยู่หลายร้านในบริเวณเดียวกัน  นายแดงเจ้าของร้านได้นัดหมายนายขาวลูกค้าที่เคยซื้อคอมพิวเตอร์จากร้านของตนมาดูคอมพิวเตอร์มือสองจากญี่ปุ่นโดยอ้างว่ามีจำนวนเพียง  2  เครื่อง  ที่เจ้าของต้องการใช้เงินมาก  จึงอยากรีบขายในราคาต่ำ  แต่ขอให้มาหลัง  5  โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ร้านปิดทำการแล้ว

เมื่อนายขาวมาตามนัดหมายนายขาวตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์ที่นายแดงนำมาให้ดูโดยเลือกซื้อไป  1  เครื่อง  ในราคาถูกกว่าปกติหากเทียบกับราคาในท้องตลาด  หลังจากใช้มาได้  2  สัปดาห์  นายดำเจ้าของคอมพิวเตอร์ได้มาทวงคอมพิวเตอร์คืนจากนายขาวเนื่องจากทราบว่าคอมพิวเตอร์ของตนที่ถูกขโมยมาได้มีคนนำมาขายไว้ที่ร้านขายคอมพิวเตอร์แห่งนี้  นายขาวจึงปรึกษาทนายความ 

ถ้าท่านเป็นทนายความ  จงให้คำปรึกษาแก่นายขาวว่าระหว่างนายขาวกับนายดำ  ผู้ใดมีสิทธิในคอมพิวเตอร์นี้ดีกว่ากัน  จงอธิบาย

ธงคำตอบ

มาตรา  1332  บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด  หรือในท้องตลาด  หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น  ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของแท้จริง  เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา

วินิจฉัย

การซื้อขายทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้มาตรา  1332  ต้องเป็นการซื้อโดยสุจริตจากการขายทอดตลาด  ในท้องตลาด  หรือจากพ่อค้าที่ขายของชนิดนั้น  นายขาวซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจากร้านขายคอมพิวเตอร์ของนายแดง  แต่ข้อเท็จจริงทั่วไป  นายแดงขอให้มาซื้อหลังเวลาร้านปิดแล้วและขายในราคาต่ำกว่าปกติ  จึงเป็นการซื้อที่ไม่สุจริต  แม้จะซื้อจากผู้ขายของประเภทนี้และซื้อจากท้องตลาดก็ตาม  ก็ไม่อยู่ภายใต้มาตรา  1332

ดังนั้น  นายขาวต้องคืนคอมพิวเตอร์แก่นายดำเจ้าของที่แท้จริง  โดยไม่มีสิทธิขอราคาที่ซื้อมาคืนจากนายดำ

 

ข้อ  3  นายปูปลูกบ้านบนที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งที่ซื้อมาจากบริษัทจัดสรรที่ดิน  เข้าใจว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของตน  เพราะบริษัทจัดสรรที่ดินได้ชี้แนวเขตและเป็นผู้วางหมุดเขตที่ดิน  แต่ความจริงที่ดินแปลงนี้บริษัทได้ขายให้นายปลา  ถ้านายปูจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้  นายปูต้องครอบครองที่ดินแปลงนี้อย่างไรบ้าง

และจะได้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายอย่างไรบ้าง  ต่อมาเมื่อนายปูปลูกบ้านอยู่มาได้สิบกว่าปีแล้ว  นายปลาได้มารังวัดที่ดินพบว่านายปูครอบครองที่ดินของตน  นายปลาจึงฟ้องขับไล่นายปู  นายปูไม่ได้ยกข้อต่อสู้ว่าตนมีกรรมสิทธิ์ดีกว่านายปลาแต่พิสูจน์ในศาลได้ว่านายปูครอบครองปรปักษ์ครบตามกฎหมายแล้ว  ศาลจะพิพากษาให้นายปูได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1370  ผู้ครอบครองนั้น  ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าครอบครองโดยสุจริต  โดยความสงบและโดยเปิดเผย

มาตรา  1382  บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ  ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี  ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้  ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์

มาตรา  1386   บทบัญญัติว่าด้วยอายุความในประมวลกฎหมายนี้  ท่านให้ใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิ  อันกล่าวไว้ในลักษณะนี้โดยอนุโลม

วินิจฉัย

นายปูปลูกบ้านบนที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งที่ซื้อมาจากบริษัทจัดสรรที่ดิน  เข้าใจว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของตน  เพราะบริษัทจัดสรรที่ดินได้ชี้แนวเขตและเป็นผู้วางหมุดเขตที่ดิน  แต่ความจริงที่ดินแปลงนี้บริษัทได้ขายให้นายปลวก  ถ้านายปูจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้  นายปูต้องครอบครองที่ดินแปลงนี้อย่างสงบเปิดเผย  ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันครบสิบปีตามมาตรา  1382  และจะได้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าครอบครองโดยสุจริต  โดยความสงบและโดยเปิดเผยตามมาตรา  1370  ต่อมาเมื่อปลูกบ้านอยู่มาได้สิบกว่าปีแล้ว  นายปลาได้มารังวัดที่ดินพบว่านายปูครอบครองที่ดินของตน  นายปลาจึงฟ้องขับไล่แต่นายปูไม่ได้ยกข้อต่อสู้  และพิสูจน์ในศาลว่านายปูครอบครองปรปักษ์ครบตามกฎหมายแล้ว  ศาลจะพิพากษาให้นายปูได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้เพราะอายุความครอบครองปรปักษ์เป็นอายุความได้สิทธิตามมาตรา  1386  ไม่ใช่อายุความสิทธิเรียกร้อง  ศาลจึงยกขึ้นเองได้

 

ข้อ  4  ที่ดินของนายเสาร์  นายจันทร์และนายพุธอยู่ใกล้เคียงกัน  ที่ดินของนายเสาร์ได้ภารจำยอมในการสูบน้ำในบ่อน้ำบนที่ดินของนายจันทร์มาใช้ประโยชน์  โดยภารจำยอมนี้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว  ต่อมานายเสาร์ได้แบ่งที่ดินของนายเสาร์จดทะเบียนขายให้แก่นายอาทิตย์ครึ่งหนึ่ง  โดยเมื่อโอนขายให้นายอาทิตย์ไปแล้ว  นายเสาร์ได้กั้นรั้วที่ดินของตนทำให้นายอาทิตย์ไม่สามารถเข้าไปใช้น้ำในบ่อที่อยู่บนที่ดินของนายจันทร์ได้เหมือนเดิม  หลังจากนายอาทิตย์ซื้อที่ดินมาได้ห้าเดือน  นายอาทิตย์จึงได้ตกลงกับนายพุธวางท่อสูบน้ำจากบ่อน้ำบนที่ดินของนายจันทร์ผ่านที่ดินของนายพุธเพื่อมายังที่ดินของตน  นายพุธยินยอม  นายอาทิตย์จึงได้วางท่อผ่านที่ดินของนายพุธ  นายจันทร์ได้มาห้ามไม่ยอมให้นายอาทิตย์ใช้น้ำในบ่อบนที่ดินของตน  นายจันทร์จะห้ามนายอาทิตย์ได้หรือไม่ ภารจำยอมในส่วนที่ดินของนายอาทิตย์ระงับไปแล้วหรือยัง  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1394  ถ้ามีการแบ่งแยกภารทรัพย์  ท่านว่าภารจำยอมยังคงมีอยู่ทุกส่วนที่แยกออก  แต่ถ้าในส่วนใดภารจำยอมนั้นไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตามรูปการ  ท่านว่าเจ้าของส่วนนั้นเรียกให้พ้นจากภารจำยอมก็ได้

วินิจฉัย

ที่ดินของนายเสาร์  นายจันทร์และนายพุธอยู่ใกล้เคียงกัน  ที่ดินของนายเสาร์ได้ภารจำยอมในการสูบน้ำในบ่อน้ำบนที่ดินของนายจันทร์มาใช้ประโยชน์  โดยภารจำยอมนี้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว  ต่อมานายเสาร์ได้แบ่งที่ดินของนายเสาร์จดทะเบียนขายให้แก่นายอาทิตย์ครึ่งหนึ่ง  โดยเมื่อโอนขายให้นายอาทิตย์ไปแล้วนายเสาร์ได้กั้นรั้วรอบที่ดินของตนทำให้นายอาทิตย์ไม่สามารถเข้าไปใช้น้ำในบ่อที่อยู่บนที่ดินของนายจันทร์ได้เหมือนเดิม  หลังจากนายอาทิตย์ซื้อที่ดินมาได้ห้าเดือน  นายอาทิตย์จึงได้ตกลงกับนายพุธวางท่อสูบน้ำจากบ่อน้ำบนที่ดินของนายจันทร์ผ่านที่ดินของนายพุธเพื่อมายังที่ดินของตน  นายพุธยินยอม  นายอาทิตย์จึงได้วางท่อผ่านที่ดินของนายพุธ  นายจันทร์ได้มาห้ามไม่ยอมให้นายอาทิตย์ใช้น้ำในบ่อบนที่ดินของนายจันทร์  นายจันทร์จะห้ามนายอาทิตย์ไม่ได้เพราะภารจำยอมมีประโยชน์ทุกส่วนของสามทรัพย์  และส่วนที่แบ่งแยกยังคงใช้ประโยชน์ในภารจำยอมนั้นได้  นายจันทร์จึงไม่มีสิทธิห้ามหรือขอให้ที่ดินของนายอาทิตย์พ้นจากภารจำยอม  ภารจำยอมในส่วนที่ดินของนายอาทิตย์ยังไม่ระงับ

Advertisement